บันทึกผ่านเลนส์ ส่องโพธิกิจ…โยคะ ดูร้านใหม่สหกรณ์บุญนิยม
วันอังคารที่ 21 สิงหาคม 2561
เมื่อคืนพ่อครูเข้ามาจำวัดภายในห้องทำงาน เพราะด้านนอกยังคงมีกลิ่นน้ำมันก๊าดจากการลงเทียนโบสถ์อยู่เล็กน้อย
6 นาฬิกาเป็นเวลาปกติที่พ่อครูตื่นนอนยามเช้า แล้วออกกำลังกายบริหารร่างกายทั้ง 4 ท่าโดยมีท่าวิดพื้นคั่นในแต่ละท่ากายบริหารที่พ่อครูจะวิดพื้นจำนวน13 ครั้ง 4 เซต รวมแล้วจะวิดพื้นได้ 52 ครั้ง ถ้าทำต่อเนื่องจะไม่หนักมากเกินไปสำหรับพ่อครู
หลังจากออกกำลังกายเสร็จแล้ว พ่อครูก็จะมาเช็ดหน้าเช็ดตา ฉันน้ำปัสสาวะอุ่นและนั่งสนทนากับท่านปัจฉาสมณะตามปกติ พร้อมทั้งอ่านหนังสือพิมพ์ประจำวันไปด้วย ซึ่งอากาศวันนี้เริ่มมีแดด ไม่ชื้นมาก อากาศปลอดโปร่งกำลังสบาย
ที่สวนสวรรค์ขยันยิ่ง ต้นทองอโศกเริ่มออกดอกเหลืองบานสะพรั่ง พ่อครูบอกว่าอีกไม่นานรอให้ฝนซาหรือแห้งกว่านี้ ยิ่งจะเห็นดอกสีเหลืองเรืองรองของต้นทองอโศกมากกว่านี้
เวลา 7.10 นาทีพ่อครูหลังจากเข้าห้องน้ำมาชั่งน้ำหนักได้ 49.2 กิโลกรัมก่อนที่จะเตรียมตัวออกกำลังกายโยคะโดยมีท่านปัจฉาสมณะดินไทและท่านปัจฉาสมณะหนักแน่นออกกำลังกายพร้อมกันกับพ่อครู
ซึ่งในแต่ละท่ากายบริหารจะเป็นการผสมผสานของท่าโยคะหลายๆรูปแบบอย่างเช่นถ้าเลียนแบบสัตว์ต่างๆ เช่นท่าแมว จะมีประโยชน์อย่างมากต่อข้อกระดูกสันหลังและลำตัว ซึ่งปกติจะทำควบคู่กับท่าวัว หรือท่าเต่าเป็นท่าที่ช่วยยืดเหยียดหัวไหล่และเส้นใต้ขา ท่าอูฐซึ่งเป็นท่าที่ช่วยเรื่องโครงหลังเป็นการยืดที่ดีสำหรับร่างกายโดยเฉพาะอย่างยิ่งลำคอ หน้าอก หน้าท้อง สะโพกและต้นขา
รวมถึงท่าที่ช่วยยืดหัวไหล่ หลังกระดูกสันหลัง ขาหนีบ เอ็นร้อยหวาย และกล้ามเนื้อ hamstringช่วยกระตุ้นการทำงานของตับและไต บรรเทาอาการเหนื่อยล้าเวียนศีรษะ ยังมีอีกหลายท่าโยคะ ที่พ่อครูผสมผสานเพื่อให้เหมาะสมกับร่างกายพ่อครู เป็นชุดบริหารร่างกายแบบโยคะในสไตล์พ่อครูสมณะโพธิรักษ์
ซึ่งพ่อครูบริหารร่างกายแบบโยคะชุดนี้มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว เราจะสังเกตเห็นได้จากกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นความยืดหยุ่นต่างๆของพ่อครู ค่อนข้างสมดุลมีความสมบูรณ์มากกว่าคนอายุ 85 ปีหลายๆคน เนื่องด้วยพ่อครูออกกำลังกายในหลายรูปแบบ การบริหารร่างกายแบบโยคะเป็นหนึ่งในการออกกำลังกาย ที่ช่วยให้พ่อครูมีสุขภาพร่างกาย ที่แข็งแรงและยังช่วยในเรื่องเดินลมปรานของลมหายใจ พร้อมกับทำเจโตสมถะได้เป็นอย่างดี พ่อครูบริหารร่างกายแบบโยคะใช้เวลาประมาณ 35 นาทีรวมกับท่าสุดท้ายคือท่าศพ ที่ถือว่าเป็นท่าที่ผ่อนคลายที่สุดและได้พัก ทั้งร่างกายและจิตใจ
เวลาประมาณ 11.10 นาที พ่อครูลงมาฉันภัตตาหาร ที่ชั้นล่างเฮือนสูญ พร้อมท่านปัจฉาดินไทที่ มาช่วยเปิดสำรับอาหารถวายพ่อครู หลังจากพ่อครูปัจจเวกขณ์พิจารณาอาหารเสร็จ ได้ฉันน้ำผักชนิดเข้มข้นซึ่งใส่มาในกระปุกขนาดเล็กก่อนเป็นลำดับแรกและครั้งแรกของภัตตาหารมื้อนี้ รวมทั้งอ่านหนังสือพิมพ์ 2 ฉบับไปด้วย โดยมีท่านปัจฉาดินไทและท่านปัจฉาหนักแน่นฉันภัตตาหารพร้อมกับพ่อครู
เวลา 12.30 นาทีหลังจากพ่อครูฉันภัตตาหารเสร็จก็ยังคงอ่านหนังสือพิมพ์ต่อเล็กน้อย ก่อนที่เวลา 13.09 นาทีจะลุกออกจากโต๊ะฉันภัตตาหาร เดินออกมาเห็นถาดใส่มันเทศของคุณแอ๊ด ปลุกดินที่พยายามจะปลูกมันและถั่วในพื้นที่ว่างของราชธานีอโศก พ่อครูเดินมาขึ้นรถตู้ที่คุณโต้ง ค้ำฟ้า ที่มาจอดรอรับพ่อครู หน้าเฮือนศูนย์สูญ เพื่อไปดูร้านของสหกรณ์บุญนิยมที่อำเภอวารินฯ โดยมีช่างคณิต ไทเทิดธรรมร่วมเดินทางไปด้วย รถขับไปที่หมู่บ้านคำกลาง เพื่อไปรับศิลปินปูนปั้นชาวอโศก อาเปีย พลังจิตกับคุณหม่อง พลังกายที่ร้านซดชื่น ซึ่งเป็นร้านของครอบครัวคชสารทอง มีพี่สาวคนโตคุณอี๊ดดูแลที่ร้าน พอรถมาจอดที่หน้าร้านก็ได้เข้ามากราบนมัสการพ่อครูทักทายกันนิดหน่อย ก่อนที่พ่อครูจะไปที่อุทยานบุญนิยม อำเภอเมือง พอไปถึงผู้อายุยาวที่ช่วยงานอยู่ได้เข้ามากราบนมัสการพ่อครู ท่านเดินมาด้านหน้าผ่านตลาดของเครือข่ายกสิกรรมไร้สารพิษซึ่งวันนี้ไม่ได้เป็นวันจำหน่าย มีเพียงร้านแว่นตาที่มาให้บริการตรวจวัดสายตาและตัดแว่นในราคาบุญนิยม ทีมงานหน้าร้านจำหน่ายอาหารมังสวิรัติและการเงิน ได้เข้ามากราบนมัสการพ่อครู ท่านหยิบถุงสละที่บรรจุถุงละ 1 กิโลกรัมจำหน่ายกิโลกรัมละ 50 บาท อาลานนาเรียนพ่อครูว่าสละไร้สารพิษอย่างนี้ ขายกิโลกรัมละ 50 บาทถือว่าถูกมากและหาซื้อได้ยาก มีทั้งสละที่ยังไม่ปอกเปลือกและสละที่ปอกเปลือกแล้วมาบริการลูกค้าทั้ง 2 แบบในราคาบุญนิยมซึ่งเป็นสละไร้สารพิษจากสวนดร.ชิตตะวันและสวนโดมที่เป็นสวนเครือแหกสิกรรมไร้สารพิษของบวรราชธานีอโศกที่ปลูกเพื่อนำผลผลิตเข้าวัด มอบให้ชุมชนบริหารจัดการทั้งรับประทานกันในชุมชนและจำหน่ายในร้านค้าของชุมชนทั้ง อุทยานบุญนิยมและสหกรณ์บุญนิยม
พ่อครูเดินมาหลังร้านสนใจต้นประยงค์ที่กำลังออกดอกสีเหลืองเต็มต้นพร้อมลูกสีแดงส่งกลิ่นหอมอ่อนๆในยามบ่าย พร้อมทั้งต้นไม้น้ำที่ไม่ทราบชื่อแต่เป็นพืชน้ำในบ่อมีใบแข็งแรงเขียวสดงดงามดี
เวลาประมาณบ่าย 2 โมงพ่อครูเดินทางมาถึงร้านใหม่ของสหกรณ์บุญนิยม ที่ตั้งอยู่ตรงสามแยกตลาดวารินฯคิวรถไปพิบูลมังสาหาร ซึ่งอยู่ริมถนนมองเห็นเด่นชัดเพราะมีป้ายหน้าร้านตัวโตเขียนว่าบุญนิยมบนพื้นสีน้ำตาล พอไปถึงอากอล์ฟ เต็มป่าที่เป็นผู้ดูแลสหกรณ์บุญนิยมพร้อมกับน้องเติมเต็ม บุตรชายคนเล็ก อาทนายรินไทและอาปานรุ้งเข้ามากราบนมัสการนำเรียนพ่อครูถึงการเร่งงานก่อสร้างเพื่อให้ทันเปิดดำเนินการในช่วงเทศกาลงานเจที่จะถึงนี้ อากอล์ฟเรียนพ่อครูว่าตั้งใจจะทำป้ายให้เห็นเด่นชัดว่าชื่อร้านบุญนิยมโดยมีคำว่าสหกรณ์ ตัวเล็กอยู่ด้านบน พวกเราเลยนิมนต์พ่อครูไปชมที่ถนนฝั่งตรงข้าม จึงมองเห็นป้ายหน้าร้านตัวอักษรบุญนิยมสีทองเด่นชัดบนพื้นสีน้ำตาลจริงๆ มีคำว่าสหกรณ์อยู่ด้านบนแต่ตัวเล็กกว่า ซึ่งตัวอักษรก็ใช้ font อโศกเพราะเป็นอัตลักษณ์ของชาวบุญนิยมอยู่แล้ว
พ่อครูยืนชมอยู่ข้างตลาดวารินสักครู่ก่อนที่จะข้ามถนนกลับมาชมภายในของร้านใหม่สหกรณ์บุญนิยมโดยมีอากอล์ฟและน้องเติมเต็มนำทางพ่อครูไปในส่วนต่างๆ
ชั้น 1 จะเป็นร้านขายของแห้งซึ่งกำลังทำชั้นวางที่แข็งแรงมาก ด้านหลังจะเป็น Store ที่เก็บของและแพ็คของเพื่อจำหน่ายหน้าร้าน พ่อครูขึ้นไปที่ชั้น 3 บนสุดเป็นชั้นพักของทีมงานสหกรณ์บุญนิยม ซึ่งจะมีระเบียงดาดฟ้าเล็กน้อย สำหรับไว้ตากผ้า การส่งของจากชั้น 1 ไปชั้น 2 และชั้น 3 จะมีช่องสำหรับทำลิฟต์ส่งของแบบง่ายไว้อำนวยความสะดวกด้วย พ่อครูลงมาที่ชั้น 2 สังเกตเห็นบันไดมีขั้นที่สะดุดเกรงจะเกิดอันตราย อากอล์ฟเรียนพ่อครูว่าจะทำประตูมากั้นทางขึ้นบริเวณนี้ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้ติดตั้งประตู ไม่ได้เป็นขั้นบันไดอย่างที่เห็นขณะนี้ พ่อครูเดินมาบริเวณชั้น 2 ซึ่งด้านหลัง จะเป็นครัวมีช่องวางเตาแก๊สไว้รองรับหลายหัวเตาพร้อมทั้งสถานที่เตรียมอาหารและทำอาหาร พ่อครูเดินไปหน้าร้านก็มีบริเวณสำหรับวางอาหารสำหรับขายแล้วอย่างถาวรแข็งแรงมาก ซึ่งลูกค้าสามารถขึ้นบันไดมาชั้น 2 ได้จากด้านหน้าของชั้นหนึ่งได้เลย เป็นความสะดวกลงตัวที่คุณกอล์ฟ เต็มป่าและทีมงานใส่ใจในทุกรายละเอียดของงานก่อสร้างโดยเฉพาะชั้น 2 ไม่ได้ติดเครื่องปรับอากาศแต่ก็มีลมเย็นอยู่ตลอดเวลา เพราะเปิดช่องลมต่างๆเพื่อให้ลมมีการพัดระบายเข้าออกได้อย่างสะดวก โดยที่ไม่ต้องติดเครื่องปรับอากาศ
พ่อครูลองเดินลงบันไดจากชั้น 2 ลงมาชั้น 1 ซึ่งก็จะเห็นว่าเป็นบันไดที่พอเข้าร้านแล้วจะอยู่ซ้ายมือเลย เพื่อขึ้นไปรับประทานอาหารมังสวิรัติ ถ้าตรงไปก็จะเป็นร้านจำหน่ายของแห้ง ซึ่งจะเป็นร้านใหม่ของสหกรณ์บุญนิยม ที่มีความสะดวกสบายสำหรับลูกค้ามากขึ้น ซึ่งศิลปินชาวอโศกทั้ง 3 ท่าน คุณเปีย คุณหม่องและช่างคณิตก็ได้มาดูสถานที่เพื่อเตรียมตกแต่งหน้าร้านที่เป็นอัตลักษณ์ของชาวอโศกหลังจากที่การก่อสร้างจะดำเนินแล้วเสร็จ เพื่อให้ทันเทศกาลงานเจที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 9 ตุลาคม 2561ยังเหลือเวลาอีกประมาณเพียงเดือนกว่าเท่านั้น
เวลาประมาณ 14.15 นาที พ่อครูจึงเดินทางกลับบวรราชธานีอโศก แวะส่งอาเปียออาหม่องที่ร้านซดชื่น เมื่อเข้ามาถึงราชธานีอโศกได้แวะดูงานก่อสร้างถนนคอนกรีตข้างโรงปุ๋ย เพิ่งเทคอนกรีตและกำลังขัดหน้าคอนกรีต ผ่านมาทางด้านหน้าน้ำตกผาแหงน ทีมช่างกำลังยกองค์พระปางอภัยขึ้นประดิษฐานด้านหน้าโขดหิน พ่อครูเห็นด้านหลังที่ยังเปลือยและโล่งอยู่จึงมีดำริให้อาเปียและอาหม่องมาช่วยปั้นปูนต่อเป็นก้อนหินเพื่อให้องค์พระด้านหลังเต็มมีความสมบูรณ์แบบมากกว่านี้
เวลา 14.40 นาทีรถมาส่งพ่อครูที่ด้านหน้าสถาบันขยะวิทยาด้วยหัวใจก็ยังผ่านต้นประยงค์ซึ่งมีลักษณะเฉพาะตัวโดยมีคุณสมบัติที่น่าสนใจดังนี้….
ประโยชน์ประยงค์
- ประยงค์มีใบดกเขียว มีดอกสีเหลืองออกเป็นช่อ และบานจะส่งกลิ่นหอมแรง จึงนิยมปลูกเพื่อเป็นไม้ดอกไม้ประดับ
- ดอกประยงค์มีกลิ่นหอม นิยมใช้อบเสื้อผ้าหรือใช้ผสมในการหุงข้าว ซึ่งช่วยให้ผ้าหรือข้าวหุงมีกลิ่นหอมขึ้น
- ดอกประยงนำมาสกัดน้ำมันหอมระเหยสำหรับเป็นส่วนผสมของน้ำหอม หรือ ใช้ทานวดบนฃรรเทาอาการปวดเมื่อย
- ประยงค์มีลำต้นเตี้ย ใบดก ทรงพุ่มหนา จึงนิยมปลูกเพื่อเป็นไม้ให้ร่มเงา
- ดอกบานสดหรือดอกแห้ง ใช้วางในห้องนอน ห้องน้ำสำหรับปรับกลิ่นให้หอม ช่วยดับกลิ่นเหม็นของกลิ่นต่างๆ
- สารสกัดหรือน้ำต้มจากใบประยงค์ใช้รดแปลงผัก ช่วยป้องกันแมลงศัตรูพืช ซึ่งมีสาร rocaglamide ที่สามารถออกฤทธิ์ป้องกันการกัดกินของแมลงได้ โดยเฉพาะหนอนกระทู้ชนิดต่างๆ
- สารสกัดจากใบ และดอก ใช้ยับยั้งการงอกของเมล็ดพันธุ์พืชบางชนิดได้
ก่อนที่พ่อครูจะเดินผ่านเวทีธรรมชาติเดิม ท่านบอกว่าเดินผ่านต้นไทรดีกว่าเพราะมีรากที่ย้อยลงมางดงามดี ก่อนที่จะขึ้นลิฟท์มาลงที่ชั้น 4 เดินผ่านสวนสวรรค์ขยันยิ่ง ต้นทองอโศกออกดอกเป็นพุ่มเหลืองสวยงาม สว่างมาก
กลับเข้ามาห้องทำงาน ท่านปัจฉาดินไทนำผ้าและน้ำมาถวายพ่อครูเช็ดหน้าก่อนที่พ่อครูจะอ่านหนังสือพิมพ์และนิตยสารรายปักษ์ต่อ
ท่านให้ความสนใจในคอลัมน์เกี่ยวกับการเมือง ซึ่งอีกไม่ถึง 5 เดือนตามกำหนดเดิมจะมีการเลือกตั้ง ตามข่าวมีนักเลือกตั้งหลายคนออกมาเคลื่อนไหว เพื่อเป็นข่าวหลายคน หลายรูปแบบ เป็นการโลกวิทู ซึ่งพ่อครูเป็นผู้ให้ความสนใจในทุกศาสตร์ที่เป็นความรู้ทางโลก ดูได้จากการอ่านหนังสือพิมพ์ที่พ่อครูจะอ่านแทบทุกเรื่องแม้กระทั่งข่าวบันเทิง ข่าวกีฬาหรือโฆษณาพ่อครูก็ยังสนใจในบางครั้งด้วย
ในเรื่องของการเมืองเป็นสิ่งที่พ่อครูให้ความสนใจมาโดยตลอด ซึ่งพ่อครูได้แสดงธรรมไว้ในเรื่องนี้บางส่วนของรายการเทศน์ก่อนฉันวันเข้าพรรษาที่บวรศีรษะอโศกวันพุธที่ 20 กรกฎาคม 2559 ไว้ว่า…
ในสังคมไทย ณ ลมหายใจเฮือกนี้ ทั้งทางด้านการเมืองและการศาสนา
เขาใช้คำว่าการเมืองเป็นเรื่องของการแสวงหาอำนาจ อาตมาก็ขอแย้งว่าไม่ใช่ ก็เพราะว่าไปเข้าใจว่าการเมืองเป็นเรื่องของการแสวงหาอำนาจก็เลยฉิบหาย
การเมืองเป็นเรื่องความดีงาม ความประเสริฐ เป็นเรื่องดีงามทั้งหมดเลย คนที่สามารถประพฤติตน เป็นคนมีคุณค่า ประเสริฐ หมดความเห็นแก่ตัว หมดกิเลส ของศาสนาพุทธนั้น หมดกิเลสอย่างไม่มีตัวตน แต่เรายังมีตัวตน ตัวเราก็เลยกลายเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์แก่มวลมนุษยชาติ มีความสามารถมีปัญญาที่ลึกซึ้งรอบรู้ โลกุตระ(เหนือโลก) โลกวิทู(รู้ทันโลก) โลกานุกัมปายะ(เกื้อกูลอนุเคราะห์โลก)
ผู้ที่มีความดีงามอย่างนั้น จึงไม่ต้องอาศัยอำนาจอะไรเลย คนจะเคารพบูชายกย่องเชิดชูเชื่อถือสุดหัวใจ ทุกคนจะยกให้มีทั้งความรู้ มีทั้งความบริสุทธิ์ใจ มีทั้งความมีน้ำใจ มีทั้งความเสียสละทุกอย่างมีครบอยู่ในนั้นหมดเลย จึงเป็นคนเต็มไปด้วยอำนาจ แต่ไม่เบ่งอำนาจ มีคนยกให้เต็มไปหมด ถ้าบอกว่านักการเมืองคือผู้แสวงหาอำนาจอันนี้ผิด 100% นักการเมืองที่แท้จริงไม่ต้องขอร้องไม่ต้องหว่านล้อมไม่ต้องหาเสียง เพียงเป็นผู้ที่ทำดีที่สุดเป็นผู้มีน้ำใจรับใช้มวลมนุษยชาติให้จริงที่สุดได้นั่นแหละคือสุดยอด ..