บันทึกผ่านเลนส์ ส่องโพธิกิจ…เดินตามเส้นทางสัมมาอาริมรรคมีองค์ ๘ แบบสัมมาทิฏฐิ จะเกิดสัมมาสมาธิได้อย่างแท้จริง
วันอังคารที่ 24 กรกฎาคม 2561
เช้านี้พ่อครูตื่นตามปกติ กราบพระรัตนตรัยเสร็จแล้ว ออกกำลังกายทั้ง 4 ท่าตามปกติ วันนี้พ่อครูวิดพื้นอย่างเต็มรูปแบบ จากเคยคุกเข่าวิดพื้นวันนี้เหยียดเข่าตรง วิดพื้นได้ 25 ครั้ง เสร็จแล้วนั่งสนทนาธรรมกับท่านปัจฉาสมณะพ่อครูมีดำริในเรื่องการคิดสูตรขยายอายุขัยในเรื่อง co-efficient โดยใช้สูตร E = C (mc2) + Aโดยให้นำตัวเลขสำคัญๆที่เกี่ยวข้องกับอายุของพ่อครูแทนค่าในสมการ ท่านปัจฉาแสนดินช่วยคิดลองทำสูตรตัวเลขต่างๆแต่ก็ยังไม่ลงตัวเพราะเป็นสูตรที่ต้องมีเรื่องของนามธรรมเข้ามาเกี่ยวข้องกับสูตรที่เป็นตรรกะทางคณิตศาสตร์ แต่พ่อครูก็ยังมีเจตนาที่จะแทนค่าสูตรเพื่อให้ทุกคนสามารถปฏิบัติตามให้มีอายุยืนยาวได้..วันนี้พ่อครูชั่งน้ำหนักก่อนนั่งทำงานได้ 50.1 กิโลกรัมก่อนที่จะมานั่งเขียนหนังสือธรรมะและชมข่าวสารบ้านเมืองจากทีวีทั้ง 3 เครื่อง
เวลา 11.20 นาทีพ่อครูลงมาฉันภัตตาหารที่ชั้นล่างเฮือนสูญ ชาวชุมชนทะเลธรรมได้นำใบโพธิ์ที่ได้เขียนคำอธิษฐานปฏิบัติปิตุบูชาพ่อครูมาถวาย พ่อครูนำใบโพธิ์ทุกใบมาอ่านระหว่างฉันภัตตาหาร หลังจากฉันภัตตาหารเสร็จออกมาเดินย่อยอาหารและตรวจตามพื้นที่ต่างๆเช่นเคย พ่อครูเดินมาด้านหลังอาสนะสงฆ์ทักต้นกระโดนน้ำที่ล้อมมา เวลานี้เริ่มเติบโต แตกกิ่งก้านใบแข็งแรง พ่อครูบอกว่าต่อไปจะเป็นร่มเงาที่แข็งแรง พ่อครูหยุดยืนมองไปที่สวนไม้ตาย คนงานกำลังนำท่อ 8 นิ้ววางระบบน้ำ พ่อครูเดินขึ้นมาทางช่องด้านข้างลานรอยพระพุทธบาทเจอต้นผักแว่นและผักอีกหลายชนิดอุดมสมบูรณ์
พ่อครูขึ้นมาเดินบริเวณลานรอยพระพุทธบาท วันนี้ไม่ได้เปิดน้ำเพราะกำลังซ่อมเครื่องสูบน้ำ ทำให้เห็นร่องรอยของตะไคร่น้ำเพราะครูบอกว่าน่าจะมาขัดตะไคร่เขียวออกกันลื่น พ่อครูเดินมาบริเวณหินตั้ง หน้าทางเข้าน้ำตกผาแหงนซึ่งองค์รูปหล่อปางอภัยยังไม่ได้ติดตั้งถาวร ท่านมีดำริให้หาโซ่พ่นทองมาไว้ที่ข้อมือเพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ของรูปหล่อพ่อครูปางอภัยด้วย..พ่อครูเดินขึ้นมาที่อาคารบวร ช่างกำลังติดตั้งใบโพธิ์รูปหยาดน้ำใจ ตรงแป้นน้ำย้อย พ่อครูสังเกตเห็นนกกระจาบทำรังที่ต้นหูกระจงทุกต้น แสดงว่าแม้แต่นกก็รู้ว่าที่ไหนปลอดภัยสำหรับตัวเองและลูกๆ
พ่อครูเดินเข้ามาภายในเฮือนบวรเข้ามาที่นิทรรศการพระโพธิสัตว์ ไปที่บอร์ดของท่านอังคาร กัลยาณพงศ์ ที่มีบทกวีของท่านอังคาร ประพันธ์ถวายพ่อครูเมื่อปี 2553 ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตในเดือนสิงหาคม 2555 พ่อครูแวะมาที่บอร์ดคำพิพากษา ที่มีภาพวาดสมัยที่พ่อครูโดนกล่าวหาและยอมเป็นผู้แพ้ คุณพัชระกับคุณซีนผู้ดูแลรับใช้นิทรรศการพระโพธิสัตว์กำลังทำความสะอาด 5 ส.ภายใน บริเวณนิทรรศการก็เข้ามากราบนมัสการพ่อครู พ่อครูแวะมาดูที่บอร์ดรวมภาพความเหน็ดเหนื่อยของพ่อครู ที่เขียนกำกับภาพไว้ว่า “เส้นทางของการทดสอบจะขวางกั้นด้วยอุปสรรคและขวากหนามเพียงใด พ่อครูก็ยังยืนหยัด มั่นคง ฝ่าฟันไปโดยไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว ไม่ลงใต้ดินแม้ครึ่งเมล็ดงา “มองไปที่เด็กน้อยในภาพพ่อครูจำได้ว่าเป็นเด็กชายมะขาม หล้าฟื้น กีตาซึ่งขณะนี้ก็ยังศึกษาอยู่ชั้นม.4 ของสัมมาสิกขาราชธานีอโศก พ่อครูมองไปที่กะลาคว่ำมีฤาษีอยู่ด้านในมีผู้ซุกซนได้นำตุ๊กตาช้างตัวน้อยมานั่งเป็นเพื่อนฤาษีด้วย เป็นงานศิลปะที่เปรียบเทียบไว้ว่าผู้ที่นั่งสมาธิแบบมิจฉาทิฏฐิ เป็นสมาธิแบบหลับตา เหมือนฤาษีติดอยู่ในถ้ำ ปิดทวารทั้ง๖ เปรียบเหมือนผู้นั้นอยู่ในกะลาครอบ ซึ่งใกล้ๆกันจะเป็นกะลาที่หงาย เปิดตาโพลงคือสมาธิลืมตา เปิดทวารทั้ง 6 รับผัสสะ มีสติเต็ม รู้ความจริงตามความเป็นจริงเป็นการปฏิบัติแบบสัมมาทิฏฐิตามที่พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงธรรมและสอนไว้…คุณพัชระนิมนต์พ่อครูนั่งพักที่ชุดโต๊ะไม้กลางนิทรรศการ พ่อครูบอกว่าโต๊ะชุดนี้เป็นชุดantique หนึ่งเดียวที่หายากเพราะทำมาจากไม้เรือโบราณ ที่นำชิ้นส่วนที่พอจะใช้ประโยชน์จากการซ่อมเรือมาประกอบเป็นชุดโต๊ะ เก้าอี้ซึ่งเป็นมาสเตอร์พีซ ไม่มีที่ไหนทำได้เหมือนและเป็นไม้โบราณอายุเป็นร้อยปีและมีน้ำหนักมาก…
พ่อครูเดินมาตลาดนัดบุญนิยมวันนี้แม่ค้าพ่อค้าบุญนิยมไม่ได้มาขาย จะมาจำหน่ายสินค้ากันเฉพาะวันพฤหัส ศุกร์ เสาร์และอาทิตย์เท่านั้น พ่อครูขึ้นไปที่วิทยาลัยอาชีวะมองเห็นอุปกรณ์ต่างๆสำหรับซ่อมเครื่องยนต์ เครื่องจักรกลต่างๆ..เดินมาด้านหน้าวิทยาลัย ดอกไม้ในสวนดอกไม้ที่ลุงสุดขีดปลูกมีความสมบูรณ์แข็งแรง ลุงสุดขีดเป็นช่างยนต์แต่มีความสามารถในการปลูกไม้ดอกได้สมบูรณ์งดงาม แข็งแรงดี
พ่อครูเดินลงมาถนนตรงกลางผ่านต้นตาล พวกเราเรียนว่าเห็นตาลก็จะนึกถึงหลวงตาพรหมทุกครั้งไป พ่อครูบอกว่าใบตาลสามารถสานเป็นหมวกได้ พวกเราก็เรียนว่าพอนึกถึงหมวกสานด้วยใบตาลก็จะนึกถึงหลวงพ่อดินดีที่มรณภาพไปด้วยเช่นกัน ต้นไม้เริ่มเติบโตสูงแข่งกัน มีต้นฉำฉากับต้นตาลอยู่ใกล้กัน พ่อครูบอกว่าเดี๋ยวก็รู้(ว่าทั้ง 2 ต้นจะอยู่รอดหรือไม่ อย่างไร)ใกล้กันเห็นฝูงควายกำลังเล็มหญ้าที่เขียวขจีมองไปแล้วช่างเป็นควายที่อุดมสมบูรณ์มาก…พ่อครูเดินไปที่บริเวณซ่อมเรือศิษย์เก่าหนูเล็กเข้ามากราบนมัสการเรียนพ่อครูว่าขออยู่บ้านราช 3 เดือนพ่อครูสนทนาก่อนที่จะเดินเข้ามาภายในหมู่บ้านที่ถนนตรงซอย ซึ่งปากซอยมีน้ำขังแฉะมากเนื่องจากฝนตกเป็นระยะๆทั้งวัน
พ่อครูเดินผ่านต้นไม้ใหญ่ภายในชุมชน ที่ทำให้เกิดความร่มรื่นได้เป็นอย่างดี เดินข้ามสะพานเชื่อมรัตน์ อาแป้งสู่แดนธรรม กราบนมัสการอยู่ที่เฮือนถึงไทซึ่งเป็นสถานที่ซ่อมจักรยานของชาวชุมชน มีอาไว้ใจเป็นผู้ดูแลและรับซ่อมจักรยานของชาวชุมชนและนักเรียนสัมมาสิกขา พ่อครูเดินผ่านเรือรามรักษ์ได้ยินเสียงช่างคณิตไทเทิดธรรมทำงานอยู่จึงได้เดินกลับมาถนนตรงศูนย์หน้าเฮือนเพิงกัน เด็กชายดูดีเข้ามากราบนมัสการพ่อครูด้วยอารมณ์ดี พ่อครูเห็นเด็กนักเรียนสมุนพระรามเล่นลูกแก้วกัน ถามเด็กชายดูดีว่าทำไมไม่ไปเล่นกับเพื่อน เด็กชายดูดีบอกว่าผมตั้งตบะไม่เล่นลูกแก้วครับ ทำให้พ่อครูหัวเราะชอบใจในเรื่องที่แม้เด็กสมุนพระรามหรือเด็กประถมศึกษาของเราก็ยังมีจิตที่จะลด ละ เลิกในสิ่งที่ตัวเองติดยึดแม้เป็นของเล่นก็ตาม พ่อครูมองไปที่เด็กๆที่เล่นลูกแก้วบอกว่าสมัยนี้เด็กทั่วไปก็คงไม่เล่นกันแล้วแต่เด็กพวกเราไม่ได้ให้ยุ่งเกี่ยวกับเทคโนโลยีโดยเฉพาะมือถือหรือโทรทัศน์ทำให้เด็กมีเวลาสำหรับรวมกลุ่มเพื่อนพ้องหากิจกรรมที่มาเล่นกันเป็นหมู่คณะ พ่อครูเดินผ่านเฮือนโสเหล่ที่ต้นไม้ขึ้นร่มรื่นมากแล้วเดินผ่านโรงเรือนสำหรับกันฝนของกองฟืนที่จัดเรียงไว้เป็นระเบียบตั้งแต่ ฟืนชิ้นเล็กจนถึงฟืนชิ้นใหญ่
พ่อครูเดินมาหยุดที่หน้าเรือเอิ้นขานเพื่อรอนักเรียนสมุนพระราม เด็กชายเวียงวิ่งมากราบนมัสการ จากนั้นพ่อครูเดินขึ้นมาที่ชั้นล่างเฮือนสูญ ต้นมะพร้าวหน้าเฮือนสูญแต่เดิมไร้คนเหลียวแล เวลานี้มีผู้นำไม้มาสอยนำไปเข้าครัวแล้ว พ่อครูหยุดยืนดูหนังสืออาศิรพจน์ประพันธ์โดยสไมย์ จำปาแพงที่นำมาแจกตั้งแต่ช่วงหลังงานพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9ได้มาวางเป็นหนังสือแจกฟรีสำหรับผู้ที่มาเยี่ยมชมราชธานีอโศกหน้าโต๊ะประชาสัมพันธ์ชั้นล่างเฮือนสูญ ก่อนที่พ่อครูจะขึ้นไปพักที่ชั้น 4 เฮือนสูญ
เวลาประมาณ 16.05 น. พ่อครูลงมาเดินอีกครั้ง คราวนี้ออกไปที่เฮือนสวยเหมิด และต่อไปที่เฮือนหญังกิน ซึ่งพวกเรากำลังเตรียมวัตถุดิบสำหรับทำอาหารสำหรับวันพรุ่งนี้และบางส่วนก็กำลังรับประทานอาหารเย็นกัน พ่อครูมาที่ท้ายครัวสังเกตเห็น ท่อนไม้แช่น้ำอยู่ พวกเราเรียนให้ทราบว่าเป็นเขียง พอเดินออกมาคุณปะงามงาน นาวาบุญนิยมผู้ดูแลรับใช้งานโรงครัวก็มากราบนมัสการ
ด้านหน้าเฮือนหญังกิน ครูติ้วกำลังดูแลเด็กๆอยู่ที่ข้างเรือเอิ้นขาน พ่อครูเดินผ่านไปที่ถนนตรงศูนย์ นักเรียนสัมมาสิกขามากราบนมัสการพ่อครู ที่หน้าเฮือนโสเหล่ก็มีนักเรียนมากราบ เพราะช่วงนี้ใกล้เวลารับประทานอาหารของเด็กๆแล้วเด็กๆก็จะทยอยมารับประทานกันที่เฮือนหญังกิน พ่อครูได้ยินเสียงเจียรเหล็กเข้าใจว่าช่างคณิต ไทเทิดธรรมกำลังทำงานอยู่ จึงเดินตรงไปที่เรือรามรักษ์ ขึ้นไปดูงานตกแต่งเพิ่มเติมภายในเรือโดยมีช่างคณิต รายงานพ่อครูเรื่องการตกแต่งภายในเรือ พร้อมทั้งสาธิตเครื่องเหล็กที่ประกอบขึ้นมาเองจากการดูทางยูทูปออนไลน์ ช่างคณิตเรียนพ่อครูว่าได้ปรึกษากับศิลปินปูนปั้น (คุณเปีย พลังจิต)ในการปั้นงานศิลปะต่างๆเลียนแบบธรรมชาติตกแต่งด้านข้างเรือ..
พ่อครูเดินลงมาไปที่เขตสิกขมาตุ ผ่านโรงเต้าหู้ ผ่านบ่อผำที่ดูแล้วอุดมสมบูรณ์เขียวขจีมาก พ่อครูสังเกตเห็นดอกไม้สีชมพูที่เลื้อยขึ้นไปออกดอกด้านบนและต้นยอดใบสีแดงคล้ายยอดเม็กแต่ทานไม่ได้มักใช้เป็นไม้ประดับก็ขึ้นอุดมสมบูรณ์รวมถึงต้นทองหลางที่มีฝูงด้วงมากมาย ผ่านบ้านพ่อเห็นเข้มพ่อครูแวะดูต้นป่าช้าเหงาหรือเหลียงเฉาเหว่ยดำริว่าจะฉันวันละ 2 ใบเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ เดินมาจนสุดทางแก้งไผใญ่ ซึ่งมองไม่เห็นแก้งหรือทางข้ามไปเฮือนสุดชีวิตแล้ว เพราะมีต้นไม้ขึ้นมาคลุมเป็นจำนวนมาก ต้นชายาหน้าบ้านดร.ชิตตะวันขึ้นอุดมสมบูรณ์มาก ต้นหมากเม่าข้างแก้งออกลูกย้อยเป็นพวงอุดมสมบูรณ์
พ่อครูเดินลัดมาเข้าทางหมู่บ้านเฟส 2 ที่หาดริเวอร์ราชได้ยินเสียงเด็กเล่นกันสนุกสนาน มองไปเห็นนักเรียนสมุนพระรามกำลังเล่นน้ำกันอยู่ พวกเราลองให้เด็กๆยืนดูว่าน้ำมีความลึกแค่ไหนซึ่งเด็กๆเล่นกันเป็นประจำก็ยืนให้ดู ทำให้ทราบว่าบริเวณนั้นน้ำไม่ลึก น้ำอยู่ที่บริเวณแค่อกเด็กๆและเด็กๆก็ทราบกันว่าบริเวณไหนตื้นหรือว่าบริเวณไหนลึกและมีเครื่องช่วยลอยน้ำกันทุกคนโดยที่หาดทรายบริเวณนี้เป็นหาดทรายละเอียดทำให้เด็กๆเล่นกันได้อย่างปลอดภัย
พี่สาวอาวิสูตรเข้ามากราบนมัสการพ่อครูเรียนว่าคุณวิสูตรล้มและเดินค่อนข้างลำบากพ่อครูแวะไปที่บ้านเจอ อาวิสูตรนั่งด้วยความลำบากกราบนมัสการพ่อครู ก่อนที่พ่อครูจะเดินเข้ามาดูภายในหมู่บ้านเฟส 2 ซึ่งมีบ้านหลายหลังก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จส่วนมากจะเป็นบ้านของญาติธรรมที่เป็นกลุ่ม อย่างเช่นบ้านของคุณพัชรี ของกลุ่มปากช่องก็กำลังแล้วเสร็จ และบ้านอีกหลายๆที่เป็นทั้งของชาวสันติอโศกและปฐมอโศก
พ่อครูมาทางลัดซึ่งเป็นขัวหรือสะพานไม้ไผ่เล็กๆเพื่อเข้ามาภายในชุมชนฝั่งตะวันออกเดินข้ามมาแล้วแวะมานั่งชิงช้าใต้ถุนบ้านคุณเม็ดฝน บูรณะกิติ เห็นโต๊ะอาหารซึ่งมีกับข้าวอุดมสมบูรณ์แบบเรียบง่าย ที่หน้าบ้านยังมีสวนพริกไว้ให้เลือกรับประทานอยู่หลายชนิดทั้งพริกใหญ่ พริกชี้ฟ้า พริกกะเหรี่ยง พ่อครูบอกว่าแม้แต่พริกพวกเรายังอุดมสมบูรณ์สามารถเลือกได้ว่าจะกินพริกอะไร หลังจากนั้นท่านเดินเข้ามาภายในชุมชนเดิมฝั่งตะวันออกซึ่งจะเป็นลักษณะบ้านแบบเก่าที่สร้างไว้หลายสิบปีแล้วรวมถึงบ้านของคุณลุงจำลอง ศรีเมือง ที่หน้าบ้านจะมีต้นไม้สูงใหญ่ร่มรื่น พ่อครูเดินผ่านมาถึงบ้านคุณมาริสาและลูกๆซึ่งได้ปรับปรุงบ้านเก่าและสร้างใหม่เป็นแบบโครงสร้างเหล็กที่ดูแล้วร่วมสมัย ผ่านมาที่บ้านลุงใหญ่ถึงไท ซึ่งใต้ถุนบ้านเป็นโรงซ่อมจักรยานที่ อาไว้ใจดูแลอยู่มีรถจักรยานหลายคันเตรียมรอให้ซ่อมแซมรวมถึงรถซุกและรถทุกชนิดที่เป็นล้อไม่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมัน อาไว้ใจก็สามารถนำมาซ่อมแซมได้เช่นกัน พ่อครูเดินข้ามสะพานเดิมผ่าน เดินผ่านโรงเรียนสมุนพระราม แม่กล้วยมากราบนมัสการ เรียนพ่อครูว่า โรงเรียน เด็กเล็ก หิ่งห้อยริมมูล โรงเรียนสมุนพระรามบ้านราชได้ปิดแล้ว นักเรียนกลับบ้านไปหมดแล้ว
พ่อครูเดินผ่านเข้ามาภายในชุมชนฝั่งตะวันตกหลายบ้านยังเป็นบ้านแบบดั้งเดิมสมัยเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมาบางบ้านจะปลูกเป็นสวนผักหรือบางบ้านก็มีไม้ดอกไม้ประดับบ้างผ่านมาด้านหน้าบ้านสัมมาอริยมรรค เดินผ่านมาถึงห้องน้ำกางเกงยีนซึ่งเป็นจุดนัดพบสำหรับหลายคนที่มาราชธานีอโศกก็จะนัดหมายกันที่ห้องน้ำกางเกงยีนที่มีร่มเงาอุดมสมบูรณ์ ร่มรื่นจากต้นฉำฉาหลายต้นที่อยู่ภายในบริเวณนี้
พ่อครูกลับมาที่ชั้นล่างเฮือนศูนย์สูญ ท่านสมณะเดินดินเดินลงมาพอดี ท่านเข้ามาเฮือนสูญพร้อมพ่อครูเข้ามานั่งสนทสนทนากับคณะท่านปัจฉาที่โต๊ะไม้หน้าประชาสัมพันธ์ ลูกหลานผ่านไปมาก็เข้ามากราบนมัสการ ท่านปัจฉาเรียนพ่อครูว่าวันนี้มีข่าวเขื่อนแตกที่ประเทศลาวทำให้มีผู้สูญหายเป็นจำนวนมาก พ่อครูดูข่าวจากมือถือท่านปัจฉาด้วยความสนใจ ก่อนที่จะขึ้นไปห้องทำงานชั้น 4 เดิน
ถึงโต๊ะทำงาน พ่อครูยังไม่เปิดคอมฯทำงานแต่ท่านหยิบกระดาษใช้แล้วทั้ง 2 หน้าเตรียมทิ้งมาตัดช่องว่างที่เหลืออยู่ในแต่ละหน้าทั้งด้านหน้าด้านหลังที่ไม่มีหมึกหรือบางบรรทัดเป็นแค่การขีดเส้นสีแดงหรือเขียนไว้เล็กน้อยและมีที่ว่างเป็นช่องขาวมากกว่าพ่อครูก็จะใช้ยางลบ ลบแล้วก็ตัดกระดาษนั้นนำมาเป็นกระดาษโน้ตชิ้นเล็กได้อีก สรุปแล้วกระดาษ 1 แผ่นพ่อครูจะใช้ทั้ง 2 ด้านและส่วนที่ยังเป็นสีขาวโดยที่ไม่มีหมึกก็จะตัด นำมาใช้ต่อเป็นกระดาษโน๊ตแผ่นเล็กสำหรับบันทึกหัวข้อธรรมได้อีกเช่นกัน
พ่อครูปฏิบัติในเรื่องการใช้ทรัพยากรทุกอย่าง อย่างมีคุณค่า ปฏิบัติเป็นตัวอย่างที่ดีมีค่ามากกว่าการสอน ทำให้เห็นเป็นจริงตามภูมิพระโพธิสัตว์ที่มีวัตรปฏิบัติที่ทำทุกวินาทีให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อผู้อื่นและมวลมนุษยชาติ หลายคนที่บอกว่าไม่มีเวลาจะทำแบบพ่อครู แต่ถ้าคิดให้ดี ไม่ใช่เราไม่มีเวลา แต่บางทีเราละเลยในการให้เวลาและใส่ใจในเรื่องของรายละเอียดเหล่านี้ ซึ่งสามารถเป็นสิ่งที่เพิ่มอธิศีลในการปฏิบัติธรรมให้กับพวกเราได้ จากเรื่องเล็กๆที่จะนำไปสู่เรื่องใหญ่ถึงขั้นอาสวะอนุสัยที่สามารถให้เราได้เห็นและตัดออกไปดังเช่นกระดาษที่พ่อครูใส่ใจในทุกบรรทัดทุกพื้นที่ว่าง ซึ่งเปรียบเสมือนรายละเอียดอธิศีล อธิจิต อธิปัญญาของนักปฏิบัติธรรมทุกคนที่ควรมีการพิจารณาโยนิโสมนสิการ เพื่อให้เกิดสัมมาทิฏฐิในการปฏิบัติธรรม มรรคมีองค์ 8 เพื่อให้เกิดสัมมาสมาธิ สัมมาวิมุตติกันได้อย่างถูกต้อง ได้อย่างแท้จริง