610720_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ เป้าหมายของศาสนาพุทธคือไม่มีสวรรค์ไม่มีนรก
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://drive.google.com/open?id=100SVtfFKwstR7wQ5DZwgMACHbDwoRfLIEVzur6J2IbY
ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=1w4xFECHcnY12syL6h6WGx1PDWo_Q6QCf
สมณะเดินดินว่า…วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก วันนี้ได้ดูข่าวต่างประเทศ เขาพูดถึงผู้นำสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ไปเยือนประเทศอังกฤษ พูดถึงค่าใช้จ่ายที่เดินทางไป แค่เดินทางไปพักที่รีสอร์ท บอกว่าเกือบๆ 237,500 ดอลลาร์ คนอเมริกันต้องรับภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่ว่าจริงๆยังถูก ถ้าไปพักที่อเมริกาต้องจ่ายคืนละ 1 ล้านดอลลาร์ แท้จริงเจ้าของที่พักก็เป็นโดนัลด์ ทรัมป์เองด้วย แต่ชาวอเมริกันต้องแบกรับค่าใช้จ่ายทั้งหมด ที่พ่อครูเน้นให้เรามาเป็นคนจนสุขสำราญเบิกบานใจนี้เป็นทิศทางที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองและมนุษยชาติ ทิศทางแบบทรัมป์นี้ ทำให้ตนเองและคนอื่นเดือดร้อน ไม่สามารถทำให้โลกเกิดสันติภาพได้แน่นอน มาฟังพ่อครูกันต่อ
พ่อครูว่า…ก่อนจะได้สาธยายทางธรรมก็อ่านsms ก่อน
_มงคล ฉิมพลี · ขอบคุณทุกท่านที่ให้โอกาสได้รับฟังธรรมมะดีๆของอโศก
_7722พ่อครูเทศน์วันจันทร์ให้เด็กๆ บ้านราชรู้สึกท่านเมตตาเด็กมาก พุทธสถานอื่นๆ น่าจะให้เด็กได้ชมทางทีวีด้วยครับ
พ่อครูว่า…ที่อื่นก็มีฟังเช่นกัน
_ยุพดี พรหมจรรย์· ตลอดระยะเวลาที่ท่านป่วยอยู่ท่านไม่มีห่วงอะไรเสียดายแต่ว่าจะไม่ได้ฟังธรรมอีก เท่าที่ผ่านมานับเป็นบุญกุศลที่ได้ฟังธรรมะจากพ่อท่าน(สมณะโพธิรักษ์) จิตที่ตั้งมั่นประพฤติดีปฏิบัติชอบและจะขอตายภายใต้ร่มกาสาวพัสตร์ค่ะ
พ่อครูว่า…คงพูดถึงท่านพรหมจริโยที่เสียไป
สื่อธรรมะพ่อครู(อาริยบุคคล) ตอน
_วลัยพร วรชัยศรีโสภณ ·ประทับใจเรื่องที่สิกขมาตุเอามาอ่าน ขอบพระคุณค่ะ กราบคาราวะ หลวงตาพรหม จากหัวใจ?
กราบขอบพระคุณที่ท่านเมตตาเป็นเนื้อนาบุญให้ดิฉันมีโอกาสสร้างบุญกุศลโดยการทำอาหารสุขภาพแมคโครไบโอติกถวายระหว่างที่ท่านป่วย สัมผัสท่านได้ นิ่ง สงบ เย็น เมตตาสูง เน้นให้ทำเจโต สำคัญมากต้องฝึกไว้ จะได้ใช้สู้เมื่อมีเวทนา ขอบพระคุณเจ้าค่ะ กราบลาหลวงตาเจ้าค่ะ
พ่อครูว่า…ผู้ที่ได้สัมผัสกับพวกเราแล้วพบว่าท่านเป็นผู้ที่นิ่งสงบเย็นเมตตาสูง เน้นทำเจโต อะไรอย่างนี้เป็นต้น หรือแม้แต่บอกคุณลักษณะต่างๆที่ยกตัวอย่าง จะนิ่งก็ได้ เร็วไวก็ได้ คุณสมบัติต่างๆจริงๆแล้ว เป็นคุณสมบัติที่สูงส่งของบุคคลผู้ได้ฝึกจิตที่ฝึกมาดีแล้ว จิตจะคล่องแคล่ว เป็นกายปาคุญญตา เป็นกายกัมมัญญตา เป็นกายลหุตา เป็นต้น เป็นกายมุทุตา เป็นต้น ซึ่งบัญญัติภาษาคำต่างๆที่อาตมากล่าวมานี้ เป็นภาษาบัญญัติที่กล่าวนามธรรมหรือจิตของที่ฝึกมาดีแล้วเป็นจิตอรหันต์ขึ้นไป หรือจะใกล้เข้าไปหาอรหันต์ก็เป็นคุณวิเศษอย่างนี้ คนเดายาก เดาว่าจิตของพระอรหันต์ จะนิ่งสงบ เฉยเฉื่อยเนือยเย็นไม่ใช่ เย็นจริง แต่เร็วคล่องว่องไว เป็นกายปาคุญญตา
กาย คือจิตนะ พวกเราเรียนรู้มาแล้ว กายคือจิต มโน วิญญาณ กายหมายถึงเจตนา สัญญา สังขารที่คล่องแคล่วว่องไวปราดเปรียว ไม่ใช่เฉยๆ คนที่เข้าใจศึกษามันไม่ครบ ทุกวันนี้จะไปเน้นแต่ทางนิ่งสงบ มันเร็วแต่นิ่ง คุณนึกสภาพของ ลูกข่าง นอนวัน หรือลูกข่างกินน้ำจั้น ทางภาคกลางเรียกลูกข่างนอนวัน ยิ่งหมุนเร็วยิ่งนิ่ง จิตของพระอรหันต์จะไม่ช้ามีแต่เร็ว แต่นิ่ง สงบ ไม่ไหวหวั่นอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่วูบวาบอย่างนั้นอย่างนี้ ไม่ขึ้นไม่ลง ซึ่งทุกอย่างตรงตามสภาวะธรรมตามความเป็นจริง ไม่เคลื่อนไปอย่างนั้นอย่างนี้ อะไรมาอย่างไรก็เป็นสิ่งที่เป็นธรรมชาติตามเหตุเกิด
ทุกวันนี้โน้มเอน ไปในทางเทวนิยม สมถะ ทางช้า นิ่งหยุด มันกลับกันกับคุณสมบัติที่วิเศษเร็วไวคล่องปราดเปรียว จะเห็นพวกเราเป็นอาริยะ ที่ไว แต่นิ่งในใจไวในพฤติกรรม คนก็เลยงง บอกว่าอรหันต์ต้องนิ่งๆช้าๆเย็นๆเฉื่อยๆ แล้วมันจะทันอะไร ในยุคนี้หากช้าไม่ทันกิน สุดโต่งไปอีกทาง น่าสงสาร
ที่จริงอาตมาทำเร็วไวคล่อง ขนาดอายุ 20 30 ก็ได้ ขนาดนี้อาตมาก็เห็นว่าคนก็ว่าเว่อร์แล้ว แก่ไม่เจียมแก่ แก่ที่ไหน นั่นมันอายุ อาตมายังไม่แก่ยังคล่องแคล่วแววไว ไม่ได้พูดเล่น คอยดูตอนอาตมาอายุ 100 อย่ารีบตายไป อีก 16 ปีเอง อย่าเพิ่งรีบตายไป อาตมาจะอย่างนี้หรือเปล่า
อาตมาขอยกตัวอย่าง ขณะนี้พลเอกเปรมก็ 98 ดูเดินนะ อาตมาว่า อาตมาไม่เป็นอย่างนั้น โปรดติดตามอย่ากะพริบตา
มาดู คุณลักษณะอรหันต์ 12 ประการที่อาตมาเขียนตามสภาวะจิต
-
เป็นคนหมดทุกข์ (ดับทุกข์อริยสัจ)
-
เป็นคนไม่มีภัย
-
เป็นคนมีคุณค่า
-
เป็นคนทำประโยชน์เพื่อผู้อื่นถ่ายเดียว
-
เป็นคนไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง
-
เป็นคนมีเมตตาจริง
-
เป็นคนมีอุเบกขาจริงแท้ อุเบกขามีคุณสมบัติ 5 (ปริสุทธา คือบริสุทธิ์ปราศจากกิเลส ปริโยทาตา แม้จิตจะกระทบกับผัสสะอย่างไรก็ไม่เกิดกิเลส มุทุคือจิตหัวอ่อน ทั้งเร็วไวรู้เร็วปรับได้เร็วไม่แข็งกระด้าง ปรับอย่างเจโตดัดได้ง่าย ฉลาดรู้ได้ง่าย ปฏิภาณง่าย คือจิตมุทุภูตธาตุ กัมมัญญา คือจิตที่นำไปใช้งานทุกกรรมกิริยา กายวาจาใจ เป็นจิตที่เหมาะควรต่อการงานทุกการงาน ปภัสสรา ยิ่งผ่องใสขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีวันตกต่ำ นี่คืออุเบกขา 5 ที่แท้จริง)
-
เป็นคนไม่ทำบาปแล้ว สิ้นบาปสิ้นบุญ ปุญญปาปปกริขีโณ บุญก็ไม่มีเพราะบุญคือพลังงานที่สร้างขึ้นมาเป็นปัจจุบันเท่านั้น บุญไม่มีอดีตไม่มีอนาคต ทำงานที่เรียกว่าบุญ จิตที่มีพลังงานบุญมีหน้าที่สลายราคะ โทสะ โมหะ เป็นพลังงานที่เรียกด้วยศัพท์ว่าไฟ เป็นไฟฌาน มีประสิทธิภาพจัดการกับราคะ โทสะ โมหะ พอทำเสร็จ บุญก็หมดหน้าที่ พระอรหันต์ไม่มีบุญอีกเลย เป็นคนสิ้นบุญสิ้นบาป เป็นคนทำแต่กุศล พระอรหันต์มีแต่กุศล จะทำกรรมอย่างไรก็สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง กุสลัสสูปสัมปทา บุญเป็นการทำกิเลสฉิบหายแล้วจบ เพราะฉะนั้นใครอย่าไปสั่งสมบุญอย่าไปอยากได้บุญ แต่ต้องสร้างบุญให้เป็นพลังงานได้สำเร็จ สลายกิเลสแล้วก็จบไม่ค้างคาอยู่ที่ไหน บุญจะเกิดขณะเป็นปัจจุบันเท่านั้น หมดจากปัจจุบันไม่มีบุญที่ไหน เมื่อสร้างพลังงานนี้มีประสิทธิภาพสลายกิเลสเสร็จ บุญรู้จักแต่กิเลส มันฆ่าแต่กิเลสไม่รู้จักอย่างอื่นเลย บุญนี้มีปัญญาแหลมคมที่สุด ซื่อสัตย์ที่สุดไม่บิดเบี้ยว มันไม่ฆ่าไม่ทำลายอย่างอื่นเลยที่เป็นข้างเคียง
-
เป็นคนทำแต่กุศล คนที่เป็นพระอรหันต์แล้วทำแต่กุศล
10.เป็นคนได้ประโยชน์ตนครบแล้ว ไม่มีประโยชน์ตนที่ต้องทำให้ตนอีกแล้ว
-
เป็นคนรู้จักสวรรค์ นรก นิพพาน ถูกถ้วน
-
เป็นคนรู้จักและมีนิพพานสัมบูรณ์
อาตมาเขียนออกมาพูดออกมาจากสภาวะจริงของตนเองที่มี ใครจะว่าทำมาเป็นอรหันต์หรือไม่ก็แล้วแต่เขา
เขาเข้าใจไม่ครบถ้วน อรหันต์ที่มีลักษณะนิ่งก็มี แต่จริงๆแล้วเร็วไวคล่องแคล่ว
SMS วันที่ 18-19 กค. 2561
_3867สมาธิแบบเจโตสมถะมีอุปการะได้พักจิตสงบ!อ่านสภาวะจิตทุกขณะหลับตา!ใช้ สัญญาทบทวนปฏิบัติเตวิชโชได้!แต่พุทธเทวนิยมใช้ไปทำอิทธิฤทธิ์คุณไสยเวทย์มนต์!สมาธิลืมตารู้สภาวะจิตทุกขณะของพุทธอเทวนิยมใช้พลังทางจิตเพื่อลดตัวตนละกิเลสไปสู่นิโรธ วิมุติ วิโมกข์ นิพพาน!ลูกแร้งคงจำธรรมะพญาแร้งบ่ผิด?
พ่อครูว่า…นั่งเจโตสมาธิมีประโยชน์ 4 ประการ
-
ได้พักผ่อนแบบสงบจิต มีอุปการะมาก
-
ศึกษาเพิ่มทักษะในเจโตสมถะ และใช้ตรวจอ่าน ภาวะจิตต่างๆ ในภวังค์
-
เอื้อให้ปฏิบัติเตวิชโช (ทบทวน) ได้อย่างดี .
-
สร้างพลังทางจิต ที่จะนำไปทำฤทธิ์ต่างๆ (แต่ฤทธิ์ในพุทธศาสนา หมายถึง ฤทธิ์ที่ระงับ ดับกิเลส เพื่อไปสู่นิโรธ-วิมุติ-วิโมกข์-นิพพาน)
ศาสนาพุทธเป็นศาสนาอเทวนิยม เป็นศาสนาที่รู้สภาวะจิต 2 แล้วทำให้เป็น 1 สำเร็จ จิตจึงนิ่งได้ด้วยและเร็วได้ด้วย
_3867ยินดีกับสิบสามครอบครัวต้อนรับลูกหมูป่ากลับบ้านอบอุ่น!ชีวิตที่ต้องพร้อมสู่โลกของลาภยศชื่อเสียง!คงมีครอบครัวโรงเรียนชุมชนช่วยรับมือดูแลอยู่เคียงข้างคุ้มครองเด็กได้!กบกะลาเดียว!
_2166พ่อท่านครับวันนี้(18 กค) ช่องนี้ทำไมไม่ถ่ายทอดรายการพิเศษ คสช. ได้รับสิทธิพิเศษอะไรครับ?? ช่องอื่นเขาถ่ายทอดกันหมด
(..ทาง คสช. ไม่บังคับว่าจะต้องถ่ายทอดสด ตลอดเราจึงได้ตัดสัญญาณกลับมาเข้ารายการพ่อครู ฯ ตามปรกติ )
พ่อครูว่า…ทางคสช.ไม่ได้บังคับว่าต้องออกสด แต่เราอัดเทปไปออกตาม ไม่ใช่เรากระด้างกระเดื่อง แต่เขาเห็นความสำคัญของรายการอาตมาก็เลยถ่ายทอด แต่คุณเห็นความสำคัญของหมูป่า ก็เป็นอย่างนั้น โดยเหตุการณ์สมมติสัจจะก็ถือว่าสำคัญ แต่เราก็ออกให้ แต่ขอออกเวลาอื่น เวลานี้เป็นเวลาที่มีคนเขารอฟังอาตมาบรรยายสดก็มี อย่านึกว่าอาตมาเป็นคนไม่มีแฟนานุแฟนนะ แม้จะมีจำนวนน้อย
_สุนิสา ประเสิรฐสุข : จะพยามฟังทุกวันค่ะเพื่อซึมซับความดีงามเสพย์ข่าวที่สร้างสรรค์ สาธุค่ะ
_พอล เจนเซ่น : ประสบการณ์ของแม่เณรกล้าข้ามฝันนำมาอธิบายเข้าในการปฏิบัติธรรมได้เข้าใจง่ายดีครับ สาธุ
พ่อครูว่า…อาตมาก็ว่า สิกขมาตุกล้าข้ามฝันอธิบายได้เก่ง ผู้ใดทำได้ดีก็ชมทำไม่ดีก็ตำหนิกัน พระพุทธเจ้าสอน
อาตมาไปเจอกระดาษหน้าเดียว เขาเก็บมาจากไหนไม่รู้ อาตมาอ่านที่เขามีอักษร เขาว่าเป็นการเรียนการสอนของเถรสมาคม เขามีข้อสอบ เอาข้อ 15 เขาก็มีคำถาม
การถามตอบระหว่างลูกศิษย์กับอาจารย์ การถามว่า ใครคือผู้รู้ ถามเพื่ออะไร ตอบคือ เพื่อเป็นแนวทางไปสู่พลังอำนาจ และเป็นการบ่มนิสัยให้เกิดสติและไม่หลงทาง นี่คือคำตอบ
ข้อ 16 ฐานวางจิตมีกี่ที่ อะไรบ้าง ลองฟังอาตมาอ่านดูที่เขาศึกษากันก็น่าสงสาร ยังงมโข่งอยู่กับอะไร ถามว่าฐานวางจิตมีกี่ที่ เขาก็ตอบ มี 3 ฐาน คือหน้าผาก หน้าอกเบื้องซ้าย สะดือ นี่คือฐานวางจิต เขาเรียนกันอย่างนี้
ข้อ 17 ผู้วางจิตไว้ที่ฐานแล้วย้ายได้หรือไม่ ตอบ..ถ้าไม่เหมาะสมกับตัวเองย้ายได้ และเมื่อย้ายได้ที่เหมาะสมแล้วไม่ควรย้ายอีก เพราะจะทำให้จิตเกิดความลังเลสงสัยไม่ได้สะสมพลังงานจิต
ข้อ 18 บทสวดอธิษฐานก่อนการเดินจงกรม กล่าวว่าอย่างไร?…ตอบ…เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา พุทโธๆ
อาตมาก็เพิ่งจะได้รับความรู้นี้
ข้อ 19 บทสวดแผ่เมตตาหลังการเดินจงกรม ควรจะสวดเมตตาหลังเดินจงกรม…สวดเมตตาก็คือสัพเพสัตตาสุขิตาโหตุขอให้สัตว์ทั้งหลายจงเป็นสุขเป็นสุขเถิด…ขออย่างกับศาสนาคริสต์ ศาสนาเทวนิยม ศาสนาพุทธไม่มีขอ จะขออยู่นั้นไม่ใช่ศาสนาพุทธ ขอให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ไม่มี
ข้อ 20 สวดก่อนนั่งสมาธิอธิษฐานก่อนนั่งสมาธิเพื่อมีพลังรักษาเรากล่าวว่าอย่างไร ตอบ..ข้าพเจ้าระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้าคุณพระธรรมคุณพระสงฆ์คุณบิดามารดาคุณครูบาอาจารย์ จงมาดลบันดาลให้ใจของข้าพเจ้า จงรวมลงเป็นสมาธิ พุทโธธัมโมสังโฆๆๆๆ พุทโธพุทโธพุทโธ
พ่อครูว่า…มันบานปลายไปไกล พวกคุณนี่มีวาสนานะไม่ได้เรียนกับเขา มาเรียนกับโพธิรักษ์เยอะแยะอะไร
ข้อ 21 การสร้างจิตให้มีเมตตาสร้างอย่างไร ตอบ… “สัพเพสัตตาอะเวราโหนตุ ขอสัตว์ทั้งหลายจงอย่ามีเวรต่อกันและกันจงดำรงชีพให้มีสุขไม่มีทุกข์เถิด ….ขอให้สัตว์ทั้งหลายจงมีส่วนเสวยผลบุญอันบำเพ็ญแล้วของข้าพเจ้าเทอญ
พ่อครูว่า…คือมันออกนอกรีตไปไกลมากเลยศาสนาพุทธ บุญก็เป็นตัวตนรูปร่างเพชรนิลจินดาเป็นวิมานสวรรค์อะไรไปไกลหมดเลย อุทิศให้คนเป็นได้รับบ้างสิ ดันอุทิศให้กับคนตายแล้วใครจะมาบอกได้ว่าคนตายได้หรือไม่ได้ ถ้าหากแน่จริงก็ต้องบอกสิว่าได้รับหรือไม่อย่างไร มาบอกสิ คือ เล่นลมๆแล้งๆ เสียเวลาบ้าบอน่าสงสารจริงๆ
_สถานที่ที่เหมาะสมต่อการทำสมาธิ พ่อครูว่า…ต้องมีสถานที่ที่เหมาะสมด้วยหรือในการทำสมาธิ เขาว่าสถานที่ที่ว่าคืออะไร ตอบ…เสนาสนะสัปปายะคือสถานที่สะดวกสบายเหมาะแก่การทำสมาธิ มีความวิเวก ไม่พลุกพล่าน
ศาสนาพุทธ ถ้าสมาธิที่ตั้งมั่นอยู่กับความวุ่นวายอยู่กับความรุนแรงของโลก มีทั้งอบายมุขมีทั้งกามโลก รูปโลก อรูปโลก เต็มที่ แล้วอยู่เหนือมัน สามารถช่วยเหลือสิ่งเหล่านี้ได้ทั้งสัตว์และมนุษย์ในโลก นี่คือสมาธิ สมาธิคือจิตแข็ง จิตตั้งมั่น จิตสมบูรณ์แบบ เข้าใจสมาธิก็ไม่ได้ สมาธิเขาแปลว่าเพ่ง
สมาธิเป็นผลของจิตที่ได้ปฏิบัติจนมีผลตกผลึกขึ้นมา คนที่ปฏิบัติธรรมเรียนรู้กิเลส กำจัดกิเลส กิเลสลดลงก็สั่งสมจิตความลดลง กิเลสหมดก็ยิ่งดีเลยสะสมความหมดกิเลสให้ตกผลึกตั้งมั่นให้เป็น อัปปนา พยัปปนา เจตโสอภินิโรปนา นั่นคือความเป็นสมาธิ แล้วเขาหมายถึงอะไร หมายถึง สเต็ปไหนไม่รู้เรื่อง สับสนปนเปกันไปไม่รู้เรื่องเลย
_อากาศที่เหมาะสมต่อการทำสมาธิเรียกว่าอะไร ตอบ..อุตุสัปปายะ มีลักษณะ เป็นอากาศที่สบายไม่ร้อนไม่หนาวเกินไป มีอากาศบริสุทธิ์ปลอดโปรงถ่ายเท
พ่อครูว่า…ก็ต้องมีเครื่องปรับอากาศสิ มีเครื่องฟอกอากาศด้วย
_สมาธิไฮเทค มีลักษณะอย่างไร มีความเกี่ยวพันกับโลกอย่างไร ตอบ…คือสมาธิที่สามารถทำสิ่งที่ยากให้ง่ายและสามารถทำได้อย่างสะดวกสบาย ย่อจากความล่าช้าให้มารวดเร็วสบายๆเปรียบกับยุคไฮเทคในปัจจุบันนี้ ที่ย่อ การศึกษาจาก 5 ปีเหลือเพียง 6 เดือน
_เราควรเดินจงกรมกี่นาที ตอบ…เดิน 30 นาทีนั่ง 30 นาทีเพราะไม่มากไปน้อยไป
พ่อครูว่า…อ่านไปก็เมื่อย คือ ไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้าสอนไว้ที่ไหนเอามาพูดกัน มันนอกตำรานอกแบบอะไรออกไปไหนไม่รู้ เข้าไปเอาตำราสมถะ มาทำ อาตมาก็ไม่ใช่นักศึกษาก็เลยไม่รู้
ของพระพุทธเจ้าตามพระไตรปิฎกเอามาปฏิบัติตามพระอนุสาสนีกลับไม่เอา ไปคว้าขี้หมูราขี้หมาแห้งมาทำ ขยันทำด้วยน่าสงสารจริงๆ
_ข้อ 30 สมาธิมีกี่แบบอะไรบ้าง ตอบ…1.สมาธิธรรมชาติคือการพักผ่อนการนอนหลับ เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติไม่มีพระอรหันต์องค์ใดสำเร็จด้วยการนอน 2.สมาธิสร้างขึ้น นับแต่วินาทีของการบริกรรม ด้วยความตั้งใจที่จะทำสมาธิเป็นสมาธิที่สร้างขึ้น
พ่อครูว่า..บริกรรมของเขาคือจิตที่พยายาม การกระทำครบรอบทุกอย่าง ด้วยความตั้งใจ ซึ่งอาตมาฟังแล้วเขาก็เข้าใจกัน อาตมาบางทีก็ไม่เข้าใจไปกับเขา
สมณะเดินดินว่า…เอาคำว่า พุทโธคือคำอื่นมาท่องเรียกบริกรรม
_คุณสมบัติของสมาธิคืออย่างไร ตอบ…เป็นลมละเอียด ถูกกลั่นกรองอย่างอ่อนนุ่มแต่แกร่ง พร้อมจะซึมซับเข้าสู่จิตใจ ปรากฏความสุขเป็นความรู้สึกเชิงรับรู้อยู่ที่ฐาน โดยมีสติควบคุมไม่ให้เกิดการกระทบจากอารมณ์ได้ง่ายๆ
พ่อครูว่า…พระพุทธเจ้าสอนว่าสมาธิคือความตั้งมั่นของจิต แต่เขาคือลมละเอียด ถูกกลั่นกรองอย่างอ่อนนุ่มแต่แกร่ง พร้อมจะซึมซับเข้าสู่จิตใจ ปรากฏความสุขเป็นความรู้สึกเชิงรับรู้อยู่ที่ฐาน โดยมีสติควบคุมไม่ให้เกิดการกระทบจากอารมณ์ได้ง่ายๆ
สมาธิเขาต้องแข็งเป๊ก จะมากระทบอย่างไรก็ไม่หวั่นไหว อ่อนนุ่มแต่แกร่ง คืออย่างไร? (โยมว่า เหมือนขนมกรอบนอกนุ่มใน)
อาตมาพูดไปแล้วก็น่าสงสาร
_เราจะแก้ไขลักษณะ ต่อต้านสมาธิ คือ ความกระวนกระวายอาการคันโดยไม่มีเหตุผล ความโลภ อยากได้เร็วอย่างไร ตอบ…ความกระวนกระวายจะแก้ไขด้วยการบริกรรม ให้มากจนกว่าจิตสงบ ความกระวนกระวายจะหายไปเหมือนน้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ เมื่อเพิ่มน้ำให้มากย่อมชนะไฟ อาการคันโดยไม่มีเหตุผล ปั่นป่วนในท้องระหว่างการทำสมาธิ สมาธิเป็นการสะสม
พ่อครูว่า..เขาพูดนี้เราเห็นว่าคนละทางจริงๆ สมาธิคือการสลายกิเลส ไม่สะสม แต่เมื่อสลายกิเลสแล้วจิตจะว่างแข็งแรง เป็น ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา มีความบริสุทธิ์แข็งแรงมีความแคล่วคล่องว่องไว มีความเหมาะควรต่อการงาน แต่สมาธิเขามีแต่เทคนิค
คำสอนของพระพุทธเจ้าในพระไตรปิฎก ไม่มีการเข้าการออกสมาธิอะไร พระสารีบุตรก็บอก ไม่ว่าจะเป็นสมาธิหรือฌาน ก็ไม่มีการเข้าการออก แม้แต่นิโรธก็ไม่มีการเข้าการออก
ภิกษุณีธัมมทินนา ก็บอก ไม่ต้องเข้าต้องออกอะไร
พระอานนท์ได้เห็นท่านพระสารีบุตรมาแต่ไกล จึงกล่าวว่า “อาวุโสสารีบุตร อินทรีย์ของท่านผ่องใสนัก สีหน้าของท่านผ่องใส วันนี้ ท่านพระสารีบุตรอยู่ด้วยวิหารธรรมอะไร?” (สภาพที่จิตอาศัยอยู่)
ท่านพระสารีบุตรตอบว่า อาวุโส ดังเราจะบอก เราเข้าเนวสัญญานา-สัญญายตนฌาน เพราะล่วงอากิญจัญญายตนฌานเสียได้โดยประการทั้งปวงอยู่. อาวุโส เรานั้นมิได้คิดอย่างนี้ว่า เราเข้าเนวสัญญานาสัญญายตนฌานอยู่ หรือว่าเข้าเนวสัญญานาสัญญายตนฌานแล้ว หรือว่าออกจากเนวสัญญานาสัญญายตนฌานแล้ว ฯลฯ [ว่าด้วยเนวสัญญานาสัญญาฯ ล.17 ข.516]
คือจากจุดนี้ผ่านไปจุดนี้ มันไม่ได้เข้าได้ออกอะไร มันได้จุดนี้สำเร็จแล้วจบ ผ่านจุดนี้ วีติกมกิเลสหมดแล้ว ไปสู่ปริยุฏฐานกิเลสต่อไป ไม่ได้เข้าได้ออก ทำได้แล้วได้เลย เข้าหรือออก หมายถึงเข้าถึงบรรลุ ออกคือหลุดพ้นไป แล้วไม่ได้เข้าหรือออกไม่ได้ย้อนกลับอะไร ออกคือไม่ได้คาข้องอยู่ นั่นคือของพระพุทธเจ้า
ของพระพุทธเจ้าสมาธิก็ดี ฌานก็ดี นิโรธก็ดี ปฏิบัติยามลืมตาเห็นกิเลส กิเลสเองไม่ใช่ของแท้ ของจริง เอ็งเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาอย่ามาทำตลก เห็นอนิจจัง แล้วเอาจริงเอาจังกับการกำจัดกิเลสเห็นกิเลสมันลด
กิเลสไม่เที่ยง 1. มันไม่เที่ยงอย่างเพิ่มขึ้น 2. มันไม่เที่ยงอย่างลดลง
ผู้ปฏิบัติธรรมะพุทธเจ้าต้องทำให้กิเลสลดลง ตัวการนี้ ทำให้ลดลงได้เรียกว่าวิราคานุปัสสี
ตอนแรกเห็นมันไม่เที่ยงคืออนิจจานุปัสสี ทำให้กิเลสลดลงมาคือความสำเร็จของศาสนา ทำให้จางคลายลง วิราคานุปัสสี จนกิเลสมันดับเรียกว่า นิโรธานุปัสสี ทำแบบที่สำเร็จนี่แหละทำให้มากทำให้บ่อย อาเสวนา ภาวนาพหุลีกัมมัง ทำซ้ำอีก ไม่ได้เข้าหรือออกอะไรเลย
การเข้าการออก มันไม่ใช่ของศาสนาพุทธ ไม่ใช่วิธีของศาสนาพระพุทธเจ้า วิธีของพุทธเจ้าให้ลืมตารู้อย่างปัจจุบัน ทำให้กิเลสลดลงไปได้เรื่อยๆ ตามจริง มันอาจยึกยัก อวิปริณาธัมมัง แต่ไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา คือไม่ตกต่ำ เข้ากระแสแล้วเข้าเลย
โสตาปันนะ จิตเข้าสู่กระแสโลกุตรธรรม คือจิตได้โลกุตระแล้วไม่มีตกต่ำไม่หลุดออกไป มีแต่จะได้ อาจยึกยัก แต่ไม่ได้ถอยลง มันจะไม่นิ่ง ยึกยัก แต่สูงขึ้นๆ จนอวิณิปาตธรรม จนนิยตะไม่ยึกยัก มี falcrum มีจุดยืน ที่จะสูงไปสู่ที่สุดท้ายเดียวคือ สัมโพธิปรายนะ
คุณสมบัติของพระโสดาบันมี 8 ประการ
-
รู้จักทุกข์
-
รู้จักสมุทัย
-
ทำให้เกิดนิโรธได้
-
รู้จักทางทำให้เกิดนิโรธคืออริยสัจ 4
-
มีโสตาปันนะ
-
อวินิปาตธรรม
-
นิยตะ
-
สัมโพธิปรายนะ
นี่คือคุณสมบัติของโสดาบัน
ตอนนี้เรากำลังเน้นโสดาบันกัน เพื่อให้รู้จักขั้นตอน รู้จักหลักวิชาการองค์ประกอบว่ามันมีอย่างไร ให้ศึกษากันให้ดี ทำให้เป็นตำราเป็นแบบอย่าง ให้คนมาศึกษาว่าเป็นอย่างนี้หรือ การศึกษาของพระพุทธเจ้านั้นไม่ได้ เปรอะไปหมด ต้องทำอยู่ในการศึกษา 3 ศีล สมาธิ ปัญญา
คุณต้องทำไปตามลำดับ เช่น ศีลข้อ 1 อธิบายแล้วต้องเล่า
ก็มีข้อกำหนดต้องมีศีล คุณจะเกิดการเจริญทางธรรมของพระพุทธเจ้าต้องเอาศีลมาเป็นข้อกำหนด ข้อที่ 1 เกี่ยวกับสัตว์ในโลกนี้ ที่มีชีวิตอยู่ เมื่อคุณเกี่ยวข้องกับสัตว์สัมผัสกับสัตว์คุณเกิดจิต ศีลก็เกิดจิตเป็นอธิจิต จิตของคุณ สัมผัสแล้วหวังประโยชน์เพื่อสัตว์ทั้งปวง สัตว์ทุกตัว เราสัมผัสเกี่ยวข้องกับมัน ตัวเล็กตัวใหญ่ก็แล้วแต่ ไม่ใช่แค่ท่องมา จงอยู่เป็นสุขเป็นสุขเถิด ท่องทำไม ก็ต้องมีจิตและทำ มีใจกรุณามีใจเอ็นดู วางทัณฑะวางศาสตรา เว้นการฆ่า ละการฆ่า ไม่ฆ่า อาตมาย้อนจากหลังมาหน้า
หวังประโยชน์เพื่อสัตว์ทั้งปวงอยู่ คนใดที่มีคุณสมบัติดังนี้ เราสัมผัสกับสัตว์แล้วศีลข้อที่ 1 เราเป็นอย่างนี้
-
อารมณ์อาการของจิตเรา เห็นจิตแล้วไม่ใช่อยากฆ่า แม้มันกำลังมาหยิบของของเรา แมลง มด มากินของๆเรา เราก็ไม่ฆ่ามันเพราะมันต้องหากิน หวังประโยชน์เพื่อสัตว์ทั้งปวงอยู่ มีใจเอ็นดูมีใจกรุณา เออ เอ็งก็อยากนะ แบ่งให้มันกินได้ก็แบ่ง หากไม่แบ่ง ข้าหวง ก็เอาของคุณมา ก็ปล่อยสัตว์มันไป ใจดำก็เถอะไม่ให้มันกิน