วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม 2561…
ทุกวันอาทิตย์พ่อครูสมณะโพธิรักษ์จะแสดงธรรมในรายการวิถีอาริยธรรมที่ชั้นล่างเฮือนศูนย์สูญ วันนี้ได้เห็นญาติธรรมที่ได้รับอุบัติเหตุตกจากที่สูง เมื่อช่วงเดือนมกราคม งานเพื่อฟ้าดิน และรักษาตัวที่ราชธานีอโศกมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน วันนี้สามารถเดินมาฟังธรรมที่ศาลาได้แล้วท่านสมณะเดินดิน ติกขวีโร ได้เข้าไปทักทาย เป็นเวลาเดียวกันกับนักเรียนสัมมาสิกขารวมตัวมากราบนมัสการท่านสมณะท่านสิกขมาตุและชาวชุมชนเพื่อเตรียมไปรับประทานอาหารกัน…
..หลังจากจบการแสดงธรรม ก็ได้เวลาฉันภัตตาหารพอดี วันนี้มีลูกหลานที่มาฟังธรรมร่วมรับประทานอาหารภายในศาลาเป็นจำนวนมาก…
หลังฉันภัตตาหารพ่อครูเดินย่อยอาหาร ตรวจงานตามปกติ เดินมาที่ลานสะโพสังเกตเห็นต้นหญ้าหลากหลายสายพันธุ์ขึ้นเขียวแซมโขดหินน้อยใหญ่ต่างๆ ดูงดงามเป็นธรรมชาติมาก ซึ่งก่อนหน้านี้พ่อครูได้ประกาศให้ทุกคนได้ทราบว่า “ห้ามถอนหญ้าหรือวัชพืชในบริเวณลานสะโพ หน้าน้ำตกผาแหงนโดยเด็ดขาด” วันนี้ถึงได้เห็นผลก็คือความเป็นธรรมชาติของต้นหญ้าหลากหลายสายพันธุ์ที่แซมขึ้นตามโขดหินและงานศิลปะปูนปั้นรูปสัตว์ต่างๆ..พ่อครูแวะมาดูครอบครัวเต่า เห็นร่องรอยการทำลายทุบไปที่ลูกตาของเต่าทุกตัว เห็นแล้วน่าอดสูใจสำหรับคนที่มักง่าย ทำลายข้าวของที่เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจสำหรับทุกๆคน อาจจะด้วยความสนุกหรือตั้งใจแต่เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะประพฤติเลย เพราะขนาดที่สาธารณะเขาก็ยังมีกฎห้ามทำลาย แต่นี่เป็นสมบัติของชุมชนเราแท้ๆ
..เสียงน้ำตก แสงระยับจับสายน้ำ ท้องฟ้าสดใส อากาศสดชื่น ผู้คนที่มาเล่นน้ำตกยิ้มแย้มแจ่มใส ยังเห็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่นำมอเตอร์ไซค์เข้ามาบริเวณภายใน โดยช่วงวันหยุด ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ทางชุมชนราชธานีอโศก มีเจ้าหน้าที่คือนายรักษ์เขต ได้มาจัดระเบียบรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ไม่ให้เข้ามาจอดภายในสถานที่ที่เป็นแหล่งพักผ่อนเล่นน้ำของผู้คน แต่ก็ยังเป็นไปได้ยาก ภายในอาคารบวรเช่นกัน ก็จะเป็นลานคนเดิน ห้ามรถทุกชนิดเข้ามาจอดเพราะจะทำให้เกิดฝุ่นละออง ความสกปรกภายในอาคาร..
พ่อครูเดินมาถึงบริเวณนิทรรศพระโพธิสัตว์ ท่านสมณะคมคิด ทันตภาโว ได้นำนักเรียนชั้นม.ปลายมาเรียนบูรณาการวิชาศิลปะภายในบริเวณนิทรรศการพระโพธิสัตว์..พ่อครูเดินไปช่วงท้ายบริเวณจัดนิทรรศการรูปปั้นพ่อครูอยู่บนโขดหินซึ่งเปรียบเสมือนพ่อผู้เป็นสยัง อภิญญา ผู้รู้ ผู้ประกาศสัจธรรม เผยแพร่วิชชาและจรณะอันเป็นสัจจะธรรมของพระพุทธเจ้าให้ลูกๆได้นำพาปฏิบัติลดละกิเลสได้ตามลำดับ…
เดินย้อนกลับขึ้นมายังสะดุดตากับรูปปั้นชาย 5 คน คนแรกเป็นปุถุชนผู้ไม่มีศีลแบกก้อนหินหนักสุด 4 ก้อนคือโลกอบาย โลกกาม โลกธรรมและโลกอัตตาที่มีหนามแหลมคมอยู่บนยอดสุด…คนที่ 2 คือพระโสดาบันศีล 5 บริสุทธิ์ ทิ้งไปได้หนึ่งลูกใหญ่ๆคือโลกอบายแต่ยังแบกอีก 3 ลูกคือโลกกาม โลกธรรมและโลกอัตตาที่คอยทิ่มแทงตัวเองอยู่เสมอ…บุคคลที่ 3 คือพระสกิทาคา มีศีล 8 บริสุทธิ์ทิ้งไปได้ 2 ลูกคือพ้นโลกอบาย กามลดลงแต่ยังแบกโลกกามที่ยังเหลืออยู่ กับโลกธรรมรวมถึงโลกอัตตาเต็มบ้อง…บุคคลที่ 4 คือพระอนาคามีศีล 10 บริสุทธิ์ทิ้งไปได้ 3 ลูกคือพ้นอบาย พ้นโลกกาม พ้นโลกธรรมแต่ยังแบกโลกอัตตา หนามแหลมของอัตตาอันแสนแข็งแสนคมทิ่มแทงมือและตามตัวอยู่เสมอ..บุคคลสุดท้ายคือพระอรหันต์มีจุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีลไม่มีโลกใดๆ แบกเลย อ้าแขนเชิดหน้ามีอิสรภาพ สงบจากกิเลสทั้งปวง…เป็นงานศิลปะที่สะท้อนอาริยบุคคลได้ชัดเจนมาก เป็นผลงานของอาเปีย พลังจิต อาหม่อง พลังทำและทีมหรรษา ศิลปินชาวอโศก
พ่อครูเดินมาโต๊ะชุดที่ตั้งอยู่ช่วงกลางของนิทรรศการ พูดเย้านักเรียนว่าพวกเราได้นั่งโต๊ะเรียนมีราคา 3 ล้านบาท นักเรียนถามว่าทำไมราคาถึงแพงขนาดนี้แทบจะนั่งไม่ลง..พ่อครูบอกว่านี่คือโต๊ะเก้าอี้ antique ทำจากไม้เรือโบราณ ราคา 3 ล้านนี้ยังถือว่าราคาถูก เด็กนักเรียนได้แต่มองหน้ากันแล้ว ร้องอู้หู!!เก้าอี้ที่เขานั่งเรียน ราคากว่า 5 แสนบาทเลยทีเดียวรวมโต๊ะอีกก็ 3 ล้านบาท..
พ่อครูเดินมาถึงรูปหล่อหนุ่มน้อยริมมูนวันนี้มีการใช้ลวดดามที่บริเวณแขนอาจจะเกิดการชำรุดเสียหายในช่วงงานที่ผ่านมา บริเวณด้านหน้าสุดจะเห็นรูปหล่อปางนั่งสมาธิเหนือโลกของพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ อุปมาเหมือนคำสอนของพ่อครูที่สอนให้เราเป็นคนเหนือโลก หยุดโลก หยุดหมุนเวียนกับความเป็นโลกที่มัวเมาด้วยโลกอบาย โลกกาม โลกพยาบาท หยุดการหาสวรรค์นรกอย่างไม่มีที่สิ้นสุด..
วันนี้วันอาทิตย์บรรดาแม่ค้าตลาดประชารัฐ Green market ยังคงนำอาหารข้าวของเครื่องใช้มาจำหน่ายเหมือนเดิม แม่แวว นิมนต์พ่อครูมาชมสินค้าใหม่ภายในตลาดคือเห็ดออรินจิย่าง จำหน่ายไม้ละ 10 บาท แม่แววเล่าให้ฟังว่าเมื่อวานขายดีจนย่างไม่ทัน…
เดินมาหน้าอาคารบวรเจอชาวเครือแหกสิกรรมไร้สารพิษมากราบนมัสการ วันนี้เป็นวันที่ท่านสมณะฟ้าไทนัดประชุมชาวเครือแหพบปะพูดคุยเป็นประจำกันบ่อยๆ..อาแดนดินเข้ามากราบนมัสการและเรียนพ่อครูว่ามาซื้อไม้กวาดทางมะพร้าวซึ่งมีราคาถูกกว่าท้องตลาดและการมัดทางมะพร้าวลักษณะนี้ก็ดูมั่นคงแข็งแรงหาได้ยากเช่นกัน..
เดินมาหน้าอาคารบวรเจอชาวเครือแหกสิกรรมไร้สารพิษมากราบนมัสการ วันนี้เป็นวันที่ท่านสมณะฟ้าไทนัดประชุมชาวเครือแหพบปะพูดคุยเป็นประจำกันบ่อยๆ..อาแดนดินเข้ามากราบนมัสการและเรียนพ่อครูว่ามาซื้อไม้กวาดทางมะพร้าวซึ่งมีราคาถูกกว่าท้องตลาดและการมัดทางมะพร้าวลักษณะนี้ก็ดูมั่นคงแข็งแรงหาได้ยากเช่นกัน..
..ลงมาที่หน้าอาคาร บวร รถ royter เป็นนวัตกรรมยานพาหนะรถเกี่ยวข้าว นวดข้าวของคุณลอยที่ประดิษฐ์มาสำหรับใช้ในทุ่งนา ช่วยทุ่นแรงงานในฤดูเก็บเกี่ยวและนวดข้าว…พ่อครูเดินมาบนถนนตรงมูน แวะชมต้นโพธิ์ที่สูงชะลูดเลยต้นกล้วย มีรังนกอยู่ที่ยอดต้นโพธิ์ นึกถึงพวกเรา ลูกๆชาวอโศกยังคงได้อาศัยร่มโพธิ์หรือพ่อครูเป็นที่พึ่งที่อาศัยในการอบรมสั่งสอนให้ลดละกิเลส ก่อเกิดเป็นชุมชน บวรเช่นนี้
พ่อครูและคณะท่านปัจฉาเห็นแผ่นโต๊ะหินกลางลานสะโพ ที่ล้มลงจากฐานโต๊ะอาจเกิดจากการขึ้นไปเหยียบแล้วเทน้ำหนักทำให้แผ่นหินเอียงเท หล่นลงมาจากฐานโต๊ะ พ่อครูบอก เอ้า..ช่วยกัน แล้วท่านก็เดินเข้าไปยก แต่ปัจฉาขอร้องว่าไม่ต้อง แล้วท่านปัจฉาทั้ง 3 รูปและอาเจมส์จึงช่วยกันยกแผ่นหินขึ้นมา ท่านปัจฉา มองเห็นต้นไทรน้อยๆ ที่กำลังเติบโตอยู่ในช่องใต้ฐานโต๊ะหิน พ่อครูบอกว่าอีกสักหน่อยจะเป็นต้นไทรที่คลุมโต๊ะนี้ไว้เลยทีเดียว และที่สำคัญก็คงต้องไม่ถอนหญ้า วัชพืช หรือต้นไม้บริเวณนี้อย่างเด็ดขาด..
ที่หน้าน้ำตกผาแหงนมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวเล่นน้ำตกจำนวนหลายคนไม่แน่ใจว่าเป็นชาวประเทศอะไร หน้าเหมือนคนไทยแต่ไม่ใช่คนไทยฟังภาษาที่ใช้สนทนากันแล้วอาจจะเป็นเมียนม่าหรือเวียดนามก็ได้ พ่อครูกลับขึ้นมาชั้น 4เฮือนศูนย์สูญ เป็นปกติที่จะเห็นพ่อครูใช้เวลากับการเขียนหนังสือเผยแพร่ธรรมะที่เป็นโลกุตระให้มากที่สุด พร้อมกับติดตามข่าวสารบ้านเมืองจากโทรทัศน์ทั้ง 3 ช่องโดยเฉพาะข่าวของเด็กน้อยทีมหมูป่า Academy ที่ยังหาไม่พบ ยังติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซึ่งพ่อครูก็ยังให้ความสนใจติดตามอยู่เสมอเช่นเดียวกันกับลูกๆหลายคนที่อย่างตกอยู่ในถ้ำโลกีย์..
ติดตามอยู่เสมอเช่นกัน..