610516_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ประชาธิปไตยสามเส้าและคนจนที่มีแบบ ตอน2
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://drive.google.com/open?id=1PnAq6qHsxwbe8Mkt7G7Pywm14m2zUpUXfwLhxpFePJs
ดาวโหลดเสียงที่..https://drive.google.com/open?id=1RrM-MMBsvY4cfMWFF3e4sRePykmc4wRH
ดูยูทิวป์ได้ที่…https://youtu.be/z_fWWi59L5w
สมณะฟ้าไทว่า…วันนี้เป็นวันพุธที่ 16 พฤษภาคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก วันนี้เป็นวันที่คนไทยส่วนหนึ่งก็ดีใจส่วนหนึ่งก็เสียใจส่วนหนึ่งก็วุ่นวายใจ เพราะอะไร เพราะว่าถูกหลอกด้วยหวย แต่พระพุทธเจ้าก็บอกว่าที่นี่ไม่วุ่นวายหนอ พระยสะก็บอกว่า ที่นี่วุ่นวายหนอ แต่พระพุทธเจ้าบอกว่าที่นี่ไม่วุ่นวายหนอ เราไม่ไปเล่นหวย เราอยู่กับความวุ่นวายอย่างสบายใจได้ วันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ก็จะมี ค่ายสัมมาอาริยมรรค
ค่ายสัมมาอาริยมรรค เพื่อชีวิตที่ดีกว่าเก่า
“พฤษภาฯ พุทธะเบ่งบาน”
ครั้งที่ 28 ณ หมู่บ้านชุมชนราชธานีอโศก
ศุกร์ที่ 18 – อาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม 2561
รับสมัครผู้สนใจเข้าค่าย ฟรี! (จะอยู่กี่นาทีได้)
สมัครได้ที่ อุทยานบุญนิยม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี หรือ
โทรฯ คุณชญาดา 087- 4437865
วันที่ผ่านมาพ่อครูได้เทศน์ถึงข้อด้อย 3 ประการของพ่อครู คือ
-
มีความจริงใจสูง ในการแสดงออกโดยไม่ปิดบังอะไร ไม่กระมิดกระเมี้ยนไม่สงวนท่าที ไม่สำรวมกิริยาให้สวยๆ นี้เป็นข้อด้อยข้อหนึ่งของอาตมา
-
ปฏิบัติตามพระพุทธเจ้าตรัสมากเกินไป เช่น นิคฺคเณฺห นิคฺคหารหํ ปคฺคเณฺห ปคฺคหารหํ ควรข่มคนที่ควรข่ม ยกย่องคนที่ควรยกย่อง เป็นต้น
-
ไม่อยากได้หน้า จึงไม่พยายามสร้างภาพให้ตัวเอง เป็นคนไม่กลัวเสียหน้า ถ้าจะแสดงอะไรออกมา นี่เป็นข้อด้อยของอาตมา
พ่อครูว่า…มีคุณบ้านเล็กเมืองน้อยเขียนวิจารณ์มาว่า…
กราบนมัสการพ่อท่านที่เคารพอย่างสูง
จากการที่มีผู้เข้าใจผิดพ่อท่าน เรื่องนายกตู่ แล้วส่งประเด็นวิจารณ์ตัดพ้อมา
จึงอยากจะกราบขออนุญาต ช่วยอธิบายให้ผู้วิจารณ์ได้เข้าใจดีขึ้น
ที่พ่อท่านบอกว่าเป็นข้อด้อย ที่จริงแล้วเป็นคุณลักษณะนิสัยอันประเสริฐของพระอริยะมากกว่า
ประเด็นอยู่ที่ว่า พ่อท่านย่อมรู้เรื่อง กิเลส ตัณหา มากกว่าใครๆ มุมที่ท่านมองจึงเห็นภาพรวมใหญ่
ในข้อจำกัดของสภาวะแวดล้อมที่เต็มไปด้วยเล่ห์กลอันหยาบช้า โยงใยในสังคมทั้งระบบ ทั้งนักการเมือง ข้าราชการ รวมถึงศาสนจักร
กับผลประโยชน์ของนายทุนและชนชั้นระดับบน ลามไปถึงชนชั้นกลางและล่างที่เป็นนักฉวยโอกาส
ในช่วง prime time หัวเลี้ยวหัวต่อเช่นนี้
ถ้าเอาสภาพที่ว่าเป็นโจทย์ เปรียบเทียบกับนายกฯในอดีตทั้งหมด ลุงตู่ถือว่าได้คะแนนสูงกว่าหรือไม่? ลองถามใจตัวเองดู
ปัญหาอยู่ที่ ผู้วิจารณ์ลืมมองความโยงใยของระบบทุนสามานย์ที่ฝังอยู่ทั่วทุกซอกมุม
จึงไม่เข้าใจความยากลำบาก ของการง้างอ้อยออกจากปากช้างทั้งโขลง โดยพยายามให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุดด้วย
เปรียบได้กับ ผู้มีหน้าที่ลงไปกำจัดวัชพืชในนาข้าว โดยไม่ใช้สารเคมี เพื่อไม่ให้กระทบถึงผลผลิต ก็ต้องลงแรงยอมเปลืองตัว
ลุยน้ำโคลนเน่าๆ แล้วมันจะไม่เปื้อนโคลนบ้างได้อย่างไร?
อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทำความเข้าใจก็คือ status quo ณ บัดเดี๋ยวนี้ ยังไม่มีความผิดร้ายแรงใดๆเกิดขึ้น ที่ส่อให้เห็นว่า จะทำให้ เรือหาย มากไปกว่าเดิม
พระอาริยะไม่คิดให้ร้ายกับผู้ใด และพระอาริยะย่อมให้โอกาสเสมอแก่ผู้ที่ต้องการจะเป็นคนที่เจริญขึ้น
ส่วนในอนาคตก็ว่ากันไป เพราะไม่มีผู้ใด guarantee พฤติกรรมของปุถุชนได้ว่า
แม้ว่าจะเป็นผู้ประพฤติดีในตอนนี้ แต่เมื่อสบโอกาส จะไม่ประพฤติชั่วในภายหลัง
พ่อท่านก็บอกใบ้แล้วว่า ถ้าทำชาติบ้านเมืองเสียหาย ก็เจอกัน
อย่าถามว่าทำไมพ่อท่านแบบนี้ ลุงตู่แบบนั้น
ให้ถามตัวเองว่าทำไมถึงไม่ยอมวางใจให้โอกาสผู้อื่นได้ทำงานดูบ้าง
ปัญหาจะไม่มีทางแก้ได้ ถ้าหากยังใช้วิธีคิดแบบเดิมๆที่ใช้ในการตั้งคำถาม
ขอให้ผู้ที่วิจารณ์ ปล่อยวาง spec ส่วนตัวลงก่อน แล้วให้โอกาสและเวลาแก่ผู้อี่นบ้าง
ส่วนเรื่องในอนาคตนั้น ให้ focus ประเด็นสำคัญที่จะเป็นตัวชี้วัดคือ การลงโทษผู้กระทำผิด อย่าไปนับภาพที่ลุยน้ำลงนา เพราะสร้างกันได้
แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะพิจารณาในแง่ของผู้ลงดาบด้วย
ถ้า take action แล้ว จะควบคุมความเสียหาย ความลุกลามบานปลายที่เป็น chain reaction ตามมา ได้มากน้อยเพียงไร!!!
ขออย่าได้เสื่อมศรัทธาในพ่อท่านเพียงเรื่องแค่นี้เลย เพราะมันน่าเสียดายเวลาที่ท่านใช้ในการอบรมสั่งสอน
จนทำให้ผู้วิจารณ์ มีจิตสาธารณะที่สนใจในปัญหาชาติบ้านเมืองได้มากเช่นนี้
การมีจิตสาธารณะก็ดีแล้วนะ ได้ช่วยกันสอดส่องทำหน้าที่ เพราะการเฝ้าระวังเช่นนี้แหละ คือหัวใจหลักของประชาธิปไตย
ขอบคุณที่ช่วยกันเฝ้าระวัง
สมณะฟ้าไทว่า…แม้พ่อครูวิจารณ์ผิด แต่เจตนาพ่อครูมีแต่ความปรารถนาดีและความบริสุทธิ์ก็ไม่น่าจะต้องไปติดใจอะไร เราก็ดูไปก่อนว่าจะเป็นอย่างไรต่อไปถ้ามันผิดก็ช่วยกันแก้ไขถ้าไม่ผิดก็ช่วยกันให้ดีเลย
พ่อครูว่า…มาดูประเด็นข้อด้อยของอาตมาก่อน
คืออาตมานี่ข้อด้อยของอาตมามองไปแล้วยังมีมากกว่านี้ แต่ก็เอาแค่นี้ก่อน
-
มีความจริงใจสูง ในการแสดงออกโดยไม่เคยระวังไม่ค่อยปิดบังอะไร
-
ไม่สงวนท่าที
-
ไม่สำรวมกิริยาให้สวยๆ ไม่ตกแต่งประดิดประดอยกริยา ซึ่งอาตมาเคยทำ ประดิษฐ์ประดอยกิริยา สวยๆอาตมาเคยทำ มันเมื่อย ใครเคยเห็นอาตมาตอนนั้นไหม กิริยาสงบ ชี้ชวนให้คนศรัทธา แต่มันก็เป็นการเต๊ะท่า ดรามาติค อาตมาก็เลยเลิก ปล่อยไปตามที่ตัวเองเป็นแล้วปรับปรุงเอา มันเป็นวาสนาของตัวเราก็ปรับปรุงไป
สมณะฟ้าไทว่า…พ่อครูทำอย่างนั้นมันแข็ง คนเข้าหายาก
-
ปฏิบัติตามพระพุทธเจ้าตรัสมากเกินไป เช่นว่า ทำไมอาตมาต้องตำหนิมากกว่าชมเชย ทั้งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า นิคฺคณฺเห นิคฺคหารหํ ปคฺคณฺเห ปคฺคหารหํ ควรข่มคนที่ควรข่ม ยกย่องคนที่ควรยกย่อง
ความชั่วที่มีควรจะตำหนิก่อนเพราะว่า มันเป็นความชั่วที่อยู่กับเขาเท่าไหร่กี่วินาทีมันก็ยิ่งชั่วเท่านั้น อาตมาเห็นอย่างนี้นะ
สมณะฟ้าไทว่า…ขนาดคนที่ถูกกล่าวหาว่าผิด ก็ยังต้องหยุดเลยทั้งที่ยังไม่รู้ว่าผิดหรือไม่ผิด
พ่อครูว่า…พระพุทธเจ้าบอกว่าความชั่วเหมือนผ้าชุบน้ำมันที่ไหม้อยู่บนหัวเรา หรือใครก็แล้วแต่ต้องรีบเอาออกจากเราจากเขา ไม่อย่างนั้นมันก็ไหม้เราตาย ความชั่วมันเป็นไฟร้าย ต้องรีบเอาออก
ส่วนการชม มันมีประเด็นใหญ่สองประเด็น
การชม ก็มีคนที่ควรชมอยู่น้อย คนชั่วมันมาก ก็ต้องจัดการที่มากก่อน และที่จะชมก็ดันชมตัวเอง เข้าเนื้อตัวเอง มันกลายเป็นชมพวกอโศกเอง พวกอโศกเป็นอย่างนี้ เช่น ต้องมาเป็นคนจน มาเป็นคนรวยพาให้เรือหาย ไปรวยแย่งกอบโกยมันไม่ดี ต้องมาจน พอชมคนจน มันก็เข้าเนื้อเราอีก เพราะเราเป็นคนจน เขาเป็นคนรวย มันหมุนรอบเชิงซ้อน อาตมาก็เลยจำนน
สมณะฟ้าไทว่า…พวกเรามันมีเรือเยอะเลยไม่เรือหาย
พ่อครูว่า…
-
เป็นคนไม่กลัวเสียหน้าถ้าจะแสดงอะไรออกไป
-
จะเป็นคนไม่อยากได้หน้า ซ้อนลึกอีกว่า ไม่อยากได้หน้า แม้จะไม่หล่อเหมือนโป๊บ
-
ไม่สร้างภาพให้ตนเองเท่าที่ควร
-
ยินดีให้มาพิสูจน์ เอหิปัสสิโกเชื้อเชิญให้มาพิสูจน์ได้