สื่อธรรมะพ่อครู(ศีล สมาธิ ปัญญา) ตอน จะลดจิตอคติต่อผู้ใหญ่ได้อย่างไร
_บางครั้งเรามีความรู้สึกไม่ดีมีอคติต่อผู้ใหญ่ รู้สึกไม่พอใจต่อผู้ใหญ่ท่านนี้ ไม่ว่าท่านจะทำอะไรเราก็ไม่ชอบ ทำอย่างไรจะลดจิตชั่วร้ายอย่างนี้ให้หาย หรือน้อยลงนิดนึงก็ยังดีค่ะ
พ่อครูว่า…ถามว่าก็รู้ตัวเองว่าความคิดอย่างนี้ไม่ดีมีอคติต่อผู้ใหญ่ ทำอย่างไรจะลดลง เราก็ต้องเข้าใจว่าเราสมัครใจที่จะมาเรียนที่นี่ มาเรียนที่นี้ต้องมีครูมีผู้ปกครอง เรามาเรียนที่นี่ผู้ปกครองหรือครูก็จะต้องเป็นผู้ใหญ่ เป็นผู้จะสอนเรา เลี้ยงดูอบรมเรา เราก็ต้องยกให้ ถ้าเราไม่ยกให้เราก็จะติดใจถือสาเพ่งโทษไปหมด แน่นอน ไม่ได้ไปจำกัดความคิดว่าเราจะมองความผิดความถูกอะไรไม่ได้ ก็มองได้ แต่เราต้องรู้ว่าผู้บริหารปกครองผู้เป็นครู จะต้องมีความรู้หรือมีวุฒิภาวะ สูงกว่าเรา แม้จะมีสิ่งที่ผิดพลาดอยู่บ้างเราก็ค่อยๆพูดจา มีสัมมาคารวะ มีครุกรณะ ที่จะอยู่ด้วย ท่านผู้ใหญ่หรือครู เราก็บอกว่าเราเห็นจุดนี้ว่าไม่ค่อยถูกก็บอก ค่อยๆบอกกัน ไม่ใช่มองเพ่งโทษไปหมด เราค่อยๆพูดนี้ผู้ใหญ่ก็ไม่มีปัญหาหรอกรับฟังได้ ส่วนเราจะไม่ทำ เราก็ต้องทำที่ใจตัวเราเองว่า เราสมัครใจมาอยู่ที่นี่ก็ต้องทำใจอย่างนี้แหละ ถ้าไม่เช่นนั้น มันก็อยู่ไม่ได้เพราะเราสมัครใจจะมาที่นี่ อยู่ที่ไหนก็ต้องมาทำอย่างนี้ทั้งนั้น แต่ที่นี่พวกเรามีจิตรู้สึกค้านแย้งได้ เพราะที่นี่มีอิสระเสรีภาพ ถ้าหากที่อื่นเขาจะถือความเป็นครูในโรงเรียน จะมาทำแบบอิสระเสรีภาพในชาวอโศกอย่างนี้ไม่ได้หรอก ที่อื่นจะต้องมีหลักเกณฑ์มีความเป็นครูหนักกว่าที่นี่เยอะ ที่นี่ให้อิสระเสรีภาพ ก็เลยเหลิง อะไรนิดหน่อยก็ไม่ได้ เป็นอัตตาของเรา เด็กๆก็จะเป็นอย่างนั้น
_อยากจะทราบว่า มีคนว่ากล่าวสมณะเสียๆหายๆ ว่ากล่าวญาติธรรมด้วยกันเสียๆหายๆ ชอบใช้คำว่าอลัชชีเป็นหลักอย่างนี้ ถือว่าเป็นคนมีอัตตาแรงหยาบใช่ไหมครับ
พ่อครูว่า…ใช่ ที่นี่นั้นไม่ได้เข้าข้าง ไม่ว่าจะเป็นนักบวชหรือนักปฏิบัติธรรม ที่นี่อยู่ในร่องรอยของการปฏิบัติธรรมจริงๆ ไม่ได้ทำเสียหายเหมือนอย่างที่อื่นเขาหรอก ขนาดที่นี่คุณยัง เพ่งว่าแล้ว คุณก็ต้องไปหาที่อื่นแล้วที่ไหนจะดีกว่าที่นี่ ถ้าหากหาได้ดีกว่าที่นี่ก็เอา หากยังไม่ได้คุณก็ต้องจำนนอยู่ในนี้ อาตมาก็ยังมั่นใจว่าที่นี่ดีแล้ว
_หนูเป็นรุ่นพี่ที่สงสารรุ่นน้องที่ได้กระทำความผิด จนได้เป็นลูกไก่ แต่ด้วยความเป็นลูกไก่ทำให้น้องไม่ได้ร่วมกิจกรรมหลายอย่าง เวลาทำกุศลเพิ่ม น้องเขาก็ทำอย่างเต็มที่ 3 ชม.แต่นับให้น้องแค่ 1 ชั่วโมงต่อครั้ง เวลาน้องต้องมาหาคุรุช้า ก็ให้ทำกุศลเพิ่มจะทำให้เด็กไม่มีเวลาส่วนตัว บางทีก็ใช้ให้น้องๆทำงานส่วนตัว ไปล้างภาชนะของตัวเอง ทำเหมือนเป็นคนใช้มากกว่า แล้วหลวงปู่ว่าเป็นความยุติธรรมในอโศก ตั้งแต่หนูอยู่มาไม่เคยได้รับความยุติธรรมเช่นนั้นเลย ทำไมผู้ใหญ่ไม่เข้าใจเลย มีแต่เด็กที่พยายามเข้าใจผู้ใหญ่ เวลาออกความเห็นอะไรก็ไม่เห็นจะรับฟัง ให้ทำกุศลจนมาเรียนสายไม่ค่อยมีเวลาทบทวนบทเรียนทำให้เรียนตามเพื่อนไม่ทัน การบ้านก็เยอะมีหลายวิชา พอไม่ทำก็จะให้ซ้ำชั้น อย่างเดียว หนูจำได้ว่า หลวงปู่เคยพูดว่าโรงเรียนสัมมาสิกขาของเรามีปรัชญา ศีลเด่นเป็นงานชาญวิชา แต่พอพวกหนูไม่ผ่านวิชาการก็จะให้ซ้ำชั้นอย่างเดียว
หลังจากที่หลวงปู่ได้อ่านจบ ทางคุรุเขาก็จะหาตัวผู้เขียน และเขาจะมาต่อว่าต่างๆนานาค่ะ
พ่อครูว่า…ก็ระบายมาเถอะ ผู้ใหญ่ก็ฟังไป เข้าใจความอัดอั้นตันใจของเด็กๆบ้าง ไม่เช่นนั้นมันก็ไม่มีทางระบายเลย ก็ค่อยๆปรับปรุงแก้ไขไป บางทีเด็กๆก็มองถูกต้องในส่วนที่มากไปเกินไปของผู้ใหญ่ บางส่วนเด็กก็เพ่งผู้ใหญ่ที่ทำตามหน้าที่ พอเหมาะพอดีแล้ว แต่อัตตาของเด็กเองเห็นว่ามากไป อัตตาก็จะเข้าข้างตัวเองอย่างนี้ก็เป็นธรรมดาธรรมชาติก็ค่อยๆปรับไปก็แล้วกัน สรุปแล้วไหนๆเราก็สมัครใจที่จะมาเรียนที่นี่ ก็มีอย่างนี้แหละ ครูก็เป็นครูสมัครใจ ครูที่มาที่นี่ไม่มีใครได้เงินได้ทอง ทุกอย่างที่นี่เป็นกุศลเป็นเรื่องประเสริฐได้ขนาดนี้สูงสุดแล้ว ใครทำดีดีกว่านี้ ก็เอาไปทำให้ดีกว่าที่อาตมาพาทำก็ได้ สำหรับอาตมาก็พยายามทำไปให้มันดีขึ้นไป มีอะไรบกพร่องก็พัฒนากันไปอย่างนี้แหละ
_สมมุติว่าหนูมีเพื่อนอยู่คนนึงหนูไว้ใจเขามาก แต่เขากลับทำให้หนูผิดหวังในทุกๆเรื่อง และหนูรู้สึกเสียใจ เขายิ่งรู้ว่าหนูทุกข์เท่าไหร่เขายิ่งมีความสุขเท่านั้น คนแบบนี้น่าสงสารมากเลยนะคะ เราจะช่วยเขาอย่างไรดี
พ่อครูว่า…เขาจะโง่ทำอย่างนั้นก็ปล่อยให้โง่ต่อไป เราบอกผู้ใหญ่ได้ ว่าเพื่อนคนนี้เป็นอย่างนี้นะบอกความจริงอย่าใส่ความ ควรจะให้เขาแก้ไขสิ่งใดก็บอกผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็จะไปช่วยจัดการเอง
[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=Lo00BtxT0Uk[/embedyt]