บันทึกผ่านเลนส์ ส่องโพธิกิจ…พลังปิรามิด
วันพุธที่ 12 กันยายน 2561
เช้านี้พ่อครูตื่นตามปกติ 6 โมงเช้า ออกกำลังกาย 4 ท่าบริหาร หลังจากนั้นได้มานั่งเช็ดหน้าเช็ดตา สนทนากับคณะท่านปัจฉา พวกเรานำแบบสเก๊ต บอลลูนอินทรีย์ 5 พละ 5ที่อาแป้ง สู่แดนธรรม ได้สเก็ตมาเพิ่มเติม ถวายให้พ่อครูดู
เวลา 6.10 นาที ทีมสุขภาพบุญนิยม(อาพรตะวัน อาสุลี อานิด หมอแตงไท)ได้มากราบอาราธนาพ่อครูปรับตารางเวลาชีวิตใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับการทำงานของอวัยวะภายในต่างๆของร่างกาย จะทำให้พ่อครูมีสุขภาพดีขึ้นเพียงแค่ปรับให้ตรงตามนาฬิกาชีวิตใหม่
พ่อครูรับฟังอาพรตะวันและอานิดให้เหตุผล ทางด้านสุขภาพทำไมถึงต้องปรับชีวิตพ่อครูใหม่ และปรับแล้วมีผลอย่างไรกับร่างกายพ่อครู โดยพ่อครูให้เขียนเป็นตารางเวลามาถวายพ่อครู
อาแป้ง สู่แดนธรรมได้มากราบนมัสการพ่อครู ถามถึงเรื่องแบบสเก็ตบอลลูน อินทรีย์ 5 พละ 5 ที่ได้ออกแบบตามที่เห็นพ่อครูได้วาดมาว่าต้องแก้ไขอย่างไรบ้าง พ่อครูบอกว่าทำอย่างไรก็ถูกอยู่แล้ว อาแป้งยังได้นำเสนอเรื่องบ้านปิรามิด ที่อาแป้งได้ทำการทดลอง โดยให้กล้วยอยู่ในบ้านทรงปิรามิด กับ กล้วยที่อยู่ในบรรยากาศภายนอกโดยทั่วไป ปรากฏว่ากล้วยที่อยู่ในบ้านลังกระดาษรูปทรงปิรามิดมีความเหี่ยวเฉาน้อยกว่ากล้วยที่อยู่กับอากาศด้านนอกโดยทั่วไป ทำให้อาแป้งนึกต่อยอดไปถึงการสร้างที่พักสำหรับพ่อครูในการรักษาเซลล์ให้มีความสดอยู่เสมอ ชะลอการชราด้วยที่พักทรงปิรามิดโดยอาศัยฐานเลข 3 4 5และปรับทิศทางในการทำสิ่งปลูกสร้าง พ่อครูรับฟังก็เห็นดีด้วยให้ดำเนินการได้เลย
พวกเรานำแท่งแก้วทรงปิรามิดมาถวายให้พ่อครูดู ท่านบอกว่าสามารถสร้างที่พักเป็นลักษณะแบบนี้ได้เลย โดยพ่อครูจะจำวัดหรืออาจจะนั่งทำงานภายในปิรามิดนี้..มองจากแท่งแก้วทุกเหลี่ยมมุม จะเห็นการสะท้อนแวววาว พ่อครูยังได้เมตตาอธิบายถึงการกำเนิดปิรามิด ซึ่งเป็นศาสตร์โบราณในการรักษาร่างของผู้นำที่เป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวอียิปต์และชาวจีนกว่า 4500 ปี พ่อครูดูแบบบ้านหลังเล็กลอยน้ำทรงปิรามิด ดูแล้วสวยงามมีประโยชน์ ยังบอกกับอาแป้งว่าให้ทดลองสร้างมาถวายพ่อครูเพื่อจำวัดได้เลย ตั้งไว้ที่ห้องทำงานท่านปัจฉาที่มีจั่วเป็นสามเหลี่ยมอยู่แล้ว
เวลา 7.20 นาทีพ่อครูลุกไป ทำธุระส่วนตัวที่ห้องน้ำ ก่อนหน้านั้นท่านปัจฉาดินไทเสนอให้ทำปิรามิดบริเวณโถงช่องลมกลางดาดฟ้าชั้น 4 ซึ่งเวลานี้ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์อะไร นอกจากเป็นช่องแสง พ่อครูมายืนดูและเห็นดีด้วย ว่าสมควรสร้างช่องแสงนี้เป็นปิรามิดสำหรับให้พ่อครูทำงานหรือพักผ่อนได้เลย
พ่อครูกลับเข้ามาที่ห้องทำงานชั่งน้ำหนักได้ 48.8 กก.บอกคณะท่านปัจฉาว่าให้นำกระดาษที่เขียนตารางเวลานาฬิกาชีวิตมาติดไว้ข้างโต๊ะเลย พ่อครูจะได้คอยดูว่าเวลานี้ ควรจะทำอะไร วันนี้พ่อครูดำริว่าจะไปเดินออกกำลังกายโดยได้ฉันน้ำปานะก่อนที่จะเตรียมสวมอุปกรณ์ รองเท้าผ้าใบป้องกันอาการบาดเจ็บ ขณะออกกำลังกาย
เวลา 7.40 นาทีพ่อครูเดินไปอาคารบวร พร้อมท่านปัจฉาดินไทและท่านปัจฉาหนักแน่น ขึ้นไปชั้น 2 เดินรอบใหญ่ของอาคารบวรทั้งสองฝั่งโดยเดินข้ามสะพานเหล็กถักระหว่างอาคารทั้ง 2 ฝั่ง ไม่นานนักท่านปัจฉาเดินดินก็ตามมาเดินสมทบ
8.12 นาทีพ่อครูเริ่มเดินดูลดาวน์ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ลงมาเดินผ่านหน้าฮ้านปันกัน พบท่านสมณะถักบุญและสิกขมาตุผาแก้ว กำลังวางแผนการทำกสิกรรมภายในบ้านราช
พ่อครูมายืนเล็งปรับหัวพญาแร้ง ก่อนที่พ่อครูจะออกมาเดินถนนคอนกรีตหลังวิทยาลัยอาชีวะ ซึ่งถนนด้านหน้าวิทยาลัยอาชีวะ มองเห็นยังเป็นโคลนเละเนื่องจากฝนตกตลอดทั้งคืน พ่อครูเดินมาด้านหน้าโรงปุ๋ยพลังชีวิต นักเรียนสัมมาสิกขาที่เข้าค่ายเปิดเทอม กลับออกมาจากโรงปุ๋ยเข้ามากราบนมัสการหลวงปู่ โดยมีพี่ดาวชิดเดือน ดูแลการเข้าค่ายและติดตามน้องๆ อาเดือนแก้วจอดรถมอเตอร์ไซค์พ่วงมากราบหลวงปู่ มองไปที่รถเข็นเห็นใบและดอกขี้เหล็กอยู่เต็มคันรถ รถแบคโฮคันใหญ่ขับผ่านพ่อครูเพื่อเข้างานทำถนน
พ่อครูเดินกลับมาทางเดิมถึงหน้าโรงปุ๋ยพลังชีวิต พบรถของกรมวิชาการเกษตรที่มีเจ้าหน้าที่จะมาศึกษาดูงาน โดยที่ไม่ได้นัดหมายมา พอดีลุงแขก ธาตุดินกับปู่เถามาพอดี ได้เข้ามากราบพ่อครูจึงได้รับดูแลเจ้าหน้าที่จากกรมวิชาการเกษตร
ท่านสมณะพอแล้วกับท่านสมณะแก่นเกล้า มาพร้อมกับอาคงธรรม ศิษย์เก่าสุวรรณเข้ามากราบนมัสการพ่อครู เพื่อเดินทางไปดูไม้สำหรับนำมาซ่อมแซมเรือโคกใต้ดิน ถนนเส้นหน้าอาคารบวรเช้านี้เหมือนถนนเมนที่มีรถของชาวชุมชนและนักเรียนผ่านไปผ่านมา เพื่อไปเข้าฐานงานต่างๆ วิ่งสวนกันไปมาอยู่ต่อเนื่องรวมถึงญาติธรรมที่มาช่วยเก็บผักก็จะมีหลายคนเก็บกันคนละนิดคนละหน่อยแล้วนำส่งโรงครัวกลางเฮือนหญังกิน
พ่อครูเดินกลับมาด้านหน้าน้ำตกผาแหงน ท่านปัจฉาตามเก็บเศษขยะบริเวณน้ำตกผาแหงน แล้วเดินกลับมาใต้อุทยานสวนไม้ตายพบท่านสมณะคมคิด พ่อครูกลับขึ้นชั้น 4 มองดูตอไม้ที่นำมาจัดภูมิทัศน์ ก่อนที่กลับเข้าห้องทำงานและพักผ่อนหลังออกกำลังกาย
เวลา 10.50 นาทีพ่อครูลงมาฉันภัตตาหาร พร้อมท่านปัจฉาดินไทเร็วขึ้นตามคำอาราธนาของทีมสุขภาพโดยมีท่านสมณะ ท่านสิกขมาตุและญาติโยมยังอยู่กันเต็มศาลา โดยที่พ่อครูยังไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์และพยายามฉันอาหารให้เสร็จตามตารางเวลาที่ทีมสุขภาพได้กำหนดมา
พ่อครูเริ่มปัจจเวกขณ์ พิจารณาอาหารเวลา 10.52 นาที ฉันภัตตาหารเสร็จในเวลา 11.52 นาที วันนี้สำหรับการปรับเวลาของพ่อครูใช้ระยะเวลาในการฉันภัตตาหารประมาณ 1 ชั่วโมงโดยไม่ได้อ่านหนังสือพิมพ์ หลังจากนั้นพ่อครูแปรงฟันสิ้นสุดการฉัน แล้วจึงได้เริ่มอ่านหนังสือพิมพ์ในเวลาประมาณ 12.15 นาทีพร้อมทั้งดูข่าวสารจากโทรทัศน์ที่คลังเสียงเปิดถวายพ่อครูไปด้วย
เวลา 13:30 พ่อครูปิดหนังสือพิมพ์ที่ยังอ่านไม่เสร็จและเดินกลับชั้น 4 เพื่อไปพักผ่อนตามคำแนะนำในตาราง ขึ้นมาชั้น 4 พ่อครูยังตรวจดูตอไม้ตายต่างๆที่ ได้นำมาจัดเรียงกันไว้ ก่อนที่จะกลับเข้ามาห้องทำงานฉันน้ำ เปรยกับพวกเราว่าจะต้องแก้งานให้เสร็จ เพื่อจะปิดเล่มให้ทันส่งวันที่ 15 ซึ่งเหลืออีก 3 วันจากนั้นพ่อครูได้เปิดคอมพิวเตอร์นั่งพิมพ์แก้งานต่อ
เวลา 14.53 นาที อาแป้ง สู่แดนธรรมได้ทำโมเดลสำหรับทดลองการรักษาเซลล์ของผลไม้ ที่อยู่ในพีระมิดซึ่งอาแป้ง สู่แดนธรรมได้นำกล้วยกับลองกองมาเป็นปัจจัยในการทดลองครั้งนี้ วัสดุที่ทำพีระมิดคือลังกระดาษ โดยอาแป้งได้กำหนดทิศทางโดยใช้เข็มทิศ เพื่อให้ตรงกับสมมุติฐานที่อาแป้งตั้งไว้ เพื่อให้เป็นพีระมิดที่มีทิศทางของลมและไฟหรือความร้อนจากดวงอาทิตย์ ที่สามารถถนอมเซลล์ให้มีความสดได้ดีซึ่งถือว่าอยู่ในช่วงทดลองของอาแป้ง ที่ต้องรอการพิสูจน์อย่างน้อย 3-7 วัน
18:04 พ่อครูเดินไปลงลิฟท์ ออกมาเจอน้องธัมโม รอกราบอยู่ แล้วพ่อครูก็รีบเดินไปขึ้นเวที ซึ่งส.เดินดินและญาติโยมนั่งรอกันอยู่แล้ว
18:14 เริ่มรายการโดยส.เดินดินเกริ่นกล่าวถึงงานมหาปวารณา
84 48ปีโพธิกิจ ญาติโยมที่รับชมทางบ้านขอให้แสดงตัว
แจ้งผลการปฏิบัติธรรมมาทางช่องทางสื่อสารของบุญนิยมทีวีก็จะเป็นการดีทั้ง sms
fb line แล้วพ่อครู ตอบSMS และอธิบายธรรมะ 2
จบเวลา 20:15 พ่อครูนั่งพัก และสนทนาต่ออีกซักครู่
20:25 พ่อครูเดินลงมา ขึ้นลิฟท์ไปชั้น
4 เดินเข้าห้องทำงาน เปิดคอมฯเขียนต่อ
พ่อครูบอกถึงเจตนารมณ์ในการจัดงาน
48 ปีโพธิกิจส่วนหนึ่งเพราะ ตรวจสอบ”ความจริง”ขึ้นมาบ้างว่า
ผู้ที่เข้าใจธรรมะโลกุตระธรรม มีมากน้อยแค่ไหน(เช็คผล)
งานฉลอง 48 84 โพธิกิจ พ่อครูสมณะโพธิรักษ์
จึงเป็นงานที่ลูกหลานชาวอโศกจะมารวมตัวแสดงพลังของอาริยชนคนโลกุตระให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่า
ธรรมะของพระผู้มีพระภาคเจ้าที่มีสัมมาทิฏฐิยังคงมีอยู่ เป็นอยู่ได้ ณ
บวรราชธานีอโศก แผ่นดินพุทธนี้