“ขอเล่าเข้าพรรษา” ตอนที่ 9 การพลัดพราก
วันนี้มีเรื่องเศร้าค่ะ เมื่อได้รับโทรศัพท์จากน้องสาวของคุณปะดาวบุญ ชาวหินฟ้า คนที่เคยนอนอยู่ห้องเดียวกัน กินข้าวด้วยกัน เคยได้อุปถัมภ์ค้ำชูกัน เกิดวิกฤติถึงชีวิต
ในสมัยปี 2549 คุณปะซึ่งตอนนั้นเป็นคุรุของนักเรียนสัมมาสิกขาราชธานีอโศก เกิดอาการโรคอัมพฤกษ์ เนื่องมาจากเส้นเลือดในสมองอุดตัน เดินไม่ได้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ในสมัยนั้นก็จะมีลูกศิษย์และญาติธรรมคอยดูแล คุณปะได้ไปอยู่หลายที่ทั้งสันติอโศก สีมาอโศก คุณปะได้รับการทำบอลลูนหัวใจ ฝังเข็มและทำกายภาพบำบัด คุณปะมีอาการลิ้นหัวใจรั่วค่ะ เมื่อรักษาตัวจนดีขึ้นก็ได้กลับมาที่ราชธานีอโศกอีกครั้ง คุณปะช่วยเหลือตนเองได้ ทำงานได้อยู่ในฐานะผู้พิการ แม้ร่างกายจะพิการแต่คุณปะก็ช่วยแบ่งเบาภาระงานต่างๆ ได้ดี ช่วยพับกระสอบถุงปุ๋ย งานบ้านในเขตสิกขมาตุ คุณปะก็ได้ช่วยตลอดค่ะ เวลามีคนมาพักค้างที่ราชธานีจะไปยืมผ้าห่มส่วนกลาง คุณปะก็จะซักด้วยเครื่องซักผ้า เก็บไว้ให้คนมือดีไปช่วยพับ แม้จะอัมพฤกษ์ครึ่งซีกแต่จิตใจของคุณปะมีแต่ความเสียสละและมีน้ำใจที่พร้อมจะแบ่งปันให้กับผู้อื่นอยู่เสมอๆ คอยให้บริการญาติธรรมที่ไปยืมผ้าห่มหรือมุ้งส่วนกลางที่เขตสิกขมาตุ
วันที่ 15 ก.ค. พวกเราชาวบ้านราชหลายคนไปช่วยกันบริจาคโลหิต เพราะคุณปะดาวบุญจะเข้าผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจใหม่ คุณปะได้รับการผ่าตัดในวันที่ 16 ก.ค.ค่ะ น้องๆของคุณปะ หลานสาวจากออสเตรเลียก็มาให้กำลังใจคุณปะ มีญาติธรรมที่วัดรวมทั้งท่านสิกขมาตุหลายรูปก็ไปเยี่ยม หลังผ่าตัดคุณปะแข็งแรงอย่างน่าประหลาด พวกเราไปเยี่ยมก็ได้เห็นรอยยิ้มและสายตาอันสดใส ได้สัมผัสกับหัวใจที่แข็งแกร่งของคุณปะดาวบุญ แผลผ่าตัดแห้งไว คุณปะบอกว่าสบายตัวขึ้นกว่าแต่ก่อน เพราะได้รับการเปลี่ยนและซ่อมลิ้นหัวใจ น้องๆ ของคุณปะกลับไปบ้านก็มีคุณซิ้ม ญาติธรรมชาวจังหวัดภูเก็ต คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ญาติพี่น้องแต่คุณซิ้มก็ทุ่มเทคอยดูแลคุณปะอย่างเต็มแรงเต็มกำลัง ปั่นจักรยานจากอุทยานบุญนิยมไปโรงพยาบาลวันละหลายรอบ คุณปะดาวบุญรอคอยการกลับมาที่ราชธานีอโศกช่วงรอให้ค่าเลือดเข้าสู่ภาวะปกติ เมื่อวันอังคารคุณปะบอกให้คุณซิ้มให้ทยอยเก็บของใช้กลับมาวัด ด้วยความหวังว่าอีกไม่นานจะได้กลับไปพักฟื้นที่ราชธานีอโศก
คุณซิ้มเล่าให้ฟังว่าในคืนวันพุธที่ 1 ส.ค. กลางดึกประมาณตีหนึ่งครึ่งคุณปะมีอาการกระตุกเกร็ง พยาบาลนำเข้าห้องไอซียู ในเช้าวันพฤหัสบดีรู้สึกตัวแบบสลึมสลือ คุณซิ้มเรียกมีการตอบรับลืมตาและมีแรงกำมือคุณซิ้มแล้วก็หลับไป หลังจากนั้นก็หลับตลอด คุณซิ้มเล่าให้ฟังว่าโทรแจ้งบอกญาติพี่น้องของคุณปะและทุกคนก็เดินทางจากอำเภอกุดข้าวปุ้นมาที่อุบลฯอย่างรวดเร็ว ในช่วงตอนเย็นที่ปะเดินทางไปพร้อมท่านสิกขมาตุแสงฝน น้องตาล น้องมิ้งค์และคุณพยาบาลสุลีไปเยี่ยมเห็นคุณปะนอนหลับโดยมีท่อหายใจ ได้ทราบว่าอาการนี้เป็นเพราะมีลิ้มเลือดไปอุดดันเส้นเลือดสมอง เป็นอาการที่ทำให้คุณปะเป็นอัมพฤติเมื่อปี 2549
ในช่วงเช้าของวันนี้คุณซิ้มเล่าว่าน้องสาวที่ กทม.และหลานก็ขับรถมาถึงอุบลราวๆ ตีสาม ในช่วงเช้าคุณปะลืมตาขึ้นมามองหน้าญาติๆทุกคนและน้ำตาไหล ปะรู้สึกดีใจที่คุณปะดาวบุญรู้สึกตัวแล้ว แต่เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้เพชรน้องสาวโทรมาเล่าให้ฟังว่าหมอบอกว่าถ้าผ่าตัดแบบเปิดกะโหลกจะช่วยยื้อชีวิตได้ แต่คุณปะก็จะไม่ตื่นมารับรู้อะไรได้ ก็จะเป็นเพียงมนุษย์พืช แต่ถ้าปล่อยให้เป็นธรรมชาติก็จะทำให้คุณปะค่อยๆหมดความรู้สึกและจากพวกเราไป ญาติๆของคุณปะยังไม่ให้คำตอบหมอว่าจะเลือกวิถีใด วันพรุ่งนี้ถึงจะบอกคุณหมอค่ะ ปะอยู่กับคุณปะดาวบุญซาบซึ้งในตัวคุณปะ เธอเป็นดาวแห่งบุญเป็นผู้มีจิตใจที่ใสบริสุทธิ์เป็นที่รักของญาติพี่น้องและญาติธรรม วันนี้มีคลิปพ่อครูกล่าวถึงคุณปะดาวบุญ ซึ่งเป็นความกรุณาของพ่อครูต่อคุณปะดาวบุญซึ่งตอนนี้ก็ยังหลับใหลอยู่ในห้องไอซียู ไม่รู้ว่าคุณปะจะจากไปวันใด แม้จะจากร่างนี้ไปแต่ก็มั่นใจว่าคุณปะจะไปสู่สุคติตามกุศลกรรมที่ได้ทำมาตลอด และจะต้องกลับมาหาชาวอโศกอีกแน่นอน แม้รู้แต่ก็อดน้ำตาไหลไม่ได้ค่ะ เราจะจากกันแล้วหรือชาตินี้….
ปะตรงเตือน นาวาบุญนิยม
พุทธสถานราชธานีอโศก อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
วันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม 2561