ขอเล่าเข้าพรรษา ครั้งที่ 17 เขียนเล่าทั้งน้ำตา
งานวันแม่ปีนี้เรียบง่ายกว่าทุกปีที่ผ่านมา กระบวนการของนักเรียนก็เรียบร้อย ไม่มีเด็กที่ต้องนอนดึกเพราะจัดบอร์ด ซ้อมละคร ไม่มีเด็กผิดศีล ไม่มีเด็กมาขออนุญาตให้แม่พาไปห้างสรรพสินค้า ณ ค่ำวันนี้มีภาพของลูกที่มากราบขอโทษและปฎิญาณว่าจะเป็นลูกที่ดีของแม่ เป็นค่ำของวันนี้ที่บ้านราชอบอุ่นซาบซึ้งกับบรรยากาศการแสดงภาคค่ำงานวันแม่ค่ะ ซึ่งปีนี้ไม่มีละครแต่เป็นเรื่องจริงที่เด็กๆ แสดงสิ่งดีๆต่อคุณแม่ คิดว่าญาติมิตรคงได้เห็นที่ปะแชร์แล้วนะคะ ด้วยความซาบซึ้งตอนที่เขียนนี้น้ำตาของปะยังชุ่มตาอยู่เลยค่ะ
วันที่ 11 ส.ค. ไม่ใช่วันแม่แห่งชาติ แต่ก็เป็นวันที่ ๒ ของการจัดกิจกรรมวันแม่แห่งชาติที่บ้านราชค่ะ ถึงวันงานร่างกายที่เจ็บป่วยก็ฟื้นทันการพอดี รู้สึกตัวตอนตีสามครึ่งนี่คือสัญญาณสุขภาพดี ต้องไปเตรียมการทำวัตรเช้าผู้ปกครองจะมาตอนตีห้า เวลาตีสี่สี่สิบจึงเปิดสัญญาณตื่นดังทั้งชุมชนค่ะ เช้านี้ท่านสมณะฟ้าไท สมชาติโกแสดงธรรม รายการธรรมรับอรุณเป็นการสื่อสภาวะของคุรุที่เป็นสมณะที่ท่านดูแลเด็กชาย เมื่อได้เห็นสิ่งบกพร่องที่ทางผู้ปกครองจะให้ความร่วมมือในการพัฒนาเด็กได้ จึงมีการบอกกล่าว ท่านเน้นถึงการพัฒนาจิตใจของผู้ปกครอง ทำให้ปะคิดถึงคำกล่าวที่ว่า “พัฒนาอะไรก็ผิด ถ้าจิตไม่พัฒนา” การฟังธรรมสิ้นสุดเวลาหกโมงเช้า ต่อจากนี้ก็เป็นหน้าที่ของปะค่ะ ทำหน้าที่ทั้งพิธีกรและผู้ดำเนินรายการ ตั้งแต่ออกกำลังกายและกิจกรรมสาธิต เรื่องออกกำลังกายปะพาเดินลมปราณค่ะ เพราะคิดว่าผู้ปกครองจะได้นำไปรักษาสุขภาพที่บ้านได้ พาทำช้าๆ และอธิบายทุกขั้นตอนแบบช้าๆ ขี้มูกปะยังไหล เสียงก็ยังอู้อี้เพราะหวัด แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคค่ะ ดูผู้ปกครองทุกคนสนใจและตั้งใจทำมากเลยค่ะ เรื่องการรักษาสุขภาพเป็นความปรารถนาดีที่ทางโรงเรียนอยากมอบให้ผู้ปกครองที่มาร่วมงานทุกคน ต่อมาก็เป็นความห่วงใยที่คณะคุรุอยากแนะนำเรื่องอาหารสุขภาพ ซึ่งกิจกรรมนี้ทีมคุรุเตรียมการหลายคนและทำหน้าที่นำเสนอได้ดีมากเลยค่ะ และคุณแม่คุณพ่อก็สนใจลงมือทำด้วยตนเอง บางคนก็ถ่ายคลิปไว้ รายการนี้จบลงด้วยความสุขกับความอร่อย ตั้งวงกันชิมข้าวเหนียวกับลาบเห็ดสี่ชนิดและแกงอ่อนแล้วจึงลุกมากินอาหารเมนูอื่นๆที่เฮือนสวยเมิด วันนี้มีอาหารหลากหลายเมนูเช่นเคย ทานอาหารเสร็จแล้วไปพักผ่อนและมาร่วมประชุมผู้ปกครองในช่วงบ่ายโมง ซึ่งการประชุมผู้ปกครองที่สัมมาสิกขาจะมีการประชุมรวมแล้วค่อยแยกประชุมตามชั้นเรียน ก็จะมีทั้งนักบวชและคุรุ ผู้ปกครองชั้น ม.๑ พบหลวงพ่อเด่นตะวัน ม.๒ พบหลวงพ่อถักบุญ ม.๓ พบหลวงพ่อมือมั่น ม.ปลายพบหลวงพ่อฟ้าไท และผู้ปกครองระดับประถมศึกษาพบสิกขมาตุผาแก้วค่ะ ได้เจาะลึกถึงพฤติกรรมและหาแนวทางแก้ปัญหาลูกร่วมกัน ประมาณบ่ายสี่โมงก็สิ้นสุด มีเพียงชั้น ม. ๑ ที่เลิกบ่ายห้าโมงเย็นค่ะ
พูดถึงเรื่องอาหารในงานวันแม่ปีนี้ ได้ทราบจากคุรุพรตะวันว่า มีพี่น้องชาวชุมชนมาขอร่วมเป็นเจ้าภาพทำอาหารเลี้ยงในงานนี้หลายคน จนโรงครัวกลางไม่ต้องใช้งบประมาณเลยค่ะ ทั้งที่มีคนมาเพิ่มเป็นจำนวนมาก ทีมงานโรงครัวก็ช่วยกันทำอาหารหลากหลายเมนูทั้งหวานคาว เมื่อวานนี้ก็มีเจ้าภาพเลี้ยงอาหารอร่อยให้เด็กๆและชาวชุมชนได้กินกันถ้วนทั่ว วันนี้ป้าแววน้อมลูกสาวมาเยี่ยมที่วัดก็เลยชวนลูกช่วยกันทำสาคูไส้ถั่วลิสงแทนสาคูไส้หมูซึ่งอร่อยไม่แพ้กัน ป้าเทียนดินเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวแบบจัดเต็มเลี้ยงทั้งวัน ได้ทราบว่าใช้น้ำก๋วยเตี๋ยว ๘ หม้อเบอร์ ๕๐ และมีอีกหลายเมนูที่ชาวชุมชนแต่ละคนนำมาเลี้ยงในงานนี้ค่ะ นอกจากนี้ก็มีผู้ปกครองนักเรียนและญาติธรรมจากปฐมอโศกนำมะพร้าวแห้งมาไว้ให้ทำกะทิสองรถค่ะ
ความสุขที่บ้านราชในวันนี้จึงเป็นความสุขที่เกิดจากการให้ซึ่งกันและกัน ปะเห็นความสวยงามของการให้เวลา คุณแม่แต่ละคนที่ให้เวลาแก่ลูกๆ สมณะสิกขมาตุที่มีเวลามาทุ่มเทให้กับผู้ปกครอง ชาวชุมชนที่ทุ่มเทใจให้ความสุขแก่นักเรียนและผู้ปกครอง คณะคุรุที่มีเวลาร่วมมือกันอย่างแน่นแฟ้น ทำให้กิจกรรมวันแม่วันที่ ๒ เกิดภาพที่น่าประทับใจ งานวันแม่ที่ราชธานีอโศกยังไม่สิ้นสุดค่ะ ติดตามบรรยากาศการบูชาบุพการีได้ในการเล่าของวันพรุ่งนี้นะคะ วันนี้เด็กๆกราบแม่ สำหรับปะเองก็ฝากความรักความห่วงใยและกราบแม่ทางโทรศัพท์แล้วค่ะ แม่บอกว่าวันพรุ่งนี้จะกินมังสวิรัติด้วย ก่อนจากขอฝากบทกลอนที่จำไม่ได้ว่าใครแต่งค่ะ
การให้ไม่สูญเปล่า เป็นเรื่องราวความอบอุ่น
โอบเอื้อเกื้อการุญ ล้ำค่าคุณค่าน้ำใจ
ปะตรงเตือน นาวบุญนิยม
พุทธสถานราชธานีอโศก อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
วันเสาร์ที่ ๑๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑