บันทึกผ่านเลนส์ 2 โพธิกิจ…ศิลปะโลกุตระในการใช้ชิวิตต้องเป็นไปเพื่อความลดละหน่ายคลายจากกิเลส
วันพฤหัสบดีที่ 25กรกฎาคม 2561
ธรรมะรับอรุณในช่วงเช้านี้ พ่อครูมีดำริจะจัดรายการในรูปแบบเป็นกันเอง คุยกันสารพัด สารพันปัญหาในทุกๆเรื่อง ที่เกิดขึ้นในชีวิต โดยได้ปรึกษากับท่านปัจฉาสมณะและจะเริ่มจัดรายการในวันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม 2561 เป็นครั้งแรกพ่อครูตั้งชื่อรายการเป็นภาษาอีสานว่า”สำมะปี๋ซี่วิต”ซึ่งจะเป็นรายการนั่งล้อมวงสนทนาคุยกันอย่างอบอุ่น เป็นครอบครัวใหญ่ จะทดลองจัดครั้งแรกในวันพฤหัสบดีนี้ ถ้าจัดแล้วเห็นผลดีก็จะพิจารณาเพิ่มวันในการจัดอีกครั้งต่อไป
วันนี้พ่อครูลงมาฉันภัตตาหารเวลา 11.05 นาที คุณมุ่ย มุกดาพร้อมกับลูกสาวเดินทางมาจากจังหวัดนครราชสีมา มากราบนมัสการพ่อครูเรียนว่าขอมาเรียนรู้ศึกษากับชาวอโศกพักค้างสัก 3-4 วัน พ่อครูอนุโมทนา ให้พากเพียรฝึกฝนต่อไป
วันนี้ภัตตาหารของพ่อครูมีใบป่าช้าเหงาหรือเหลียงเฉาเหว่ย 2 ใบตามดำริที่พ่อครูได้บอกไว้เมื่อวานนี้ วันนี้ถือว่าเป็นวันแรกที่พ่อครูเริ่มฉันใบสด 2 ใบควบคู่กับอาหารประเภทอื่นๆ หลังจากฉันภัตตาหารเสร็จ พ่อครูออกมาเดินย่อยอาหารที่หน้าน้ำตกผาแหงนวันนี้ก็ยังคงซ่อมเครื่องสูบน้ำทำให้ยังไม่มีน้ำตกไหลมาจากองค์พระพุทธโต พ่อครูชื่นชมการเจริญเติบโตของต้นหญ้าที่สามารถดูแลตนเองเติบโตได้แข็งแรงตามธรรมชาติในที่เหมาะสมได้อย่างงดงาม
พ่อครูเดินไปที่เดิ่นเข่ามวนเพื่อไปดูการจัดวางปีกหินอีก 2 ก้อนให้ล้อมวงรวมกับ 3 ก้อนที่วางอยู่แล้วเป็น 5 ก้อน เมื่อเช้าป้าดาวนาและทีมงานได้นำรถแบคโฮมายกและจัดเรียงหินไว้แล้วบริเวณรอบๆลานปีกหิน รถแบคโฮที่เพิ่งมาลงทรายไว้ประกอบกับฝนตกลงมา ทำให้ดินยุบตัว พ่อครูเดินย่ำไปดูปีกหินทำให้เท้าจมไปที่ทราย ท่านปัจฉานิมนต์ไปล้างเท้าที่แก้งสะโพ ก่อนที่พ่อครูจะเดินกลับมาบริเวณเฮือนบวร ซึ่งกำลังมีการขุดวางท่อ …ศิลปินชาวอโศก อาแสงศิลป์ เดือนหงายได้นำภาพวาดที่ได้ขอคำแนะนำจากพ่อครูเมื่อเช้านี้ และได้นำไปแก้ไขปรับปรุงมาให้พ่อครูตรวจทาน พ่อครูได้แนะนำและบอกให้แก้ไขในที่เหลืออีกบางส่วน พวกเราเห็นภาพวาดของแสงศิลป์ที่เป็นงานศิลปะโลกุตระสื่อธรรมะจากพ่อครูเป็นภาพวาด จึงอยากให้นำมาจัดแสดงไว้ที่บ้านราช พ่อครูดำริว่าให้มาจัดแสดงภาพวาดได้เลยที่เรือเจิ้นเทิ้น ภายในเฮือนบวร
ท่านปัจฉาดินไท นำน้ำสะอาดมาทำความสะอาดจีวรพ่อครูหลังจากที่เลอะทรายช่วงเท้าจมลานทราย อาแสงศิลป์ ปรึกษาพ่อครูเรื่องการตกแต่งเรือเจิ้นเทิ่น พ่อครูเดินผ่านลานนิทรรศการพระโพธิสัตว์ ไปด้านหลังเฮือนบวร นักเรียนกำลังเรียนบูรณาการวิชาประวัติศาสตร์กับครูติ้ว ปีกรัก ได้เข้ามานมัสการ เด็กๆกำลังเรียนรู้เกี่ยวกับการดูแลรักษาข้าว ในช่วงตากข้าวที่ต้องคอยไล่สัตว์และนกต่างๆไม่ให้มารบกวน รวมถึงข้าวกอไหนที่พอจะฟาดข้าวได้ ก็จะนำมาฟาดเมล็ดข้าวออกเพื่อเก็บรักษาเมล็ดข้าวให้ดีที่สุด
พ่อครูเดินมาด้านข้างของเฮือนบวรเห็นต้นทองอโศก หลายต้นหักล้มลง ตอนแรกสันนิษฐานกันว่า มีใครลุยป่าแล้วทำให้กิ่งหัก แต่พอเดินไปสักระยะ ก็พบอีกหลายต้นหักเช่นกัน จึงเข้าไปดูสาเหตุจึงทราบว่าเกิดจากบริเวณโคนต้นถูกเชือกฟางมัดไว้กับไม้ปักค้ำ เวลาต้นเติบโตแต่ตรงที่รัดจะคอดกิ่ว แล้วช่วงนี้มีพายุฝนลมแรงทำให้ต้นทองอโศก โอนเอียงไปมาจนต้นหักบริเวณที่ยึดไว้กับไม้ค้ำหลายต้น พ่อครูเดินมาที่ด้านหน้าดูเชิงชายรูปใบโพธิ์หยาดน้ำใจ กำลังติดบริเวณคานเหล็ก ใต้หลังคา เราพบเห็นความอุดมสมบูรณ์ของพืชผักหน้าอาคารแม้แต่กิ้งก่าก็ยังร่าเริง ซึ่งเราจะเห็นสัตว์ต่างๆที่หลบหนีภัยเมืองมาอาศัยอยู่ที่ราชธานีอโศกหลากหลายชนิด
พ่อครูเดินบนถนนคอนกรีตที่เพิ่งเทเสร็จ คนงานที่กำลังวางท่อหยุดเดินเครื่องกราบนมัสการพ่อครู รายงานเรื่องกำลังวางท่อน้ำข้างถนนคอนกรีต มองต้นโพธิ์ตรงข้ามเฮือนบวร แตกยอดอ่อน ใบสีชมพูสดใสเป็นชมพูต้นโพธิ์อินเดียที่มีใบงดงามและรูปทรงที่สง่างาม พ่อครูเดินกลับมาที่เฮือนผาแหงน ท่านปัจฉาดินไท ชี้ให้ดูต้นพยุงอีกต้นหนึ่งซึ่งก่อนหน้านั้นคาดว่าจะไม่รอดแล้ว แต่วันนี้เริ่มเห็นยอดอ่อนๆที่ปลายกิ่งบางกิ่งแล้ว พ่อครูเดินขึ้นมาเห็นต้นพวงประดิษฐ์โน้มลงมาไม่มีหลักให้ยึดดำริให้หาไม้มาค้ำเพื่อให้ต้นพวงประดิษฐ์ได้เลื้อยเติบโตต่อไป พ่อครูเดินขึ้นมาที่ชั้น 3 ของน้ำตกผาแหงน มองไปที่สวนไม้ตายกำลังวางท่อน้ำ10นิ้วทำม่านน้ำพ่อครูบอกว่าบ้านราชมีน้ำตกหลายลักษณะทั้งน้ำโตนที่เป็นแนวดิ่งลงมา น้ำตกหินน้ำไหลที่ไหลมาตามซอกหินต่างๆ น้ำตกผาแหงนและล่าสุดสายม่านน้ำที่จะเป็นน้ำตกแนวระนาบคล้ายน้ำตกไนอังการาพ่อครูกลับขึ้นมาชั้น 4 ล้างมือ ล้างเท้าก่อนที่จะนั่งทำงานเขียนธรรมะและเตรียมแสดงธรรมในช่วงเย็น..