บันทึกผ่านเลนส์ ส่องโพธิกิจ…เมื่อเห็นปัญหาก็เสนอกรรมการ
วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน 2561
เช้านี้อุณหภูมิอยู่ที่ 26 C อากาศดีแจ่มใส มีแสงแดดทอแสงเรืองรองยามเช้า
6.00 เสียงนาฬิกาปลุกพ่อครูตื่น บริหารร่างกายตามปกติ แล้วลุกออกไปนั่งด้านนอกบริเวณสวนสวรรค์ฯ เช็ดหน้า และ ดื่มน้ำปัสสาวะอุ่น สนทนากับปัจฉา ท่านปัจฉาหนักแน่นมาปลงผมเนื่องในวันโกน วันนี้พ่อครูมีดำริจะแสดงธรรมเรื่อง ไทยมีเศรษฐกิจสุดวิเศษแบบพุทธ(ลงเราคิดอะไร339 ต.ค. 61) พ่อครูถามท่านปัจฉาว่าวันนี้จะออกกำลังกายอะไร …ท่านปัจฉา ตอบว่า โยคะครับ
6:58 กลับเข้าห้องทำงาน ชั่งนน.ได้ 49.2 กก เป็นน้ำหนักมาตรฐานพ่อครู .แล้วไปนั่งพิมพ์งาน เปิดทีวี 3 ช่องติดตามข่าวสารบ้านเมือง
7.54 พ่อครู พร้อมท่านปัจฉาดินไท ท่านปัจฉา หนักแน่น ออกกำลังกายโยคะ จนถึงเวลา 8:26 แล้วพัก เสร็จธุระส่วนตัว พ่อครูเตรียมลงไปแสดงธรรมในรายการวิถีอาริยธรรม วันนี้พ่อครูหยิบหนังสือพจนานุกรมเล่มใหญ่ (พ่อครูบอกเหมือนถือคัมภีร์ไบเบิล) ถือมายืนรอลิฟท์
พ่อครูลงมาถึงบริเวณแสดงธรรมในเวลา 18.55 นาทีพร้อมกับหอบหนังสือพจนานุกรมเล่มใหญ่มาเป็นสื่อในการแสดงธรรม ทำให้สงสัยว่าพ่อครูจะเทศน์เรื่องอะไรในวันนี้ดูน่าสนใจ เด็กชายธัมโมเข้ามากราบนมัสการหลวงปู่ คุณย่าให้นำปัจจัยมาถวายหลวงปู่เนื่องในวันครบ 2 ปีของการจากไปของคุณปู่เทียนพุทธ rพุฒิพงษ์อโศก เด็กชายธัมโมเป็นเด็กที่พูดง่ายมากในเรื่องบอกให้กราบ ให้ยิ้มหรือให้ทำอะไร ไม่ขัดใจผู้ใหญ่ เป็นเด็กที่ผู้ใหญ่ในชุมชนเอ็นดู
บริเวณโต๊ะแสดงธรรมวันนี้ มีพืชพันธุ์ธัญญาหารโดยเฉพาะผลไม้อุดมสมบูรณ์สีสันสดใสมาก ที่ด้านข้างศาลาเฮือนสูญ สังเกตเห็นนักเรียนตัวน้อยหิ่งห้อยริมมูลและสมุนพระรามที่ปิดเทอมนั่งล้อมวงรับประทานก๋วยเตี๋ยวกัน ซึ่งพ่อครูเรียกการเรียน ดูแลลักษณะนี้ว่าเป็นโรงเรียนครูติ้วบริบาล เพราะมีเด็กเล็กตั้งแต่อายุ 1 ขวบเศษเศษจนถึงไม่เกิน 4 ขวบจะอยู่ในความดูแลของครูติ้วเพียงคนเดียว ซึ่งบางครั้งก็จะมีพี่สมุนพระรามมาเป็นพี่เลี้ยงด้วย มองไปเป็นที่น่าเอ็นดู วันนี้มีญาติธรรมจัดโรงบุญก๋วยเตี๋ยว(เนื่องในโอกาสครบวันเสียชีวิตของหลานหลวงปู่ผิว) ทำให้เด็กๆได้รับประทานก๋วยเตี๋ยวร้อนๆกันเต็มที่
วันนี้พ่อครูแสดงธรรมในเรื่องเศรษฐกิจ ที่สามารถแก้ปัญหาของประเทศหรือสังคมโลกได้ต้องเป็นเศรษฐกิจแบบคนจน ขาดทุนของเราคือกำไรของเราตามที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงมีพระราชดำรัสและทรงมีพระจริยวัตรเช่นนั้นปรากฏให้เห็นเป็นที่ประจักษ์มาตลอด 70 ปีแห่งการทรงงาน
เวลา 11.10 นาทีหลังแสดงธรรมเสร็จพ่อครูวันนี้เริ่มมานั่งฉันภัตตาหารที่ชั้นล่างเฮือนสูญ ซึ่งเป็นวันแรกหลังจากพ่อครูอาพาธ อาธงธรรมมากราบนมัสการเรียนพ่อครูว่าตนเองได้หายจากป่วยเพราะจิตใจดีขึ้น ทำให้ร่างกายดีขึ้นตามลำดับ โดยได้นำผิวหนังมาให้ท่านปัจฉาแสนดินได้ดู(อาไม่ค่อยสบายเป็นโรคผิวหนังตึงแข็ง)
หลังจากพ่อครูปัจเวกข์ณ์พิจารณาอาหาร ได้ฉันภัตตาหารพร้อมท่านสมณะ ท่านสิกขมาตุรวมถึงลูกหลานญาติโยม ที่มานั่งรับประทานกันเต็มศาลาทุกวันอาทิตย์
เวลา 12.30 นาทีพ่อครูฉันภัตตาหารเสร็จ ทีมงานทำเรือโคกใต้ดินเข้ามาเรียนปรึกษา เสร็จแล้วพ่อครูอ่านหนังสือพิมพ์ 2 ฉบับที่รับเป็นประจำต่อจนจบ
เวลา 13.36 นาทีพ่อครูออกมาเดินย่อยอาหารและตรวจงานที่หน้าน้ำตกผาแหงน วันนี้มีคนมาเล่นน้ำตกกันหนาตา เพราะเป็นวันอาทิตย์อากาศค่อนข้างร้อน พ่อครูเดินมาตามถนนคอนกรีต หน้าอาคารบวรโดยมีท่านปัจฉาทั้ง 3 รูปติดตามคอยดูแลพ่อครูมาขึ้นรถสัญญาตะวันที่พ่อหินเข้มจอดรอเหมือนเป็นท่ารถอยู่ที่ร้านปันกันวัสดุ จากนั้นได้พาพ่อครูไปดูการถมถนนตั้งแต่บริเวณป้ายโรงปุ๋ย
พ่อครูสังเกตเห็นข้างทางที่เทคอนกรีตมีลักษณะลาดชันเกินไป น่าจะเผื่อพื้นที่ขอบถนนออกไปกันรถตกขอบถนน รถขับไปจนถึงบริเวณหน้ารีสอร์ทพบช่างคณิตไทเทิดธรรม กำลังยืนแจกคูปองสำหรับนับจำนวนรถขนทรายมาถึงบริเวณ Box Culvert ซึ่งได้ขยายถนนไปเต็ม box culvert ที่ทำไว้เมื่อหลายปี วันนี้มีทั้งรถแทรกเตอร์และรถบดที่ทำงานคู่กัน รถทั่วไปยังไม่สามารถสัญจรไปมาได้บริเวณตั้งแต่ปากทาง 3 แยกกุดระงุม เพราะมีการถมดินตลอดเส้นทาง ช่างคณิต ไทเทิดธรรมแสดงบัตรรับรถให้ดูว่าวันนี้มีทั้งรถ 6 ล้อ 10 ล้อที่ขนทรายมาได้ 64 คันแล้วพ่อหินเข้มขับกลับไปเส้นทางเดิมมีรถ 6 ล้อกำลังนำทรายลงมารีสอร์ท พวกเราสงสัยว่าดินที่นำมาถมนำมาจากบริเวณไหน พ่อหินเข้มเข้าไปถามทราบจากผู้ขับรถ 6 ล้อว่านำมาจากท่าช้าง
รถสัญญาตะวันขับเข้ามาที่โรงปุ๋ยพลังชีวิต ทีมผู้ดูแลขอพ่อครูอย่าเพิ่งใช้แรงเข็นปุ๋ยเพราะเพิ่งพักฟื้นจากการอาพาธ พ่อครูจึงมายืนให้กำลังใจลูกหลานอยู่ประมาณ 10 นาที ซึ่งวันนี้เป็นทีมของศิษย์เก่าได้รวมตัวกันมาช่วยงานโรงปุ๋ยและมากราบนมัสการพ่อครู
รถสัญญาตะวันกำลังจะออกจากโรงปุ๋ย นายรักษ์เขต(รัฐเขต)ได้เข้ามากราบนมัสการเรียนพ่อครูว่ารถขนดินได้นำดินจากบริเวณนาโม ไปถมดินที่ถนนทางเข้ากุดระงุม พวกเราที่เมื่อสักครู่ได้ยินคนขับรถบอกว่านำมาจากท่าช้างเลยมีความสงสัยที่นายรักษ์เขตบอกมา นายรักษ์เขตเลยกราบนิมนต์พ่อครูไปดู บริเวณที่นำดินมาใช้ ซึ่งได้เรียนพ่อครูว่ารถ 6 ล้อจะไปขนที่ท่าช้าง ส่วนรถสิบล้อจะนำดินที่นาโมไปถม พ่อครูจึงเดินทางไปดูบริเวณนั้น โดยมีนายรักษ์เขตนำทางไป ระหว่างทางยังเห็นกองไม้และวัสดุหลายอย่างที่กำลังถูกวัชพืชและต้นโสนคลุมจนมองไม่เห็น ผ่านมาที่ต้นหางนกยูงกำลังเติบโตอุดมสมบูรณ์
ไปถึงบริเวณที่กำลังขุดเพื่อนำดินมาถมถนน นายรักษ์เขตได้กราบเรียนเสนอพ่อครูว่าไม่ควรขุดดิน และตัดต้นไม้บริเวณนี้ไป ควรอนุรักษ์ดินที่เป็นโคกมาตั้งแต่ดั้งเดิมไว้และมีต้นไม้ใหญ่เติบโตอยู่หลายต้นด้วย พ่อครูบอกว่า อาตมาไม่ได้ตัดสินอะไรแล้ว ให้เสนอคณะกรรมการชุมชน
เวลา 14.30 นาทีพ่อครูจึงนั่งรถสัญญาตะวัน กลับมาทางถนนตรงกลางผ่านหมู่บ้านเฟส 2 เข้ามาภายในชุมชนออกมาทางเรือรามรักษ์ ผ่านที่เฮือนเพิงกันเห็นเด็กน้อยหิ่งห้อยริมมูลกำลังเล่นกันอยู่กับเครื่องเล่นพลาสติกที่เป็นรถยนต์ ทราบว่าได้รับบริจาคมาให้เด็กๆที่บ้านราช ครูติ้วพาเด็กๆมากราบนมัสการหลวงปู่
จากนั้นรถสัญญาตะวันผ่านมาด้านหน้าห้องน้ำกางเกงยีนส์ คุณนาคและคุณแรงพุทธนำรถไหวไหวมาล้างรถบริเวณที่น้ำโตนได้ไหลผ่าน รถมาจอดที่หน้า สขจ.เห็นผู้ที่มาเล่นน้ำหลายคนนั่งอัดกันมาในรถคันเดียวมาและทุกคนก็ตัวเปียก มองแล้วคุ้มค่าการใช้งานจริงๆ พ่อครูกลับขึ้นชั้น 4 ก่อนที่จะเข้าห้องทำงานเช็ดหน้าเช็ดตาและนั่งพิมพ์หนังสือคนจนที่มีแบบฉบับแก้แล้วไขอีกต่อเหมือนเช่นเคย..
ท้ายนี้ขอยกบทประพันธ์ ความซ้ำซากที่พ่อครูได้นำมาอ่านในวันนี้ถึง 7 บท ขอยกมา 1 บทคือ
…เพลงซ้ำซากหมายเลย 1…
ความซ้ำซาก ไม่ใช่ความน่าเบื่อหน่าย(เซ้ง)หรอก
แต่แท้จริงแล้วเป็นการสร้าง”ความปกติ”
และความถาวร มั่นคง สถิตเสถียร
ให้เกิด ให้เป็นขึ้นมา ต่างหาก
ดังนั้น…ผู้ไม่พยายามเพียรกระทำอย่างยิ่ง
จึงคือ..
ผู้จะไม่ถึงความสำเร็จกิจนั้นๆเป็นที่สุดได้เลย
แล้ว”ความยากลำบาก”ใดๆ
ก็จะเป็น”ความง่าย”สบายเบา
ไม่ได้เป็นอันขาด
10 กรกฎาคม 2523 (“แสงสูญ”ฉบับ 11/2525 : กีฬาเอ๋ย)
.