..บันทึกผ่านเลนส์ ส่องโพธิกิจ.. พระโพธิสัตว์สร้างคน สร้างธรรมชาติเพื่อเกื้อกูลมวลมนุษยชาติ
วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม 2561
เช้านี้อากาศครึ้มค่อนข้างเย็น อุณหภูมิประมาณ 24 องศาเซลเซียส พ่อครูตื่นนอนแล้วออกกำลังกาย 4 ท่าเป็นประจำตามปกติ สำหรับจำนวนการวิดพื้นถึงวันนี้พ่อครูวิดได้ 16 ครั้งรวดเดียว ส่องผ่านเลนส์มองเห็นแล้วยังทึ่งกับความเพียรเพิ่ม co-efficient ในเรื่องการออกกำลังกายของพ่อครู
สำหรับเช้าวันนี้บริเวณสวนเอาพิษออก จะมีการปรับโครงสร้างใหม่ ต้นไม้ต่างๆเริ่มเจริญเติบโตเขียวขจี เพราะได้รับน้ำฝนชุ่มฉ่ำตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา พ่อครูเห็นตะกร้าที่จักสานด้วยเชือกฟาง ก็ชมว่ามีความประณีตแลดูเหมาะสมกับวิถีชีวิตคนไทย..
..เป็นประจำทุกครั้งก่อนที่พ่อครูจะนั่งทำงาน ท่านปัจฉาจะนิมนต์ชั่งน้ำหนักวันนี้ชั่งน้ำหนักได้ 49.1 กก.น้ำหนักมาตรฐานของพ่อครูแทบจะไม่เกิน 50 กิโลกรัม…พ่อครูยังคงสนใจข่าวคราวเกี่ยวกับการนำตัวหมูป่าทั้ง 13 ชีวิตออกมาจาก ถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน ผ่านทีวีทั้ง 3 ช่อง..
มีผู้ส่งหนังสือเกี่ยวกับวัดธรรมกายมาให้พ่อครู ท่านเปิดอ่านอย่างสนใจเหมือนกับทุกครั้งที่เจอหนังสือไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ ท่านเป็น “หนอนหนังสือ”ที่สนใจการอ่านอยู่เสมอ..หลังจากนั้นพ่อครูทำงานหลักและงานประจำเขียน คืองานเขียนหนังสือธรรมะโลกุตระ ที่พ่อครูปฏิบัติ เป็นโพธิกิจเป็นประจำทุกวัน วันละหลายๆชั่วโมง ซึ่งงานเขียนพ่อครูเป็นธรรมะโลกุตระเพื่อให้มนุษยชาติหลุดพ้นจากวัฏสงสารสู่โลกโลกุตระ…
พ่อครูลงมาฉันภัตตาหารที่ชั้นล่างเฮือนศูนย์สูญ เวลา 11.55 นาที สนทนาทักทายกับท่านปัจฉาเดินดินและท่านสมณะฟ้าไทสักครู่ก่อนที่จะมานั่งโต๊ะฉัน ..ระหว่างพ่อครูฉัน แม่แขก เป็นเมฆ นำคณะครูและนักเรียนของโรงเรียนที่จังหวัดเพชรบูรณ์ที่มาศึกษาดูงานเพื่อไปปรับปรุงพัฒนาโรงเรียนให้เป็นโรงเรียนคุณธรรมโดยเฉพาะการให้นักเรียนได้รับประทานอาหารมังสวิรัติ.. หลังจากพ่อครูฉันภัตตาหารเสร็จ เดินไปพบท่านปัจฉาเดินดินที่กำลังคุยกับ อาแอ๊ด ปลุกดินในเรื่องการปลูกมันและถั่วพันธุ์ต่างๆ.. พ่อครูแวะดูงานก่อสร้างลิฟท์ มีญาติโยมที่มาชมน้ำตกผาแหงน เข้ามากราบนมัสการพ่อครูอย่างนอบน้อม การติดตั้งลิฟท์กำลัง เช็คระบบไฟและการทดสอบการใช้งานก่อนที่จะส่งมอบให้ทางราชธานีอโศก…พ่อครูกลับขึ้นมาภายใน น้ำตกผาแหงนชั้น 2 ออกมาบริเวณข้างน้ำโตน วันนี้อากาศเย็นลมแรงทำให้ลมพัดน้ำโตนไปทางเข้าหมู่บ้าน ทำให้สามารถเดินผ่านเข้า-ออกบริเวณ ทางขึ้นข้างน้ำโตนได้อย่างสะดวก…พ่อครูเดินไปดูที่น้ำโตนผ่านแก่งต่างๆที่มองเห็นเป็นธรรมชาติ อากาศสดชื่นเนื่องจากเปิดน้ำโตนทำให้น้ำที่ตกจากที่สูงทำปฏิกิริยากับอากาศ ทำให้เกิดความร่มรื่น สดชื่น อากาศบริสุทธิ์..พ่อครูสังเกต ต้นตะคร้อที่พริ้วไสวตามละอองของน้ำโตนที่มาสัมผัส เหมือนต้นตะคร้อเต้นระบำท่ามกลางแรงลมพัดน้ำโตนมากระทบ..พ่อครูสังเกตเห็นบริเวณแอ่งพื้นน้ำโตนที่ตกลงมามีน้ำขังอยู่เล็กน้อยเหมือนก้บสระน้ำ มีทรายที่พัดมากองไล่เลี่ยกันคล้ายหาดทราย ก่อนเดินมาถึงน้ำโตนจะมีหาดทราย แล้วถึงจะเข้าไปเล่นน้ำโตนเป็นการสร้างธรรมชาติเพื่อให้ธรรมชาตินั้นเกื้อกูล ดิน น้ำ ลม ไฟในชุมชนบวรแห่งนี้ ส่องผ่านเลนส์มองเห็นคุณค่าของ “น้ำ” น้ำอยู่ที่ไหนก็จะเป็นผู้สร้างโดยเฉพาะสร้างการเจริญเติบโตให้กับพีชะ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของชีวะทุกชนิด
พ่อครูเดินลุยน้ำบริเวณแก่งของน้ำโตน มองเห็นความเป็นธรรมชาติที่สามารถสัมผัสได้จากการสูดอากาศที่บริสุทธิ์ เสียงน้ำเต้นระบำกระทบโขดหินเป็นเสียงธรรมชาติบำบัด ที่เป็นเหมือนอโรมาเทอราปีได้เป็นอย่างดี..พ่อครูสังเกตเห็นต้นกระโดนน้ำที่ล้อมมา เวลานี้เติบโตได้ดี เริ่มออกดอกสีแดงงดงาม..มองไปที่น้ำโตนเป็นมุมพักผ่อนหย่อนใจสำหรับผู้ที่ต้องการผ่อนคลายความเหนื่อยล้ากับการงาน สามารถมานอนเล่น นั่งเล่นที่บริเวณน้ำโตน แล้วให้น้ำโตนนวดตัว เป็นสปาธรรมชาติชั้นดี..
พ่อครูเดินมาหน้าน้ำตกผาแหงน มองไปที่สวนไม้ตายซึ่งท่านสมณะคมคิด ทันตภาโว กำลังรับงานใหม่จากพ่อครู ในการทำม่านน้ำที่สวนไม้ตาย ถ้าแล้วเสร็จจะเห็นน้ำที่ไหลลงมาจากสวนไม้ตาย มองไปดั่งเป็นทิวม่านแนวยาวตั้งแต่น้ำตกผาแหงนจนถึงน้ำตกหินน้ำไหล…ทุกครั้งที่พ่อครูมาออกแบบจัดภูมิทัศน์ ส่องผ่านเลนส์จะเห็นการเอาใจใส่ การเอาภาระในการออกแบบจัดภูมิทัศน์ต่างๆภายในบวรราชธานีอโศกแห่งนี้ ด้วยจิตพระโพธิสัตว์ของพ่อครู จึงใส่ใจในรายละเอียดต่างๆในการสร้างธรรมชาติ สร้างสิ่งแวดล้อม ที่ทำให้มวลมนุษยชาติทุกคนได้สามารถมาพักผ่อน ผ่อนคลายได้ โดยที่ไม่หวังผลตอบแทนใดๆ จากทุกคน…วันนี้ก็ยังมีผู้ที่สนใจ มานั่งเล่น มาถ่ายรูปกันอยู่บ้าง ตรงตามเจตนารมย์ที่พ่อครูอยากให้ทุกคนไม่ว่าจะเป็น เด็ก ผู้ใหญ่ คนไทย หรือเทศ คนศาสนาใดก็สามารถมาเยี่ยมเยือนเที่ยวเล่นน้ำผ่อนคลายกันได้ แต่ที่ต้องขอความร่วมมือกับทุกคนในการช่วยกันรักษาความสะอาด ..ท่านปัจฉาดินไทยังเห็นซองบุหรี่ตกที่พื้นเกือบทุกครั้งที่เดินมาบริเวณที่มีผู้คนมาเล่นน้ำ ท่านปัจฉายังมีความห่วงใยถึงผู้คนที่ยังติดบุหรี่ ท่านปัจฉาดินไทถามถึงราคาบุหรี่ว่าเดี๋ยวนี้ราคาซองละเท่าไหร่ พวกเราตอบว่าคงเกือบ 100 บาทแล้ว ทำให้นึกถึงรูรั่วของชีวิตหลายคนในเรื่องของค่าใช้จ่ายและสุขภาพสำหรับบุคคลที่ยังติดบุหรี่… สถานที่แห่งนี้ บวรราชธานีอโศก ตระหนักถึงสิ่งเสพติดเหล่านี้ จึงห้ามสูบบุหรี่และนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มารับประทาน อย่างน้อยเพียงไม่กี่ชั่วโมงที่เขาเข้ามาแผ่นดินพุทธแห่งนี้ในช่วงเวลาที่เขามาเล่นน้ำ ชื่นชมธรรมชาติ เขายังสามารถที่จะอดสูบบุหรี่ได้ ซึ่งเป็นผลดีต่อชีวิตและสุขภาพของเขาคนนั้นเอง…
พ่อครูบอกว่าที่เรือเจิ้นเทิ้น คุณแสงศิลป์ เดือนหงายยังมีโครงการปั้นนกที่หัวเรือและทำงานศิลปะต่อเติมอีกหลายจุด…พ่อครูมองไปที่เรือโคกใต้ดิน ท่านมองไว้ว่าถ้าเรือโคกใต้ดินแล้วเสร็จก็จะงดงามรับกันกับเรือเจิ้นเทิ้นซึ่งอยู่มุมตรงข้ามกัน..เลยไปหน่อย เจ้านกเอี้ยงยังทิ้งร่องรอยความสกปรกจากปฏิกูลให้เห็นอยู่ทุกครั้ง..
พ่อครูเดินลงมาบันได หน้าอาคารบวร สังเกตร่องรอยการกระเทาะของทรายล้างที่บางส่วนกร่อนแตก…พ่อครูเดินลงมาถนนตรงมูน หน้าอาคารบวรมองเห็นต้นโพธิ์ 3 ต้นเวลานี้เจริญเติบโตสูงชะลูด แตกใบงดงาม ท่านบอกว่าอีกไม่นานต้นโพธิ์สามต้นนี้ จะเป็นร่มเงาร่มรื่นให้กับบริเวณนี้…เดินมาบริเวณทางเข้าน้ำตกผาแหงน ท่านปัจฉาดินไทถามถึงบริเวณติดตั้งองค์รูปลอยโลหะของพ่อครู ท่านบอกว่าอยู่ที่ด้านหน้าหินตั้ง..เลยมาอีกหน่อยที่ซุ้มขยะยังเห็นผู้มาเที่ยว เล่นน้ำยังไม่ค่อยให้ความร่วมมือในการแยกขยะ ชาวบ้านราชเองคงต้องมีความพากเพียรประชาสัมพันธ์ ทำความเข้าใจกันเรื่องนี้อีกหลายครั้ง เพื่อปลุกจิตสำนึกในการช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม…เด็กที่มาเที่ยวเล่น สนใจหัวโขนรูปลิงและยักษ์ต่างๆผู้ปกครองบอกว่าเขามาเจอพวก(ลิง)เลยได้ไปถ่ายรูป Selfie เสมือนเป็นหนึ่งในสมุนพระรามเช่นกัน…
พ่อครูเดินกลับมาที่หน้าน้ำตกผาแหงน ช่างเชื่อมเหล็กกำลังลำเลียงโครงสร้างเหล็กสีเขียวเพื่อนำไปติดตั้งชั้น 4 เพื่อทำซุ้มสำหรับปลูกต้นไม้ลดความร้อนบริเวณชั้น 4 แทนการใช้เครื่องปรับอากาศ..พ่อครูแวะมาที่ชั้น 3 เฮือนศูนย์สูญ ดูงานสร้างม่านน้ำ วันนี้ไม่มีช่างมาทำงาน พ่อครูให้ความสนใจต้นไม้ริมระเบียงที่บริเวณชั้น 3 หลายต้นปลูกมาเป็นเวลาหลายปีแล้วอย่างเช่น ว่านงาช้างซึ่งออกดอกหอมกรุ่นตลอดทั้งวัน มีแก้วมังกรที่ดูแลตัวเองตามธรรมชาติ กำลังออกดอกออกผล อยู่รอบตึกของชั้น 3 พ่อครูสนใจว่านงาช้างที่เติบโตเองตามธรรมชาติเลี้ยงได้อย่างงดงามเต็มกระถางริมระเบียง ออกดอกขนาดเล็ก หอมทนนาน.
..พ่อครูขึ้นมาชั้น 4 ช่างกำลังเริ่มงานก่อสร้างบริเวณลาน ทำซุ้มโครงเหล็กสำหรับต้นไม้เลื้อย…มาถึงโต๊ะทำงานพ่อครู ส่องผ่านเลนส์สังเกตเห็นหนังสืออ้างอิงพจนานุกรมพระไตรปิฎกต่างๆ 4-5 เล่มที่พ่อครูวางไว้สำหรับประกอบอ้างอิงการเขียนธรรมะของพ่อครู เป็นความกรุณาของพระโพธิสัตว์ที่จะเผยแพร่ธรรมะโลกุตระที่พ่อครูมีเจตนารมณ์และบอกกับลูกๆอยู่เสมอว่า “อาตมามาเกิดในยุคนี้เพื่อมารื้อฟื้นธรรมะของพระพุทธเจ้า”
เวลาประมาณ 18.00 นายพงศ์ธร จันทร์สวัสดิ์ นายอำเภอดอนมดแดง ได้มากราบนมัสการพ่อครู นำหนังสือมากราบนิมนต์พ่อครูและชาวบวรราชธานีอโศกไปร่วมพิธีบวงสวรง ดวงพระวิญญาน เจริญพระพุทธมนต์และสวดทักษิณานุปทาน ถวายพระปทุมวรราชสุริยวงศ์ (เจ้าคำผง)ในวันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม 2561 เวลา 7.39 นาทีเป็นต้นไป ณ บริเวณเกาะดอนมดแดง ตำบลดอนมดแดง อำเภอดอนมดแดง จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีพระพรหมวชิรวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคมเจ้าอาวาสวัดยานนาวาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ พลเอกนิรุทธ เกตุสิริ นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานีเป็นประธานฝ่ายฆราวาส นายอำเภอดอนมดแดงจึงขอกราบนมัสการนิมนต์พ่อครูและคณะเข้าร่วมพิธีโดยล่องเรือธรรมยาตรา ล่องตามลำน้ำมูนมาขึ้นฝั่ง ร่วมพิธีในวันและเวลาดังกล่าว ซึ่งบริเวณเกาะดอนมดแดงเป็นแหล่งโบราณประวัติศาสตร์ต้นกำเนิดของจังหวัดอุบลราชธานี พ่อครูสนทนาด้วยซักครู่ ก่อนที่ท่านนายอำเภอจะลากลับ พ่อครูได้มอบหนังสือคนจนที่มีแบบและหนังสือสัจจะชีวิตเล่ม 5 ให้กับท่านนายอำเภอดอนมดแดง..