610702_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ตอบปัญหาเมตตาอันไม่มีประมาณ
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://drive.google.com/open?id=1SGjT_IZSgXQ9lDjM9SK1gYgQzMXpqjZQho3epZtCMHo
ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=1VM2D6trkT1bh2dCn7AId7ynYcsk1cDJS
สมณะเดินดินว่า…วันนี้วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก ตอนนี้เขามีการทำโพล ว่าความสุขของประชาชนมีมากขึ้นหรือน้อยลงในช่วงนี้ ตอนนี้ถ้าดูกระแสของข่าวก็จะมีเรื่องของฟุตบอลโลกและการเมืองที่จะมีการเลือกตั้ง โพลบอกว่าประเทศไทยมีความสุขเพิ่มขึ้น น่าจะเป็นเพราะว่า จะได้มีการเลือกตั้งหรือจะมีการตัดสินฟุตบอลโลก พวกเธอคิดว่าเพราะอะไรกัน (ถามเด็กๆ) โพลบอกว่า คนไทยมีความสุขเพราะเห็นว่าคนไทยช่วยเหลือ เด็กนักฟุตบอลทีมหมูป่าอะคาเดมี่ติดในถ้ำ ตอนนี้ก็ใกล้แล้ว แต่ก็มีความยากลำบาก เพราะว่าน้ำเป็นอุปสรรค
ในพระไตรปิฎกมีเรื่องที่พูดถึงถ้ำ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ใน ล.21 ข้อ [30] พระผู้มีพระภาคตรัสว่านรชนเป็นผู้ข้องอยู่ในถ้ำ เป็นผู้อันกิเลสมากปิดบังไว้แล้ว นรชนเมื่อตั้งอยู่ ก็หยั่งลงในที่หลง นรชนเช่นนั้น ย่อมอยู่ไกลจากวิเวก ก็เพราะกามทั้งหลายในโลก ไม่เป็นของอันนรชนละได้โดยง่าย.
[31] คำว่า นรชนเป็นผู้ข้องอยู่ในถ้ำ เป็นผู้อันกิเลสมากปิดบังไว้แล้วมีความว่าทรงตรัสคำว่า เป็นผู้ข้องไว้ก่อน. ก็แต่ว่าถ้ำควรกล่าวก่อน กายเรียกว่า ถ้ำ. คำว่า กายก็ดี ถ้ำก็ดี ร่างกายก็ดี ร่างกายของตนก็ดี เรือก็ดี รถก็ดี ธงก็ดี จอมปลวกก็ดี รังก็ดี เมืองก็ดีกระท่อมก็ดี ฝีก็ดี หม้อก็ดี เหล่านี้เป็นชื่อของกาย.
คำว่า เป็นผู้ข้องอยู่ในถ้ำ คือ ข้อง เกี่ยวข้อง ข้องทั่วไป ติดอยู่ พันอยู่ เกี่ยวพัน อยู่ในถ้ำ เหมือนสิ่งของที่ข้อง เกี่ยวข้อง ข้องทั่วไป ติดอยู่ พันอยู่ เกี่ยวพันอยู่ที่ตะปู ซึ่ง ตอกติดไว้ที่ฝา หรือที่ไม้ข้อง ฉะนั้น.
สมจริงดังที่พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ความพอใจ ความกำหนัด ความเพลิน ความปรารถนาในรูป ความเข้าไปถือ ความเข้าไปยึดในรูป อันเป็นความตั้งมั่น ความถือมั่น และความนอนตามแห่งจิต บุคคลมาเกี่ยวข้องอยู่ในความพอใจเป็นต้นนั้น เพราะเพราะนั้น. จึงเรียกว่า สัตว์. คำว่า สัตว์เป็นชื่อของผู้เกี่ยวข้อง เพราะฉะนั้น. จึงชื่อว่า เป็นผู้ข้องอยู่ในถ้ำ. คำว่าผู้อันกิเลสมากปิดบังไว้แล้ว คือ ผู้อันกิเลสมากปิดบังไว้แล้ว คือ ผู้อันกิเลสเป็นอันมาก ปิดบังไว้แล้ว คือ อันความกำหนัด ความขัดเคือง ความหลง ความโกรธ ความผูกโกรธ ความลบลู่ความตีเสมอ ความริษยา ความตระหนี่ ความลวง ความโอ้อวด ความดื้อ ความแข่งดี ความถือตัว ความดูหมิ่น ความเมา ความประมาท ปิดบังไว้แล้ว อันกิเลสทั้งปวง อันทุจริตทั้งปวงอันความกระวนกระวายทั้งปวง อันความเร่าร้อนทั้งปวง อันความเดือดร้อนทั้งปวง อันอภิสังขารคืออกุศลธรรมทั้งปวง บังไว้ คลุมไว้ หุ้มห่อไว้ ปิดไว้ ปิดบังไว้ ปกปิดไว้ ปกคลุมไว้ครอบงำไว้แล้ว เพราะฉะนั้นจึงชื่อว่า เป็นผู้ข้องอยู่ในถ้ำ เป็นผู้อันกิเลสมากปิดบังไว้แล้ว.
ถ้ำที่น่ากลัวของเรา คือติดในถ้ำคือกิเลสเป็นอันมากปิดบังไว้แล้ว มีอวิชชาปิดบังทำให้ตาบอดมองไม่เห็นกิเลสร้ายของเรา การจะพ้นได้เราต้องฟังธรรมจากสัตบุรุษ ปฏิบัติธรรมจนทนอวิชชาจะไม่ไปข้องในถ้ำได้
พ่อครูว่า…Sms
_4155 คนทางบ้านก็ร้องไห้ค่ะ ร้องเพราะ พ่อครูขัดกิเลสแรงไปหน่อยค่ะ
พ่อครูว่า…ขอโทษๆ ที่ขัดแรงไปหน่อย แต่ขัดแค่นี้ไม่แรงหรอก มีร้องไห้หลายนัย ขอโทษขัดแรงไปหน่อย บางคนชอบให้ขัดแรง บอกเอาให้ถึงเลย เพราะยุคนี้เป็นยุคที่ต้องจัดต้องแรง hard rock
สื่อธรรมะพ่อครู( ) ตอน
_จาก..สุ
ลูกมีคำถามที่จะฝากถามหลวงปู่นะคะ
อยู่ๆสงสัยขึ้นมา แล้วมันจริงไหมคะทุกสิ่งที่มีเรื่องอยู่ทุกวันนี้ก็เพราะเงิน เงินคือจุดเริ่มต้นของบาป ของความโลภ ถ้าหากว่าโลกนี้ไม่มีเงินมันจะเป็นเรื่องดีไหมคะ ถ้าหากทุกคนบนโลกคิดว่ามันเป็นเพียงกระดาษที่พิมพ์ขึ้นมา ประมาณว่าเหมือนแบงค์กาโม่เงินของเล่นน่ะค่ะ มันคงเป็นได้ยากใช่ไหมคะ ถ้าใช้ชีวิตแบบไร้เงินทอง ของก็ไม่ต้องขาย เราแบ่งกัน หมอก็ช่วยกันรักษาไม่แบ่งแยกหน้าที่ ใครช่วยอะไรได้ก็ช่วยกัน แปลว่าถ้าเป็นแบบนี้ได้ อาชีพก็ไร้ความหมาย ตำรวจก็ไม่ต้องมีเพราะไม่มีโจรให้จับ เพราะไม่ต้องขโมย อยู่ด้วยกันบนพื้นฐานของคำว่าเมตตาแบ่งปันกัน เหมือนกับซื้อใจกันประมาณนั้นน่ะค่ะ อยู่กันแบบพี่น้อง ถ้าเป็นแบบนี้ปัญหาก็เราไม่ค่อยเกิด เพราะมีเงินนคนจึงเห็นแก่ตัวแย่งชิงต่างๆนานา ทำให้บางคนที่ไม่มี เกิดอยากมีจนต้องขโมย ก็จากไปขโมยเกิดไปขโมยบ้านที่มีผู้หญิงก็เกิดราคะเกิดคดีข่มขืนอีก ข่มขืนไม่พอกลัวโดนจับได้ก็ฆ่าเลย.
พ่อครูว่า…เป็นเรื่องดีมากเลยถ้าหากโลกนี้ไม่มีเงิน แต่คงเป็นไปไม่ได้ กิเลสมันหนามาก คนที่ยังอยู่ในวงสังคม สังคมใดที่ไม่ต้องยุ่งกับเรื่องเงิน เงินไม่ได้เป็นปัญหาเลย มีก็ได้ไม่มีก็ได้ มีก็ใช้เหมือนกับใช้เสื้อผ้าช้อนชาม ใช้วัตถุ เป็นสิ่งที่ใช้ตามหน้าที่ของเงิน ไม่ได้เห็นว่ามันเป็นอำนาจพิเศษยิ่งใหญ่อะไร อย่างชาวอโศกเรา พูดได้เลย อาตมาพูดได้ว่า ชาวอโศกที่อยู่ในชุมชนสาธารณโภคีแล้ว จิตใจของพวกเราเข้าใจและก็เห็นเงินเป็นเรื่องของเครื่องใช้ เหมือนภาชนะ อุปกรณ์ที่ใช้ประโยชน์ตามหน้าที่ของมันเท่านั้นเอง
พูดถูกแต่ทำได้ยากแม้จะทำได้ยากแต่ชาวอโศกก็ทำได้
_อีกคำถามหนึ่ง
ลูกรู้สึกว่า แม้ตัวจะใกล้พ่อแม่ก็จริง แต่ลูกไม่ได้รู้สึกเลยว่าอยู่ใกล้เลย ค่อนข้างรู้สึกห่างไกลแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน รู้สึกโหวงเหวง เหมือนไม่มีใคร เหมือนมีแต่เงาเท่านั้น
มันเป็นเพราะอะไรคะ
พ่อครูว่า…ถ้าความรู้สึกนี้เกิดก็เท่ากับว่าพ่อแม่กับเรานี้ มีรสนิยมต่างกัน มีค่านิยมต่างกัน มีความเห็นความเข้าใจชีวิตและหรืออุดมคติต่างกัน อยู่ใกล้กันก็เลยรู้สึกเหมือนห่างกัน ไม่เกี่ยวข้องกัน ถ้าเป็นเช่นนั้น ที่คุณพูดมานี้ อาตมาก็พูดไปตามที่ความจริงจะเป็น ถ้าเป็นอย่างนี้ก็น่าสงสาร พ่อแม่ก็ไม่รู้เรื่อง คุณก็ได้ ก็คนมีวิบากอย่างนั้น ก็ต้องสงสารพ่อแม่ ก็ต้องถ้อยทีถ้อยอาศัยสัมพันธ์กันไป มีน้ำใจมากขึ้น ช่วยเหลือ กิจอันเป็นหน้าที่ของลูก ที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลพ่อแม่ อย่าทำเป็นหมางเมินห่างเหิน ไม่รู้หน้าที่ พ่อแม่เรามีจริง เกิดมาก็ต้องมีพ่อแม่ผู้เดียวเท่านั้น เราก็ต้องช่วยเหลือเกื้อกูล เพราะถ้าไม่มีพ่อแม่ เราก็ไม่ได้เกิดมา โดยเฉพาะเกิดมาพบศาสนาพบธรรมะพระพุทธเจ้า ก็ได้กุศลมากมาย พ่อแม่ยังมีชีวิตยังมีโอกาสได้พบจริงๆยังเป็นกุศลนักหนา ได้เกิดในยุคนี้ ไม่ได้ไปเกิดในยุคที่ไม่มีสัตบุรุษไม่มีสัจธรรมพระพุทธเจ้า ซวยตาย หรือแต่เกิดที่ไหนได้พ่อแม่ใครก็ไม่รู้ ไม่มีศาสนาพุทธไม่มีธรรมะอันนี้เลย เพราะฉะนั้นพ่อแม่นี้เป็นคนไทยอยู่ในยุคนี้ อยู่ในสิ่งแวดล้อมนี้และก็มีศรัทธาตามที่คุณได้ ก็ดีแล้ว สรุปก็คือ พยายาม รู้สึกอย่างนี้ไม่ค่อยดีวังเวงห่างไกล มันเป็นจริงเพราะรสนิยม เป็นตัวสัจธรรม แต่เราต้องสำนึก เราต้องรู้ว่าพ่อแม่เป็นผู้มีบุญคุณ อันนี้ล้มล้างไม่ได้ เราก็ต้องช่วยเหลือ ทำหน้าที่ของลูก ที่ควรช่วยเหลือพ่อแม่ต้องทำ อาตมาใช้คำว่าต้องทำ พยายามให้เกิดสำนึกอย่าปล่อยปละละเลย
อาตมาเอาอัมพัฏฐสูตร มาอ่าน และอธิบายไปตามแบบของอาตมา เด็กๆก็ฟังได้ ผู้ใหญ่ก็ฟังได้ วันนี้เป็นวันจันทร์มีเด็กนักเรียนนั่งฟังด้วย
_คำถามจากเด็กๆ อารมณ์โกรธต้องหยุดด้วยอะไรคะ
พ่อครูว่า…ถามมานี้รู้ดีหยุดด้วยอะไร หยุดได้พิจารณาให้เกิดปัญญา 1. อารมณ์โกรธมันเกิดขึ้นมาจิตใจเราก็รุ่มร้อน จะรุนแรงทำอะไรชั่วร้ายทำอะไรไม่ดี ก็เห็นความไม่ดี ของอารมณ์โกรธ ต้องเห็นเลย ก็พิจารณาด้วยปัญญาว่ามันชั่วนะ อารมณ์โกรธมันไม่ดีมันเกิดมาแล้วจะทำให้เราทำชั่วทำไม่ดีทำอะไรต่างๆนานา เร่าร้อน สร้างเวรกรรมพิษภัยไม่ดีเลย ความโกรธพิจารณาง่ายกว่าความรัก ความรักยังมีบางอย่างเป็นคุณค่าประโยชน์ ความรัก 10 มิติ แต่ความโกรธไม่ว่าจะเป็นหยาบกลางละเอียดธุลีละอองอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ที่จะเอาไว้ อารมณ์โกรธเอาออกจากจิตได้ง่าย มันชั่วถ่ายเดียวเลย ไม่เกิดประโยชน์อะไรเลยความโกรธนี่
ถ้าความรักมันมีบ้าง ถ้ารักกันในทางเห็นแก่ตัว รักในทางกาม รักในทางไม่เผื่อแผ่ ไม่เป็นมิติที่สูงเพื่อมนุษยชาติ เพื่อเกื้อกูลเป็นความรักที่ประเสริฐ ก็ค่อยๆศึกษาความรัก อันนี้ถามจากความโกรธก็บอกแต่ความโกรธก่อน
_หลวงปู่คิดว่าทีมหมูป่าทั้ง 13 ชีวิต จะรอดไหมคะ เอาตามหลักความคิดของหลวงปู่เลยค่ะ แล้วมันคือวิบากอะไรคะที่ต้องไปติดถ้ำ
พ่อครูว่า…ทีมหมูป่า เป็นนักเตะบอล ที่โลกเขากำลังเห็นว่าเป็นคุณค่า อาตมากำลังแอนตี้อย่าไปเตะอย่าไปเป็นอาชีพ ถ้าไปเตะบอลออกกำลังกายสมัครสมานสามัคคี เป็นเรื่องชั่วครั้งชั่วคราว เป็นเรื่องเล่นๆ ไม่ใช่เรื่องจริงไม่ใช่ไปเอาจริงเอาจังไปเสียเวลา โถมใช้มากมาย หากเข้าใจอย่างนั้นดี แต่ถ้าเข้าใจว่าเป็นงานหลักเป็นงานดีอันประเสริฐ อันนั้นซวย
การนี้อาตมาเห็นแก่ชีวิตมันเป็นเรื่องจริง แต่ขออธิบายว่างานเตะบอลไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่อันนี้เอาไปก่อนเห็นแก่ชีวิตก่อน
ถามว่าจะรอดไหม ตอบไม่ได้ หลวงปู่ตอบไม่ได้ เอาตามหลักความคิดของหลวงปู่เลยก็ตอบไม่ได้ เพราะเราไม่รู้รายละเอียดข้อมูลต่างๆ เขาอาจจะมีเสบียง ตุนเข้าไปก่อนที่จะเข้าไป ดูในถ้ำมีอะไรอื่นอีก มีอะไรรับประทาน ถ้าไม่มีอะไรรับประทานวันนี้ก็วันที่ 9 แล้ว ถ้าเขาไปมีเสบียงด้วย เราก็ไม่รู้รายละเอียด เพราะฉะนั้นตอบไม่ได้เลยว่า จะรอดหรือไม่รอดหลวงปู่ตอบไม่ได้
แต่จะรอดหรือไม่รอดก็ช่วยกันสุด ที่ยังไม่รู้ว่าอยู่ยังไง
ถามมาต่อว่าคือวิบากอะไรคะที่ต้องไปติดถ้ำ …ตอบยากแฮะ กรรมวิบากเป็นอจินไตยหลวงปู่ตอบไม่ได้ว่าเป็นวิบากอะไร แต่ตอบได้ตามหลักวิชาได้ ตามเหตุตามผลก็คือ วิบากของเขาที่เขาไปหลงในเรื่องที่ไม่สมควร ไปหลงละเมอเพ้อพกกับเรื่องไม่เข้าท่าเป็นวิบากซับซ้อน คนที่ไปหลงในอบายมุข แล้วเอาอบายมุขมาเป็นอาชีพ เพื่อที่จะให้คนหลงไปตาม มันบาป มันเป็นวิบาก เป็นอกุศลนี่ซ้อน พูดตามหลักวิชาไม่ได้ใส่ความใส่ไคล้
มันไม่น่าพูดหรอกเพราะว่าเหตุการณ์จิตใจมันเกี่ยวกับชีวิตคนอันนั้นมันก็ใช่ หลวงปู่ไม่ได้อยากพูด แต่พูดตามหลักวิชาเท่านั้น ขอพูดแค่นี้แหละ พูดมากก็ไม่ดีเพราะอยู่ในเหตุการณ์ปัจจุบันมันไม่ควรจะต้องไปพูดความรู้อันนี้ก่อน ก็ควรจะอยากให้มีน้ำใจ เหตุผลในการช่วยเหลือกันที่จะต้องลงทุนลงแรงเพื่อจะช่วยชีวิตกัน อย่าให้มีอะไรไปต้านมันไม่ดี หลวงปู่ก็ขอผ่าน พูดผ่านนิดหน่อยเท่านั้นเองว่ามันเป็นวิบาก มันเป็นความรู้ความจริง วิบากที่ไปงมงาย กับงาน การกระทำที่เป็นอบายมุข
เล่น เป็นอาชีพนั้นเป็นอบายมุข ยิ่งเด็กๆอย่าไปใส่ในความคิดว่าเป็นอาชีพต้องเอาจริงเอาจัง ทุกวันนี้เขาหลงกัน หลวงปู่ก็เลยต้องต้านด้วยวิชาการ ความเป็นสัจธรรม เท่านั้นเอง ผ่านเอาแค่นี้ เพราะมันไม่อยู่ในวาระที่มีควรพูด เอาแต่วิชาการที่ถูกต้อง อย่างไรก็ไม่สมควรกับกาละ ก็ขอพูดบ้างนิดหน่อยเท่านั้นเอง
_ทำไมต้องเอาเรือมาไว้ที่บ้านราชด้วย และเอามาไว้ทำไมครับ
พ่อครูว่า…ทำไม หลวงปู่จำนนเหมือนกัน เป็นเรื่องอจินไตยทำไมต้องเอาเรือมา ต้องเป็นภาระ หลวงปู่นี่ ต้องเป็นภาระใช้เงินใช้ทอง เพื่อจะซ่อมแซมบูรณะรักษา ทำประโยชน์ หมดไปไม่รู้กี่ล้าน รวมแล้วจะเป็นร้อยล้านนะ ถึง ตั้งแต่ทำมา มันเป็นวิบากอะไรไม่รู้ แต่ก็เห็นว่ามันต้องทำ เพราะไม่มีใครทำแล้วในประเทศไทย เรือไม้ใหญ่อย่างนี้ ก็เลยต้องทำ หลายอย่างได้ประโยชน์อยู่
เรามาอยู่ที่นี่มีน้ำท่วมเป็นที่ลุ่มก็เลยต้องหาเรือไว้ เราทั้งมีการป้องกันและมีการเตรียมการ สักวาระหนึ่งพวกเราคงหมดเรี่ยวแรงที่จะบูรณะสืบสานต่อ
_ถ้าเราเบื่อหน่ายใครสุดๆเราควรทำใจอย่างไรครับ
พ่อครูว่า…แม้แต่ศัตรูที่เลวร้ายน่าเบื่อหน่ายก็ตาม ไม่ดี แต่เบื่อหน่ายกิเลส เบื่อหน่ายคลายกำหนัดนี้ดี แต่เบื่อหน่ายอย่างโทสะ ผลักออก อยากฆ่าแกงชิงชังไม่ดี เทศน์ไปแล้วเมื่อกี้นี้ ความโกรธอย่าให้มีแม้แต่น้อย เราก็ต้องอยู่กับคนถ้ามีประโยชน์ก็เชื่อมโยงกันไป ถ้าไม่มีประโยชน์ต่อกัน ต่างคนต่างทำงานไปไม่ต้องแหนงหน่ายกัน เราก็ไม่ต้องไปรักไปชังอยู่กันตามประสา พยายามพิจารณากันอย่างนี้และทำไม่ได้อย่างที่หลวงปู่ว่า สัตว์ทั้งหลายก็เกิดมาเป็นเพื่อนทุกข์
_ทำไมทีมฟุตบอลหมูป่า 13 คนติดอยู่ในถ้ำครับ และหมูป่า 13 คนจะรอดมั้ยครับขอให้รอดนะครับ
พ่อครูว่า…พูดไปแล้วว่าตอบไม่ได้ วิบากก็ไม่ควรพูดตอนนี้ เพราะไปชอบอาชีพเตะบอล เป็นเรื่องอบายมุขเป็นเรื่องที่ไม่ควรจะไปทำ เป็นเรื่องไม่ควร ให้เข้าใจและควรจะเลิก เล่นเฉพาะเล่นๆ เป็นครั้งคราวออกกำลังกายสนุกสนานสัมผัสสัมพันธ์กับสังคมเท่านั้น เป็น Amateur เป็นเรื่องเล่นๆ สมัครใจเล่นพอสมควร ออกกำลังกายสมัครสมานสามัคคีพอแล้วไม่ใช่เรื่องใหญ่ จะไปเสียเวลา ทุนรอน เอาไปค้าขายเป็นอาชีพผิดหมดเลยเป็นบาป เพราะฉะนั้นจำไว้ที่พูดนี้เป็นวิชาการ ไม่อยากจะพูดเพราะไม่อยู่ในกาลควรพูด
_สิ่งที่ธรรมดาผูกพันมากทำให้เราทุกข์เสมอใช่ไหมคะ
พ่อครูว่า…ถ้าสัมพันธ์นี้ไม่ถูก ถ้าหากผูกพันนี้จะเป็นทุกข์ หากจะสัมพันธ์กันไปช่วยเหลือกันไปไม่ติดยึด ผูกพันนั้นมันติดยึด คนเข้าใจความเป็นจริง อาการจิตของเราไปผูกพันมันก็จะทุกข์เราก็ต้องพยายามให้ลดลง
_จิตใจมันไม่ใช่หัวใจ แต่เป็นการที่สมองสั่งให้มีจิตเท่านั้นใช่ไหมคะ
พ่อครูว่า…หัวใจ หมายถึงอวัยวะที่เป็นรูปธรรมสูบฉีดโลหิต จิตใจนั้นเป็นนามธรรม เป็นวิญญาณไม่ใช้หัวใจ ใช้สมองเป็นอุปกรณ์ จิตวิญญาณใช้สมองเป็นอุปกรณ์ ส่วนหัวใจสูบฉีดโลหิตเป็นหลักเป็นสรีระที่ต่างกันหน้าที่ต่างกัน หัวใจนั้นเป็นที่อาศัยใช้ของเลือด ส่วนสมองเป็นที่อาศัยใช้ของจิต มันคนละอย่าง
สมองไม่มีหน้าที่สั่งอวัยวะทางวัตถุรูปธรรมแต่จิตสั่งสมองแล้วมีผลทางรูปธรรมทางกายด้วย กายคือรูปธรรมและนามธรรมขาดกันไม่ได้
_หลวงปู่ตอนบวชฉันข้าวทีละอย่างใช่ไหมคะ
พ่อครูว่า…หลวงปู่ปฏิบัติฝึกมาฉันอาหารทีละอย่างก็ทำ รวมกันเลยปนกันหมดเลยทุกอย่างหวานคาว ของเค็มขมหวาน ก็ปนกันหมด ฝึกฉันทีละอย่างก็ฝึก เพื่อที่จะเกิดปัญญา รู้ว่าเรื่องรสก็เป็นไปตามธรรมชาติ ของหวานเค็มเปรี้ยวขมก็เป็นไปตามธรรมชาติ ตามสิ่งที่เรารับประทานแต่ละอย่าง เราก็ต้องรู้ว่า แต่ละอย่างมันก็เป็นอย่างนั้นของมันเอง เป็นหน้าที่ของมัน ส่วนที่มันจะเป็นกิเลสมันต้องเรียนรู้ ฉันหรือกินอะไร มีรูปรส กลิ่นสัมผัสอะไร กิเลสมันอยู่ในอาหารทั้ง 5 และ 6 ทวาร กาม และอัตตาก็อยู่ในอาหารทั้งนั้น พิจารณาเรียนรู้เรื่องอาหารให้ดีบรรลุอรหันต์ได้
_อินทรีย์ 6 คืออะไรคะ
พ่อครูว่า…อินทรีย์ 6 คือตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เมื่อสัมผัสกับอะไรก็จะเกิดจิตวิญญาณเกิดเวทนา เสร็จแล้วเราก็เรียนรู้กิเลสในจิต อาศัยตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจนี่แหละให้ศึกษาสมบูรณ์แบบที่สุด ขาดไม่ได้ ทุกวันนี้ศาสนาพุทธเพี้ยน ปิดทวาร 5 มีแต่ทวารใจแต่อย่างเดียว แล้วก็นั่งหลับตาพิจารณาอย่างเดียว จึงไม่มีทางบรรลุอรหันต์เด็ดขาด ผู้ปฏิบัติผิดนั่งหลับตาปฏิบัติผิดไม่มีทางจะได้ไปนิพพานเด็ดขาด พูดแล้วพูดอีก
พิจารณากิเลสที่มันเกิดกับภายนอกจนหมดกิเลสภายนอก ก็เหลือแต่กิเลสที่เกิดภายในแต่ไม่ต้องไปนั่งหลับตาหนีจากภายนอก อยู่กับภายนอกนั่นแหละแต่มีกิเลสที่ภายในให้จัดการ
_สติปัฏฐาน 4 คืออะไร
พ่อครูว่า…สติปัฏฐาน 4 คือตัวตนของโพธิปักขิยธรรม พิจารณากายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต ธรรมในธรรม เป็นธรรมะ 2 ต้องรู้ธรรมะ 2 ของแต่ละอย่าง ของกายเวทนาจิต เปรียบเทียบกันแล้วทำให้เป็นหนึ่ง ไม่ว่ากายก็เป็น เวทนาก็เป็นหนึ่ง จิตก็เป็นหนึ่งธรรมะก็เป็นหนึ่ง ในสิ่งที่แท้ มันจะมีสิ่งที่ เก๊ เทียมอยู่ เวทนาเทียม จิตเทียม ธรรมะเทียม ก็เอาสิ่งที่เทียมออกให้หมดเหลือแต่สิ่งที่แท้
_ขันธ์ทั้ง 5 คืออะไรคะ
พ่อครูว่า…ขันธ์ 5 คือรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
_เราจะต้องทำอย่างไรให้เข้าใจโลกุตระ
พ่อครูว่า…โลกุตระคือธรรมะที่ทวนกระแส ตรงกันข้ามกับโลกียะ คือธรรมะของคนต่างดาว โลกียะก็ดาวดวงหนึ่ง ดีก็ดีอย่างโลกียะ แต่โลกุตระก็ดีอย่างหนึ่งเจริญอย่างหนึ่ง ดีไม่ดีสวนกันด้วย อย่างโลกุตระ ถ้าเรามาจนนี้ดีถ้าเราไปรวยนี้ไม่ดี
_ถ้าเราพูดอะไรแล้วคนอื่นไม่เชื่อแล้วถ้าเราแสดงความจริง จนเป็นจริงทางการกระทำ แล้วถ้าเขาไม่เชื่ออีก เราควรทำอย่างไรคะ ลูกก็หมดหนทางแล้วจริงๆ
พ่อครูว่า..1. เขาไม่มีปัญญารู้ ขอให้เราพิจารณาความจริงที่เราทำ เป็นความจริงที่ถูกต้องที่ดีที่จริงนะ ถ้าเป็นความจริงที่ดีที่ถูกต้อง คนเขาไม่สนใจก็ช่างเขาเถอะเขาไม่เข้าใจ เขาไม่เห็นคุณค่ากับสิ่งที่ดีจริงอันนี้ หลวงปู่แสดงความจริงมาตลอดเวลา แต่คนไม่สนใจก็ไม่เห็นจะเป็นปัญหาอะไร คนสนใจก็มี คนที่มีดวงตาปัญญาเห็นสิ่งที่ดีเป็นสิ่งประเสริฐเขาจะสนใจ คนไม่สนใจก็ไม่เป็นไร มันมีคนสนใจอยู่โลกไม่สิ้นไร้ไม้ตอก ยังสามารถที่จะรับรู้รับความจริงกันได้อยู่ เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปกังวล ทำให้เต็มที่
_หลวงปู่คิดว่าทีมหมูป่าจะรอดมั้ยคะ ถ้าเขาขุดไปถึงพัทยาบีช ไม่เจอเขาจะรอดกันไหมคะ
พ่อครูว่า..ตอบไม่ได้ก็ให้ติดตามข่าวไปก็แล้วกัน
_ถ้าหนูหัวเราะหรือตลกในท่าทางของสมณะหรือสิกขมาตุ หนูจะบาปไหมคะ
พ่อครูว่า…ไม่บาปหรอก บางทีก็ตลกกันได้ แต่ไม่ตลกขนาดไปแย่งอาชีพชาวตลกเขาหลอกตลกเล็กๆง่ายๆ เป็น Amateur เป็นเรื่องสมัครเล่น
_เมื่อเราผูกพันกับสิ่งบางสิ่งมาก แล้วจะทำอย่างไรถึงจะตัดขาดมันจากมันได้ค่ะ ทุกข์มากที่ต้องผูกพันกับสิ่งนี้อยากลบอยากลืมค่ะ
พ่อครูว่า…ดี ถ้าเราไปผูกพันกับอะไรก็แล้วแต่ ผูกพันนี้มันหนัก มันรัดรึง ห่วงหาอาวรณ์มันไม่ดีเป็นอาการของจิตเกินไป แค่สัมพันธ์ เกี่ยวข้องกันทำประโยชน์แก่กันและกัน ถ้าเลยเถิดไปมาก สัมพันธ์แค่หน้าที่มิตรสหาย ปู่ย่าตายายพี่น้องเพื่อนฝูงปรารถนาดีปรารถนาดีต่อกันและกันช่วยเกิดแก่เจ็บตายกันไป จนกว่าจะพรากจากกัน เป็นมนุษย์ก็ช่วยกันประมาณนั้น นอกจากนั้นจะไปเป็นเชิงกามก็จะทุกข์หนักเข้าไปอีก จะเป็นเชิงผูกพันจะต้องเป็นของฉันของฉันของฉันใครมาแต่ไม่ได้ของข้าใครอย่าแตะ หนักไป แยก ต้องพยายามให้ลดลง ดูอาการของจิตตัวผูกพันมากๆพยายามเข้าใจความผูกพันสัมพันธ์ให้ได้ และลดอาการผูกพัน ดีแล้วล่ะที่รู้
_ความทุกข์มากๆแล้วจะสุขมากๆใช่ไหมคะ ต้องรออีกนานไหมคะที่จะต้องประสบพบเจอสิ่งนั้น
พ่อครูว่า…ใช่ ความทุกข์กับความสุขเป็นของคู่กัน ความทุกข์นี้อยากได้สมใจอยากเป็นสมใจอยากทำลายสมใจเป็นทางร้าย ถ้าได้สมใจและเป็นสุข มันเป็นของคู่กันทุกข์กับสุขเป็นของคู่กัน ศาสนาพุทธจึงให้หมดสุขหมดทุกข์ไม่สุขไม่ทุกข์ กลางๆ ต้องอ่านอาการจิต สุขทุกข์ เป็นอาการความหยาบแรงภายนอก โสมนัสโทมนัสเป็นความละเอียดขึ้น อ่านอาการพวกนี้ ถ้าใครอ่านอาการของความทุกข์ออกเป็นอริยสัจ ทุกข์มันจะมีสุขคู่กันเสมอ ถ้าเรียนทุกข์มันจะไม่อยากได้อยากมีหรอก ถ้าไปเรียนความสุขมันจะไม่ออก คนโง่ พระพุทธเจ้าถึงสอนว่า ให้เรียนรู้ทุกข์ ให้ล้างเหตุแห่งทุกข์ และทุกข์ก็จะไม่มีสุขก็จะไม่มีด้วย ก็ดีนะ มาศึกษาอย่างนี้จะได้เรียนรู้รายละเอียดพวกนี้
_ถ้าเราขังสัตว์ไว้เพื่อความบันเทิง เช่นเลี้ยงปลาสวยงาม เลี้ยงกระต่ายเป็นต้น จะเป็นอย่างไร
พ่อครูว่า..ถ้าคนเราเอาไปขังเพื่อความบันเทิงอย่างนั้นเราจะชอบไหม ศาสนาพุทธจึงห้ามเลี้ยงสัตว์อย่าเอาสัตว์มาเลี้ยงมันเป็นวิบากของเขา ปล่อยให้เขาหากินหาอยู่ของมันไป ช่วยมันได้ก็ช่วยบ้าง ไม่จำเป็นต้องเอาเขามาเลี้ยงให้เป็นหน้าที่เป็นภาระไม่เอามันเป็นวิบากแก่กันและกัน ศาสนาพุทธนี้อย่าว่าจะไปทำร้ายกันเลย แม้แต่ไปช่วยเหลือกัน ก็อย่าไปช่วยเกินการ ช่วยเหลือพอสมควรบางครั้งบางคราว มันรับทุกข์หนักก็ช่วยมันไป แต่ถ้าเผื่อว่ามันทุกข์เพราะวิบากของมัน เช่น งูมันกำลังกินเขียด คนสงสารเขียดก็ไปดึงเขียดออกจากปากงู แล้วกัน ก็อาหารของมัน จะไปให้ งูมันกินมังสวิรัติได้อย่างไร มันก็ต้องกินสัตว์ อย่าไปวุ่นวายกับชีวิตของอันอื่นนัก โดยเฉพาะสัตว์ต่างๆมันเป็นวิบากของเขา เป็นเรื่องลึกซึ้งละเอียด เราก็จะช่วยประมาณหนึ่ง ถ้าสัตว์มันจะกินกันก็อย่าไปยุ่งกับมันมาก ปล่อยเขาไปตามวิบากของเขา นอกจากว่าเห็นว่า มันน่าจะช่วยเหลือบ้าง บางครั้งบางคราวมันมีเหตุการณ์หลายอย่างน่าสงสาร แต่จริงๆแล้ว สัตว์เขาไม่รู้เรื่องหรอกเขาจะอยู่กันตามวิบาก คนนี่แหละ เป็นคน พยายามอย่าให้ไปทำร้ายสัตว์ใดใด จงหวัง ปรารถนา ประโยชน์ แก่สัตว์ทั้งปวงอยู่ อะไรจะเป็นประโยชน์ก็ต้องศึกษาที่จะช่วยกันได้ เพราะฉะนั้นการไปเกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องวิบากลึกซึ้งมากเป็นเรื่องอจินไตย เรื่องกรรมวิบากเป็นอจินไตย
สรุปแล้วจะเอาสัตว์มาเลี้ยงศาสนาพุทธไม่ส่งเสริมให้เลี้ยงสัตว์เลย อย่า จะทำให้ถูกขังลืมหรือติดเขาติดถ้ำได้หรือไม่ ใช่ ผูกพันเกี่ยวเนื่อง ตอนนี้ไม่อยู่ในกาละที่จะไปซ้ำเติมต้องช่วยให้ออกมากันก่อนมันเป็นวิบากอย่างนั้นด้วย เป็นวิบากถูกขัง อย่าไปทำการขังสัตว์ ก็จะมีวิบากไปตกในถ้ำทุกครั้งตัวเอง
สรุปว่าอย่าไปเกี่ยวกับสัตว์อย่าไปเอาสัตว์มาขังมาเลี้ยง
_คนเกิดมาเป็นเพื่อนร่วมทุกข์กัน ทำไมไม่บอกว่า คนเกิดมาเป็นเพื่อนร่วมสุขกัน มันต่างกันอย่างไร
พ่อครูว่า…ความทุกข์กับความสุขมันเป็นของคู่กันมันหลอก ถ้าไปบอกว่าคนเป็นเพื่อนสุข มันก็ไม่เลยไปมองถึงคนที่เป็นทุกข์แล้วช่วยกัน แล้วแก้ปัญหาเหตุแห่งทุกข์และจะแก้ปัญหาความสุขด้วยกันได้ ถ้ามองไปเรื่องของเพื่อนความสุข ก็อาจจะไม่มองเหตุแห่งทุกข์ มันก็เลยไม่ได้ช่วยกัน ก็เลยจมติดสุขไปด้วยกัน ซวยตาย อย่ามัวแต่คิดในแง่ที่จะทำให้ขาดประโยชน์คิดออกนอกทางที่พระพุทธเจ้าสอน พระพุทธเจ้าพาเป็น มันก็จะเสียประโยชน์
_ทำไมคนเราจึงต้องรักกันแบบสองต่อสองด้วยค่ะ
พ่อครูว่า…มันโง่ รักเพศคู่มันโง่ มาแต่ไหนแต่ไรมันเป็นมาแต่ดึกดำบรรพ์ของสัตว์โลก สัตว์โลกที่คุณจะต้องมีคู่ จับคู่ตั้งแต่สืบทอดเชื้อพันธุ์ จนกระทั่งมีจิตผูกพัน สัตว์หลายชนิดมีคู่ จับคู่กันแล้ว เป็นคู่กันจนตายซื่อสัตย์กว่าคน มีเยอะสัตว์หลายชนิด เป็นวิบากต่อกันข้ามชาติกันไป อันนี้เป็นความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า เราตัดประเด็นนี้ที่จะต้องมีคู่ผูกพัน มันเป็นความทุกข์เป็นภาระเป็นวิบากต่อกันไปอีกยาวยืดมาก เพราะฉะนั้นพยายามให้ลดลง อย่าไปมีคู่ เพราะฉะนั้นสองต่อสองอะไรพวกนี้พยายามเลิก มาเป็นผู้ที่มีเพื่อนทุกข์ ไม่ใช่เพื่อนสุขนะ ทุกข์ก็มาช่วยกันเพื่อจะลดละทุกข์กัน จึงเรียกว่าเพื่อนทุกข์ไม่ใช่เพื่อนสุข
_ทำไมคนเราต้องมีความรู้สึกนึกคิดด้วยค่ะ
พ่อครูว่า…เป็นธาตุจิตวิญญาณ จิตเป็นธาตุ เป็นพลังงาน ชนิดหนึ่ง เป็นพลังงานนามธรรม มันจะต้องคิดต้องรู้สึก มาศึกษาศาสนาพุทธจะรู้ดี ท่านก็แจกแจงจิตวิญญาณนามธรรมออกเป็นแยกย่อย เรียนรู้จักจิต ที่มันทำหน้าที่ต่างๆหลากหลายจนครบเลย แล้วก็เอาไว้ใช้ที่เป็นหน้าที่ที่ดี หน้าที่ที่ใช้ไม่ได้ หน้าที่ที่ทำทุกข์ทำร้ายทำเลวเลิกหมด นี่เป็นความรู้ของพุทธเจ้าตรัสรู้ เพราะฉะนั้นเกิดมาเป็นธาตุ จิตนิยามแล้ว ธาตุอุตุนิยาม พีชนิยาม จิตนิยาม กรรมนิยาม ธรรมนิยาม ก็ต้องมาศึกษานี้เป็นเรื่องสุดยอดของมนุษยชาติพระพุทธเจ้าตรัสรู้ได้ไม่มีใครตรัสรู้ได้ หลวงปู่ก็รู้ตามพระพุทธเจ้ามา ที่ท่านตรัสรู้แล้วเอามาประกาศไว้
_การมีแฟน ในสัมมาสิกขาผิดไหมคะ ผิดมากหรือเปล่าอย่างไร
พ่อครูว่า…ผิด อยู่ในวัยเรียนมันจะมีเป็นธรรมชาติบ้างก็เป็นกิเลสต้องเลิกให้ได้หยุดให้ได้ ไม่งั้นจะเสียผลเสียประโยชน์จะไม่เข้าท่า เดี๋ยวก็ผิดพลาดไปอีกเยอะแยะไม่เอา ต้องพยายามพักเปลี่ยนให้ลด มันมีวิบากจริงๆ
ทุกคนก็จะมีเหตุเกิดพวกนี้หลวงปู่ก็เคยผ่าน กาละอายุเท่าพวกเราก็เกิดอย่างพวกเรา แต่หลวงปู่ตอนนั้นไม่ได้ปฏิบัติธรรม และก็เป็นคนที่มีบารมี มีวิบากดีมา ก็เลยไม่เกิดเหตุอะไรมากมายในวัยเรียน ก็เลยไม่เกิดเรื่องราวในวัยเรียนทั้งหมด มันก็มีแต่มันไม่เข้าท่าอะไร หลวงปู่มันมีวิบากแต่ฝึกฝนมาดีแล้วพวกเราก็ต้องเสริมสร้างไปในทางที่ดีให้เลิกพยายามลดละอย่าไปเอาอย่าไปเพิ่มเติมให้มันจี๋จ๋า ให้มันมีเรื่องราวอะไรมากขึ้นให้ลดลงให้น้อยลงให้หยุดได้
ถ้ามีแฟนแล้วไปแอบคุยกันจะเป็นการสั่งสม วิบากผูกพันเลยหละ ไม่เอาให้ลดละ อย่าไปหาโอกาสแบบนั้น
_อดีตเป็นคนชอบทานอาหารประเภทเส้นมากๆ ทานแทบทุกวัน ตอนนี้เลิกทานเส้นก๋วยเตี๋ยว บะหมี่ มาม่า เส้นข้าวเปียก ตอนนี้เลิกได้เด็ดขาดตลอดชีวิตแล้ว เห็นก็ไม่อยากเสพ ไม่อยากในรสนั้นแล้ว 10 ปีที่ผ่านมาได้ทั้งปัญญา เห็นวิบากกรรมที่เกิดกับตนเองและผู้อื่น มันเลิกยาก เพราะติดตัวยังหลงว่าเป็นประโยชน์ ติดดี ตอนนี้โล่งโปร่งเบาสบายแล้วที่ไม่ต้องกิน ขอกราบรายงานถวายพ่อครู ที่ทำให้ลูกได้หลุดพ้นจากนรกจากกิเลส ลูกจะพยายามลดละเพิ่มขึ้น …จากลูกอดีตเด็กเส้น 10 ปีซ้อน
พ่อครูว่า…อาตมากำลังตั้งชื่อรถเป็นประเภทเส้น คันแรกเป็นชื่อก๋วยเตี๋ยว คันต่อไปจะเป็นเส้นอะไร เป็นตัวอย่างที่ดีมาก เราจะติดเส้นหรือติดอะไรก็แล้วแต่ อะไรที่เราติดมากก็เลิกไม่ใช้ปัญญา ลดได้ด้วยปัญญา กดข่มก่อนแล้วลดด้วยปัญญา จะสัมผัสได้ถึงอาการจิตที่มันอยากลดลง สัมผัสแล้วก็เฉยๆในที่สุด มันก็เป็นอาหารธรรมดาที่ควรกินก็กิน ถึงโอกาสจะกินก็กิน อาการจิตของเราไม่เกิดชอบเกิดชัง หรือไม่เกิดอร่อยหรือไม่อร่อยแล้ว
_ผมสงสัยว่าจุดที่สูงที่สุดเป็นการพ้นทุกข์พ้นกิเลส แล้วทำไมต้องมีกิเลสให้เราพยายามรู้สึกและลดได้อีกไหม
พ่อครูว่า…ถูกต้อง คนเราเกิดมาจากอวิชชาเป็นสัตว์เดรัจฉานมาก็มีอวิชชากิเลสมันมีตั้งแต่เป็นสัตว์เซลล์เดียว สะสมอวิชชาสะสมกิเลสมาอย่างไม่รู้ตัว จนมาเป็นคนก็ไม่รู้จักกิเลสได้ง่ายๆ กิเลสพาทุกข์สุขนานนับชาติไม่ถ้วน แม้แต่โลกียะก็รู้จักทุกข์ แต่เขาไม่รู้จักอาการของจิต ศาสนาพุทธแก้ไขที่กรรม กรรมนี่แหละจะแก้ไขทุกอย่างให้สุดยอดหมดอวิชชาหมดความโง่ หลุดพ้นได้สมบูรณ์แบบ ถามว่าทำไมจึงต้องมีกิเลสก็เพราะว่าโง่มาก่อน อวิชชาเกิดตามหลักปฏิจจสมุปบาท ตั้งต้นด้วยอวิชชาและมีสังขาร สังขารปรุงแต่งกันเป็น วิญญาณ
ศึกษาศาสนาพุทธถ้าใครศึกษาปฏิจจสมุปบาทไม่เป็น ไม่ได้ ไม่มีทางพ้นทุกข์ เพราะว่าวิธีการที่จะศึกษาศาสนาพุทธแล้ว นอกจากจะรู้อริยสัจที่เป็นตัวตั้ง ก็ศึกษาตัวมรรคที่จะปฏิบัติให้สูงขึ้น
1.ความเชื่อ 2.เหตุแห่งทุกข์ 3.ดับทุกข์ให้ได้ 4. วิธีการดับทุกข์ วิธีที่จะทำให้ดับทุกข์ 5. ส่วนอดีต ที่เราจะปฏิบัติแล้ว อันนี้เข้าใจว่าเป็นส่วนอดีต 6. ส่วนอนาคต ที่เราปฏิบัติแล้วอันนี้ยังเป็นอนาคตที่เราจะทำต่อ ซึ่งอดีตและอนาคต เป็นความไม่เที่ยงทั้งสิ้น จึงแยกอดีตและอนาคตไว้ในอันที่ 7. อันที่ 7 คืออดีตกับอนาคต ถ้าหากทำให้อดีตกับอนาคตให้สูญได้ ทั้งอดีตและปัจจุบันอนาคต เป็นกาละที่สัมพันธ์กัน
พระพุทธเจ้าแยกแยะเวทนา 108 ออกเป็นอดีต 36 ปัจจุบัน 36 อนาคต 36 เกิดจากทวารทั้ง 6 เกิด สุข ทุกข์ ไม่สุขไม่ทุกข์ แล้วมันก็เป็นโลกีย์อีก 18 ทำให้มันเลิกเป็นเนกขัมมะ 18 สมบูรณ์แบบทำให้มั่นคงถาวรตั้งมั่น ยังไม่แปรเปลี่ยน มั่นคงเป็น นิจจัง(เที่ยงแท้) ธุวัง (ถาวร) สัสตัง(ยืนนาน) อวิปริณามธัมมัง(ไม่แปรเปลี่ยน) อสังหิรัง(ไม่มีอะไรหักล้างได้) อสังกุปปัง(ไม่กลับกำเริบ) ปฏิบัติได้ก็จะสามารถดับอวิชชาได้หมด ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข
คนเมื่อปฏิบัติธรรมเป็นพุทธเจ้าเป็นอรหันต์แล้ว จะเป็นคนที่มีประโยชน์ต่อโลกตลอดกาลเลยจะอยู่อีกนานเท่าไรไม่มีปัญหาเพราะว่าศาสนาพุทธนี้บรรลุอรหันต์แล้ว จะไม่ตายจะอยู่ไปอีกให้นานเท่านาน หรือจะอยู่นิรันดรก็แล้วแต่เหมือนกับพระอวโลกิเตศวร ท่านตั้งจิตจะอยู่ช่วยคนให้เป็นอรหันต์หมดทั้งโลก ท่านจึงจะปรินิพพานเป็นคนสุดท้าย
_หนูมีความสงสัยเรื่องศีลข้อที่ 2 หนูไม่ได้ขโมยของของใครแต่โดนหาว่าขโมยของ ทั้งๆที่เพื่อนเป็นพยานได้ แต่คณะสมณะ คุรุและอาๆก็ยังฝังใจว่าหนูขโมย ชี้แจงไปแล้วก็ยังไม่พ้นข้อหาแล้วสมณะกับอาๆจะได้รับวิบากกรรมใช่ไหมคะ หลวงปู่ให้ทำใจในใจแต่ลึกลึกแล้วหนูก็ไม่อยากอยู่เลย แต่ก็อยากจะเรียนให้จบสัมมาสิกขา
พ่อครูว่า…ได้รับ หากเราบริสุทธิ์จริงๆ ท่านเหล่านั้นก็ยังปักใจ มันก็เป็นวิบากกรรมที่ปรักปรำ และยัดเยียดข้อหาให้ ใช่ เพราะความไม่รู้เพราะความไม่เก่ง ของอาๆกับสมณะที่ไปปรักปรำ ไม่มีปัญญาจะรู้ความจริงได้ก็เป็นวิบาก ก็ไม่ใช่หน้าที่เราแล้ว ถ้าเราบริสุทธิ์จริง ผู้นั้นจะเข้าใจผิดอยู่ก็จบที่ตัวเรา ความบริสุทธิ์เท่านั้นจะชนะทุกสิ่งทั้งโลกในที่สุด ก็ขอให้มันจริงเถอะ อย่างหลวงปู่ บริสุทธิ์
สำคัญที่เราบริสุทธิ์จริงหรือเปล่า ถ้าหากโกหกซ้ำซ้อนอีก เราไม่บริสุทธิ์แท้จะเป็นวิบากหนัก ให้จำไว้ ความบริสุทธิ์เท่านั้นจะชนะทุกสิ่งทั้งโลกในที่สุด ก็อยู่ให้จบเถอะอย่าไปติดใจอะไรเลย
_อยากจะรู้ว่าอุปสรรคที่ผ่านมาในชีวิตทุกคนจะเป็นการเพิ่มบารมีใช่ไหมคะ
พ่อครูว่า… ทุกอย่างที่เข้ามาเผชิญเรา เข้ามาทำให้เราสร้างบารมี ไม่ว่าจะเป็นความรักหรือความชัง ความดีหรือความชั่วความร้ายแรงหรือความเบาทั้งนั้นแหละ เป็นเหตุปัจจัยที่เราจะต้องพิจารณาและพยายามทำใจให้เป็นกลาง ให้เห็นตามจริงว่ามันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ อย่าให้มันเพิ่มความรักความชัง
_คำถามจากน้องน้ำมนต์ อายุ 6 ขวบ เมื่อไหร่หนูจะเลิกทำไม่ดี
พ่อครูว่า..เมื่อหนูบรรลุอรหันต์ เลิกทำไม่ดี
_เงิน_ 1.รัฐบาลผลิตเงินมาจากไหน 2.ทำไมเขาไม่ผลิตเงินออกมาให้ทุกคนเท่ากัน ได้เท่ากันหมด
พ่อครูว่า…ผลิตมาจากโรงงาน เดี๋ยวจะต้องมีหลักประกันที่เป็นทรัพย์สิน หรือของมีค่าเป็นทองคำ เป็นอย่างอื่นที่ถือว่ามีค่า อย่างประเทศอเมริกานี้ไม่มีหลักประกันพวกนี้เลย มีแต่เอากระดาษมาปั๊มเป็นเงินออกไปหลอกคนทั่วโลก ถ้าคนเอาไปแลกทรัพย์สินกลับก็ไม่สามารถเอามาให้เขาได้ เขาต้องเอาวัสดุที่เสถียรมีค่าหายาก และไม่เสื่อมสลายง่าย มาเป็นหลักประกัน เป็นความรู้ของโลก ประเทศไหนก็แล้วแต่ที่ผลิตเงินออกมาก็ต้องมีสิ่งรองรับเป็นค่า
ทำไมเขาไม่ผลิตให้เท่าเทียมกันเลย ผลิตมาแล้วก็เป็นค่ากลางใครจะเอามาเป็นเจ้าของก็ต้องเอาอะไรไปแลกเปลี่ยนให้รัฐบาล ส่วนกลางมีหน้าที่ผลิตให้คนไปใช้อาศัยเป็นตัวแลกเงิน สังคมสมัยนี้ต้องใช้อย่างนั้นแหละ ไปทำให้คนรวยจนเท่ากันมันทำไม่ได้หรอก
คนที่รวยนั้นเป็นคนใจอำมหิต คนที่มาจนนั้นมีใจเมตตาเกื้อกูล เป็นเรื่องที่หลวงปู่พาธรรมพระพุทธเจ้าตรัสรู้และพามาเป็นคนจน เรื่องนี้เป็นสัจธรรมลึกซึ้งมาก
เราจึงมาอยู่ในสถานะของคนดีไม่ใช่สถานะของคนไม่ดี หลวงปู่พาทำซับซ้อน เป็นคนจนที่มหัศจรรย์เป็นคนจนอุดมสมบูรณ์ เป็นคนจนสุขสำราญเบิกบานใจ เป็นคนจนที่ไม่มีพิษภัย เป็นประโยชน์คุณค่าต่อผู้อื่น คนรวยเป็นคนไร้ค่า เป็นคนที่ทำลายคุณค่าของตนเองและสังคม ส่วนคนจนที่มีปัญญาเป็นคนจนที่ดี เป็นคนจนที่เข้าใจด้วยปัญญาและตั้งใจมาจนเต็มใจจนอย่างสุขสำราญเบิกบานใจ ก็จะเป็นคนจนที่เป็นคนช่วยโลก เป็นคนค้ำจุนโลก
_ลูกงงมาก กับประโยคที่ว่า หลง กับ ชอบ ในบางครั้งหนูเห็นคนอื่นสมมุติว่าเห็นหนุ่มหล่อก็กรี๊ดง่ายๆมากๆแล้วบอกว่าชอบ แต่ลูกว่าแบบนี้มันไม่ใช่ ถ้าในความคิดของลูกนะ ความชอบแล้วเราชอบใครเราต้องเก็บอาการไม่ใช่หรือ แต่รู้สึกว่ามีหลายคน แยกชอบกับหลงไม่ถูก ลูกก็แยกไม่ออกเหมือนกัน
พ่อครูว่า…คำว่าหลงนั่นงมงายมากกว่าชอบ แต่ถ้าชอบจัดๆก็เข้าขั้นหลง แต่หลงมีความหมายมากกว่าชอบ หลงนี่ชอบมากจนงมงายไม่รู้เรื่องก็หลง
_เห็นต่างในความเป็นทิศทางปฏิบัติธรรมของนักปฏิบัติธรรมด้วยกันจึงเอาตัวออกห่าง แต่เจอะเจอกันบ้างในบางเวลา แต่ผู้เขียนจะปฏิสัมพันธ์ก่อนอยู่เสมอแต่ได้รับการตอบรับในทางตรงกันข้ามเสมอ ทั้งท่าทีและสายตาเหมือนอาฆาตกันมาสักสิบชาติ จึงแปลกใจกับผู้มีอายุการปฏิบัติธรรมที่ยาวนานแต่ความผูกโกรธความอาฆาตทำไมยาวนานหยาบคายขนาดนั้น แต่ก็ยังยืนยันจากปฏิสัณฐานก่อนด้วยความนอบน้อมอย่างเดิม เพราะว่าใจไม่มีอะไรตกค้าง
พ่อครูว่า… ดีแล้วที่ทำเช่นนี้
_อยากจะทราบว่า เหตุของน้ำที่ไหลมาจากภูเขาทำให้มาจากไหนคะ (ต้นเหตุน้ำ)
พ่อครูว่า…อันนี้มีคนพบ 1. ไหลมาจากบ่อหรืออ่างที่มันล้นออกมา 2. มันมีบ่อน้ำที่ผุดออกมาจากพื้นดิน 1 น้ำมันไหลมาจากฟ้าแล้วก็มาค้างนะมันก็ไหลลงมา ในพื้นดินนั้นมีสายน้ำดีอีกเยอะ มีทั้งสายน้ำและบ่อน้ำ บ่อน้ำที่ไหลไม่หยุด โลกหมุนนี่ทำให้ดินน้ำไฟลมไหลเวียนตลอดกาล
_การกตัญญูต่อผู้มีพระคุณที่ผิดทิศทางพุทธ ถือว่าเป็นการอกตัญญูไหมคะ
พ่อครูว่า…สรุปง่ายๆว่า กตัญญูต่อผู้มีพระคุณแบบไม่ควร มันผิด การที่บางคนไม่ได้มีบุญคุณกับเรา แต่เราต้องให้การช่วยเหลือ มันก็เป็นของดี ถ้าควรช่วย ไม่ไปส่งเสริมให้เขายิ่งแย่ ไปช่วยเหลือด้วยอะไรให้เขาทำชั่วเพิ่มอีกให้เขามีแรงให้เขามีองค์ประกอบให้ทำชั่วหนักขึ้นอย่างนี้ไม่ควร แต่ถ้าช่วยเขาพอให้เขามีแรงไปทำสิ่งที่ดี ปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นจากนั้นก็ควรจะช่วย การตอบแทนควรทำกับผู้มีพระคุณ ส่วนคนที่ควรช่วยเหลือแม้ไม่มีพระคุณกับเราเราก็ควรจะทำ
_เพราะอะไรพระพุทธเจ้าถึงตั้ง ขั้น การปฏิบัติธรรมด้วยคะ แบบอรหันต์โสดาบัน สกิทาคามี อะไรแบบนี้ค่ะ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าบรรลุขั้นไหนแล้ว ถ้าเขาถามเราก็ตอบได้ยังฟลุคๆมั่วๆเท่ากับเราบรรลุได้ไหมคะ
พ่อครูว่า…ก็เรียนรู้ไปเถอะ พระพุทธเจ้าลำดับไว้อย่างเบื้องต้น ท่ามกลาง บั้นปลายดีหมดแล้วให้เรียนรู้ไป เราสงสัยว่าทำไมมีขั้นลำดับมันต้องมี พระพุทธเจ้าตรัสถึงขั้นว่า การมีลำดับอย่างซับซ้อนละเอียดมากนี้เป็นที่น่าอัศจรรย์ ปหาราทสูตร หลวงปู่พยายามอธิบายความเป็นลำดับนี้มันยังยาก พระพุทธเจ้าได้ตั้งศีลไว้
จุลศีล 26 ข้อที่ 1 เกี่ยวกับสัตว์ ข้อที่ 2 เกี่ยวกับข้าวของก็เป็นลำดับแล้ว เราก็เรียนรู้สัมพันธ์กับสัตว์ เป็นส่วนสำคัญก่อน อันที่ 2 ต่อมาก็เป็นเกี่ยวกับข้าวของมันเป็นวัตถุที่ไม่มีจิตวิญญาณ มันไม่มีความพยาบาทไม่มีความรักความชังความชอบ ไม่มีอะไรมาก เพราะฉะนั้นจึงสำคัญรองจากสัตว์ สัตว์สำคัญมาก จะเล็กหรือใหญ่ก็แล้วแต่ สัมพันธ์เกี่ยวข้องมีวิบากต่อกันสูงมากยาวนาน เพราะฉะนั้นจึงสำคัญกว่าอย่างนี้เป็นต้น เป็นความสำคัญของลำดับ
เพราะฉะนั้นใน 3 ข้อของศีล พระพุทธเจ้า สัตว์ ของ แล้วเกี่ยวข้องกับทวารทั้ง 6 ที่มีทวารทั้ง 5 ภายนอกสัมพันธ์กับสัตว์สัมพันธ์กับของ จิตของเราก็มีความสัมพันธ์กับสัตว์และของ ถ้าหากสัมพันธ์แล้วจะเกิดวิบากทำให้เกิดทุกข์เกิดสุขก็เรียนรู้อันนี้
เพราะฉะนั้น 3 ข้อใหญ่ของทฤษฎีศีลของพระพุทธเจ้ายิ่งใหญ่ครอบโลกเลย ครอบจักรวาล เรียนให้ดีเถอะลึกซึ้งมาก
คนที่ไม่เห็นความสำคัญของศีลนี้หมดทางปฏิบัติธรรมจะบรรลุอรหันต์ คนที่ไม่มีศีลเป็นหลักในการปฏิบัติไม่มีทางเป็นอรหันต์ พวกที่ไปนั่งหลับตาไม่เกี่ยวข้องกับศีลแล้วไม่เข้าใจลำดับของศีลอย่างดี และปฏิบัติไปตามขั้นตอนลำดับนั้นช้า จะวกวนไปมา แต่ถ้าเข้าใจลำดับที่ดีเป็นไปตามลำดับจะบรรลุอรหันต์เร็วที่สุด หลวงปู่เป็นสายปัญญาเข้าใจเรื่องนี้ชัดก็ อธิบายให้ฟัง พระพุทธเจ้าสมณโคดมเป็นสายปัญญา จะเข้าใจสิ่งนี้ได้ดี
_หลวงปู่ครับ ถ้าหลวงปู่ได้เป็นพระพุทธเจ้า หลวงปู่จะเกิดมาอีก เกิดมาช่วยให้ผมพ้นทุกข์เป็นอรหันต์ไหมครับ
พ่อครูว่า…หลวงปู่ยังไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้าแต่พยายามมีความตั้งใจไม่ได้พูดเล่น ทำมาจนป่านนี้แล้วไม่รู้กี่ล้านชาติแล้ว ถามอย่างนี้ ถ้าเป็นพระพุทธเจ้าแล้วก็จะเกิดมาในปางที่เป็นพระพุทธเจ้ามาประกาศศาสนา หลวงปู่ก็จะเป็นพระพุทธเจ้า ปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า
ปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าคือพระพุทธเจ้าที่มีสัพพัญญูเท่ากันกับพระพุทธเจ้า ปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นไม่ประกาศศาสนาของตนเอง แม้จะมาเกิดในยุคใดก็แล้วแต่ ก็ไม่ประกาศ แล้วท่านก็ปรินิพพานเป็นปริโยสานไปเลย อย่างนี้เป็นปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ไม่มีศาสนาเป็นของตนเองในโลก จนคนรับรอง ว่าท่านเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งของโลกไม่มีใครรู้ ท่านไม่ได้ประกาศศาสนาพุทธได้เป็นเจ้าของศาสนาพุทธในพุทธกัปป์ใด
คนที่เข้าใจว่าพระปัจเจกพระพุทธเจ้าคือคนที่สอนคนไม่เป็น อย่างนี้มันผิดเพี้ยนไปไกลมากเลย ศาสนาพุทธนั้นสอนคนเป็น บรรลุได้ บรรลุได้แล้วก็ควรสอน (พ่อครูไอ ตัดออกด้วย)
สมณะเดินดินว่า…เป็นคำถามที่ทำให้หลวงปู่ต้องลงทุนมากเลยนะ ให้หลวงปู่เป็นพระพุทธเจ้าเพื่อให้เธอเรียนรู้เป็นพระอรหันต์เพียงคนเดียว
พ่อครูว่า…ก็คงไม่เป็นบรรลุคนเดียวหรอก เพราะว่า หลวงปู่ก็ต้องมาช่วยคนให้บรรลุอรหันต์ ขอให้ติดตามไปเถอะ คนไหนที่ติดตามศึกษาถึงจะช่วยเหลือได้ ก็ติดตามก็แล้วกัน
_ตอนนี้ไม่รู้มันเป็นอย่างไรใจหนึ่งอยากจะออก อีกใจหนึ่งก็อยากจะอยู่ ไม่รู้จะทำอย่างไรดีคะ ทำอย่างไรดีครับ เบื่อที่จะตัดใจจากคนคนหนึ่งได้ ไม่รู้ลูกจะทำอย่างไร มันรู้สึกอย่างไรก็ไม่รู้ครับ โคตรอึดอัด
พ่อครูว่า..ถ้าจะทำให้ดีก็คืออย่าออก หลวงปู่แนะนำให้ดีที่สุด เอาให้อยู่ให้ถึงม.6 ไม่รู้จะทำอย่างไรดีก็อยู่ให้ถึงม.6 ดี
เบื่อที่จะตัดใจจากคนหนึ่งนั้นได้อยู่ที่ไหน อยู่ในนี้เสียละมั้ง ให้ศึกษาให้ดี เข้าหาสมณะ เปิดเผยว่าเราติดใจคนนั้นคนนี้บอกเลย เข้าหาสิกขมาตุก็ได้ เข้าหาผู้ใหญ่ที่คิดว่าจะช่วยได้ สารภาพเลย แล้วท่านจะช่วยเรา อย่าอาย เปิดเผยว่าเรามีใจผูกพันติดใจ เราจะตัดใจก็ยากเหลือเกิน ให้คนอื่นช่วย แล้วจะรอด ไม่อย่างนั้นก็อึดอัดอย่างนี้ ดีไม่ดีก็อยู่ไม่รอดเสียดายนะอยู่ให้ได้จนจบ ที่มีใจนั้น ใจหนึ่งอยากอยู่ใจหนึ่งก็อยากออก อยากออกมันก็ทุกข์มันบีบคั้น อยากอยู่เพราะมันมีปัญญา มีปัญญาอยากจะอยู่นั้นถูกต้อง เพราะฉะนั้นก็แก้ปัญหาโดยการไปเปิดเผยกับผู้ใหญ่กับสมณะสิกขมาตุที่จะช่วยเราได้ หรือเปิดเผยเรารู้ทุกข์ คำสอนของพระพุทธเจ้าของหลวงปู่ของสมณะสิกขมาตุเป็นสัจธรรมที่ชัดเจน
_คนที่ไม่รักเงินคือคนที่ไม่รักชีวิต ไม่รักในอนาคต ลูกพยายาม ทำความเข้าใจในความหมายแต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี
พ่อครูว่า…ไม่ต้องเข้าใจหรอกคนโง่ที่คิดอย่างนี้ คนไม่รักเงินคือคนที่ไม่รักชีวิตไม่รักอนาคตคือคนโง่ ที่คิดอย่างนี้อย่าไปเข้าใจตามเขาเลย
ต้องไขความว่าทำไมโง่ โง่เพราะไปมัวรักเงินหลงเงิน ไปเข้าใจว่าถ้ารักเงินแล้วคือรักชีวิตรักอนาคตนั้นเป็นความเข้าใจผิด ชาวอโศก ลูกพระพุทธเจ้าทุกคนไม่ไปหลงเงินไม่ไปรับเงิน ไม่ต้องมีเงินได้สำเร็จ มีส่วนกลางแล้วเราก็ใช้กินกับส่วนกลาง ถ้าเผื่อว่าจำเป็นจะใช้ก็ใช้ ถ้าไม่จำเป็นจะใช้ก็ไม่ใช้ เราไม่ไปหลงว่าถ้าไม่รักเงินไม่รักชีวิตไม่รักอนาคตอย่างนั้นไม่ถูก
คนไม่รักเงินก็มีใช้ตามจำเป็น ใช้กับส่วนกลาง ไม่จำเป็นต้องใช้ก็ยิ่งดีไม่จำเป็นต้องใช้อะไรมากมาย คนมีหน้าที่ใช้ก็ใช้ไป เราไม่มีหน้าที่จะใช้ก็ไม่ต้องใช้ เราทำงานก็แล้วกันคนอื่นเขามีหน้าที่ใช้ก็ใช้ เราไม่ถนัดในการใช้
คนที่เข้าใจเรื่องเงินไม่ต้องไปรักเงิน ไปเจอประโยคนี้เข้า คนที่ไม่รักเงินคือคนที่ไม่รักชีวิต ไม่รักในอนาคต คนผูกประโยคนี้ เป็นคนที่ไม่เข้าใจสัจธรรมเป็นคนโง่มาก
ในหลวงตรัสว่า คนที่ไม่รักดิน คือคนที่ไม่รักชีวิต ไม่รักอนาคต อันนี้ต่างไปมากเลย
_ทำไมเราต้องมีความคิดถึงคะ
พ่อครูว่า…คิดถึงอะไรเอ่ย ถ้าเผื่อว่าเราคิดถึงในสิ่งที่ดีเรียกว่าสาระณียะ คิดถึงเพื่อนมนุษย์คิดถึงคนที่จะช่วยเหลือ อย่างพระพุทธเจ้าตื่นนอนก็คิดว่าจะไปช่วยเหลือใครดี คนที่ระลึกถึงคนที่ควรช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลานั้นดีแล้วเป็นสาราณียธรรม
แต่ถ้าคิดถึงเพราะว่ามันผูกพันคิดถึงเพราะรักใคร่ ไปในทางกาม ให้หยุด เลิก มันเป็นทุกข์เป็นเหตุแห่งทุกข์
_การที่เราจะเป็นพระอรหันต์ได้ต้องทำอย่างไรบ้างคะ
พ่อครูว่า…ให้ติดตาม หลวงปู่พาทำ ให้เป็นพระอรหันต์ได้ สรุปตอบง่ายๆว่าทำอย่างที่หลวงปู่สอน
_ลูกอยากทราบว่าทำไมคนฆ่าสัตว์บาปน้อยกว่าคนขายและคนรับประทาน
พ่อครูว่า…สรุปว่าคนฆ่าก็บาปมากที่สุด คนกินก็รองลงมา คนขายมีความซับซ้อน ตัวเองถ้ายิ่งไม่กิน แต่เราเอาเนื้อสัตว์ไปขายรู้ว่าเนื้อสัตว์นี้ไปกินแล้วจะมีวิบาก แต่ไปขาย คนนี้มีวิบากมากกว่า เรารู้ว่าไม่ดี แต่เอาไปขาย เหมือนคนไม่กินเหล้า แต่ไปทำ เราให้คนอื่นกินเพื่อขายอย่างนี้มีวิบากมากกว่า คนทำเหล้านั้นรวยเละแต่บาปมหาศาลซับซ้อน ฉันเดียวกันกับคนรู้ว่ากินเนื้อสัตว์ไม่ดี แต่เราก็กลับขายเนื้อสัตว์ คนนี้และบาปซับซ้อน
_พระวจนะกับพระพุทธวจนะต่างกันอย่างไรคะ
พ่อครูว่า…อนุโลมเป็นอันเดียวกันไม่แตกต่างกันหรอก พระวจนะคือคำตรัสคำสอนคำพูดของพระพุทธเจ้า พุทธวจน ก็อันเดียวกันเป็นของพระพุทธเจ้า ถ้าเราเรียกว่าพระวจนะก็คือยกให้พระพุทธเจ้าเลย นอกจากว่าเราจะใช้กับผู้ที่เป็นพระเจ้าแผ่นดิน ราชาศัพท์ของพระเจ้าแผ่นดินก็เรียกว่าพระวจนะได้ ถ้าบอกว่าพุทธวจนนี้เป็นของพระพุทธเจ้าเลย
_ขอให้หลวงปู่อธิบายหลักการเมตตาอันไม่มีประมาณด้วยครับ
พ่อครูว่า…คำว่าไม่มีประมาณมีนัยยะ 2 นัยยะใหญ่ๆ
นัยยะหนึ่งก็คือไม่มีประมาณคือไม่รู้จักประมาณมันเลยเถิดเกินการ นั่นก็อีกอย่างหนึ่ง เมตตาไม่มีประมาณ คือเมตตาเกินไป สงสารหรือว่าไม่อยากให้เขาเป็นทุกข์เกินไป อย่างนี้ไม่มีประมาณความหมายอย่างหนึ่ง
นัยยะอีกอย่างหนึ่ง เป็นผู้ที่มีเมตตาอย่างไม่มีที่สุด ไม่มีประมาณ เมตตากว้างเมตตายาวไปได้เรื่อยๆ แต่ในผู้นี้ เมตตาอย่างไม่มีที่จบสิ้น เป็นผู้ที่เมตตา แม้แต่ผู้ที่เป็นโจรมาทำร้ายเราก็มีเมตตา เป็นผู้ที่มีเมตตาจริงๆทุกคนเลยแม้แต่โจร แม้แต่ผู้เป็นศัตรูกับเราก็มีเมตตา ผู้ที่ทำร้ายเรา ก็มีเมตตา เป็นผู้ที่มีเมตตามากกว้างขวางไม่มีที่กั้น ไม่มีที่สุดไม่มีที่ประมาณ ก็หมายถึงนัยยะซับซ้อนลึกซึ้ง เมตตาไม่มีประมาณ
แม้แต่ศัตรูผู้ที่จะทำลายเราก็ยังมีน้ำใจช่วย เรียกว่าไม่มีประมาณเหมือนกัน
คนเราที่มีน้ำใจเป็นผู้ช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่นนี่แหละสูงสุดแล้ว ในความเป็นมนุษย์ ช่วยแม้แต่ผู้ทําร้าย ผู้ที่ไม่ปรารถนาดีต่อเรา หรือผู้ที่ทำผิดก็ช่วยอยู่แล้ว หลวงปู่ก็ช่วยแม้แต่ผู้ที่ทำร้าย คิดช่วยเขาอยู่ หรือแม้แต่ผู้ที่ทำร้ายศาสนาพุทธให้เสียหายรุนแรงมากเลย หลวงปู่ก็ช่วยๆๆ ไม่อยากให้เขาทำร้ายศาสนามันเป็นบาปมาก อย่างนี้เป็นต้น ก็ช่วย หาทางช่วยหาวิธีช่วย ช่วยอย่างแรง เบา กลาง แม้จะช่วยไม่ได้ก็จะช่วยเผื่อว่าผู้ที่เป็นบริวารที่หลงไหลเขาก็จะได้ถูกช่วยได้บ้าง นี่คือมีน้ำใจ
ก่อนจะสรุปก็ขอออกตัวไว้ก่อนว่า ที่จะพูดต่อไปนี้ไม่ได้หมายความว่ายกย่องตัวเอง แต่พูดแต่ความจริงใจ หลวงปู่มีน้ำใจช่วยคนอย่างไม่มีประมาณ ช่วยแม้แต่คนที่ทำร้ายเรา ที่เขาทำลายศาสนาก็ยังช่วย ลงทุนลงแรงช่วย หาทางอธิบาย ถ้าเขาเข้าใจว่าหลวงปู่ไม่ได้ช่วยอย่างสาดเสียเทเสีย แต่ช่วยอย่างมีหลักฐานอ้างอิงมีคำอธิบายมีความรู้ อ้างอิงให้เตือนให้บอกให้ ยกตัวอย่างแม้ขณะนี้ในวงการศาสนาพุทธหลงไปนั่งหลับตาสมาธิ หลวงปู่ก็ช่วย แต่ก็รู้สึกว่ากระเตื้องกันน้อยรู้สึกอย่างนั้นจริง คนยึดมั่นถือมั่นในการนั่งหลับตาสมาธิกันเยอะ กระเตื้องน้อย ไม่ค่อยกระเตื้องกันเท่าไหร่ หนักหนาสาหัส แต่ก็ต้องพูดกันไปอีก
ขอสรุปว่า นั่งหลับตาสมาธินี้ไม่มีทางจะบรรลุอรหันต์ ขอยืนยัน ไม่มีทางเลย ไม่เจริญมีแต่จะงมงายต่อไปอีกขอยืนยัน ไปตรวจสอบให้ดีเถอะ
สมณะเดินดินว่า…สรุป