วันบวร นิสิต วนบ.กลุ่ม 4 ขัดเงาพื้น จัดตู้พระไตรปิฎกโบสถ์ชั้น 4
วันจันทร์ที่ 3 กันยายน 2561
เวลา 6.30 นาทีเป็นเวลานัดหมายของนิสิตวนบ.กลุ่ม 4 ให้ขึ้นมาชั้น 4 บริเวณโบสถ์ เพื่อที่ปฏิบัติภารกิจขัดเงาที่พื้นโบสถ์ ซึ่งได้ขัดเป็นครั้งแรกเมื่อจันทร์ที่แล้ว(27 ส.ค.2561)ขณะที่พ่อครูเข้าห้องน้ำ แม่เทียนดินมาคนแรก เลยได้มีโอกาสกราบนมัสการพ่อครู จากนั้นด้วยความทะมัดทะแมงและชำนาญงาน แม่เทียนดินได้แนะนำให้ใช้น้ำมันก๊าดชุบไปที่กะลาผ่าซีกเพื่อให้การขัดขึ้นเงาได้ดีขึ้น พวกเราได้กลิ่นแล้วก็ระงับไว้ ให้ใช้เฉพาะที่เทน้ำมันก๊าดไปแล้วเพราะบางคนก็ไม่ชอบกลิ่นและอาจแพ้ได้ เพราะดูจากการขัดเงา การขึ้นเงาก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แต่ก่อนที่จะขัดพื้น พวกเราก็มองเห็นฝุ่นและขี้จิ้งจกมีเป็นจำนวนมาก ยายแสงขึ้นมาพอดีจึงได้ช่วยกันกวาดก่อน ซึ่งพื้นไม่มีการขัดเงาและถูเป็นเวลานาน 1 สัปดาห์ ทำให้พื้นขึ้นไขสีขาวจากเทียนที่เคลือบอยู่ ไม่นานนัก ท่านปัจฉาสมณะดินไทได้เข้ามาพบพวกเรา พร้อมทั้งช่วยถูขัดพื้นด้วย โดยได้แบ่งการขัดเป็นล็อกๆแนวยาว รับผิดชอบเป็นแถว ถอยหลังเหมือนเวลาไปดำนาก็รับผิดชอบเป็นแถวเช่นนี้ วันนี้มีคุณพันธสัญญาและสสธ.เบ็นมาช่วยด้วย วันนี้มีสมาชิกทั้งหมด 11 คนที่มาช่วยกัน
ด้วยความเคยผ่านงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทำให้พวกเราไม่ต้องมาสอนกันอีกครั้ง แต่กลับได้เทคนิคพิเศษ ที่ทำให้ขัดพื้นขึ้นเงาได้เร็วขึ้น ยิ่งท่านปัจฉาดินไท เมตตาเข้ามาร่วมกิจกรรมด้วย ยิ่งทำให้นิสิต วนบ.ทุกคนอบอุ่นเป็นบวรที่ครบองค์สมบูรณ์
ขัดๆๆๆกันได้ด้วยความเบิกบานสักครู่ประมาณ 7.30 น.คุณปะตรงเตือนได้ขึ้นมาพร้อมทั้งลูกสาวศิษย์เก่าเต๊าะแต๊ะ แม่ๆป้าๆเรียกทักทายด้วยความยินดี ที่มีลูกหลานมาช่วยและร่วมกิจกรรมกัน คุณปะตรงเตือน ผู้ที่รักการออกกำลังกายและคุ้นชินกับการขัดพื้นแบบลงเทียนตั้งแต่สมัยเรียน เห็นกะลาผ่าซีกหยิบมาสวมเท้าด้วยท่าทางทะมัดทะแมง และได้คิดเทคนิควิธีใหม่ โดยขัดๆๆไปด้วยและออกกำลังกายท่าคาร์ดิโอไปด้วย เรียกเหงื่อและกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี บรรยากาศจึงเต็มไปด้วยความสนุกสนาน คุ้นเคย ไม่เงียบเหงาเลย
ใกล้เวลา 8 โมงพวกเราก็ขัดพื้นเสร็จเรียบร้อย ท่านปัจฉาดินไทจึงให้ไปช่วยยกตู้ไม้พระไตรปิฎก รวมถึงตั่งเข้ามาจัดภายในโบสถ์ ขณะที่กำลังยกและขนของสิบโทตั๊บโต้ แผ่นด้าว ได้ขึ้นมาหาคุณแม่ปะตรงเดือน ผู้ใหญ่เห็นจึงได้ทักทายให้มาช่วยลุงๆป้าๆขนตู้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ลุงๆป้าๆกำลังเพียรทำอยู่ พอเห็นลูกหลานเป็นวัยรุ่นมาก็อุ่นใจ ที่ได้แรงวัยรุ่นมาช่วยผ่อนแรงผู้ใหญ่อย่างพวกเรา การขนตู้ก็ใช้แรงพอสมควรแต่ไม่มากนัก เพราะได้ใช้วิธีเคลื่อนตู้ด้วยการรองผ้าและพรมลากมาตามทางที่ลื่นอยู่แล้ว ซึ่งไม่ต้องใช้กำลังมากเพียงแต่ประคองตู้เท่านั้น ซึ่งพวกเราเรียกเทคนิคนี้ว่าเป็นเทคนิคของสมุนพระราม เพราะนักเรียนสมุนพระรามคือนักเรียนชั้นประถมของราชธานีอโศก ก็จะถูกปลูกฝังในเรื่องการขนของโดยใช้เครื่องผ่อนแรงใกล้ตัวในวิธีการนี้ และสิบโทตั๊บโต้เองก็เป็นศิษย์เก่าสมุนพระรามด้วยเช่นกัน อีกไม่นานนักศิษย์เก่าพืช ก็ตามขึ้นมาพอพบท่านปัจฉาดินไท ด้วยความที่เคยเป็นศิษย์อาจารย์กันมาก่อน จึงเข้าไปกราบนมัสการด้วยความคุ้นเคยและยินดี พร้อมยังได้ช่วยขนพระพุทธรูป เก้าอี้เพื่อนำไปจัดภายในโบสถ์อีกด้วย คุณปะตรงเตือนพาลูกๆไปกราบนมัสการหลวงปู่ หลวงปู่ทักทายตามประสาลูกหลานที่ไม่ค่อยได้เจอหลวงปู่ ถามไถ่อาการอาพาธหลวงปู่ด้วยความเป็นห่วงก่อนกลับได้กราบนิมนต์ขอถ่ายรูปกับหลวงปู่อีกด้วย
8.50 นาที เสียงระฆังดังแว่วมาได้สักครู่แล้ว เป็นสัญญาณว่าหมดเวลาทำบุญ สร้างกุศลกันแล้ว ทุกคนได้มานั่งรวมกัน สรุปงาน สรุปสภาวะกัน ซึ่งล้วนแต่มีความยินดีที่ได้มาช่วยกันขัดโบสถ์อีกครั้ง และครั้งนี้ได้มา 5 ส.จัดโบสถ์ เช็ดกระจก จัดตู้พระไตรปิฎก ให้เข้าที่เข้าทางกันอีกด้วย
ท่านปัจฉาดินไท ได้ให้โอวาทพวกเราไว้ว่า ..ก่อนหน้านั้นท่านก็ทำเพียงลำพังคนเดียว ไม่มีคนมาช่วย มาวันนี้เห็นพลังรวม พลังสามัคคี ทำอะไรก็สำเร็จ ท่านให้แง่คิดว่า.. สังเกตหรือไม่ว่าก่อนที่จะขัดพื้นจนขึ้นเงาเช่นนี้ เมื่อเข้ามาตอนแรก จะเห็นพื้นที่ขึ้นขาวจากไขของเทียนเป็นหย่อมๆดูไม่มีเงาที่งดงาม มีฝุ่นมาก ขี้จิ้งจกเปื้อนเต็มไปหมด จนพวกเราจะต้องกวาดก่อนลงมือขัด ซึ่งการขัดก็สามารถขัดได้เรื่อยๆ ยิ่งขัดยิ่งขึ้นเงา เปรียบเสมือนพวกเราซึ่งเป็นนักปฏิบัติธรรม ถ้าไม่เรียนรู้ในเรื่องสักกายะ อาสวะ อนุสัย ก็จะปล่อยให้ชีวิตเต็มไปด้วยกิเลส โดยไม่ได้ถูกขัดเกลา แต่ยิ่งมาเรียนรู้ถูกขัดเกลา ถูกขัดใจบ่อยๆ ก็จะยิ่งมีความเจริญ มีมุทุภูเต กมฺมนิเย ฐิเต อาเนญฺชปฺปตฺเต
พัฒนาขึ้นเรื่อยๆมีความเจริญ ซึ่งเมื่อเราหลุดพ้นอาสวะ อนุสัย จิตเราก็จะบรรลุธรรม อวิชชาสูญสิ้นไปได้ตามลำดับ..เสร็จภาระกิจในเวลา ประมาณ 9.00 น.
วันนี้มีสมาชิก นิสิต วนบ.กลุ่ม 4 จำนวน 8 คน ชาวชุมชน 2 คน ศิษย์เก่ากับคุณปะตรงเตือนรวม 4 คน นักเรียนสสธ.เบ็น 1 คน รวมทั้งหมด 15 คนที่มาช่วยกันทำกิจกรรมวันบวรครั้งนี้…ขออนุโมทนาสาธุ ทุกท่านค่ะ…