610719 ยกสติวินัย ให้พระอรหันต์เป็นอย่างไร
พ่อครู : เปิดๆ กดๆ ดูไอ้โน่นซิ ว่า ทำไมเขาเรียกการประกาศให้พระอรหันต์ พระอรหันต์ว่าสติวินัย ทำไมเรียกว่าสติวินัย กดดูดิ๊…
ส.เดินดิน : ทำไมนะครับ?
พ่อครู : สติวินัย
ส.ดินไท : ทำไม ยกสติวินัยให้กับ…..
พ่อครู : เออ… ยกสติวินัยให้แก่พระอรหันต์ ทำไมเรียกว่าอย่างนั้น ทำไมเรียกว่าสติ วินัย วินัย วินัยข้อนี้ ทำไมเรียกว่าสติวินัย
ส.ดินไท : ไม่มีเจตนา
ส.เดินดิน : เพราะว่าประเด็นนี้มันอยู่ตรงที่ ในพระไตรปิฏก อยู่ที่ว่า เอ่อ.. พระอรหันต์ขอ…..
พ่อครู : พระอรหันต์ขอ ขออะไร?
ส.เดินดิน : พระอรหันต์ เป็นผู้ขอต่อสงฆ์
พ่อครู : ฮะ
ส.เดินดิน : พระอรหันต์เป็นผู้ขอต่อสงฆ์
พ่อครู : ขอต่อสงฆ์ อ๋อ ..พระอรหันต์เป็นผู้ขอต่อสงฆ์ ว่า….
ส.เดินดิน : จะให้ยก….
ส.ดินไท : อาบัติ
ส.เดินดิน : จะให้ยกอาบัติทั้งหลาย
พ่อครู : อ๋อ.. จะยกอาบัติทั้งหลายว่า ไม่ให้ถือว่ามีอาบัติ
ส.เดินดิน : ครับ แต่ท่านเบิกบานท่านยังคัดค้านพวกเราอยู่ว่า เอ๊ะ ในพระวินัยเรื่องพระอรหันต์เป็นผู้ขอไม่ใช่สงฆ์เป็นผู้…
พ่อครู : ผู้ให้
ส.เดินดิน : ครับ
พ่อครู : มันก็กลับกันไง
ส.เดินดิน : กลับกัน
พ่อครู : กลับกัน ยุคพระพุทธเจ้านะสงฆ์เป็นผู้ขอ ไม่ใช่ ตัวภิกษุ ภิกษุเป็นผู้ขอให้ยกวินัย ให้ยกวินัยให้ ขอให้ยก แต่ผมเนี่ย เมื่อมายุคนี้มันกลับกันหมดทุกอย่าง พระพุทธเจ้าท่านประกาศความเป็นอรหันต์ โอ้โห… คนตื่นเต้นมากันเกรียวกราว ดีใจเคารพนับถือ ผมประกาศอรหันต์ คน..แย้…หนีหมดเลย มันคนละยุค คนยุคโน้นเป็นคนที่พร้อมที่จะสร้างศาสนา เป็นคนพร้อม ยุคพร้อม คนพร้อมที่จะ คนเจริญ คน ประชาชน มนุษย์ในยุคนั้น พร้อมจะเป็นพระอาริยะกัน พร้อมที่จะเกิดศาสนา ปึ๊ด.. แต่ยุคนี้ คนเละเทะหมดเลย ไม่มีศาสนาเลย คือมันตรงกันข้ามกันหมดเลยไง เพราะฉะนั้น พูดอย่างนี้ผมก็เลยยิ่ง ชัดเจน แต่ผมไม่ๆๆ เข้าใจนะประเด็นนี้ ประเด็นที่ว่า สติวินัย ถึงว่า เอ้อ..สงสัย ทำไมท่านเรียกสติวินัย อ๋อ.. หมายความว่าเป็นการรรู้ตัว สติคือการรู้ตัว รู้ตัวว่า เออ เราเป็นพระอรหันต์แล้ว เราก็ขอ ขออนุญาตต่อสงฆ์ บอกสงฆ์ สงฆ์ก็ยอมรับ แต่ทีนี้ผมเอง ผมไม่ใช่ยุคโน้น ผมก็รู้ตัวว่าผมเป็นพระอรหันต์ ก็บอกว่าเป็นพระอรหันต์ ก็เกิดผลสะท้อน คนไม่ยอมรับ คนกระด้างกระเดื่อง สงฆ์ก็ต้องมารับผม สงฆ์ก็เลยต้องมารับผม ประกาศรับผม ด้วยสติวินัย มันกลับกันไง
ส.เดินดิน : ครับ
พ่อครู : ก็จริง ชัดเจนๆ ๆ โดยสภาวะถูกต้อง ก็ยังนึกสงสัยเมื่อเช้า เอ๊ะ… ยังรู้สึกสะดุดใจ เออ.. คำว่าสติวินัย เราก็เกิดละสติวินัยตรงที่ว่า มันเกิดเหตุการณ์ คือพวกหมู่คุณก็ประกาศ
ส.แสนดิน : ผมว่า มันเป็นความสมบูรณ์ ว่าพ่อท่านเนี่ย ก่อนหน้านี้ ตู่ท้วงพ่อท่านหลายอย่าง แล้วหมู่สงฆ์ก็เห็นว่าอย่างเนี้ย มันไม่สมควร จะมาตู่พระอรหันต์ เพราะว่ารู้กันว่าพ่อท่านเป็นพระอรหันต์ ก็เลยยกขึ้นมาว่า ไม่ควรจะ ให้มันเป็นเหตุเป็นผล และพระอรหันต์อยู่ๆท่านมาบอกว่า ให้ยกเว้นให้ผมหน่อยนะ อะไรงี้ก็ไม่สมเหตุสมผลเนี่ย ฮะ
พ่อครู : อ้าว ก็ยุคพระพุทธเจ้าไง
ส.แสนดิน : หมายถึงว่าตัว….
พ่อครู : ภิกษุแต่ละองค์ว่าท่านเป็นอรหันต์ ท่านขอให้สงฆ์ยกให้ท่าน
ส.แสนดิน : .ใช่ๆ แต่ว่า ถ้าพูดถึงว่า สงฆ์พระอรหันต์เนี่ย ท่าน ปกติท่านบอกว่าจะมายกเว้นโทษให้ผมนะ ท่านก็ไม่พูดหรอก ก็ต่อเมื่อมีคนร้ายมาโจทย์ท่านว่า เนี่ย ..ท่านผิดอย่างนั้นอย่างนี้ ทั้งที่ท่านเป็นพระอรหันต์ หมู่สงฆ์ก็ เอ๊ะ.. อย่างนี้มันไม่ควรจะทำ หมู่สงฆ์ก็ อ้าว อย่าไปโกรธท่านเลย
ส.เดินดิน : แต่ก่อนเรื่องทำนองนี้ก็มีหลายครั้งที่ อย่างภิกษุณีมาโจทย์ภิกษุว่า ไปได้เสียเขา มีท้อง พระพุทธเจ้าก็เรียกเข้ามาสอบถาม ภิกษุก็บอกว่า พระพุทธเจ้าถามว่าเธอได้ทำจริงหรือเปล่า พระที่ถูกโจทย์ก็บอกว่าพระพุทธเจ้าก็รู้ดีอยู่แล้ว บอกเธอทำไม่ทำถามครั้งที่สอง พระพุทธเจ้าก็ย่อมทราบดี ครั้งที่สามพระพุทธเจ้าบอกให้เธอบอกว่าทำไม่ทำ บอกว่าอะไร ตั้งแต่บวชมา 7 วันก็เป็นพระอรหันต์แล้ว แม้แต่คิดยังไม่เคยทำ
พ่อครู : พากุละเหรอ?
ส.เดินดิน : ไม่ใช่พากุละ อีกองค์หนึ่ง คือ พระพุทธเจ้าถาม ท่านก็บอกว่าตัวเองเป็นพระอรหันต์นานแล้ว แต่พระพุทธเจ้าก็รู้อยู่แล้วล่ะ ก็ให้บอกที่ประชุม แต่ทำไมมาอ้างตรงนี้ อ้างความเป็นอรหันต์ แต่ว่าที่พระพุทธเจ้าเป็นประธานอยู่เนี่ยก็…
พ่อครู : ก็เลยไม่มีใครกล้าพูดอะไร พระพุทธเจ้าเป็นผู้ตัดสินยอมรับทุกอย่าง แต่ยุคนี้ไม่มีใครตัดสิน
ส. เดินดิน : ไม่มีครับ ไม่มีใครตัดสิน
พ่อครู : ก็เลยยาก ผมอยู่ๆ ก็ไม่ได้ไปประกาศง่ายๆ แหม… พูดกับสาธารณะ ก็พวกเราก็รู้ๆกันว่าอะไร ผมก็แน่ใจว่าพวกเราแน่ใจแล้ว ผมก็ถึงประกาศออกไปข้างนอก ประกาศ พ.ศ. 58 ใช่ไหม ?
คุณเจมส์ : ครับ 58 ที่ไพศาลี
พ่อครู : 58 ก็พอดี 45 ปี พระพุทธเจ้าท่าน 45 ปีท่านก็สิ้นพระชนม์ เรา 45 ปี เราก็ประกาศ อรหันต์
ส. เดินดิน : เรื่องนี้มันเหมือนมีความซับซ้อนว่า ก่อนหน้านี้ที่ว่าพ่อท่านยืนยันว่าเป็นอรหันต์หรือเปล่า พ่อท่านก็ไม่ตอบ อะไรเงี้ย จนองค์ประกอบอะไรมา ตรงนี้ไม่ได้หมายความว่า อยากจะอวดก็อวดไป มาตลอด ก็อยู่มาทำงานศาสนามา
พ่อครู : 45 ปี
ส. เดินดิน : ครับ 45 ปี
พ่อครู : ถึงประกาศ
ส. เดินดิน : เหตุปัจจัยองค์ประกอบ เพระงั้นประกาศตอนนี้ก็ไม่มีอะไรที่
พ่อครู : ก็พวกเราก็ไม่ได้ สะดุด สะเดิด กระดุ๊กกระดิ๊กอะไร เฉยๆ ก็ อือ… มาบอกทำไมอ่ะ
ส.แสนดิน : ผมเป็นโพธิสัตว์
พ่อครู : เอ่อ.. ก็ธรรมดา ก็รู้แล้ว ก็ชัดเจนอยู่แล้ว อธิบายไปจนกระทั่งไม่มีอะไรที่จะข้องคาแล้ว การแสดงออกความเป็นอรหันต์ ก็ต้องมีอะไรที่ตัวเองจะยืนยัน ผมก็ยืนยันตรงที่ว่าผมมีความเข้าใจ ผมมีความรู้นั้นหนึ่ง อธิบายธรรมะของพระพุทธเจ้าได้ชัดเจนละเอียดลออ เออ ว่าอรหันต์ น่าจะเป็น ถ้าไม่ใช่อรหันต์จะมาอธิบายอะไรขนาดนี้เหรอ สอง ก็อยู่ด้วยกันมานาน คบคุ้นกันมานาน ว่า เอ้อ จะใช่หรือไม่ใช่ จะเป็นสิ่งยืนยันว่าจะใช่หรือไม่ใช่ อยู่กันมานาน อยู่ด้วยการคบคุ้น รู้ด้วยการคบคุ้น
ส. เดินดิน : จริงๆ กว่าจะบอกก็มีลำดับนะครับ
พ่อครู : ใช่
ส. เดินดิน : ประกาศเป็นโสดาบัน ประกาศเป็น เจ้าคณะจังหวัดเป็นสกิทาคามี คือมันก็มีลำดับ
พ่อครู : ไม่ใช่ว่า พรวดพราดๆ อะไร
ส. เดินดิน : แต่คนเพ่งโทษจะจับเอา อยู่ดีๆก็ คุยตัวเอง
พ่อครู : ทุกวันนี้ว่ากันจริงๆ แล้วมันไปนับถืออะไรต่ออะไร ไปยึดถืออะไรต่ออะไรไม่ได้หรอก เพราะว่ามัน ๆ เละแล้ว
ส.แสนดิน : ชาวนายังเป็นอรหันต์ อรหันต์ชาวนา อรหันต์อะไรเต็มไปหมดแหละ แล้วแต่ประกาศ
ส. เดินดิน : มีกฎหมายอะไร
ส.แสนดิน : หรือว่า เอาคำว่า อรหันต์ไปใช้กับทุกๆอย่าง
ส. เดินดิน : กฎหมง กฎหมายอะไร ก็อรหันต์ทรงธรรม
ส.แสนดิน : มันก็เลยทำให้คำประกาศ ไม่เหมือนเดิม
ส.ดินไท : ไม่บอก บางที บางคนไม่รู้
พ่อครู : ไม่รู้ คนที่สงสัย บางที บางคน คนที่ไม่ติดใจ เอ๊ะ พระองค์นี้น่าจะยังงี้ๆ นะ พอผมประกาศไปแล้ว คนที่ไม่ติดใจไงฟังแล้วก็ เออ.. พอผมประกาศไป เออ.. ใช่ๆๆ ท่านก็กล้าประกาศอะไรเงี้ย เออ.. น่าจะใช่ เพราะเขาไม่ติดใจไง เขาชัดเจน ศรัทธา เออ… เขาก็จะชัดเจนเขาก็จะหมดความสงสัยคลางแคลง เอ้.. คนมันอยากแสดงออกถึงขนาดนี้ นะ.. รู้ยิ่งขนาดนี้ หรืออย่างพวกเราก็คบคุ้นกันมาขนาดนี้อะไรงี้ คนที่ไม่ได้มาคบคุ้นสนิทอย่างนี้ เขามาได้ฟัง บรรยาย แสดงธรรมอยู่ขนาดนี้
ส. เดินดิน : จริงๆ ถ้าจะประกาศให้คนเคารพนับถือ เนี่ย ต้องประกาศแบบครูบาบุญชุ่ม แสดงฤทธิ์ แสดงเดช อะไร
พ่อครู : ไอ้นั่น มันไม่ใช่พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็เอาตายสิ ไปประกาศแบบนั้น พระพุทธเจ้าเอาตาย ไปแสดงอิทธิปาฏิหารย์ อาเทศนาปาฏิหารย์ เออ.. แล้วบอกว่าเป็นอรหันต์ พระพุทธเจ้าก็เอาตาย เท่านั้นเอง ไม่ใช่เครื่องชี้ ความเป็นอรหันต์ เห็นไหม มันชัดเจนไหมล่ะ อย่างครูบาบุญชุ่ม โอ้.. คนยอมรับ ดีนะ ท่านแสดงฤทธิ์แสดงเดช ไม่ได้มาก ถ้าท่านแสดงฤทธิ์แสดงเดชได้มาก ฮือฮาดัง โอ้โห รับรองเป็นอรหันต์ชัดเจนเลย
ส.แสนดิน : มี การทายว่าาอยู่กี่คน นี่ทำไมถึงหาะเข้าไปได้
ส. เดินดิน : แค่ว่าจะออกได้เมื่อไหร่ แต่จริงๆ ก็ทายสามสี่ครั้งก็ไม่ตรงนะ ทายมั่ว
ส.แสนดิน : ทายมั่วๆ
พ่อครู : ทาย ออกได้เมื่อไหร่ ออกได้ที่ไหนวันที่ 10 ออกได้ที่ไหน
ส. เดินดิน : ไม่ได้ๆ ก็ต้องมาทำพิธีใหม่
พ่อครู : ผิดด้วย วันที่ 10 วันที่ 10 จะเจอ หรือว่าวันที่ 10 ถึงจะออกได้
ส. เดินดิน : ทายๆ ก่อนเจอ บอกว่า จะได้เจอวันนี้ คือมาลุ้นกันว่า เที่ยงนี้ เจอแน่ ครูบาบุญชุ่มมาก็บอกเลยว่า วันนี้เจอ แล้วก็ไม่เจอ แล้วก็เลยหายไปแวบหนึ่ง แล้วค่อยมาโผล่ มาทำพิธีอีกทีหนึ่ง
ส.แสนดิน : เดาเอารู้เลย ว่าเดาเอา
ส. เดินดิน : ใช่ เดาเอา คือ ตอนนั้นใครก็ลุ้นกันว่า ต้องเจอ เที่ยงนี้
ส.แสนดิน : กดดันมาก ถ้าไม่เจอ เด็กมันอดข้าวขนาดนี้ มันจะตายแล้ว
ส. เดินดิน : ใช่ ๆ ภาวะตอนนั้นมันกดดัน สงสารเด็กกันมาก ครูบาบุญชุ่มมาร่วมผสมโรง คนก็เฮกันไป
ส.แสนดิน : คนก็เฮ ต่อเนื่องมาอะไรเงี้ย
ส. เดินดิน : แต่คน เหมือนกับคนหลงแล้ว ยังไงก็……
ส.ดินไท : มี ๆ เหตุผล เข้าข้างได้หมด
ส. เดินดิน : มีเหตุผล เข้าข้างได้หมด
ส.แสนดิน : ก็สมัยโบราณ พระโมคคัลลาเหาะเนี่ย เหาะเห็นๆ ประชาชน ฮือมากเลย ขนาดนั้นพระพุทธเจ้ายังบริภาษเลย
พ่อครู : อืม
ส.แสนดิน : โอ้โห..อันนี้แค่ เนี่ย เป็นประเด็นสังคมนะ
ส. เดินดิน : ดูมันดราม่า ครูบาบุญชุ่ม แล้วก็บอกไปเข้าปิดวาจา ก็เอากุฏิลอยน้ำเล็กๆ มา เชือกผูกแล้วไปลอย พอตื่นเช้ามาก็หายไปแล้ว ลูกศิษย์บอกไปเข้าเงียบ ที่ไหนได้ไปโผล่ที่ปากถ้ำ คือ.. ปิดวาจาได้ไม่กี่วันก็ คือ เห็นว่ากุฏิไปอยู่ได้ยังไง ไม่มีที่ห้องน้งห้องน้ำอะไร ที่ลอยน้ำเล็กๆ เอาเชือกผูก
พ่อครู : อะไร ลอยน้ำ อะไรลอยน้ำ เชือก ?
ส. เดินดิน : แบบที่เราไปที่คลอง 13 อ่ะครับ เชือกผูก
ส.ดินไท : เชือกผูก แล้ว ปล่อยให้ลอยน้ำ
ส. เดินดิน : ครูบาบุญชุ่ม ปิดวาจา ก็ไปนั่งอยู่ แล้วปล่อยลอยไปกลางน้ำ เหมือนกับจะเข้าปิดวาจา แกเคร่งครัด ไปทำสมาธิ แต่ไม่กี่วัน บอกหายตัวไปละ ลูกศิษย์ก็บอกว่าตอนนี้ ท่านไปไหนไม่รู้ แต่ว่าข่าว ไม่นานเท่าไหร่ ก็ไปโผล่ที่ถ้ำอย่างเก่า แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือว่า พระเครื่องของครูบาบุญชุ่ม มันขึ้นเป็นแสนเลย พวกทำขายกันใหญ่ ทำหลายรุ่น พวกทำขายนี่ เขาก็มาให้สัมภาษณ์ โทรทัศน์ มาโฆษณา ไปออกรายการ
ถอดความโดย …ในสวนดาว
[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=iEl1ZZv2-4Q[/embedyt]