บันทึกผ่านเลนส์ ส่องโพธิกิจ…สวน84 ปี 48 ไร่ อนุรักษ์สมุนไพร
วันจันทร์ที่ 10 กันยายน 2561
เช้านี้พ่อครูตื่นตามเสียงนาฬิกาปลุกเวลา 6 โมงเช้าตามปกติ ออกกำลังกาย 4 ท่าบริหารเหมือนเช่นเคยรวมวิดพื้น 48 ครั้ง พอออกจากเต็นท์ซักพัก พ่อครูก็รู้สึกอยากเข้าส้วมทันที เสร็จแล้วจึงกลับเข้าห้องทำงาน ชั่งน้ำหนักรวมรองเท้าอยู่ที่ 48.8 กิโลกรัม ก่อนที่พ่อครูจะเข้าโหมด เปิดคอมพิวเตอร์เขียนหนังสือธรรมะเหมือนดังเช่นเคย ซึ่งช่วงนี้พ่อครู กำลังเร่งแก้ไขหนังสือคนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก เพื่อจะปิดเล่มในวันที่ 15 กันยายน 2561
เวลา 11:20 พ่อครูลงมาพร้อมท่านปัจฉาดินไท เพื่อฉันภัตตาหารซึ่งท่านปัจฉาแสนดินได้จัดสำรับไว้เรียบร้อยแล้ว พ่อครูปัจเวกขณ์ พิจารณาอาหารพร้อมกับอ่านหนังสือพิมพ์ 2 เล่มที่รับเป็นประจำ
ประมาณ 14.00 น. พ่อครูฉันภัตตาหารเสร็จ เดินออกมาย่อยอาหารที่ถนนหลังพระพุทธโต พ่อครูยืนมองเครนที่กำลังยกตอไม้ตายขึ้นไปจัดวางบนสวนอุทยานไม้ตาย ท่านยังเดินมาบนพลาญหินหน้าพระพุทธโต ยืนมองการจัดวางอยู่หลายๆมุมก่อนที่จะเดินขึ้นไปหน้าลานพระพุทธโต ดูต้นไม้ใบหญ้า ที่เติบโตเขียวขจี บางคนก็บอกว่ารก แต่พ่อครูบอกว่ากำลังงามดี ใกล้ต้นหญ้าจะมีผลของดอกรัก ซึ่งพ่อครูเรียกว่า ลูกรักอยู่กับดอกรัก และได้สนทนาถึงยางรักจากที่เป็นพืชยืนต้นทำเครื่องเขิน ฝังมุกเปลือกหอย กว่าจะขัดให้เรียบเสมอกัน ต้องใช้เวลานาน ต้องอดทนมากเพราะต้องใช้มือเปล่าขัดเท่านั้น ใช้กระดาษทรายหรือเครื่องมืออื่นๆไม่ได้เลย
พ่อครูเดินมาก่อนถึงทางออกไปอาคารบวร มองภาพกว้างของอาคารเฮือนสูญ ที่มีงานศิลปะประติมากรรมหลายรูปแบบเลียนแบบธรรมชาติให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะสวนไม้ตาย ผลงานการสร้างธรรมชาติชิ้นใหม่ พ่อครูเปรยว่าให้ใส่ไฟกระพริบในแต่ละเสา แล้วเปิดไฟช่วงกลางคืน ก็จะดูสว่างมีสีสันดี พวกเราเสนอว่าบนยอดไม้ตายมีโคมไฟ รูปเปลวเทียนก็จะเป็นโคมไฟส่องป้ายแผ่นดินพุทธให้สว่างไสว พ่อครูบอกว่าก็เข้าท่าดี
ส่องผ่านเลนส์ประทับใจพ่อครูอีกแล้วในวันนี้ ที่ท่านก้มลงเก็บเชือกฟาง ที่หล่นบนถนน ท่านปัจฉาแสนดินรับเชือกฟางจากพ่อครู เดินมาถึงหน้าป้ายบวรราชธานีอโศก อาละอองบุญจอดจักรยานมากราบนมัสการพ่อครู
พ่อครูพร้อมคณะท่านปัจฉาเดินมาถึงอาคารบวร ป้าเต็มสิริเข้ามานมัสการ สนทนากันเรื่องชื่อสี่แยกที่ป้าเต็มปลูกดอกไม้ไว้ทั้งสองข้างทาง แต่พ่อครูก็ยังไม่มีดำริใดๆ พ่อครูเดินมาหน้าเรือเจิ้นเทิ่น สังเกตเห็นปีกพญาแร้งฝั่งขวาหายไป สงสัยมีการนำไปซ่อมแซม พ่อครูเห็นรูปปูนปั้นพระอรหันต์ ที่มีความเบาสบายกางแขนทั้งสองข้างด้วยอารมณ์เบิกบาน
พ่อหินเข้ม ขับรถสัญญาตะวันมารับพ่อครู ไปดูงานสร้างถนน เห็นที่หน้าวิทยาลัยอาชีวะถนนเป็นหลุมบ่อ รถมอเตอร์ไซค์ไม่สามารถขับผ่านไปได้ รถขับผ่านหน้าโรงปุ๋ยพลังชีวิต ผ่านทุ่งนาของชาวบ้านซึ่งกำลังเกี่ยวข้าวและตากเอาไว้ ชาวบ้านหยุดเกี่ยวข้าวนมัสการทักทายพ่อครูเล็กน้อย รถวิ่งไปถึงทางเข้ากุดระงุมพ่อครูสังเกตบริเวณไหล่ทาง ที่ยังไม่ได้นำหินหรือวัสดุใด มาเป็นไหล่ทาง ท่านบอกว่าระวังจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย น่าจะทำไหล่ทางด้วย บริเวณสามแยกร้านค้าของชาวบ้านฝั่งตรงกันข้าม ใกล้สวนอาไม้ผลเริ่มมีเพิงของชาวบ้านสร้างเพิ่มขึ้น รถผ่านหน้าสวนอาไม้ผล สังเกตเห็นน้ำไหลซึมผ่านถนนอยู่ตลอดเวลารถขับผ่านสวนอุทยานกลับทางเดิมไปถนนตรงมูลรถจับยี่ลอ รถ 10ล้อขนส่งของบ้านราชที่ ทีมงานศิษย์เก่านำโดยน้องอาร์ม ขับผ่านพ่อครูไป ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ารถขนส่งเวลาขนของจากบ้านราชไปกรุงเทพฯ ขากลับก็จะมีของจากกรุงเทพฝากกลับมาที่บ้านราชอยู่เสมอ… นาของชาวบ้านเริ่มเกี่ยวข้าวได้แล้ว ก็จะเห็นชาวบ้านเกี่ยวข้าวและตากไว้บนที่นา พวกเราก็ทักทายให้ระวังว่าจะมีฝนตกลงมาในช่วงนี้
.
รถสัญญาตะวันพาพ่อครูมาที่สวน 84 ปี 48 ไร่ เจออาดาวเพ็ญกำลังดายหญ้าในนาข้าว สวนแห่งนี้มีต้นโคคลานอยู่เป็นจำนวนมาก ลุงแขก ธาตุดินได้ตอนกิ่งโคคลาน เพื่อขยายพันธุ์ ตามที่อาจารย์ไชโยได้แนะนำมา เพราะถือว่าเป็นพืชสมุนไพรที่มีคุณค่าและสรรพคุณรักษาได้หลายอาการ รถนำพ่อครูเข้ามาภายในสวน เจอพวกเรากำลังมาปลูกมะขาม มะม่วงกะล่อนและอีกหลายชนิด
รัฐเขตได้ตามมาปรึกษาพ่อครู ถึงเรื่องพื้นที่สวน 84 ปี 48 ไร่นี้ มีต้นไม้หายากอยู่หลายต้นและเป็นแหล่งเรียนรู้ของนักเรียนแพทย์แผนไทยของศีรษะอโศก ควรจะอนุรักษ์ที่ดินผืนนี้ไว้ สลับกับการดูแลที่อาจจะปลูกข้าวหรือพืชผักหลากหลายชนิดเพื่อให้เป็นส่วนที่อนุรักษ์ต้นไม้ แทนการก่อสร้างอาคาร ที่จะทำให้ต้นไม้และพืชสมุนไพรนั้นถูกโค่นถางออกไป สักครู่ลุงแขก ธาตุดินได้ตามมากราบนมัสการพ่อครู เรียนพ่อครูถึงพื้นที่บริเวณนี้ได้เคยมาสำรวจกับอาจารย์ไชโยผู้เชี่ยวชาญทางด้านสมุนไพร พบว่ามีสมุนไพรหลายชนิด อยู่บริเวณนี้น่าอนุรักษ์ไว้ รัฐเขตเสนอว่าสวน 48 ไร่นี้ ถ้าจะทำเป็นหมู่บ้านของชุมชนคนพอเพียง แบบดั้งเดิมย้อนยุคอนุรักษ์ไว้ น่าจะเหมาะสม อย่างเช่นหมู่บ้านในสวนนี้ไม่มีไฟฟ้า อยู่แบบเป็นโมเดลชุมชนดั้งเดิม ย้อนยุคแบบไทยๆ พ่อครูบอกว่าอย่าเพิ่งคิดอะไรมาก ก็ให้เป็นแบบนี้ไปก่อน ทุกอย่างไม่ได้สร้างง่ายๆขนาดนั้นหรอก ก่อนที่พ่อครูจะกลับออกมาผ่านโรงปุ๋ยพลังชีวิต เจอท่านสมณะด่วนดีได้รายงานว่ากำลังทำถนนซึ่งเป็นทางลัดระหว่างโรงปุ๋ยไปอาคารบวร ระยะทางเป็นถนนคอนกรีตประมาณ 200 เมตร
รถสัญญาตะวันพาพ่อครูผ่านโรงสีบุญคุณข้าว ไปดูพื้นที่หมู่บ้านท่ากกเสียว เจ๊กเอี๋ยว โยธาประจำหมู่บ้าน กำลังนำทรายมาซ่อมแซมถนนที่เป็นหลุมบ่อ ตลอดเส้นทางสังเกตถนนทางไปบ้านท่ากกเสียว เป็นหลุมเป็นบ่อ สองข้างทางยังมีชุมชน ที่ปลูกข้าวหาปลากันแบบบ้านๆ และมีต้นไม้ท้องถิ่นอย่างเช่นต้นกกเสียวอยู่หลายต้น รถขับมาเลยทางเข้าบ้านพ่อใหญ่คำบ้านท่ากกเสียว ซึ่งเป็นป้ายหมู่บ้านรถจึงย้อนกลับเข้าชุมชน พ่อครูชี้ให้ดูต้นกกเสียว ที่มีอยู่เป็นระยะๆ อาปู้ขับมอเตอร์ไซค์ผ่าน จอดรถนมัสการพ่อครู รถสัญญาตะวันขับมาทางลัดระหว่างโรงสีไปหลังพระพุทธโต เจอเจ็กเอี๋ยวกำลังเข็นรถจักรยานถอยหลัง ยังคิดว่าคงเป็นแนวใหม่ ท่านปัจฉาหนักแน่น ลองถามเจ๊กเอี๋ยวคำถามเดิม(ทักทายลองเย้าเจ๊กเอี๋ยวดู) ซึ่งเจ๊กเอี๋ยวก็จะมีคำตอบเดิม คือถ้าถามว่าเจ๊กเอี๋ยวจะไปไหน คำตอบของเจ๊กเอี๋ยวก็คือไปบ้านราช ซึ่งเมื่อท่านปัจฉาหนักแน่นถามไป ก็ได้คำตอบเช่นนั้นจริงๆ(พวกเราก็ยิ้มกับคำตอบที่คงเส้นคงวาเหมือนทุกครั้งที่ถามไม่ว่าเจ๊กเอี๋ยวจะไปไหนก็ตามก็จะได้รับคำตอบนี้ทุกครั้ง)สังเกตเห็นรถเจ๊กเอี๋ยวแท้ที่จริงก็คือรถซุก แต่มีรูปทรงเหมือนสามล้อ ที่ไม่ได้ปั่นเพราะไม่มีโซ่ เจ๊กเอี๋ยวเลยใช้วิธีเข็นรถที่บรรจุทรายไปถมตามหลุมบ่อต่างๆ
รถสัญญาตะวัน พาพ่อครูกลับมาถนนด้านหลังพระพุทธโต พ่อครูกลับขึ้นชั้น 4 ยืนมองการจัดตอไม้ต่างๆที่สวนอุทยานไม้ตาย อาดินดอนมารายงานพ่อครู ถึงการเข้าร่วมประชุมกับทางจังหวัดโดยมีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน ถึงเรื่องราวที่ทางพัฒนากรจังหวัด ต้องการให้ไปรายงานถึงสภาพท้องถิ่นของราชธานีอโศกมีจุดเด่นอะไรบ้าง พ่อครูกลับเข้าห้องทำงานฉันน้ำ เช็ดหน้าเช็ดตาก่อนกลับเข้าสู่โหมดเปิดคอมพิวเตอร์ และเขียนหนังสือธรรมะต่อ โดยมีท่านปัจฉาแสนดินนั่งอยู่นั่งทำงานอยู่ใกล้ๆพ่อครู
เวลาประมาณ 18.00 น.พ่อครูพร้อมท่านปัจฉาดินไท ลงมาแสดงธรรมในรายการ สำมะปี๋ซีวิต เจอน้องธัมโมยืนอยู่ พ่อครูก็ไปลูบหัวด้วยความเอ็นดู วันนี้นักเรียนสัมมาสิกขาเปิดเทอมแล้ว อยู่ในช่วงเข้าค่ายเปิดเทอม นักเรียนก็จะมีผ้าพันคอแบ่งสี นั่งฟังธรรมหลวงปู่กันเต็มศาลา โดยมีทั้งคำถามแห้ง(เขียนใส่กระดาษ)ส่งที่หลวงปู่ กับถามสด พูดที่ไมค์ถามด้วยตนเอง
อ่านบทความของคุณสารส้ม คอลัมน์กวนน้ำให้ใส ข่าวร้ายของประเทศชาติ คือข่าวดีสำหรับใคร? สุดท้ายส.หนักแน่นเล่าว่า เมื่อคืนพ่อครูลุกไปห้องน้ำเวลา 01.40น. ต่อไปขอให้ใช้แตรลมส่งเสียงบอกปัจฉาด้วย … จบ20:09 อาเกร็ดดิน น้องน้ำตาล อาติ้ว อาดินนามาคุย
21.03 พ่อครูลุกเดินมาดูทีวี ก่อนจะออกมา นั่งเก้าอี้ ส.หนักแน่น ทาน้ำมันเทพทาโร สวมถุงเท้า พ่อครูยังเอื้อนบทเพลง กลิ่นโคลนสาปควาย ท่อนหนึ่งว่า..ชีวิตเอยไม่เคยสบาย ว่าจะเปลี่ยนเป็น ชีวิตเอยเคยไม่สบาย กราบพระ กายบริหาร 3 ท่าเสร็จพ่อครูก็จำวัด 21.11 โดยมีแตรลมไว้เผื่อลุกขึ้นตอนดึกจะได้ปลุกปัจฉาด้วย อุณหภูมิ 27 C มีเค้าว่าฝนน่าจะตกอีก