610825 บันทึกผ่านเลนส์ ส่องโพธิกิจ…พ่อครูผู้สร้างคนให้พ้นโลกีย์

บันทึกผ่านเลนส์ ส่องโพธิกิจ  พ่อครูผู้สร้างคนให้พ้นโลกีย์

วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2561

เช้านี้อากาศสดชื่น เย็นสบายเพาะฝนตกพรำๆตลอดทั้งคืน พ่อครูตื่นนอน  บริหารร่างกาย สนทนากับท่านปัจฉาสมณะตามปกติเป็นรูทีนเหมือนที่พ่อครูเทศน์บอกเมื่อวานว่าชีวิตท่านไม่มีอะไรต้องปิดบัง ชีวิตเป็นรูทีนเปิดเผยได้ทุกเวลา ถ้ามีคนเห็นคุณค่า

หลังจากสนทนาได้ซักพัก เข้าห้องส้วมออกมา วันนี้ไม่เข้าห้องทำงาน พ่อครูบอกว่าถ้าเข้าไปก็ต้องไปเปิดคอมฯทำงาน วันนี้จะไปเดินออกกำลังกายข้างล่างดีกว่า พอพูดเสร็จพ่อครูก็ไปนั่งใส่รองเท้าผ้าใบ เตรียมเดินออกกำลังกาย และไม่ลงลิฟต์ พ่อครูบอกว่าเดินลงบันไดเป็นการวอร์มวัพก่อนออกกำลังกายพอดี

เช้านี้พ่อครูเดินรอบชั้นล่างเฮือนสูญได้ 17 รอบหลังจากนั้น พ่อครูเดินออกไปคูลดาวน์ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ที่โรงครัวเฮือนหญังกิน ทักทาย ผู้อายุยาวหลายคนที่กำลังหั่นเตรียมผัก วันนี้มีหน่อไม้มาให้หั่นจำนวนมาก พ่อครูเดินเข้าครัว ทักทายแม่ครัวใหญ่ ทั้งคุณปะงามงาน แม่หยุย ที่แม่ครัวใหญ่จริงๆเพราะทำอาหารแต่ละครั้งปริมาณมากต้องใช้หม้อเบอร์ใหญ่ๆเท่านั้นถึงจะเพียงพอรับประทานกันทั้งชุมชน พ่อครูเย้าว่า ทำเท่าไหร่ก็ไม่พอ ช้างไม่เหลือ เสือไม่พอ

พ่อครูเดินไปด้านหลังโรงครัว เลาะไปด้านหลังเฮือนโสเหล่ เห็นถนนเชื่อมแก้งไทบ้านทั้ง 2 ฝั่งยังแฉะอยู่ พ่อครูบอกว่า จะเปลี่ยนชื่อใหม่ก็ยังไม่ได้ คงต้องเรียกชื่อเดิม “ถนนป๊อดแป๊ด” พ่อครูบอกว่า ตามความตั้งใจเดิม จะให้นำทรายมาลงแล้วปูด้วยแกรนิต มองไปเห็นเถาวัลย์เปรียงที่เลื้อยคลุมต้นยาง พวกเราถามว่าระหว่างเถาวัลย์เปรียงกับต้นไทร ต้นไหนเลื้อยคลุมกินต้นไม้ใหญ่ได้เร็วกว่ากัน พ่อครูบอกว่า ไม่รู้จักเถาวัลย์เปรียงซะแล้ว

พ่อครูเดินไปที่เรือรามจักร พ่อครูมีดำริบอกช่างคณิตไปแล้วว่าจะให้ทาสีเรือ สีเดียวกันกับเรือเจิ้นเทิ้น ถ้าทั้ง 2 ลำเสร็จจะคอยดูว่าลำไหนจะมีแฟนนานุแฟน(แฟนคลับ)มากกว่ากัน เพราะต่างเป็นงานศิลปะชิ้นเอกที่วิจิตรปราณีต คนละแบบทั้ง 2 ลำ ผู้ใหญ่บ้านติ๊ก ขวัญหินแก้วเพิ่งประชุมกรรมการชุมชนเสร็จเข้ามากราบนมัสการ พ่อครูเห็นก้อนหินรอบๆมีเห็ดขึ้นตามซอกหินหลายก้อน ตลอดทางแต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นเห็ดอะไร เจออากล้าทนขับรถผ่านมาท่านปัจฉาหนักแน่น ถามเรื่องเครื่องสูบน้ำว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ อากล้าทนเรียนว่ากำลังรออุปกรณ์เพราะเป็นเครื่องสูบน้ำชนิดพิเศษ

พ่อครูเดินกลับผ่านมาด้านหน้าเฮือนโสเหล่ ผ่านมาหน้าเรือมีมา พ่อครูบอกว่า จะมีใครเอาธงไปติดที่ยอดเสาได้มั้ยนะจะได้ปลิวไสว เป็นเสาธงที่แปลกกว่าที่อื่น พ่อครูเดินกลับมาหน้าเฮือนศูนย์สูญ ชี้ให้พวกเราดูต้นรักแรกพบ ต้นชนิดเดียวกันกับที่มีผู้ถวายมาให้ไปปลูกที่สวนชั้น 4 ก่อนที่พ่อครูจะกลับขึ้นชั้น 4 พักก่อนจะลงมาฉันภัตตาหาร

เวลา 11.10 นาที พ่อครูลงมาฉันภัตตาหารพร้อมท่านปัจฉาดินไทและมาช่วยเปิดสำรับจัดเตรียมถวายพ่อครู ท่านฉันอาหารพร้อมกับอ่านหนังสือพิมพ์ 2 ฉบับที่รับประจำไปด้วย วันนี้คิดว่าคงจะไม่ได้เดินย่อยอาหารและตรวจงานเพราะเวลาประมาณบ่าย 2 โมงหลังพ่อครูฉันเสร็จ ฝนได้ตกลงมาอย่างหนัก ภายในชั้นล่าง เฮือนสูญ ผู้เข้าค่ายสัมมาอริยมรรคพบท่านสมณะ ก่อนที่จะฝึกเดินจงกรมปฏิบัติเจโตสมถะ แต่ไม่นานนักฝนก็หยุดตกเวลา 14.08 นาทีพ่อครูฉันเสร็จพอดีจึงเดินออกมาย่อยอาหารท่านเดินมาด้านหลังองค์พระพุทธโตเดินมาถึงถนนคอนกรีตที่เพิ่งเสร็จใหม่ เด็กๆที่มาเล่นน้ำกำลังช่วยกันเข็นมอเตอร์ไซค์ที่สตาร์ทไม่ติด พ่อครูเดินผ่านหน้าป้ายบวรราชธานีอโศก ขึ้นไปที่อาคารบวรมองดูที่ถนนคอนกรีตว่ามีการระบายน้ำคล่องตัวหรือไม่

ขึ้นมาพบลุงแขก ธาตุดินอยู่กับลูกศิษย์นศ.อาชีวะเกษตรน้องปลื้มมากราบนมัสการ พ่อครูครูไปที่หน้าเรือเจิ้นเทิ้น อาแสงศิลป์ เดือนหงายกำลังปรับโมเดลโฟมพญาแร้ง บริเวณหน้าอกพอดี เข้ามากราบนมัสการพ่อครูเรียนปรึกษาเรื่องสัดส่วนของพญาแร้ง พ่อครูแนะนำให้ตัดส่วนของอกออกอีกนิดเพราะตอนนี้ดูอ้วนเกินไปเล็กน้อย

พ่อครูเดินผ่านตลาดนัดบุญนิยมที่มีคนมาใช้บริการอยู่หนาตา อาจจะเป็นเพราะวันนี้เป็นวันหยุด จึงมีผู้มาเยี่ยมชมตลอดทั้งวัน เดินมาถึงเรือเจิ้นเทิ้น ทีมงานนิทรรศการคุณพัชระ คุณซีนกับทีมงานช่างท่านด่วนดี กำลังช่วยกันย้ายบอร์ดนิทรรศการ เพราะจะเตรียมขัดและลงเงาพื้นบริเวณนิทรรศการ เด็กชายเวียงเข้ามากราบนมัสการ เจอคุณซีนเข้ามากราบนมัสการและเรียนปรึกษาพ่อครูถึงรูปปั้นอาริยชน4 ระดับที่จะขออนุญาตนำไปตั้งจัดแสดงบริเวณด้านหน้าเรือเจิ้นเทิ้นและปรึกษาพ่อครูว่าสามารถจัดวางร่วมกับสิงห์และคชสีห์ได้หรือไม่ พ่อครูได้ให้คำปรึกษาไป พ่อครูเดินกลับมาผ่านมาบริเวณโต๊ะกลางภายใน ตลาดนัดบุญนิยมผู้มาเยี่ยมชมกำลังทานอาหารกัน เห็นพ่อครูก็ยกมือไหว้นมัสการ

โต๊ะที่จัดไว้ให้ลูกค้านั่งรับประทานอาหารวันนี้มีลูกค้ามานั่งเต็มทุกโต๊ะ คุณอุไรแม่ค้าจากศีรษะอโศก เข้ามากราบนมัสการพ่อครูสังเกตเห็นลูกมะกอกป่าสดที่นำมาขายถุงละ 10 บาท บริเวณด้านหน้าอาคารบวร มีมอเตอร์ไซค์ของเด็กๆเข้ามาจอดด้านหน้ากันเป็นระเบียบเพราะมีคุณเป็ด จตุพล คอยดูแลเรื่องการจราจรและจัดระเบียบการจอดรถได้เข้ามากราบนมัสการพ่อครู พ่อครูเดินมาตามถนนคอนกรีตหลังวิทยาลัยอาชีวะ ซึ่งเมื่อฝนตกถนนสะอาดขึ้นมาก แถมเวลานี้แดดเริ่มออก พ่อครูเดินมาถึงสามแยกหน้าโรงปุ๋ยพลังชีวิต ถนนที่เริ่มลงหินไว้เมื่อวานได้มีการวัดพื้นที่ก่อแบบอีกฝั่งนึงแล้ว

พ่อครูเดินกลับมาเส้นทางเดิมพบรถเข้า-ออก ไป-มา พ่อครูชมพวกเราที่ขับรถพ่วงกันได้อย่างคล่องแคล่วแม้ไม่ได้ไปเรียนที่ไหนมา สสธ.เบ็นที่เดินติดตามมาคอยเก็บขยะข้างทางและนำมาแยกขยะที่ซุ้มขยะ

ผ่านมาด้านหน้าอาคารบวรเห็นการจัดระบบการจราจรที่ห้ามผ่านด้านหน้าเมื่อมาถึงอาคารบวรให้เลี้ยวซ้ายขึ้นไปจอดบนอาคารได้เลย

พ่อครูเดินผ่านด้านหน้าอาคารบวร พบต้นกล้วยที่มีปลีกล้วยขนาดใหญ่ คาดว่าจะถึง 2 กิโลกรัมเลย ซึ่งตอนนี้มีคุณค่าและมูลค่ามากตามข่าวที่ได้ยินกันมาว่า ถ้าส่งออกไปที่เยอรมันสนนราคาอยู่ที่กิโลกรัมละ 1,000 บาทเลยทีเดียวท่านปัจฉาบอกพวกเราว่า แต่เขามีข้อแม้ว่าจะต้องเป็นหัวปลีที่ไร้สารเคมี พวกเราบอกว่างั้นของเรายิ่งตรงสเป๊กกับเขาเลย เพราะเราปลูกแบบไม่ใช้สารเคมีไร้สารพิษ 100%

พ่อครูเดินกลับมาที่ลานสะโพหน้าน้ำตกผาแหงน พบครอบครัวของผู้มาเยี่ยมชมพาเด็กๆมาเล่นน้ำและเที่ยวชมน้ำตกกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้า ทาแป้งให้เด็กๆ ทำให้เห็นถึงเจตนาของพ่อครู ที่สร้างงานศิลปะที่กลมกลืนเป็นมิตรกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้คนได้มาผ่อนคลายแบบที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เป็นการช่วยเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างดี เพราะพวกเราไม่หวังอะไรจากผู้ที่มาเที่ยวชมเลย เพียงแต่ให้ช่วยกันปฏิบัติตามข้อห้ามต่างๆที่ได้กำหนดไว้ เช่น ห้ามนำเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มาดื่มในชุมชน ห้ามนำอาหารเนื้อสัตว์มารับประทาน ห้ามสูบบุหรี่หรือนำอบายมุขต่างๆเข้ามาภายในชุมชน ซึ่งถ้าผู้ที่มาภายในชุมชนสามารถปฏิบัติได้ก็ถือว่าพวกเขานอกจากจะได้รับความสนุกสนานจากการเล่นน้ำแบบอิสระเสรีแล้ว ยังได้เรียนรู้ศึกษาธรรมะในชีวิตประจําวัน ยิ่งถ้าสามารถนำกลับไปปฏิบัติได้ก็จะเกิดบุญและกุศลขึ้นอย่างสัมมาทิฏฐิที่แท้จริง

พ่อครูเดินกลับมาที่หน้าน้ำตกผาแหงนยังพบวัยรุ่นมาเล่นน้ำ พ่อครูเดินผ่านก็มีความนอบน้อม พ่อครูยืนดูกระเบื้องที่ได้นำลงมาจากชั้น 4 ยังมีสภาพดีน่าจะนำไปใช้ประโยชน์ได้ต่อ พ่อครูขึ้นลิฟท์กลับไปที่ชั้น 4 เข้าไปนั่งโต๊ะทำงานเช็ดหน้าเช็ดตา ก่อนที่พ่อครูจะหยิบหนังสือที่รวบรวมเนื้อเพลงของครูรัก รักพงษ์มาอ่าน เรียนถามพ่อครูว่า พ่อครูกำลังสนใจเพลงอะไร ท่านบอกว่าเพลงไม้ไพร จึงได้เรียนถามพ่อครูว่า ใช่เพลงเดียวกันกับที่พ่อครูได้บอกไว้เมื่อ 2 วันก่อนตอนนั่งที่สวนสวรรค์ขยันยิ่งว่าพ่อครูเคยประพันธ์เพลงไม้ไพรกลางใจพี่ใช่หรือไม่ พ่อครูบอกว่าใช่ ซึ่งเพลงไม้ไพรนี้พ่อครูเริ่มประพันธ์วันที่ 4 กรกฎาคมแต่งเสร็จเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2495 หรือเมื่อ 18 ปีที่แล้ว และยังไม่ได้บันทึกแผ่นเสียงพวกเราเลยไม่เคยได้ยินเพลงนี้ ซึ่งเนื้อเพลงจะบรรยายถึงดอกไม้นานาพรรณล้วนเป็นไม้ไทย ที่เริ่มหายากแล้วในยุคปัจจุบันนี้

เห็นโพธิกิจของพ่อครูที่ทุกสังกัปปะ ทุกดำริล้วนเป็นธรรมะ และมีศิลปะในการสื่อให้คนเข้าใจได้ในหลายๆศาสตร์แม้กระทั่งศาสตร์ทางด้านเพลง ทำให้นึกถึงเพลงพ่อพระพ่อพิมพ์ที่มีเนื้อร้องท่อนหนึ่งว่า พ่อฉันเป็นยอดศิลปินอบรมบ่มนำดวงจินต์ ให้คนหลุดพ้นโลกีย์ พ่อเจียระไนขัดเกลาใจให้ไกลจิตผี ขยันสร้างสรรค์ความดีไม่มีท้อใจให้จริงกล้าจน

พ่อครูคือยอดศิลปิน ผู้สร้างสรรค์ยอดศิลปะคือธรรมะที่สามารถทำให้มนุษย์พ้นจากโลกโลกียสุข โลกที่วนในวัฏฏะของการแก่งแย่ง ลาภ ยศ สรรเสริญ โลกียสุขมาสู่โลกโลกุตระ เป็นผู้ที่กล้าหาญ กล้าจน พร้อมเสียสละและให้ชีวิตใหม่สู่ลูกทุกคน พ่อครูจึงเป็นพ่อพิมพ์ ยอดบรมครูของลูกๆชาวอโศกทุกคน