บันทึกผ่านเลนส์ ส่องโพธิกิจ…ธรรมะเป็นแก่นสัจธรรมในการดำรงชีวิตในทุกศาสตร์ของมนุษย์
วันพุธที่ 11 กรกฎาคม 2561
การเพิ่ม co-efficient หรือการเพิ่มสัมประสิทธิ์ของพ่อครูสำหรับขยายอายุขัยคือการปฏิบัติในเรื่อง 8 อ. อ.ที่สำคัญคืออ.ออกกำลังกาย ซึ่งเป็นเหมือนยาขมของใครหลายคน แต่สำหรับพ่อครูท่านปฏิบัติเป็นปกติประจำอย่างต่อเนื่อง…เช้านี้พ่อครูเดินเร็วรอบชั้นล่างเฮือนสูญ ได้ 17 รอบ..
จากนั้นพ่อครูออกจากเฮือนสูญ เดินผ่อนคลายเข้าไปในชุมชนผ่านเขตสิกขมาตุไปถึงบริเวณแก้งไผใญ่ เลี้ยวกลับมาถึงแก้ง 3 ใสซึ่งยังไม่ได้วางหินและตกแต่งแก้งนี้เลย..พ่อครูเดินมาตามถนนตรงกลางไปด้านหน้าหมู่บ้าน พบท่านสมณะเดินดินบริเวณ สี่แยกตรงโมกำลังออกกำลังกายโดยการปั่นจักรยานเช่นกัน..คนงานเพิ่งมาเข้างานผ่านมาพบพ่อครูนมัสการทักทายพ่อครูบนรถมอเตอร์ไซค์…
พ่อครูเดินมาถึงเรือเอี๊ยมจุ๊นที่ช่างอยุธยากำลังซ่อมแซม ถ้าวันนั้นไม่ได้ยกเรือขึ้นมา ก็คงซ่อมแซมยากเพราะพื้นบริเวณเดิมนั้น พอฝนตกลงมาพื้นเฉอะแฉะทำงานได้ยากกว่าเดิม…พ่อครูมองไปที่ลำธารถอยหลังเข้าพบเป็ดกำลังเล่นน้ำอย่างร่าเริง…
พ่อครูเดินผ่านมาแก้งตำอิดซึ่งมองไม่เห็นแล้วแก้งแล้ว เพราะโสนน้อยเรือนงาม ต้นโสนได้ขึ้นเติบโตปกคลุมจนมองไม่เห็นว่าเป็นแก้งที่สามารถเดินผ่านเข้าไปในชุมชนได้…
พ่อครูเดินมาถึงเรือ 2 ลำหน้าวิทยาลัยอาชีวะกำลังซ่อมแซมพ่อครูบอกว่าให้ทำสโตนเฮ้าส์ด้านล่างอีก แต่ดูแล้วพื้นที่ใต้ท้องเรือยังมีระดับต่ำเกินไป..พ่อครูมาสะดุดตาที่บริเวณด้านหน้าวิทยาลัยอาชีวศึกษาสัมมาสิกขาวิชารามเห็นดอกแพรเซี่ยงไฮ้(ไม่ใช่คุณนายตื่นสายซึ่งมีกลีบดอกไม่ซ้อนเหมือนดอกแพรเซี่ยงไฮ้)กำลังบานเหมือนพรมสีสันสวยงาม คัลเลอร์ฟูลมีทั้งสีชมพู สีเหลือง สีแดง สีold roseหลากหลายสี พ่อครูชื่นชมผู้ที่ดูแล้วว่าสามารถดูแลดอกไม้นี้และนำมาจัดสวนหย่อมได้งดงาม…
ฝนตกตลอดทั้งคืนทำให้สภาพของถนนเฉอะแฉะตลอดเส้นทางที่พ่อครูเดิน ท่านเดินมาด้านหน้าราชธานีอโศกท่านปัจฉาดินไทนิมนต์แวะดูต้นใบลานที่หายาก ช่วงที่คณะพนักงานป่าไม้มาอบรมได้นำต้นลานนี้มาปลูกเป็นที่ระลึกไว้ 2 ต้น (ตายไปต้นหนึ่งแล้ว)..
พ่อครูเดินมาด้านหน้าอาคารบวร ศิษย์เก่าหน่อย เวียงแก้ว เวียงแก้ว จอดรถกราบนมัสการพ่อครู ทีมงานบุญนิยมทีวีจึงทาบทามให้มาช่วยงานเป็นพิธีกรในวันพรุ่งนี้ที่จะไปร่วมงานที่เกาะดอนมดแดงในงานพิธีบวงสรวงท้าวคำผง…ด้านหน้าอาคารบวรพ่อครูยังต้องการต้นโพธิ์อีกหลายต้นมาไว้เดินชมตามทางประจวบเหมาะกับ อาดาวนาขับรถมาพบพ่อครูพอดี ได้เข้ามากราบนมัสการและปรึกษาพ่อครูเกี่ยวกับเรื่องต้นโพธิ์และต้นอื่นๆที่พ่อครูต้องการนำมาปลูกบริเวณสถานที่พักผ่อนเล่นน้ำหน้าลานสะโพ ปู่เถาและป้าดาวเพ็ญมากราบนมัสการเรียนพ่อครูถึงกระสอบใส่ดินปลูกที่ตั้งเรียงรายนั้นต้องการที่จะปลูกมะเขือพริกและพืชผักสวนครัวอื่นๆไว้ตามริมถนนเพื่อเป็นตัวอย่างของการปลูกพืชผักและใส่กระถางแบบง่ายๆเมื่อน้ำท่วมหรือต้องการปรับภูมิทัศน์ใหม่ก็สามารถโยกย้ายได้โดยไม่มีความชำรุดหรือเสียหาย…
พ่อครูบอกให้นำองค์รูปลอยปางอภัยทานของพ่อครูมาไว้ด้านหน้าหินตั้งทิ้งไว้ได้เลย…เช้านี้ที่ลานสะโพ ยังไม่ได้เปิดน้ำตก พ่อครูเห็นคราบเขียวอยู่ที่หินยังมีดำริอยากจะขัดหินเหล่านี้ให้สะอาด…พ่อครูดำริในเรื่องของการทำแปวหรือทางน้ำไหลสำหรับม่านน้ำของสวนไม้ตาย..อาดาวนาปรึกษาการหาต้นไม้และหินต่างๆมาช่วยปรับภูมิทัศน์บริเวณใต้สวนไม้ตาย..
พ่อครูเดินมาใต้โถงสวนไม้ตายเห็นไม้ลังที่บรรจุชิ้นส่วนของลิฟท์กองอยู่เป็นจำนวนมากก็ดำริว่า น่าจะนำมาใช้ประโยชน์ได้เป็นอย่างดี..พ่อครูแวะล้างมือที่ห้องน้ำชั้น 3 เฮือนสูญ ก่อนที่จะขึ้นไปที่ชั้น 4 ท่านปัจฉาดินไทนิมนต์พ่อครูนั่งพักดูงานก่อสร้างซุ้มปลูกไม้เลื้อยด้านข้างห้องทำงานพ่อครูซึ่งช่างกำลังขนเหล็กทาสีเขียวขึ้นมาทำโดมเพื่อที่จะสร้างความร่มรื่นให้กับบริเวณดาดฟ้านี้…
พ่อครูฉันภัตตาหารเวลาประมาณ 11.45 ระหว่างฉันภัตตาหารทีมงานหินสร้างเมืองได้มากราบรายงานการประชุมและการเตรียมงานขนหิน
ระหว่างนั้นมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจังหวัดสิงห์บุรีที่เป็นแฟนรายการทางบุญนิยมทีวีและติดตามผลงานชาวอโศกมาประชุมที่จังหวัดอุบลเลยเข้ามาชมในบวรราชธานีอโศก เข้ามากราบนมัสการพ่อครูและขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึก…
หลังฉันภัตตาหารพ่อครูเดินมาตามถนนตรงมูนเพื่อไปที่ท่าเรือ..พบป้าเต็มสิริกำลังดูแลต้นไม้ ป้าเต็มกราบนมัสการ ทักทายพ่อครู..พ่อครูเดินผ่านสวนทำกิน
ช่วงนี้มีรถปูนผ่านเข้าออกหมู่บ้านบ่อยครั้งเพราะเริ่มมีผู้มาปลูกบ้านอยู่กันหลายหลัง..พ่อครูเดินผ่านบุ่งกะโป๋บริเวณกลางเกาะจะมีต้นแหนหรือที่พ่อครูตั้งชื่อว่าต้นดวงใจรักเด่นตระหง่านแต่ช่วงนี้ดูใบซบเซา พ่อครูมีดำริว่าถ้ายังมีต้นนี้อยู่ก็ให้หามาปลูกในบ้านราชได้อีกเพราะต้นแหนนี้ทนต่อสภาพน้ำท่วมได้เป็นอย่างดี..
พ่อครูเดินมาถึงบริเวณท่าเรือแวะไปดูเสา 2 ต้นที่เคยเป็นเหล็กหนุนเวลาเคลื่อนย้ายเรือตอนนี้ถูกนำมาตั้งและเทปูนกลบเหมือนเป็นเสาเอก ยังสงสัยว่าจะสร้างอะไรบริเวณนี้…พ่อครูเดินลงมาที่ท่าเรือ ยังเห็นเสาไฟฟ้าเรียงรายก็อนุมานกันว่าอาจจะไว้สำหรับผูกเรือในช่วงที่น้ำท่วมจะได้มีหลักยึดเรือไว้…พ่อครูมาถึงเรือย่านซั่วหรือกลัวบาป ท่านปัจฉาหนักแน่น นิมนต์ขึ้นไปบนเรือ บรรยากาศบนเรืออากาศเย็นสบายดีมาก พ่อครูนั่งพักบนม้านั่งซึ่งทำด้วยไม้สัก ซึ่งทำได้ประณีตและดูดีเหมาะสมกับมาวางบนเรือ..ท่านมองไปที่เรือและแพหลายๆลำที่จอดอยู่เป็นท่าเรือของบ้านราช เห็นหอยเชอรี่หลายตัวที่เก็บจากนาข้าวแล้วนำมาปล่อยที่แม่น้ำมูน…ออกจากเรือย่านซัว พ่อครูเดินกลับมาตามถนนซึ่งมีความเฉอะแฉะ เห็นเรือมดซึ่งย้ายมาเริ่มมีความผุพังและยังนึกเสียดายที่ไม่ได้รับการบูรณะซ่อมแซมเพราะเป็นเรือที่เริ่มจะหายากรวมถึงเรือมาดที่ยังรอซ่อมแซมอีกหลายลำ…ท่านสมณะข้าฟ้าเข้ามารายงานพ่อครูว่าเหล็กแท่งสีแดงทั้ง 2 แท่งจะไว้ใช้ทำสะพานแขวนมาที่ต้นแหนกลางบึงกะโป๋สำหรับเดินในช่วงน้ำท่วม…พื้นที่สาธารณะบริเวณหมู่บ้านเฟสใหม่ เริ่มมีการไถดินเพื่อเตรียมปลูกพืชผักรวมถึงมีบ้านหลายหลังกำลังสร้างขึ้นมาผ่านโรงหล่อศิลป์ธรรม โรงหล่อทองเหลืองที่ทำงานของอาแสงศิลป์ เดือนหงาย วันดีคืนดีก็จะเปิดพญานาคพ่นน้ำมาให้พวกเราได้ชม..
ภายในชุมชนเฟสใหม่เริ่มมีการวางท่อสาธารณูปโภคทั้งไฟฟ้าและท่อระบายน้ำต่างๆรวมถึงบ้านหลายหลังที่มาอยู่เริ่มปลูกต้นไม้ให้แลดูเขียวขจีกันบ้างแล้ว..พ่อครูเดินกลับมาที่หลังพระพุทธโตมองไปที่สวนไม้ตายยังคงต้องมีการทำงานศิลปะอีกหลายชิ้นเพื่อประกอบกันเป็นม่านน้ำที่จะเกิดขึ้นพร้อมๆกัน…ท่านสมณะคมคิด ทันตภาโวเข้ามารายงานเรื่องการปรับปรุงภูมิทัศน์ด้านข้างของน้ำโตนเพื่อไม่ให้น้ำเข้ามาภายในบริเวณเฮือนสูญ
พ่อครูเดินผ่านบริเวณที่ทำงานของคุณแอ๊ด ปลุกดิน ซึ่งมีความสนใจเกี่ยวกับเรื่องการเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ถั่วต่างๆรวมถึงมันชนิดต่างๆ พ่อครูเดินขึ้นมาอาคารผาแหงนกลับขึ้นมาชั้น 4 ช่างกำลังก่อสร้างซุ้มไม้เลื้อยเริ่มขึ้นโครงเหล็กเป็นรูปเป็นร่างบ้างแล้ว พอถึงห้องทำงานพ่อครูตรงไปที่ชั้นวางหนังสือสนใจ Dictionary ฉบับอังกฤษ-ไทย เล่มใหญ่ ท่านอ่านและค้นดูหนังสือบางเล่มพร้อมกับหยิบไปไว้ที่ตู้วางหนังสือข้างๆโต๊ะทำงานและจัดหนังสือด้วยตนเอง ก่อนที่ท่านปัจฉาดินไทจะเข้ามาช่วย..
..งานเขียนของพ่อครูเป็นงานเขียนที่ท่านตั้งใจจะให้สังคมได้รับรู้สัจธรรมของการดำเนินชีวิตที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข จึงมีศาสตร์ที่ต้องอ้างอิงมากมายหลายศาสตร์ ทั้งวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ รัฐศาสตร์ นิติศาสตร์ สังคมศาตร์ ซึ่งธรรมะของพระครูสามารถเชื่อมโยงศาสตร์ได้ทุกศาสตร์โดยมีธรรมะเป็นแกนของในทุกๆศาสตร์และผู้ที่สนใจเชี่ยวชาญในแต่ละศาสตร์นั้นสามารถนำธรรมะที่มีสัมมาทิฏฐิไปก่อใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ในการทำงานร่วมกับสังคมและพัฒนาตนเองให้เป็นผู้หลุดพ้นจากการเป็นคนโลกนี้(โลกโลกีย์)สู่ผู้ที่เป็นคนโลกใหม่เป็น(โลกโลกุตระ) ที่เป็นทั้งประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน เพื่อมวลมนุษยชาติอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข…