บันทึกผ่านเลนส์ ส่องโพธิกิจ …ฉลองชุดถ้วยชาหยกดำ
วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2561
เป็นวันที่ 2 สำหรับการปรับเวลานาฬิกาชีวิตของพ่อครูที่เพื่อดูแลรักษาสุขภาพขยายอายุขัยให้ถึง 151 ปี
พ่อครูตื่นตามเวลา 05.00 น.ออกกำลังกาย 4 ท่าบริหารเช่นเคย ออกมานั่งเช็ดหน้าเช็ดตา ฉันน้ำปัสสาวะอุ่น ก่อนที่จะสนทนากับคณะท่านปัจฉา ย่อย ขยายธรรมะในหลายเรื่อง อาทิ เรื่อง ความจริงที่พ่อครูบอกว่า ความจริงอยู่ที่ปัจจุบันเท่านั้น ใครยังยึดติดกับสัญญาเดิมหรืออนาคตก็วางไม่ลง ท่านปัจฉาเรียนถามว่าแล้วการทำเจโตสมถะมีประโยชน์อย่างไร พ่อครูตอบว่า
1.สงบได้พักผ่อน
2.รู้จิตภายใน ว่าจิตตนเองนั้น นิ่ง ฟุ้งหรือหนักไปทางถีนมิทธะ อยู่ในตระกูลไหน รู้ศึกษาอาการของจิต
3.ได้เตวิชโช พิจารณาทบทวน บุพเพนิวาสนุสสติ ระลึกถึงเรื่องการเกิด ดับหรือทบทวน อาสวะ อนุสัย ว่ามีจริงเห็นความจางคลาย หรือดับไป ได้ทบทวน
พ่อครูยังเน้นเรื่อง “สมาธิหลับตาไม่ใช่ของพุทธเลย” เรื่อง “จิตผู้จบจะอยู่ในอาณัติ” เกิดก็เกิดไม่มีรส
รวมถึงเรื่องบ้านเมืองในปัจจุบันที่กำลังสะสางปัญหาในหลายมิติ ที่ต้องค่อยๆคลี่คลาย เพราะแต่ละเรื่องมีข่ายแหโยงใยสัมพันธ์กันอยู่ที่ต้องคลายออกตามลำดับ จะตัดตอนทิ้งไปเลย จะเกิดปัญหาตามมาไม่จบสิ้น..สังคมมี 2 ลักษณะที่ให้เห็นคือ อำนาจบาตรใหญ่ กับ อ่อนน้อมถ่อมตน
สนทนาจนถึงเวลา 6.18 นาที พ่อครูเข้าห้องน้ำ ทำธุระส่วนตัว ก่อนที่จะออกมายืนดูภูมิทัศน์ทั้งอุทยานสวนไม้ตาย สวนเกาะแก้วที่ชุ่มฉ่ำน้ำนองสนามหญ้า เนื่องจากฝนตกตลอดทั้งคืน มองไปที่ต้นหางนกยูง พ่อครูบอกว่า หมากผาง(หางนกยูง)ใบสดแข็งแรงดี ก่อนกลับเข้าห้องทำงาน ได้แวะไปที่ห้องช่องแสงบอกว่าให้ทำห้องปิรามิดได้เลย ตามแบบที่อาเกร็ดดินนำมาถวายเมื่อวานนี้
พ่อครูเข้ามาห้องทำงาน ถอดรองเท้าและเสื้อกันหนาวชั่งน้ำหนักได้ 49.2 กิโลกรัม ทำให้พวกเราค่อนข้างดีใจที่น้ำหนักพ่อครูขึ้นอีก 2 ขีด พ่อครูมาเปิดสวิตช์ทีวีทั้ง 3 ช่องหยิบรีโมทยืนเปลี่ยนช่องด้วยตนเอง ก่อนที่จะมานั่งโต๊ะทำงานท่านปัจฉาหนักแน่นถวายเสื้อกันหนาว บอกพ่อครูว่านาฬิกาบอกอุณหภูมิ 24 องศา นิมนต์สวมเสื้อกันหนาวครับ..พ่อครูก็เปรยๆว่าใส่เสื้อกันหนาวตามตัวเลขบอกก็ได้.. จากนั้นพ่อครูเปิดคอมพิวเตอร์ นั่งพิมพ์แก้ไขหนังสือคนจนที่มีแบบต่อ
เวลา 9.18 นาที พ่อครูลงมาฉันภัตตาหาร รับประเคนจากสสธ.เบน ภายในศาลาท่านสมณะ สิกขมาตุและญาติโยม กำลังทยอยกันมา ยังไม่ได้นั่งแถวเรียบร้อยกันเลย
เวลา 9.18 นาที พ่อครูลงมาฉันภัตตาหาร รับประเคนจากสสธ.เบน ภายในศาลาท่านสมณะ สิกขมาตุและญาติโยม กำลังทยอยกันมา ยังไม่ได้นั่งแถวเรียบร้อยกันเลย
เวลา 9.20 นาที พ่อครูปัจเวกข์พิจารณาอาหาร ฉันภัตตาหารก่อนหมู่สมณะและสิกขมาตุที่เพิ่งจะปัจจเวกข์พิจารณาอาหารกันในเวลา 9.43 นาที พร้อมญาติโยมลูกหลานนักเรียนสัมมาสิกขานั่งกันอยู่ครบ พร้อมกันเต็มศาลา ซึ่งไม่ได้เห็นบรรยากาศอย่างนี้นานแล้ว ที่พ่อครูลงมาฉันภัตตาหาร พร้อมชาวชุมชนและนักเรียน ซึ่งในวันอาทิตย์ก็จะมีเฉพาะชาวชุมชนไม่มีนักเรียน ท่านปัจฉาดินไทได้นำเรียนพ่อครูตั้งชื่อลูกสาวของศิษย์เก่าปฐมอโศก(ฟางข้าวกับพิทักษ์)ที่จะคลอดในเดือนหน้านี้ พ่อครูจึงฉันภัตตาหารพร้อมตั้งชื่อไปด้วย พ่อครูตั้งชื่อให้ว่า “แพงเพ็ญ”
10.12 นาที อาทวิชนำหนังสือพิมพ์ 2 ฉบับมาถวายพ่อครู ท่านรับแล้วเปิดอ่านทันที ไม่นานนักอาอ้อยจากผาธรรมได้มากราบนมัสการ และนำของฝากมาถวายพ่อครูไว้ที่ท่านปัจฉาดินไท หลังจากฉันภัตตาหารเสร็จยังคงนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ ท่านปัจฉาดินไทถามความหมายของชื่อ แพงเพ็ญ พ่อครูก็อธิบาย สรุปว่า สวย.. ราคาแพง พ่อครูอ่านหนังสือพิมพ์จนถึงเวลา 12.00 น.ท่านปัจฉาได้เตือนถึงเวลาที่จะต้องไปพักผ่อนเพื่อดูแลหัวใจในช่วงนี้ พ่อครูจึงเดินลุกจากโต๊ะ แต่ยังเข้าลิฟท์ที่ชั้น 1 ไม่ได้เพราะเพิ่งเทปูนปรับระดับหน้าทางเข้าลิฟท์ พ่อครูจึงเดินขึ้นบันไดไปขึ้นลิฟท์ที่ชั้น 2 ถึงชั้น 4 ก็ยังคงออกมายืนดูภูมิทัศน์ที่ท่านสมณะคมคิดได้ตกแต่งงานศิลปะอยู่ กลับมาห้องทำงานพ่อครูแวะดูงานทดลองปิรามิดของอาแป้ง สู่แดนธรรม ที่ได้ทดลองในเรื่องความสดของผลไม้ที่อยู่ในปิรามิด ซึ่งยังคงต้องรอผลการทดลองอีกประมาณ 1 สัปดาห์
12.08 นาทีพ่อครูเดินไปเปิดสวิทช์ทีวีทั้ง 3 ช่อง ท่านปัจฉาดินไทถวายผ้าเช็ดหน้าและเรียนพ่อครูว่าถึงเวลาพักผ่อนตามตารางที่กำหนด
พ่อครูเช็ดหน้าพร้อมกับยืนดูทีวีไปด้วย โดยช่องบุญนิยมทีวีกำลังมีรายการบวรบุญนิยม กำลังนำเสนอการศึกษาของนักเรียนสัมมาสิกขา พ่อครูพูดถึงว่าคนทั่วไปเขาคงงงว่า ทำไมโรงเรียนนี้ไม่เข้าห้องเรียนกัน แล้วเรียนกันตอนไหน
12.11 นาทีท่านปัจฉาหนักแน่น ได้นำของถวายที่อาอ้อยนำมาถวาย เปิดถวายพ่อครูชม เป็นชุดน้ำชาหยกดำ 1 ชุด(กา 1 กาพร้อมจอก 5 จอก ผู้ถวายคือ คุณ วิชา -แดง ญาติธรรมแม่สอด คนเดียวกับที่ถวายพระพุทธรูปหยกขาว 2องค์ ชุดน้ำชาหยกที่ภูฟ้าผาธรรม และเป็นเจ้าภาพร่วงานแกะสลักหยกรูปพ่อครู) พ่อครูได้แกะห่อหนังสือพิมพ์ออกและพิจารณารูปทรงและจัดเรียงด้วยตนเอง พ่อครูบอกพวกเราว่าท่านไม่เคยฉันน้ําชาที่ใส่ภาชนะมาในลักษณะนี้เลย ท่านยกกาน้ำชาขึ้นลองเทดู พบว่ามีน้ำหนักมาก เพราะทำจากหินที่เป็นหยกดำ พ่อครูจึงบอกให้นำไปล้างทำความสะอาดและใส่น้ำมาถวายพ่อครูได้
12.25 นาทีพ่อครูพักตามคำแนะนำในตาราง จนถึง 14.00 น. อ่าน SMS ที่ท่านปัจฉาดินไทนำมาถวายพร้อมกับดูตารางว่าเวลานี้จะต้องทำอะไร จากนั้น
14.50 น.พ่อครูก็เริ่มฉันน้ำจากชุดชาใหม่ แล้วก็เปิดคอมพิวเตอร์พิมพ์แก้ไขหนังสือคนจนที่มีแบบต่อ
17.03 น. กลุ่มอุโบสถศีลสันติอโศก มากราบนมัสการพ่อครู ถามไถ่เรื่องสุขภาพ สนทนากับพ่อครูซักครู่ ก่อนที่พ่อครูจะเตรียมตัวลงไปแสดงธรรมในรายการพุทธศาสนาตามภูมิ
18.00 น.ออกมาจากลิฟท์ เจอน้องธัมโมมารอกราบนมัสการ พ่อครูลูบหัวทักทายด้วยความเอ็นดู มาถึงโต๊ะแสดงธรรม แอร์เคลื่อนที่ มีเสียงดังและไม่ค่อยเย็น ท่านปัจฉาดินไทกับอาพูนไทช่วยกันย้ายแอร์เคลื่อนที่ของโต๊ะฉันมาเปิดแทน
18:13 ส.ฟ้าไทเริ่มรายการพุทธศาสนาตามภูมิ สมัยก่อนเคยฟังธรรมะ แต่ไม่มีใครที่สามารถอธิบายได้อย่างพ่อครู พ่อครู ตอบSMS แล้วแสดงธรรมเรื่องการเมือง อธิบายเรื่อง 3 อาชีพกู้ชาติ จบเวลา 20:14 นั่งพักซักครู่
20.21 เดินขึ้นลิฟท์พร้อมปัจฉาไปชั้น 4 เดินเข้าห้องทำงาน
เตรียมปิดเครื่องคอมฯ ดูรายการจากคสช. ก่อนมานั่งเก้าอี้ ส.หนักแน่น ทาน้ำมันเทพทาโร สวมถุงเท้า คุยกับทีมสุขภาพที่มาติดตามดูผลการปรับตารางชีวิตด้วย พ่อครูบอกยังทำตามตารางได้ ไม่มีปัญหาพ่อครูกราบพระ กายบริหาร.. จำวัดเวลา 20.45 อุณหภูมิ 27 C ไม่มีลมแต่ไม่ร้อนอบอ้าว เพราะฝนตกเมื่อเย็น
การดูแลรักษากายขันธ์ที่เป็นวิหารธรรมสำคัญในการปฏิบัติธรรม พ่อครูมีพฤติที่ปรากฎเป็นแบบอย่างให้ลูกหลานได้พากเพียร ปฏิบัติตามอยู่เสมอ วันนี้พ่อครูฝากให้พวกเราปฏิบัติอยู่ 2 เรื่องคือ
- พากเพียรให้สูงขึ้น (อัตตาลดลง ทิฏฐิตรงสมบูรณ์ขึ้น)
- รักษาสุขภาพตัวเองเพื่อติดตามบำเพ็ญธรรมไปกับพ่อครู
เป็นความเมตตากรุณาของพระโพธิสัตว์ที่พากเพียร ไม่ใช่เพื่อตนเองเลย แต่พากเพียรเพื่อเผยแพร่ศาสนาพุทธที่สัมมาทิฏฐิเพื่อประโยชน์สุขของมวลมนุษยชาติที่ต้องอาศัยคุณธรรมในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข