ขอเล่าเข้าพรรษา ตอนที่ 14 บังอรเอาแต่นอน
วันนี้มีทำวัตรเช้าเป็นวันฟังเทศน์จากท่านสมณะหลายรูป และไม่ลุกไปค่ะเอาเสียงที่อัดไว้มาฟังทีหลัง หลวงปู่สมณะโพธิรักษ์และคณะท่านสมณะปัจฉาสมณะเดินทางไปที่สันติอโศก ตั้งแต่เวลาประมาณหกโมงเช้าค่ะ สำหรับปะก็เป็นวันบังอรเอาแต่นอนค่ะ เพราะไข้ขึ้นค่ะ แต่ก็มีเรื่องน่าประทับใจเล่าสู่ฟังค่ะ ในขณะที่ป่วยก็มีเทวดาใจดี คุณในน้ำคำเอาน้ำเต้าหู้ร้อนๆ มาวางไว้ที่เตียงให้ดื่ม คุณศีลสนิทก็เอาน้ำซุปผักอุ่นๆ มาให้ดื่มที่ศาลา ยังมีแรงลงไปกินข้าวที่ศาลาก็เลยไปกินข้าวที่ศาลาค่ะ วันนี้เห็นอาหารอะไรก็ไม่นึกอยากกินเลยค่ะ กินข้าวต้มผสมกับตุ๋นถั่วงาจืดๆ และข้าวเหนียวจิ้มเต้าเจี้ยวกับผักลวก กินข้าวเสร็จก็นอนยาวเลยหละคะ หลับ ตื่นมาก็ดื่มน้ำ แล้วก็ฉี่ ตื่นมาเมื่อไหร่ดื่มน้ำตอนนั้นวันนี้เป็นวันผลิตปัสสาวะได้เกือบเต็มถัง เพราะเตรียมน้ำไว้ดื่มสองลิตรเลย มีมิตรแนะให้ดื่มน้ำปัสสาวะแต่รอบนี้ดื่มไม่ได้เพราะช่วงที่กินยาเคมีจะไม่ดื่มน้ำปัสสาวะค่ะ ปกติปะจะกินสมุนไพรไม่ค่อยได้กินยาเคมี แต่รอบนี้เอาไม่อยู่กลัวจะเป็นหลอดลมอักเสบ ซึ่งมันทรมานมากก็เลยต้องพึ่งยาเคมีค่ะ ก็เห็นว่าอาการทรมานมันลดกว่าเมื่อวานจริงๆ ดีนะที่วันนี้ไม่มีสอนนักเรียนจึงไม่ต้องเสียพลังงาน มีแรงหน่อยก็ลุกมาเตรียมรายการวิเคราะห์ข่าววิปัสสนาไว้สำหรับวันพรุ่งนี้ และไปติดต่อเป็ดจตุพลให้ช่วยดำเนินรายการให้ ทุกอย่างเรียบร้อยใจจึงไม่ต้องแบก แต่ก็มีบ้างที่มีโทรศัพท์ให้ประกาศก็ลุกไปประกาศเพราะไม่มีคนประกาศได้จริงๆ ฝากใครไม่ได้ พอช่วยได้ก็ช่วยซึ่งวันนี้มีคนแจ้งน้อยพอดี การนอนที่ทำงานมันดีอย่างนี้คือยังทำงานได้ นอนหายใจลึกๆ เป่าลม ทำโยคะง่ายๆ ทำมากที่สุดคือท่าศพ เอาสติอยู่กับลมหายใจ ง่วงก็หลับ ก็ได้เห็นว่าชีวิตของเราจริงๆ สิ่งสำคัญก็แค่เรามีลมหายใจอยู่เท่านั้น วางใจให้สบายอยู่กับการพักและกดจุดตามที่ญาติมิตรบอก ขอขอบคุณทุกความห่วงใยค่ะ
เย็นมีรายการพุทธศาสนาตามภูมิพ่อครูเทศน์ที่สันติอโศก พ่อครูเทศน์ที่ไหนก็ทำงานพิมพ์แก้ได้ เพราะเป็นงานออนไลน์ แต่ค่ำนี้ปวดหัวปวดตาสู้ไม่ไหวเลยนอนฟังเสียงตามสาย ฟังได้แต่ช่วงต้นๆ ค่ะเพราะก็หลับก่อนรายการจบเสียอีก วันที่ร่างกายป่วยพักร่างกายและก็ทำใจให้สบาย สบายจริงๆ ค่ะ เพราะอยู่ในบวรราชธานีอโศกไม่ต้องกังวลใดๆ ปะออกกำลังกายทุกวันแต่วันนี้ไม่มีแรง แต่ก็ขอเอาภาพออกกำลังกายประกอบก็แล้วกันนะคะ ออกกำลังกายทางมโนค่ะ
ปะตรงเตือน นาวาบุญนิยม
พุทธสถานราชธานีโศก อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
8 สิงหาคม พ.ศ. 2561
