บันทึกผ่านเลนส์ ส่องโพธิกิจ…`พระโพธิสัตว์สร้างเมือง สร้างธรรมชาติเพื่อมวลมนุษยชาติ
วันพุธที่ 18 กรกฎาคม 2561
ช่วงนี้ย่างเข้าฤดูฝน ฟ้าครึ้มฝนตกติดต่อกันมา 2-3 วันแล้ว เช้านี้พ่อครูเดินดูต้นไม้ที่ตั้งเรียงรายรอการจัดสวนที่สวนเอาพิษออก หลังจากโครงซุ้มไม้เลื้อยก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว ส่วนมากจะเป็นไม้ดอกและไม้หอมนานาพันธุ์หลายชนิดและส่วนมากจะเป็นไม้เลื้อย เพื่อให้เลื้อยตามโครงสร้างเหล็กเป็นร่มเงาและสร้างบรรยากาศ เพิ่มออกซิเจนชั้นดาดฟ้าบนสุดของเฮือนศูนย์สูญ พ่อครูชมต้นที่มีใบปลายยอดสุดเปลี่ยนสีได้ พ่อครูบอกว่าต้นนี้เลียนแบบต้นคริสต์มาส..สนทนากับท่านปัจฉาดินไทเกี่ยวกับยอดบนสุดของซุ้มไม้เลือย น่าจะมีอะไรมาประดับตรงกลางยอด พ่อครูเสนอลูกกลมๆจะมีปลายแหลมด้วยก็ได้ ท่านปัจฉาดินไทเสนอเครื่องวัดลมที่เป็นพญาแร้ง พ่อครูให้จัดสรรอะไรก็ได้ตามสมควร จากนั้นเข้าห้องทำงานชั่งน้ำหนักได้ 49.7ตามมาตรฐานน้ำหนักพ่อครูที่ไม่เกินมากไปกว่านี้ แล้วจึงมานั่งทำงาน เขียนธรรมะตามปกติ
11.17 น.พ่อครูลงมาฉันภัตตาหารชั้นล่างเฮือนศูนย์สูญ อาไม้ร่มนำญาติธรรมมากราบ คุณกมลวรรณญาติธรรมมารอรับชื่อที่ขอจากพ่อครูเมื่อวานนี้กับท่านปัจฉาดินไท พ่อครูตั้งชื่อให้ว่า”กรุ่นกลิ่นดิน”
หลังจากฉันภัตตาหารเสร็จเวลา 12.44 นาที พ่อครูยังสนใจอ่านหนังสือพิมพ์เราคิดอะไรฉบับที่ 336 เดือนกรกฎาคม 2561พออ่านจบพ่อครูเดินไปเก็บที่โต๊ะวางหนังสือสำหรับแจกด้วยตนเอง ก่อนที่จะเดินไปดูต้นมันหรือมังกรหยกที่อาแอ๊ด ปลุกดิน เตรียมจะไปปลูกและขยายพันธุ์ …
พ่อครูเดินมาด้านหลังพระพุทธโตเจอซุ้มขยะหลายซุ้มตั้งรองรับผู้ที่มาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น เดินมาที่อาคารบวรสังเกตเห็นต้นทองอโศกริมทางเริ่มออกดอกหลายต้น ต้นข่อยหินที่เกิดอยู่บนก้อนหินของป้ายบวรราชธานีอโศกก็กำลังเติบโตเขียวสดงามดี..
พ่อครูเดินขึ้นอาคารบวรก่อนจะลงบันไดหน้าเฮือนบวร ต้นทองอโศกที่วางไว้ตามขั้นบันไดออกดอกเหลืองอร่ามหลายต้น พ่อครูเดินมาที่ถนนหลังอาชีวะ เป็นวันที่ 2 แล้วที่เริ่มก่อสร้างถนนคอนกรีต วันนี้เริ่มก่อแบบเททรายหนา15 เซนติเมตร ความกว้างของถนน 7 เมตรระยะทางในแต่ละช่วงอยู่ที่ 120 เมตร แต่คงมีอุปสรรคบ้างเนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่าจะมีฝนตกทุกภาคในช่วงนี้..
พ่อครูเดินมาที่เดิ่นเข่ามวน ถนนก็ยังชื้นแฉะ ปีกหินทั้ง 2 ก้อนถูกย้ายนำมาวางแล้ว แต่ยังไม่ได้ขยับเพื่อจัดวางเป็นหิน 5 ก้อนกลุ่มเดียวกัน เพราะทีมงานยกหินป้าดาวนาได้เดินทางไปขนเรือจากจังหวัดชลบุรีมาที่ราชธานีอโศก พ่อครูเดินเลาะริมแก่งสะพือยังมีปีกหินที่วางริมตลิ่งอีกหลายก้อนถูกหญ้าต่างๆปกคลุม ท่านบอกว่าอีกสักหน่อย คนมาเดินเที่ยวแล้วรู้ว่ามีที่นั่งพักก็แค่ปัดๆก็สามารถนั่งกินเข่ามวนกันได้เลย..
พ่อครูแวะดูต้นไทรซึ่งเริ่มหยั่งราบมาถึงพื้นดิน สร้างอาณาจักรร่มไทรได้กว้างเป็นการเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติของต้นไทร บริเวณนี้ต่อไปก็จะความร่มรื่นมาก แต่ก็ยังมีผู้ที่มานั่งกินข้าวหรือมาเล่นน้ำทิ้งขยะไม่ลงถังให้เห็นเป็นประจำ ทางทีมงานต้องช่วยเก็บขยะไปทิ้งทุกครั้งที่เจอ พ่อครูเดินลุยน้ำหน้าแก้งสะโพ ขึ้นมาทางช่องหินหน้าน้ำโตน แวะดูงานตกแต่งหน้าลิฟท์ที่ชั้น 3 ก่อนที่จะขึ้นชั้น 4 เขียนธรรมะเตรียมการแสดงธรรมในภาคเย็นต่อไป