610926_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ ประชาธิปไตยที่ไร้อัตตาจึงเข้าถึงอิสราและสันติยา
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1mYtdL8w_5SiFaFaYEv-2YpmfhKRp66Tlrwfkrf3ZQuE/edit?usp=sharing
ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=1BBnS5thmBuymMfznbocdwAm9N-u7XMiw
สมณะเดินดินว่า…วันนี้เป็นวันพุธที่ 16 กันยายน 2561 ที่บวรราชธานีอโศก ช่วงนี้พ่อครูอยู่ในช่วงเขียนหนังสือคนจนที่มีแบบฉบับแก้แล้วไขอีก ก็เลยปรารภว่า จะลดเวลาเทศน์ลง พ่อครูตกลงจะเทศน์ วัน จันทร์(สำมะปี๋ซี่วิต) พุธ ศุกร์ อาทิตย์ ส่วนวัน อังคาร วันพฤหัสบดี และวันเสาร์ ให้สมณะสิกขมาตุย่อยธรรมะกัน
ทุกวันนี้โพลกี่โพลสำรวจมาก็ยกให้นายกฯประยุทธ์นั่งนายกฯต่อกันทั้งนั้น แต่คนที่ต่อต้านก็จะนึกแต่ว่าต้องเลือกตั้งๆเท่านั้น จึงเป็นประชาธิปไตย คนยึดถือแค่ภาษาบัญญัติ ถ้ามีคนเป็นอย่างนี้มากๆ ศาสนาก็ขยายตัวไม่ได้เหมือนกัน
พ่อครูว่า…ประชาธิปไตยขาเดียวเอาเรื่องการเลือกตั้งเป็นหลัก จะไม่มีผู้บริหารยิ่งใหญ่ขึ้นไปได้เลยถ้าไม่มีการเลือกตั้ง เขาบอกว่าการปฏิวัติก็เป็นเรื่องของทหาร ก็เลยบอกว่ายิ่งไม่ใช่ใหญ่เลย ประชาชนปฏิวัติก็ยาก เพราะฉะนั้นเขาจะไม่เข้าใจเรื่องประชาชนปฏิวัติเลย พูดเรื่องประชาธิปไตยว่าประชาชนปฏิวัตินั้นเข้าใจยาก ประเทศไทยทำประชาธิปไตยที่ประชาชนทำการปฏิวัติ ย้ำอย่างนี้ พวกเขาก็จะหาว่าเข้าข้างตัวเองเพราะพวกเราไปร่วมปฏิวัติ เราจะบอกว่าไม่ผิดกฎหมายยังไม่มีอาวุธ ร่วมมือกันจนกระทั่งเกิดคนออกมาเป็นล้าน จนในที่สุดชนะ หลายรัฐบาลได้งามที่สุดในโลก งามที่สุดในประวัติศาสตร์ประชาธิปไตย ที่มีมา 200 ถึง 300 ปี แม้ว่าประชาธิปไตยจะเริ่มจากอังกฤษ แล้วอเมริกาก็มาทำเป็นประชาธิปไตยขาเดียว เด่นทางอำนาจบ้าบอต่างๆนานา ไม่ได้เป็นอำนาจประชาชนอย่างแท้จริง ประชาชนมีอำนาจตอนเลือกตั้งเท่านั้น เขาก็ซื้อเสียงเอาไว้ให้อยู่ในอำนาจ เขาไม่ดูรายละเอียดพวกนี้
ก่อนจะได้ตอบก็ขอรำลึกถึงคุณสันติยา วีระพันธ์ เป็นผู้ที่ยืนยันยืนหยัดของชาวอโศกเป็นอุปัฏฐากใหญ่ของชาวอโศกแม้ยุคแรกๆ หนังสือชาวอโศกในยุคแรกๆมีคุณสันติยาเป็นผู้พิมพ์ผู้โฆษณาเป็นคนแรกๆ
ทำให้อยากรู้ว่า สาวิกา ผู้นี้เป็นใครกัน ลุงอ้วนช่างตัดผมปากซอย สันติอโศก มักจะอุ้มโถข้าวส่งมาศาลาทุกๆครั้งบอกว่า ป้าสันติยาให้หุงขึ้นศาลา ก็เจอกันเป็นประจำ มีคุณสันติยา เป็นอุปัฏฐาก
คุยกับคนวัดก็ได้รู้ว่า เตียงน้อยนี้ ตั่งนั้น ป้าสันติยาให้ คนโน้นคนนี้คนนั้นหลายๆคนป้าสันติยาให้ความช่วยเหลือมากมายหลายคน มาวัดทุกวันอาทิตย์ก็มาบำเพ็ญธรรมร่วมกิจกรรม ไม่เคยเห็นป้าสันติยาสักที คือไม่ค่อยลงมาแสดงตัวสักที ก็เลยคิดว่าใครหนอเป็นผู้มีจิตเมตตาคนนี้
จนวันหนึ่งมีประวัติคนไข้มาที่ทำงาน ชื่อนางสันติยา วีระพันธ์ มาทำการแอดมิดที่โรงพยาบาลด้วยโรคไตวาย หญิงชราร่างเล็กบาง แต่งกายเรียบร้อยชุดผ้าถุงนอนนิ่ง มีลูกชายและลูกสะใภ้อยู่ข้างเคียง ลูกชาย คุณปั้น พูดกับแม่ไพเราะสุภาพมาก เราและเจ้าหน้าที่ประทับใจในสิ่งที่ลูกชายคนนี้แสดงกับแม่เขามาก
คุณป้าสันติยา พูดกับลูกด้วยวาจาเรียบร้อยเช่นกัน จากนั้นก็ได้ทราบข่าวการเจ็บป่วยของป้าสันติยาเป็นระยะด้วยภาวะเรื้อรัง มีคุณป้อม(เคียงดิน) ช่วยเอาภาระดูแล ร่วมกับญาติธรรม ผลัดกันมาเฝ้าดูแล ร่วมกับญาติสายโลหิตของป้าสันติยา จนกระทั่งถึงลมหายใจสุดท้าย ผ่านมา 21ปีแล้ว
พ่อครูเคยพูดถึงป้าสันติยาฯหรือป้ากิตติยา วีระพันธ์ว่า เป็นนางวิสาขาของท่าน ที่ได้เกื้อกูล มีส่วนในโพธิกิจสำคัญๆ นางวิสาขาของอาตมาก็ข้าวกรอกหม้อจนๆอย่างนั้นแหละ ไม่ใช่ใครอื่นหรอกแต่ใช้สรรพนามแทนเท่านั้น
สมณะเดินดินว่า…นางวิสาขาสมัยพระพุทธเจ้านั้นร่ำรวยขนาดที่คนใช้ของนางก็ร่ำรวยขนาดกษัตริย์ยังสู้ไม่ได้
พ่อครูว่า…อาตมาพูดตามประสาอาตมาว่า คุณสันติยาเป็นนางวิสาขาของอาตมา มาเกื้อกูลโพธิกิจ ต่างๆเสมอมา
ผู้เขียนมาก็ขอกราบในบุญคุณของคุณป้าสันติยาโดยเฉพาะที่ดินของสันติอโศกที่คุณป้าได้บริจาคให้เป็นคนแรก ผืนแรก
เขาเขียนมาก็เอาล่ะ
สมณะเดินดินว่า…ในส่วนที่ผมประทับใจก็คือคุณสันติยาแม้จะเป็นที่ดินที่คุณสันติยาบริจาคที่สันติอโศก ถ้าพวกเรารู้จักกันในยุคนั้น คือเขาแทบจะไม่ได้แสดงตัวว่าเจ้าของสันติอโศกคือใคร ไม่ได้ออกมาแสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของแต่อย่างใด อยู่ในมุมของตัวเองสงบๆ
พ่อครูว่า…ไม่แสดง เหนียมด้วย เขาไม่ค่อยอยากให้ใครรู้ด้วย
สมณะเดินดินว่า…และที่สำคัญ คนเข้าใจผิดเสียมากด้วยเพราะคุณสันติยาทำธุรกิจเกี่ยวกับที่ดิน
แม้วาระสุดท้าย ความคิดของเขาก็ยังคิดแต่จะทำให้หมู่กลุ่มมีที่กว้างขวางขึ้น ทำงานจนกระทั่งวันตายที่จะทำให้หมู่กลุ่มมีกิจการก้าวหน้า แม้คนจะวิพากษ์วิจารณ์เข้าใจผิดแต่ก็ยังยืนหยัดยืนยันในความถูกต้อง เป็นบรรพชนที่ เราต้องระลึกถึงอย่างสำคัญ
พ่อครูว่า…มาดู sms ก่อน
_1614
-พระพุทธเจ้าไม่ได้ปฏิเสธทรัพย์หรือความร่ำรวย เพราะทรงเห็นว่ามีประโยชน์ ข้อสำคัญก็คือ ต้องได้ทรัพย์นั้นมาด้วยวิธีการที่ชอบธรรม และเมื่อได้มา ก็ใช้ให้เกิดประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น อีกทั้งยังมีจิตที่เป็นอิสระจากมัน ไม่ยึดติดในทรัพย์ – พระไพศาล #หอจดหมายเหตุพุทธทาส #BIA การเข้าใจเช่นนี้ ถูกต้อง ในแบบคนจน ไหมคะ
พ่อครูว่า…ไม่ถูกต้อง เข้าใจว่ายังรวยได้อยู่ คุณก็จะต้องมุ่งไปโดยอยู่นั่นแหละ พระพุทธเจ้าไม่ได้แปลว่าคนรวยๆก็ได้ แต่ท่านเป็นคนจนไหมล่ะ ท่านลาออกจากทรัพย์สินทั้งหมดไหมล่ะ ทำไมไม่เอาอย่างท่านล่ะ แล้วท่านก็พาคนออกมา โภคขันธาปหายะ พาคนมาจนมาลดละอย่าง อนาถบิณฑิกเศรษฐีก็สละจนหมดตัว ก็เป็นคนจน ไม่ต้องพูดถึงนางวิสาขาสละเท่าไหร่ก็ไม่หมด ก็มันมากจนเราคิดไม่ออก ถ้าเปรียบเทียบเป็นอัตรากับทุกวันนี้เศรษฐีของยุคปัจจุบันนี้สู้นางวิสาขาไม่ได้หรอก
พระไพศาลก็พูดอนุโลมให้คนรวยบ้างแต่อาตมาไม่ไว้หน้าเลยให้มาจนๆๆ
_การที่มีปัญหากับคู่กรณี แล้วไปเล่าให้มิตรฟัง โดยไม่เอ่ยชื่อเขาผู้นั้น เป็นการนินทาไหมคะ (คับแค้น แน่นอก )ซึ่งเราอาจเข้าข้างตนเองว่า ทำถูก
พ่อครูว่า…ไม่ออกชื่อก็ไม่ถือว่านินทา บอกเรื่องราวไม่ออกชื่อออกเสียง ไม่มีเชิงให้เขาสะดุดว่าเป็นใคร มีจิตใจแบบนี้ก็อยู่ถือว่าไม่นินทา แต่ถ้ามีจิตแม้จะไม่ได้ออกชื่อแต่มีจิตอยากให้เขารู้ว่าเป็นใครก็เป็นนินทา ถ้าหากบริสุทธิ์ใจเลยบอกไปเฉยๆให้เป็นตัวอย่างให้เป็นความรู้ให้ไปศึกษา เพื่อให้ฝึกฝนปฏิบัติธรรมแก้ไขอะไรไปก็ไม่เป็นไร
_บ้านราชฯ แผ่นดินพุทธ ที่พ่อครูนำทาง คนมีดีมีศีล วิถีไทย วิถีธรรมสุดเลิศล้ำโลกโลกุตระ เปรียบเสมือนย่อยุคพระศรีอารย์ได้ไหมคะ
_ปาลิตา ทองสุขนอก · กราบนมัสการท่านสมณะและสิกขมาตุสันติอโศกทุกรูปเจ้าคะ 2 อาทิตย์แล้วที่ฉากหลังเป็นสีดำ อยากให้เป็นแสงสีน้ำเงินสวย ๆ เหมือนเดิมเจ้าคะ สาธุจ้า
_จันทนา แซ่อิ้ว · ฟังเรื่องกรรมแล้ว หนาวเหมือนกัน ถึงไม่ทำชั่วแล้ว แต่ทำดีที่เป็นกุศลจนเกิดผลบุญยังน้อย ต้องขวนขวายเพิ่มก่อนสาย
_จาก ไลน์…
จาก ขวัญไพรเย็น ตอนล้างกิเลสใหม่ๆยากและทุกข์ค่ะ เพราะมันจะออกจากสิ่งที่เคยติด อย่างเรื่องอาหารต่้องเคร่งมากเพื่อจะออกให้ได้ก่อน แต่ตอนนี้ลูกกินได้ทุกอย่าง(ไม่มีเนื้อสัตว์ นม ไข่ ) กินอร่อยด้วยค่ะ ไม่มื้อเดียว บางทีก็กินทั้งวัน กินเยอะเหมือนตอนล้างกิเลสใหม่ๆเลยค่ะ แต่รู้ค่ะว่ากินมากมันไม่สบายกาย แต่ใจไม่ทุกข์เหมือนเริ่มล้างกิเลสใหม่ๆ แต่รู้ว่ากินมื้อเดียวสบายที่สุด แต่ความต่างคือ ตอนล้างกิเลสใหม่ๆมันทุกข์ แต่ตอนนี้ก็ทำเหมือนตอนที่ล้างกิเลสใหม่ ๆแต่มันไม่ทุกข์เหมือนเดิมแล้วค่ะ
หนูจะถามพ่อว่าการกระทำเหมือนกันแต่ไม่เหมือนกันตรงที่ตอนเริ่มล้างกิเลสใหม่ๆโคตรทุกข์เลยค่ะ แต่ตอนนี้ โคตรสบายเลยค่ะ เพราะมันไม่ได้ยึดมื้อไม่ยึดรส ไม่ยึดจืดไม่ยึดจัด การบำเพ็ญเหนื่อยร่างกายแต่ใจไม่เหนื่อย มีเมื่อยหัวค่ะแต่ใจไม่ทุกข์
….ขอพ่อช่วยอธิบายสภาวะเช่นนี้ให้ลูกด้วยค่ะ
พ่อครูว่า…กายสบายแต่ใจตะกละไง ซับซ้อนสลับไปมาจนกว่าเราจะรู้ว่าทุกข์ทรมานจะไปเอากับมันทำไม เขาบอกว่าคางคกเลือดหัวไม่ตกยางไม่ออกไม่ยอม เอาจนถึงขนาดนั้นก็แล้วแต่
ไม่อธิบายล่ะ คุณอยากจะลองไปลองมา ลองไปเถอะเดี๋ยวก็รู้เอง รู้เองดีกว่าจะมาบอก
_จากลูกศีรษะอโศก กราบนมัสการพ่อท่านที่เคารพยิ่ง
ลูกขออนุญาต กราบเรียนผลจากการฟังธรรม ที่พ่อท่านอธิบาย เรื่องของธรรมะสอง
ลูกมีความเข้าใจดังนี้ค่ะ ผิดถูกอย่างไร ขอความเมตตา พ่อท่านช่วยแก้ไข ให้ลูกด้วยค่ะ
ทำธรรมะสองให้เป็นหนึ่ง และทำธรรมะหนึ่งให้เป็นศูนย์
ขอยกตัวอย่างเป็นรูปธรรม ตามความเข้าใจของลูก เช่น เราจะเลิกกาแฟ
(กาแฟเป็นรูปนอก) ทำจากรูปนอกไปหารูปใน ด้วยฌาณหนึ่ง คือ พิจารณาว่า เราติดใจอะไรในกาแฟ
ติดใจรูป ติดใจรส กลิ่นหอม ความมัน ความหวาน และพิจารณาโทษภัยของกาแฟด้วย
พิจารณาทุกข์ที่ไม่ได้ดังใจ พอสลายได้ จากฌานหนึ่ง จนเกิดญาณสอง สามคือปิติ สุข และเกิดฌาณสี่ คืออุเบกขา
เป็นธรรมะหนึ่ง และทำธรรมะหนึ่งให้เป็นศูนย์ คือสลายรูปใน สลายอารมณ์ทั้งหมด
ที่อยู่ในจิตคือเวทนาเทียม ที่เป็นความชอบในรสอร่อย กลิ่นหอม ความมันหวานของกาแฟ
และสลายอุปาทาน ที่ฝังอยู่ในส่วนลึกของจิต และตรวจดูด้วยอรูปฌานสี่
จนไม่เหลือความชอบ ชัง ในกาแฟทั้งหมดสิ้น ไม่ว่าสัญญาใดๆ เล็กน้อยก็ไม่มี หมดสิ้นแล้ว
พ้นสังโยชน์ 10 แล้ว อย่างนี้ถูกต้องหรือไม่คะ ?
ถ้าถูก ลูกจะนำเป็นแบบอย่างปฏิบัติเรื่องอื่นต่อไป
กราบขอบพระคุณค่ะ
พ่อครูว่า…คนมันบ้าไปแล้ว ตอนนี้มีกาแฟขี้ช้าง (โยมว่ากาแฟขี้ชะมด) พ่อครูว่าคุณยังไม่ทันสมัย กาแฟขี้ช้างมาใหม่แพงกว่าเก่า คนเราอุปาทานจิตมันยึดถือบ้าบอ กินขี้เยี่ยวเลอะเทอะ ที่จริงไม่มีปัญหาหรอกให้ไม่มีเชื้อโรคที่จะทำร้ายร่างกายก็ได้
พ่อครูว่า ทำได้ถูกใช้ได้แล้ว
_คุณเพชรดินฟ้า…รายงานจากดินหนองแดนเหนือมาว่าได้ทำกิจกรรมต่างๆที่อาวาสสถานดินหนองแดนเหนือ มีกิจกรรมต่างๆรายงานมาให้ทราบ
_
กราบนมัสการพ่อครู ขออนุญาตนำเรียน โดยมิต้องออกอากาศ หรือตามแต่จะเห็นสมควร
อาวาสสถานดินหนองแดนเหนือ อุดรธานี มีกิจกรรม ค่ายอุโบสถศีล พร้อมกับค่ายสุขภาพฯ ระหว่าง 21-23 กันยายน 2561
และในวันที่ 23 กันยายน 2561 ได้จัด “งานทำบุญ สร้างกุศล บูชาคุณผู้อายุยาว” ครั้งที่1 (เหตุที่มีงานนี้เนื่องจาก ดร.บุญถม ธรรมศิริ ได้มาร่วมงาน “90 ปี ย่าเรณู ดิศโยธิน” เมื่อ 24 สิงหาคม 2561 ซึ่งมีสมณะมา 4 รูป ได้ฟังธรรมะจากสมณะแล้วซาบซึ้งมาก เรื่องการตอบแทนบุพการีโดยไม่รอให้ตาย จึงขอให้จัดฉลองให้แม่อายุ 90 ปี และมีผู้ร่วมฉลองเพิ่มขึ้นอีก)มีท่านสมณะ 4 รูป ท่านสมณะฝนธรรม ท่านสมณะดินทอง และท่านสมณะตรงมั่น สมณะมือมั่น ผู้อายุยาวมาร่วมฉลอง 12 คน ญาติๆซึ่งเป็นคนใหม่ก็มามาก รวมคนมาซื้อสินค้าอาจถึงร้อยมีกิจกรรม ทำวัตรเช้า เย็น ใส่บาตร และฟังธรรมจากท่านสมณะ
การสัมภาษณ์ผู้อายุยาวและครอบครัว และพิธีรดน้ำขอพร อวยพร ผู้ที่อายุ 70 ปีขึ้นไป
ผู้ร่วมงาน ได้ฟังธรรม เรื่องการทำบุญ สร้างกุศล แสดงความกตัญญูตอบแทนบุพการี ในขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ต้องรอให้ตาย เป็นสัมมาทิฎฐิ..ถูกตรงตามหลักพุทธศาสนา เรียบง่ายประหยัด เป็นผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน ไม่งมงาย
ผู้ร่วมงานได้รับของฝากมากมาย เช่น หนังสือธรรมะชาวอโศก ข้าวสาร ฯลฯ
ผู้ร่วมงานล้วนพอใจกับบรรยากาศที่อบอุ่นซาบซึ้งประทับใจ ผู้อายุยาวมีขวัญกำลังใจ
คุณยายมัจฉา ทองผล อายุ 84 ปี ตั้งใจเลิกเคี้ยวหมาก ทั้งที่เคี้ยวหมากตั้งแต่อายุ 17 ปี
ภาคบ่ายมีตลาดอาริยะ ขายปุ๋ยงอกงาม ราคา 80 บาท(ปกติขาย 115. ถุง 25 ก.ก.) ซื้อได้คนละ 10 กระสอบ และมีสินค้าราคาอาริยะอีกมาก
งานครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายทุกวัย และได้เห็นจุดที่บกพร่องควรแก้ไข คาดว่าถ้ามีครั้งต่อไป การบูชาผู้อายุยาวจะสมบูรณ์ยิ่งๆขึ้น
พ่อครูได้เตือนไว้ว่า ขอให้พัฒนาตนเองขึ้น และ อยู่กันให้นานๆอย่าเพิ่งตาย
ขอกราบน้อมรับเป็นปฏิบัติบูชา และขอให้กำลังใจหมู่มวลชาวอโศกให้อยู่กันนานๆให้เป็นเมืองแห่งผู้อายุยืนยาว แห่งหนึ่งของโลก
กราบนมัสการมาด้วยความเคารพบูชาครับ
เพชรดินฟ้า ดิศโยธิน
สม.รินฟ้า
ส.แสนดิน
ส.ฟ้าไทว่า…ผมมาในยุคที่คุณสันติยาไม่ตาย ไม่รู้สึกว่าแกเป็นเจ้าของที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตนเจอผมก็ยังไหว้กันเลย แต่คนที่เคยบริจาคที่ให้อโศก แต่แสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของสถานที่นั้นจะไม่ค่อยเจริญ แต่ถ้าใครไม่แสดงความเป็นเจ้าของความเป็นตัวตนที่นั่นก็จะเจริญได้มาก
เข้าสู่โหมดการเมือง
พ่อครูว่า…สู่แดนธรรมว่า เลือกตั้งไม่ใช่ประชาธิปไตยแต่เชิญตั้งนี่แหละเป็นสุดยอดประชาธิปไตยของโลก
เชิญตั้งนี้ใครเชิญล่ะ ประชาชนเชิญ ประชาชนเห็นดีเห็นด้วยพร้อมนั่นแหละเป็นประชาธิปไตย เลือกตั้งมันเป็นวิธีการนิดๆหน่อยๆ ซึ่งคนมีความฉลาดแกมโกงเก่งมาก มีกลวิธีในการที่จะให้คนมาเลือกตั้งให้ตัวเราได้มากที่สุด มันเล่นมาตั้งแต่เริ่มต้นตั้งแต่มีประชาธิปไตยมา มันก็ทำมาจนทุกวันนี้ มีวิธีการซับซ้อนยอกย้อนยุค ซึ่งจนกระทั่งรู้ไม่เท่าทันมันหนักหนาสาหัสทุกวันนี้ เล่ห์กลของการเลือกตั้ง
เพราะฉะนั้นในนัยลึกซึ้งของการมีประชาธิปไตยจึงไม่ใช่เข้าถึงได้ง่ายๆเข้าใจได้ง่ายๆแม้กระทั่งจบด๊อกเตอร์มาไม่รู้กี่ใบ อาตมาพูดถึงว่าพระพุทธเจ้าเป็นสุดยอดนักประชาธิปไตย ทั้งที่อยู่ในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นยุคของทาสแท้ แล้วท่านมีบารมีพระเจ้าแผ่นดินทุกพระองค์รับรองยอมรับ เหมือนกับในยุคนั้น ถ้าเป็นสหประชาชาติก็ยอมรับพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าเป็นนักประชาธิปไตยยิ่งกว่าในหลวงของเราอีก ในหลวงเราก็เป็นพระโพธิสัตว์ที่ดำเนินไปตามลำดับ
อีกคำหนึ่งของ สู่แดนธรรมว่า เราไม่ได้เป็นประเทศมหาอำนาจแต่เรามีเป้าหมายที่จะเป็นมหาภิบาล
ประชาธิปไตยมีการอภิบาล ไม่ใช่มีการใช้แต่อำนาจ แต่ใช้การอภิบาล ก็เคยเขียนกวีบทที่เกี่ยวข้องมาพูดมาหลายทีแล้ว คำว่าอภิบาลกับคำว่า เบ่งอำนาจ ปกครองด้วยอำนาจหรืออภิบาล ให้เป็นมหาอำนาจกับมหาอภิบาลด้วย อภิคือยิ่ง บาลคือ ดูแลบริหาร อภิคือยิ่งใหญ่เป็นเชิงบวกไม่ใช่เชิงลบเลย ละเอียดลึกซึ้งสุดยอด
ประชาธิปไตยนี้ อาตมาขอย้ำยืนยันว่าประชาธิปไตยของประเทศไทย ตอนนี้นี่โลกยุค Globalization ดูรายละเอียดกันไปหมดไม่สามารถปิดกั้นได้
ประชาธิปไตยของประเทศไทยจะเป็นตัวอย่างที่จะให้คนทั้งโลกได้ศึกษาไปเรื่อยๆ ก็ประชาธิปไตยของคนจากท่าทีของชาวโลกที่ปฏิบัติกับประเทศไทย ใครสังเกตออกไหม
โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นเบอร์ 1 ของประเทศ บริหารมา 4 ปีแล้ว ยิ่งนานมา ค่านิยมของชาวโลกที่สังเกตการบริหารของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชากลับเพิ่มขึ้นๆๆ
แสดงถึงชาวโลก เข้าใจประชาธิปไตยดีขึ้น คำว่า ทหารปฏิวัติ ตอนนั้นก็อยู่ในตำแหน่งพล.อ.เป็นผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจมากเพราะว่าผบ.ทบ.มีอำนาจคุมกำลังพลได้สูงสุด ในประเทศ มีกำลังพลสูงสุดมากกว่า ผบ.สส. อันนี้เป็นเรื่องสัจจะ เมืองไทยมีความฉลาดเข้าใจและรู้ ไม่ได้ขัดแย้งอันนี้
มีแทรกมาว่า…กปปส.กำลังไม่พอ กลัวทีมลุงตู่ถึงขนาดเลิกอุดมการณ์ที่เคยทำมา ทำการจับมือกับทหารเลย หนึ่งในแกนนำออกมาบอกว่า ขอโทษประชาชนที่ทำให้เกิดรัฐประหาร
พ่อครูว่า…อาตมาขอยืนยันว่า กปปส.กำลังเป๋แล้ว
ส.เดินดินว่า..ผมคิดว่า อันนี้ไม่ใช่ตัวแทนของ กปปส. แต่เป็นคนที่เคยร่วมเท่านั้น
พ่อครูว่า…เป็นเล่ห์กลการเมือง พวกนี้บาปกินหัว ไม่ยอมรับรู้ส่วนร่วม มุ่งจะเอาชนะท่าเดียว
อาตมาขอยืนยันว่าอาตมามีความรู้ประชาธิปไตย ไม่ได้มีแค่ชาติเดียวแต่มีมาตั้งแต่ยุคพระพุทธเจ้าร่วมรับรู้ อาตมาประกาศเป็นโพธิสัตว์เรียนรู้มาตลอด เป็นโพธิสัตว์ระดับ 7 เรียนรู้มาตั้งแต่สมัยยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ยังไม่มีชื่อประชาธิปไตยเลย แต่ว่าสภาวะการบริหารนั้นเป็นประชาธิปไตย สภาวธรรม พฤติกรรมต่างๆ เป็นแบบประชาธิปไตย เป็นเรื่องลึกซึ้ง อาตมาจะตายไม่ได้เพราะว่าธรรมะก็ยังไม่จบประชาธิปไตยก็ยังไม่จบ
พฤติกรรมในประเทศไทยยุครัฐบาลทักษิณ กับพฤติกรรมของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชา ก็ดูสิว่าสองอันนี้เทียบให้ชัดเลย ขอยืนยันว่าของทักษิณ เผด็จการตัวเอ้
ของพล.อ.ประยุทธ์เป็นประชาธิปไตยตัวเอ้ เช่นกัน
ศึกษาจากชั้นเชิงของความคิด ที่มีอดีตมีปัจจุบันมีอนาคต
แนวคิดชั้นเชิงของทักษิณทำมา 10 กว่าปีแล้ว ปัจจุบันนี้ก็ยังออกลาย ตั้งแต่ทักษิณเองจนนอมินีอีก 3 คน ส่วน พลเอกประยุทธ์ทำมา 4 ปี ทักษิณนั้น 10 ปีผ่านมาตั้งแต่พ.ศ.49 จนถูกขับออกไปปี 54 สุดท้าย น้องสาวคนโปรดก็ผ่านไปแล้ว แล้วพยายามจะเอาคนอื่นขึ้นมาก็ยังไม่ได้ เพราะพลเอกประยุทธ์ยืนหยัดยืนยันหลังจากนางสาวยิ่งลักษณ์แล้ว ก็ศึกษาจากชั้นเชิง ความคิดอดีตปัจจุบันอนาคตองค์ประกอบของข้อมูลเหตุปัจจัยต่างๆที่มันมีทั้งพฤติการณ์พฤติกรรม แนวคิด มันจะได้คำตอบของความรู้ว่า ประชาธิปไตยของสองคนนี้คืออะไรเป็นอย่างไร จะได้ประกอบความเป็นจริงของประชาธิปไตยว่ามีอย่างไรแค่ไหน
ความเป็นประชาธิปไตย 2 แบบที่ตื้นที่สุด
แบบแรกคือเอาการเลือกตั้งเป็นหลักก็คืออย่างอเมริกาเป็นต้น
อีกแบบไม่ใช่แค่การเลือกตั้งเท่านั้นคือแบบที่ไทยกำลังดำเนินไปอย่างลึกซึ้ง ว่ากันแล้วโดยรวม ประชาธิปไตยเป็น Majority ruled Minority Rights ที่ถูกสุด เพราะว่าประชากรของไทยมีแค่ 70 กว่าล้านเทียบกับประชากรของโลก 2000 กว่าล้าน เป็น Minority Rights
คำว่า Rights แปลว่าสิทธิมนุษยชนก็ได้แปลว่าความถูกต้องก็ได้ ส่วนน้อยถูกต้องที่จริงที่สุดแต่ส่วนใหญ่นั้นมันก็มีส่วนมาก คือส่วนน้อยที่มีเนื้อแท้ความเป็นประชาธิปไตยสูงที่สุดคือมีอิสระเสรีภาพมีความไร้อัตตา มีความรู้ทางจิตวิญญาณ
ประชาธิปไตยต้องมีอิสระและความไร้อัตรา
ความอิสระนั้นต้องเข้าถึงความอิสระอย่างสมบูรณ์แบบ
ส่วน อัตตาต้องไร้อัตตาจริง คนที่มีจิตอัตตาอย่างไร ต้องศึกษาจากจิตวิญญาณ 3
ภาษาฝรั่งจะมีหลายคำเช่นคำว่า Philosophy Epistemology Phenomenology
สามเส้านี้จะชัด คือจากปรัชญาก็เข้าหาความเป็นจริงขึ้นเรื่อยๆเป็น ส่วนPhenomenology เป็นการเข้าถึงความจริง มากที่สุด Epistemologyกำลังตามและสะสมอยู่แต่ถ้าเป็นPhenomenology จะครบครันสมบูรณ์สุด
ตัวเองจะเป็นนักปฏิบัติธรรมต้องเรียนรู้ปฏิบัติธรรมให้ได้เข้าถึงความอิสระเสรีภาพความไร้ตัวตนไร้อัตตา ได้แท้ ถึงจะรู้รายละเอียดของความเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง
น.สพ.เราคิดอะไรเดือนกันยายนวางตลาดแล้วในวันที่ 26 กันยายน ยังเหลือวันอีกบ้างที่จะหมดเดือนที่คือเรื่องของอโศก ตอนนี้รู้สึกเซาซากันไป ก็เร่งขันชะเนาะหน่อย ตอนนี้ทำเล่มตุลาคมอยู่ ก็ไม่น่าจะออกวันที่ 26 ตุลาคมนะ น่าจะออกได้ก่อนหน้านั้น เอาล่ะ อาตมาไม่ไปติเตียนอะไรหรอก พวกเราทำตามประสา
ประชาธิปไตยแบบพุทธ
(๑) “ประชาธิปไตย”โลกร้อง เรียกหา
ล้วนแต่หลง“มายา” อยู่แท้
หาใช่ยอด“สัจจา- ธิปัตย์”ไม่
แค่แข่ง“อำนาจ”แพ้- ชนะสู้กันไป
(๒) ใครแย่งอำนาจได้ ใหญ่ครอง
ข่มคนอื่นเก่งผยอง เบ่งบ้า
เอาเปรียบโลกทั้งผอง ด้วยกิเลส แท้เทียว
เห็นแก่ตัวกลั้วกล้า ไม่รู้“ตัวตน(อัตตา)”
(๓) คนผู้นำไป่รู้ “อำนาจ”
มีแค่“เฉกะ”ฉลาด ยึดไว้
หลงเต็มสิทธิ์ผูกขาด เบ่งใส่ “โลก”เลย
ถือว่า“ตน”ใหญ่ ใช้ อำนาจชี้บงการ
(๔) เป็นพาลใหญ่เบ่งกล้าม นักเลง
ใช้“อธิปไตย(อำนาจ)”ข่มเหง บ่รู้
ไม่หัดฝึกตนเอง มี“สติ” ตื่นเต็ม
“ความฉลาด”จึ่งไป่กู้ วิกฤติได้ใดใด
(๕) ไม่เคยเรียนพุทธแท้ “โลกุตระ”
มีแต่ฉลาด“เฉกะ” แค่นั้น
นั่นฉลาดแบบ“โลกียะ” พ้นกิเลส มิได้ดอก
“โลก-อัตตา”นี้หลากชั้น หลอกใช้ปุถุชน
(๖) คนผู้“เป็นใหญ่”แท้ ที่“จิต”
ตน“ใหญ่”เพราะพิชิต “ตน(อัตตา)”ได้
ไทยชนะชนิดวิศิษฏ์ เอาสงบ สยบอริ
ชนจึ่งมอบ“อำนาจ”ให้ รับใช้ประชาจริง
(๗) ทุกสิ่งไทยเลิศพร้อม ครบหมด
มี“อิสระ”สุดใสสด วิเศษฟ้า
“อัตตา”ก็หมดจด ดับสนิท สามมิติ
ฝึก“จิต”จนกาจ”กล้า แกร่งแกล้วคุณธรรม
(๘) ไทยสำเร็จหกถ้วน เป็นระบบ
พุทธยิ่งใหญ่ครันครบ พรักพร้อม
“วิญญาณ”ฆ่ากิเลสจบ บรรลุจุด สุดเฮย
“กษัตริย์-ประชา”ล้อม ถักร้อย“อธิปไตย”
“สไมย์ จำปาแพง”
๑๐ ส.ค. ๒๕๖๑
[นัยปก “เราคิดอะไร” ฉบับ ๓๓๘ ประจำเดือนกันยายน ๒๕๖๑]
พ่อครูว่า…อาตมาสาธยายความจริงไป ประชาธิปไตยที่แท้ ต้องศึกษาธรรมะ เพื่อลดละตัวตน ประชาธิปไตยที่มีแต่ให้คือการสร้างอำนาจ รัฐศาสตร์สอนว่าต้องแสวงหาอำนาจเพื่อให้เกิดประชาธิปไตย จึงเป็นรัฐศาสตร์ที่ผิดเพี้ยนประชาธิปไตยที่ผิดเพี้ยน
ท่านเดินดินนี่ก็เรียนเศรษฐศาสตร์แต่ลาออกมาแล้ว ซึ่งแสดงว่าพ่อแม่ของท่านเดินดินเข้าใจ
มาเจาะรายละเอียดลงไป
สมณะฟ้าไทว่า…พูดเรื่องประชาธิปไตย ฟังช่องเนชั่นโหวต ว่า สนับสนุนหรือไม่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯต่อ ก็ปรากฏกว่า คนกด สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ประมาณ 80 ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ มีคนไม่สนับสนุนก็แค่ 10% อย่างนี้เชิญตั้งได้เลย
หากเลือกตั้งเขาก็ไม่ได้แน่
พ่อครูว่า..เขาก็มีทางเดียวคือต้องเลือกตั้งเผื่อฟลุ๊ค
พลเอกปรีชา เอี่ยมสุพรรณเป็นผู้ประกาศปฏิวัติยึดอำนาจเป็นคนแรกในวันที่ 11 กันยายน 2556 อาตมายืนยัน ประชาชนยึดอำนาจแต่คนยังไม่เข้าใจ อาตมาเป็นคนรับคำของพลเอกปรีชาและออกมาประกาศต่อ คนไม่เข้าใจ นี่คือ เป็นการบันทึกประวัติศาสตร์ของประเทศไทย จะเป็นคนในประวัติศาสตร์ เอาไปสร้างหนังจีนรับรองเลย
สมณะเดินดินว่า…อิสรเสรีภาพ ไร้อัตตา และจิตวิญญาณ คนข้างนอกอาจจะเห็นยาก แต่ในพวกเราเองก็น่าจะเห็นกันได้ เราจะพัฒนาประชาธิปไตยในกระบวนการพวกเราอย่างไรให้เห็นความสำคัญของกระบวนการกลุ่ม กระบวนการกลุ่มจะไปได้เพราะว่าเราลดอัตตาของตัวเอง ทำอะไรก็พยายามไม่ยึดถือความเห็นของเรา และตกลงกันไป เป็นมติของหมู่กลุ่มไม่ได้เอาทิฏฐิของตัวเอง ที่บ้านราชฯไม่มีห้องถกเถียงแบบสันติอโศก ถ้ามีก็จะถกกันมากมายแต่นี่เรายอมรวมกันได้มากกว่า ชาวอโศกมีกระบวนการพัฒนาประชาธิปไตยอยู่ตลอดเวลา ประชาธิปไตยจะเจริญได้เพราะแต่ละคนไม่ยึดถือความเห็นของเรา เอาตามมติของที่ประชุมตกลงกัน จะเป็นการทำประชาธิปไตยให้เกิดความเจริญขึ้นมาเกิดความสงบสุข หมู่กลุ่มไหนมีความสงบสุขก็แสดงว่าเป็นประชาธิปไตย
พ่อครูว่า…ขออ่าน คอลัมน์ของคุณจริงจัง ตามพ่อ ใน นสพ.เราคิดอะไร ฉบับกันยายนนี้
นัยปก : ประชาธิปไตยไทยแบบพุทธ
ประธานาธิบดีสหรัฐ(ต้นแบบประชาธิปไตยของโลก) ได้ให้สัมภาษณ์ออกอากาศเมื่อวันพฤหัสบดี (23 สค.) ทรัมป์กล่าวเตือนว่า… เศรษฐกิจของสหรัฐจะพังพินาศหากเขาโดนถอดถอนออกจากตำแหน่ง ทุกคนจะยากจน เขายังคุยว่าเศรษฐกิจสหรัฐก้าวหน้า การจ้างงานมากขึ้นในยุคสมัยของเขา “ผมไม่รู้ว่าคุณจะถอดถอนคนที่ทำงานอย่างยอดเยี่ยมได้อย่างไร” (แต่อีกด้านเขายอมรับเต็มปากว่าเงินที่จ่ายเพื่อปกปิดเรื่องอื้อฉาวที่ไปนอนกับดาวโป๊และนางแบบเพลย์บอยนั้น เป็นเงินของเขาเอง จึงไม่ผิดกฎหมายเลือกตั้ง)
ลองกลับมาดูความมั่นใจของนักการเมืองไทย ดูบ้าง “ “ผมมั่นใจว่า วันนึงเมื่อผมวางมือทางการเมือง นายวัน อยู่บำรุง จะได้เป็นรัฐมนตรี (มีเสียงเฮและปรบมือจากกองเชียร์ดังสนั่น) ” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง มั่นใจ หรือจากปากของผู้ก่อสงครามช่วงชิงอำนาจรัฐ ที่ได้ประกาศ ชูธงรบ อีกครั้ง พร้อมการปลุกระดมสงครามยังไม่จบ การที่จะแพ้นั้นมีแค่ ๒ ทาง คือตายกับยอมแพ้! “อยากบอกทุกคนว่าถ้าเราไม่ยอมแพ้ คำว่าแพ้มีได้สองกรณี คือ ๑.แพ้เพราะตาย กับ ๒.แพ้เพราะยอมไปเอง ถ้าเรายังสู้อยู่เราก็จะไม่แพ้!”ทักษิณ ชินวัตร (ผู้สร้างสงครามประชาธิปไตยในแผ่นดินไทย จนทำให้ฝ่ายประชาชนถูกเข่นฆ่า พากันบาดเจ็บล้มตายมาตลอดกว่า ๑๐ ปีแล้ว)
พ่อครูว่า: น่าสงสารทักษิณมาก เพราะว่าเขาแพ้ไม่เป็น เขาจะทุกข์ไม่ใช่แค่ในชาตินี้ เขาจะทุกข์ข้ามชาติ นี่เขาดีขึ้นนิดนึงนะ ตรงที่เขาบอกว่า เขาจะแพ้ก็แพ้เอง แต่ก่อนว่าแพ้ไม่มี นิดนึงก็ไม่ยอม แต่ตอนนี้มีนิดนึง ลดลงไป แต่อย่างไรก็ดี เขาจะไม่มีวันยอมแพ้ง่ายๆหรอก ไปห้ามอย่างไรก็ไม่หยุดหรอก อาตมาขอบอกได้เลยว่า แม้เขาจะดูทีว่าเขาจะชนะ แต่ขอยืนยันว่าในประเทศไทยเอาชนะไม่ได้ ในยุคปัจจุบันนี้ต่อจากนี้ไป แม้ตอนนี้ช่วงนี้ เขาจะดูทีว่าจะชนะ หรือจะได้แต้มอย่างไรก็แล้วแต่ แต่ชนะไม่ได้!
เพราะประเทศไทยมีมวลประชาชนที่มีความรู้เรื่องประชาธิปไตยมากพอที่เขาจะเอาชนะไม่ได้
แต่อย่าชะล่าใจไปเท่านั้นเอง แม้แต่รัฐบาล ก็อย่าไปประมาทดูถูกดูแคลนเขา!
..อาตมายืนยันว่าขณะนี้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยที่ดีที่สุดในโลก เพราะทำกันอย่างจริงจังมีความเจริญก้าวหน้า แต่ความเสื่อมของประเทศไทยที่ถูกนักเลือกตั้งสร้างค่ายกลโกงกินกันมาเกือบ ๘๐ ปีแล้ว มันสะสมหมักหมมมาแย่เต็มที ก็เลยต้องแก้ไขกันอย่างหนัก แต่มันก็ดีขึ้น ๆ ตอนนี้การเมืองกำลังเข้าไคล ขอสรุปเลยว่าประชาธิปไตยไทยนี่แหละดีที่สุด เป็นประชาธิปไตยที่มีรากฐาน ของศาสนาพุทธ เพราะเนื้อแท้ของประชาธิปไตย จะต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญคือ
๑. อิสระเสรีภาพ ๒. ไม่มีอัตตาตัวตน ๓. มีจิตวิญญาณ ที่รู้จักธาตุจิตซึ่งเป็นประธานของความเป็นคน มีจิตวิญญาณเป็นประธานสิ่งทั้งปวง เพราะฉะนั้นจึงจะทำวิญญาณของเรา ให้เป็นวิญญาณที่สูงสุดคือ อิสรเสรีภาพ และไม่มีตัวตน นี่คือสุดยอดของความเป็นประชาธิปไตย ซึ่งในหลวงรัชการที่ ๙ ทรงเป็นแบบอย่างของนักประชาธิปไตยที่มีธรรมะเป็น “โลกุตระ”ๆ คือไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อส่วนรวม เพื่อมวลประชาชนอย่างแท้จริง
ท่านให้ประชาชนมีอิสระเสรี และมีประชาธิปไตยในตนจะได้เป็นอำนาจของตน แล้วจะได้แสดงอำนาจที่จะช่วยประเทศชาติ ด้วย “ราชประชาสมาสัย” เพราะเป็นประชาธิปไตยสองขา เพราะมีพระเจ้าอยู่หัวกับประชาชน ร่วมกันทำงานถักร้อยประชาธิปไตย อย่างลูกกับพ่อ อย่างที่ในหลวงท่านทรงทำมาแล้ว อย่างที่เห็นๆ จนเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก เมืองไทยเราตอนนี้ จึงมีความสงบสุขกว่าอเมริกาๆ ชึ่งเป็นประชาธิปไตยขาเดียว ไม่มีกษัตริย์ ไม่มีจิตวิญญาณ เป็นประชาธิปไตยที่ต้องใช้เงิน อำนาจบาตรใหญ่และอิทธิพล แล้วเข้าไปแย่งชิงอำนาจกัน เป็นสมบัติผลัดกันชม ผลัดกันใช้อำนาจบาตรใหญ่
จริง ๆ แล้วผู้ที่สมควรจะได้ไปบริหาร ถ้าหากแย่งอำนาจอยู่ก็ยังไม่ใช่ประชาธิปไตยแม้สักนิด ส่วน ประชาธิปไตยจริง ๆ คือ ผู้ที่ประชาชนจะยอมยกให้ขึ้นไปบริหารเป็นรัฏฐาธิปัตย์องค์ยอดจริงๆเลย ไม่ว่าจะกี่ปี ๆ ก็คนนี้แหละ มีความเห็นขัดแย้งกันน้อยที่สุด เหมือนอย่างที่ในประเทศไทยยกให้ในหลวงรัชกาลที่ ๙จากจิตวิญญาณจริง ๆ ของปวงชนชาวไทย ที่เห็นความจริงว่า ผู้นี้ ๆ เป็นคนทำเพื่อประชาชนจริง ๆ เราจึงพากันยกย่องนับถือ ด้วยปัญญาของเราเอง อย่างอิสระเสรี ไม่มีกฏเกณฑ์อะไรมาบังคับให้เราต้องกระทำ.
พ่อครูว่า..สมมุตินะ เลือกตั้งนี้ ทักษิณได้คะแนนมากที่สุด ทักษิณจะตั้งใครเป็นนายกฯ คิดถึง คึกฤทธิ์ ปราโมช มีแค่ 18 คะแนนในพรรคเขาก็ยังได้เป็นนายกเลย คึกฤทธิ์ ปราโมชสู้พลเอกประยุทธ์ไม่ได้ในการบริหาร เพราะมีเหตุปัจจัยอื่นๆอีก
ขณะนี้ เอาล่ะ มันก็ต้องอวดดีกันไว้ทั้งนั้น แม้ตอนนี้ อาตมาว่า ทักษิณคงไม่ได้ตายด้วยโรค แต่คงอกแตกตาย เพราะแกกดข่มเยอะนะ Pretender แสดงความสุขทางภายนอกแต่ในใจจะทุกข์แค่ไหน
พ่อครูว่า..ศาสนาพุทธไม่ใช่ศาสนาเทวนิยมแต่เป็นศาสนาอเทวนิยม เป็นเรื่องลึกซึ้งสลับกันไปสลับกันมา เขาจะหาว่าอาตมาไม่อยู่กับร่องกับรอยแต่คนที่เข้าใจแม่นสภาวะ จะยิ่งชัดเจนแยก 1 แยก 2 ได้ เพราะมีความรู้เป็นโลกุตระ นิพพานสุญญตา เป็นฐานจิตที่ว่างเปล่าจากอคติ จากกิเลส สามารถมองอะไรได้กระจ่างใส เพราะว่าจิตไม่มีอะไรขวางภายใน
เพราะฉะนั้น 0 นี่แหละถึงจะเป็นทั้งหมดและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ผู้ที่จะรู้ได้กว้างรู้ได้ทั้งหมดเพราะว่ามี 0 จิตไร้ความปิดกั้น จิตยิ่งทำความไม่รู้ออกไปก็ยิ่งรู้ๆๆ เป็นสัจจะธรรมะ 2 ที่ยากที่คนจะเข้าใจได้ พูดไปอธิบายภาษา คนก็ไม่เชื่อเท่าไหร่ แต่ว่ามีคนปฏิบัติ เท่าที่อาตมามีภูมิธรรมวัด รู้ ขณะนี้คนทั้งโลก เข้าใจประชาธิปไตยดีขึ้นดีขึ้นแล้ว
ประเด็น ที่จริงก็คือพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาเป็นทหารออกมา ตอนแรกเขาก็ไม่ยอมรับต่อต้าน แต่เมื่อประชาชนในประเทศยอมรับ และพลเอกประยุทธ์ก็ปฏิบัติเป็นประชาธิปไตยที่เป็นไปได้ดีเหมาะสมกับกาละเข้ากับยุค อาตมาว่า เหมาะสมหมดเลยทั้งท่าทีลีลา อาตมาก็เลียนแบบไม่เก่ง บางทีดูยียวนแต่เหมาะสม ปิดปากพวกที่อย่างโน้นอย่างนี้ได้ดีนัก
คือ มี สิ่งที่เป็นความจริงอยู่ในตัวเองเยอะ โยนความจริงไปพวกนั้นก็อึ้ง หยุด ก็ดีอีก นักข่าว นักผู้รู้นักสัมภาษณ์ก็มีปฏิภาณปัญญา เมื่อเจอความจริงเข้า ก็เหมือนพระพุทธเจ้าตรัสกับใครก็แล้วแต่ ตรัสไปแล้ว เขาก็นิ่งก้มหน้าซบเซาลงไปเลย
เป็นแต่เพียงว่าให้สตินิดนึงอย่าผยองอย่าหยิ่งในอำนาจ ทุกอย่างให้เป็นผู้อ่อนน้อมถ่อมตนเป็นคนรับใช้ที่ดี แต่ลีลานี้ใช้ได้แล้วอาตมายังสู้คุณไม่ได้เลย อาตมาก็มีท่าทียียวนแต่ไม่เก่ง มันต้องใช้อย่าง มีสัปปุริสธรรม 7
เช่นทำกับทักษิณตัวต่อตัวเต็มที่เลย แต่ทำกับประชาชนอย่างยืดหยุ่น ทำกับทักษิณเด็ดขาด ไม่เปลี่ยนแปลงตอกหลักถมเทปูนทับ เอาโลหะเททับอีกชั้น
สมณะเดินดินว่า…จับตัวมาไม่ได้
พ่อครูว่า…ถ้าจับตัวมาจะเป็นเผด็จการ ไม่จับตัวมานี่ เอ็งเก่งก็ดิ้นไปแล้วกรรมการให้คะแนน นี่เป็นลีลาเหนือลีลาของพล.อ.ประยุทธ์ การไม่จับทักษิณนี่ ทำให้เห็นอะไรมากขึ้นแม้แต่คนของทักษิณเองก็จะเห็นอะไรมากขึ้น
สิ่งเหล่านี้เป็นปรากฏการณ์จริงให้ศึกษา เป็นยุคไม่ปิดกั้นการศึกษา อาตมาว่าวิเศษได้เห็น แม้อาตมาจะเป็นตัวหมากตัวหนึ่งในกระดานหมากรุก อาตมานี่ จริงๆเป็นตัวอะไรแต่คนเขาหาว่าอาตมาเป็นตัวเบี้ย แม้แต่โคนเขาก็ไม่ให้เป็นเลยไม่ต้องพูดถึงม้าเรือเลย เป็นขุนไม่ได้แน่ (โยมว่าพ่อครูเป็นกระดาน)
เล่นได้ทุกตาขาดไม่ได้เลย เป็นธรรมะสอง เป็นสิริมหามายา ที่กลับไปกลับมาซับซ้อนแต่ไม่สับสน ไม่ผิดพลาด
สอนในศาสนาพุทธสอนธรรมะสอนให้เป็น0 แล้วก็เป็นธรรมะ 3 4 5 6 7 8 ธรรมะ 10 11 12 13 14 เป็นสภาพหมุนรอบเชิงซ้อน ขยายความหมุนรอบเชิงซ้อนเป็นมหาจักรวาลได้
ขออภัยขอพูดนิดนึง ในอนาคต อาตมาตายไปแล้วคนจะขุดเอามาศึกษา แต่ตอนนี้ไม่แลไม่เห็นคุณค่า เขาขุดมาไม่ได้เอามาต้มยำ แต่ขุดขึ้นมาศึกษา ในสิ่งที่อาตมานำพา ก็ไม่รู้อาตมาก็ยังไม่ยอมตาย ก็คงอีกพอสมควร เพราะว่ามันซับซ้อน เดี๋ยวก็ว่าตายเดี๋ยวก็ว่าไม่ตาย
ที่ไม่ตายนี้อาตมายังจะค้นพบพลังงานที่เรียกว่า Coefficient สัมประสิทธิ์ พลังงานนี้อาตมามั่นใจขึ้นอีกมากว่าอันนี้แหละคือสัมโพชฌงค์ของพระพุทธเจ้า คืออิทธิบาท 4 ที่มันจะนำพาให้แม้แต่อายุยืนยาวได้ก็คืออันนี้ เพราะฉะนั้นอาตมาจะพิสูจน์ทางรูปธรรม ให้คนเห็นเลยนะ ไอนี่แหละ จะบอกว่าเป็นโรคหรือวิบากก็คือๆนี่แหละ แล้วมีเหตุด้วยนะ หมอไม่เก่งยังผ่าไม่ได้ หากผ่าออกก็สบาย แต่ผ่าไม่ได้เสี่ยงตายเขาก็ให้อยู่ไป ก็เป็นวิบาก เข้าใจถึงได้ไม่รำคาญอยู่กับมันไป อาจทรมานกายแต่ไม่เป็นไร ไม่ทำให้ไม่มีเรี่ยวแรง แต่ไอแทรกแซง ก็มองอจินไตย คืออาตมาต้องประกาศตัวต่อ ไอ i คือตัวเรา ยังจะแสดงตัวตน และยังจะขยายไปว่า I คืออะไร โปรดติดตามว่า I คือใคร อย่ากระพริบตา แล้วจะรู้ว่า I ที่ชื่อว่าโพธิรักษ์นี้คือใคร
สมณะเดินดินว่า…พ่อครู ประกาศตัวตนในยุคไอทีแต่พ่อครูไอหลายที คนเดาพ่อครูยาก ท่านว่าท่านไม่ใช่หมอดูแต่เป็นคนดูหมอ