ก.ย.292018ศาสนา610929_พ่อครูให้โอวาท งาน 42 ปีศีรษะอโศก รำลึกบรรพชน – แพทย์แผนไทย ยุค 4.0 อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1p0HHDVk2Ef5sW7EcF9YI48VRU5BE0aFbF2wbtZd0dGk/edit?usp=sharing ดาวโหลดเสียงได้ที่ https://drive.google.com/open?id=1TW-yvMYy6F9hPd2K5D6Q2I2EM8NXCC2V เวลา 09.45 น. พ่อครูว่า…วันนี้วันเสาร์ที่ 29 กันยายน 2561 ที่บวรศีรษะอโศก ส.ถ่องแท้ว่า… วันนี้พูดถึงประเด็น 42 ปีศีรษะอโศกพ่อครูทำงานมา 49 ปีมา ทำไมพ่อครูเห็นว่าที่นี่ควรเป็นวัดเป็นพุทธสถาน ทิศทางการพัฒนาชุมชนควรเป็นอย่างไร พ่อครูว่า…ทำไมจึงสมควรจะตั้งเป็นศีรษะอโศก สมควรก็เพราะว่าหนึ่ง มันมา ป๊อกอยู่ตรงนี้ ท่านดินดี กับอัควัณโณ สององค์แรกเลย พระอโศก สันตจิตโตกับอัคควัณโณ มาป่าช้าศีรษะอโศก มายึดครองก็เอา แต่ก่อน พระธุดงค์กับป่าช้ามันไปด้วยกัน ถ้าพระธุดงค์ไปยึดป่าช้าไหน ก็เสร็จ พระธุดงค์องค์นั้นทั้งนั้นแหละ ใครเขาไม่กล้าเถียงเขากลัวฤทธิ์ธุดงค์ เขากลัวป่าช้ากัน แต่พระธุดงค์ไปนอนป่าช้าเลย ก็อาศัยความยึดถือความเชื่อมั่นของคนก็มาอยู่ที่นี่ไป อยู่ที่ป่าช้าที่นี่แหละ ที่จริงคือป่าช้าของเขาย่านนี้ โยนไข่ตกตรงไหนก็เผา(ตั้งงกองฟอน) ตรงนั้นแหละ พอเรามาอยู่ 2 ปีแรกเราไม่ได้นับนะของศีรษะอโศก ที่นับเอาพุทธาภิเษก 2 ปีแรก ไปนับเอาเมื่อเริ่มต้นผ่านไป 2 ปีแล้ว ปีแรกๆมีประชากรไม่ถึง 50 คน เมื่อ 2 ปีผ่านไปก็เป็นร้อยและหลายร้อยขึ้นมาเรื่อย มายึดเอาปีนั้นเป็นปีเกิดของศีรษะโศก อยู่มาเราก็ซื้อที่ดินเพิ่ม ปลูกบ้านเรือนไปอีก ขยายเพิ่มเติมจนเป็นร้อยๆไร่ ไปซำตาโตง ไปทางของตระกูลสิงห์คำบริจาคมาด้วย ก็กลายเป็นศีรษะอโศกที่มีเป็นร้อยไร่ทุกวันนี้ ก็มีวิวัฒนาการเป็นอยู่ของมนุษยชาติ อยู่อย่างวัฒนธรรมของเรา ที่อาตมามั่นใจว่าจะต้องปลูกฝังให้เจริญงอกงามขึ้นไปอีกในสังคมโลกเลยล่ะ วัฒนธรรมที่เราทำอยู่นี่ อาตมามั่นใจว่าเป็นของพระพุทธเจ้าแบบนี้ซึ่งทำไม่ได้ง่ายทำยาก ที่มาเคร่งๆกัน ฆราวาสก็อยู่ศีล 8 ศีล 10 กันได้ อย่าว่าแต่ศีล 5 เลย อยู่กันอย่างเสมอสมานกัน ผสมผสาน อยู่กันอย่างผาสุกด้วยหลักธรรมพระพุทธเจ้าและก็ปฏิบัติมีมรรคผลจริง ปฏิบัติแล้วมีมรรคผลจริงจึงเกิดจิตเป็นประธานของสิ่งทั้งปวงเป็นตัวเรา (พ่อครูไอ ตัดออกด้วย) เพราะฉะนั้นเมื่อมารวมตัวด้วยทฤษฎีของพระพุทธเจ้าเป็นธรรมะพระพุทธเจ้า ทฤษฎีหรือทิฏฐิอันเดียวกันคนละภาษา ภาษาบาลีกับภาษาสันสกฤตเท่านั้นเอง เราอยู่มาก็ปลูกฝังให้เจริญงอกงามเพราะเรามีศีลสมาธิปัญญา อธิศีลอธิจิตอธิปัญญาอธิมุติ มันเป็นสัมมาทิฏฐิจริงๆจึงเกิดมาจริงซึ่งได้มรรคผลขึ้นมาเกิดเป็นพฤติกรรมสังคม พฤติกรรมของแต่ละคนแต่ละคนเกิดขึ้นมาอย่างสอดคล้องกันเสมอสมานกัน มันก็เจริญงอกงาม ที่นี่ก็เป็นแหล่งหนึ่ง ศาลีอโศกกับศีรษะอโศกเกิดขึ้นพร้อมกัน ที่จริงสันติอโศกเกิดหลังอันนี้หน่อยนึง แต่เราก็จะถือว่าเกิดพร้อมกันก็แล้วกัน 3 แห่ง ศีรษะอโศกศาลีอโศกแล้วก็สันติอโศกเป็น สามเส้าแรกของชาวอโศกก็เกิดขึ้น ถือว่า สันติอโศกอยู่ในเมืองกรุงอยู่ในกรุงเทพเลย อันนี้ก็เป็นอยู่ต่างจังหวัด ศาลีอโศกทางเหนือ ทางนี้ก็อีสาน ก็เป็นแหล่งลงหลักปักแหล่ง สร้างสรรค์บ่มเพาะผู้คนขึ้นมาในทฤษฎีพระพุทธเจ้า 42 ปีขึ้นมาแล้วก็เป็นรูปร่าง มีความเป็นอยู่มีวัฒนธรรมมีพฤติกรรมมนุษย์มีพฤติกรรมสังคมขึ้นมาอย่างแท้จริง อย่างที่เป็นนี้ ซึ่งทฤษฎีพระพุทธเจ้ารวมหมดทั้งสังคมโลก ไม่ใช่แค่สังคมประเทศน่ะ ด้วยความเป็นมนุษย์ ประวัติพระพุทธเจ้าศึกษาความเป็นมนุษย์กับความเป็นสังคม ท่านไม่ได้ศึกษาอื่น อาตมาบอกยืนยันว่าควรจะเข้าใจได้ว่าพระพุทธเจ้านี้ท่านศึกษาความเป็นมนุษยชาติแต่ละบุคคลปุคคลปโรปรัญญุตา ปริสัญญุตาหมู่กลุ่ม จนขยายขึ้นเป็นสังคมตำบลอำเภอจังหวัดประเทศจนเป็นแต่ละส่วนของโลกจนรวมเป็นทั้งโลกอย่างนี้เป็นต้น ก็เกิดการสมานประสานกันกระจายแพร่ขยายไป จากที่แก่นแกนออกไปสู่ข้างนอกเอื้อมเอื้อเกื้อกว้าง แพร่ขยายพฤติกรรมจิตวิญญาณ ที่เป็นอย่างนี้ รูปกับนามจิตกับกาย จิตกับองค์ประกอบวัตถุ มันเป็นอย่างนี้ ทั้งการรักษาเผยแพร่เผื่อแผ่ก็เป็นพฤติกรรมของสังคมโลก ก็เกิดการขยายผลเชื่อมโยงกันที่มันไม่ชอบกันก็ขัดกันไม่ชอบกันมากก็ทะเลาะกัน หนักเข้าก็ตีกันฆ่ากัน แต่ของพระพุทธเจ้านั้นละเว้นการฆ่า จะร้ายแรงอย่างไรไม่เอาแล้วจบ เรื่องการฆ่าไม่เอา โดยเฉพาะการฆ่าและการทำลายมนุษย์เป็นเบื้องต้น ไม่เอาเลยไม่ฆ่าไม่แกงมนุษย์ ถือเป็นอนันตริยกรรมสำหรับพระ ปาราชิก สำหรับพระ อย่างนี้เป็นต้น ซึ่งมีหลักเกณฑ์ขั้นตอนพระพุทธเจ้าตรัสไว้ชัดเจน สังคมมนุษย์นี้ ที่แยกภาษาที่เรียกวาธรรมะบ้าง ของโลก ของสังคม ศาสนา แยกโลกแยกศาสนา แยกการเมือง แยกธรรมะ ซึ่งที่จริงมันเป็นธรรมะ 2 มันเป็นอะไรสองอย่าง ธรรมะคือสิ่งที่มีอยู่สิ่งที่ทรงไว้ มันมีอยู่ 2 สัมพันธ์การปฏิสัมพันธ์กันมีประโยชน์มีโทษ ต่อกัน ก็ศึกษาโทษ ศึกษาประโยชน์ ศึกษาคุณศึกษาโทษ อะไรเป็นโทษก็เลิกไม่ทำอย่าให้มันมีพฤติกรรมนี้แม้จะเป็นพลังงานก็ให้พลังงานนั้นหายไปสูญหายไปให้มันไม่มีอำนาจไม่มีฤทธิ์แรงอะไรอยู่ในโลกในสังคม ซึ่งเป็นความสามารถที่ยิ่งใหญ่มากเลยที่พระพุทธเจ้าท่านได้สอนเรา เราทำได้จนกระทั่งตัวเราและบรรยากาศใกล้ชิดเรามันมีฤทธิ์มีอำนาจ ป้องกันเป็นค่ายเขื่อนกั้นเป็นบัฟเฟอร์ กลั้นเอาไว้ได้บางทีตาเราไม่เห็นแต่มีพลังงานข้างนอก มีพลังงานรูปนามอย่างหยาบกลางละเอียด ธาตุดินน้ำลมไฟเป็นพลังงานซ้อน พระพุทธเจ้าสอนเราถึงธรรมนิยาม 5 สอนถึงอุตุนิยาม พีชนิยาม จิตนิยามกรรมนิยามธรรมนิยาม เป็นความรู้ที่สูงที่สุด อาตมามีความรู้เรื่องเหล่านี้ก็เอามาขยายความอธิบายพวกเราได้รู้ก็สามารถเป็นไปได้สามารถรู้ความปฏิสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันสังเคราะห์กันสังขารกัน ตั้งแต่อุตุ ดินน้ำไฟลมจนถึงพืชพรรณธัญญาหารจนถึงจิตวิญญาณ แล้วจิตวิญญาณก็ประกอบด้วยกรรม ที่จิตวิญญาณของแต่ละคนเป็นประธานของแต่ละคนทำการจัดการกรรมของตนเองควบคุมกรรมของตนเองให้มีพฤติกรรมให้มีบทบาทให้มีพลังงานให้มีสิ่งที่เกิดความเคลื่อนไหว จะเบาจะแรง จะมีผลเปลี่ยนแปลงหรือสร้างสรรอะไรต่ออะไรไปก็เกิดจริง จึงเกิดรูปสังคมที่เกิดอะไรต่างๆนานาตามความจริงใจตามปัญญาที่บริสุทธิ์ ความจริงใจบริสุทธิ์จึงเกิดสภาพที่เราทำตามจริง เราไม่สร้างอกุศล เราไม่สร้างสิ่งที่เป็นโทษเป็นทุจริตเราสร้างสิ่งที่เป็นสุจริตสิ่งที่เป็นคุณ เป็นประโยชน์แก่ตนแก่ท่านแก่สังคมแก่โลก ความจริงอันนี้มันเป็นความจริงซึ่งอาตมามั่นใจว่าคนเกิดมาเป็นคนนี้มันต้องการอย่างนี้ทั้งนั้นแหละเป็นแต่เพียงว่ามันโง่ชั่วคราว มันจะโง่ถาวรดักดานนานก็แล้วแต่คน แต่จริงๆแล้วมันเปลี่ยนแปลงได้คนนี่ แม้มันจะโง่ดักดานนานเท่าไหร่สักวันหนึ่งมันก็ต้องเข็ดต้องหลาบ แต่มันอาจจะนานจนกระทั่งเราตายเกิดตายเกิดจนเราปรินิพพานแล้วมันก็ยังไม่รู้สึกตัวก็เรื่องของมันแต่มันก็ต้องเปลี่ยนแปลง มันต้องเจ็บต้องหลาบแหละเป็นสัตว์ขั้นมนุษย์แล้ว มันจะนานเท่าไหร่ก็แล้วแต่บารมีใครมาได้มีมันสันดานใครสันดานมัน มันก็เป็นเรื่องสัจจะความจริงก็มีเท่านั้น พวกเรารู้แล้วตามที่พุทธเจ้าตรัสรู้เอามาประกาศให้ทำอย่างนี้อันอื่นเข้าใจแล้วเราก็ทิ้งไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวไม่ต้องไปอะไรกับมันปล่อยมันไปเราก็ทำแต่สิ่งที่ดีของเราไป สิ่งดีนั้นมันก็เกิดเป็นผล อย่างที่มันเกิดที่มันเป็น มันเป็นคุณต่อโลกต่อมนุษยชาติสังคม ประเทศไทยมีแก่นโลกุตระ ประเทศอื่นเป็นเทวนิยมประเทศอื่นไม่มีความรู้ถึงธรรมะ 2 เทวะแปลว่า 2 แต่พระพุทธเจ้าท่านรู้หมดภาวะ 2 ทำให้เป็นหนึ่งทำให้เป็น 0 ได้ทำให้เป็นมากขึ้น 3 4 5 6 7 8 9 10 เป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่นเป็นล้านเป็นแสนเป็นล้าน เป็นโกฏิไปเลย ทำได้ มีการต่อเนื่องสัมพันธ์กัน มีการเกี่ยวเนื่องกันเป็นลูกโซ่ที่เป็นระเบียบระบบจนเป็นระบอบ เกิดผลจริงมีจริงเป็นจริงอย่างแท้จริงเกิดขึ้นได้ เพราะงั้น เรามีสิ่งจริง และมีสิ่งที่ดีอันนี้ด้วยความบริสุทธิ์ใจของเรา เราก็ทำ เราก็มีประโยชน์เพื่อเราทำให้ตัวเรานี้มีผลดีเจริญพัฒนา สังคมที่ร่วมด้วยก็เกิดผลดีพัฒนา มันไม่ใช่เรื่องเสียหายเลยไหมว่าคนไม่รู้ ก็เขาไม่รู้ ก็ไปว่าเขาไม่ได้ ดีไม่ดีเขาจะมาต้าน เขาจะมาทำร้ายเราก็ป้องกันตัวเองได้ ให้คนที่มาทำร้ายทำร้ายไม่ได้ เป็นอสังหิรัง ไม่มีอะไรมาล้มล้างได้ ซึ่งเป็นเรื่องจริงพิสูจน์ได้ อาตมาก็มั่นใจว่าคุณธรรมระดับโลกุตระอย่างพวกเราชาวอโศกไม่มีใครมาลบล้างได้หรอก มีแต่จะมันจะเกิดขึ้นหรือวาระมันก็จะเสื่อมของมันเอง ไม่มีอะไรจะมาทำลายไม่มีอะไรจะมาตีแตกได้ มันเกิดมันก็เสื่อมของมันเหมือนกันแม้จะไม่มีอะไรมาตีแตกมันก็เสื่อม แต่ว่ามันไม่ได้เสื่อมหรือแตกไปโดยใครมาทำลาย แต่มันเสื่อมไปด้วยเหตุปัจจัย กรรมกาละเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปตามลักษณะของไตรลักษณ์เป็นธรรมดาธรรมชาติ ไม่มีอะไรยั่งยืนถาวรนิรันดรหรอก เพราะฉะนั้นในช่วงนี้เป็นช่วงที่สังคมประเทศไทยนี้กำลังจะเจริญ กำลังโตขึ้นงอกงามแตกเนื้อหนุ่มเนื้อสาวกำลังแตกตัวขึ้นมา สังคมโลกกำลังมองเนื้อหนุ่มเนื้อสาวแตกเปรี๊ยะๆ ประเทศอื่นก็มาชำเลืองดูเห็นว่ามีน้ำมีนวลขึ้นมีสิ่งที่น่าชวนชมชนนิยม มันก็เกิดขึ้นตามจริงสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดีที่อาตมามั่นใจว่าคนจะต้องมาเอา 1 เราเป็นแล้วได้จริง 2 ไม่มีใครเขาทำได้เหมือนเราในโลก 3 เขาก็แสวงหากันจริงๆ 4 เราก็เผื่อแผ่ได้ เจตนาเราก็ต้องการให้เขาได้ของจริงนี้ไปด้วย มันก็ลงตัวกัน เป็นอันที่ 5 ปัญจะสาขา มันก็โดนลงตัวกันได้เกิดแน่ ไม่มีทางที่ใครจะมาห้ามได้ ช่วยกันเลย ช่วยกันนี้คือช่วยอะไรช่วยตัวเรานี่แหละเป็นหลัก ตัวเราเองนี่แหละทำตัวเราเองให้เจริญ เคยคิดว่าตัวเองจบแล้วไม่มีความเจริญต่อจากนี้ได้อีกแล้วใครเป็นอย่างนั้นบ้างยกมือขึ้น ตอนนี้อาตมาก็ยังอุ่นใจภูมิใจและยังไม่อยากตายง่ายๆยังพยายามจะอยู่เพื่อที่จะชมสิ่งที่ประเสริฐของพระพุทธเจ้าของมนุษยชาติว่ามันเจริญเป็นอย่างนี้ ใครจะไม่อยากชมนะ ใครก็ต้องอยากเห็นอยากชมสิ่งที่ประเสริฐสิ่งที่ดีของโลกของมนุษยชาติ เพราะฉะนั้นก็ต้องรักษาร่างกายรักษาชีวิตให้ดีๆรักษาไม่ดีนี้ตายโหงตายเหวนะ หรือ ตายห่าก็ได้ ห่านี่คือโรค ตายโหงคืออุปัทวเหตุ เดี๋ยวนี้โอ้โหมันเยอะ ตายด้วยโรคก็เยอะ แต่พวกเราก็ต้องพยายามป้องกันไม่ให้ตายด้วยโหงด้วยห่า ไม่ได้พูดหยาบนะแต่พูดธรรมะพูดด้วยพยัญชนะที่สื่อสารกันรู้เรื่องให้ฟังง่ายๆสั้นๆ ไม่มีเวลาขยายความแล้ว ตอนนี้โลกุตรธรรมในโลกกำลังก่อหวอดกำลังผลิตผลผลิดอกออกผล ที่จะเจริญงอกงามต่อไป เพราะคนในโลกนี้ไม่มีอะไรสูงสุดเท่ากับโลกุตรธรรมที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งประกาศอยู่ในโลก อันเดียวกันหมดโลกุตรธรรมอันเดียวกันหมด มีแต่พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าเท่านั้นแหละที่ท่านไม่ได้ประกาศในโลกแต่ท่านก็มีความรู้ สัมมาสัมโพธิญาณเดียวกันกับของพระพุทธเจ้า กับพระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ท่านไม่ประกาศ ท่านไม่ประกาศว่าท่านเองมีสัมมาสัมโพธิญาณ ประกาศกับโลกมนุษย์ จนเกิดศาสนาพุทธ โดยท่านไม่ได้ประกาศ พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านไม่ได้ประกาศและท่านก็ปรินิพพานเป็นปริโยสานเป็นอิสระเสรีภาพส่วนตัวของท่านไป ก็เลยไม่มีภาพปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้ามีชื่อขึ้นมาในโลกว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งก็เท่านั้นเอง ความแตกต่างระหว่างปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้ากับสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็มีคำจำกัดความว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งในโลกกับไม่ได้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่งในโลกแต่ท่านก็เท่ากันอย่างนี้เป็นต้น ประเด็นนี้ต้องไขความเพราะว่าเป็นเรื่องที่สุดยอดแล้วความแตกต่างระหว่างสัมมาสัมพุทธเจ้ากับพระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้านี้ เพราะคนเข้าใจผิดว่าเป็นปัจเจกพุทธะ ซึ่งไม่ใช่ปัจเจกสัมมาสัมพุทธะอย่างนี้เป็นต้น ปัจเจกพุทธะนั้นคือพวกมีอนันตริยกรรม หรือว่าเป็นผู้หญิง ผู้หญิงนี้จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าไม่ได้ ได้แค่ปัจเจกพุทธะ จะใส่คำว่าเจ้าก็ได้ เป็นปัจเจกพระพุทธเจ้าไม่มีสัมมาสัมพุทธะ นี่เป็นนัยยะสำคัญ เป็นได้แค่นั้น นี่เป็นขีดขั้นของอจินไตยสิ่งที่เป็นกรรมวิบากที่เป็นอจินไตยเป็นธรรมดาธรรมชาติ ผู้หญิง 1 ผู้ที่มีอนันตริยกรรมเป็นที่สุด มันก็มีเงื่อนไขหลายอันที่เป็นผู้ที่ไปทำอนันตริยกรรมมีเงื่อนไขหลายอันที่ไม่สามารถเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ คุณก็จะต้องตายสูญไปเหมือนกัน ปัจเจกพุทธเจ้าก็สามารถตายศูนย์ได้เหมือนกัน แต่ถ้าเขาตั้งใจได้ก็ต้องบำเพ็ญบารมีต่อไปจนกว่าจะข้ามเขตมาเป็นสัมมาสัมพุทธะ มาเข้าเขตโลกุตระอันสมบูรณ์แบบเป็นเรื่องอจินไตยที่ยังไม่ขออธิบายต่อ เมื่อถึงเวลาพวกเราบำเพ็ญเป็นโพธิสัตว์อย่างอาตมาถึงขีดขั้นก็จะพูดได้อย่างเต็มใจไม่กลัวผิดเพราะว่าเราตั้งใจแต่สิ่งที่ถูกต้องสิ่งที่ผิดเราไม่พูด พูดไปแล้วมันเสีย เสียไปไหนก็เป็นบาปของเราด้วยคนอื่นก็พลอยเสียไปด้วยแล้วจะไปทำทำไม ตัวเองก็เสีย อันอื่นก็เสีย เราฉลาดแล้วเราไม่โง่จะทำไปทำไม กรรมอันนั้นไม่ต้องให้มันเกิด เขาก็เสียเราก็เสียทำไปทำไม คนที่มีพลังงานอำนาจในการควบคุมได้แล้วย่อมจะไม่ทำมันเป็นสัจจะ คนที่มีกิเลส 1 คนที่ไม่รู้อีกหนึ่งเขาก็ทำ ทั้งๆที่รู้ว่าไม่ดีแต่กิเลสมีเขาก็ทำ แต่ถ้าคนควบคุมกิเลสได้อยู่เหนือกิเลสได้อย่างแท้จริงแล้วไม่ทำหรอก ก็ทำแต่สิ่งที่ถูกต้องที่ดีที่ไม่เป็นผลเสียทั้งเราทั้งเขา สัจจะอันนี้อาตมาก็ค่อยๆพูดไป คนก็ไม่ค่อยเข้าใจได้ง่ายๆ เพราะฉะนั้นสรุปอีกที ปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้านี่ เอากาละเป็นตัวตัดสิน กรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากับพระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นมีคุณภาพมีคุณวิเศษเท่ากัน ท่านจะทำกรรมได้เท่ากัน มีคุณสมบัติสูงสุดเท่ากันคือกรรมกับกาละ พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้ากับพระปัจเจกพระพุทธเจ้านั้น กาละไม่เท่ากัน พระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นทำกาละก่อน ทำลายธาตุขันธ์ตัวเองเป็นปรินิพพานเป็นปริโยสานไปก่อน ก็ต่างที่กาละเท่านั้น พระพุทธเจ้าทำได้อย่างไรพระปัจเจกสัมมาสัมพุทธะก็ทำได้อย่างนั้นเหมือนกันในเรื่องกรรม แต่ในเรื่องกาละ อิสระเสรีภาพของพระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านมีสิทธิ์ที่จะตัด กาละนั้นเอง ท่านไม่ประกาศศาสนาแล้วท่านก็สูญไปจากเอกภพนี้ทำลายอัตภาพแตกจบ พระสัมมาสัมพุทธเจ้ากับพระปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงต่างกันตรงที่ กาละ นี้แหละ ซึ่งไม่ใช่เรื่องเดานะ เป็นเหตุปัจจัยองค์ประกอบความหมายว่ามันมี ลิงค เพศ ที่ต่างกันตรงไหนระหว่างสัมมาสัมพุทธเจ้ากับปัจเจกสัมมาสัมพุทธเจ้าจุดสำคัญจุดนี้แหละ จะเรียกว่าจุดเดียวก็คือจุดนี้ นี่ก็อธิบายละเอียดสำทับกัน สูงสุดแล้วกาละ เพราะว่าคือการเคลื่อนของจักรวาลถ้าไม่มีการเคลื่อนก็ไม่มี กาละเกิด ถ้าอยู่นิ่งอยู่กับที่ก็ไม่เกิด กาละ แต่เคลื่อนก็มีกาละ ยิ่งเครื่องหมุนวนเลยก็เป็นโลก สามเส้า โลกเบี้ยวๆก็เป็นโลกที่ไม่สมบูรณ์ แต่โลกที่รียาวไปไกลก็ไม่กลมง่ายๆ จนกว่าจะเป็นวงกลมได้สมดุลนิ่ง มันก็จะเร็วจะไม่ถูกต้านจากอะไรมันก็จะหมุนได้นาน เหมือนลูกข่างกินน้ำจั้น จะวิ่งได้นานไม่มีอะไรมาขัดสีเป็นวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ วิทยาศาสตร์ทั้งทางโลกและจิตวิญญาณก็ยิ่งชัดเจนเพราะมีธาตุรู้เป็นองค์ประกอบสมบูรณ์แบบอย่างนี้เป็นต้น เพราะฉะนั้นพฤติกรรมที่มีเรามีรากฐาน มีของจริงพวกนี้มันจะเกิดการพัฒนาขึ้นมาในโลก เรามีอายุเรามีกรรมกิริยาเรามีเวลาเราก็มาช่วยกันสร้างช่วยกันต่อหัวต่อหางต่อรูปต่อตัวตนของมันของโลกุตรธรรมต่อไป มันเป็นประโยชน์แก่สังคมแก่มนุษยชาติมันไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร มันก็ต้องสร้างให้แก่โลกเราก็ช่วยกันทำ ยิ่งผู้ใดจะต่อภพภูมิ หรือภพภูมิเรายังไม่เจริญได้สูงสุดก็จะได้อานิสงส์ได้คุณค่า ขึ้นไปเรื่อยๆ ประเทศไทยนี้เป็นตัวตั้งตัวต้นของโลกเป็นแบบของโลกุตรธรรมจะเกิดกลุ่มก้อนทางธรรมเป็นพลังธรรม แล้วก็จะต่อออกไปขยายตัวออกไป สู่มวลมนุษยชาติทั้งโลก เป็นของดีไม่ใช่ของที่พาให้เสียอะไร แล้วโลกก็จะต้องมีของดีอันนี้ไปจนกว่ามันจะขยายเต็ม โลกุตระก็จะมีถึงขั้นเกิดขึ้นตั้งอยู่ peak สุด แล้วมันก็จะเสื่อมซึ่งมันก็จะเป็นรูปสามเหลี่ยม สามเหลี่ยมนี้ตอนแรกที่สร้างขึ้นก็จะเป็นความสูงชัน เสร็จแล้วพอเราตายไปก็จะเป็นสามเหลี่ยมมียอดสุด แล้วมันก็จะมีพลังงานโมเมนตัมไปสู่ความเสื่อม ชรตา หากต้นทุนอ่อนแรงลง จากโพธิสัตว์มาหรืออรหันต์ จากอรหันต์ก็เป็นเหลืออนาคามี มาเป็นสกิทาคามี เป็นโสดาบัน มาเป็นกัลยาณชน จะมาหาปุถุชนก็หรี่ลงๆ จากธรรมะของบุคคลที่เป็นต้นธรรมต้นทางที่เส้นตรง ก็จะลดลงๆ ขณะนี้พลังงานกำลังขาขึ้นจนกว่าจะ peak สูงสุดขีดหนึ่งแล้วมันก็จะจบมันก็จะเสื่อมลง ถ้าไม่มีโพธิสัตว์ใหญ่กว่าอาตมาในกัปป์นี้ พออาตมาตาย องค์อื่น ๆ พี่เป็นโพธิสัตว์รองลงมาที่เป็นอรหันต์เป็นอนาคามีเป็นสกิทาคามีเป็นโสดาบัน ก็จะไล่เรียงลงมาค่อยเสื่อมลงไป จนหมดไปพลังงานที่จะขยายผลแก่โลกก็จะยาวนานไปอีก ระยะทางนี้ไปอีก 2,000 ปี ระยะทางนี้ก็มีสัดส่วน ไม่ได้พูดอย่างลงตัวเป๊ะ ก็ดูรูปร่างสามเหลี่ยมนี้ มีเส้นตรง 90 องศา แยกส่วน ส่วนดันที่ขาขึ้นเป็นตัวสร้าง ส่วนต่อมาก็เป็นตัวผลที่เป็นด้านขาลง ก็จะยาวนานไปตามของจริงที่มันมี มันมีของจริงก็ยืนยันได้ต่อไปใครจะอยู่รักษาขันธ์ยืนยันชีวิตให้ยืนยาวจนถึง เวลาที่อาตมาว่า ไทยสามารถอยู่ได้นานกว่าอาตมาถึง 200 ปีก็อาจจะเห็นผลที่ชัดเจน รักษาได้ชีวิตถึง 200 ปีก็สามารถเป็นผู้ที่จะนำความจริงนั้นนำความรู้ถ่ายทอดบอกยืนยัน แก่ก็เดินต่อไปได้อย่างมีตัวตนบุคคลจริง แต่ใครอยู่ไม่ถึงก็ตายไปก่อนก็แน่นอน จะจะจะเป็นอย่างนี้ หมดเวลาแล้ว ตามที่เขากำหนดก็จะหยุดจบ Category: ศาสนาBy Samanasandin29 กันยายน 2018Tags: พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ Author: Samanasandin https://boonniyom.net Post navigationPreviousPrevious post:610928 วิถีบวร 1 ใน 1000 ตอน วันเกิด วันดับ ของยายอี๊ดNextNext post:610929 เอื้อไออุ่น งาน 42 ปีศีรษะอโศก รำลึกบรรพชน – แพทย์แผนไทย ยุค 4.0Related Posts150401 จะพึ่งอะไรดี-พ่อท่าน-วัดมหาธาตุ28 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 2-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง7 พฤษภาคม 2024141026 จูฬสุญญตสูตร ตอนที่ 1-พ่อท่าน-วัดธาตุทอง4 พฤษภาคม 2024670224 พ่อครูเทศน์เวียนธรรมมาฆบูชา งานพุทธาภิเษกฯ ครั้งที่ 48 ราชธานีอโศก24 กุมภาพันธ์ 2024670126 ตอบปัญหาเพื่อละอวิชชา 8 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก26 มกราคม 2024670117 ปฏิจจสมุปบาท ตอน 4 พุทธศาสนาตามภูมิ ราชธานีอโศก17 มกราคม 2024