บันทึกผ่านเลนส์ ส่องโพธิกิจ..งามใดไหนฤาจะเท่างามศีล
วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2561
วันนี้พ่อครูลงมาฉันเร็วกว่าทุกวัน เวลาประมาณ 10.30 น.ท่านเดินลงมาชั้นล่างเฮือนสูญ เห็นลมพัดแรงจึงเดินเลยไปชมน้ำไหลมาจากน้ำโตน ซึ่งพ่อครูเรียกว่า ธารลอดถ้ำ แล้วเดินทักทายญาติโยมและท่านสิกขมาตุ อ้อมหลังอาสนะท่านสมณะ ซึ่งยังนั่งกันอยู่เต็มศาลา
เป็นปกติที่ท่านปัจฉาจะคอยอำนวยความสะดวกจัดเตรียมสำรับและบริการสำหรับฉันอาหารและนั่งฉันใกล้ๆพ่อครู… สังเกตเห็นพ่อครูฉันกล้วยเป็นลำดับแรกเช่นเมื่อวาน…
..หลังจากฉันภัตตาหารเสร็จ พ่อครูและคณะปัจฉาออกมาเดินย่อยอาหารและตรวจงานที่หน้าน้ำตกผาแหงน ส่องผ่านเลนส์ยังมองเห็นสรีระหลังตรงไม่คดงอของพ่อครูเด่นชัดเสมอ ผ่านมาที่ลานสะโพ ชุดม้าหินและต้นหญ้าต่างๆขึ้นแซมกันเป็นภูมิทัศน์ที่สวยงามตามธรรมชาติ ตัดกับท้องฟ้าสีคราม พ่อครูเหลือบไปเห็นพระพุทธาภิธรรมนิมิตที่มีตะไคร่ขึ้นบริเวณจีวรสีเป็นธรรมชาติเหมือนจีวรสมณะ โดยที่ไม่ต้องทาสีเลย…วันนี้เป็นวันเสาร์จึงเห็นนักท่องเที่ยวพาครอบครัวมาพักผ่อนหนาตา พ่อครูยืนมองภูมิทัศน์หน้าลานสะโพและแก้งสะโพ..
ญาติธรรมที่มาจากศีรษะอโศกเดินมาพบพ่อครูพอดี ดีใจมากรีบเข้ามากราบนมัสการแนะนำตัวว่าเป็นครูจิตอาสาสอนภาษาอังกฤษที่ศีรษะอโศกชื่นชมพ่อครูในการแสดงธรรมและการดูแลรักษาสุขภาพตนเองได้ยอดเยี่ยมถึงกับยก 2 นิ้วให้และรบกวนกวนพ่อครูตั้งชื่อทางธรรมให้ พ่อครูก็เมตตารับทันทีแล้วเดินไปนั่งที่ใต้ต้นเฮือดเพื่อตั้งชื่อให้ สักครู่ก็ได้ชื่อว่า “มุ่งไฟบุญ”
พ่อครูเดินมาที่ลานทรายหน้าอาคารบวรมีครอบครัวชาวบ้านมาตั้งวง กินข้าวเล่นน้ำพักผ่อน พ่อครูเอ่ยว่า “อย่างนี้ล่ะใช่เลย…กินข่าวมวน”ตรงกับเจตนารมณ์ที่พ่อครูต้องการให้ประชาชนทั่วไปมาทำแบบนี้ นั่งกินข้าวล้อมวงกัน เด็กเล่นน้ำก็ยังมองเห็นได้ พ่อครูให้ชื่อลานนี้ว่า”เดิ่นเข่ามวน”ซึ่งหมายถึงลานที่มานั่งล้อมวงกินข้าวกันอย่างสนุกสนานรื่นรมย์ พ่อครูเดินกลางลาน มีปีกหินสามก้อนวางอยู่เพื่อที่จะใช้เป็นที่นั่งเล่น วางล้อมกับต้นหว้า ซึ่งกำลังจะย้ายจากที่นามาปลูกไว้บริเวณนี้ พ่อครูเดินลัดมาถึงอาคารบวร ยังเห็นญาติธรรมกลุ่มที่มากันเมื่อครู่นี้นั่งมองพ่อครูด้วยความชื่นชมในอากัปกิริยาที่ดูแข็งแรงดีเอ่ยปากชมอยู่ตลอดเวลาว่าพ่อครูยอดเยี่ยมสุดยอดมาก…
คุณพรเทพ ช่างแอร์ของชุมชน เข้ามากราบนมัสการพ่อคูณหลังจากเพิ่งออกจากโรงพยาบาลรักษาอาการแผลติดเชื้อที่นิ้ว เข้าห้องผ่าตัดและรักษาแผลจนอาการทุเลาลงและกลับมารักษาตัวที่บ้านราชได้แล้ว พ่อครูมาที่ตลาดประชารัฐ Green market เจอเจ๊กเอี๋ยว นั่งรับประทานอาหาร อย่างสุขสำราญเบิกบานใจกับบริขารคือกะลา 1 ใบตะเกียบ 1 คู่…
ตลาดประชารัฐแห่งนี้ยังคงขายสินค้าที่เป็นปัจจัย 4 อาหารก็จะเป็นอาหารบริสุทธิ์ปราศจากเนื้อสัตว์คืออาหารมังสวิรัติ พืชผักก็คือผลผลิตของชาวชุมชน วันนี้แม่เปลี่ยนมาขายผักเองเรียกได้ว่าจากผู้ผลิตถึงผู้บริโภคโดยตรง สังเกตเห็นขนมโบราณข้าวต้มมัดและข้าวเกรียบว่าวซึ่งหาทานได้ยากในยุคปัจจุบันนี้ รวมถึงห่อหมกต่างๆที่ตลาดนี้ก็ยังเป็นตลาดของชาวบ้านที่พอจะรับประทานได้ เห็ดออริจิย่างของแม่วรรณยังคงย่างร้อนๆพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด แม่เดือนแก้วทำมะระขี้นกคั่วแห้งมาจำหน่ายในราคาบุญนิยม หน่อไม้ในชุมชนนำมาเผาขายพร้อมกับน้ำย่านางสามารถนำไปแกงได้ทันที ติดกันเป็นร้านขายผ้าแบบไทยๆมีทั้งโสร่ง ผ้าซิ่น ผ้าขาวม้า รวมทั้งหมอนลายขิดจากบ้านศรีฐาน จ.ยโสธรซึ่งเป็นที่นิยมของผู้ที่อนุรักษ์วัฒนธรรมไทย ร้านของคุณอุไรจากศีรษะอโศกยังจำหน่ายน้ำหมักผลไม้ต่างๆรวมถึงยาสมุนไพรของอุปโภคที่ผลิตภายในชุมชนอีกหลายอย่าง..เป็นตลาดประชารัฐ Green market ที่ไร้สารพิษที่พ่อครูเชิญให้ทุกคนมาขายสินค้า ในตลาดประชารัฐคุณธรรมแห่งนี้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ไม่มีค่าเช่า ไม่มีค่าโสหุ้ย เพียงแต่กำหนดคุณสมบัติ 4 ห้าม 3 ต้อง ไว้สำหรับผู้ที่ต้องการมาขายสินค้าคือ
ห้าม
1.ห้ามนำสิ่งเสพติดมาขาย
2 .ห้ามนำผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเนื้อสัตว์หรือแม้แต่ส่วนประกอบของใครมาขาย 3. ห้ามนำสินค้าที่ปนเปื้อนสารเคมีมาขายเช่นมียาฆ่าหญ้าหรือยาฆ่าแมลงมาขาย
4. ห้ามขายแพงให้ขายในราคาต่ำกว่าท้องตลาดเพราะไม่ต้องเสียค่าเช่าพื้นที่ใดๆและสิ่งที่ต้องปฏิบัติของผู้มาขายสินค้าหนึ่ง
3 ต้อง
ต้องไม่ติดอบายมุขเช่นกินเหล้าสูบบุหรี่เล่นการพนันเป็นต้น
ต้องนำอุปกรณ์ประกอบการขายใหม่เอง
ต้องเคารพวัฒนธรรมประเพณีของชุมชนเช่น ไม่ฆ่าสัตว์ไม่นำเนื้อสัตว์มากินในตลาด
ทั้งหมดคือ 4 ห้าม 3 ต้อง เป็นคุณสมบัติของผู้ที่สามารถมาขายในตลาดประชารัฐคุณธรรมแห่งนี้ได้
พ่อครูนั่งรถสัญญาตะวันไปดูเรือที่เมื่อวานช่วงพ่อครูเฝ้าดูอยู่ยังไม่สามารถที่จะยกได้ ตอนนี้สำเร็จแล้วได้รับรายงานว่าเกือบ 6 โมงเย็นเมื่อวานถึงสามารถยกขึ้นมาได้ ช่างอยุธยาได้เริ่มงานกันอย่างเต็มที่ไม่ต้องกลัวฝนหรือน้ำจะมาท่วม เรือทั้ง 2 ลำขึ้นบนแท่นวางไว้เรียบร้อยแล้ว อยู่ข้างๆเรือที่เพิ่งต่อเติม ตบแต่งเสร็จ เห็นรูปร่างเหมือนเรือใส่หมวกจีนโบราณ..
..รถสัญญาตะวันวิ่งไปถนนตรงกลางผ่านนาโยนช่วงงานเพื่อฟ้าดินได้มาโฮมแฮงโยนข้าวกัน สังเกตเห็นมีนวัตกรรมสำหรับไล่นกเต็มที่นา เพราะข้าวกำลังออกรวงงดงามมาก …เลยไปนาโยนอีกที่หนึ่งเห็นนกกระยางทั้งฝูงกำลังลงไปหาอาหารในนา..
พ่อครูเลยมาที่ถนนตรงเมรุผ่านป่าอนุรักษ์ของบ้านราชซึ่งเป็นป่าที่กำลังขอเข้าเป็นโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระดำริของสมเด็จพระเทพรัตน์ราชสุดาฯ เพื่อเป็นป่าอนุรักษ์ชุมชนที่ริมแม่น้ำมูน..
มาถึงเฮือนสุดชีวิตเรือที่ยกมาไว้ข้างๆเริ่มก่อสร้างเป็นเรือนเรือ เพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป ใกล้กันจะมีป่าต้นยางยังอุดมสมบูรณ์เป็นเหมือน Supermarket ชุมนุมเห็ดที่ชาวบ้านจะมาเก็บหากันบริเวณนี้..
ผ่านดงตาลก่อนถึงลานเบิ่งฟ้าที่ยังมีซากเรือรอการซ่อมแซมอยู่เช่นกันเลยมาถนนตรงกุ่มสังเกตเห็นต้นขี้เหล็กมีเป็นจำนวนมาก พ่อครูถามว่าได้เก็บมาเข้าครัวกันหรือไม่ พวกเรารายงานว่าเมื่อเช้าก็มีแกงขี้เหล็กรับประทานกัน..เลยมาถึงน้ำตกหินน้ำไหลยังคงเป็นที่นิยมสำหรับพักผ่อนแต่หลายคนอาจจะมองไม่เห็นถ้ามาถึงน้ำตกผาแหงนสังเกตุง่ายเดินมาหลังอาสนะ ก็จะเห็นน้ำตกหินน้ำไหลเป็นน้ำตกที่น่าพักผ่อนมาก เป็นชั้นๆหลายๆชั้นและมี แอ่งน้ำสำหรับแช่น้ำเล่นได้อย่างเย็นสบาย..
ตรงข้ามน้ำตกหินน้ำไหลเป็นสวนทำกินซึ่งตอนนี้ทางเข้าสวนอุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นตาล ต้นมะละกอ ต้นกล้วยและต้นทองอุไรสูงชะลูดแข่งกันผลิตผลงดงาม จนจะมองไม่เห็นสวนทำกิน
พ่อครูกลับเข้ามาด้านหน้าน้ำตกผาแหงน ยังมีผู้ที่เล่นน้ำอยู่เป็นจำนวนมาก รวมถึงน้ำโตนที่จะเปิดในวันเสาร์-อาทิตย์ก็ยังเป็นที่สนใจของผู้คนมาเล่นน้ำเช่นกัน..
..ลงจากรถสัญญาตะวันพ่อครูสังเกตเห็นต้นบอนกวนอู พ่อครูเคยเล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนที่พ่อครูยังเป็นฆราวาสเคยเล่น สะสมบอนกวนอู สมัยนั้นมีราคาสูงมาก และต้นนี้เองก็ไม่รู้ขึ้นมาเองได้อย่างไร..จากนั้นก็เดินไปดูธารน้ำใหม่ซึ่งเกิดจากลมพัดน้ำโตนผ่านช่องถ้ำ ลอดใต้คลังเสียงเกิดเป็นแก่งธารน้ำไหลรินยาวไปถึงหน้าห้องน้ำกางเกงยีนส์ ยังมีนักท่องเที่ยวเดินชมรอบๆบริเวณนี้ เดิมเป็นเวทีธรรมชาติซึ่งเป็นบริเวณที่อุดมสมบูรณ์เหมือนป่าดงดิบ…ท่านใดที่ยังไม่เคยเดินผ่านก็สามารถมาชมความงดงามของต้นไม้ที่อยู่ร่วมกันเกื้อกูลกับงานศิลปะปูนปั้นได้อย่างสมดุล…
พ่อครูเดินขึ้นไปชั้น 4 ท่านปัจฉาแสนดินล้างเท้าให้พ่อครูสังเกตเห็นน้ำที่อยู่ในถังคือน้ำที่ได้มาจากการซักล้างและยังสะอาด มีอยู่ 3 ถังๆแรกถ้ามีฟองหน่อยก็จะใช้ล้างพื้นหรือถูพื้น ถังที่สะอาดรองลงมา ก็จะนำมาล้างเท้า โดยท่านปัจฉาทุกรูปจะใช้น้ำบริเวณนี้ซึ่งเป็นน้ำที่เกิดจากการรองน้ำฝนหรือน้ำที่หมุนเวียนมาจากน้ำในบุ่งนำมากรองและใช้ประโยชน์ต่อได้อีก..
ต้นบอนกวนอูที่เห็นก่อนทางขึ้นชั้น4 เป็นต้นชนิดเดียวกันกับที่อยู่สวนเอาพิษออกทั้งสองกระถาง นำมาจากสังฆสถานทะเลธรรมจังหวัดตรัง ซึ่งนำมาดูแลบริเวณสวนเอาพิษออก รวมกับต้นไม้นานาพันธุ์หลากหลายชนิดโดยเฉพาะ พรรณไม้หอม ไม้ดอกต่างๆซึ่งเป็นส่วน Aroma therapy บังแดด ท้าลมอยู่บนดาดฟ้าชั้น 4 เฮือนสูญ
ต้นไม้ดอกไม้ จะสวย จะหอมงาม เพียงใดก็ไม่เท่ากับคนที่งามด้วยศีลงามด้วยคุณธรรมเป็นความงดงามอันเกิดจากสัมมาทิฎฐิ ถึงพร้อมด้วยศีล สมาธิ ปัญญาที่เป็นโลกุตรธรรม งดงามเกื้อกูลโลกยิ่งกว่าความงามของดอกไม้นานาพันธุ์ หรือความงามใดๆ ..
ความงามใดๆ ..