610715_รำลึกถึงหลวงตาแดนเดิม พรหมจริโย ผู้มีเมตตาดุจดั่งพรหม
วันอาทิตย์ที่ 15 ก.ค. 2561 ชาว บวร ราชธานีอโศก ร่วมรำลึกถึงสมณะแดนเดิน พรหมจริโย ที่ได้มรณภาพไป
ส.เดินดิน…หลวงตามาบวชเป็นสมณะชาวอโศก เมื่ออายุมากแล้ว แต่ว่ากลับสามารถดำรงตนในสมณะเพศได้อย่างน่าเคารพบูชา ประพฤติตนได้อย่างเคร่งครัดตามอัตภาพ ไม่มีเรื่องของญาติพี่น้องให้เสียหาย มีโภคขันธาปหายะ และญาติปริวัตตังปหายะ
หลวงตา เป็นผู้มีเมตตาสูง เป็นผู้มีน้ำใจมาก งานศพเป็นงานที่หลวงตาไปอย่างสม่ำเสมอ แม้หลวงตาอายุมาก ยังเดินทางไปงานศพได้บ่อยกว่าคนที่อายุน้อยกว่า
หลวงตาแค่เปลี่ยนรถเก่า ไปออกรถป้ายแดง คือได้ร่างใหม่เท่านั้น ต้นตาลเป็นสัญญลักษณ์ของบ้านราชฯ บ่งบอกอายุของบ้านราชฯ
ดินนา…แต่ก่อนดิฉันอยู่ที่สันติฯในยุคแรกๆ อยู่คลังเสียง และมีหลวงตาพรหม เป็นสมณะประจำฐาน หลวงตาผู้ใหญ่เหมือนคนโบราณ มีน้ำใจ เวลามีคนมาร้องทุกข์หลวงตาจะให้เวลาฟังและช่วยเขา แม้บางคนคุยนานๆหลวงตาก็ให้เวลา ความเย็นของหลวงตาสามารถสัมผัสได้เสมอ ทำให้เราได้คิดได้สัมมาทิฏฐิ หลวงตาเหมือนญาติสนิท ญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง
ดาวพร…หลวงตาพรหมนอกจากจะปลูกต้นตาลที่บ้านราชฯแล้ว ก็ยังเป็นผู้ขวนขวายประสานงานในการขนเรือมาที่บ้านราชฯในยุคแรกๆ ท่านเป็นแบบอย่างของสาราณิยะ(การระลึกถึงกัน)
เป็นแก่น…ร่วมงานย้ายเรือกับหลวงตาพรหม เวลาน้ำท่วม ต้องทำการย้ายเรือจากลานเบิ่งฟ้ามาที่บุ่ง จะทำให้เรือลอยต้องดำน้ำไปเอาไม้ที่รองใต้เรือออก ต้องดำน้ำไปทำงาน หนาวมาก กว่าจะได้แต่ละลำก็ครึ่งค่อนวัน จึงเอาเรือออกจากลานมาที่บุ่งได้ หลวงตาก็ช่วยกันทำจนสำเร็จ แม้หลวงตาอายุมากแล้ว แต่ทำได้
ถ้าเป็นงานศพ มีที่ไหน ไม่ต้องนิมนต์หลวงตาก็ไปให้
ดินดอน…หลวงตาเคยโปรดโยมแม่ที่ติดหมาก หลวงตาบอกผมว่า หากอยากให้แม่เลิกติดหมากให้พามาหาหลวงตา ผมก็เลยพาแม่มา แต่ไม่ได้บอกแม่ว่าจะให้มาทำไม บอกแม่ว่าให้มาพบสมณะ หลวงตาถามว่า แม่กินหมากวันละกี่คำ …แม่ว่า ไม่ขาดปาก …หลวงตาก็ให้แม่เขียนในกระดาษ ว่า ตั้งใจจะเลิกละอะไร แม่ก็เขียนว่า ตั้งใจจะเลิกหมาก หลวงตาอธิบายโทษภัยของการติดหมาก และ หลวงตาก็ให้ปฏิญาณตนสมาทานเลิกกินหมาก ต่อมาก็เลิกได้เด็ดขาด แม้แม่ติดหมากมา 40 ปี ก็เลิกได้ตามที่เขียนไว้
พ่อผมก็ติดเหล้า ต่อมาพ่อป่วย หลวงตาไปเยี่ยม และยังตัดผมให้พ่อผมด้วย พ่อเรียกว่า ทรงเกือบโกน
หนึ่งฟ้า…ชีวิตของดิฉัน ปกติไม่ค่อยได้คบคุ้นกับสมณะ แต่หลวงตาพรหมเป็นรูปหนึ่งที่ได้แผ่เมตตามาถึงดิฉัน ตอนอยู่ที่สันติฯหลวงตาก็ได้เกื้อกูล ท่านรับรู้ว่าดิฉัน มีความเห็นต่างจากหมู่ใหญ่ หลวงตาก็จะโทรไปให้กำลังใจ อันเป็นเหมือนน้ำในทะเลทรายที่หาได้ยาก ท่านมีเมตตาจริงๆ
เทียนดิน…ตอนดิฉันอยู่ที่วังสวนฟ้า ทำงานคนเดียว หลวงตาก็ไปเยี่ยมให้กำลังใจอยู่บ่อยครั้ง และพูดให้กำลังใจเสมอๆ ไม่ทอดทิ้งโยม
สิกขมาตุสิริพร…แต่ก่อนไม่รู้จักอโศก พี่ชายมาอโศกก่อน ดิฉันได้ไปคุยกับพระอโศก ตอนปี 2526-2527 หลวงตาบอกวา หากไม่มีภาระทางโลกแล้วก็ควรมาฝึกฝนตนเอง สมาทานศีล 5 8 10 จนสามารถเป็นสิกขมาตุไปเลย…ตอนนั้นดิฉันฟังแล้วก็ยังไม่เข้าใจ แต่ต่อมาก็ได้มาอยู่กับอโศก หลวงตาก็ให้กำลังใจตลอด เหมือนพ่อแม่ญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง เมื่อก่อนไม่ได้คิดอะไร แต่ตอนนี้หลวงตาเสียไปแล้วก็นึกถึงบุญคุณหลวงตามาก
ส.มือมั่น…นานมาแล้ว ตั้งแต่อาตมาเป็น นศ.รามฯ ตอนนั้นปฏิบัติธรรมไปรู้สึกชีวิตทวนกระแสนี้ทำได้ยาก ก็เลยคิดเลิกปฏิบัติจะไม่ติดต่อกับชาวอโศก เลยไปวัดเพื่อบอกความรู้สึกแก่สมณะ พอดีตอนนั้นไปเจอหลวงตาพรหมพอดี ก็เลยได้เล่าให้ฟัง…ตอนนั้นหลวงตาจะมีกิจนิมนต์ไปที่ขอนแก่นพอดี วันรุ่งขึ้น หลวงตาก็ชวนไปด้วยกัน ไปขอนแก่นและอีกหลายจังหวัด ไปแล้วก็สบายใจขึ้น ก็เลยมีกำลังใจจะปฏิบัติธรรมต่อ จนอยู่มาได้ถึงทุกวันนี้
ส.แก่นเกล้า…เจอหลวงตาครั้งแรกตอน พ.ศ.2500 ปลุกเสกฯ ครั้งที่ 10 สนิทกันตอนอยู่บ้านราชฯ หลวงตาช่วยดูแลเรือ ทำงานเรื่องย้ายเรือ ดำน้ำทั้งวัน กว่าจะทำให้เรือลอยไปได้ มีอุบัติเหตุหลายครั้ง บางครั้งเกือบทำให้เสียชีวิตก็มี หลวงตาเป็นผู้มีเมตตามาก มีปฏิสันถาร งานศพของแม่ออกใส่บาตรท่านก็ไป
ส.ฟ้าไท…อีกมุมหนึ่งของหลวงตาพรหม คือท่านเป็นผู้ใฝ่ศึกษาเรียนรู้ อยู่ใกล้ท่านจะเห็นท่านอ่านหนังสือชาวอโศกเสมอ ฟังเทปธรรมะเสมอ และเขียนบันทึกสม่ำเสมอ
หลวงตาเป็นผู้ให้ เวลาอาตมาไปที่สันติฯ ท่านจะนำสิ่งของเครื่องใช้ เช่นยาสีฟัน แปรงสีฟัน ใส่ถึงไว้ให้สมณะใช้ที่บ้านราชฯเสมอ
ตอนใกล้เสียชีวิต ได้ฟังน้ำเสียงที่คุยกับภันเตเดินดิน ท่านก็ไม่ได้แสดงความอ่อนแอแต่อย่างใด บอกว่า อยู่ไปวันต่อวัน ตายก็ตายไม่ตายก็อยู่ต่อ จิตใจท่านมีความมั่นคง นิ่งสงบ ไม่ทุรนทุรายแต่อย่างใด
ส.เดินดิน…สรุป การสุญเสีย นาวาตรีสมาน กุนัน ในกรณี 13 หมูป่าติดถ้ำ เป็นเหมือนการส่งไม้แห่งการให้การเสียสละให้แก่คนทุกระดับ ทุกหน้าที่การงาน ทุกคนประทับใจ นาวาตรีสมานที่ช่วยคนด้วยจิตวิญญาณ ช่วยชีวิตมนุษย์โดยเสียสละได้แม้แต่ชีวิตตนเอง ช่วยโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน นั่นเป็นเรื่องดีของโลก
แต่ในโลกโลกุตระ ความประพฤติของหลวงตาพรหม เป็นสิ่งที่ขาดแคลนเช่นกัน พวกเราจะรับภาระกิจที่หลวงตาทำไว้สืบต่อไป จะมีเมตตากายกรรม เมตตาวจีกรรม เมตตามโนกรรม ต่อกันและกัน อย่างหลวงตาพรหม
เวลามีปัญหา พ่อครูให้เรามองข้อด้อยข้อบกพร่องของตนเอง พ่อครูทำให้เราดูเป็นตัวอย่าง หาข้อบกพร่องของตัวเองมามากกว่า 10 ข้อ หากเรามองข้อบกพร่องของตนเองออก บุญ ฌาน ก็จะเกิดกับเรา
แม้หลวงตาพรหมได้จากพวกเราไปแล้ว เราน่าจะสืบทอดทิศทางที่มีสาราณิยธรรม กันต่อไปให้เจริญยั่งยืน เหมือนกับต้นตาลที่หลวงตาได้ปลูกไว้ จนแข็งแรง ทนทาน ยืนนาน ….จบ
สมณะแดนเดิม พรหมจริโย(หลวงตาพรหม) มรณภาพช่วงเวลาก่อนตี ๕ วันอาทิตย์ที่ ๑๕ ก.ค.๖๑ ที่ รพ.จุฬาฯ ด้วยอาการสงบ จากโรค มะเร็งเม็ดเลือดขาว เบาหวาน ความดัน หัวใจ ฯลฯ
หลวงตามอบร่างให้ รพ.เป็นอาจารย์ใหญ่ ๓ ปี จากนั้นจะมีงานพระราชทานเพลิงศพ สำหรับบวรต่างๆของชาวอโศกก็จะมีการจัดงานรำลึกถึงหลวงตาตามแต่ละบวรครับ
ประวัติหลวงตาพรหม ท่านเกิดอังคาร ที่ ๗ ก.พ. ๒๔๗๙ สิริอายุ ๘๒ ปี
หลวงตาบวช เมื่อ ๑๕ มิ.ย.๒๕๒๓ บวชได้ ๓๘ พรรษา
น้อมสำนึกในบุญคุณหลวงตา และขอน้อมส่งหลวงตาสู่สัมปรายิกภพ…รีบกลับมานะครับหลวงตา….