บันทึกผ่านเลนส์ ส่องโพธิกิจ…ชาวอังกฤษมาเรียนรู้ชีวิตชาวบุญนิยม
วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม 2561
วันนี้พ่อครูลงมาฉันภัตตาหารที่ชั้นล่างฮือนสูญ พร้อมกับท่านปัจฉาดินไทเวลาประมาณ 11.00 น.พร้อมกับอ่านหนังสือพิมพ์ประจำวัน 2 ฉบับเช่นเคย หลังฉันภัตตาหารเสร็จ ได้ออกมาเดินย่อยอาหารที่ลานสะโพ มองไปที่ต้นหญ้าใบเรียวแกนสีเขียวขอบใบสีม่วง พวกเรายังคงหาคำตอบไม่ได้ถึงหญ้าพันธุ์ที่พ่อครูถามเมื่อวานนี้ว่ามีชื่ออย่างไร พ่อครูเดินมาด้านหน้าป้ายบวรราชธานีอโศกแวะดูรูปหล่อองค์พระปางอภัย พ่อครูดำริว่าให้ปั้นหินเท่าองค์พระขึ้นมาซ้อนด้านหลังให้มีลักษณะเหมือนองค์พระหลุดออกมาจากหินเลย
ก่อนที่จะเดินขึ้นมาอาคารบวร เห็นพ่อหินเข้มกำลังเช็ดรถสัญญาตะวัน พ่อหินเข้มรายงานพ่อครูว่ารถเพิ่งจะซ่อมเสร็จเมื่อสักครู่ ขอเวลาเช็ดฝุ่นที่รถก่อน รบกวนพ่อครูรอสักครู่ พ่อครูจึงเดินไปหน้าอาคารบวรดูโมเดลพญาแร้งที่กำลังมีการตัดแต่งโฟมโมเดล เพื่อให้ได้สัดส่วน อาแสงศิลป์ เดือนหงาย ศิลปินผู้ออกแบบพญาแร้งเข้ามากราบนมัสการพ่อครู จากนั้นพ่อครูกลับมาขึ้นรถสัญญาตะวัน เด็กชายเวียงเด็กชายวัง พาน้องโนอาห์ลูกชายน้องเล็กเข้ามากราบนมัสการหลวงปู่และพากันไปเล่นภายในอาคารบวร
รถสัญญาตะวันพาพ่อครูผ่านน้ำตกหินน้ำไหล มีรถมาจอดเล่นน้ำตกอยู่ 1 คัน ต้นยางริมถนนกำลังเติบโตแข็งแรงสมบูรณ์เป็นทิวแถว พ่อครูสังเกตถนนป๊อดแป๊ด ที่ยังคงมีความแฉะและลื่นอยู่เพราะฝนตกลงมาตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา รถตรงไปที่ลานเบิ่งฟ้า ระหว่างทางถนนที่เป็นดินมีความแฉะและค่อนข้างลื่น อาว่างเปล่าขี่จักรยานผ่านมานมัสการพ่อครู กำลังจะไปทำสวนเกาะแก้วที่ท่านหนักแน่นกำลังจะปรับภูมิทัศน์หน้าอุทยานไม้ตาย
พ่อครูไปถึงลานเบิ่งฟ้า อาไม้ร่ม ธรรมชาติอโศก กำลังมาหาวัสดุทำป้ายต่างๆภายในชุมชน พ่อครูจะแวะมาดูเครื่องสูบน้ำที่ใช้สำหรับสูบน้ำมาที่ลานสะโพว่ามีการซ่อมแซมหรือยัง เพราะไม่ได้เปิดน้ำบริเวณหน้าองค์พระมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว ก็ไม่พบใครเห็นแต่เครื่องสูบน้ำวางไว้ รถขับผ่านดงตาลที่มีความอุดมสมบูรณ์มาก มาที่เฮือนสุดชีวิตซึ่งกำลังทำบันไดและวางพื้นชั้นบนของเรือ ท่านปัจฉาดำริว่าถึงช่วงงานเรือลำนี้สามารถเป็นที่พักฝ่ายชายได้หลายคนทั้งชั้นบนและชั้นล่างท้องเรือ
รถสัญญาตะวันผ่านมาที่ป่าอนุรักษ์ซึ่งหลายสัปดาห์ไม่สามารถผ่านได้เพราะน้ำท่วมเชื่อมสองฝั่ง มาวันนี้น้ำเริ่มลดแต่ว่ายังคงมีต้นไมยราพยักษ์(ทักษิณ)ลุกลามมาถึงถนน จนพ่อครูและท่านปัจฉาต้องคอยหลบหนามต้นไมยราพยักษ์ ที่นาข้างทางก็ยังมีน้ำขังหลายพื้นที่
รถสัญญาตะวันเลี้ยวขวาเข้ามาภายในหมู่บ้าน รถวิ่งมาตามถนนตรงกลางสังเกตเห็นนาข้าวลอยที่ปลูกข้าวพันธุ์ขาวบ้านนา พวกเราเคยได้ลุ้นว่าจะรอดหรือไม่ มาวันนี้มองไปแล้วจะเห็นข้าวมีความสมบูรณ์แข็งแรงขึ้นมาก น้ำก็ไม่ได้ท่วมมากปริมาณน้ำกำลังเหมาะสมกับความต้องการของข้าว ทำให้ต้นข้าวอุดมสมบูรณ์มากขับไปสักครู่ได้กลิ่นหอมของดอกไม้มองไปด้านซ้ายมือมีต้นข้าวซึ่งอยู่เขียวขจีรวมถึงดอกกระถินณรงค์ที่ออกดอกสีเหลืองเต็มต้นส่งกลิ่นหอมอบอวลไปไกล
รถผ่านมาหน้าบ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเห็นต้นอ้อยที่ลำต้นอวบโตยื่นออกมาถึงถนน พ่อครูเย้าว่าต้นอ้อยเติบโตท้าทายมากไม่กลัวคนจะมาตัดไปรับประทานเลย รถผ่านรีสอร์ทเรือซึ่งกำลังทำฐานสโตนเฮ้าส์ ไว้สำหรับวางเรือที่กำลังซ่อมแซมอยู่สังเกตฝั่งตรงข้ามมีควายหลายตัวกำลังเล็มหญ้ามีรูปร่างอ้วนท้วนสมบูรณ์มาก ปากก็ยังเคี้ยวหญ้าอยู่เลย รถสัญญาตะวันพาพ่อครูมาหน้าโรงปุ๋ยพลังชีวิต ซึ่งกำลังมีการวัดพื้นที่เพื่อเตรียมจะทำถนนจากถนนคอนกรีตที่เทเสร็จแล้ว ตรงไปด้านหน้าโรงปุ๋ยพลังชีวิตจำนวน 130 เมตร พ่อครูมาภายในโรงปุ๋ย มีรถสิบล้อกำลังจะขึ้นปุ๋ย พ่อครูไม่รีรอลงไปจับรถเข็นเตรียมเข็นปุ๋ยขึ้นรถทันทีเป็นชุดแรก มีท่านสิกขมาตุและญาติธรรมบางส่วนรวมทั้งชาวต่างประเทศอีกคนหนึ่ง มารอช่วยอยู่แล้ว ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ได้เข็นและยกขึ้นรถสิบล้อพ่วงหัวแม่ไปแล้วจำนวน 14 ตันขนาด 50 กิโลกรัม พ่วงลูกกำลังเข็นปุ๋ยขึ้นไปอีกใส่ปุ๋ยขนาด 25 กิโลกรัมจำนวน 18 ตัน พ่อครูพร้อมคณะท่านปัจฉาได้ช่วยเข็นปุ๋ยโดยใส่ปุ๋ยกระสอบละ 25 กิโลกรัมคันละ 5 กระสอบ ซึ่งไม่หนักมากจนครบจำนวน
ท่านสมณะถักบุญยังมาจับที่กล้ามเนื้อต้นแขนพ่อครู พ่อครูบอกว่ายังแข็งแรงดีไม่เหนื่อย จากนั้นพ่อครูล้างมือแล้วนั่งรถสัญญาตะวันกลับมาทางอาคารบวร ผ่านป่ากล้วยขึ้นมาที่อาคารบวร พบพระดาบดินเข้ามากราบนมัสการเรียนพ่อครูว่ามาจากศีรษะอโศกเพื่อมารักษาฟันกับหมอโชติ มองไปที่อาคารบวรเห็นเด็กชายเวียง เด็กชายวังซึ่งปิดเทอม แต่ก็ยังคงเล่นภายในอาคารบวร เสมือนเป็นบ้านหลังใหญ่ที่เขาได้ใช้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด อีกฝั่งหนึ่งลุงแขก ธาตุดิน กำลังสอนนักเรียนอาชีวะในการทำเกษตรแบบอินทรีย์พึ่งตนเอง รถกลับเข้ามาหน้าลานสะโพ ศิษย์เก่าโต่ยและชาวต่างชาติที่มาเรียนรู้วิถีชีวิตชาวอโศก นมัสการทักทายพ่อครู รถสัญญาตะวันผ่านมาด้านหลังพระพุทธโต ผ่านบริเวณสวนเกาะแก้วที่ท่านหนักแน่นดูแลอยู่มีการปรับพื้นที่โล่งโปร่งมากยิ่งขึ้น รถสัญญาตะวันมาหยุดที่หน้าลิฟท์เพื่อส่งปุ๋ยขึ้นไปชั้น 4 และบางส่วนนำปุ๋ยมาใส่ต้นไม้ที่เกาะแก้ว พ่อครูกลับขึ้นชั้น 4เขียนหนังสือธรรมะและเตรียมแสดงธรรมในช่วงเย็นในรายการพุทธศาสนาตามภูมิต่อไป…
เมื่อวานนี้ในรายการสำมะปี๋ซี่วิต มีพวกเราบอกว่า ธรรมะของพ่อครูไปไกล คนไทยไม่สนใจ แต่ชาวต่างชาติที่เขาแสวงหาและเข้าใจได้ ก็จะมา วันนี้เราจึงได้เห็น แม้สื่อภาษากันยาก แต่จากการมาใช้ชีวิตในชุมชนถึง 10 วัน คงจะเรียนรู้ได้จากการปฏิบัติไปไม่น้อยเลยทีเดียว
…ส่องผ่านเลนส์เห็นแล้วก็อนุโมทนาด้วย..สาธุ