ส.ค.172018ศาสนา610817_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ อิสระ อัตตา นิรันดร คือธรรมะสองของศาสนา อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1dR3-dJEQc6HIRli7lgN3hfo5OIumxAjfKD9HBu6_aAg/edit?usp=sharing ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=1z3jZaajDh7qMyVGSQ8NBf-7CsZ0lCNTP สมณะฟ้าไทว่า….วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม 2561 ที่ บวร ราชธานีอโศก วันนี้เราจะยังรักษานโยบายรักษาอายุของพ่อครูให้ยืนยาว 151 ปีโดยแบ่งการเทศนาเป็น 3 ช่วง จะช่วยผ่อนการใช้เสียงพ่อครูไม่ให้พูดยาวนาน หมอก็เห็นควรอย่างนั้น ทุกวันนี้ พ่อครูก็อยากให้เรา ทำเกษตรอินทรีย์มากเพิ่มขึ้น อาตมาได้ไปที่จังหวัดอำนาจเจริญ ให้กลุ่มคนทำเกษตรอินทรีย์มีความเข้มแข็งขึ้น มีศิษย์เก่าที่จะร่วมทำเพิ่มขึ้นอีก ในการทำเกษตรอินทรีย์ วันนี้ก็มีกลุ่ม earth safe ของคุณไก่มาร่วมด้วย ทำให้เด็กๆที่ทำมีช่องทางนำไปกระจายขายได้ ให้ผู้บริโภคได้บริโภค ทุกวันนี้พืชผักที่จะบริโภคเองที่บ้านมีแล้ว อย่างมะกอกนี้ ชาวอีสานมีเยอะมากแต่ก็ทิ้งขว้างกัน ไม่ว่าจะเป็นกล้วยหรือมะขาม เป็นของที่คนต้องการบริโภคเพราะเป็นของ ไร้สารพิษ คนที่มาดูงานที่บ้านศิษย์เก่าคือบ้านของ คุณแตน คนมาดูงานเขาบอกว่า เขาต้องการกินอาหารในสวนเท่านั้นไม่ต้องการของข้างนอก เพราะคนทุกวันนี้ป่วยกันมากมาย นโยบายของพ่อครูที่บอกถึงสามอาชีพกู้ชาติ กำลังจะขึ้นมาเป็นจริง ผักอินทรีย์ที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าจะเป็นที่ต้องการแก่คน คนที่ทำนั้นจะต้องเป็นคนที่มีศีลถึงจะไปรอด ก็มีคุณธรรมอย่างที่พวกเราเป็นในทุกวันนี้ จึงจะไปรอดและเชื่อถือได้ ไม่อย่างนั้นเชื่อถือไม่ได้เป็นการหลอกลวงประชาชน คนจะมานิยมมากขึ้นต้องมีคุณธรรมมากขึ้น ยิ่งจะต้องขายถูกมากขึ้นเป็นนโยบายที่ดีมาก ถ้าคนนิยมมากขึ้นขายแพงคนก็จะต้องซื้อของแพงก็จะไปไม่รอด แม้แต่ข้าวอินทรีย์ยิ่งขายยิ่งให้ถูกลงถึงจะดี คณะกรรมการชุมชนปฐมอโศก ไปขอคำแนะนำจากพ่อครู พ่อครูว่า ทำอย่างไรเราจะจนลงอีก ไม่ใช่รวยขึ้น จนลงเพื่อจะช่วยเหลือผู้อื่นมากขึ้น เรายิ่งขยันยิ่งทำให้แก่ผู้อื่นมากขึ้นและยิ่งจะจนลงมากขึ้น สุดท้ายเป็นผู้ที่ยอดขยันที่มีแต่ให้ ไม่เอามาให้แก่ตัวเองเลย ในวรรณะ 9 ข้อที่ 9 คือระดมความเพียร เป็นผู้ที่มีแต่การให้การช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่มีอัตตาตัวตน ความเป็นประชาธิปไตยนั้นต้องมีอิสระเสรีภาพมีความไม่มีตัวตน เป็นอเทวนิยม สลายสองให้เป็นหนึ่งได้และทำให้เป็น 0 ได้ กลับไปกลับมาได้ เป็นสิริมหามายาทำให้เกิดก็ได้ตายก็ได้ มีอิสรเสรีไม่ผูกพันไม่พัวพันไปทำงานอื่นต่อ พ่อครูว่า…ก่อนอื่นก็ขอ โอภาปราศรัย กับ sms SMS 16 สิงหาคม 2561 (สำมะปี๋ ซีวิต) _พรชัย จันทรศร · เลื่อมใสวิธีการอธิบายแง่มุมธรรมะของสิกขมาตุกล้าข้ามฝัน บรรยายสวาวะได้ดูเป็นธรรมชาติน่าสนใจฟัง สาธุ _สุนงค์ อิทธิไพบูลย์ · กราบพ่อครู เป็นชาวกระบี่ค่ะ ในฐานะเป็นญาติธรรมแห่งชาวอโศกคนหนึ่ง ไม่เข้าใจคำว่า ” สำมะปี๋ชีวิต “อยากให้พ่อครู อธิบายให้ทราบด้วยค่ะ พ่อครูว่า…สำมะปี๋ คือทุกอย่างรวมทั้งหมดเลยอะไรต่างๆนานาปนกันไปหมด ชีวิตของคนเรา ซี่วิต คือชีวิต ชีวิตคนเรานี้คนที่ไม่ได้เรียนรู้ธรรมะ ก็ปนกันเละไปหมด จับอะไรไม่ติดแยกอะไรไม่ได้ ก็ทุกข์ ไม่มีวันจบสิ้นได้ก็ต้องมาเรียนรู้ เรียบเรียงธรรมะพระพุทธเจ้าที่เป็นธรรมะ 2 อย่าคิดว่ามันจะช้ามันไม่ช้าเลย เรียบเรียงทีละ 2 นึกว่ามันเมื่อไหร่จะหมดแต่ก็หมด ทำให้สองจนเป็นหนึ่งและทำให้เป็นศูนย์ได้ ทำซ้อนไปอีก เป็นสภาพรู้หมุนรอบเชิงซ้อนซับซ้อนไป เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ เป็นเรื่องเหลือเชื่อ ตกลงสำมะปี๋ คือเรื่องที่ปนกันเละเลย ไม่เป็นระบบระเบียบไม่เป็นส่ำ อธิบายไม่ออก บอกไม่ถูก อะไรก็รู้แต่จัดการไม่ได้สักอย่าง สำมะปี๋ ซีวิต เราก็มาเรียบเรียง สำมะปี๋ ให้สำเร็จเป็นระบบให้เป็นเบื้องต้นท่ามกลางบั้นปลาย _บุญเลียบ · ลูกก็มีความกลัวว่าจะตายก่อนที่จะได้ไปอยู่บวรราชธานีค่ะ พ่อครูว่า…ก็รีบมาสิ กลัวตายก่อน มันจะช้าอะไรนักหนา ศีล 5 ไม่มีอบายมุข ไม่กินเนื้อสัตว์เท่านั้นแหละ หลักเกณฑ์ขั้นต่ำของที่นี่ บวร ที่ไหนก็แล้วแต่ ศีล 5 ไม่มีอบายมุข ไม่กินเนื้อสัตว์ แม้ว่าพอไหว ละเมิดบ้างเล็กๆน้อยๆก็มาได้ เพราะที่นี่มีพลังงานควบแน่นจะช่วยกัน คุณอยู่คนเดียวนั้นยากไม่มีตัวช่วย ไม่มีพลังงานรอบตัว จะมีพลังงานช่วยควบแน่นสู่แกนกลาง เราอยู่ข้างนอกก็เละไปหมด แต่ในนี้ มีสนามแม่เหล็กที่ถูกต้องไม่กบฏ เราก็ถูกกระแสสนามแม่เหล็กจับเข้าสู่ระบบ คุณมาในสนามแม่เหล็กจะถูกสนามแม่เหล็กจัดไปในทิศทางนั้น เขาไม่ปล่อยให้คุณมา ขวางรีขวางลำหรอก _ดาวตะวัน · ได้ประโยชน์จากคำถามของพี่หนึ่งฟ้ามากค่ะ _ยิ่ง ช่างศิลป์… พระที่ถูกขับออกจากวัดสายปฎิบัติ สาเหตุเพราะปฎิบัติตามหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าทรง สอนใว้คือ พระธรรมวินัย ไม่ได้ ส่วนพระแนวนี้มีมากทางธิเบต เนปาล คือสายมหายาน ชึ่งยังติดอยู่ทางโลกไม่สอนให้ปฎิบัติหลุดพ้นจากกรรมผิดพระธรรมวินัยอยู่หลายอย่าง อยู่ในสมถะมากกว่าวิปัสนา พระต่างชาติสายหลวงปู่ชาที่ไปปฎิบัติสายมหายานในต่างประเทศต่างๆ เมื่อเห็นแล้วว่าอยากปฎิบัติให้มากกว่านี้จึงต้องมาปฎิบัติทางสายเถรวาท ยึดถือพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าเป็นหลัก นิกายต่างๆนั้นสอนแตกต่างกันอย่างเช่นพระปานขาวก็เช่นกันอาจหลงทางได้ไม่แปลกที่ท่านถูกขับออกจากวัดหนองป่าพง ดั่งเช่นพระคึกฤทธิ์ที่ไม่ปฎิบัติถือศีลไม่ครบตามพระธรรมวินัย ถือแค่ 150 ข้อ พระต่างชาติที่เข้ามาพบก็เพราะทำอะไรที่ผิดพระธรรมวินัยเขาอยากปฎิบัติตามความคิดที่เขาว่าถูกแต่ ส่วนใหญ่เขาไม่ทำกัน ดั่งเช่นตอนนี้ อโศกธานี ที่ จ.อุบลฯ จากที่ไปรู้จักและวนเวียนอยู่สังเกตุดูเละเทะมากๆ จนชาวบ้านบริเวรรอบๆเขาเอือมระอามากๆจนพาเข้าไปดูความไม่ถูกมั่วสุมผิดศีลมากมาย อย่างพูดว่าขุดดินจอบเสียมตัดต้นไม้เขาก็ไม่ทำนั่นเพราะเขาไม่ทราบพระวินัยสงฆ์ว่าทำแล้วจะเกิดกรรมอะไรขึ้น เมื่อผิดศีลเกิดกรรมไม่ดีทางที่จะปฎิบัติให้หลุดพ้นก็เป็นไปไม่ได้ ปิดทางไปนิพพานไปทางโลกมากกว่า เล่นสมถะดั่งในอดีตที่ศาสนาพรามณ์เคยทำมาก่อนพระพุทธเจ้าตั้งนาน แม้เล่นฤทธิ์เล่นฌานเก่ง เหอะหายตัว ต่างๆนาๆก็ยังไปเกิดเป็นสัตว์เดรฉานได้ตกนรกได้ยังหลุดพ้นไม่ได้ดั่งสายพุทธแท้ๆ พ่อครูว่า…สมณะเราอย่างมากก็ไปขนช่วย ไม่ได้ไปขุดไม่ได้ไปตัดช่วย แต่เขาอาจไม่ละเอียด ปนๆกันไป ก็มอง ตัวเขาเองอาจจะเป็นฆราวาสที่เคร่งครัดไม่ทำแล้ว ไม่ขุดดินฟันหญ้า ไม่ทำกสิกรรมแล้ว อย่างนี้เป็นต้น ก็ว่ากันไปต่างคนต่างมองต่างคนต่างสังเกต ก็ดี พวกเรายังบกพร่องหากผิดดังที่เขาว่าก็แก้ไข _คุณหายโง่ หากคำว่ามโนมยะ แปลว่าสำเร็จด้วยใจ คำว่าอิทธิวิธีแปลว่าสำเร็จด้วยใจ ดังนั้นคำว่า มยะ แปลว่าสำเร็จ คำว่า มยะ เกี่ยวข้องกับคำว่ามายา ดังนั้นคำว่า สิริมหามายา จะแปลว่าความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ เป็นศีล เป็นความดียิ่ง นั่นหมายถึงความเป็นผู้สำเร็จ กู้ ความเกิดความดับที่สมบูรณ์แบบ และทำความเกิดความดับสมบูรณ์ได้ ทำให้เกิดได้สำเร็จทำให้ดับก็สำเร็จ ได้ไหมคะ พ่อครูว่า…ได้ ถูกต้อง คำว่า มยะ มาจากมายา ที่จริง มายา ไปจาก มยะ มยะ ก็คือ ะ ส่วน มายา า มยะต้องเกิดก่อนมายา มยะ คือ ต้องรู้จัก มะ กับ ยะ มะ นี่คือจิต ยะ คือพลังงาน ยะ คือเศษวรรตัวแรง ย ร ล ว ส ห ล อํ ม คือ ตัวท้ายของวรรค อีกตัวหนึ่งตัวต้นของเศษวรรค ซึ่งหมายถึง หัว กับท้าย หมายถึงหัวใหญ่กับปลายเล็กสุดเลย เอามาใช้ร่วมกัน คือ บริบูรณ์ทั้งหมดด้วยพยัญชนะ นอกนั้นก็มีสระมาร่วมขยายออกไปเรื่อยๆ อะ อา อิ อี อุ อู ซึ่งจะเป็นการเสริม พวกสระ เป็นตัวพยายามเพิ่มเติมความก้าวหน้าไปเรื่อยๆ ไม่เช่นนั้น ถ้าเป๊ะๆเลยพยัญชนะ มันกลับไปกลับมาจึงต้องใช้ด้วยไม่เช่นนั้นพยัญชนะจะมีเยอะมากถ้าใช้แบบ เป๊ะๆเลย มันจะมีนับไม่ถ้วนไม่ไหวแน่ ที่จริง มายา นี้ มยะ นี้ก็สำเร็จ เป็นความลงตัว มายาเป็นความเพิ่ม มายาเป็นความเพิ่มเชิงหลอกลวง เชิงไม่ดี แต่ความเพิ่มในการเพิ่ม ซ้อนลงไป การเพิ่มคือการเกิด การเกิดนี้ศาสนาพุทธจุดสำคัญเกิดหรือตาย …ตาย ใช่ไหม มันกลับย้อนแย้ง การเกิดนี้ถือว่าไม่ค่อยดี จึงเรียกว่ามายา มันมีเชิงการเกิดมันไม่ดี เพราะจุดสูงสุดของศาสนาพุทธคือดับสนิทมากเลยแยกธาตุปรินิพพานเป็นปริโยสาน นี่คือจุดสุดยอดของศาสนาพุทธ ซึ่งตรงกันข้ามกับคำว่านิรันดร มี 2 อย่างในโลกคือนิรันดรกับสูญ อเทวะคือไม่เป็นสองแล้ว ย่นย่อจากมากมายแล้วคือ 2 แม้ 2 ก็แยกเป็นหนึ่งได้กับ 0 ได้ นี่คือความสำเร็จของศาสนาพุทธ ถ้าเป็นหนึ่งก็คือยังเกิดอยู่ ถ้า 0 แล้วก็ไม่เกิดอีก ไม่มีคำพูด นัตถิอุปมา อธิบายขั้น 1 ก็ไม่มีทุกข์ ไม่มีการเป็น 2 ไม่มีการกระทบกระทั่งอีกแล้ว หนึ่งไม่กระทบกับอะไรอีกแล้ว จะดิ้นอย่างไรก็ดิ้นคนเดียว ฉิ่งมีสองชิ้นใช่ไหม วืดๆๆ ดังไหมล่ะ ต้องกระทบต้องตีในอวกาศ ในที่ๆไม่มีอากาศ อวกาศที่ว่าง ถึงจะวืดๆ ถ้าตีในอากาศก็ดังวืดๆ สมณะฟ้าไทว่า…1. อยู่ในสุญญตาก็เกิด 1. มีการกระทบก็เกิด พ่อครูว่า..มีรายละเอียดซ้อนไปว่าอยู่ในความซ้อน Space and Time _นักมายากล ใช้เทคนิคหลากหลายหลอกตาหลอกใจผู้ชมได้น่าทึ่ง เขาจึงเอาใช้คำว่ามายากล ทั้งที่มายารากศัพท์เดิมไม่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงแต่อย่างใด คำว่าสิริมหามายาจึงไม่เกี่ยวข้องกับความหลอกลวงได้เลย ตีความอย่างนี้ได้ไหม พ่อครูว่า..คุณเข้าใจอาตมาเข้าใจก็ตีความได้คนไม่เข้าใจก็ยากหน่อย เพราะคำว่ามายาน้ำหนักของมันเป็นความลวง แต่คุณพยายามดึงว่ามายาเป็นความจริงไม่หลอก อาตมาก็เข้าใจอย่างคุณก็ได้อย่างโลกก็ได้ ทำ 2 ให้เป็นหนึ่งได้ ถ้าคุณจะเอาแต่หนึ่งของข้าอย่างเดียว ก็สัญญายนิจจานิ ยึดมั่นถือมั่นของคุณคนเดียว _ดิฉันเข้าใจว่าสิริมหามายาคือปฏินิสสัคโคและสัจจานุโลมญาณใช่ไหมคะ พ่อครูว่า…ใช่ ปฏินิสสัคโคคือมีก็ได้ไม่มีก็ได้ สัจจานุโลมญาณคือเราไม่มีแล้วอนุโลมไปกับเขาได้ เข้าใจสัจจะช่วยเขาแล้วก็จบ เมื่อจะทำงานก็เป็นหนึ่ง _สภาวอรูป มีสภาพคล้ายอุทธัจจะที่พริ้วแผ่วบางเบาแล้วสงบลงดูรวดเร็วใช่หรือไม่ (พ่อครูเคยเปรียบเทียบเหมือนหม้อแบตเตอรี่ที่อ่อนแรงสตาร์ทเท่าไหร่ก็ไม่ติด) พ่อครูว่า…ใช่ _ระยะหลังดิฉันรู้สึกว่าพ่อครูมีนิรุตติปฏิภาณปัญญาแสดงธรรมมากขึ้น ได้ดีขึ้นละเอียดลึกซึ้งมากขึ้นเข้าใจมากขึ้น แสดงว่าได้พัฒนาภูมิไปสู่โพธิสัตว์ระดับ 8 เพิ่มขึ้นใช่ไหมคะ พ่อครูว่า..คุณก็เจริญขึ้นมีปฏิภาณปัญญารับฟังมากขึ้น ไม่ใช่แค่อาตมา ดีขึ้นทั้งคู่ อาตมาอธิบายได้ดีขึ้นคุณก็ฟังได้ดีขึ้น หรืออาตมา อธิบายได้ดีเท่าเดิมแต่คุณก็ดีมากขึ้น หรือคุณเข้าใจเท่าเดิมแต่อาตมาทำให้คุณมีปัญญาเพิ่มขึ้นได้ ใช่แล้ว หากทำงานไปแล้ว ไม่มีการพัฒนาขึ้นไปก็มีชีวิตเสริมไปเรื่อยๆไม่เอา จะมีชีวิตที่เจริญขึ้นไปเรื่อยๆ _ดิฉันเคยถามพระสงฆ์เถรสมาคม ท่านหนึ่งว่า สมเด็จพระสังฆราชตรัสว่า อยากให้พระลดการใช้เงินลง ท่านจะทำได้ไหมคะ พ่อครูว่า…ไม่ตอบ _แต่ท่านตอบว่า มันไม่ได้หรอกโยม คนเรามันมีบารมีไม่เท่ากัน ขนาดพระพุทธเจ้าเองก็เคยบำเพ็ญบารมีมาหลายชาติ กว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าได้ พระภิกษุรูปนั้นกล่าวให้เหตุผลดีกว่า วัดบางวัดไม่มีเงินทองมาก แม้จะจ่ายค่าน้ำค่าไฟก็ยังไม่มี อีกอย่างจะเดินไปไหนมาไหน ก็ต้องจ่ายค่ารถ เวลาเจ็บป่วยต้องมีค่ารักษาอีก ญาติโยมจะคอยติดตามก็ไม่ค่อยมี จะหาคนมาอยู่วัด ก็ยากมาก คำถามเรื่องนี้พ่อครูจะกล่าวแก้อย่างไร พ่อครูว่า..ก็ไม่แก้ เขาทำได้เท่านี้ก็อยู่ที่กรรมวิบากของใคร ทำได้เท่านั้นก็เท่านั้นมันแข่งใครไม่ได้ แข่งบุญบารมีแข่งกันไม่ได้ คล้ายๆอย่างนั้นมันจริง มันได้แค่นั้นก็ต้องแค่นั้นบังคับกันไม่ได้ ทุกอย่างไม่เท่ากัน มันเป็นจริง แม้แต่ปรมาณูสองปรมาณู มันก็ไม่เท่ากันแล้วแต่เรามองไม่เห็น แม้แต่ฝาแฝดที่เหมือนกันที่สุดมันก็ยังมีที่ต่างกัน คุณมองจากจุดที่มันมีความต่าง ในรูป ในอรูปของเขา ในมวลทั้งหมดหากเล็กก็มองยากแต่หยาบก็มองง่ายกว่า วันนี้อาตมาคิดว่ายังไม่อยากพูดเข้าไปถึง ปรมัตถ์เท่าไหร่ อยากจะพูดถึงสังคมโดยรวมขณะนี้ในประเทศไทย อาตมาโดยภูมิธรรมเห็นว่าประเทศไทยทุกวันนี้ก้าวหน้า กำลังมีภาวะการเดินพัฒนาไป การดำเนินไปได้อย่างดียิ่ง การเป็นการไป มันดีมากเลย ไม่ว่าทางด้านเศรษฐกิจไม่ว่าทางด้านการเมืองทางสังคม คนเข้าใจไม่ได้ง่ายๆว่าเศรษฐกิจคืออะไร ที่ดีที่สุด ซึ่งเราก็ยืนยันว่าอย่างชาวอโศกนี้ดีที่สุดแล้วที่เท่าที่ทำได้ในโลก พูดนี้ไม่เกินความจริง เขาก็หาว่าเพ้อเจ้อหลงตัวเอง เศรษฐกิจที่พวกเราทำสำเร็จจนมีองค์รวมเป็นสาธารณโภคี ดีที่สุดแล้ว พระพุทธเจ้าค้นพบและทำก่อนตั้งแต่ในวงของหมู่สงฆ์ สมัยพระพุทธเจ้าในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในยุคทาส ทาสจริงๆเลยนะ นายทาสสั่งฆ่าคนได้เหมือนสัตว์เลี้ยง มีสิทธิ์ทุกอย่าง ชาวอโศกเราสามารถพิสูจน์เศรษฐกิจในระดับสาธารณโภคีได้จึงเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มาก เมืองไทยมีในกลุ่มคนไทย ชาวอโศกสังคมหมู่กลุ่มอโศก จะมีกี่กลุ่มในประเทศไทยก็ตามก็ทำสาธารณโภคี สาธารณโภคีไม่ได้หมายความว่ามีจุดเดียว คือไม่รับอะไรตอบแทน 0 หมด ไม่ใช่ มีรับเล็กน้อย มากขึ้นๆ เชื่อมโยงกัน แต่มั่นใจว่าจะเดินทางไปสู่จุดศูนย์ ไม่มีตัวตนได้ เพราะฉะนั้นมั่นใจ แต่ละคนก็ยังมีกิเลสตามลำดับ ก็ต้องพัฒนาขึ้นมา แต่ความเชื่อมั่นนั้นมีจุดสูงสุด นี่คือ เครือแหของสาธารณโภคี สาธารณโภคีไม่ได้หมายถึงจุดสุดยอดทีเดียวไม่ใช่ นั่งอยู่ตรงนี้มีใคร ห่อพกมาด้วยเท่าไหร่ อาตมาไม่อยากจะกล่าว ดร.ต้อม ให้ชื่อ ปรารถนาจน ก็ยังไม่ยอมรับ ยังไม่กล้า ก็จริงใจไม่มีปัญหาดี แต่ก็พยายามอยู่ ที่จริงก็ไม่ใช่คุณคนเดียวหรอก ต้อมก็ดึงตัวเองออกมาเลย ยกให้เขาหมดเลย เขาจะแบ่งให้บ้างก็แล้วแต่ แต่จิตใจก็ยังไม่ถึงก็เลยต้องอยู่อย่างนั้นก่อน สิกขมาตุกล้าข้ามฝัน… สิกขมาตุรินฟ้า… สมณะเดินดิน… สมณะแสนดิน… พ่อครูอธิบายต่อ….จะอธิบายถึงสภาวะ สามเส้า สามเส้าที่ว่า คือ อิสระ ความไม่มีตัวตน และ นิรันดร อิสระ มีสระ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ สระ อิ ก็คือสระสามเส้า อะ อา อิ สามเส้า เพราะฉะนั้นอิสระคือสุดแล้ว ในสิ่งที่มี สามเส้าคือวงวน ถ้าสองไม่เกิดวงวน เป็นแค่ปฏิ คือทวน Action Reaction ไปๆมาๆ สองทิศไม่ได้ควบคุมทิศด้านอื่นมิตินี้ หากจะเอามิติเดียวก็สามแยก สี่แยกจะวนก็ได้แต่ยากกว่าสามแยก ยิ่งห้าแยก หกแยกยิ่งยากใหญ่ เพราะมันจะเยอะเกินไปจัดสรรยาก สามเหลี่ยมนี่แหละจัดสรรได้ง่ายที่สุด สระก็มีสั้นกับยาว น้อยที่สุดก็ อะ อา ยาวขึ้นไปก็เป็น อิ อี ยาวไป อุอู สามคู่ อะอาอิอีอุอู ไทยมี อึอือ อีก ยังไม่มากกว่านั้นอีก ขยายถึงโลกจินตา มันไม่จบตามไม่ไหวหรอก โลกจินตา ก็เอาถึงขนาดหนึ่งรู้จบได้ ไม่อย่างนั้นไปเรื่อยๆ คนนี้ยาวไม่จบ ก็วนไม่จบ ลากไป แล้วก็จำไม่ได้ว่าตัวเองวนแล้ว มันสุดท้ายมันจะเป็นอย่างนั้น มันจะไปเอา Nuclear Fission มาพูดไม่ได้หรอก เพราะมันไม่มีที่จบ คุณจะตามที่จบของ Nuclear Fission ไม่ได้ มันเกินได้เกินดี คุณจะเก่งแค่ไหน คุณจะเก่งเท่า Nuclear Fission มันวิ่งไปแล้วคุณทำมันได้อย่างไร มันไม่ได้ มันหายไปจนไม่มีอะไรจะไปตามรู้ได้ คุณก็จะต้องทำตัวไม่รู้นี่แหละ ถึงจะเล็กที่สุดถึงจะตามมันได้แล้วไม่รู้แล้วมันจะรู้ได้อย่างไร อุตุมันไม่รู้ พีชะก็รู้เพิ่มขึ้นได้ แล้ว จิตนิยามก็รู้ได้ในกรรมในธรรมะ กรรมเป็นDynamic ธรรมะเป็น Static ก็เรียนรู้ 2 อย่างนี้ สามเส้า อะ อา อิ สระเสียงสั้นสองตัว อะ กับ อิ สระเสียงสั้นคือเอกพจน์ สระเสียงยาวคือพหูพจน์ มิติ มีสองกับสาม ให้เข้าใจได้ สระก็มีแค่นี้ อิ ก็สระ สระมี อะ อา อิ จบที่ อะ อา อิ คือ หนึ่งจุด จุดเล็กที่สุดก็คือจุดที่วน นิคหิต เล็กที่สุดคือยอดสุดยอดแห่ง สุญญาณู นี่ยอดกว่าปรมาณูนะ ปรมาณูคือวันยิ่งใหญ่ ส่วนสุญญาณูคืออะไรก็คิดดู อาตมาเคยเขียนในหนังสือ เอาคึกฤทธิ์ ปราโมทย์มาวิจารณ์ก็เลยเกิดภาษาคำว่า สุญญาณู สรุปคำว่าอิสระ เข้าไปเป็นธรรมะ 2 เทวนิยมกับอเทวนิยม ธรรมะ 2 ขั้ว ในโลกนี้มีธรรมะสองขั้วเทวนิยมกับอเทวนิยม เทวนิยมก็คือ 2 อเทวะคือไม่ 2 แล้ว เป็นหนึ่งได้และเป็น 0 ได้ด้วย สรุปสั้นก็คือทำให้สองเป็นหนึ่งและทำให้ 0ได้ เป็นเอกธรรม เป็นหนึ่งแล้วไม่มีการทุกข์ไม่มีการเกิด 1 จะเป็นการทรงที่ยั่งยืน จะมียังไม่มีวันจบ นิรันดรก็ตามใจ อิสระ มาเทียบ เทวนิยมกับอเทวนิยม พุทธมีอิสระเต็มที่ พระเจ้าไม่มีอิสระเต็มที่ เพราะคนไม่สามารถรู้จักพระเจ้าได้ สายเทวนิยมไม่มีใครสามารถสัมผัสพระเจ้าได้เลย ทุกคน ในศาสนาเทวนิยมต้องอยู่ใต้ บงการบัญชาของพระเจ้า เพราะฉะนั้นจึงไม่มีอิสระเสรีภาพ จึงยังเป็นทาสพระเจ้าอยู่ นี่คืออิสระจบ ศาสนาพุทธ พระเจ้า ไม่ต้องมาบงการเราเองหรอก เราเลิกพระเจ้าเลยไม่ต้องอยู่กับพระเจ้า หายไปเลย ไม่มีสวรรค์นรกไม่มีอะไรมาบงการ หมดธรรมะคู่ ถ้ามีพระเจ้าก็เป็นธรรมะคู่ที่ชื่อว่าเทวะ ยอดเทวะสูงสุดก็คือพระเจ้า แต่เขาไม่รู้จักพอ แต่ศาสนาพุทธรู้จักยอดนี้ มาศึกษารู้ ในสิ่งที่มีกับไม่มี จนสิ่งที่มีนี้มีเป็นหนึ่งและเป็นศูนย์ ก็จบ นี่คือ อิสระเสรีภาพ พระเจ้าศาสนาเทวนิยมจึงไม่มีการจบ หมดอิสระ และไม่มีการหมดอิสระนิรันดรด้วย ศาสนาเทวนิยมไม่มีอิสระ และไม่มีอิสระอย่างบริบูรณ์ นิรันดรด้วย นอกจาก นิรันดรแล้ว ด้วยกาละจบไม่ได้ สูญไม่ได้ จะต้องมีอยู่นิรันดร แม้ว่ามีแล้ว คุณยังไม่เคยพบเลย เหมือนกับไม่มี แล้วเขาก็เชื่อว่ามี อยู่อย่างนั้นแหละ เป็นนิรมาณกาย กายที่เขาเชื่อว่ามี แต่คุณก็ไม่เคย อาทิสมาณกาย แต่คุณก็บริโภคร่วมกันนั่นแหละว่ามันจริงมีความจริงร่วมกัน คนนั้นก็จริงคนนี้ก็จริงเรียกว่า สัมโภคกาย กายะคือสอง กลับไปกลับมาก็ยังมีสองอยู่อย่างนั้นเองยังมีกาย ศาสนาเทวนิยมยังมีสองยังมีกาย ศาสนาพุทธแยกเป็น 2 นิกายกับรูปนามมีธาตุรู้ ถ้าคุณเองเป็นอุตุนิยามไม่เกิดธาตุรู้ คุณมี พีชนิยามแล้ว เกิดธาตุรู้ในสิ่งที่เป็นคู่คุณก็มีคู่มีเพศ พีชนิยามมีเพศ ผสมพันธุ์เกิดแตกตัวไป พอมาเป็นจิตนิยามก็ยิ่งเข้าใจเลย จัดการพีชะได้ รู้จักการเกิดของอุตุนิยาม ว่ามันไม่ได้เกิด เพราะตัวมันเองมันเกิดเพราะอันอื่นมารวมตัวกัน มันไม่มีสิทธิ์ที่เป็นตัวมันเองเลย ส่วนที่มีสิทธิ์ในตัวเองมันมีตระกูลของมันมีพ่อพันธุ์มีสปีชีส์ของมัน เราก็อาศัยมันได้ มันมีสังขารกับสัญญา มีการกำหนดรู้มีการปรุงแต่ง พืช มันไม่มีเวทนา ไม่มีความรู้สึกสุขทุกข์จองเวรจองกรรมรักชังได้ มันมีแต่ตัวมันเองอันอื่นไม่เกี่ยว เพราะฉะนั้นอันนี้จึงเป็นยอดของศาสนาพุทธ ที่รู้ว่าพืชมันไม่ทำร้ายใคร มันมีแต่ทำตัวเองให้มันอยู่รอด อยู่ได้ก็อยู่ไปอยู่ไม่ได้ก็สลาย มันช่วยตัวมันเองยังไม่ได้ อันอื่นมันก็สลายจนหมดตระกูลพืชก็สูญพันธุ์ไปเยอะแล้ว เพราะฉะนั้นเราก็อาศัยอันนี้ ศาสนาพุทธจึงอาศัยระดับพืชที่ไม่ทุกข์ไม่สุข ในฐานของอริยสัจ นอกนั้นก็คือสิ่งที่ดีและไม่ดี ความทุกข์ความสุขหมดแล้วก็ยังเหลือสิ่งที่มีและไม่มี ดีและไม่ดี โดยเฉพาะคน คนก็ยึดดีถือดีต่างกัน อเมริกายึดถือนี้พอดี เมืองไทยก็เยอะ ถืออันนี้ว่าดี เขาก็ยึดถือของเขา เราก็ยึดถือของเรา ต่างกันได้ ก็ไม่ทะเลาะกัน ต่างคนก็ใช้ของต่างคนไป เราไปใช้ตามคุณ คุณก็เหยียบเอาเองเท่านั้น ไปเอาตามเขาเขาว่าไม่ใช่พวกก็ตื๊บเอาสิ หากคุณจะอยู่กับหมู่ของตัวเองก็ยึดถือกับหมู่ของตัวเอง อิสระก็จบตรงที่ว่าเป็นเทวนิยมกับอเทวนิยม อเทวนิยมอย่างพวกเรา หมดความเป็นทาส อิสระเสรีภาพสมบูรณ์ได้เลย เราเป็นอิสระแล้วก็ไม่ขึ้นกับคุณ เราไม่ขึ้นอยู่กับอำนาจคุณ และคุณก็ไม่มีสิทธิ์ทำอะไรเราได้เลย ที่จะทำอะไรเราไม่ได้เพราะว่าสูงสุดเลย เราไม่มีตัวตน ยิ่งกว่า Invisible Man คุณทำอะไรเราตัวเราไม่ได้ เพราะตัวเราๆไม่ยึดถือว่ามีตัวเรา คุณจะทำอย่างไรก็ทำไปสิ ถ้าคุณมาทำเราโดยรูป คุณมาฆ่าเรา คนอื่นเขาก็รู้เขาก็เห็นเอง ก็ไม่ดีใช่ไหมล่ะ ยิ่งถ้าเราไม่ผิดอะไรเลยคุณมาทำร้ายเรามาฆ่าเรา แล้วเราก็แน่ใจว่าเราไม่ได้ทำร้ายใคร เมื่อเราไม่ทำร้ายใคร ใครมาทำร้ายเรา จบ ใครชั่วใครดี จบแล้ว เรารู้แล้วว่าใครชั่วใครดี คุณที่ไม่ไปทำร้ายเขา กับเขามาทำร้ายเรา ก็จบ เทวนิยมนั้นไม่สูญมีอัตตามันต้องมี ไม่มีไม่ได้ ใครจะไม่มีก็ไม่ได้คุณจะต้องไปอยู่กับอัตตา ตายไปแล้วต้องอยู่กับพระเจ้าหมด พระเจ้าจะสั่งให้ลงนรกขึ้นสวรรค์ก็ได้ จะให้เป็นอะไรพระเจ้าก็สั่งทั้งนั้น พระเจ้าบัญชาหมด ตายก็ได้อยู่ก็ได้ ตายแล้วไม่สูญ เพราะว่า 0 ไม่เป็น 1 ยังทำไม่ไหวเลยอย่าพูดถึง 0 นี่คือรายละเอียด เพราะฉะนั้นเขา 0 ไม่ได้ คุณก็จึงต้องมีนิรันดร คุณเป็น 0 ไม่ได้จึงต้องมีนิรันดร นี่คืออิสระอัตตานิรันดร ศาสนาพุทธนั้นทั้งเป็นอิสระทั้งทำลายอัตตาทำลายนิรันดรได้ด้วย สูญ เลิกทุกอย่างได้ แล้วทำเองได้ด้วย เป็นอิสระ ไม่มีใครมาเป็นใจต่อเรา พระเจ้าก็ห้ามเราไม่ให้สูญไม่ได้ เราทำให้ 0 ได้ เราไม่ได้นิรันดรตามคุณได้ ขออภัยที่พูดนี้ไม่ได้ดูถูกเทวนิยม พุทธทำได้แบบ Nuclear Fission นั้นแบบที่ตรงไปเลยไม่มีการโค้ง แต่เอกภพนั้นมีการโค้ง จะน้อยนิดเท่าไหร่ก็ตาม เขาบอกว่าแสงเดินทางตรง ไอนสไตน์ก็บอกว่าไม่ใช่ อาตมาก็รู้ของอาตมาเหมือนกันว่า แสงไม่มีเดินทางตรง โค้ง แสงเดินทางตรงไม่ได้ ถ้าแสงเดินทางตรงคุณก็ไม่เห็นแสง เพราะมันจะไม่มากระทบกับอะไรเลย แสงมันเดินทางตรงของมัน แล้วคุณก็อยู่ที่นี่ จะเห็นแสงได้อย่างไรแสงมันไม่มีตัวตน แสงมันคือแสง ในขณะที่มันยังมีค่าของแสง ที่หยาบ คุณก็สัมผัสอยู่ตามประสาทของคุณรับได้ เมื่อประสาทของคุณหมดฤทธิ์จะสัมผัสแสงคุณไม่รู้แล้ว ตาคุณไม่ยาวเท่ากับสัตว์บางชนิด ตาของสัตว์บางชนิดเห็นได้ยาวกว่า แสงแม้น้อย มีความเข้มข้นของแสงน้อยสัตว์มันก็ยังเห็นแต่คนไม่เห็น คนเห็นสู้มันไม่ได้ ศาสนาอเทวนิยมจบที่สูงสุดทำให้อัตตา 0ได้ทำให้นิรันดร 0 ได้ เป็นตัวเองมีอิสระเสรีภาพ เพราะฉะนั้นสรุปแล้วปรมาตมันหรือพระเจ้า อธิบายตัวเองไม่ได้ แสดงตัวเองไม่ได้ พระเจ้าแสดงตัวเองกับอันอื่นไม่ได้เลย บอกว่าแสดงกับใคร แสดงกับประกาศก แสดงกับพระบุตร แล้วพระบุตร จริงๆแล้วได้สัมผัสกับพระเจ้ามั้ย..ก็ไม่ใช่ ได้แต่รับคำสอนมา พระบุตรคือประกาศ คือผู้เอาคำสั่งสอนพระเจ้ามาประกาศ Prophet ของเขาก็มีเท่านี้ รออธิบายได้รู้ได้ พระเจ้าของคุณไม่มีตัวตนหรอก ถ้าไม่มีจิตนิยาม สิ่งเหล่านี้อธิบายไม่ได้เลย คนจะอธิบายสิ่งที่มีให้รู้ได้ ศาสนาพุทธอธิบายได้สูงสุด ศาสนาพุทธอธิบายได้สูงสุดอธิบายแม้แต่พระเจ้าได้ แต่คุณอธิบายพระเจ้าของคุณไม่ได้ว่าเป็นอย่างไร พระเจ้าของศาสนาพุทธนั้นคือมีหัวมีแขนมีปัญจสาขา 2 ขา 2 แขน 1 หัว รวมตัวละเอียดเป็นปัญจสาขา เล่ม 15 [803] “รูปนี้เป็นกลละก่อนจากกลละเป็นอัพพุทะจากอัพพุทะเกิดเป็นเปสิ จากเปสิเกิดเป็นฆนะจากฆนะเกิดเป็น 5 ปุ่ม(ปัญจสาขา) กลละ ก หากไม่รู้ว่าคืออะไรคุณก็จบ คุณต้องรู้ว่า กะ คืออะไร ลล คือเศษวรรค เศษวรรคตัวที่ 3 ย ล ร ว ก คือ Static กลล สามเส้าเกิดจุดที่เล็กที่สุด จุดที่เล็กที่สุดสามเส้าคือ จุดแห่งอาโปธาตุ คือ ปรมาณูแห่งปรมาณู จุดเล็กที่สุดแห่งปรมาณูคืออาโป อาโป คือพยัญชนะของ อะ กับปะ มาใช้ อาคือ พหูพจน์ โอคือ ตัวที่ 8 ของสระ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ คือมันเริ่มมี อะ ก็เริ่มมี อา ก็มีมากขึ้น หากเป็น สาม สี่ ห้า เป็นหก เป็น เจ็ด เพิ่มไป เป็นสามเส้า ก็นับเป็น 0 หรือ 10 จะต่อไปอีกนิรันดรก็ได้ สรุปสั้นๆก็เอามาพูดได้แต่ที่ยาวไปไม่ต้องพูดกัน เราเก่งฉิบหายแต่พูดกับคนอื่นไม่รู้เรื่องเลยจะได้อย่างไร ต่อให้ถูกด้วย แล้วก็พูดกับใครไม่รู้เรื่องเลย กลละ ก่อนจะ กลละ เอา กมม ก่อน กมม เป็นตัววรรค ไม่ใช่เศษวรรคอย่าง กลละ กมมคือ กรรม คือตัวต้น ของพยัญชนะ กับตัวท้ายของพยัญชนะ แล้วเอาพยัญชนะตัวท้ายมา มีดร.รินธรรม ปริญญาเอกทางด้านบาลี แล้วก็เรียน ป.โท อีกหลายใบ รวมแล้วมีปริญญาถึง 6 ใบ สิกขมาตุกล้าข้ามฝัน… สิกขมาตุรินฟ้า… สมณะเดินดิน… สมณะแสนดิน… พ่อครูว่า…ต้องขออภัยทางเทวนิยม ที่พูดถึง อิสระ นี้เป็นจุดสำคัญ เป็นพยัญชนะ สระที่สื่อถึงสภาวะ คำว่าอัตตาคือตัวตน เทวนิยม ไม่หมดอัตตาไปได้เพราะว่าอัตตาเขาใหญ่ ถึงขนาดปรมาตมัน เขาไม่สูญ สูญไม่ได้ ใหญ่ยิ่งด้วย เป็นผู้กำหนดทุกอย่างเป็นผู้เป็นผู้มีแต่ผู้เดียว จะให้เป็นอะไรไม่เป็นอะไร แต่จริงๆแล้วเขาไม่กล้าให้เป็น 0 เพราะตัวเขาเองยัง 0 ไม่ได้ พระเจ้ายังศูนย์ไม่ได้ พระเจ้าคือตัวตนที่เป็นอัตตา แล้วเป็นอัตตาที่ไปกับกาละ อัตตานี้เป็นกรรม นิรันดรคือกาละ ระยะเวลา แล้วมีสิ่งหนึ่งไปในเวลานั้นก็คือ อัตตา อัตตาก็เป็น Static กรรมคือ Dynamic เป็นพลังงานสอง พลังงานบวกก็คือ อัตตา พลังงานลบคือกรรม ศาสนาพุทธรวมชัดเจนหมดทุกอย่าง ทั้ง อุตุ พีชะ กรรม กรรมกับธรรมะ กรรมเป็น Dynamic ส่วนธรรมะคือ Static คือแกนคือตัวทรงไว้ ส่วน กรรมคือแรงเคลื่อน เป็นแรงเคลื่อน กระแสสลับกับกระแสตรงก็ได้ กระแสสลับคือ Nuclear Fission กระแสตรงคือ Nuclear Fusion จะเอาแค่กระแสคลื่นก็ยังไม่รวมตัวเป็นวงวนไม่เกิดมวล ยังไม่เกิดสิ่งที่เป็นตัวตนขึ้นมา อย่างอธิบายแค่กระแส กับแรงเคลื่อน หรือ Proton กับ Quantum ภาษาวิทยาศาสตร์เขา เขาก็เถียงกันว่าตัวตนกับควันตัมอันไหนคือคลื่น อันไหนคือ สสาร ถ้าเราเข้าใจสามเส้าชัดเจน อิสระ อัตตา นิรันดร นิรันดร คือกาละ อัตตา คือ ตัว กรรม ศาสนาพุทธมีกรรม กับ กาละ แล้ว ก็เกิดปฏิกิริยาร่วมกันขึ้นมาในปัจจุบันเรียกว่า Continuum เกิดปฏิกิริยาร่วมกันเป็น 3 เส้า สามเส้านี้ กรรมกับกาละ Continuum คือตัวที่จัดการเป็นประธาน ประธานก็คือตัวหลักเป็นอิสระเสรีภาพ นัยยะหนึ่งอิสระก็คืออัตตา อัตตาก็คืออิสระ อัตตาจะเป็นอาตมันหรือปรมาตมัน ใหญ่ขนาดไหนก็ตาม ก็เป็นอิสระ อิสระนี้สามารถ มีสิ่งที่เอามาพูดมาสัมผัสได้ เอามารู้กับคนอื่นได้ คนอื่นร่วมรู้ได้ด้วย เป็นประโยชน์ได้ด้วย พระพุทธเจ้าท่านสรุปลงที่ว่า หนึ่ง ดีและชั่ว เป็นสมมุติสัจจะ, คุณและโทษ เป็นปรมัตถสัจจะ ละเอียดขึ้นหน่อย สรุปอยู่ 4 คำว่า ดีและชั่ว คุณและโทษ คนที่รู้แล้ว ถ้าเอา 2 ตัวมารวมกันก็เป็นคู่ ดีหรือชั่ว คุณและโทษ เพราะฉะนั้นเรารู้แล้วสิ่งที่มีก็พอพูดได้ ดีและชั่วก็สลับกัน ตามที่จะกำหนด ขึ้นกับเหตุปัจจัยขึ้นกับ กาละ ขึ้นกับสังคม อย่างนี้เป็นต้น สังคมกลุ่มนี้ยึดถืออันนี้ว่าดี สังคมอันนี้บอกว่าอันนี้ชั่ว สังคมอโศกบอกว่าดี สังคมอื่นบอกว่าอันนี้ไม่ดี เราก็เข้าใจคุณก็ยึดถือของคุณ พระพุทธเจ้าจึงจบที่ว่าความเห็นของเธอกับความเห็นของเรา มันคนละอย่างก็จบ เราก็รู้แล้วว่ามีสอง ต่างคนต่างแยกกันอยู่เป็นนานาสังวาส ไม่มีปัญหาอะไรควรจะทำของคุณก็ทำไป ร่วมกันก็รวมกันได้ คุณจะมากับเราจะเอาอย่างนั้นอย่างนี้ เราก็ไม่ขัดแย้งกับเรา ถ้าจะเอากับคุณเราก็อนุโลมกับคุณ ถ้าไม่เอากับคุณ เราก็ไม่เอาด้วยเลย ต่างคนต่างทำเท่านั้นเอง การอนุโลมให้คุณท่านจะอนุโลมได้ ก็เคยยอมแพ้ แต่จะเอาชนะ ไม่ยอม เพราะว่าการจะเอาชนะคนอื่นอยู่คืออัตตา จบแล้ว อัตตาคือสภาพนิรันดร อิสระก็อีกสภาพหนึ่ง เทวนิยมหมดไม่ได้ทั้งสามอย่าง เทวนิยม อิสระ หมดไม่ได้ กลายเป็นพระเจ้าเป็นสิ่งที่ไม่รู้มาเป็นนายของเรา แล้วนายอยู่นิรันดรด้วย นายเป็นปรมาตมัน ยอดอัตตา ไม่มีสูญนิรันดรด้วย แต่พุทธสลายหมด ด้วยตัวเองด้วย หมดทั้งกรรมกับกาละ กาลคือนิรันดร กรรมคืออัตตา จบแล้ว พิสูจน์ได้ อย่างทุกวันนี้อาตมาก็ไม่มี อัตตา แล้วอาตมาก็ไม่นิรันดรกับคุณ แล้วอาตมาเป็นอิสระอย่ามายุ่งกับอาตมา สมณะฟ้าไทว่า…สรุปแล้วจะมีอัตตาก็เหมือนไม่มีอัตตา พ่อครูว่า…สรุปแล้วคุณจะทำก็ทำของคุณไป เราก็ไม่ทำกับคุณเท่านั้นเอง แต่เราเองเราทนได้ ถ้าคุณจะมายุ่งกับเรา เราทนได้ อนุโลมให้คุณได้ เราทนได้ ทนไม่ได้สูงสุดก็คือตาย หรือไม่ก็เจ็บ ปวด ทนความเจ็บปวดไม่ไหว ทนพิษบาดแผลไม่ได้ก็ตาย ไม่เห็นมีอะไรเลย ก็มีแต่ตายหรืออยู่ แล้วเราก็ไม่สงสัยว่า ตายเราก็ตายได้ ทนพิษบาดแผลทนพิษความเจ็บปวดไม่ได้ก็ตาย ทนความไม่สมดุล เราก็ต้องตายต้องหยุด แต่จิตของเราเป็นประธานตายก็ตาย แต่ถ้าเรายังไม่ยอมตายเราจะอยู่ต่อไป เพราะเราเป็นนายอัตตา เราอาศัยอัตตาอยู่ ยังไม่สลายอัตตาเป็นปริโยสาน เรายังไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสานเราก็ต้องมีต่อไปเป็นเรื่องของเรา อย่ามายุ่งกับเรา สมณะฟ้าไทว่า…ผู้มีอิสระเสรีภาพสูงสุดไม่มีใครมาจัดการได้ พ่อครูว่า…ศาสนาสูงสุดเขาบอกว่ามีอัตตาเราก็ยอมรับ เรายังไม่ทำลายอัตตานี้เราก็ยอมรับ อัตตาเราเราเอาตามสมมุติ เราเองมีอัตตา แต่เราเองมีอัตตาอย่างไม่เคยมีความเป็นโทษไม่เคยมีความเป็นชั่ว เราอยู่ในโลกเขาว่าชั่วเราก็ไม่เอา เขาว่าอย่างนี้ดีถ้าเราจะอยู่เราก็ทำไปด้วย ถ้าเราไม่ทำก็อยู่เฉยๆ ถ้าเขาจะบังคับเราให้ทำ ก็ได้ ถ้าจำนน เราก็ทำ จำนนก็ทำ ทำได้สูงสุดเราก็จำนน ถ้ามันไม่ถึงก็ตาย อย่างเก่ง เราจะถูกบังคับให้ทำเช่นให้กินยาพิษตายเราจำนนสู้ไม่ได้ ให้กินเราก็ต้องกิน แล้วเราก็ต้องตาย ก็ไม่เป็นไร ตายแล้วเราก็ยังไม่หยุดจะมาเกิดอีกทำไม แล้วมันซ้อนอีกว่า เราเข้าใจกรรมวิบากไม่ได้ทำ ภัยทำชั่วทำอกุศลเลย แม้เขาจะทำให้เราตายก็เป็นอกุศลของเขา เพราะฉะนั้นเราตายไปแล้วมาเกิดอีก เราก็ไม่ดีมีอกุศลอะไรเกิดเหตุมีแต่กุศล คู่สุดท้ายที่ยังมีคือกุศลกับอกุศล คู่สุดท้ายอีกคู่คือบุญกับบาป บุญจบหน้าที่ก็เป็น 0 เท่านั้นเองในสิ่งที่มี ปุญญะคือ 0 ปุญ คือกิริยา ปะคือกิริยา ปัญญาก็เป็นกิริยา เปลี่ยนพลังงาน ก คือ ตัวสภาวะ กะ คือรูป ปะ คือนาม สิ่งเหล่านี้เราจะต้องเข้าใจแล้วค่อยๆรู้ พยัญชนะต่างๆเหล่านี้ ใช้แทนสภาวะอย่างนี้ค่อยๆละเอียดขึ้นมากขึ้นๆ เราก็ใช้สิ่งที่เรารู้นี้มาใช้อยู่กับมนุษย์โลก ให้มันเป็นประโยชน์ให้มันเป็นคุณ อย่าให้เป็นโทษ ให้เป็นประโยชน์อย่าให้เสียประโยชน์ ก็เท่านั้นเอง ประโยชน์คืออะไร ประโยชน์คือสิ่งที่ยังอยู่ ยังควรทำอะไรขึ้นไป ป โย ชนะ คือ ปะ ยะ ชนะ ชนะ คือยอดความรู้กับไม่รู้ ช.ช้าง นี้รู้ จ ฉ ช คือตัวรู้กลาง นะ คือไม่มี มีความรู้สุดท้ายก็ไม่มี ชนะ ปยะ ปโย ป คือตัวกิริยา ย คือเศษวรรค ป คือตัวต้น ย คือเศษวรรค กเป็น Static ป คือ Dynamic ย คือเริ่มต้นของพลังงานที่เป็นเศษวรรค เริ่มต้น อะ ยะ อะ ยะ คืออะไร? หยาบแล้ว ถ้าเป็นเรา อยัง อยะ คือหยาบแล้ว อยะ ที่เป็นรูปธรรมยังไม่เป็นจุดเลย อะยะคือพลังงานแม่เหล็ก อะยะ คือแรงดูด คู่มีอะกับยะ คือพลังงานแม่เหล็ก พอเริ่มต้นมีแรงดูด อะยะ ก็เริ่มต้นขยายเละเลย อะยะรั่วก็พัวก็พัน เกิดขึ้นเลย นิรันดร ในระหว่างของกาลเวลาไม่มี กาละต้องมีระยะทาง นิระ แปลว่าไม่มี ไม่มีคือพยัญชนะบอก 0 ถ้าหนึ่งจุดสองจุดไม่มีคือ 0 ตัว 0 คือวงกลม วงกลมก็คือจุดเริ่มต้นกับจุดปลาย มาชนกัน สุดท้ายซ้อนกันคือจุด จุดเดินมาปั๊บ มันก็มาทับกัน วงกลมต้องได้องศา ถ้าไม่กลมก็เป็นอุกาบาต ที่นี้พูดกันไม่รู้เรื่องเลย เละเลย มันต้องเป็นระเบียบ ผู้ที่ไม่เป็นระเบียบนี้ต่อไม่ได้เป็นอุกกาบาตจะไปอยู่วงโคจรไหน จะไปเส้นวงโคจรไหนจะไปอยู่ในดาวดวงไหน คุณก็เป็นอุกกาบาตชนิดหนึ่ง ในดาวดวงนั้น แต่ถ้าคุณไม่ยอมอยู่ในดาวดวงไหน คุณก็แกว่งไปแกว่งมา กระทบไปกระทบมา ก็ต้องถูกดีดออกทั้งนั้น ถูกดาวเตะออกไปตรงนั้นตรงนี้ อยากเป็นอุกกาบาตก็เชิญ อิสระไหม อิสระที่ถูกเตะ ไม่เช่นนั้นคุณก็อยู่ไม่ได้ เพราะอยู่ในมหาเอกภพนี้ก็ต้องอยู่แบบนี้ คุณไม่อยู่กับดาวดวงใดก็ถูกเตะไปเตะมา คุณต้องมายอมอยู่กับดาวดวงใดดวงหนึ่ง หากอยู่กับเขาไม่ได้ก็ถูกเตะออกมา ไปรวมกับเขาไม่ได้ ดาวดวงนี้ก็เตะออกมา ดาวดวงนี้ก็เตะออกมา มันยิ่งกว่าลูกฟุตบอล เตะไปเตะมาก็เอา ลูกฟุตบอลต้องเอาลูกที่กลม ถึงได้เตะแล้วมันจะได้กลิ้งไปในทิศทางที่ควบคุมได้ ถ้าเป็นลูกที่บิดเบี้ยว เป็นตะปุ่มตะป่ำ ไม่ได้เหลี่ยมมุมด้วย รับรองว่านักฟุตบอลเล่นไม่ได้ คุมทิศทางไม่ได้ จริง ลูกฟุตบอลอย่างดีเลยไม่มีมนเลย มีแต่เหลี่ยมเต็มไปหมดเขาไม่ซื้อมาใช้หรอกลูกฟุตบอลนั้น ก็ได้รู้อะไรเพิ่มขึ้น นิระ กับ อันตระ เส้นวงกลมคือ จุดเริ่มต้นกับจุดปลาย วงกลมที่เล็กที่สุดคือจุดที่ซ้อนระหว่างต้นกับปลาย เป็น 2 แต่ถ้าคุณไม่เป็นสองเป็นหนึ่งเลยคุณก็ศูนย์ ไม่มีต้นไม่มีปลายก็เป็นศูนย์ หาที่ต้นที่ปลายไม่เจอ คุณก็สูญ นิระ ไม่มีระหว่างอะไรเลยก็ 0 แต่นิรันดรคุณไม่รู้จักจบไม่สูญเลยตรงกันข้ามกัน นี่คือ สมมุติกับปรมัตถ์ ปรมัตถ์จะรู้ศูนย์ ก็จบ แต่คุณรู้แต่สมมุติไม่รู้จักปรมัตถ์ก็ไม่มีวันจบ นิรันดร คืออัตตา อัตตาคือตัวตั้ง ต้องเอาเศษวรรคตัวต้นเลย คือ ตต คือ ตด คือลม คือจบ สมณะฟ้าไทว่า…แสดงว่าใครมีอัตตาแปลว่ามีลมตดเยอะ Category: ศาสนาBy Samanasandin17 สิงหาคม 2018Tags: พ่อครูสมณะโพธิรักษ์พุทธศาสนาตามภูมิ Author: Samanasandin https://boonniyom.net Post navigationPreviousPrevious post:วรรณะ 9NextNext post:610817บันทึกผ่านเลนส์ ส่องโพธิกิจ….โพธิกิจของพระโพธิสัตว์เป็นไปเพื่อมวลมนุษยชาติทั้งสิ้นด้วยสัจจะRelated Posts150401 จะพึ่งอะไรดี-พ่อท่าน-วัดมหาธาตุ28 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 2-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง7 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 1-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง4 พฤษภาคม 2024670224 พ่อครูเทศน์เวียนธรรมมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 48 ราชธานีอโศก24 กุมภาพันธ์ 2024670126 ตอบปัญหาเพื่อละอวิชชา 8 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก26 มกราคม 2024670117 ปฏิจจสมุปบาท ตอน 4 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก17 มกราคม 2024