610716 อยู่วัด ได้ขัดเกลา และวางใจเป็น
พ่อครูสนทนาธรรมยามเช้ากับปัจฉาฯ 7 ก.ค. 2561
พ่อครู : คนละวิบาก
ส.แสนดิน : คนละวิบาก
พ่อครู : วิบากคนละวิบากกันไป เอาน่า รอๆดู 50 60 เลยละก็รู้กันล่ะ
ส.แสนดิน : หมดแรง
พ่อครู : ว่าจะไปลงจอดท่าไหน ไม่จอดท่า จะอยู่กับคลื่นลม ก็ให้มันรู้กันไป ไม่ต้องหาท่าจอด
ส.ดินไท : ต้องอาบน้ำท่าไหน ต้องมาอาบน้ำท่าวัด
ส.แสนดิน : คลื่นสงบ
พ่อครู : จะไปโต้กับคลื่นลมอยู่ล่ะ ไปหาท่าจอดเอาละ ท่าเก่งจริงก็ลองดู
ส.เดินดิน : ไม่แน่ใจว่าการมาอยู่วัดกับอยู่ทางโลกเนี่ย อยู่ในวัดมันทำได้ตามใจตัวเองมากกว่ารึเปล่าครับ
พ่อครู : ไม่ ไม่ มันก็มีกรอบ ในวัดจริงๆ มันก็มีกรอบ มันก็มี ถึงแม้ว่าจะมีพื้นฐานที่มันเป็นกรอบที่ต่ำสุดรับไว้ แต่ว่าฐานะของแต่ละบุคคลก็รู้กันนะ อยู่ในนี้ คนนี้สูงขนาดนี้ อย่าไปทำไอ้นี่เกินไปเขามีตำรวจซ้อนอีก มีตำรวจซ้อนอีก มี รปภ. ดูแล ซ้อนอีก
ส.แสนดิน : แค่ ๆ มาสวดมนต์ตอนเช้า คนไหนสวดเสียงยาน เสียงอะไรนะ เดี๋ยวเถอะ แค่นั่งสวดมนต์ด้วยกันเนี่ย
พ่อครู : มันมี มันมีซ้อน มันมี ดูแลกันเป็นชั้นๆ
ส.ดินไท : เดี๋ยวนี้เราถือสากันน้อยลง ถ้าเป็นข้างนอก แบบๆญี่ปุ่นเงี้ย ไม่ได้
พ่อครู : ไม่ได้ทางญี่ปุ่น เขาต้องใช้แบบนั้น ต้องแข็ง
ส.ดินไท : มันก็จะขัดเกลาได้ดีกว่า ถ้ามาอยู่ในวัด เดี๋ยวนี้เราก็แบบ ไม่เป็นไร ไม่ถือสา
ส.เดินดิน : ให้คนทางโลกมาอยู่กับเรา งงเลย อะไรต้องคำนึงถึงวิญญาณ อะไรเงี้ย มีอะไรต้องพูดกันเลย
ส.ดินไท : อนิจจังด้วย มันไม่เที่ยง เราก็วางได้
ส.แสนดิน : โลกๆนี่เขาขัดกัน ขัดกันเรื่องผลประโยชน์ เรื่องระเบียบ แต่ข้างในเนี่ย ขัดกันเรื่องศีลนี่แหละ ขนาดทำถูกระเบียบไงก็ตาม แต่เนี่ยพูดจาโกหก
พ่อครู : ไม่อยู่ในร่องในรอยของศีล
ส.เดินดิน : แต่ว่ามันอย่างนี้ไง คือว่า บางคนที่ขัดได้คนก็จะขัด แต่บางคนที่ขัดไม่ได้เขาก็ปล่อย
พ่อครู : วาง พรหมทัณฑ์ไง ของเรามีพรหมทัณฑ์สอน พรหมทัณฑ์แล้วแต่ เขาก็ทิ้งให้วิบากเลยแหละ แล้วแต่วิบากใครวิบากมัน ศีรษะใครศีรษะมัน
ส.ดินไท : ซึ่งคนแบบนี้ พอหมู่ไม่ได้เอาด้วยแล้วเนี่ย พอไปอยู่ข้างนอก เขาเอาเรื่องนะ ก็เลยไปอยู่ข้างนอกไม่ได้ ต้องมาอยู่ข้างใน
พ่อครู : มันก็เป็นไปตามสัจจะ มันชัดเจน มันเป็นไป ไม่ต้องไปห่วงมันหรอก มันก็เป็นไปตามธรรม ช่วงนี้มันจะน้อยหน่อย คนน้อยงานเยอะ อะไรก็เอ้า ก็ว่าไป ถูไถไป
ส.เดินดิน : อยู่บ้านราชมันยืดหยุ่นมากเลยนะครับ ที่นี่ อ้าว เดี๋ยว มีคนนี้พิเศษ เดี๋ยวคนนี้พิเศษต้องพิจารณามาก คือเว้นแต่คนไม่พิเศษ ไม่ต้องพิจารณา
ส.ดินไท : ผมเคยเปรียบเทียบว่า เหมือนคนภูมิใจเนี่ยที่รักษาความเป็นโสดได้ คืออยู่ข้างนอกเขา เขาไม่มีใครมาจีบ
พ่อครู : ที่แท้ซะพูดเอาโก้เนอะ อยู่ข้างนอกไม่มีใครมาจีบ อยู่ข้างในเนี่ย
ส.แสนดิน : อยู่ข้างนอกเรียกขึ้นคาน อยู่ข้างในนิ โห พรหมจรรย์ได้ บัณฑิต
พ่อครู : รักษาพรหมจรรย์ได้ เท่อีกแบบ
ส.แสนดิน : เขาก็ฉลาด ที่มาอยู่ข้างในก็ โอเค
ส.เดินดิน : อันเนี่ย หลวงตาถึงได้เปรียบพวกเรา เพราะว่าหลวงตามีลูกมีอะไร เพราะงั้นหลวงตาถึงอยู่กับคนได้ทุกคน เพราะว่าหลวงตายืดหยุ่นมาก แต่พวกเราคนโสดกันส่วนใหญ่ เพราะนั้นเจอก็อัดกันตูมตาม เพราะว่าชีวิตมันไม่ได้มีลูกมีครอบครัวอะไร หลวงตา จึงเป็นที่รักของทุกคน ใครอ่อนแอ ใครจิตตก ใครอะไรนี่หลวงตาประคอง ช้อน ๆ เอาได้หมด
ส.แสนดิน : แต่ก็ไม่ๆทุรนทุราย เห็น จะตายก็ พรุ่งนี้จะตายตอนนี้จะอยู่ ไม่อยู่ ไม่เกี่ยวละ
ส.เดินดิน : ก็ที่คุยกับผมวันพฤหัส เอ้ย วันพุธนี่ก็ยังดูไม่น่าจะมีสัญญาณว่าจะตาย
พ่อครู : พลังวาง มันก็มีพอ พลังวางมีพอ อย่างท่านถนอมคูณ พลังวางก็มีพอ แต่ว่าไม่รู้มุมเท่านั้นเอง โอ๊ยจะยังไง เอาน่า วาง ปล่อยไปเลย พรึ่บ ประเดี๋ยวพรึ่บเดียว
ส.แสนดิน : พ่อท่านไปบอกนิดเดียวเอง ค่อยๆวาง
พ่อครู : เออ ตอนแรกก็ดูทุรนทุราย โอ๊ย จะวางยังไง
ส.แสนดิน : พ่อท่านบอกให้วางที่ใจ
ส.เดินดิน : พอธาตุแตกแล้วเนี่ย ไฟธาตุแตก
ส.ดินไท : เมื่อวานรายการพุทธชีวศิลป์ ภันเตฟ้าไท เขาเอาพระวักกลิมาอ่าน แล้วก็มีว่าพระวักกลิท่านฆ่าตัวตาย
พ่อครู : พระวักกลิฆ่าตัวตายเหรอ
ส.ดินไท : เวทนา ท่านไม่ไหวละ ก็ฆ่าตัวตาย
พ่อครู : อ๋อ เหรอ
ส.ดินไท : ครับ ก็เลยคิดว่า ก่อนหน้านี้ก็เคยมีคนถามพ่อท่านว่า เอ๊ ฆ่าตัวตายมันจะผิดไหม เป็นพระอรหันต์ด้วย
พ่อครู : เป็น เป็นวิบากซ้อน
ส.ดินไท : หลายองค์เลยนะ ที่เมื่อก่อนผมเคยถามพ่อท่าน
พ่อครู : ผมก็อธิบายแล้ว คุณต้องใช้ความอำมหิตเพิ่มขึ้น ฆ่าตัวเองตาย
ส.ดินไท : อาจจะ เรียกว่าสมัยก่อน มันไม่เก่งเหมือนสมัยนี้ ที่มียาอะไรที่ทุเลาความเจ็บปวดได้
พ่อครู : ใช่ ๆ แต่ถ้าตัวเองจะฆ่าตัวเอง ต้องใช้ความอำมหิตมากขึ้น
ส.ดินไท : คือ เขาอาจจะแบบตัดรอบ ไม่ไหวแล้ว มันทน ไม่ไหวก็ฆ่าตัวตาย คนสมัยก่อนอาจจะธรรมดา การตายเขาก็ไม่ใช่เรื่องซีเรียสอะไรมากมาย ตายก็ตาย
พ่อครู : พวกเทวนิยม เขาก็อย่างนั้นแหละ เทวนิยม เขาก็ไม่มีอะไร ไปอยู่กับพระเจ้าเท่านั้นเอง ทีนี้สิ่งที่เขาทำแล้ว ทำชั่วทำดีก็ทำแล้ว พระเจ้าจะสั่งลงนรกก็ต้องจำนนอ่ะ มันทำแล้วอ่ะ
ส.ดินไท : ตายง่าย
พ่อครู : มันสั้น เห็นไหม มันสั้น ของเทวนิยม เนี่ยสั้น แต่ชีวะของคุณยังยาวไปอยู่กับพระเจ้ายาว จริงๆคุณก็ไม่รู้วิบากว่าต้องวนเวียน แต่คุณก็ไม่รู้ว่าต้องมาวนเวียน เพราะคุณเข้าใจตัววนเวียนอีกไม่ได้ คุณก็อยู่ตรงนั้นเอง ก็ตื้ออยู่ตรงนั้นจบอยู่แค่นั้นกับพระเจ้า กาละไม่มี กรรมก็สั้น ทางโน้นกาละกับกรรม กรรมก็สั้น พอสุดท้ายไปอยู่ที่พระเจ้าก็จบละ กาละไม่มีแล้ว กรรมก็เหลือแต่พระเจ้าเท่านี้ พระเจ้าจะว่าไงก็แล้วแต่ กรรมบวกกรรมลบ กรรมดีกรรมชั่วอะไรก็พระเจ้า นรกสวรรค์อะไร ไม่จบสองไง ธรรมะสองไม่จบ เพราะนั้น หนึ่งก็ยังทำไม่ได้แล้วจะไปหาศูนย์ตรงไหนอ่ะ ปุงลิงค์ก็ยังทำไม่ได้เลย จะไปหานปุงสกลิงค์ เลิกเลย เพราะอธิบาย หนึ่งปุงลิงค์ก็กับนปุงสกลิงค์ อธิบายย๊าก ยาก เพราะว่ามันสิ้นสุดเลยของพุทธนี่นะ จบ พอเป็นนปุงสกลิงค์แล้วเนี่ย หมดคำอธิบาย ภาษาอังกฤษเขายังดีนะมี axiom หมดคำอธิบาย อธิบายยังไง นปุงสกลิงค์
ส.แสนดิน : นัตถิอุปมา
พ่อครู : นัตถิอุปมา มันหมดทางที่จะอธิบาย นัตถิอุปมา นปุงสกลิงค์ จบ มันไม่มีคำอธิบายแล้วมัน จะเทียบอะไรก็ไม่ได้ธรรมะสองก็ไม่ได้ ศูนย์ ศูนย์คืออะไร แล้วจะอธิบายยังไง
ส.แสนดิน : คนที่ศูนย์แล้ว มาอธิบาย ไม่ได้อีก
พ่อครู : มันยังไม่มีสภาวะ อย่า
ส.แสนดิน : คนที่ปรินิพพานเป็นปริโยสาน เขาก็ไม่กลับมาเกิด มาอธิบาย
พ่อครู : ไม่ได้ เพราะงั้น อรหันต์ยังอธิบายอะไรไม่ค่อยเก่งหรอก อธิบายอะไรไม่ค่อยได้หรอก อรหันต์อ่ะ
ส.แสนดิน : แต่คนที่ปรินิพพานแต่ไม่ปริโยสานก็กลับมาอธิบายสภาวะนิพพานได้
พ่อครู : ใช่สิ มันก็จะเพิ่ม เพิ่มปฏิภาณขึ้นไปอีก เพิ่มตัวรู้
ส.แสนดิน : คนที่ปริโยสานแล้วไม่กลับมาอีกครับ
พ่อครู : เออ ใช่ก็ศูนย์
ส.แสนดิน : มันก็อธิบาย ไม่มีใครมาอธิบายตรงนั้นได้
พ่อครู : เพราะงั้นถึงบอกว่าอรหันต์ถึงศูนย์ไง อรหันต์ศูนย์ อรหันต์ไม่ต่อ อรหันต์พวกนี้ อรหันต์อย่างเก่งก็สมสีสีไง ตายพร้อมกับตัดเลย สมสีสี ปริโยสานเลย
ในสวนดาว…ถอดความ
[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=UXsGCPldvuI[/embedyt]