..บันทึกผ่านเลนส์ ส่องโพธิกิจ..ยอมเป็นผู้ถูกพิพากษาว่าเป็นผู้แพ้แต่ไม่เป็นผู้ผิด
วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม 2561
วันนี้ช่วงเช้าฝนตกอากาศครึ้มเย็นสบาย ทีมแม่ครัวซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการสรรหาวัตถุดิบและการปรุงอาหารประณีต ไร้สารพิษถวายพ่อครู วันนี้ทีมแม่ครัวได้นำภัตตาหารมาถวายพร้อมกับสนทนากับท่านปัจฉาแสนดินเล็กน้อย..จากนั้นไม่นานนักประมาณ 11.05 นาทีพ่อครูลงมาฉันภัตตาหาร ระหว่างพ่อครูฉันมีญาติธรรมมาจากกรุงเทพฯ คุณเจนพาลูกชายมาจากสวิตเซอร์แลนด์ ขอมาศึกษาเรียนรู้ในชุมชนประมาณ 1 สัปดาห์คุณเจนเรียนพ่อครูว่าเป็นญาติธรรมที่ฟังธรรมอยู่ทางบ้านเรียกตนเองว่า ลูกไกลพ่อ แต่ยังฟังธรรมะพ่อครูอยู่สม่ำเสมอ…
..หลังฉันภัตตาหารพ่อครูนั่งพักสักครู่ ก่อนที่ท่านปัจฉาหนักแน่น จะนำหนังสือดอกหญ้ามาถวายพ่อครู เป็นฉบับที่มีชื่อเรื่องว่า “ทำเรื่องเที่ยวให้เป็นธรรมะ” เป็นที่เข้าใจกันดีเกี่ยวกับหนังสือกับพ่อครู เรียกได้ว่าเป็น พ่อครูเป็นหนอนหนังสือท่านหนึ่ง ถ้าท่านเจอหนังสือที่ไหน หรือใครนำมาถวาย ท่านก็จะให้ความสนใจและอ่านทุกครั้งไป พ่อครูอ่านหนังสือไป ดูข่าวคราวเรื่องการช่วยเด็กและโค้ชทั้ง 13 คน ของทีมหมูป่า อะคาเดมี่ ทางจอแอลอีดี ชั้นล่างเฮือนศูนย์สูญ ซึ่งได้ช่วยออกมาแล้ว 4 คนจาก 13 คน…
..หลังจากนั้นพ่อครูเดินออกมาเพื่อย่อยอาหาร เจอคุณแอ๊ด ปลุกดินและญาติโยมกำลังเด็ดยอดมันเทศญี่ปุ่นหรือต้นมังกรหยก พ่อครูแนะนำให้ไปทำอาหารรับประทานได้ เสนอกันว่าให้ไปทำน้ำผักปั่นได้เลย..พ่อครูและคณะท่านปัจฉา เดินมาหลังภูคอนโดน้อย เพื่อมาดูสถานที่สำหรับติดตั้งองค์รูปหล่อโลหะพ่อครูปางอภัยทาน จากเดิมพ่อครูบอกให้ไปตั้งไว้ที่น้ำโตน นั้นไม่เหมาะสม โดยครั้งนี้จะให้มาอยู่ด้านขวาขององค์พระพุทธโต ดูแล้วกำลังพอดีแต่พอพ่อครูคาดคะเนแล้ว ถ้าติดตั้งบริเวณนี้ ก็จะเปิดประตูภูคอนโดน้อยไม่ได้ พ่อครูมีดำริให้ทาสีจีวรขององค์รูปลอยเป็นสีขาวด้วย และหาวัสดุหรือตกแต่งให้โซ่มีความโดดเด่นขึ้นมา…พ่อครูเดินมาถึงป้ายหินทางเข้าน้ำตกผาแหงน พวกเราเสนอให้ตั้งองค์รูปลอย ไว้ที่หน้าแท่งหินด้านขวา ทางเข้าน้ำตกผาแหงน พ่อครูมองและพิจารณา จึงเห็นด้วย กับการติดตั้งบริเวณนี้ดีกว่า เพราะมีพื้นที่พอเพียง โดดเด่นเหมาะสมกับภูมิทัศน์บริเวณนี้..
..พ่อครูเดินขึ้นมาที่อาคารบวร ยังมีนกเอี้ยงเจ้าถิ่น คอยส่งเสียงและถ่ายสิ่งปฏิกูลลงมาที่พื้นมองไปบนหลังคา นกเอี้ยงทำรังที่ปล่องเหล็ก พ่อครูบอกว่าเหมือนคอนโดนกเอี้ยง..วันนี้เป็นวันจันทร์ ร้านต่างๆหยุดทำการ 1 วัน รวมถึงร้านศิษย์เก่า “ฮ้านนี้มีซือนะ”แม้ว่าร้านปิด แต่ข้าวของต่างๆก็ยังอยู่บริเวณหน้าร้านเช่นเคย ..ร้านดินอุ้มดาวก็ปิดทำการเช่นกัน ช่วงนี้ท่านใดที่กำลังหาเสื้อผ้าสีเหลือง ก็มาเลือกหาได้ที่ร้านดินอุ้มดาวทั้งที่ราชธานีอโศกและทุกสาขาของสถาบันขยะวิทยาด้วยหัวใจ..พ่อครูหยุดยืนที่ร้านสหกรณ์ภูมิรักษ์ จำกัด มองไปยังฟ้อนท์ตัวหนังสืออโศก ท่านบอกว่าเป็นฟ้อนท์ ที่เหมาะกับชาวอโศก มีลักษณะ เส้นโค้ง เส้นตรง หนาส่วนบน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง ไม่เหมือนใคร หนักแน่น ยืดหยุ่นอยู่ในตัว..
พ่อครูเดินผ่านมาด้านหน้าของนิทรรศการมี กะลาที่หงายขึ้นหมายถึง สมาธิแบบลืมตาการหงายกะลาคือลืมตามีสติเต็มรู้ความจริงตามความเป็นจริง..
พ่อครูดินมาด้านหน้านิทรรศการจะเป็นบอร์ดเกี่ยวกับคำพิพากษาที่พ่อครูถูกพิพากษาเป็นจำเลยทางศาสนามาตั้งแต่ปี2532 จนต้องคำพิพากษาให้สึก แต่พ่อครูไม่มีเจตนาจะสึก แต่ก็ยังยอมแพ้และยอมเปลี่ยนผ้าครองเป็นสีขาวในยุคนั้น ซึ่งเป็นข่าวที่โด่งดังในยุคนั้น รวมถึงการ์ตูนต่างๆทั้งของคุณชัย ราชวัตร คุณแอ๊ด เดลินิวส์และอีกหลายท่านเป็นเรื่องราวของวงการศาสนาพุทธในเมืองไทยที่โด่งดังในยุค 2532..ด้านหลังบอร์ด คำพิพากษา เป็นบอร์ด ที่บันทึกกวีของ คุณอัคนี หฤทัย จากหนังสือพิมพ์แนวหน้า ฉบับวันที่ 28 พฤษภาคม 2532 ซึ่งคุณอัคนี หฤทัยเป็นอดีตผู้พิพากษาที่ไม่เคยมาสันติอโศก ได้เขียนคำพิพากษาคดีสันติอโศกออกมาเป็นบทกวี ช่วงขณะที่พ่อครูถูกมหาเถรสมาคมมีมติตัดสินให้สึก เป็นเรื่องราวประวัติศาสตร์ของผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวอโศกและเป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่งของวงวงการศาสนาพุทธในเมืองไทย เป็นผู้นำที่เป็นต้นแบบ ตัวอย่างของการเป็นผู้แพ้แต่ไม่ใช่ผู้ผิดของพ่อครูสมณะโพธิรักษ์…
พ่อครูเดินมาถึงหนุ่มน้อยริมมูน ซึ่งมีความชำรุดที่แขนด้านขวาจนต้องมีการดามลวดและอ้อยที่อยู่ในมือขวา ปูนก็กระเทาะหลุดไป พ่อครูบอกให้ เปีย หม่อง ศิลปิน ปูนปั้นของชางอโศกมาช่วยซ่อมแซมให้ด้วย..เลยไปด้านหน้าเจอสถาปัตยกรรมปูนปั้นรูปโลก ที่มีรูปหล่อพ่อครูนั่งอยู่เหนือโลก ท่านปัจฉาให้เดากันว่าประเทศไทยอยู่ตรงไหน ถ้าท่านใดอยากทราบ ขอเชิญได้ที่อาคารบวร ก็ยังจัดแสดงนิทรรศการพระโพธิสัตว์อยู่ตลอดทั้งปี…
..พ่อครูเดินมาด้านหน้าอาคารบวรสังเกตเห็นรังแตนหลายรังอยู่เสาเหล็กของอาคารบวร ซึ่งไม่เข้าใจกันว่า ทำไมหรืออะไร ที่ทำให้แตนมาสร้างรังหลายรังมากที่ตามเสาเหล็กของอาคารบวร..ท่านเดินมาที่อาคารวิทยาลัยอาชีวะเจอรถที่กำลังซ่อมแซมล้วนแต่เป็นรถ จะเรียกเป็นรถก็คงไม่ใช่ทั้งหมด เพราะดูสภาพที่เห็นอยู่เหมือนโครงรถยนต์วิ่งได้ ซึ่งพวกเราไว้ใช้ศึกษาเรียนรู้ สำหรับนักเรียนนักศึกษาและผู้ใหญ่ที่สนใจในการเป็นช่างยนต์..พ่อครูเดินมาด้านหลังวิทยาลัยอาชีวะ วันนี้วันหยุดจึงไม่มีใครมาเรียนหรือเข้ามาทำงาน มีเพียงเครื่องจักรกลหลายชนิดที่เป็นสื่อการเรียนการสอนสำหรับนักศึกษาแผนกอาชีวะช่างยนต์ ช่างต่อเรือ ของวิทยาลัยอาชีวศึกษาสัมมาสิกขาวิชาราม หรือผู้ที่สนใจ ได้นำรถมาซ่อมทั้งรถยนต์ทุกประเภทรวมถึงเครื่องยนต์ของเรืออีกด้วย พ่อครูมองเห็นซุ้มขยะที่ท่านสมณะหินจริง และท่านศักดิ์สิทธิ์ (พระอาคันตุกะ)ได้จัดทำขึ้นเอง พ่อครูบอกว่าดีมากเลย ให้ทำไว้ตามจุดต่างๆตามสถานที่คนมาเที่ยวชมบ้านราช
พ่อครูเดินมา ด้านหลังเรือทั้ง 2 ลำ สังเกตที่มือด้านขวาของพ่อครู เมื่อพ่อครูเห็นขวดน้ำที่ใช้แล้วทิ้งไว้ที่พื้นเป็นขยะ ท่านก็จะหยิบขึ้นมาถือไว้ด้านหลัง จนท่านปัจฉาหนักแน่น ต้องนำมาถือเอง เป็นปกติที่พ่อครูเดินไปถ้าท่านเห็นขยะ ก็จะเก็บขึ้นทุกครั้ง..พ่อครูเดินผ่านสะพานปีกหิน มาถึงบริเวณแก้งตำอิดที่ตอนนี้มองไม่เห็นแล้วเพราะมีต้นโสนขึ้นคลุมพื้นที่เต็มไปหมด …ท่านเดินไปรถคำธง แบคโฮ 800 ที่จอดซ่อมตีนตะขาบอยู่ วันนี้ช่างบริษัทใหญ่ของรถแบคโฮได้มาซ่อมถึงบ้านราชเลย..พ่อครูเดินมาดูความเคลื่อนไหวการซ่อมเรือโคกใต้ดินไม่พบผู้ใดทำงาน..ผ่านเข้ามาภายใน สถาบันขยะวิทยาด้วยหัวใจ ท่านสิกขมาตุ ตรงธรรม ช่างอ๊อดและน้องชายท่านสิกขมาตุสร้างฝันใหม่ ที่มาเป็นจิตอาสาช่วยงานซ่อมเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ มากราบนมัสการพ่อครู…
พ่อครูเดินมาด้านหน้า สขจ.ถามว่า ทำไมไม่เห็นมีอะไร ทำไมโล่งอย่างนี้ พวกเรารายงานว่า เมื่อเช้านี้ได้นำขยะกระดาษลังต่างๆขนขึ้นรถโชเลอะ(รถ 6 ล้อ)ไปขายได้ 1 คันรถ 6 ล้อเต็มๆ..จากนั้นพ่อครูขึ้นไปพักผ่อนชั้น 4 เพื่อเตรียมแสดงธรรมในช่วงเย็น..
..จากนั้นพ่อครูขึ้นไปพักผ่อนชั้น 4 เพื่อเตรียมแสดงธรรมในช่วงเย็น..
ก่อนและหลังจากที่พ่อครูแสดงธรรม หลังจากที่พ่อครูเพิ่งจะได้รับหนังสือพิมพ์เราคิดอะไรเล่มใหม่ ฉบับ ๓๓๖ พ่อครูจะเปิดอ่านทันที ทั้งก่อนเทศน์และหลังจากเทศน์เสร็จ เป็นเครื่องแสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ในการเป็น”หนอนหนังสือ”ของแท้ แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเก่า หรือหนังสือใหม่ พ่อครูจะสนใจ หยิบมาอ่านอย่างเอาจริงเอาจังแทบจะทุกครั้ง เป็นตัวอย่างให้กับลูกหลานได้พากเพียรในการเป็นผู้ใฝ่เรียนรู้ในการอ่าน ที่ผู้เขียนทุกคนต่างตั้งใจเขียนเพื่อให้ได้ประโยชน์กับผู้อ่าน ซึ่งพ่อครูก็เป็นเช่นกัน ท่านเป็นตัวอย่างของนักเขียนที่ดี นักอ่านที่ดี นักพูดที่ดี นักฟังที่ดี ครบถ้วนสมบูรณ์แบบของหัวใจนักปราชญ์ สุ จิ ปุ ลิ