[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=zy8F8o8nxaw[/embedyt]
บันทึกผ่านเลนส์ ส่องโพธิกิจ…พระอรหันต์เป็นผู้มีคุณค่าอย่างยิ่งต่อมวลมนุษยชาติ
วันพฤหัสบดีที่ 2 สิงหาคม 2561
เช้านี้อากาศกำลังสบาย เนื่องจากฝนตกพรำๆตลอดทั้งคืน ส่องผ่านเลนส์นำคลิปวีดีโอพ่อครูออกกำลังกายหลังจากตื่นนอนทุกเช้าเป็น 5 นาที เพิ่มชีวียืนยาว ถ้าปฏิบัติตามได้เชื่อว่าเส้นเอ็นจะสามารถยืดหยุ่นได้คล่องแคล่วเหมือนเช่นพ่อครูได้สักวันแน่ๆ หลังจากนั้นพ่อครูนั่งสนทนากับท่านปัจฉาสมณะ พ่อครูมีดำริจะแสดงธรรมให้กลุ่มนักศึกษาจากสถาบันพระปกเกล้า ที่จะมาศึกษาดูงานในวันนี้
พ่อครูยังได้อธิบายเพิ่มเติมในเรื่องของการสวดมนต์ ที่เป็นสัมมาทิฏฐิได้อย่างละเอียดเพิ่มขึ้น ท่านอรรถาธิบายถึงเรื่องศีลที่เป็นข้อกำหนด แล้วใช้ปัญญาปฏิบัติในศีลข้อนั้นๆได้ จะเกิดสมาธิ ที่เป็นสัมมาสมาธิ ตามมรรคมีองค์ 8 ท่านสนทนาธรรมในเรื่อง “ตถตา”หรือมันเป็นเช่นนั้นเอง ที่ยังเข้าใจผิดกันอยู่และใช้มาตีกินในเรื่องเพิกเฉยต่อการเห็นเรื่องผิด เรื่องถูก ก็ไม่แสดงตนกลับเฉยๆ เป็นเรื่องมิจฉาทิฐิและอีกหลายเรื่องในวงการศาสนาพุทธในเมืองไทยปฏิบัติเป็นอุปาทานหมู่ ซึ่งผิดกันมาโดยตลอด..
นักศึกษาปวส.แดน ภูไพรและ Diamond มากราบนมัสการพ่อครูเพราะตั้งตบะในเรื่องจะฝึกฝน การตื่นนอนแล้วมากราบหลวงปู่ก่อนเข้าทํางาน พ่อครูเดินผ่านสวนเอาพิษออกซึ่งท่านปัจฉาดินไท ได้นำต้นไม้มาจัดสวนเป็นบางส่วนแล้ว ต้นไม้เมื่อถูกน้ำฝนเจริญเติบโตแข็งแรงดี พ่อครูเดินเข้าห้องทำงาน วันนี้พ่อครูชั่งน้ำหนักได้ 50 กิโลกรัมเป๊ะ หลังจากนั้นพ่อครูได้ตรวจหัวข้อสรุปธรรมะก่อนที่จะนั่งเขียนหนังสือคนจนที่มีแบบฉบับปรับปรุงใหม่ต่อ
พ่อครูเดินมาด้านหน้าเฮือนบวร ช่างคณิต ไทเทิดธรรมกำลังช่วยดูแลการเทปูนได้เรียนพ่อครูถึงสถานที่วางรูปหล่อองค์ปางอภัย น่าจะไปไว้ที่หน้าเฮือนศูนย์สูญบริเวณป้ายหินที่มีพญาแร้ง พ่อครูให้ลองคิดกันดูว่าจะไว้กันตรงไหนดี พ่อครูเดินมาถึงทางเข้าน้ำตกผาแหงนเห็นนักเรียนสมุนพระราม เด็กชายเวียง เด็กชายวังเด็กหญิงแก้ว มาพร้อมสุนัข ผู้ใหญ่บอกว่าอย่าให้สุนัขมาเดินผ่านปูนที่กำลังเทเพราะเป็นที่โปรดปรานของสุนัขมากเวลาปูนยังไม่แห้งจะเห็นรอยสุนัขอยู่บ่อยๆเด็กๆมากราบนมัสการพ่อครูเรียนว่าสุนัขตามมาเองไม่ได้เลี้ยงเอาไว้
พ่อครูเดินมาบริเวณลานสะโพมีญาติธรรมเดินทางมาจากจังหวัดนครศรีธรรมราชเข้ามากราบนมัสการพ่อครู เรียนพ่อครูว่าเป็นแฟนรายการดูทางทีวีเป็นประจำได้ยินว่าพ่อครูไม่ไปที่บวรสันติอโศกแล้ว เลยขับรถมาพบพ่อครูที่บวรราชธานีอโศกแห่งนี้ โชคดีได้มาเจอได้กราบพ่อครูแต่เช้า พ่อครูอนุโมทนาและให้พากเพียรปฏิบัติธรรมต่อไป
พ่อครูเดินผ่านลานสะโพหน้าน้ำตกผาแหงน ต้นหญ้าและวัชพืชต่างๆเจริญเติบโตไวมากเพราะเป็นช่วงหน้าฝน บางคนเห็นแล้วบอกว่ารก เตรียมจะมาตัดหญ้าถอนวัชพืชหลายคน แต่พ่อครูก็ยังมีดำริและเป็นกฎเหล็กว่าห้ามถอนหญ้าและวัชพืชบริเวณลานสะโพ เพราะเป็นองค์ประกอบของการจัดภูมิทัศน์อย่างธรรมชาติได้ลงตัวมากที่สุด ส่วนเรื่องการตัด รื้อถอนนั้นทำง่ายนิดเดียว แต่การจัดภูมิทัศน์ธรรมชาติแบบนี้ทำได้ยาก พ่อครูเดินกลับมาที่ชั้นล่างเฮือนสูญ มานั่งพักที่เก้าอี้ซึ่งในศาลาท่านสมณะท่าน สิกขมาตุและญาติโยมกำลังพิจารณาอาหาร พ่อครูนั่งพักสักครู่ ก่อนที่จะเดินกลับชั้น 4 ทางบันไดของน้ำตกผาแหงนถึงชั้น 3 พ่อครูกำลังล้างมือที่ห้องน้ำชั้น 3 ศิษย์เก่าม่อน เมธัสออกมาจากห้องน้ำพอดี นั่งลงกราบนมัสการหลวงปู่ พ่อครูกลับขึ้นไปชั้น 4 เพื่อสรงน้ำก่อนเตรียมลงมาฉัน อีกครั้ง
เวลา 11.40 นาทีพ่อครูพร้อมท่านปัจฉาดินไท ลงมาฉันภัตตาหาร พบผู้ใหญ่บ้านติ๊ก ขว้ญหินแก้วพร้อมทั้ง พ่อเป็นแก่น กำลังจัดเก้าอี้ เตรียมต้อนรับนักศึกษาของสถาบันพระปกเกล้า พวกเราเรียนพ่อครูถึงเวลาการเดินทางของทีมนักศึกษาหลังจากนั้นพ่อครูฉันภัตตาหารพร้อมทั้งท่านปัจฉาดินไทและท่านปัจฉาหนักแน่น
อาทวิชเริ่มมาส่งหนังสือพิมพ์เป็นวันแรก พ่อครูก็ได้อ่านทันที หลังจากว่างเว้นมานาน
เวลาประมาณ 13.00 น.นักศึกษาสถาบันพระปกเกล้าจำนวน 90 กว่าคนเดินทางมาถึง พ่อครูฉันภัตตาหารเสร็จพอดีจึงเดินขึ้นไปพักชั้น 4 เพื่อรอเวลาแสดงธรรมในช่วงบ่าย
เวลาประมาณ 14.43 น.พ่อครูลงไปเตรียมแสดงธรรมให้นักศึกษา วปอ.แต่ลงไปแล้วพบว่านักศึกษาได้แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มและกำลังทัศนศึกษาภายในชุมชนยังไม่ได้กลับมารวมตัวกันที่ชั้นล่างเฮือนสูญ พ่อครูจึงได้มานั่งพักที่ชั้น 2 หน้าหม่องเมี่ยนของเพื่อเตรียมการแสดงธรรมตามที่คณะทีมงานคณาจารย์ได้กำหนดมาให้พ่อครูแสดงธรรมในเรื่อง การส่งเสริมความสมานฉันท์ในท้องถิ่น และการอยู่ร่วมกันบนความเห็นต่างทางการเมือง
พ่อครูเริ่มแสดงธรรมในเวลา 15.20 น. ตามที่คณะนักศึกษาได้กำหนดมาให้พ่อครูแสดงธรรมในเรื่อง การส่งเสริมความสมานฉันท์ในท้องถิ่น และการอยู่ร่วมกันบนความเห็นต่างทางการเมือง โดยให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างนักศึกษาสถาบันพระปกเกล้า โดยสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล ซึ่งได้จัดหลักสูตรประกาศนียบัตรชั้นสูงการสร้างการเสริมสร้างสังคมสันติสุขรุ่นที่ 9 เป็นการศึกษาเรียนรู้ประเด็นความขัดแย้งหลักในชาติและแนวทางการเสริมสร้างสันติสุขในสังคมพหุวัฒนธรรม ตลอดจนร่วมกันเป็นเครือข่าย เพื่อขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งของประเทศ ด้วยสันติวิธี นักศึกษาที่มาประกอบด้วยนักการเมืองระดับชาติและท้องถิ่นผู้บริหารระดับสูง จากภาครัฐ ภาคธุรกิจ สื่อองค์กรพัฒนาเอกชน ปราชญ์ชาวบ้านรวมทั้งผู้นำศาสนา โดยจะใช้เวลาเรียนในห้องเรียนและศึกษาดูงานในภาคต่างๆของประเทศไทยรวมระยะเวลาทั้งสิ้น 9 เดือนและหลักสูตรได้กำหนดให้มีการศึกษาดูงานครั้งที่ 1 ในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีและศรีสะเกษ โดยรวมคณาจารย์นักศึกษาและเจ้าหน้าที่ประมาณ 100 คนโดยมีผู้อำนวยการนำมาชมสถานที่และแลกเปลี่ยนเรียนรู้
จบการแสดงธรรมในเวลา 16.15 นาทีตัวแทนนักศึกษาได้กล่าวขอบพระคุณ และเข้ามากราบนมัสการพ่อครู มอบของที่ระลึกเป็นกรอบรูปช้างดีบุก พร้อมทั้งหนังสือ 1 ชุดจากนั้นได้ร่วมกันถ่ายภาพเป็นที่ระลึก นักศึกษาหลายคนได้มาขอถ่ายรูปเป็นการส่วนตัว ทักทายสนทนากับพ่อครูด้วยความเคารพ เลื่อมใสศรัทธา พ่อครูแจกของชำร่วยเป็นหนังสือคนจนที่มีแบบให้กับทุกคน นักศึกษาเดินทางกลับในเวลาประมาณ 16.20 น.หลังจากนั้นพ่อครูเดินกลับขึ้นชั้น 4 ทักทายคุณติ้มที่ดูแลสวนเอาพิษออกบอกว่าทำงานเหมือนอยู่สวนสวรรค์เลย เพราะเจอต้นไม้สีเขียวและมีกลิ่นหอมทั้งนั้น พ่อครูกลับเข้าห้องทำงาน หยิบหนังสือตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นหนังสือของท่านชยสาโร ภิกขุเปิดอ่านดูทุกหน้าจนจบ
วันนี้พ่อครู ทั้งออกกำลังกายและเดินขึ้นลงหลายรอบ ก็รู้สึกได้ถึงความเหนื่อยล้า แต่ด้วยความเมตตากรุณาของพระโพธิสัตว์โดยเฉพาะความแกล้วกล้า อาจหาญในเรื่องการแสดงธรรมโปรดคณะที่มาวันนี้ ที่พ่อครูบอกว่าท่านมีคุณลักษณะข้อด้อย 12 ประการ แต่ว่าทุกคนที่ได้อ่านกลับคิดว่าเป็น คุณลักษณะของพระอรหันต์ผู้มีคุณค่ายิ่งคือ
1.เป็นคนหมดทุกข์(ดับทุกข์อริยสัจ)หมดสุข
- เป็นคนไม่มีภัย
- เป็นคนมีคุณค่า
- เป็นคนทำประโยชน์ให้ผู้อื่นถ่ายเดียว(ไม่เพื่อตัวตนเลย)
- เป็นคนไม่โลภ ไม่โกรธ ไม่หลง
- เป็นคนมีเมตตาจริง
- เป็นคนมีอุเบกขาจริงแท้
- เป็นคนไม่ทำบาปแล้ว (สิ้นบุญ-สิ้นบาป)
- เป็นคนทำแต่กุศล
10.เป็นคนได้ประโยชน์ตนครบแล้ว ไม่มีประโยชน์ตน ที่ต้องชำระให้ตนอีก
- เป็นคนรู้จักสวรรค์ นรก นิพพานถูกถ้วน
- เป็นคนรู้จักนิพพานที่สมบูรณ์