580922_พ่อครูออกรายการนิวทอล์คช่องนิวทีวี กับคุณปอง(อัญชะลี)
ช่วงที่ ๑
๑๓.๑๖ น.ปอง(อัญชะลี)ว่า…วันอังคารที่ ๒๒ ประเด็นเมื่อกองทัพธรรมชูธงปฏิรูป วันนี้แขกของเรามาจากสันติอโศกพ่อทานสมณะโพธิรักษ์ ผู้นำสันติอโศก มาพร้อมกับสมณะและญาติธรรมชาวอโศก
เราจะคุยกันเกี่ยวกับการปฏิรูป เราจะเริ่มต้นปฏิรูปกันอย่างไร เมื่อบ้านเมืองจะต้องเข้าสู่การปฏิรูป
มาเริ่มกันที่พ่อท่านสมณะโพธิรักษ์ ในฐานะผู้ชูธงกองทัพธรรม ที่ในวาระหนึ่งได้ไปคลุกคลีกับการเมือง แล้วธรรมะหรือศาสนากับการเมืองจะไปด้วยกันได้ไหม?
พ่อครูว่า…ความสงสัยนี้เป็นภัยต่อความเจริญ ธรรมะกับการเมืองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่ไปเข้าใจผิดว่า ธรรมะกับการเมืองต้องแยกกัน อันนี้เป็นมิจฉาทิฏฐิที่ร้ายแรงเลย
ปอง(อัญชะลี)ว่า…คนบางกลุ่มบอกว่าเราอย่าเอาศาสนามายุ่งกับการเมือง
พ่อครูว่า…นิยามของสัจธรรมนั้น การเมืองคือการทำงานกับพลเมืองเพื่อพลเมือง ทีนี้ศาสนาพุทธ โดยเฉพาะไม่ใช่ศาสนาดาบสฤาษี ทุกวันนี้ศาสนาพุทธเพี้ยนเป็นศาสนาฤาษี เป็นคนเมืองปลอมๆแปลกๆ พระก็พระปลอมๆแปลกๆ ไม่ใช่พุทธศาสนาแท้จริง พุทธศาสนาเป็นศาสนาของคนเมืองไม่ใช่ฤาษีดาบส เป็นศาสนารู้จักโลกรู้จักสังคม แล้วเป็นคนไม่มีอัตตา ไม่มีเป็นของตัวตน เป็นอภิมหาบรมประชาธิปไตย
ปอง(อัญชะลี)ว่า..ตอนนั้นท่านนำอโศกทั้งหมดเข้าสู่ถนนการเมือง ท่านสื่อสารกับคนอื่นอย่างไร
พ่อครูว่า..ถึงเวลาวาระว่าประชาชนพอรับได้ ว่าศาสนากับการเมืองคืออันเดียวกันต้องมาร่วมมือกัน ต้องมาทำงานเพื่อชาติให้ได้ ให้เป็นอันเดียวกัน รักกัน เคารพกัน พระพุทธเจ้าตรัสถึงสิ่งสมบูรณ์แบบเป็นเอกีภาวะ จะประกอบด้วย ความระลึกถึงกัน ความรักกัน เคารพกัน ช่วยเหลืออุ้มชูกัน
ปอง(อัญชะลี)ว่า…ตอนนั้นท่านชูธงธรรม แล้วท่านก็ชูธงปฏิรูป ทำไมต้องชูธงปฏิรูป
พ่อครูว่า…ก็ต้องปฏิรูปสิ การปฏิรูปคือการมีสติปัญญา มีการกระทำอย่างมีปัญญามีสตินำร่องปฏิบัติให้ดีๆๆ ไม่ดีก็พยายามลดหมดในสิ่งไม่ดี
ปอง(อัญชะลี)ว่า…การปฏิรูปจะทำอะไรก่อน
พ่อครูว่า…ขจัดสิ่งร้ายเรียกว่าอบาย เป็นอกุศล สิ่งไม่ดีต้องกำจัดให้หมด
ปอง(อัญชะลี)ว่า…อะไรบ้างที่เห็นว่าไมดีต้องกำจัดให้หมดโดยเร็ว
พ่อครูว่า..รู้กันอยู่แล้วแต่เกรงกลัวที่จะจัดการ ก็คืออำนาจการเมืองเก่า คือการเมืองที่ผิดพลาดทุจริตขี้โกงโลภมากเห็นแก่ได้ ไม่สิ้นสุด และก็หน้าด้านที่สุด ขณะนี้หน้าด้านขี้โกงอย่างหน้าซื่อ แม้แต่พระก็เป็น ขี้โกงเห็นๆก็มี ปองไม่เห็นหรือ อาตมาไม่พูดหรอก ให้โง่ไป ขนาดนี้ไม่รู้ไม่เห็นว่าพระไหนโกง
ปอง(อัญชะลี)ว่า…ธรรมกาย
ปอง(อัญชะลี)ว่า…ท่านออกมาแสดงความเห็นเรื่องธรรมกายหลายรอบ มีผลกระทบไหม
พ่อครูว่า…ออกมาถล่มหลายรอบไม่ได้โกรธเขานะแต่ว่า ไม่อยากให้เขาบาปมากเกินไป อาตมาเห็นว่าเมืองไทยไปไม่รอด เพราะสัจธรรมคือศีลธรรมคุณธรรมคือความเป็นเอกในความเป็นมนุษย์ แต่ปล่อยให้เป็นเชื้อร้ายจะไปได้อย่างไร
ปอง(อัญชะลี)ว่า….ปัญหาที่กองอยู่เช่นเรื่องธรรมกาย คนก็คิดจะแก้แต่ติดอะไร
พ่อครูว่า…ติดความไม่กล้า ผู้ที่มีอำนาจมีสิทธิ์เต็มที่แล้วไม่กล้า
ปอง(อัญชะลี)ว่า….นายกฯ
พ่อครูว่า…รวมด้วย
พ่อครูว่า…มหาเถรสมาคมไม่มีแรงเลย มีแต่เก้าอี้มีแต่ชื่อ
ปอง(อัญชะลี)ว่า….พัดยศ
พ่อครูว่า…โดย authority ไม่มีเลย
ปอง(อัญชะลี)ว่า….มันต้องเป็นฝ่ายการเมืองที่เข้าไปสะสาง
พ่อครูว่า…ให้คะแนน ๑๐๐
ปอง(อัญชะลี)ว่า….เพราะการเมืองคือการจัดการปัญหาบ้านเมือง เริ่มรู้แล้วเขาถึงเรียกว่าการเมือง คือการจัดการบ้านเมืองและพลเมือง คือการวางระเบียบกฎกติกา
พ่อครูว่า…นอกจากออกกฎระเบียบแล้วก็ช่วยเหลือ และสะสางสิ่งร้ายอออกให้หมด
ปอง(อัญชะลี)ว่า….ธรรมกายและการเมืองเหมือนยาขมหม้อใหญ่เลย เรื่องการเมืองรัฐบาลก็พอจัดการได้ แต่เรื่องธรรมกายเราจะเริ่มสะสางอย่างไร
พ่อครูว่า..อาตมาเห็นว่าขณะนี้ชัดเจนมากแล้ว หากขาดความกล้าที่จะทำสัจธรรม เขาเรียกว่าอสุรกาย เป็นคนใจอ่อนทั้งที่มีสิทธิ์มีฤทธิ์อำนาจที่จะทำ พระพุทธเจ้าจัดอยู่ในผีชนิดหนึ่งที่ตกต่ำ เป็นอสุรกาย
ปอง(อัญชะลี)ว่า….มันเป็นเรื่องใหญ่มาก ไม่ใช่แค่กล้าไม่กล้า มันมีสำนักและมีผู้ศรัทธาเป็นจำนวนมาก ใหญ่มาก จะทำอย่างไรกับเรื่องที่เป็นปัญหาปักลึกมาก
พ่อครูว่า…ขณะนี้อาตมาว่าพลเมือง เขาเองอยู่ข้างคนธรรมดาสามัญคนทำมาหากิน แล้วเขาก็อยู่กับพฤติกรรมสังคม กับคนมีพฤติกรรมเอียงไปทางธรรมะ ถ้าธรรมะเป็นอะไรไปกับคนทำมาหากินเป็นอะไรไป เขาก็เอียงไปทางทำมาหากินมากกว่าธรรมะ คนอย่างนี้มีมาก
ขณะนี้คนที่มีพลังจัดการบ้านเมือง ตอนนี้เป็นคุณของประเทศที่คสช.มารัฐประหารได้รัฏฐาธิปัตย์ไป มันได้เพราะจิตคนมีแนวโน้มเห็นด้วย การรัฐประหารครั้งนี้จึงสวยงามที่สุด ไม่มีอะไรกระเพื่อมเลย มวลนี้เป็นมวลชี้บ่งว่า เป็นรัฏฐาธิปัตย์เต็มที่แล้ว ถ้าไม่จัดการคราวนี้เรื่องธรมะนะ ถ้าไม่จัดการคราวนี้ไม่มีโอกาสแล้ว ไม่ต้องฟังเสียงนกเสียงกาหรือเสียงแมลงหวี่หรอก ถ้าสะสางธรรมกายไปได้ ผลกระทบต่อศาสนาคณะอื่นๆนี่จะได้เลย เวลารบฆ่าแม่ทัพได้ พวกลูกน้องก็หนีหมด
ปอง(อัญชะลี)ว่า..ธรรมกายหรือธัมมชโย นี่คือหัวหน้านะ
พ่อครูว่า…เขาเอามาลัยร้อยจมูกไว้หมดแล้ว ที่ร้อยไว้คือเงิน
ปอง(อัญชะลี)ว่า….ในการเมืองมีบ้านเมืองมีพลเมือง เราเริ่มต้นด้วยปัญหาของศาสนาในศาสนามีธรรมกายและเครือข่ายเป็นปัญหา ที่ถูกร้อยจมูกไว้ด้วยมาลัย เวลานี้เป็นเวลาดีที่สุดที่คสช.จะทำการปฏิวัติแล้ว
ช่วงที่ ๒
ปอง(อัญชะลี)ว่า…บรรดาญาติธรรม หลังจากที่สัมภาษณ์พ่อท่านแล้ว ญาติธรรมท่านใดอยากจะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเมือง
จะปฏิรูปการเมืองอย่างไรก่อน?
ดินนา…เริ่มต้นจากคน คนจะต้องมีศีลมีจริยธรรม นักการเมืองต้องมีธรรมะ
ผึ้ง(พิมพ์เพชรรุ้ง)ว่า…คนต้องไม่โกง ต้องไม่โกง
สสฐ.โอ็ค ว่า… นักการเมืองต้องเสียสละ อย่างน้อยต้องมีศีล ๕
ส.เดินดินว่า…ต้องให้คนมีคุณธรรม ต้องไม่ให้คนโกงเข้ามาปกครองบ้านเมือง เหมือนกับ ๘๓ ปีมาก่อน ที่คนเข้ามาทำงานการเมืองไม่ได้ทำเพื่อบ้านเมือง ไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลย ทุกวันนี้ก็มีคนจะคิดเรื่องออกกฏหมายรัฐธรรมนูญ จะออกให้สมบูรณ์อย่างไร แต่ถ้าคนไม่ดีก็จะสามารถแก้ไขกฎหมาย หรือหาช่องทางทำประโยชน์ส่วนตัวอยู่ดี
ปอง(อัญชะลี)ว่า…สองข้อใหญ่ที่เป็นปัญหาคือเรื่องการเมืองกับเรื่องธรรมะหากเราไม่แก้ ๒ ข้อนี้จะเกิดปัญหาอีรุงตุงนัง การจะแก้ศาสนานั้นการเมืองต้องเข้ามาแก้ จะเริ่มตรงไหน
พ่อครูว่า…แก้ที่ศาสนาก่อน
ปอง(อัญชะลีว่า)…แก้ศาสนาแก้ที่ไหน แก้ที่พระ หรือแก้ที่มหาเถรสมาคม มหาเถรสมาคมก็อ่อนแอ
พ่อครูว่า….ไม่ใช่ ที่อ่อนแอคือประชาชน แม้ผู้บริหารก็คือประชาชน เพราะจริงๆแล้วคำว่าแข็งแรงคือจิตใจ คนเมื่อจิตใจไม่แข็งแรงก็อ่อนแอหมด ไม่จัดการที่คนที่จะให้คนมีจิตใจเปลี่ยนแปลงมีจิตใจแข็งแรงให้ได้ ถามอีกกี่ครั้ง จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจสังคมอะไรก็ตามให้แก้ไขที่คนให้มีธรรมะ มีความเสียสละ มีความลดกิเลส แก้ปัญหาอะไรก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะการศึกษาหรืออื่นๆถ้าสิ่งนั้นไม่ลดกิเลสกู้ประเทศไม่ได้
ปอง(อัญชะลี)ว่า..ถ้าจะให้ลดกิเลสทันที่ก็เหมือนให้เลิกกินน้ำอัดลมอาจทำไม่ได้ แล้วที่มีคนบอกว่า รัฐประหารทำให้ประเทศไทยสะดุด?
พ่อครูว่า..ไม่สะดุดหรอ การรัฐประหารคือการทำงานการเมืองอย่างหนึ่ง เมื่อเห็นว่าบ้านเมืองจะแย่แล้วก็ต้องรัฐประหาร ให้พลังสังคมมีฤทธิ์แรงที่จะเสียหายนี้ให้หยุดการดำเนินพฤติกรรมการทำความเสียหายหยุดก่อนได้เลย ถึงได้บอกว่าสวยงาม หยุดแล้วไม่มีกระเพื่อมเลย
ปอง(อัญชะลี)…ตอนนี้กระเพื่อมแล้ว
พ่อครูว่า…กระเพื่อมเพราะไปซูเอี๋ยไม่ทำเด็ดขาด มัวแต่ปรองดอง คนที่พูดว่าปรองดองคือคนขี้กลัว ไม่กล้าทำเต็มที่ ต้องทำอย่างพระเจ้าอโศกมหาราช ไม่ไว้หน้าเลย พระเจ้าฆ่าก็ฆ่า พระเจ้าอโศกมหาราชจัดการหมดเลย ทำให้เป็นอย่างนั้นแล้ว พูดไปแล้วเหมือนอาตมาดูรุนแรงแต่มันจำเป็นนะ ที่ต้องให้ทำอย่างนี้เพราะเป็นจุดวิกฤติมันอยู่ตรงนี้ ถ้าไม่จัดการตรงนี้ไม่ได้เลย
พระพุทธเจ้าตรัสถามนายเกสีคนเลี้ยงม้าว่า เกสี …เลี้ยงม้าทำอย่างไร เกสีก็ว่า…ก็ค่อยๆฝึก หากไม่เชื่อก็ต้องตี หากไม่สามารถฝึกได้ก็ต้องฆ่าทิ้ง แต่เกสีก็บอกว่าท่านสมณโคดมทำอย่างไรในการฝึกภิกษุ ท่านก็ว่าทำเหมือนเกสี เกสีก็ว่าจะฆ่าได้อย่างไร พระพุทธเจ้าก็ว่า การฆ่าของเราคือการพรหมทัณฑ์ คือไม่สอนไม่เอาใจใส่ด้วยเลย
พล.อ.ประยุทธต้องผ่าตัด ที่ว่าไม่ปรองดองคือให้เด็ดขาด ขณะนี้ประชาธิปไตยเป็นมา ๘๐ กว่าปีแล้ว คือเชื้อโรคนี้มันร้ายจนกระทั่ง หมอจะบอกว่าเหลือเชื้อได้อย่างไร เหลือเชื้อไม่ได้หรอก
ปอง(อัญชะลี)…การจะผ่าตัดการเมือง ๘๓ ปีมันทุกข์มากนะ
พ่อครูว่า….อาตมามองตามประสาว่า ประชาชนทั่วโลกเขามองนะ โลกทุกวันนี้ถึงกัน แม้แต่พล.อ.ประยุทธ ปฏิวัติ เขาก็เห็นว่าเป็นการปฏิวัติที่ best record ผมของยึดอำนาจ สวยงามมากกว่าใช้ดอกกุหลาบมาอีก มันมีที่ไหนที่จะทำได้อย่างนี้ นี่แหละบันทึกประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของโลก
ปอง(อัญชะลี)…เมื่อเป็นการปฏิวัติรัฐประหารที่สวยงามต้องทำเด็ดขาดไม่ปรองดอง ถูกเป็นถูกผิดเป็นผิด แล้วมีคนว่า บ้านเราก็ทำปฏิวัติมาหลายหนก็พูดว่าทำแบบนี้แต่ก็ทำไม่ได้สักที จะบอกว่าให้คว่ำบาตรนักการเมืองโกง พล.อ.เปรมก็ว่าอย่าไปไหว้หรือให้ความนับถือนักการเมืองโกง
พ่อครูว่า…ก็ทำสิ ไม่ทำก็ไม่ได้
ปอง(อัญชะลี)ว่า…อย่างสมณะท่านทำได้ จะให้ไม่เหยียบเงา ไม่เผาผี ท่านทำได้แต่เราอย่างฆราวาสจะทำอย่างไร?
ช่วงที่ สาม
ปอง(อัญชะลี)ว่า..ช่วงสุดท้าย การเมืองแบบบุญนิยมในสายตาของพี่น้องญาติธรรม
ทิดคู่ฟ้า….การเมืองบุญนิยมเริ่มต้นที่การเสียสละ เมื่อครูผมสะดุดที่ว่า คุณปองบอกว่าสมณะทำได้ที่จะไม่คบค้าสมาคมกับคนโกง แต่ประชาชนทำอย่างไร …ผมว่าเรากังวลกับอิทธิพลกับนักการเมืองใหญ่ แต่ผมว่าไม่กังวลกับสิ่งเหล่านี้เพราะเรามีธรรมเป็นที่พึ่ง เราใช้ตัวนี้บอกกันว่า เริ่มต้นที่ศีล ๕
ปอง(อัญชะลี)ว่า…ถ้าเริ่มที่ศีล ๕ เราจะกรองนักการเมืองเลวออกไปได้เยอะเลย
ญาติธรรมว่า…ในความเห็นส่วนตัวนั้นนักการเมืองสำคัญมากเหมือนโคจ่าฝูงถ้าว่ายน้ำตรง วัวที่เหลือจะว่ายตรง นักการเมืองที่จะเข้ามาหากไม่มีความเข้มแข็งที่จะมาเสียสละ ทำเพื่อบ้านเมือง แต่ถ้านักการเมืองไวต่อสิ่งเร้าแล้วไม่เข้มแข็งก็จะไม่สามารถนำตนและบ้านเมืองไปสู่ทิศทางที่ดีได้
ญาติธรรมว่า…ขอมองในมุมของศาสนาคือว่า สงฆ์ส่วนใหญ่ไม่อยู่ในศีลในธรรม มีความเสื่อมไปมากเลย ประชาชนจะพึ่งได้อย่างไร ดิฉันไม่ได้เข้าข้างสันติอโศก เท่าที่ดูมาว่าที่พึ่งได้ก็คือสันติอโศก
พ่อครูว่า…ถ้าจะอธิบายเรื่องบุญนิยมต้องขออีกสามสี่ชาติ อาตมาอายุ ๘๑ ปีแล้ว ก็จะขอต่ออายุไปอีก ๗๐ ปีเพื่อจะให้ความรู้เรื่องบุญให้ถูกต้องนี่แหละ
ทุกวันนี้บุญผิดเพี้ยนไปหมดแล้ว บุญถูกเอาไปทำเป็นเครื่องมือในการหลอกล่อคน เป็นวิมานหลอกคน บุญคือเครื่องประหารหัวคนเหมือนเปาปุ้นจิ้น บุญคือเครื่องมือประหารกิเลส บุญไม่ใช่เครื่องสะสมเลย บุญไม่ใช่ของที่จะได้มาเลย อรหันต์คือคนสิ้นบุญ ก่อนจะเป็นอรหันต์ต้องมีเครื่องมือตัดกิเลส หยาบ กลาง ละเอียด จนหมดกิเลสบุญคือเครื่องมือกำจัดกิเลสก็หมดไปด้วย ปุญญปาปริกขีโน
ตอนนี้คำว่าบุญมันเพี้ยนผิดเป็นเครื่องมือหากิน ไปใช้เป็นวิมานหลอกหากิน เพราะเครื่องมือตัดกิเลส ถูกปลอมไปเป็นเครื่องมือพาขึ้นสวรรค์ลวงๆ มันไม่ใช่พาหนะพาขึ้นสวรรค์แต่บุญคือกิโยติน หรือเครื่องประหารหัวหมา
จบ…