610711_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ความจริง ความรู้ จริงที่สุดในทุกปัจจุบัน
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://drive.google.com/open?id=17gLL5aAW1T-Tqw5C9aTfiM8rgEcvTyf45Tf6pMhBZYQ
ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=1jaPrzsY2rfZAtSjZG-JQFOylUlMC90Q4
สมณะฟ้าไทว่า…วันนี้เป็นวันพุธที่ 11 กรกฎาคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก ที่บวรราชธานีอโศกปีนี้ก็ปลูกข้าวมาก นกก็ลงมากิน ใครว่างก็ไปเดินไล่นกได้ คนไทยตอนนี้ก็กำลังมีความสุขจากเหตุการณ์ที่มีทั้งชาวไทยและต่างประเทศช่วยกันกรณีเด็กทีมหมูป่า 13 คนติดถ้ำ ชาวอโศกก็พากันเสียสละทำเพื่อให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆทุกๆวัน
พ่อครูว่า…ก่อนอื่นก็มาโอภาปรษศรัยกับ SMS กัน
สื่อธรรมะพ่อครู(สมาธิพุทธ) ตอน ธรรมะพระพุทธเจ้าไม่ใช่ธรรมะหนีโลก แต่เป็นธรรมะเหนือโลก
_0015พระพุทธเจ้าเคยตรัสสอนเกี่ยวกับเรื่องถ้ำไว้บ้างหรือเปล่าครับ
พ่อครูว่า..มนุษย์ก็มีความหลงเรื่องถ้ำ เรื่องนี้ก็ขอขยายความเป็นเรื่องที่ยากจะเข้าใจกัน ในยุคพระพุทธเจ้า วัตถุไม่ได้เจริญรุ่งเรืองอะไรมากมายเหมือนยุคสมัยนี้ สมัยพระพุทธเจ้าไม่มีเมืองคอนกรีต มีอย่างเก่งก็เมือง อิฐหินดินปูน เอาดินเหนียวมายาอิฐ เป็นป่า เราจินตนาการย้อนไปในประวัติศาสตร์ ยุคโน้นเป็นยุคป่า ขนาดพระเจ้าอชาตศัตรูจะไปพบพระพุทธเจ้า ไปตอนมืดๆ ก็ยังยกทัพไป วังกับเขาคิชกูฏใกล้กันนิดเดียว วังนี่เจริญมากแล้วนะ กับป่าเขานั้นใกล้กัน คนนึกไม่ออก ยุคโน้นเป็นยุคป่าๆเถื่อนๆ
ความยึดติดของคน ยึดติดกันมากกว่าพระพุทธเจ้าจะมาอุบัติ ก็ได้ไปหลงความยึดติดว่าการปฏิบัติธรรมนั้นคือจะต้องไปอยู่ในป่าเขาถ้ำ หนีไปจากผัสสะ หนีไปจากความเป็นปกติสามัญของความเป็นมนุษย์ ให้ห่างไป เรียกว่าหนีสังคม หนีกิเลส ง่ายๆตื้นๆ จะได้ไม่มีอะไรกระทบ จะได้ไม่รู้สึกอะไรมาก มันตื้นๆง่ายๆ
สรุปแล้วก็คือ คนเข้าใจการหลุดพ้นคือไม่ต้องสัมผัสแตะต้อง ไม่ต้องยุ่งอะไรกับใครเลยมันง่าย ซึ่งมันตรงกันข้ามกันกับความรู้ของพระพุทธเจ้าที่ลึกซึ้ง ตรงกันข้ามกันอย่างคนละฟ้ากับเหวเลย ของพระพุทธเจ้านั้นกระทบสัมผัสอยู่ แต่อยู่เหนือ อุตระ โลกุตระ จะให้โลกีย์หยาบแรงร้อน ดุเดือดขนาดไหนเราก็อยู่เหนือ เหมือนกับเราเอามือจับหัวเด็ก เด็กจะดิ้นออกฤทธิ์แรงอย่างไรแกก็ดิ้นไป เราก็มีอำนาจที่จะอยู่เหนือมัน เขาทำอะไรเราไม่ได้เลย นี่คือสุดยอดแห่งความตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ธรรมะพระพุทธเจ้าไม่ใช่ธรรมะ “หนี”(โลก) แต่เป็นธรรมะ “เหนือ”(โลก)…พ่อครู 11 ก.ค. 2561
อันนี้มันไกลกันคนละโลกเลย คนที่ไปนั่งหาที่หลบ ปิดหูปิดตาจึงเป็นเรื่องเหลวไหลนอกรีต ไม่มีวันได้พบนิพพานไม่มีวันได้มีวันพบความสำเร็จสูงสุดของธรรมะพระพุทธเจ้าเลย
ในยุคนั้นมันนานมากจึงได้หลงไปเยอะ พระพุทธเจ้าก็ได้นำมาฟื้นกลับขึ้นมา เอาขึ้นมาได้แล้ว ผ่านไปสองพันกว่าปีก็หลงกลับอีกทุกวันนี้ เกือบเป็นอย่างเก่าแล้ว ที่มันไม่เหมือนอย่างเก่าคือแย่กว่าเก่า คือเรื่องสร้างเรื่องในโลกแสงสีปัจจุบันสมัยใหม่ มันเลย ที่หลงว่า ออกนอกป่าก็ไม่ใช่ อยู่ในเมืองก็ไม่ใช่ เลยกลายเป็นคนพะอืดพะอมจะเอาทั้ง 2 อย่างแล้วไม่ดีทั้งสองอย่างด้วยนะ เอาผิดๆทั้งสองอย่างด้วยนะ ทั้งฤาษีที่เป็นสุกภกิณหะดับดำ ทั้งที่หลงสว่าง อาภัสรา โลกนี้สว่างจ้ามันก็เลยน่าสงสาร จัดจ้านหนัก
เพราะฉะนั้น คำว่าพระป่า ไม่มีในศาสนาพุทธ คำว่าศาสนาพุทธไม่มีพระป่า มีแต่พระบ้านอย่างเดียว แต่กลับหลงผิดไปออกป่า ในอัมพัฏฐสูตร ก็มีว่าไว้ว่า ในอนาคตศาสนาพุทธจะเสื่อม สมัยนั้นศาสนาพุทธยังไม่เสื่อมเลย คือจะไปออกป่าหาอาจารย์ในป่า สร้างโรงไฟในป่า จนเดี๋ยวนี้ไม่ไปสร้างในป่าแล้ว สร้างในเมืองเลยสร้างอย่างใหญ่ด้วยเหมือนกับธรรมกายสร้าง มีลูกโลกมีจานบิน บ้าๆบอๆ นึกว่าเป็นเรื่องสุดยอด
ทุกวันนี้คนได้หลงผิดไปไกลมากทั้งในบริบทสังคมและภูมิประเทศ คนละเรื่องกันเลย เพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าเข้าใจปัจจุบันธรรม ขณะนี้ สังคมและความเป็นจริงคืออะไร หลงผิดออกป่านั้นไม่จริง สัจธรรมของพระพุทธเจ้าไม่ใช่แบบนั้น
(พ่อครูไอ ตัดออกด้วย)
_2166ผมว่าพ่อท่านมีแต่เสียกับเสียครับ
1.ถ้าพลเอกประยุทธ์เปี้ยนไป พ่อท่านก็จะซ้ำรอย ยันตระ-ทักษิณ
2.ยิ่งพ่อท่านเชียร์กองหนุนยิ่งลด เพราะสังคมไม่เอาตามพ่อท่าน(พ่อท่านคือพญาแร้ง-ตัวสกั้ง) กราบขออภัยพ่อท่านครับที่มีความเห็นต่าง!!!!
พ่อครูว่า…ยันตระกับทักษิณ แรกเริ่มอาตมาสัมผัสแล้ว ก็ ว่าอื้อหือ ต้องชม อาตมาเป็นคนที่อยู่กับความจริงปัจจุบันอดีตกับอนาคตอาตมาว่ามันจริง อดีตก็ไม่จริง อนาคตก็ไม่จริง ปัจจุบันนี้จริง ต้องมีความรู้ที่ถูกต้อง ทำทุกปัจจุบันให้ถูกต้องจริงเลยก็คืออรหันต์ แต่ถ้าคุณแหว่งเว้า ไม่ได้ทุกปัจจุบันก็ไม่แน่ไม่เที่ยง หากคุณทำได้ทุกปัจจุบันก็คืออรหันต์
อาตมาเป็นคนที่อยู่กับปัจจุบัน อดีตกับอนาคตอาตมาไม่ถือสาเพราะมันไม่จริง
อดีตเปลี่ยนได้ คุณต้องผ่านปัจจุบันไปถึงอดีต อดีตเดิมเปลี่ยนไม่ได้แล้ว แต่ทุกปัจจุบันจะตกไปถึงอดีต อดีตจะไม่เที่ยง เติมอยู่ตลอด ถือปัจจุบันเป็นตัวแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ อดีตมันเสร็จไปแล้ว
อาตมาเป็นคนที่ซื่อตรงต่อ ความจริงกับความรู้ ความจริงกับความรู้นั้นมันหายากมากจริงๆในคนยุคนี้ในมนุษย์ยุคนี้ ทีนี้คนเขาติงอาตมาก็ต้องขอขอบคุณที่ห่วงใย
ถ้าอาตมาเป็นคนมีนิสัย จิตกลัวจะเสีย คนเขาจะหาว่าเป็นอย่างนี้เสีย เสียบุคลิกเสียหน้า อะไรก็แล้วแต่เข้าใจว่าเลวว่าผิดก็แล้วแต่มันก็เสียใช่ไหม ถ้าอาตมาเป็นคนขี้กลัว กลัวว่าตัวเองจะเสีย อาตมาไม่ทำงานมาถึงขนาดนี้หรอก อาตมาไม่เป็นคนอย่างนั้น เพราะที่เห็นที่ได้แสดงออก ความจริงกับความรู้ที่อาตมาทำมาตลอด มันเป็นเรื่องที่ควรแก่การแสดงให้แก่โลกแก่สังคม เพราะมันหายากอย่างที่พูดแล้ว ถ้าเกิดอาตมาไปกลัวเสีย อาตมาจะทำงานนี้ไม่ได้เลย เพราะอาตมาขออภัยที่ต้องพูดอย่างนี้ อาตมาถูกอยู่คนเดียว นอกนั้นเขาเข้าใจผิดหมด แล้วอาตมาจะเอาตรงไหนมาดี อาตมาก็ต้องเสียวันยังค่ำ ถ้าหากอาตมากลัวเสียไม่ได้ทำงานหรอก สังคมสงฆ์ส่วนใหญ่ก็เห็นว่าอาตมาผิดทั้งนั้น ถ้าพูดไปกลัวเสีย แล้วจะทำงานได้อย่างไร อาตมาก็ต้องทำต้องยืนยันต้องทนอุตสาหะ ต้องพยายามแจกแจงสัจธรรม เพราะอาตมาจริงจังในความรู้กับความจริง
ใครที่เจตนาจะเอาความรู้กับความจริงก็ได้ ใครไม่เอาก็ไม่ได้ หรือผู้ที่ตีทิ้งอาตมาปิดประตูที่จะได้ นอกจากคนตั้งใจฟังและเอาจริงถึงจะได้ ขนาดนั้นยังไม่ง่าย แล้วจะให้ทำอย่างไรอีกนะ ใช่ไหมอาตมาจึงจริงจังเลย
เรื่องของความจริงและความรู้ที่มีอยู่ในคน ส่วนหนึ่งเป็นสมมติ ส่วนหนึ่งเป็นปรมัตถ์ ความจริงก็คือสัจธรรม มันเป็นของมันตามนั้น ส่วนความรู้ก็คือคน ความจริงก็คือสัจธรรม
ซึ่งคนจะเป็นผู้มีความจริงส่วนหนึ่งส่วนน้อย ความจริงแบบโลกีย์ แบบโลกุตระ คนจะมีความจริงนั้นๆได้ และแม้เขาจะมีแสดงออกแว๊บหนึ่ง ในปัจจุบันใด เป็นความรู้หรือความจริงของเขา แสดงออกมาในปัจจุบันใดก็แล้วแต่ อาตมาชื่นชม
หนึ่งมันหายากมากเลย และแม้เขาจะแสดงออกจะเสแสร้งเป็น Pretender man ดราม่าออกมา แต่มันแสดงความจริงความรู้ที่ควรได้สัมผัส ก็ต้องชื่นชม แม้จะแว่บเดียว
อาตมาเข้าใจอย่างนั้นจริงๆ ใครติอาตมาอย่าติเสียให้ยากเลย อาตมาไม่มีความหลุดหรอก 1.ไม่กลัวเสีย 2. ไม่หยุดยั้งจะแสดงความจริงความรู้นี้ 3. อาตมามั่นใจว่าความจริงความรู้นี้มันใช่
อาตมาถึงได้ชื่นชมความจริงความรู้ คนที่มีความจริงอยู่แม้ในปัจจุบันนิดนึงก็ตาม ใครแสดงออก นิดๆ ใครจะแสดงออกมาอาตมาสัมผัสแล้วจริง นิดเดียว อาตมาพอใจ แต่เขาจะเปลี่ยนไปก็เรื่องของเขา อาตมาไปรับผิดชอบได้อย่างไร แต่ถ้าเขาแสดงออกมากๆ ก็ดี สรุปอีก ก็มันหายาก ก็มันมีเกิดมาในปัจจุบันใดก็น่าชื่นชม ทุกในความจริงความรู้นี้
อาตมาชื่นชมความจริงที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นๆ ซึ่งมันหายากมากในยุคนี้ จริงๆเลย หายาก อาตมาจึงชื่นชมทุกปัจจุบัน ที่เป็นความจริงนั้นๆในคนนั้นๆ ใครก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นยันตระ ไม่ว่าจะเป็นทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ธัมมชโยก็ตาม แต่หาในธัมมชโยไม่ได้เลยไม่ได้ชม ถ้าหากธัมมชโยมีนิดหนึ่งอาตมาก็จะชม แต่มันไม่มีเลยตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงบัดนี้ ยันตระก็ตอนเริ่มต้นทำท่าทางดี แต่มาทีเหลวเละเลย ชื่นชมในทุกปัจจุบันที่มีความจริงอันนั้น
ถ้าเขายังไม่เปลี่ยนไป เขาแสดงความจริงนี้ทุกปัจจุบันๆ อาตมาก็ได้ชื่นชมทุกปัจจุบัน
แต่ถ้าคนผู้นั้นไม่แสดง ความจริงในปัจจุบันใดอาตมาก็ไม่ชื่นชมในปัจจุบันนั้น จะติเอาด้วย แต่อย่าทำเล่นนะ อาตมาติได้ถึงขั้นด่านะ อาตมานี่ฝีปากใช่เล่น ติได้ถึงขั้นด่า
จะชมก็ชมแต่ถ้าเปลี่ยนไป ติ เปลี่ยนไปอีกติอีก กลับมาดีอีก ชมอีก อาตมาเอาตัวความจริง ความรู้ความจริงดีก็ต้องชม แสดงออกเมื่อใดอาตมาเอาความจริงที่ปัจจุบัน อดีตไม่ไปชมมากหรอก แก้ไขไม่ได้ อนาคตก็ยังไม่มา อาตมาอยู่กับปัจจุบัน
ถ้าผู้ใดแสดงความจริงไม่เปลี่ยนเลยในทุกปัจจุบันคนๆนี้ก็จะได้รับการชื่นชมจากอาตมาไปตลอดแน่นอนพากเพียรไป ถ้าเปลี่ยนไปเมื่อไหร่ก็ไม่ชื่นชมเมื่อนั้น จะถูกอาตมาติได้ถ้าเปลี่ยนแน่นอน อาตมาเอาความจริงในปัจจุบันเท่านั้น
หากผู้ใดแสดงความจริงในปัจจุบันต่อเนื่องอยู่นานเท่าใดความจริงก็จะน่าชื่นชมอยู่ได้ตลอดกาลนานเช่นนั้น ขอยืนยันว่าความจริงและความรู้นี้มันหายากมากในยุคนี้ เพราะฉะนั้น มันเหลือนิดนึงที่จะชมก็ต้องชม ชมให้มากให้ซ้ำด้วย อย่าเปลี่ยนนะ เปลี่ยนเมื่อใดว่า นายกฯตู่ก็เถอะ แต่อาตมาไม่อยากให้เปลี่ยนนะ
อย่างไรๆก็ขอให้อาตมาได้ชื่นชมเถอะนะ มันเป็นของหายากด้วย
ปกติอาตมาเป็นคนติแรงด้วย เขาหาว่าปากจัดปากร้ายด้วย ตำหนิอยู่แทบทุกปัจจุบันด้วย ก็มีให้ชมบ้างแทรกบ้างก็มี
ที่จริง พูดถึงนายกฯตู่
คนส่วนมากทั่วไปอย่าว่าแต่คนไทยตอนนี้ อาตมาว่า ต่างประเทศเขาก็ชัดเจนขึ้น เพราะฉะนั้นในกฎเหล็ก แม้แต่ในอเมริกา ท่าทีตอนแรก ยังไม่รับเพราะว่า เป็นนายกฯปฏิวัติรัฐประหาร แต่สุดท้ายก็ยอมแพ้ความจริง ความรู้ ความจริงใจของนายกฯตู่ จนทุกวันนี้ ทุกประเทศ ไม่มีประเทศไหนว่า นี่รัฐประหาร เผด็จการ ไม่ใช่ประชาธิปไตย ไม่ใช่ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยที่ไหนจะไม่ต้อนรับนายกฯตู่ ความจริงก็พิสูจน์ยืนยันทุกอย่าง
อย่างอาตมานี้ มั่นใจในตัวเอง ว่าอาตมาทำสิ่งจริง และมีความรู้ และมั่นใจว่าเป็นความรู้ที่ถูกต้องและเป็นความจริง ใครจะตำหนิมาอาตมาก็ไม่ได้หน้าด้าน ก็เข้าใจเขา ห้ามเขาไม่ได้หรอก
-
เขาไม่รู้ 2. เขามีความผิดที่อาตมาว่า เขาบกพร่องในสิ่งที่อาตมาได้ตำหนิ เขาเป็นตัวเขาเป็นดังที่อาตมาว่า มันอยู่ที่ตัวเขา สองข้อใหญ่ก็ต้องตำหนิอาตมา 2 ข้อใหญ่จึงยืนยันความจริงว่า คนผิด คนไม่รู้ เยอะ ใช่ไหม
อาตมามาพูดความผิด มันตำหนิ ความผิด มาให้ความรู้เขาก็ไม่รับ เพราะเขาไม่รู้จึงรับรู้ได้ยากมาก อาตมาเข้าใจจุดเหล่านี้อยู่ตลอดเวลาจึงไม่ได้ท้อเลย เพราะสังคมเป็นอย่างนี้จริงๆ
อาตมาเข้าใจอยู่อย่างนี้ ทีนี้คนไม่รู้ เข้าใจไม่ได้ ถึงขั้นเข้าใจผิดเป็นธรรมดา แทนที่จะชมอาตมา เขาก็มาด่าว่าอาตมาแน่ ตำหนิอาตมา แม้ทุกวันนี้เขาก็ยังยอมให้เป็นอยู่อย่างที่ว่า ไม่ถือว่าอาตมาจะเหลืออะไรที่จะเสียแล้ว เพราะฉะนั้นแค่อาตมาจะชมนายกฯตู่แล้วเขาจะว่าอาตมาเสีย ก็เอา
อาตมาบอกแล้วว่าอาตมาเป็นคนที่มีข้อด้อย
อาตมาพยายามดึงข้อด้อยของอาตมา ประมวลได้ 10 ข้อ
-
มีความจริงใจสูงในการแสดงออกไม่ค่อยปิดบังอะไรซื่อๆตรงๆ ไม่ลดเลี้ยว ตรงเกินไปด้วย ตรงเปรี้ยงๆๆเลย
-
แสดงออกเต็มที่ ต้องการให้คนรู้คนเห็นชัดๆไม่ออมมือ ไม่เหยาะแหยะ ว่าไหม นี่เป็นข้อด้อยของอาตมา
-
ไม่สำรวมกิริยาให้สวยให้เท่ให้สุภาพ
-
ปฏิบัติตามพระพุทธเจ้าจริงจัง ไม่อนุโลมเท่าที่คนยุคนี้เขาอ่อนแอล้มเหลว ที่อยากให้อนุโลม จริง ปฏิบัติตามพระพุทธเจ้า คนยุคนี้เขาอ่อนแออยากให้อนุโลมอาตมาก็ไม่อนุโลมให้เขา
-
เป็นคนไม่กลัวเสียหน้า ถ้าจะแสดงอะไรออกมาจะว่ามารยาทไม่ค่อยดีก็เท่านั้น มารยาทไม่มีเลยก็ได้
-
เป็นคนไม่กลัวคนจะไม่มาเป็นบริวาร ไม่มาก็ไม่มา ได้เท่านี้ก็เอา(วะ)
-
จึงไม่สร้างภาพ รังเกียจการสร้างภาพเอาด้วย เพราะว่าการสร้างภาพเป็นการหลอกลวง
-
ไม่กลัวคนจะไม่ยกย่อง ไม่กลัวคนจะไม่นับถือ ใครไม่ยกย่องก็ไม่เป็นไร ใครไม่นับถือเขาก็ไม่นับถือ ไม่กลัว ช่างคุณสิ ศีรษะใครศีรษะมัน I don’t care If the sun Don’t shine, I don’t care If the moon’s gone blind.
-
ซื่อตรงต่อความจริงต่อสัจธรรมสูงสุด จนถูกเข้าใจผิดว่ายึดมั่นถือมั่น ดื้อดึงดัน เอา เอาเข้าไป
-
อาตมา นิคคัณเห นิคหารหัง ปัคคัณเห ปัคคหารหัง เคร่งครัดเกินไป ติคนที่ควรติ ชมคนที่ควรชม ในข้อนี้อาตมาเคร่งครัดเกินไปก็เป็นข้อด้อย
จะหามากกว่า 10 ข้อก็ได้แต่เอาแค่นี้ อาตมาใคร่ครวญก่อนจึงตำหนิ ไม่เช่นนั้นหน้าแตกตาย ติผิดๆ
_ดช.คินบอกว่า …หลวงปู่ครับหนูอยากช่วยแม่ทำถังขยะและช่วยแม่กวาดใบไม้
พ่อครูว่า…เป็นความรู้สึกของเด็กในที่นี้แสดงออกมาก็เป็นเรื่องที่ดีมาก
อาตมาว่าอาตมาจะเชียร์ เขาว่า ยิ่งเชียร์กองหนุนยิ่งลด แต่มีคนเอาตามอยู่นะแม้แต่จะมีน้อยก็ตาม อาตมาก็ต้องเอาคนที่อยู่กลางๆหรือชอบ คนไม่เชียร์สิ่งควรเชียร์ในสังคม อาตมาก็ต้องช่วยเขาบ้าง
_0015สร้างกรรมในลักษณะใดจึงมีวิบากให้เกิดอุบัติเหตุหมู่หรือการตายหมู่ ครับ
พ่อครูว่า…อาตมาไม่ค่อยจะเก่งในเรื่องของกรรมวิบาก ไม่เก่ง เพราะฉะนั้นถามเรื่องที่จะบอกว่าทำเหตุอะไรจึงเกิดวิบากอย่างนี้ อาตมาไม่เก่ง ใช้ปฏิภาณปัญญา เอามาพูด เราไม่รู้จริง เราไม่รู้เหตุตั้งแต่ชาตินั้นชาตินี้ มาเป็นชาตินี้จึงเป็นอย่างนี้พระพุทธเจ้าท่านรู้ได้ อาตมายังภูมิไม่ถึงก็เลยยังทำไม่ได้ ก็สนองความอยากรู้คุณไม่ได้ ขออภัย
_จุ๋ม สุมาลี · ยุคนี้ไม่มีใครอธิบายได้ชัดเจนแจ่มแจ้งเหมือนพ่อครูเลยเจ้าค่ะ
_3867กราบขอบคุณลุงตู่บิ๊กคสช.ร่วม4เหล่าทัพบกฯเรือฯอากาศฯตร.ฯพาหมูป่ากลับบ้านร่วมกับนักดำน้ำนานาชาติหน่วยชีลคณะผู้ว่าฯจิตอาสาฯทุกทีมงานฯคืนความสุขให้ปชช.ปลื้มปิติในเดือนศิริมงคลในล้นเกล้าฯของปวงชนชาวไทย!ลูกไทย ใจภักดิ์ฯ
_เดนนี่ ลีแมนส์ : ไปเที่ยวไม่ดี แล้วเมืองไทยเน้นเป็นเมืองท่องเที่ยว เป็นหลัก ขอความคิดเห็นครับ ด้วยความนับถือ
พ่อครูว่า…หากประเทศใดยังรอรายได้จากการท่องเที่ยว หรือต้องขอให้ประชาชนประเทศอื่นมาลงทุนในประเทศตัวเอง ประเทศใดก็แล้วแต่ ที่ยังอยากได้รายได้จากการท่องเที่ยว อาตมาอยู่ที่ไหนก็แล้วแต่ สร้างสถานที่ของเราให้เป็นที่คนได้มาพักผ่อนหย่อนใจมาพักอาศัย สร้างอย่างนั้นจริง โดยไม่ได้คิดให้ใครมาเที่ยวแล้วจะเอาอะไรได้จากใครเขา ไม่เคยคิด แต่ไหนแต่ไรมา สร้างให้ ลงทุนเยอะ เป็นที่ๆมาได้ ราชธานีอโศกยิ่งกว่ารีสอร์ทเมืองเรือ พักฟรีนะ มีอาหารการกิน มาพักอาศัยมาประพฤติปฏิบัติ จะมากินมานอน แต่อย่ามาแสดงอะไรที่ไม่ดี หากคุณอยู่ดีๆ ก็อาศัยได้ มีสถานที่มากพอ แม้แต่อาคารบวรสร้างเพื่อคนให้ใช้เป็นสาธารณะ นี่เขาก็บอกว่าอยากให้มีเรือ ธรรมยาตรา ในงาน บวงสรวงพระวิญญาณพระประทุมวรราชสุริยวงศ์ (เจ้าคำผง) พรุ่งนี้ เขาก็อยากให้มีขบวนเรือไปธรรมยาตรา แต่อาตมาก็คิดว่าเขาคงไม่ถนัด เรามีกระบวนเรือจะให้ทำ อาตมาจะไปร่วมมือจะเป็นการยัดเยียดไหม แต่ก็บอกให้พวกเราเตรียมเรือไว้
มีเรือเครื่อง เรือขะน่อยน้ำมูน และก็เรืออื่นๆอีก เอาออกมาวิ่งบ้าง ไม่อย่างนั้น แม่น้ำมูลก็จะมีแต่เรือหาปลา
การท่องเที่ยวมีนัยยะเช่นนี้ ท่องเที่ยว เพื่อมาเที่ยวแล้วแสดงความเลอะเทอะ พฤติกรรมไม่ดีนิสัยไม่ดี ทิ้งขว้างเลอะเทอะ ทำลายข้าวของ เรื่องนั้นขอร้องอย่าทำอย่างนั้นให้มาทำนิสัยดีหน่อย ถ้าจะมาชมชื่นมาอาศัยพักผ่อน ยกตัวอย่าง ราชธานีอโศก ยินดี จะให้ประชาชนที่อยู่ใกล้หรือใครก็ตาม มาเลย อาตมาสร้างน้ำตก ภูเขา นกร้อง น้ำแก่งน้ำไหลให้มาน่าสัมผัส เพื่อให้คนมาอาศัยใช้สอย ลงทุนกันไม่ใช่น้อยๆเลย แต่อาตมาไม่เคยคิดเลยว่า ลงทุนไปเท่าไหร่ไม่เคยเสียดาย (ขออภัยพูดเหมือนคนรวย) จนนะ แต่ทำ เพื่อให้มนุษย์ได้มีสิ่งอาศัยสร้างนิเวศวิทยาให้ดี เข้ามาแล้วก็มาอาศัยที่นี่ มากินเข่าม่วน จะไปบอกข้าวป่าก็ไม่ใช่ กินข้าวแก้ง อีสานจะมีไปปิ๊กนิ๊ก ไปกินข้าวป่า ไปกินข้าวแก้ง ก็ไปแก่งน้ำ กินข้าวเอาอาหารการกินไปปิ๊กนิ๊ก เขาก็ไปพักผ่อนหย่อนใจ มันเป็นที่รื่นรมย์ หากเขาจะทำเลอะเทอะสกปรกทำให้เสียหาย ก็ตำหนิเขาบ้างว่าเขาบ้าง แต่เขามาแล้วก็ยินดีอนุโมทนาสาธุ
แต่ที่นี้ การหากินกับการท่องเที่ยว อาตมาว่า มันไม่เข้าท่าเลย คุณค่าของคน ได้มีความสบาย ความรื่นรมย์ความได้อาศัย มันเป็นเรื่องสุดยอดของชีวิตมนุษยชาติที่มีธรรมชาติอย่างนี้ คิดถึงกันไม่ได้เลย ทำไมไปดูถูกคุณค่าสิ่งประเสริฐเช่นนี้ไปคิดเป็นเงินอีก อาตมาว่า ทำไมความคิดมันไม่สูงเลย ความคิดมันต่ำไป
เพราะฉะนั้น ใครสร้างสถานที่ที่น่าพักผ่อน คิดเงินเขามันเป็นเรื่องไม่สูงนะ ดีไม่ดี ฉวยโอกาส ขูดรีดเงิน ด้วยราคาแพง แล้วมอมเมาด้วย เอาโลกที่ปรุงแต่งมาประสมด้วย คนสมัยนี้หลงแฟชั่นก็เอามาใส่ เพื่อหลอกล่อให้คนมารับบริการแล้วจะได้ขูดรีด มันเป็นความโลภความเห็นแก่ได้ของคน
อาตมาเห็นค่าของคนที่ได้มาสัมผัสสิ่งที่เป็นธรรมชาติและน่ารื่นรมย์ เป็นสิ่งที่หายากทุกวันนี้หายากมากขึ้นมาก จึงต้องพยายามสร้างให้มันเหมือนและใกล้กับธรรมชาติ คนจะได้มาใช้ มาใช้อันนี้หาค่าบ่มิได้ สรุปแค่นี้ก็แล้วกัน ใครหาเงินจากการท่องเที่ยว ไม่เข้าใจนิเวศน์วิทยาและสิ่งแวดล้อมไปตีค่าเหล่านี้เป็นเงิน เงินหาเมื่อไหร่ก็ได้ แม้เราจะจนก็ไม่เดือดร้อน เงินเอามาแปดเปื้อนเราทำไม
ทำไมต้องพึ่งพาเพราะคนทั้งโลกหลงผิด กินตามน้ำ ขณะนี้เขาจะมีสถิติ มาทีหลังอีกที
_จินดา ไชยบูลย์ : ใจเย็นขึ้นได้แนวคิดใหม่เพิ่มขึ้นขอบคุณค่ะ
_ปองใจ…พ่อครูคะอรหันต์ระดับที่ 7 ต้องมีข้อกำหนดอย่างไรบ้างคะ
พ่อครูว่า…หรือจะเรียกโพธิสัตว์ระดับ 7 ก็ได้ โพธิสัตว์คือผู้บรรลุอรหัตผล อรหัตตผลระดับโสดาบัน ระดับสกิทาคามีอนาคามีอรหันต์ อนุโพธิสัตว์ อนิยตโพธิสัตว์ นิยตโพธิสัตว์ (ระดับ7) 8.มหาโพธิสัตว์ 9.สัมมาสัมพุทธโธ(พระพุทธเจ้า)ปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้า
ในมหายานก็ไม่มี ในเถรวาทก็ไม่มี แต่อาตมาเป็นโพธิสัตว์รู้ก็เลยเอามาเรียบเรียงบอกเล่า
มีข้อกำหนดอย่างไร ถ้าเป็นโสดาบันก็เอาระดับโสดาบันมาวัด ถ้าเป็นสกิทาคามีก็เอาระดับสกิทาคามีมาวัด อนาคามี อรหันต์
ถ้าเป็นระดับโสดาบัน
-
โสตาปันนะ (เข้าสู่กระแสโลกใหม่คือโลกุตระ)
-
อวินิปาตธัมโม (ไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา)
-
นิยตะ (เที่ยงแท้แน่นอนสู่มรรคผลที่สูงขึ้น)
-
สัมโพธิปรายนะ (มุ่งตรัสรู้ในภายหน้า)
(พตปฎ. เล่ม 19 ข้อ 1475)
คือหันหลังให้โลกียะ ไปสู่โลกุตระ เข้ากระแสแล้ว ทางนรกจะมีสวรรค์ล่อ คนไม่เข้าใจสวรรค์หลงสวรรค์นิดหน่อยก็มีนรกนิดหน่อย หลงสวรรค์ใหญ่ก็มีนรกใหญ่ หลงสวรรค์จมสวรรค์มากเท่าไหร่ก็จมนรกเท่านั้น อย่างธรรมกายเป็นแดนนรกใหญ่ที่เขาหลอกเต็มที่แล้วก็หลงสวรรค์เพ้อฝัน เขาจึงเรียกว่าโรงเรียนฝันในฝัน เมื่อไหร่จะตื่นสักที เอาน้ำราดก็แล้ว เอาไฟจุดก็แล้วก็ยังไม่ตื่น มันหนักหนาสาหัส
ถ้าจะอธิบายว่า เป็นขั้นตอนเอาอะไรมากำหนด เลยจากอรหันต์เป็นโพธิสัตว์อธิบายได้ยากขึ้น หากหลัก โสดาบัน สกทาคามี อนาคามี อรหันต์ก็มีหลักตามนั้น
อนุโพธิสัตว์ เอาอะไรเป็นข้อกำหนด ต้องเป็นผู้ที่รู้จักคุณค่าของโลกุตระ ซึ่งจะต้องรู้จัก การอยู่เหนือโลก ที่เป็นโลกขั้น ตามลำดับของโลกีย์ คนหลงอบายมุข ก็ต้องเข้าใจอบายมุขคืออะไร ทุกวันนี้อบายมุขจัดจ้านมากเลย อย่างโอลิมปิกเป็นอภิมหาอบายมุขเป็นการละเล่นตกแต่งสร้างรูปลักษณ์ใหญ่มากเลยในโลกนี้ทุกคนหลงใหล ว่ายิ่งใหญ่มาก จะต้องได้เงินทอง ประเทศไหนก็ต้องแย่งทำ ใครจะฝึกเป็นนักกีฬาก็ฝึกไปเลยทั้งชาติเป็นทีมชาติเพื่อให้ได้เหรียญทอง ทองเก๊ด้วยไม่ใช่ทองแท้ แล้วก็เก่งๆๆๆ เอาเวลาทุนรอนชีวิต ไปโถมกับอบายมุข แล้วนับมันเป็นอาชีพได้ชื่อเสียงเงินทองเลี้ยงชีพด้วยเกียรติยศต่างๆนานา สังคมใดประเทศใดยกย่อง อบายมุข ยกย่องการเล่น การบันเทิงเริงรมย์เป็นของมีค่าประเทศนั้นไม่มีปัญญาประเทศนั้นเสื่อม ก็พูดอย่างวิชาการ
ประเทศไทย เป็นเมืองพุทธมีความรู้อันนี้ประเทศอื่นเขาไม่มีความรู้นี้ก็ไม่สอนกันหรอกมีแต่จมกับจม จูงกันลงนรก เสียเวลาทุนรอนแรงงาน เป็นสิ่งไร้ค่าสิ่งที่เสียหาย 3 อย่างนี้
เสียแรงงาน แรงงานทางความคิดปัญญาความรู้
เสียเวลา เสียทุน หมดเนื้อหมดตัวเลย เขาไม่ได้อะไรเลย มีจิตหลงผิด ติดในจิตวิญญาณข้ามชาติไป อันนี้หนัก
อาตมาพูดนี้มันทวนกระแส ล้มล้าง เป็นไอ้เข้ขวางคลอง อาตมาพูดในสังคมศาสนาพุทธพระพุทธเจ้าไม่เอาแบบนี้ไม่ได้ส่งเสริมเลย
จริง ต้องอนุโลมบ้าง เป็นเรื่องสมัครเล่นเป็นการอนุโลมเท่านั้นเอง เป็นเรื่องจำนน หากไม่ให้ทางออกเลยเหมือนกับคนติดยา ก็ต้องให้โอกาสนิดหน่อยๆไม่อย่างนั้นตาย ก็เห็นแก่ชีวิตเท่านั้นเอง ซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก
สังคมเรา สังคมชาวอโศก ไม่ได้หลงใหลการพนันการบันเทิงเริงรมย์จึงมีเวลาเอามาทำสิ่งที่มีประโยชน์ มีแรงงานเอามาทำสิ่งเป็นประโยชน์ เอาทุนรอนมาทำสิ่งเป็นประโยชน์ ทั้งๆที่เป็นสังคมของคนจน ประโยชน์สูงประหยัดสุด ไม่เอาจากคนอื่นมากและไม่สะสม สะพัด ซึ่งเป็นคนมีน้อยเสมอ กระนั้นก็ยังอุดมสมบูรณ์ มีกินมีใช้ เหลือเฟือที่จะให้คนอื่นด้วย ทุกวันนี้พูดได้เต็มปาก ชาวอโศกเข้าฝักแล้ว พึ่งพาตัวเองรอดสร้างสรร สะพัดให้แก่คนอื่นได้
1.ไม่เป็นหนี้ 2. พึ่งพาตัวเองรอด 3.ให้มากให้เหลือ 4. แจกจ่ายให้แก่ผู้อื่น
นี่เป็นคุณภาพของมนุษย์ในสังคมที่สมบูรณ์แบบ ใครจะเป็นหนี้ในส่วนตัวก็แล้วแต่ แต่ในองค์รวมของชาวอโศกไม่มีหนี้
-
การไม่เป็นหนี้เป็นเครื่องชี้บ่งถึงความเจริญสูงสุดของมนุษย์อันหนึ่ง
-
การมีสังคมสาธารณโภคีเป็นสุดยอดของเศรษฐกิจหรือเศรษฐศาสตร์ ทำได้ยากแต่ชาวอโศกทำได้ในยุคนี้ ในยุคพระพุทธเจ้าทำแต่ในวงการสงฆ์ได้ ในสังคมฆราวาสธรรมไม่ได้เพราะเป็นยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ไม่เข้าใจสิทธิต่างๆของคน ทำให้เป็นสาธารณโภคีได้ได้ แม้ยุคทาส เป็นสมบูรณาญาสิทธิราชย์แต่พระพุทธเจ้าท่านถือธรรมนูญของท่านปฏิบัติได้ให้คนอื่นปฏิบัติตามได้ พระพุทธเจ้าท่านมีบารมีคนก็เลยยอมให้ ในยุคโน้นก็เข้าใจ เขามีสังคมทาสสังคมศักดินา สังคมชั้นวรรณะ แต่ทุกคนยอมให้หมดเลย พระพุทธเจ้าปลดแอกศักดินา ปลดแอกความเป็นภาพ เข้ามาอยู่ในธรรมวินัยนี้ก็เท่าเทียมกันหมด พระพุทธเจ้าจึงเป็นสุดยอดแห่งประชาธิปไตย
ในยุคนี้ก็ทำง่าย เพราะไม่เป็นยุคทาสยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นสังคมที่รู้จักสิทธิมนุษยชนเต็มที่ก็ทำได้ง่ายจะตายไป แต่ก็ยาก เห็นไหม อาตมาซึ่งทำถึงขั้นสาธารณโภคีได้ เพราะในยุคนี้ไม่ใช่สมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นยุคสิทธิมนุษยชนเต็มที่อาตมาก็เลยทำได้ ไม่ขัดข้อง แต่ขนาดนั้นก็ยังยากเลย มีคนมาแค่นี้ ถ้าหากประเทศไทยเข้าใจ ผู้บริหารเข้าใจขานรับวันนี้เอาอะไรเป็นโมเดล อ่านเข้าใจให้ได้ว่า ให้มีพฤติกรรมอย่างนี้มีชีวิตอย่างนี้
-
มีสัมมาชีพ คือพ้นมิจฉาชีพ 5
-
การโกง ทุจริต คอร์รัปชั่น (กุหนา) มีในงานการเมือง .
-
การล่อลวง หลอกลวง (ลปนา) ในนักธุรกิจ-การเมือง .
-
การตลบตะแลง (เนมิตตกตา) ยังเสี่ยง-ยังไม่แน่แท้
-
การยอมมอบตนในทางผิด อยู่คณะผิด (นิปเปสิกตา)
-
การเอาลาภแลกลาภ (ลาเภนะ ลาภัง นิชิคิงสนตา)
(พตปฎ. เล่ม 14 ข้อ 275 มหาจัตตารีสกสูตร)
อาตมาพาทำได้ พวกเราทำได้ เป็นยุคที่ไม่ใช่ยุคทาสเป็นยุคที่ไม่ใช่สมบูรณาญาสิทธิราชย์ทุกคนเข้าใจสิทธิมนุษยชนกันเต็มที่แล้ว มันควรได้
-
มิจฉากัมมันตะ 3 อโศกพ้นได้หมด
-
มิจฉาวาจา 4 ก็พ้นได้ อาจมี error บ้างก็ค่อยว่ากัน แต่ส่วนใหญ่ทำได้ คนโกหกอยู่ในอโศกไม่ได้ ส่อเสียดอยู่ยากในอโศก
4.สังกัปปะ 3 โดยเฉพาะกาม พยาบาท สองอย่างต้องล้าง ตักกะ วิตักกะ สังกัปปะ ทำฌาน แล้วตกผลึกเป็น อัปปนา พยัปปนา เจตโสอภินิโรปนา เดี๋ยวนี้ทำฌาน สมาธิไม่รู้จักทำสังกัปปะ 7 ไปนั่งหลับตาทำสมาธิ ก็ไม่ใช่ของพุทธ ให้เลิกเสีย มาศึกษาให้ดี อย่างถูกมีอย่างนี้ ตัวอย่างก็มีแล้ว
สมาธิในสังกัปปะ 7 มีปัญญาเจโตในตัว
เวทนา108 เป็นตัววิจัยวิเคราะห์ แยกมโนปวิจาร 18 เป็นโลกียะ ทำต่อให้เป็นเนกขัมสิตะ 18 ก็เป็นทฤษฎีของพระพุทธเจ้า เดี๋ยวนี้ออกนอกรีตไปไกลมากไม่รู้เรื่อง
อาตมาพูดเหมือนผยองอวดดี ถูก คนเข้าใจมีปัญญาก็ทำได้ชัด คนที่ไม่มีปฏิภาณปัญญาไม่มีความรู้จะรับได้ ก็หมดปัญญา หมดความสามารถจะไปช่วยเขาได้
โพธิสัตว์ระดับต่อจากระดับ 4 เรียกว่า อนุโพธิสัตว์ ก็ต้องรู้โพธิสัตว์คุณธรรม ว่าเรียนรู้โลก เรียนรู้อัตตา
โลกคือความวน โสดาบัน ระดับต่ำ อบาย จิตเราไปตกในอบาย ในระดับที่เหลือเป็นระดับต้นของคุณ คุณเป็นอรหันต์แล้วคุณยังมีเศษส่วนความรู้ของโลก กับตนที่จะเกี่ยวกัน จึงต้องศึกษามีความรู้นะ อันตคาหิกทิฏฐิ 10
เช่นโลกเที่ยง โลกไม่เที่ยง จะต้องรู้ความเป็นโลก มันเที่ยงหรือไม่เที่ยงอย่างไร โลกมีที่สุดหรือไม่มีที่สุด เป็นอย่างไร
ชีพ อย่างหนึ่ง สรีระอย่างหนึ่งหรือชีพก็อันนั้น สรีระก็อันนั้น
จะต้องเข้าใจศัพท์ที่ว่านี้แล้วศึกษา
สัตว์หรืออัตตาเบื้องหน้าแต่ตายแล้วเกิดอีก หรือเบื้องหน้าแต่ตายแล้วไม่เกิดอีก หรือเบื้องหน้าตายแล้วเกิดก็มี ตายแล้วไม่เกิดก็มี
คนที่เป็นโพธิสัตว์จะรู้โลก และอัตตา จะกลับมาเกิดอีกหรือไม่ก็ได้แล้ว ก็คือสูงไปจากอรหันต์ ทำได้เก่งขึ้นๆ จนกระทั่งถึงขั้น 9 ขั้นที่ 10 ความเห็นผิดที่สุดโต่งไปข้างใดข้างหนึ่ง
สัตว์ที่เกิดอีกก็หาได้บ้าง หรือหาไม่ได้บ้าง คนนี้ไม่มีทางจะรู้ได้
จนสุดท้าย ศาสนาพุทธตายแล้วไม่เกิดนิรันดร แต่ศาสนาเทวนิยมตายแล้วต้องไปอยู่นิรันดรกับอัตภาพปรมาตมัน นิรันดร มันตรงกันข้ามเลย แต่ของพุทธนั้น คุณจะเกิดอีกตายอีกจนกว่าคุณจะปรินิพพานเป็นปริโยสาน คุณรู้จักปรินิพพานเป็นปริโยสานได้แล้วตั้งแต่เป็นอรหันต์ ขั้นที่ 5 ก็จะเชี่ยวชาญรู้โลกรู้อัตตารู้ชีพรู้สรีระ ทำได้เก่งขึ้นอย่างนี้ เป็นอนิยตะคือเก่งขึ้น เป็นนิยตะคือเก่งขึ้น เป็นมหาโพธิสัตว์ก็เก่งขึ้นไปอีก อาตมาก็ไม่รู้จักขยายอย่างไรต่อไปอีก ก็ต้องขยาย อันตคาหิกทิฏฐิ 10 นี้ต่อไปอีก เป็นความรู้ของโพธิสัตว์ ไม่ใช่แค่อรหันต์ อาตมาก็ต้องต่อเนื่องความรู้ของโพธิสัตว์ด้วย แต่ไม่ใช่หน้าที่ของอาตมา เป็นหน้าที่ของผู้ที่สูงกว่าอาตมา สูงกว่าเต็มกว่า อาตมาแค่นิยตโพธิสัตว์สอนแค่นี้ก็เมื่อยแล้ว
_รายงานผลการจัดอันดับประเทศที่ดีที่สุดในโลกล่าสุดประจำปี 2017 โดย U.S.News
ประเทศไทยคว้าอันดับ 1 ประเทศที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจมากที่สุดในโลก (Best Countries to Start a Business) 2 ปีซ้อน และได้คะแนนรวมอยู่อันดับ 26 สำหรับประเทศที่ดีที่สุดในโลก
นอกจากนี้ไทยยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศชั้นนำของโลกในอีกหลายด้าน ได้แก่
World’s Top 10
-
อันดับ 1 ประเทศที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจมากที่สุดในโลก
-
อันดับ 4 ประเทศที่การท่องเที่ยวโดดเด่นมากที่สุดในโลก
-
อันดับ 6 ประเทศที่มีการเติบโตโดยภาพรวมมากที่สุดในโลก
-
อันดับ 7 ประเทศที่มีวัฒนธรรมโดดเด่นมากที่สุดในโลก
-
อันดับ 8 ประเทศที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวคนเดียวมากที่สุดในโลก
World’s Top 20
-
อันดับ 13 ประเทศที่เปิดโอกาสทางธุรกิจมากที่สุดในโลก
-
อันดับ 16 ประเทศที่เหมาะสำหรับการเกษียณงานมากที่สุดในโลก
-
อันดับ 17 ประเทศที่มีวัฒนธรรมทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลก
World’s Top 30
-
อันดับ 21 ประเทศที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นทำงาน
-
อันดับ 26 ประเทศที่ดีที่สุดในโลก
-
อันดับ 29 ประเทศที่มีคุณภาพชีวิตดีที่สุดในโลก