610620_เทศน์ก่อนฉันศีรษะอโศก พิธีไหว้ครู เรื่อง ทศพิธราษฎรธรรม
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://drive.google.com/open?id=1CaOnIjAl9CFkghe-1Zzc9K6HrgDqE0x2DTNlTcWeBmk
ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=1smYEdaDkQxPMaTWtaZ9rdxXBpRKD0tqe
ดูยูทิวป์ได้ที่…
พ่อครูว่า…วันนี้วันพุธที่ 20 มิถุนายน 2561 ที่บวรศีรษะอโศก
SMS 18 มิถุนายน 2561 (พ่อครู : ราชธานีอโศก)
_7630กราบนิมนต์พ่อท่านช่วยอธิบาย”การพิจารณาเห็นกายในกายอยู่” ให้ฟังด้วยครับ กราบขอบพระคุณครับ
พ่อครูว่า…ทุกวันนี้ชาวพุทธแม้แต่จบด๊อกเตอร์ทางศาสนาพุทธก็ตามเข้าใจว่ากายนี้คือร่าง ดินน้ำไฟลมอย่างเดียว ตั้งแต่ต้นเลย เพราะฉะนั้นเริ่มต้นตรงนี้ก็ผิดแล้วจะไปพิจารณากายในกายเข้าไปอีก ยาก ยากที่จะได้ เพราะถ้าหากพิจารณากายในกายเป็นดินน้ำไฟลมก็พิจารณาดินในดินน้ำในน้ำไฟในไฟลมในลม คุณก็ไปพิจารณาอุตุนิยามเท่านั้น สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ ภาวะกายหมายถึง จิตและดินน้ำไฟลม แต่เขาไม่พิจารณาเข้าหาจิตด้วยซ้ำไป พระพุทธเจ้าตรัสว่ากายคือจิต มโน วิญญาณ เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสเช่นนี้แน่นอนคนที่ไปยึดถือว่ากายคือดินน้ำไฟลม ฟังแล้วหัวหมุนเลย หูหักเลย ในพระไตรปิฎกเล่ม 16 ข้อ 230 พระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัด ว่ากายนี้ตถาคตเรียกว่าจิตบ้าง มโนบ้าง วิญญาณบ้างอย่างนี้เป็นต้น
_5788 นมัสการหลวงปู่ มีกระผมคนหนึ่งที่เชื่อหลวงปู่ครับแม้ทำตามได้น้อยแต่ก็ได้ทำครับ กระผมเป็นคนนอกครับ
พ่อครูว่า…ดีมากสาธุ ฟังเอา
_3867สมัยนี้หาเด็กวัดอยู่ประจำวัดน้อยลง!เห็นเด็กวัดสมัยก่อนเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่วัน นี้มักได้ดิบได้ดีเพราะข้าวก้นบาตร!พระวินัยในวัด!ศีลธรรมในจิตใจ!ที่พระครูบา อาจารย์อบรมบ่มสอนจนได้ดีทุกรุ่น!นร.สัมมาฯคงเป็นเด็กวัดอโศกเหลืออยู่วัดเดียวในพุทธ(มังสะวิรัติ)สยาม!
พ่อครูว่า…
_วิทยา เกียรติโชติชัย · ท่านตอบเรื่องพาราควอตซ์ หน่อยว่า มันกำลังเป็นพิษต่อผืนดินหรือไม่ หรือท่านคิดว่าเป็นช่างปลอม
พ่อครูว่า…อาตมาไม่รู้ว่า พาราควอตเป็นพิษหรือไม่เป็นพิษ คนคิดก็สร้างมาเพื่อใช้เพื่อขาย เป็นสินค้ากัน อาตมาก็ไม่ทราบแน่ แต่ว่าสารเคมีที่สะกัดเข้มข้น มักจะเป็นพิษทำร้ายสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม
_เยาวลักษณ์ วัฒนเสรีกุล · น้อมกราบนมัสการพ่อท่านและสมณะและสิขมาตุทุกรูป ดูพ่อท่านในทีวีทุกวันคะ และอีก 3 ปีจะให้ลูกไปเรียนคะและจะไปอยู่ด้วยค่ะที่ปฐมอโศกคะ
_สุวิดา คำศรี · จดคำถามไว้ว่าจะถามพ่อครู ฟังพ่อครูเทศน์วันนี้ได้คำตอบแล้วค่ะ
_อ.เป็นต้น นาประโคน เขียนกวีในวันไหว้ครูมา ….ไหว้ครูด้วยใจ
พ่อครูว่า…มาถึงคำถามที่ว่า พ่อครูจะใช้ สัมประสิทธิ์เพื่อต่ออายุให้ยืนยาว สัมประสิทธิ์ของพ่อครูหมายถึงอะไร?..
มันเป็นเรื่องที่ยากเหมือนกัน อาตมาหยิบเอาคำนี้มาพูดที่เรียกว่าสัมประสิทธิ์ในภาษาไทย เป็นภาษาสมัยใหม่ ภาษาสมัยเก่าก็ต้องเอารากฐานบาลีของพระพุทธเจ้า
สัมประสิทธิ์ก็คือรวมทั้งหมด โพธิปักขิยธรรม 37 เรียกย่อว่า โพชฌงค์
โพธิปักขิยธรรม 37 สติปัฏฐาน 4 สัมมัปปธาน 4 อิทธิบาท 4 อินทรีย์ 5 พละ 5 โพชฌงค์ 7 มรรคมีองค์ 8
สัมมัปปธาน 4 เป็นหลักปฏิบัติ เป็นข้อหนึ่งในโพธิปักขิยธรรม 37 เข้าใจเช่นนี้ก็จะเข้าใจว่าศาสนาพุทธไม่ได้ไปสอนนั่งหลับตา ต้องระวังสังวรในอินทรีย์ คือเปิดทวาร รับผัสสะ ไม่ได้ไปปิดทวารนั่งหลับตา พวกที่นั่งหลับตาปฏิบัติเป็นหลักเป็นพวกโมฆะ เป็นศาสนาเดียรถีย์ สมาธินั่งหลับตาไม่ใช่ของพุทธ
เมื่อปฏิบัติ สติปัฏฐาน 4 สัมมัปปธาน 4 อิทธิบาท 4 ก็จะเกิดผลสะสมลงเป็นพลังงาน อินทรีย์ 5 แล้วพัฒนาเป็นพละ 5 เป็นพลังงานทางจิต ได้รับการพัฒนาเจริญขึ้นเรียกว่าสัมประสิทธิ์ พัฒนาก้าวหน้าขึ้นเป็นสัมประสิทธิ์ โดยมีฐานของโพชฌงค์ 7 และมรรคมีองค์ 8
มรรคมีองค์ 8 เป็นทางโพชฌงค์เป็นตัวเดินทาง ก็ครบบริบูรณ์ในการปฏิบัติ ก็จะสร้างพลังงานสัมประสิทธิ์ขึ้นมา
ให้มีพลังงานเลี้ยงชีพ ชีวิตเรา พลังงานที่จะทำให้แก่ร่างกายอาการ 32 นี้ ช่วยในส่วนนั้นส่วนนี้ในองคาพยพร่างกาย ช่วยตับ ไต ไส้พุง ปอด น้ำเลือดน้ำหนอง ในองคาพยพ 32 แล้วก็จะถูกปรับปรุงโดยการรู้ว่า เราควรให้พลังงานนี้ อย่างมีชีวะ ชีวิตที่จะรับ ส่วนที่เป็นเครื่องอาศัย จะเป็นอาหาร อากาศ ดินน้ำลมไฟ เป็นอะไรต่างๆ
อาตมาแยกออกเป็น 8 อ. มีอิทธิบาท อารมณ์ ต้องประคองอารมณ์อย่าให้ถูกกิเลสครอบงำ แล้วก็มาอาหาร อากาศ ออกกำลังกาย เอาพิษออก เอนกาย อาชีพ รวมเป็น 8 อ.
ผู้ที่สามารถรู้เครื่องอาศัยและปรับปรุงให้ดี ให้ได้สัดส่วน ก็จะเกิดพลังงานต่างๆที่จะเกิดการจัดสรรพวกนี้ ทำให้เกิดพลังงาน เป็นอายุวัฒนะ พลังงานชีพ สร้างชีวะ ให้ยาวนานไปได้ อาตมาพอรู้เรื่องนามธรรม อรูปพวกนี้ เป็นอรูป แต่มีจิตไปร่วมรู้ด้วย เข้าใจแล้วก็จัด
การจัดการพลังงานพวกนี้เป็นอภิสังขาร เป็นเรื่องเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ มากเป็นนามธรรมไม่มีตัวตนรูปร่างแต่มันเป็นอาการ ของการเคลื่อนไหวของพลังงาน เราก็จับอาการพวกนี้ จัดเครื่องหมายอาการพวกนี้ สัญญากำหนดหมายรู้ว่าอันนี้คือจิตอย่างนี้ อันนี้จะต้องใช้หรือไม่ต้องใช้อันนี้มากไปก็ต้องลดลง อันนี้น้อยไปก็ต้องเพิ่มขึ้น อย่างนี้เป็นต้น เราก็จัดการอันนี้ในจิตของเรา เป็นเรื่องอธิบายได้อย่างนี้ จะละเอียดไปกว่านี้ก็เป็นสภาวะของอะไรต่างๆที่อาตมาออกชื่อเรียกพยัญชนะ
ผู้ที่สามารถจับอาการสภาพตัวนี้ได้ก็ใช้เป็นใช้ได้เท่าที่สามารถ ผู้ใดสามารถมากก็ใช้ได้มาก มีประสิทธิภาพประสิทธิผลมาก ไม่สามารถไม่ค่อยรู้จัก จับไม่ถูกจับไม่เป็นก็ใช้ไม่ได้ ก็เท่านั้นเอง อาตมาก็หมายถึงอย่างนี้
ซึ่งเป็นเรื่องยาก พูดกันตรงๆว่าเกินกว่านักวิทยาศาสตร์ของโลกจะรู้ได้เพราะมันเกี่ยวกับจิตวิญญาณที่เป็นนามธรรม นักวิทยาศาสตร์เขาเก่งทางรูปธรรม เรื่องนามเขายังไม่เก่ง แต่วิชาการรู้ของพระพุทธเจ้า ที่อาตมาพูดนี้เป็นความรู้ของพระพุทธเจ้าที่รู้เกินกว่านักวิทยาศาสตร์ของโลกเขารู้ได้
-
ใครๆก็บอกว่าประเทศไทยเป็นเผด็จการ แต่พ่อครูกลับยืนยันว่าประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยที่ดีที่สุดในโลกซะอีก เพราะอะไร
พ่อครูว่า…เพราะอาตมารู้ว่าประชาธิปไตยคืออะไรหมายถึงอะไร และพฤติกรรมการบริหาร การประพฤติของผู้บริหารขณะนี้ถูกต้องไหม อาตมาเห็นว่าเขาปฏิบัติประพฤติถูกต้อง และทำงานได้ผลอยู่ ประชาธิปไตยหัวใจแท้ๆของมันคือคนบริหารคนทำงานช่วยประชาชนทำเพื่อประชาชนรับใช้ประชาชนมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง หรือไม่เพื่อประโยชน์ตน มีแต่เพื่อประโยชน์ประชาชนเต็มๆ ยิ่งเป็นประชาธิปไตย อย่างนี้เป็นต้น
ที่อาตมาดูแล้วการทำงานทุกวันนี้มีรูปธรรม พฤติกรรมต่างๆของการทำงานบริหาร เรื่องนั้นเรื่องนี้จัดการจัดสรรอยู่ เอามาเป็นเรื่องเป็นราว เอามาบอกพยายามแนะนำพยายามจัดการให้ประชาชนได้รับรู้กันช่วยกัน จัดการให้มันเกิดผลเกิดประโยชน์ขึ้นมาก็ทำกันอยู่อย่างดีมากเลย อาตมาก็มองถึงเนื้อหานั้นว่าเป็นสาระแท้ของความเป็นประชาธิปไตย คือการรับใช้ประชาชนการทำเพื่อประชาชนไม่ได้เห็นแก่ตัวไม่ได้เห็นแก่ได้ไม่ได้มีการทุจริต ไม่ได้มีการอาศัยเอาไปกอบโกยหากินจากการงาน มีแต่รับใช้ การงานส่วนที่เขาจ้างเป็นรายได้เงินเดือนส่วนตัวก็มี นอกนั้นไม่เอาไม่แฝงไม่เละเล็ม เราทำหน้าที่ถูกต้องก็รับเงินเดือนตามหน้าที่ เป็นนักบริหารที่ทำงานเพื่อประชาชนรับใช้ประชาชนจริงๆ อันนี้อาตมาเห็นว่าเขาทำได้ดีมากสะอาดแต่ยังบริสุทธิ์ได้อย่างดีพอควรทีเดียว
การจะหาความบริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์นั้นได้ยากแต่ได้ขนาดนี้อาตมาว่ายอดเยี่ยมแล้ว นี่คือประชาธิปไตยแต่คนที่ยังงมงาย ไปนึกว่าประชาธิปไตยต้องให้ประชาชนเลือกผู้บริหารเกิดการเลือกตั้ง ได้ผู้บริหารแล้วมาบริหาร จึงจะชื่อว่าประชาธิปไตย อันนั้นเป็นเรื่อง เผินๆ
เลือกคนมาบริหารแต่คนบริหารไม่ได้บริหารเพื่อประชาชนเลยอย่างเช่นทักษิณหรืออีกเยอะแยะไม่รู้กี่คณะมาบริหารเพื่อประโยชน์ตนเองและพวกพ้องเพื่อหากิน ซึ่งมันใช้ไม่ได้ ไม่เป็นประชาธิปไตยแต่ไปเอาว่าได้รับการเลือกตั้งเข้าไปถือว่าเป็นประชาธิปไตยแล้ว งมงายตื้นๆ
ก็เขาบอกว่าผู้ที่เข้ามานี้ตอนนี้ไม่เป็นประชาธิปไตยไม่มาจากการเลือกตั้ง ฉะนั้นถ้าให้บริหารต่อไปพวกเขาก็จะไม่ได้มาบริหารไม่มีโอกาส พวกนี้จึงดึงดันอยากให้เลือกตั้งเป็นโอกาสของเขา ถ้าไม่มีการเลือกตั้งเขาไม่มีโอกาส ก็เท่านั้นเอง
สรุปก็คือว่าถ้าหากผู้บริหารที่บริหารขณะนี้สามารถเป็นประชาธิปไตยแล้วและทำได้ดีด้วยคุณก็ทำไปเลย อย่าไปห่วงเลยการเลือกตั้ง เสียงนกเสียงปากหอยปากปูพวกนี้ มันร้องเพื่อที่จะเอาอยากได้ตำแหน่งหน้าที่มาเป็นผู้บริหารจะได้มีส่วนได้อะไรขึ้นมา มันเห็นแก่ตัวอาตมาพูดนี้โดยสาระสัจจะไม่ได้เข้าข้างใคร
ประชาธิปไตยคืออะไรจะต้องรู้จักแก่นแท้ของประชาธิปไตย แก่นแท้ก็คือ 1 อิสระเสรีภาพ 2 ไม่มีตัวตน 3 เข้าใจเรื่องวิญญาณ
ประชาธิปไตยหากไม่มีจิตวิญญาณไม่ได้รู้จิตวิญญาณไม่คำนึงถึงจิตวิญญาณประชาชน และวิญญาณของตัวผู้บริหาร ต้องเข้าใจเขาเข้าใจเราเห็นใจเขาเห็นใจเราผู้บริหารต้องรู้เข้าใจเป็นจิตวิญญาณลึกซึ้ง
อาตมาว่าอาตมาเป็นนักประชาธิปไตยเบอร์ 1 ของประเทศไทยไม่มีใครตั้งหลอกมาตั้งเองเค้าก็หาว่าขี้โม้อวดตัว ไม่เป็นไรอาตมารู้จักประชาธิปไตยและทำงานประชาธิปไตยอย่างเต็มไม้เต็มมือ และก็สอนประชาธิปไตยอยู่ตลอดเวลา สอนทฤษฎีของพุทธเจ้านี่แหละเป็นประชาธิปไตยทั้งหมดในตัวโดยสอนให้สัมมาทิฏฐิ ศาสนาพุทธคือประชาธิปไตยที่สุดยอด พหุชนหิตายะ(เพื่อหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก)พหุชนสุขายะ(เพื่อความสุขของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ(รับใช้โลก ช่วยโลก) นี่คือคำความที่มีการยืนยันว่า ศาสนาพุทธคือประชาธิปไตย และเป็นประชาธิปไตยยิ่งกว่าประชาธิปไตยขาเดียวในประเทศอื่นๆ ประเทศไทยมีเชื้อมีอนุสัยอาสวะของธาตุประชาธิปไตย ศาสนาพุทธนี้มาแต่ไหนแต่ไร ฟื้นมาถึงวันนี้แล้วมันเจริญ
-
ความหมายของคำว่าเศรษฐกิจดีที่สุดคืออย่างไร คือ เศรษฐกิจที่มีอิสระเสรีภาพไม่เห็นแก่ตัว เขายกตัวอย่างชุมชนชาวอโศก ชุมชนชาวอโศกทุกชุมชน เป็นเศรษฐกิจที่ดีที่สุดประชาธิปไตยที่ดีที่สุดอิสระเสรีภาพที่ดีที่สุดแล้วเรียนรู้การลดอัตตาจนหมดอัตตา อัตตาจนหมดหรือเหลือน้อย อัตตามันหมดลงไปทีเดียวไม่ได้หรอกก็จะค่อยๆลดลงเหลือน้อยลงเรื่อยๆ เป็นอิสระเสรีภาพใครจะมาก็ได้ไม่มาก็ได้