บันทึกผ่านเลนส์ ส่องโพธิกิจ…กำหนดงานมหาวารณาปีนี้ 84 ปีโพธิสัตว์ 48 ปีโพธิกิจ
วันศุกร์ที่ 7 กันยายน 2561
เช้านี้ฝนไม่ได้ตก ฟ้าแจ้งจางปาง พ่อครูตื่นขึ้นตามเวลาปกติ 6 โมงเช้า กราบพระ ออกกำลังกาย 4 ท่าบริหารตามปกติ แล้วจึงลุกมานั่งเช็ดหน้า ฉันน้ำปัสสาวะอุ่นและสนทนากับปัจฉาสมณะดังเช่นทุกวัน ท่านปัจฉาสมณะบอกว่าทุกวันนี้พ่อครูใช้พลังงานที่มีอยู่ในการทำงานเขียนหนังสือและเผยแพร่ธรรมะ โดยไม่มีพลังงานสำรองเลย พ่อครูเลยบอกว่าพ่อครูไม่มีพลังงานสำรองมีพลังงานสำราญเป็นเอ็นโดรฟินทำให้ร่างกายแข็งแรง เป็นตัวสัมประสิทธิ ที่พ่อครูใช้ มีสำราญเป็นสำรอง ในการขยายอายุขัยของพ่อครู คณะปัจฉาได้เรียนปรึกษาพ่อครูในเรื่องการกำหนดนโยบายจัดงานมหาปวารณาที่พ่อครูมีดำริจะฉลองใหญ่ โดยได้ปรับกำหนดวันใหม่คือเริ่มตั้งแต่วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายนจนถึงวันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2561 โดยใช้ชื่อเป็น 4 รอบนักษัตรโพธิกิจ 7 รอบนักษัตรโพธิรักษ์ เป็น 84 ปีโพธิสัตว์ 48 ปีโพธิกิจ
610907_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ฉลอง 4 รอบนักษัตรโพธิกิจ 7 รอบนักษัตรสมณะโพธิรักษ์
https://boonniyom.net/?p=34060
เวลา 7.07 นาทีพ่อครูเตรียมออกกำลังกายโยคะ พร้อมท่านปัจฉาหนักแน่นเป็นเวลากว่า 50 นาทีจนถึงเวลา 8.10 นาที
เวลา 11.25 พ่อครูลงมาฉันภัตตาหารพร้อมท่านปัจฉาสมณะดินไท หลังจากพ่อครูปัจจเวกข์พิจารณาอาหาร น้องไผ่ตงมากับคุณแม่มากราบนมัสการหลวงปู่เพราะเป็นวันเปิดเทอมวันแรก
เวลา 13.18 นาทีหลังจากพ่อครูฉันภัตตาหารเสร็จ ได้ดูข่าวสารออนไลน์ว่าคุณสุชัย เจริญมุขยนันท์ได้มีอาการเกี่ยวกับเส้นเลือดหัวใจตีบเมื่อ 2 เดือนที่แล้วแต่คุณสุชัยเพิ่งแจ้งผ่านสื่อให้ทราบ
เวลา 13.30 นาที พ่อครูออกมาเดินย่อยอาหารดูบริเวณสวนเกาะแก้ว ที่เริ่มมีร่มเงาได้พออาศัยของต้นหางนกยูงเหลืองแล้ว พ่อครูเดินมาภายในสวน เห็นต้นอินทผาลัมซึ่งมีใบแปลกตา ถ้าเป็นชาวบ้านที่มีความเชื่อในเรื่องโชคลาง ก็จะมองเป็นรูปพญานาคหรือสัตว์ต่างๆแล้วตีเป็นเลขหวย พ่อครูเดินมาที่สัตว์ปูนปั้นนกเงือกกับยีราฟ พวกเราเรียนถามว่าจะนำออกมาจัดด้านนอก แทนการอยู่หลังซอกหินนี้หรือไม่ พ่อครูบอกว่าให้อยู่ตำแหน่งอย่างนี้แหละ แล้วแต่งนิทานตามการเห็นตำแหน่งของสัตว์ทั้งสามว่า นกเงือกตัวผู้ตามหานกเงือกตัวเมีย มาเจอนกเงือกตัวเมียอยู่กับยีราฟ เลยสงสัยว่ามาอยู่ด้วยกันได้อย่างไร พวกเราได้ฟังก็ยิ้มและรับรู้ถึงอารมณ์ที่รื่นรมย์แม้อากาศร้อนอบอ้าวของพ่อครู แล้วจึงเดินมาถึงอาสนะเดิมที่เป็นรูปตอไม้ มีต้นประทัดจีนแดงและประทัดจีนเหลืองซึ่งได้นำมาปลูกใหม่ออกดอกสวยงามดี พ่อครูให้หากระเบื้องมาปูตรงกลางตอ ก่อนที่จะขึ้นรถสัญญาตะวันที่พ่อหินเข้มขับมารับ พ่อครูเห็นยีราฟคอหักก็ยังแต่งเรื่องต่อว่ายีราฟตัวเมียเมื่อไปเห็นยีราฟตัวผู้อยู่กับนกเงือกถึงกับคอตก เสียใจที่ยีราฟตัวผู้ไปหานกเงือก ได้ยินแล้วก็อดยิ้มกับอารมณ์ที่เบิกบานตลอดเวลาของพ่อครูในทุกๆเรื่อง
เวลา13.35 นาทีพ่อครูนั่งรถสัญญาตะวันไปตามถนนคอนกรีต หลังวิทยาลัยอาชีวะถึงสามแยกป้ายราชธานีอโศก มีการทำแบบ เตรียมเทปูนแล้ว รวมถึงหน้าโรงปุ๋ยพลังชีวิตก็ได้เทปูนไปถึงทางเข้าโรงผลิตแล้ว พ่อเห็นเข้มขับรถสัญญาตะวันไปตามถนนตรงมูน ผ่านรีสอร์ทที่กำลังนำทรายมาถมอัดพื้น ก่อนที่จะทำถนนคอนกรีต มีรถขนทรายเข้าออกตลอดเวลาทั้ง 10 ล้อและ 6 ล้อ ผ่านบริเวณบ็อกส์คันเวิร์ทตรงไปเล็กน้อย เจอช่างคณิต ไทเทิดธรรม กำลังแจกคูปองนับจำนวนของรถขนทรายและบอกตำแหน่งที่เททรายช่วยท่านสมณะด่วนดี พ่อครูเห็นรถบดถนนที่เราเช่ามา ซึ่งเป็นรถอีกประเภทหนึ่งที่พ่อครูเคยดำริว่า อยากมีไว้ใช้ที่ราชธานีอโศกในการปรับปรุงถนนโดยรอบๆ ท่านปัจฉาได้นิมนต์ท่านด่วนดีขึ้นรถสัญญาตะวัน ตรวจงานไปกับพ่อครูด้วย ไปที่สามแยกป้ายถนนตรงมูน พ่อครูดำริบอกท่านด่วนดีให้หาคนไปเจรจาเพื่อจะช่วยเทพื้นบริเวณสามแยกนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการสัญจร สะดวกยิ่งขึ้นจนถึงหน้าสวนอาไม้ผล
รถผ่านเข้ามาภายในหมู่บ้าน พ่อครูบอกว่าให้ขับไปดูหน้าทางเข้าหมู่บ้านกุดระงุม พ่อหินเข้มจึงขับรถผ่านโรงเรียนบ้านกุดระงุม พ่อครูมีดำริว่าน่าจะตัดถนนตั้งแต่กำแพงโรงเรียนตรงผ่านไปเลย โดยไม่ต้องเลี้ยวซ้าย จากนั้นจึงได้ไปสำรวจเส้นทางที่ปากทาง ตลอดเส้นทางไปหน้าถนนใหญ่เต็มไปด้วยหลุมบ่อ รถที่ขับผ่านไป ผ่านมา ต้องคอยหลบซิกแซกตลอด ก่อนถึงหน้าถนนใหญ่ เห็นมีถนนตัดใหม่จึงเลี้ยวขวาเข้าไปดู เผื่อมีทางที่จะตัดตรงไปถึงกำแพงโรงเรียนกุดระงุมเลย
ผ่านเข้ามาเป็นบ้านพักของทางทหารมีต้นไม้ขึ้นอยู่มากมาย แต่เห็นมีถนนเล็กๆสัญจรไปมาอยู่บ้าง แต่ไม่ได้เข้าไปสำรวจ หลังจากนั้นพ่อครูกลับมาตามเส้นทางเดิม ข้างโรงเรียนกุดระงุมผ่านสวนอุทยาน พ่อครูมีดำริให้ท่านด่วนดีทำถนนให้เต็มพื้นที่ถึงรั้วสวนอุทยาน รถกลับมาตามถนนตรงมูนก็ยังคงเห็นรถมาเททรายรวมถึงนักท่องเที่ยวก็ยังคงสัญจรไปมาอยู่เช่นกัน
มองไปที่ทุ่งนา ชาวบ้านกำลังเกี่ยวข้าวแบบดั้งเดิม โดยไม่ได้ใช้รถเกี่ยวข้าว พ่อครูเล่าให้ฟังว่าช่วงที่พวกเรามาตั้งหมู่บ้านใหม่ๆชาวบ้านไม่ได้ปลูกข้าวกันเลยพื้นที่ปล่อยให้รกร้างว่างเปล่า จนพวกเราเริ่มมาทำกสิกรรม เมื่อชาวบ้านเห็นก็จะซึมซับและเริ่มปลูกข้าวกันบ้างจนถึงปัจจุบัน
รถผ่านมาหน้าสวน 48 ปีฯพ่อครูบอกให้แวะเข้าไปเยี่ยมผู้ดูแลสวน(คุณหนึ่งผา)หน่อย เพราะไม่ได้มานานแล้ว รถผ่านเข้ามาในสวน 48 ไร่ 84 ปี พบต้นโคคลานมีการตอนเกือบทุกต้น น่าจะเป็นลุงแขก ธาตุดินที่ได้นำเสนอสมุนไพรโคคลาน ในการดูแลสุขภาพและได้ความนิยมทั้งชาวชุมชนเอง และบุคคลทั่วไปที่ได้ออกบูธ จัดแสดงที่เมืองทองธานี รถไปถึงกลางสวนพบนิสิตดั่งเดือนกำลังนั่งพัก ได้มากราบนมัสการพ่อครูเรียนพ่อครูถึงการดูแลสวน ซึ่งคุณหนึ่งผาและครอบครัวดูแลเป็นอย่างดี ช่วงนี้ไม่อยู่ นิสิตดั่งเดือน จึงเข้ามาช่วยดูแล ท่านปัจฉาหนักแน่นลองเดินเข้าไปที่ต้นหว้าขี้มด ที่แผ่กิ่งก้านเป็นร่มเงารูปทรงดีมาก พ่อครูบอกว่าต้นหว้าแบบนี้หายากเพราะลูกไม่ใหญ่แต่รสชาติดี นิสิตดั่งเดือน เรียนพ่อครูว่า ระบบน้ำบริเวณนี้ค่อนข้างจะลำบาก เวลารดน้ำต้นไม้ ต้องใช้อุปกรณ์ที่ผลิตขึ้นเองเป็นแกลลอนโดยมีก้านเป็นลำไม้ไผ่ แล้วค่อยวักน้ำมารดน้ำต้นไม้ ซึ่งทำให้ต้องใช้เวลานานพอสมควร
ตลอดทางจะเห็นกิ่งตอนของต้นโคคลานเต็มพื้นที่ รถสัญญาตะวันขับผ่านมาถึงโรงปุ๋ยพลังชีวิต ที่ถนนคอนกรีตได้เททั้ง 2 ฝั่งมาถึงออฟฟิศของโรงปุ๋ยแล้ว
พ่อครูเข้ามาภายในโรงปุ๋ยไม่มีการขึ้นปุ๋ย โรงตากก็กำลังตากปุ๋ยอยู่ จึงกลับออกมาเห็นปุ๋ยเรียงอย่างเป็นระเบียบ ซึ่งพ่อครูเรียกลักษณะนี้ว่า”ปุ๋ยรอระบาย” รถออกมาขับมาถนนทางลัดไปอาคารบวร ซึ่งเป็นดงกล้วยกับมะละกอ สังเกตกันว่าปลีกล้วยสามารถเด็ดมาทำอาหารได้หลายต้นแล้ว เพราะออกหวีจนถึงปลายสุดแล้ว มีการสะสางใบกล้วยลงมาเพื่อเปิดให้แสงส่องถึงพื้นได้ มองไปที่ป่ากล้วยซึ่งมีการยกร่องได้วิเคราะห์กันว่าสูตรยกร่องของพ่อไม้ผล สามารถนำมาใช้ปลูกมะละกอกล้วยและพืชอื่นๆ ได้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ อุดมสมบูรณ์แข็งแรงดี
รถสัญญาตะวันกลับขึ้นมาอาคารบวร พ่อครูมีดำริให้นำปูนมาเทบริเวณหัวมุมเลี้ยวรถ เพื่อให้รถเลี้ยวสะดวกยิ่งขึ้น รถขับเลาะมาด้านข้างอาคารบวร ทีมช่างคนงานกำลังล้างผ้าใบเต็นท์ สอบถามว่าทางหมู่บ้านกำลังจะนำเต็นท์ไปกางให้ที่หน่วยพยาบาลสาธารณสุขที่ขอมายืม พ่อครูนั่งรถผ่านร้านดินอุ้มดาว ร้านนี้มีชื่อนะและหน้าเรือเจิ้นเทิ้น นักเรียนชั้นม.1 ที่เปิดเทอมวันแรก มาซื้อน้ำดื่มก็กราบนมัสการหลวงปู่มาแต่ไกล อาแสงศิลป์เข้ามากราบนมัสการ เรียนพ่อครูว่าคงต้องติดโฟมไว้อย่างนี้ถ้าเอาโครงเหล็กออกเกรงว่าโฟมจะไม่อยู่ มีผู้ชมบุญนิยมทีวีจากจังหวัดชลบุรีมากราบนมัสการพ่อครู โดยลูกชายได้เรียนพ่อครูว่า คุณแม่เปิดดูบุญนิยม 24 ชั่วโมงมีโอกาสจึงพามาราชธานีอโศก คุณแม่เองได้มากราบก็รู้สึกมีปิติมาก รถผ่านมาหน้าร้านปันกันวัสดุ เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลกุดชุม ได้กราบนมัสการพ่อครู ผ่านมาเห็นเรือที่ผลิตจากถังน้ำพลาสติกขนาดใหญ่ ซึ่งน่าสนใจ พ่อครูถามท่านด่วนดีว่าราคาเท่าไหร่ เพราะอยากให้มีเรือพายในลำธารถอยหลังเข้าตลอดทั้งลำธาร
รถสัญญาตะวันพาพ่อครูขับกลับหน้าทางเข้าน้ำตกผาแหงน เห็นรูปหล่อองค์พระปางอภัยมีดำริให้หาโซ่ทองมาคล้องพระให้ด้วย จากนั้นได้กลับมาถึงชั้นล่างเฮือนศูนย์ รถสัญญาตะวันมาส่งถึงหน้าลิฟต์ ก่อนที่พ่อครูจะกลับขึ้นชั้น 4 พ่อครูยืนดูงานก่อสร้าง ปรับภูมิทัศน์อุทยานไม้ตาย เห็นผ้าสีสันส้มแดงสดใส ซึ่งท่านสิกขมาตุกล้าข้ามฝัน ได้นำผ้ามาห้อยกันนกพิราบมาเกาะและอุจจาระเรี่ยราดสกปรก
ก่อนเข้าห้องทำงานพ่อครูล้างเท้า มองเห็นต้นเบิร์ดออฟพาราไดซ์หลายสายพันธุ์ที่ขุดมาจากโรงแชมพูกอใหญ่ ได้นำมารวมกันในกระถางเดียวยังไม่ได้แยกมีความสูงกว่า 3 เมตรเลย หลังจากนั้นพ่อครูกลับเข้ามาที่โต๊ะทำงานเข้าสู่โหมดพิมพ์หนังสือธรรมะต่อ จนถึงภาคเย็นที่ต้องแสดงธรรมในรายการพุทธศาสนาตามภูมิ