บันทึกผ่านเลนส์ ส่องโพธิกิจ…บ้านราช เมืองเรือ กับน้องน้ำที่กำลังมาเยือน
วันพุธที่ 1 สิงหาคม 2561
วันนี้พ่อครูลงมาฉันภัตตาหารเวลา 11.37 นาที พร้อมทั้งดูข่าวคราวทางทีวีเกี่ยวกับการเตือนภัยในเรื่องน้ำป่าไหลหลาก ดินถล่มในหลายพื้นที่ อาหนึ่งฟ้า นาวาบุญนิยมได้มาถวายหมอนทำจากขี้ไม้ยางสนเพื่อสุขภาพและจะนำไปแบ่งเป็นหมอนใบเล็กกว่านี้เพื่อดูดซับพิษในช่วงที่พ่อครูพักผ่อนนอนหลับ
พ่อครูฉันภัตตาหารพร้อมทั้งท่านปัจฉาดินไทและท่านปัจฉาหนักแน่น หลังจากฉันภัตตาหารเสร็จเวลา 13.15 นาที พ่อครูเดินออกมาก่อนถึงลานสะโพ เจอตัวบุ้งคลานกระดึ๊บๆแบบไม่มีทิศทางจะเจอต้นไม้ พ่อครูก็ทักทายว่าจะเดินไปไหน จนพวกเราได้นำกิ่งไม้มาจับไปไว้ใกล้ๆต้นไม้ พ่อครูเดินออกมาหน้าน้ำตกผาแหงน ยังชมต้นหญ้าที่เติบโตขึ้นแข็งแรง หลังจากที่โดนฝนตลอดมาอย่างต่อเนื่องหลายวัน บางคนมองแล้วอาจจะดูรกน่าถอนออก แต่พ่อครูบอกว่านี่คือความงามตามธรรมชาติซึ่งเกิดขึ้นได้ยาก เรื่องการถอนหรือทำลายออกง่ายนิดเดียว แต่การจะให้เติบโตอย่างธรรมชาติแบบนี้ ต้องใช้เวลาและไม่ใช่เรื่องง่าย พ่อครูเดินมาดูการทำถนนที่หน้าเฮือนบวร ซึ่งกำลังเทปูนและวางแบบอีกฝั่งนึง
พ่อครูเดินไปถนนที่ตรงไปแม่น้ำมูนเป็นเส้นทางที่ทำถนนจะเสร็จสมบูรณ์แล้ว เห็นคนงานกำลังเกลี่ยปูนให้เรียบ และในช่วงเส้นแบ่งถนนก็มีปูนกระเทาะออกไม่เป็นแนวตรง พ่อครูตรวจตราการซ่อมงานของช่าง และแนะนำการทำงานเพื่อให้ถนนเกิดประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุด คนงานรับทราบและจะนำไปแก้ไข พ่อครูยังเน้นย้ำในเรื่องความหนาของถนนต้อง 15 cm เท่าขอบเหล็กของแบบ ถนนนี้ถ้าสร้างเสร็จจะมีความยาว 320 เมตร แล้วพ่อครูก็เดินตรงไปที่ท่าน้ำริมแม่น้ำมูล
ผ่านแปลงผักของชุมชน บริเวณที่สาธารณะก่อนถึงต้นฉำฉา ซึ่งปู่เถาว์และทีมงานกำลังปลูกต้นฟักทอง สำหรับใช้เป็นวัตถุดิบในช่วงงานเจ มีนักเรียนสงสัยว่าปู่เถาว์ไม่กลัวน้ำท่วม แล้วผลผลิตเสียหายหรือ ปู่เถาว์ตอบว่า ปู่ทำกสิกรรมโลกุตระ ปู่เถาว์จะอยู่กับปัจจุบันตอนนี้น้ำยังมาไม่ถึง ปู่ก็จะปลูกต่อไปถ้าน้ำมาค่อยคิดวิธีการแก้ไขอีกที พ่อครูเดินไปที่บริเวณท่าเรือซึ่งน้ำจากแม่น้ำมูนล้นเอ่อขึ้นมามากกว่าครั้งก่อนที่พ่อครูลงเรือ ต้นทองอโศกหลายต้นมีผู้ย้ายไปปลูกด้านบนบ้างแล้ว พ่อครูยืนดูสักครู่ ฝนก็เริ่มตกลงมา ท่านปัจฉาจึงนิมนต์พ่อครูไปพักในร่มก่อนที่จะให้พ่อหินเข้มนำรถสัญญาตะวันไปรับที่โรงหล่อศิลป์ธรรม ท่านปัจฉาหนักแน่นถวายเสื้อกันฝนให้พ่อครูสวมใส่ พ่อครูเห็นเรือจอดอยู่หลายลำดำริว่า เรือจอดอย่างนี้ใกล้น้ำจะท่วมให้นำไปซ่อมแซมเผื่อจะได้ใช้สอยกัน เจอปู่เถาว์กำลังจะนำฟักทองไปปลูกเข้ามากราบนมัสการพ่อครู
พ่อครูมองไปที่งานก่อสร้างบ้านพี่โน๊ต เพชรพันธ์ศิลป์และครอบครัว บอกว่าจองที่ดินได้เหมาะมากเพราะอยู่ใต้ต้นเปือยที่มีกิ่งก้านสาขาเป็นร่มเงาบ้านได้เป็นอย่างดี ทำเลดีเหมาะสมมาก พ่อครูเดินไปที่โรงหล่อศิลป์ธรรม ไปที่ด้านหลังพบช่างดอนและทีมงาน กำลังตกแต่งใบระการูปหางหงส์ ท่านปัจฉาดินไทเห็นกระดาษทรายสำหรับขัดทองเหลืองมีหลายขนาดหลายเบอร์ ช่างดอนเรียนว่าเป็นการประยุกต์กระดาษทรายเพื่อนำมาใช้งานอย่างประหยัด พ่อครูเดินออกมาพอดีกับรถสัญญาตะวัน มารับพ่อครูไปตรวจตราตามพื้นที่ที่คาดว่าน้ำกำลังจะท่วม พ่อหินเข้มขับรถสัญญาตะวันพาพ่อครูขึ้นมาบนถนนคอนกรีตตัดใหม่เข้ามาภายในอาคารบวรด้านหลังหน้าเวทีก็ยังเห็นพวกเรานั่งเฝ้าข้าวที่ตากไว้ หลังจากนวดข้าวเสร็จ เมื่อวานนี้ วันนี้ต้องมานั่งเฝ้าเพื่อไม่ให้นกมาทำให้ข้าวเสียหายเพิ่มอีก รถสัญญาตะวันขับมาด้านหลังอาคารบวรพบผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านพูนไทจอดรถกราบนมัสการ รถผ่าน ด้านข้างโรงจุลินทรีย์ พ่อครูชมต้นชายาที่เติบโตแข็งแรงเป็นทิวแถวเป็นผักที่เลี้ยงง่าย บำรุงง่าย เติบโตง่าย เหมาะสมกับการปลูกในทุกพื้นที่ เพราะเป็นผักวรรณะ 9 ที่เติบโตแข็งแรง ได้ด้วยตนเอง ที่ราชธานีอโศกจะใช้ผักชายาแทนผักคะน้าเพราะจะมีรูปร่าง รสชาติคล้ายผักคะน้ามากและมีคุณค่าทางอาหารสูงกว่าผักหลายชนิด ผ่านมาทางหน้าโรงปุ๋ยพลังชีวิต ศิษย์เก่าวิษรุจน์กำลังตักหินคลุกไปที่งานเทคอนกรีตถนน เข้ามากราบนมัสการพ่อครู พ่อครูบอกว่าให้นำหินคลุกไปเทที่ถนนป๊อดแป๊ด ระหว่างแก้งไทบ้านด้วย วิษรุจน์รับปากพ่อครูและถามอย่างงงๆ ว่าถนนนี้อยู่ที่ไหนพ่อครูก็อธิบายให้ทราบ รถสัญญาตะวันเลี้ยวผ่านหน้าวิทยาลัยอาชีวะผ่านสุสานเรือยังเห็นคนงานช่างอยุธยา พ่อหินเข้มถามถึงหัวหน้างานช่างหนวดคนงานบอกว่าช่างหนวดกลับบ้าน
พ่อครูนั่งรถสัญญาตะวัน ลงมาที่ถนนตรงกลางเพื่อไปดูน้ำที่นาโมและนาคำยอดด้านขวามือ ริมถนนเห็นกองไมยราบยักษ์หรือต้นทักษิณที่มีถุงขยะวางเกลื่อนพวกเราสันนิษฐานว่าคงหล่นมาจากรถขยะ เพราะพวกเราไม่น่าจะนำขยะมาทิ้งเช่นนี้และถามถึงว่าต้นทักษิณนี้กองไว้เพื่ออะไร พวกเราเรียนพ่อครูว่าได้ยินมาว่ามีโครงการจะทำเพอร์มาเคาน์เจอร์จากต้นทักษิณ ทางด้านนาโมซึ่งทดลองปลูกข้าวลอยพันธุ์ขาวบ้านนา 432 ขณะนี้น้ำก็กำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งก็ต้องรอลุ้นว่าข้าวที่เพิ่งจะเป็นต้นอ่อนจะสามารถรอดจากน้ำท่วมสูงนี้หรือไม่ ส่วนบริเวณนาคำยอดที่ใกล้กับทางออกของบุ๋งติดริมแม่น้ำมูน น้ำเริ่มท่วมสูงขึ้นแต่ยังไม่ถึงขอบถนน เหลืออีกประมาณ 2 เมตรก็คงถึงถนน
รถเลี้ยวมาที่ถนนตรงเมรุ น้ำทั้ง2 ฝั่งถนนเริ่มสูงขึ้น พ่อครูสงสัยเหมือนอุปกรณ์ดักสัตว์น้ำ พ่อหินเข้มตอบพ่อครูว่าเป็นตาข่ายดักกุ้งฝอย ซึ่งพวกเราไม่เคยเห็นมาก่อนน้ำ บริเวณทางเข้าป่าอนุรักษ์ของชุมชน น้องน้ำเริ่มมาใกล้เข้ามาชนกันแล้วคาดว่าถ้าฝนตกต่อเนื่องอีกไม่กี่วันถนนเส้นนี้ก็อาจจะไปไม่ได้แล้ว
ที่เฮือนสุดชีวิตงานก่อสร้างโครงหลังคาเสร็จแล้วยังคงรอบล็อกปูพื้น ที่ยังมาไม่ถึง รถสัญญาตะวันผ่านเข้ามาในป่ายางอนุรักษ์ของชุมชน มาที่ลานเบิ่งฟ้า ตรงไปท่าเรือท้ายบุ่ง เวลานี้น้ำเริ่มเอ่อสูงขึ้นเรื่อยๆอย่างใจเย็น สุดทางออกของบุ๋งก็ไปไม่ได้แล้ว น้ำท่วมสูงขึ้นจนเห็นเรือเอี๊ยมจุ๊นหลายลำจอดอยู่ในระดับเท่ากับถนนแล้ว ที่เรือชลนชาติคงมีชาวบ้านมายืนดักปลาจนต้องติดป้ายว่าห้ามลงแพตกปลาเพราะที่นี่เป็นเขตอภัยทาน พ่อครูบอกพวกเราว่าเรือเซายาหยุด เป็นเรือลำแรกของราชธานีอโศกซึ่งตอนนี้ก็ไม่ได้วิ่งบนน้ำ แปรสภาพเป็นเรือนเรือไปแล้ว
รถสัญญาตะวันผ่านมาด้านหน้าลานเบิ่งฟ้า ศิษย์เก่ากระทกรกและฑิตเบิกฟ้า……เข้ามากราบนมัสการซึ่งทั้งสองกำลังดูแลงานซ่อมเรือ พ่อครูยังชมว่าขวัญเมืองราชเป็นนักศึกษาสาขาต่อเรือเบอร์ 1 และมี 1 คน รถสัญญาตะวันผ่านมาบริเวณสวนสองโภชน์ พ่อครูชมเรือนเรือของคุ้มชายโสด ที่อาศัยรวมกันในบริเวณนี้ที่ นำเศษไม้มาแปรรูปและทำเป็นเรือนเรือได้งดงาม พ่อครูมาถึงถนนตรงเนิน น้ำก็ยังอยู่ในระดับเดิมเหมือนวันก่อน พวกเราคิดว่ารังนกกระจาบที่อยู่ติดกัน นกก็คงไม่อยู่แล้วเพราะน้ำใกล้จะมาถึง แต่ก็ยังได้ยินเสียงนกร้องจิ๊บๆหลายรัง พ่อครูบอกว่านกกระจาบเป็นนักอุตุวิทยา ซึ่งสามารถพยากรณ์ได้อย่างแม่นยำ ในการทำรังในสถานที่ที่เหมาะสมกับการทำรังของนกกระจาบต้องมีองค์ประกอบ 2 อย่างคือ 1. สะอาด 2. ปลอดภัยเท่านั้นเราจึงเห็นรังนกกระจาบเป็นธรรมชาติศึกษาที่เป็นตัวชี้วัดถึงปลอดภัยและความสะอาดของพื้นที่ได้แม่นยำที่สุด
พ่อครูนั่งรถสัญญาตะวันมาถึงท่าเรือริมมูน เรือเอี้ยมจุ้นใหญ่หลายลำเวลานี้จอดเด่นตระหง่านริมแม่น้ำมูน ยิ่งน้ำท่วมสูง ท่าเรือริมมูนก็ยิ่งมีเสน่ห์มากขึ้น พ่อครูมองไปที่ต้นแหนกลางบุ่งกะโป๋ ท่านดำริให้หาต้นแหนมาปลูกที่บ้านราช เพราะเป็นต้นไม้ที่ทนน้ำและมีอายุยืนยาวหลายร้อยปี มองไปที่บ้านพี่โน๊ต เป็นบ้านที่มีทำเลเหมาะสมมาก สร้างบ้านได้ถูกหลักของหมู่บ้านที่มีน้ำท่วมเกือบทุกปี คือยกพื้นชั้นล่างสูงโปร่ง สามารถอาศัยอยู่ที่ชั้นบนได้เวลาน้ำท่วม ช่างดอนนำกระดาษทรายชนิดพิเศษมาถวายท่านปัจฉาดินไท เพื่อนำไปขัดพื้นโบสถ์ มองเห็นชาวชุมชนนั่งพักบนบ้านท่ามกลางบรรยากาศความเขียวขจีของพืชผักและอากาศบริสุทธิ์ สดชื่น สุขสำราญเบิกบานใจเหลือเกิน
พ่อครูผ่านมาทางน้ำตกหินน้ำไหล วันนี้ไม่ใช่วันหยุด จึงไม่เห็นคนมาเล่นน้ำตกผ่านมาที่ถนนป๊อดแป๊ด วันนี้มีแดดทำให้ถนนไม่เละมาก พอผ่านไปได้แต่ช่วงต้นถนนที่มีเงาต้นไม้ถนนก็ยังเสี่ยงที่จะลื่นล้มอยู่ ผ่านมาภายในชุมชนพบอากล้าตรงกับอาอ๊อด กำลังขุดหลุมขนาดใหญ่ ทราบว่าท่อเมนประปาชุมชนฝั่งตะวันตกแตกเป็นท่อเมนที่ไปถึงโรงสีโรงปุ๋ยด้วย และกำลังซ่อมแซมไม่ให้ชาวชุมชนเดือดร้อนน่าอนุโมทนาอย่างยิ่ง..รถสัญญาตะวันมาส่งพ่อครูที่ด้านหน้าสขจ.พ่อครูเดินกลับขึ้นชั้น 4 พร้อมทั้งท่านปัจฉาจากนั้นเข้าห้องทำงานพิมพ์หนังสือธรรมะและเตรียมการแสดงธรรมในช่วงเย็น…
พ่อครูแสดงธรรมในรายการพุทธศาสนาตามภูมิในเวลาประมาณ 18.00น. วันนี้ที่ด้านหน้าโต๊ะแสดงธรรมมีพืชผักรูปทรงแปลก พวกเรารายงานพ่อครูว่า เป็นฟักทองพันธุ์ญี่ปุ่นที่เกิดจากกองขยะเศษอาหารโรงครัวแล้วนำไปเทในแปลงปลูกผักเพื่อหมักทำปุ๋ย แล้วเจริญเติบโตแบบธรรมชาติจัดสรร ได้ฟักทองพันธุ์ญี่ปุ่นผลใหญ่มาโชว์แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นทีและการดูแลเอาใจใส่ในการทำกสิกรรมไร้สารพิษ ซึ่งเป็น 1ใน 3อาชีพเพื่อมนุษยชาติที่มีวัฎจักรวงจรเกื้อกูลกันตามธรรมชาติอย่างลงตัวสมบูรณ์ที่สุด