610618_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ตอบปัญหาการทำใจในใจให้ถึงแดนเกิด
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://drive.google.com/open?id=1wlirWCrCezv-ZT_17wzxokhj38zAAYrBlajAg-Ew824
ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=1vSw3vazNPetdSlk-4BnNtHrQSHY4WRJh
ดูยูทิวป์ได้ที่…
สมณะเดินดินว่า…วันนี้วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน 2561 ที่ บวร ราชธานีอโศก วันนี้เป็นวันที่มีกิจกรรมบวร เราไปร่วมกันทำนากัน
ข่าวในสังคมตอนนี้ข่าวที่กำลังเป็นที่พูดกันก็คือข่าวเกี่ยวกับพระสงฆ์ มีการเข้าไปปรับปรุงบุคลากรของวงการสงฆ์ โดยเฉพาะภิกษุที่ทำผิดพระธรรมวินัย ก็กำลังถูกชำระ มีนิด้าโพลสำรวจออกมาว่าประชาชนเห็นด้วยกับการชำระวงการสงฆ์ถึง 82.5%
พ่อครูว่า…
_จากพลเรือตรีมินทร์
ในศีล 8ข้อ นั้นศีลข้อในสำคัญที่สุด?
1.อย่างคนที่ยังค้าขายเกี่ยวกับเนื้อสัตว์จะเป็นโสดาได้ไหม?
2.เข้าใจอโศกและอยากปฏิบัติตามแต่เนื่องด้วยภาระหนี้สินทำไม่สามารถเลิกค้าขายได้ ทำให้ทุกข์ทับถม เลิกขายก็ปลดภาระไม่ได้(เป็นลูกจ้าง) แต่ทำอยู่ก็รู้ว่าไม่ดี ทำให้ไม่มีความสุข จะทำใจอย่างไร จึงไม่ทุกข์มาก
พ่อครูว่า…ในศีล 8 ข้อหรือข้อเดียวก็ดี สำคัญทุกข้อ ถ้าข้อใดที่เราตรวจตัวเอง เรายังคงละเมิดไม่ปฏิบัติตามนั้นเลย ปฏิบัติไม่ได้ดังที่ศีลที่ท่านว่า ให้ละเว้นต่างๆ เราก็ปฏิบัติเสียให้ดี ข้อใดก็แล้วแต่สำคัญทุกข้อ ที่เราจะต้องไล่ไปตามลำดับ ศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 จุลศีลมัชฌิมศีล ส่วนมหาศีล อีก 7 ข้อ เป็นเรื่องของศาสนาเป็นเดรัจฉานวิชา เดรัจฉานกถา ที่ศาสนาพุทธไม่มีพฤติกรรมอย่างที่ว่านี้ แต่ทุกวันนี้ศาสนาพุทธมันเสื่อมจนสนิท ไม่มีศีลดังที่ว่า
ศาสนาพุทธต้องมีศีล สมาธิ ปัญญา พุทธศาสนิกชนใครปฏิบัติ ศีลเป็นตัวกำหนดให้เรามีสมาธิมีปัญญาตามศีลที่เรารู้ ที่เราละลดได้ จนหมดสิ้นกิเลสเป็นวิมุติ
หากเราไม่กำหนดศีล เป็นตัวตั้ง ไม่มีอะไรเลยศาสนาพุทธ ต้องเอาศีลเป็นตัวตั้ง พุทธธรรมจะมีได้ต้องมีศีลของพระพุทธเจ้าเป็นตัวตั้งเป็นตัวกำหนด ทุกวันนี้เขาไม่เห็นความสำคัญของศีล นอกจากไม่เห็นว่าศีลสำคัญอย่างไรแล้ว ยังไม่ปฏิบัติ ก็พูดด้วยความเวทนาสงสาร ที่กำลังเสื่อม ตกต่ำไปขนาดนี้
อาตมาพาพวกเรา ให้ปฏิบัติศีล รื้อฟื้นกลับไปปฏิบัติศีล สมาธิ ปัญญา ตามที่พระพุทธ เจ้าสอนไว้ ทำมา 40 กว่าปีก็มีมรรคผลอย่างนี้ในชาวอโศก
_ยังค้าขายเนื้อสัตว์จะเป็นโสดาบันได้ไหม
พ่อครูว่า…บอกตายตัวไม่ได้หรอก ชี้ชัดไม่ได้หรอก เป็นแต่เพียงว่า พระพุทธเจ้าตรัสว่า อย่าค้าขายแบบนี้ จะไม่เป็นพุทธ
-
อย่าค้าขายอาวุธ
-
อย่าค้าขายสัตว์เป็น
-
อย่าค้าขายเนื้อสัตว์
-
อย่าค้าขายสิ่งที่เป็นพิษ
5 .อย่าค้าขายสิ่งมอมเมา
พระพุทธเจ้าตรัสห้ามไว้ คนที่ทำอยู่ก็ไม่ควร มันเป็นมิจฉาไม่พาเจริญ คนเป็นโสดาบันจะเป็นคนเจริญ ผู้ปฏิบัติแล้วละเมิด การค้าขายสิ่งที่ท่านห้ามอยู่ อาตมาก็ไปชี้ชัดไม่ได้ว่าจะได้หรือไม่ได้ แต่มันไม่ถูกต้องตามพระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าไม่ต้องไปค้าขายแบบนั้น พวกที่ยังค้าอยู่จะตอบว่าได้โสดาบันหรือไม่ได้ โสดาบันเป็นพื้นฐานของความเจริญในศาสนาพุทธนี้ โดยสาระสัจจะของมันแล้ว มันก็ต้องไม่ได้ เพราะว่าความเจริญไม่มีหากไปค้าขายที่มิจฉาอยู่ แม้ไม่ตรงเป๊ะ คำต่อคำ แต่จะไปเลี่ยงทำไม
มีหนี้สินทำให้เลิกค้าขายเนื้อสัตว์ไม่ได้ ทำให้มีทุกข์ทับถม ..ทำอย่างไรจะไม่ทุกข์มากยิ่งคุณไปขายอยู่ ก็ทุกข์ทับถม มันก็ต้องเลิกขาย
การที่จะเป็นลูกจ้างก็ตาม เราต้องเลือกงานที่เป็นสัมมาไม่มีมิจฉา จริงๆแล้ว การขายสินค้า สินค้ามีสารพัด เราเลิกขายได้น่า ทำไมเจาะจงขายเนื้อสัตว์อยู่ อื่นๆอีกมากมายมันขายไม่ได้หรือ อาตมาก็ว่าไม่จนทางหรอก
สมณะเดินดินว่า…ที่ขายอยู่เพราะรายได้ดี
พ่อครูว่า…อันอื่นที่รายได้ดีมีอีกมาก เราทำอันที่ควรดีกว่า เลิกมิจฉาฯ จะได้ลดทุกข์ไง ทำอย่างนี้ต่อไปมันไม่ลดทุกข์
โสดาบันจะเป็นได้หรือไม่ได้ เราไม่สามารถรู้ได้ง่ายๆ คนจะเป็นอาริยะ จะเป็นหรือไม่เป็นได้หรือไม่ได้จะต้องมาเรียนรู้อย่างชาวอโศก พอจะรู้ตัวเองว่าปฏิบัติธรรมได้มรรคผล เรามีสภาวะธรรม ตามคำสอนพระพุทธเจ้า เราไม่ละเมิดในศีล ก็มีสมาธิมีปัญญา วิมุติ วิมุติญาณทัสนะ ได้ผลหรือไม่ได้ผล ต้องเอาศีลเป็นหลักเกณฑ์
ศีลข้อ1 ไม่ฆ่าสัตว์ คุณสัมผัสสัตว์แล้วอ่านจิตเป็นไหม จิตของเราไม่ได้อยากฆ่า มีเมตตากรุณาปรารถนาดีหวังประโยชน์ต่อสัตว์ทั้งปวงอยู่ ตามที่พระพุทธเจ้า โสดาบัน ศีลข้อ 1 ศีลข้อ 2 ศีลข้อ 3 ศีลข้อ 4 เรื่องของวาจา ศีลข้อ 5 เกี่ยวกับจิต
อาตมาสอนอธิบาย อาตมาว่าอธิบายละเอียด ชัดเจนนะ อาตมาว่า อธิบายละเอียดชัดเจนขนาดนี้ ขออภัยอย่าหาว่ายกย่องตัวเองนะ ที่มาอธิบาย
พูดตามหลักกถาวัตถุ 10 ไม่ได้พูดอะไรเลอะเทอะที่ไม่อยู่ในหลักศีล สมาธิ ปัญญา
ศีล สมาธิ ปัญญาเป็นเครื่องชี้บ่งความเจริญของมนุษยชาติ ความเจริญจริงๆเลย อย่างอื่นไม่ยืนยันเท่า ศีล สมาธิ ปัญญา ของพระพุทธเจ้า
ต้องรู้ว่าศีลข้อที่ 1 เกี่ยวกับสัตว์ เราไม่ฆ่าแล้วเราพูดถึงเรื่องการฆ่าสัตว์ให้เขาไปฆ่า ไม่พูดด้วยความเมตตาเอ็นดูหวังประโยชน์แก่สัตว์ทั้งปวง หรือเปล่า ถ้าไม่ก็ดี ยิ่งไปพูดปดก็ชัดเจนเลย ไปพูดเสียดสี พูดหยาบ (หยาบนี้มีรายละเอียด) สรุปคือพูดหยาบคือพูดให้เกิดความเลวร้ายตกต่ำกันไปทั้งหมด ไม่ใช่แค่หยาบเฉยๆ สภาวธรรมหยาบคือไม่สูงส่งไม่ละเอียดไม่เจริญ มันมีระดับหยาบๆ ไม่มีเจริญละเอียดขึ้นมาได้
พอล แจนเซ่น · ฟังธรรมะจากพ่อท่านกัน,มีแนวโน้มว่าจะมาหมดเนื้อ-หมดตัว,ไร้อนาคตและไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดจริงๆแน่(สมณะระดับภันเตของอโศกรูปหนึ่งเทศน์ไว้แบบนี้),เชื่อตามที่ท่านว่าไว้ กราบนมัสการพ่อท่านโดยความเคารพศรัทธาอย่างสูงครับ สาธุ
_เมย์ อรวรรณ · กราบนมัสการพ่อครูและท่านฟ้าไทนะคะ (พรรคการเมืองที่จะแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้เพื่อประโยชน์ตนเองและพวกพ้องใช่หรือไม่???พรรคการเมืองทั้งหลายหากจะทำเพื่อประชาชนจริงต้องรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ให้ได้ค่ะ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้คือ”รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง”ค่าาาาาา)
_จุ๋ม สุมาลี · เชื่อพ่อครูตั้งแต่อ่านหนังสือ “คนคืออะไรทำไมสำคัญนัก” แล้วเจ้าค่ะ
_เอก คุณสวัสดิ์· เคยไปหรอคับโลกหน้า
พ่อครูว่า..คำว่าโลกหน้าของคุณคงหมายถึง ตายไปแล้วไปโลกหน้าในอนาคต คือกาละที่ยังมาไม่ถึง
ขณะนี้อาตมาเป็นคนกาละปัจจุบัน ถ้าถามว่า เคยไปอนาคตหรือ อาตมาเคยไปเพราะอาตมารู้จักอดีต ปัจจุบัน อนาคต อาตมาเคยผ่านกาละอดีตมาเช่น
ตอบคุณได้เลยอาตมาเคยไป อนาคต เมื่อวานก่อนเป็นอดีต อาตมาอยู่วานนี้เป็นปัจจุบัน กว่าจะมาถึงวันนี้ก็เป็นอนาคตของวันวาน อาตมาก็ผ่านมาเป็นอนาคต อาตมาเคยไง กาละอนาคต อาตมารู้ว่า อดีต ปัจจุบัน อนาคต คือกาละ แต่ถ้าถามว่าตายไปแล้วเป็นอนาคตอย่างไร อาตมาก็ยังไม่ตายนี่ อาตมามาจากอดีต ก็เป็นอนาคตของอดีตนั้น ก็เคยแล้วนี่
อาตมาว่าถามมาตื้นๆเพื่อประชดแดกดันอาตมา แต่อาตมาทำจริงๆไม่ได้ทำเล่นๆ อธิบายให้ฟัง หากฟังด้วยดีย่อมเกิดปัญญา ว่า เราไม่ควรประชดประชันกับผู้อธิบายสัจธรรม หากคนไม่มีปฏิภาณก็จะทราบ แต่คนฟังไขหูไม่รู้เรื่องก็แล้วไป
_พ่อครูดูทีวีทีละหลายช่อง ดูอะไรคะ
พ่อครูว่า…ดูที่เขาส่งมา มันมากด้วย แต่ละช่องก็เลยอะไรบ้างก็หมดสิทธิ์จะตอบเพราะว่ามันมากรายการ มีสาระบ้างไม่มีสาระบ้าง ในทีวีส่วนมากไร้สาระทั้งนั้น มีสาระบ้างก็น้อย สาระที่มีก็สาระของโลกีย์ สาระของคนที่พยายามทำ สารคดี สาระเรื่องราว ให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมมนุษยชาติบ้าง นอกนั้นเป็นสิ่งไร้สาระเสียเยอะ มีฟุตบอล การละเล่น เป็นอบายมุขไร้สาระ หรือค้าขายโฆษณาเพื่อให้ได้เงินทอง ก็ว่าไป มันมากเกิน มีการโฆษณาอบายมุข
วันนี้ เห็นเขาเอาสิ่งไร้สาระมาแสดงที่เมืองทอง เป็นการแสดงที่บ้าบอ ตีลังกาหกคะเมน ทำเต้นกัน มีตัวสัตว์ต่างๆ เขาก็บอกว่าเป็นสิ่งยิ่งใหญ่ เราเห็นว่าเป็นสิ่งไร้สาระอย่างยิ่ง ไม่รู้จะทำอย่างไร โลกมันเสื่อมมาก ก็คือเรื่องที่หยิบมาพูดเท่าที่มีในโลก
_พ่อครูดูข่าวต่างประเทศด้วยไหมคะ
พ่อครูว่า…ดูข่าว ต่างประเทศที่เขาบรรยายเป็นภาษาไทยให้ฟัง หากเป็นภาษาต่างประเทศแล้วไม่ดูเพราะดูไม่รู้เรื่อง ก็ไม่เสียเวลาดู
_ทำไมตอนสมณะสิกขมาตุเทศน์ สมณะสิกขมาตุมาน้อยกว่า ตอนหลวงปู่เทศน์
พ่อครูว่า…เอาไปคิดเป็นการบ้านก็แล้วกัน แม้แต่สมณะสิกขมาตุก็ตามเอาไปคิดเป็นการบ้านก็แล้วกัน หากสมณะสิกขมาตุมาฟัง ก็มาเป็นกำลังใจให้เพื่อนก็ดีนะ แต่ก็บอกว่าไม่มากัน เข้าใจว่า ท่านแสดงไปเราก็รู้หมดแล้ว ก็ประมาท ยกตนข่มท่าน พระพุทธเจ้าตรัสไว้ถึงขนาดว่าอรหันต์นั่งฟังธรรม ผู้ใดเทศนา แม้คนนั้นไม่เป็นอรหันต์ท่านก็ฟังอย่างรื่นเริงในธรรม ก็จะได้รู้ว่า ท่านเทศนา อย่างนี้ถูกอย่างนี้ผิด มีโอกาสก็จะบอก เป็นประโยชน์แก่กันและกัน ใครแสดงได้ดี สมณะ สิกขมาตุแสดงอย่างนี้ดี เราก็จะได้ทราบ
_ขอให้พ่อครู อธิบาย ธาตุ ความเพียร 7
พ่อครูว่า…
-
อารัพภธาตุ (ดำริ) ความเพียรเป็นเหตุปรารภ (ริเริ่ม) .
-
อารัมภธาตุ (ปรารภดำริ)
-
นิกกมธาตุ (พยายามดำริ) เพียรเป็นเครื่องก้าวไป
-
ปรักกมธาตุ (บากบั่นดำริ) ความเพียรก้าวไปข้างหน้า
-
ถามธาตุ (ดำริมีกำลัง) ความเพียรเป็นกำลัง
-
ธิติธาตุ (ดำริตั้งมั่น) ความเพียรเป็นเครื่องทรงไว้
-
อุปักกมธาตุ (ดำริสำเร็จเต็มรูป เหมือนลูกศรจะออกจากแล่ง พยายามที่จะกระทำให้เกิดกรรมออกมา) .
(จาก อัตตการีสูตร ล.22 ข.309)
มันเป็นรายละเอียดมาก ก็ฟังอย่างหยาบๆไปก่อน
อารัพภธาตุมันริเริ่มเลย เป็นพลังงานตัวแรก
อารัมภธาตุก็ตัว อารัพภธาตุ โตขี้นมา มีพลังความเพียร ทำงานทำการเพิ่มขึ้น เป็นสองเป็นสามเป็นสี่ เป็นต้น
นิกกมธาตุ เพียรไม่หยุดยั้ง มีตัว static dynamic เพิ่มขึ้น
ปรักกมธาตุ เป็นธาตุเพียรที่เสริมมากขึ้นๆ มีธาตุอื่นซับซ้อนขึ้นเป็น coefficient ก็เป็นความเพียรที่บากบั่นมุ่งมั่นมากขึ้น
ถามธาตุ แปลว่า กำลัง ก็เป็นพลังเพียรมีเรี่ยวแรงกำลัง แข็งแกร่งขึ้น
ธิติธาตุ ตั้งมั่นมีแก่นแกนความเพียร มี static dynamic ครบ ตั้งกองความเพียรขึ้น
อุปักกมธาตุ เป็นความสำเร็จบริบูรณ์
อันนี้ละเอียดเกินไป รู้ลักษณะการเจริญขึ้น มีเจโตและปัญญา เติมขึ้นๆ เป็นสัมประสิทธิ์ เป็นธาตุเพียรที่สมบูรณ์แบบ
_ทำไมคนเราไม่ค่อยลดกิเลสคะหลวงปู่
พ่อครูว่า…ที่นี่เด็ก 6 ขวบก็ถามปัญหาอย่างนี้ได้ ทำไม แสดงว่า ประโยคคำถามพวกนี้ มีความหมายนะ ทำไม คนเราไม่ค่อยลดกิเลส แสดงว่ารู้ว่าคนต่างๆ ทำไมเขาไม่ค่อยลดกิเลส เพราะรู้ว่าเขามีกิเลส แล้วไม่ลดกิเลส
หลวงปู่ก็ตอบให้ฟัง คนที่ไม่คิดจะลดกิเลสคือคนไม่ต้องการความเจริญทั้งนั้น แม้จะเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้านับถือพระพุทธเจ้า เทิดทูน แต่ไม่เอาถ่าน คนนี้หมดทางเจริญ
เพราะความเจริญไม่มีหลักวัดเทียบได้ว่า คุณเจริญหรือไม่ คุณทำจิตให้เจริญตามศีลได้หรือไม่ จะรู้ได้อย่างไรว่าเจริญ ก็ต้องมีศีล ถึงจะรู้ว่าคนนี้เป็นโสดาบัน สกิทาคามี อนาคามีอรหันต์ ทุกวันนี้เขาทิ้งศีล เอาแต่ศึกษาโลกียะ ตามโลก มันไม่ใช่ ความเจริญของจิตมนุษย์แต่ละชาติ สร้างความหลงโลกีย์มาก พุทธศาสนิกชน จะไม่ได้อะไรจากศาสนาเลย
ต้องโทษ ผู้สอน ผู้ดูแลศาสนานะ อาตมาก็พาทั้งเด็กและผู้ใหญ่ทำก็ได้ผลนะ เขาต้านอย่างหนักด้วย แต่ก็ยังมีคนได้ประโยชน์มาจนถึงทุกวันนี้ ได้พอสมควร เดี๋ยวนี้ข้างนอกจะรับฟังอาตมามากขึ้นหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ก็ได้ อาตมาทำได้ แล้วก็เห็นว่า งานนี้ดีสุดที่จะทำให้คนมีศีล สมาธิ ปัญญา
_ทำไมคนชอบกินเนื้อสัตว์ค่ะ
พ่อครูว่า…เพราะว่าคนยังโง่ ก็เลยชอบในสิ่งที่โง่สิ่งที่ไม่เจริญ คนไม่กินเนื้อสัตว์ไม่ฆ่าสัตว์นี้เป็นคนเจริญ การไม่ฆ่าสัตว์แต่ยังกินเนื้อสัตว์ก็เจริญมา 1 ขั้น เมื่อไม่กินเนื้อสัตว์อีกก็เจริญขึ้นอีก ยิ่งถ้ามีจิตเอ็นดูสัตว์ก็เจริญขึ้นอีก ยิ่งหวังประโยชน์ต่อสัตว์ทั้งปวงอยู่ ก็เจริญไปตามคำสอนพระพุทธเจ้า และควรอยู่กับสัตว์กับโลก ร่วมสร้างความเจริญสร้างสรรกันไป โดยเฉพาะอยู่กับคนที่ใกล้ชิดกับเรา มีเยอะแยะ แม้ไม่เจตนาคนก็เอามาเกี่ยวข้องปนกัน
เอามาเกี่ยวข้องถึงขนาดเลี้ยงไว้เพื่อฆ่ากิน คนหนอคน พระพุทธเจ้าท่านได้ยกตัวอย่าง อาหาร 4 อย่าง
กวฬิงการาหาร มีผัวเมียและลูก หวังประโยชน์สูงสุดคือเดินทางไปสู่นิพพาน พระพุทธเจ้าก็ยกตัวอย่างปรากฏว่าสองคนนี้ผัวเมีย ฆ่าลูกกิน เพื่อตัวเองจะได้รอด ไม่ตาย จะได้สิ่งดีสูงสุด คือนิพพานแต่มันจะได้นิพพานอย่างใด โง่ขนาดฆ่าลูกกิน ฆ่ากินแล้วเป็นเนื้อแห้งถือไปก็ยังหลง ถามอีกว่าลูกเราไปไหน? พระพุทธเจ้ายกตัวอย่างได้สุดยอด คนเราหลงแล้วไม่รู้จริง ทำชั่วขนาดนี้ไม่รู้อีก แล้วยังบอกว่าลูกเราไปไหนอีก เพราะว่าเอ็งฆ่าอยู่กับมือกินอยู่กับปากยังบอกอีกว่าลูกเราไปไหน สติสัมปชัญญะมีบ้างไหมคนนี้ คือโง่ ถึงได้เสื่อมขนาดนั้น
_ด.ญ.แก้วบุญ ถามว่า พ่อครู ซู้ใจได้อย่างไรคะ หนูรักพ่อครูค่ะ
พ่อครูว่า…รักหลวงปู่นี้ดีแล้ว ก็ฟังธรรมะ แล้วออกไปปฏิบัติตามที่บอก แล้วจะเจริญ
สมณะเดินดินว่า..คำถาม ว่า สู้กับใจตนเองได้อย่างไร?
พ่อครูว่า…คำถามลึกนะ แสดงว่ารู้ว่าหลวงปู่สู้ใจตนเองได้
ถามว่าสู้ใจได้อย่างไรก็ต้องปฏิบัติธรรม หลวงปู่สู้ใจตัวเองได้ อันนี้ดีมากเลย คือใจคนนี่เป็นใจที่ถูกครอบงำด้วยกิเลส ใครที่สัมมาทิฏฐิฟังธรรมะพระพุทธเจ้าแล้วจะอ่านใจตัวเองได้ว่ามีกิเลสอะไร แล้วลดกิเลสตัวเองได้นั่นแหละคือการสู้ใจตัวเอง ก็คือสู้กับกิเลสที่ทำให้ตัวเราเองเสื่อมตกต่ำไป กิเลสมันพาให้เสื่อมมันพาให้ตกต่ำ เราก็ต้องสู้กับอันนี้ สู้กับกิเลส
รู้จักกิเลสแล้วมีอุบายเครื่องออกทำให้กิเลสลดลง ใจเราก็เจริญ หลวงปู่สู้ใจตนเองได้ ตามคำสอนพระพุทธเจ้าที่หลวงปู่เข้าใจตามและเห็นว่าสัมมาทิฏฐิ เพราะหลวงปู่ปฏิบัติแล้วมีสัมมาปฏิบัติซึ่งเกิดผลสัมมาปฏิเวธ สู้กับกิเลสที่มันทำร้ายใจเราได้ เพราะฉะนั้นเอากิเลสออก ใจเราก็มีเอกราชสะอาดบริสุทธิ์จากกิเลส ก็ชนะ ใจก็เจริญ หลวงปู่ก็ทำอย่างนี้
ไม่มีศาสนาไหนด้วย ที่สอนให้คนสู้ทางใจ ทำให้ใจเรามีเอกราช รู้จักกิเลสทำให้กิเลสลดได้ตามลำดับ ตั้งแต่เริ่มต้นรู้แล้วทำได้ เป็นโสดาปัตติผล ผู้ที่ทำได้มีจิตเป็นเอกราชทั่วทั้งแผ่นดิน ยิ่งกว่าสวรรคาลัย หมายความว่าผู้ที่เป็นโสดาบันสามารถอ่านโลก สามารถอ่านกิเลส ที่มันบังคับใจตนเอง ก็สู้กับกิเลสแล้วทำให้กิเลสลดได้ ก็เลยเป็นอิสระ เป็นเอกราช
เพราะฉะนั้นอบายมุขในโลกอย่างการแข่งฟุตบอลโลกใหญ่มาก เป็นอบายมุขที่มีฤทธิ์ทำให้คนในโลกหลงใหลเสียเวลาแรงงานกับตรงนี้ เสียสังคมเศรษฐกิจ ไปหมด ในสังคมประเทศ แล้วเขาก็หลงส่งเสริมกันทั่วโลก แต่ละประเทศก็หลงซ้อนเป็นความเด่นอีก ดีไม่ดีเห็นว่าเป็นการหารายได้เข้าประเทศอีก กลายเป็นเรื่องโลกียะ ลาภยศสรรเสริญโลกียสุข เละ แต่ความเสื่อมความเสียตรงนี้มีมหาศาล เสียเวลา ทุนรอน แรงงาน ไปหมด
ผู้ที่สามารถ เรียนรู้ธรรมะของพระพุทธเจ้าไปตามลำดับ จะเลิกละสิ่งที่เป็นความเสื่อมตรงนี้ได้ จะแก้ปัญหาชีวิตตัวเองแก้ปัญหาชีวิตสังคมได้
ขออภัย ต้องยืนยันชาวอโศก ก็อาตมาพาทำ ปฏิบัติธรรมะพระพุทธเจ้า อย่างเช่นสมาชิกบ้านราชฯแก้ปัญหาการเมืองเศรษฐกิจสังคมตก มีชีวิตอยู่สบายๆสบม.ทมด ปกต.หห
ข้าวมีกิน ดินมีเดิน แดดมีส่อง พี่น้องมีเสร็จ เห็ดมีเก็บ ป่วยเจ็บมีคนรักษา ขี้หมามีคนช่วยกวาด ผ้าขาดมีคนช่วยชุน บุญต่างคนต่างทำ คนที่ไม่หมดบุญก็ทำบุญจนหมดบุญต่อไป
ในวงการศาสนาพุทธน่าจะฉุกคิดสะดุดใจว่า โพธิรักษ์เอาอะไรมาพูด พูดใหญ่จริงๆ จริงๆแล้วธรรมะพระพุทธเจ้านี้ใหญ่ มีหลักฐาน
หากปฏิบัติตามมูลสูตร
-
มีฉันทะเป็นมูล เป็นเบื้องต้น
2.แล้วก็มาเรียนรู้ให้เกิด การทำใจในใจ มีมนสิการเป็นแดนเกิด ให้รู้วิธีการทำใจในใจให้ได้แล้วทำใจในใจให้ลดกิเลสให้ได้
คือทำใจให้กิเลสลดเป็นความเจริญ โดยหลักการ ศีล สมาธิ ปัญญา จรณะ 15 วิชชา 8 โพธิปักขิยธรรม 37 ก็ตาม ก็มาทำมนสิการที่ใจ ให้เกิดเป็นมนุษย์อาริยะ ใจเป็นแดนเกิดกรรม
-
โดยมีผัสสะเป็นสมุทัย การปฏิบัติธรรมะพระพุทธเจ้าต้องมี ผัสสะเป็นสมุทัย ที่ไม่ใช่สมุทัยในอาริยสัจะ 4 ที่มีตัณหาเป็นสมุทัย แต่อันนี้เป็นสมุทัยในการปฏิบัติ หากไม่มีผัสสะเป็นเหตุในการปฏิบัติก็ไม่ได้ปฏิบัติธรรม เป็นการออกนอกรีตหมด อาตมาเจตนาแก้มิจฉาทิฐิมีหน้าที่ตรงนี้ ไม่มีสิทธิ์ให้คนเชื่อแต่มีสิทธิ์พูดความจริง
-
เกิดเวทนา หากไม่มีผัสสะก็ไม่มีเวทนา หากไม่มีเวทนาก็ไม่มีกรรมฐานที่ตั้งในการปฏิบัติ แล้วเวทนานี่แหละคือกรรมฐานหลักตัวแท้ของพระพุทธเจ้า จะบรรลุธรรมหรือไม่ก็อยู่ที่เวทนา หากไม่มีตามที่ว่านี้นอกรีตหมด
นี่คือมูลสูตร คือมูลฐานของศาสนาพุทธ
-
สมาธิเป็นประมุข สั่งสมจิตที่ลดกิเลสได้ตามข้อต่างๆข้างต้น หากไปนั่งหลับตาทำสมาธิเป็นสมาธินอกรีต แล้วไปหลงว่า ผู้ที่ทำแบบนี้เป็นอรหันต์ แท้จริงแล้วเป็นอรหันต์เก๊ น่าสงสาร ที่ปฏิบัติกันในวงการศาสนาไม่ว่าจะเป็นนักบวชหรือฆราวาส ที่เขายกย่องบูชากันในวงการ ถ้ายังฟังอาตมาไม่เข้าใจ ไม่สะดุ้งสะเทือนว่านี่สอนปฏิบัติมาตลอดไม่ได้ปฏิบัติตามพระอนุสาสนี คุณฟังธรรมะไม่เข้าใจ อย่างน้อยเพ่งโทษอาตมาว่าไม่มีปัญญารู้สัจธรรม แต่หาก ตั้งใจฟังด้วยดีย่อมเกิดปัญญา สุสูสังละภะเตปัญญัง
จะสู้ใจได้ต้องมีสัมมาทิฏฐิตามพระพุทธเจ้าและปฏิบัติธรรมมีมรรคผล
_อยากถามว่า ถ้าวันหนึ่งที่ลูกใกล้หมดอายุขัยแล้วเป็นวันที่ลูกตั้งใจทำความดีแล้ว เป็นวันคล้ายวันเกิดลูกแล้วบุญกุศล จะไปสู่ผู้ที่ลูกอุทิศให้ได้ไหมคะ
พ่อครูว่า..มันไกลไป ให้ทำดีแต่วันนี้เลย คนถามมาคงเป็นเด็ก ไม่เดียงสาในศาสนาพุทธ มาในอโศกแล้ว หากเป็นผู้ใหญ่ก็แสดงว่าไม่ประสีประสาเลย เรื่องศาสนา
การทำกุศล จะส่งผลไปถึงคนที่ลูกอุทิศให้ไหม คงหมายถึงผู้ตาย
การทำกุศลให้ผู้ตายแล้วมันสูญเปล่า ไม่มีผลอะไรเลยเป็นการเสียเวลาทุนรอนแรงงาน เป็นวิธีการของคนโง่เสียเวลาแรงงาน แล้วก็ได้ความโง่มา
มันไม่มีทางไปถึง ไปได้หรอก
บุญคือพลังงานลดกิเลส เป็นโลกุตรธรรม กุศลเป็นโลกียธรรม เป็นความดี
หากจะทำดีแต่ในวันคล้ายวันเกิดมันน้อยไป ทำดีให้มากขึ้นหน่อย หากทำชั่วมากกว่า ก็จะอยู่ได้อย่างไร
_อยากรู้ประวัติบ้านราชฯ
พ่อครูว่า…เกิดจากอาตมาได้รับบริจาคที่ดินมา แล้วก็มาซื้อเพิ่ม เดิมมา 40 ไร่ ตอนแรก ต่อมาก็เป็นหมู่บ้านทางนิตินัย
_ทำไมบางครอบครัวก็อยากให้ลูกแต่งงานมีครอบครัว บางครอบครัวก็บังคับให้ลูกไม่มีแฟนไม่ให้ลูกมีความรัก เหมือนไม่ให้ลูกเรียนรู้เรื่องแบบนี้
พ่อครูว่า…พ่อแม่ที่บังคับ ให้ลูกตั้งใจเรียนตั้งใจทำงานแล้วบังคับไม่ให้มีแฟน แสดงว่าแม่คนนี้ หรือพ่อคนนี้ เห็นว่าการมีแฟน มีความรักมันเป็นทุกข์ คนโสดเขาว่าบัณฑิต คนฝักใฝ่เมถุน คนคู่มีแฟน ย่อมเศร้าหมอง คนที่ศึกษามาดี ก็ไม่อยากให้ลูกมีทุกข์มีความเศร้าหมองก็ไม่อยากให้มีแฟน ก็ดีมาก เพราะฉะนั้นเป็นความตั้งใจปรารถนาดีต่อครอบครัว
ทำไมบางครอบครัวก็อยากให้ลูกแต่งงาน เขาก็เข้าใจเช่นนั้น เพราะต้องห่วง กลัวไม่มีผู้ชายดูแลคุ้มครองหรือไม่ก็ผู้ชายจะได้เป็นฝั่งเป็นฝา เป็นธรรมดาของสัตว์โลก ผู้ที่เจริญแล้ว ก็มีครอบครัวใหญ่ อย่างชาวอโศก หลวงปู่ก็ตามไม่ได้มีญาติแคบๆ หรือมีลูกแคบๆเช่นนั้น อย่างหลวงปู่นี่มีลูกหลานญาติพี่น้องเยอะ
ครอบครัวที่ไม่อยากให้ลูกมีแฟนเหมือนไม่ให้เรียนรู้ ก็เพราะเป็นความปรารถนาดี ไม่ต้องเป็นดูหรอก มันเรียนรู้มาไม่รู้กี่ชาติแล้วมันไม่จบ หากงดคู่วิบากได้แต่ละชาติ วิบากเหล่านั้นจะลดลง ทุกข์ลดลง ผู้ใดเลิกได้ก็ดี พ่อแม่ไม่อยากให้มีวิบาก
_องค์ประกอบของสัมมาสมาธิมีอะไรบ้าง
พ่อครูว่า…หลวงปู่เอามาจากพระไตรปิฎก จากพระพุทธเจ้า สัมมาสมาธินั้น องค์ประกอบ (ปริขาโร)ที่ทำให้เกิดสัมมาสมาธิคือมรรค 7 องค์ แล้วตัวที่ 8 คือสัมมาสมาธิ ขอ
ศาสนาพุทธต้องปฏิบัติมรรค 7องค์คือ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ
ไม่ใช่ไปนั่งหลับตาสะกดจิต อย่างนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ศาสนาพุทธ เป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ถ้าหากประเทศไทยมาปฏิบัติสมาธิแบบที่ว่านี้ จะเจริญขึ้นทันที เหมือนกับชาวอโศกที่ได้ฟังแล้วก็มาปฏิบัติยังได้เป็นสัมมาสมาธิอยู่เป็นสุขกันดี เป็นอยู่สุขสำราญเบิกบานใจด้วย สุขสงบสบาย เอหิปัสสิโก เข้ามาดูได้ เขาเจริญอย่างไร เจริญทางเศรษฐกิจสังคมการเมืองอย่างไร อาตมาคุยโต อาตมาพอใจทางเศรษฐกิจทางสังคม ประสบผลสำเร็จแล้ว จริงๆนะไม่ได้คุยโม้ไม่ได้พูดเล่น แต่คนหาว่าอาตมาคุยโต show off แต่อาตมาว่าอาตมา show out บอกจนเกินบอกเลย
_คนที่จะระลึกชาติได้ต้องบำเพ็ญลดกิเลสก่อนใช่ไหมคะ เพราะเหตุใดคะ
พ่อครูว่า…ก็คงหมายความว่า ระลึกชาติก่อนได้ว่าเราเกิดเป็นคนหรือสัตว์เป็นใครก่อนมาชาตินี้ ถ้าหมายอย่างนั้นก็อย่าไปคิดนึกเลย มันไม่มีประโยชน์อะไรแม้ว่าเราจะระลึกได้มันก็ไม่มีใครมายืนยันกับเรา มันจะผิดหรือถูกก็เป็นเรื่องเพ้อเจ้อ เราก็ฝันเฟื่องอยู่อย่างนั้น ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับสิ่งที่ผ่านมาแล้วอย่างนั้น ต่อให้คุณเป็นอะไรก็แล้วแต่ สมมุติว่าคุณเลอะเทอะหน่อย ระลึกได้ว่าชาติที่แล้วเป็นพระอรหันต์องค์ใดองค์หนึ่ง มาเกิดในชาตินี้ดันไม่ใช่อรหันต์ เพราะรู้ว่าตนเองยังไม่ใช่อรหันต์ในชาตินี้จะสมน้ำหน้าคุณบ้างไหม? ไม่ต้องไประลึกหรอกชาติที่แล้ว เป็นอะไรก็แก้ไขไม่ได้ เอาปัจจุบัน ในสิ่งที่เป็นประโยชน์จะประพฤติเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดี แม้แต่เมื่อวานเราทำผิดไปแล้วมันก็ชั่วแล้ว เป็นวิบากแล้ว คุณแก้ไม่ได้ด้วย สิ่งที่เสร็จแล้ว กรรมเป็นอันทำ มีแต่ต้องแก้กรรมปัจจุบัน ที่จะเดินทางไปอนาคต ทำไปปัจจุบัน รู้แต่อนาคตไปข้างหน้า ทำปัจจุบันให้ดี อนาคตก็แค่ว่าเราตั้งใจทำดีต่อไปเสมอ อดีตเอาไว้เปรียบเทียบ
_เรือโนอาห์เป็นอย่างไรคะ
พ่อครูว่า…เรือโนอาห์ อยู่ในศาสนาเทวนิยม เขาบอกว่าน้ำจะท่วมโลกสัตว์จะตายกัน ก็เลยสร้างเรือมาลำหนึ่ง เอาไว้ช่วยสัตว์เท่าที่ช่วยได้ ใครมีกุศลบารมีจะได้ขึ้นเรือโนอาห์ ก็หมายถึงแค่นั้นเอง อาตมาก็ว่า ขออภัย คือมัน
_หลวงปู่จะไปเป็นพระพุทธเจ้าใช่ไหมครับ
พ่อครูว่า…เจตนาประพฤติปฏิบัติเช่นนั้นก็เป็นโพธิสัตว์มาเป็นลำดับตอนนี้ขั้นที่ 7 แล้ว
_ทำอย่างไรจะทำให้รุ่นน้องเคารพรุ่นพี่
พ่อครูว่า…ทำให้ตนเองเป็นรุ่นพี่ที่ดีแล้วน้องๆจะเคารพเอง หากเราทำดีแล้วน้องยังไม่เคารพก็เพราะว่าเรายังทำดียังไม่มากพอ ก็จงทำดีต่อไป
_พ่อครูเคยเกิดมาเป็นอะไรบ้างแล้ว แล้วทำไม ชุดสัมมาสิกขา ชุดอาชีวะ ต้องมีสีน้ำเงินและดำ พ่อครูเคยเป็นพญาแร้งใช่ไหมครับ
พ่อครูว่า..หลวงปู่เคยเป็นคนชั่วและเป็นคนดีมาตามลำดับ
ชุดสัมมาสิกขา ชุดอาชีวะ ต้องมีสีน้ำเงินและดำ ก็เพราะเป็นเครื่องแบบยูนิฟอร์มที่เราขอกับทางกระทรวงศึกษาธิการ ก็ขอใช้สีอย่างนี้
อันที่สาม ที่ว่าเคยเกิดเป็นพญาแร้ง อันนี้ไม่รู้ มันระลึกไม่ออกจริงๆ แต่ปางนี้ ทำไมต้องเอาพญาแร้งมาเกี่ยวข้อง เพราะว่าพญาแร้งมันเป็นนกที่แข็งแรงไม่ทําบาป นกที่กินแต่สัตว์ตาย สัตว์เน่าแล้วไม่แย่งใคร นอกจากจะแย่งกันเอง แร้งแย่งกันกินเองแต่ไม่แย่งใคร
เช่นว่าเสือมันไปฆ่าสัตว์ตาย แร้งก็ปล่อยให้เสือกินไม่ไปแย่ง จนกว่าจะเหลือก็ถึงไปกิน
แร้งเป็นสัตว์ที่บินสูงที่สุด มันเป็นสัตว์ที่ดีมาก แต่คนรังเกียจ เพราะว่ามันกินสัตว์เน่า ทั้งที่มันกำจัดสิ่งที่เน่าให้แก่โลก ก็เหมือนกับพวกเรา เราก็เป็นพวกที่ดีนะแต่เขาก็มาจัดการ
_ความเจ็บปวดแม้เล็กน้อยคือการชดใช้กรรมใช่ไหมครับ
พ่อครูว่า…ใช่ แม้แต่พระพุทธเจ้าที่ปวดศีรษะ เพราะว่าในอดีตชาติ เป็นลูกชาวประมง แล้วไปเห็นชาวประมงได้ปลามามากก็เลยยินดีกับการได้ปลามากของชาวประมง เท่านั้นก็เป็นวิบาก แม้มาเป็นพระพุทธเจ้าแล้วก็ทำให้ท่านต้องปวดศีรษะ ท่านก็บอกว่าเป็นวิบากที่ไปยินดีที่คนเขาจับสัตว์ได้มาก โอ้โห จับสัตว์ได้เยอะ จับปลาได้เยอะมีปลาดีๆอะไรก็แล้วแต่ เท่านั้น วิบากติดตาม แม้จะบรรลุเป็นพระพุทธเจ้าแล้วก็ทำให้ท่านปวดหัว เห็นไหมว่าเกี่ยวข้องกันขนาดไหน แค่ยินดีก็มีวิบาก แล้วคุณไปกินเนื้อสัตว์ จะมีวิบากขนาดไหนแล้วไปยินดีติดรสเนื้อไปอีก จะต้องกินเสือดำ พูดไปแล้วก็เข้าล็อคคนโง่ๆที่เป็นกัน มันซวยมากเลย เลิกเลย ล้างกิเลส มันจะอร่อยยังไงมันก็ไม่ดี ก็เลิกเลย ชีวิตก็ปลอดภัยก็ดีมากเลยมีคุณค่าต่อตนเองต่อโลก
_สิ่งมีชีวิตทั่วจักรวาลสามารถบรรลุธรรมได้ใช่ไหมครับ
พ่อครูว่า…ไม่สงวนลิขสิทธิ์เลยถ้าถึงเขตก็สามารถปฏิบัติธรรมให้บรรลุธรรมได้ เพราะฉะนั้นก็ขอให้สติแก่ชาวพุทธ ที่เป็นชาวพุทธ แล้วก็มีธรรมะของพระพุทธเจ้าอยู่ มีคนมาบรรยายอยู่ มีผู้รู้ที่ยืนยันว่ามี เป็นสัมมาทิฏฐิจริงๆด้วย โปรดอย่าละเลย ควรตั้งใจฟังและเอาไปปฏิบัติให้ดี
_มหาปเทส 4 มีหลักอย่างไร
พ่อครูว่า…แบ่งเป็น สอง สอง
-
สิ่งใดที่เราไม่ได้ห้ามไว้ว่า สิ่งนี้ไม่ควร หากสิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ไม่ควร ขัดกับสิ่งที่ควร สิ่งนั้นไม่ควรแก่เธอทั้งหลาย
-
สิ่งที่เราไม่ได้ห้ามไว้ว่า สิ่งนี้ไม่ควร หากสิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ควร ขัดกับสิ่งที่ไม่ควร สิ่งนั้นควรแก่เธอทั้งหลาย
-
สิ่งใดที่เราไม่ได้อนุญาตไว้ว่า สิ่งนี้ควร หากสิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ไม่ควร ขัดกับสิ่งที่ควร สิ่งนั้นไม่ควรแก่เธอทั้งหลาย
-
สิ่งใดที่เราไม่ได้อนุญาตไว้ว่า สิ่งนี้ควร หากสิ่งนั้นเข้ากับสิ่งที่ควร ขัดกับสิ่งที่ไม่ควร สิ่งนั้นควรแก่เธอทั้งหลาย.