610925 สภาวะกับภาษาพยัญชนะที่ขยายได้ไม่รู้จบแต่มีที่จบ
พ่อครูสนทนากับปัจฉาฯ ยามเช้า
พ่อครู : มันยิ่งกว่าโอ้โหรู้สึกเข้าใจพลังงาน 1 2 3 4 5 6 7 ไป โอโห พลังงานพวกนี้มันมี
มันมีดีกรีของมัน มีคุณสมบัติของมัน ร่วมกันกับสระรวมกันกับพยัญชนะ เศษวรรค ก็ตัวพยัญชนะวรรค โอโฮไป มันก็เลยเป็นภาษาขึ้นมาเรื่อยๆ
สมณะแสนดิน : มันแตกตัว
พ่อครู : ผมก็เลยเป็นภาษาขึ้นมาเรื่อยๆ เพราะมันครบทั้งสระ เศษวรรค และพยัญชนะ ตัวเต็มวรรค มันก็เป็นภาษามาเรื่อยๆ
สมณะแสนดิน : ตอนหลังพ่อท่านน่าจะอักขรนิทัศน์เพิ่มขึ้น
พ่อครู : ตอนนี้อัขรนิทัศน์ก็ยังไม่เอา สัมประสิทธิ์นิทัศน์ก็ยังไม่ขอต่อ เพราะว่าโอโฮมันหนักมันเยอะ เอาไว้ก่อน สะสมไปจนกระทั่งมันง่ายขึ้น แล้วค่อยๆคลี่คลาย สัมประสิทธิ์ก็ยิ่งใหญ่
เพราะเป็นอัตราการก้าวหน้าจริงๆ
สมณะแสนดิน : อันนั้นมันเกี่ยวกับทางวิทยาศาสตร์ อันนี้เกี่ยวกับทางประวัติศาสตร์ บาลีนี่
อักขรนิทัศน์ ถ้าย้อนอดีต อันนั้นมันอนาคต
พ่อครู : สัมประสิทธิ์ทางวิทยาศาสตร์ ทางพยัญชนะนี่ทางอักษรศาสตร์
สมณะแสนดิน : มันไม่มีใครจะเอามานี้ล่ะครับ
พ่อครู : ไม่ง่าย
สมณะแสนดิน : แต่ก็ยังไม่ทิ้งนะครับอักขรนิทัศน์ที่พ่อท่านเคยเรียบเรียงเอาไว้ยังอยู่ในเครื่องอยู่
พ่อครู : เอาไว้ เก็บไว้ยังงั้นละ เดี๋ยวค่อยๆคิดอีกทีในอนาคต พออีกนานไปมันก็จะมีอะไรเพิ่มเติมขึ้นเอง
สมณะเดินดิน : พอถึงตอนนั้นพ่อท่านกระแอมกระไอก็มีความหมายหมด
สมณะแสนดิน : สัมประสิทธิ์ก็ยังอยู่
พ่อครู : อยู่ อยู่มันไม่ศูนย์ไป เพราะเราเองเรารู้ค่าของมัน มันไม่หายหรอก อะไรที่เห็นว่าค่าของมันไม่มีแล้ว มันเป็นพิษเป็นภัยด้วย เราก็ว่างก็ทิ้ง เพราะไอ้สิ่งที่เป็นพิษเป็นภัยรื้อๆแล้วก็ทิ้งไป ไอ้ที่เป็นค่าาเราก็เก็บเอาไว้ เก็บไว้ เก็บไว้ มันจะมีตัว Selection ของตัวเราเอง จะมี Selection ของตัวเรา มันจะเลือกสรรไว้ เลือกไว้ เก็บไว้ มันจะมีปฏิภาณของ Selection
สมณะดินไท : เมื่อวานนี้ อย่างเรื่องของผู้หญิงสาวชาวบราซิล ปรากฎว่า มาอยู่เมืองไทย
5 ปี พูดไทยปร๋อเลย เพราะสนใจ
พ่อครู : มีในตัวเอง
สมณะดินไท : แล้วเขาพูดธรรมะด้วย แล้วบอกว่า ภาษาไทยนี่ สื่อธรรมะได้ดีที่สุด เขาเข้าใจ
เก่งมาก ตั้งแต่อายุ 15 ก็ออกจากบราซิล แล้วก็มาเป็นนางแบบ อยู่ฟิลิปปินส์ เมืองไทยอะไรเนี่ย สุดท้ายมาอยู่เมืองไทย ชอบเมืองไทย แล้วก็ไม่เรียน ขนาดเคยคิดว่าจะไปเรียนมหาลัย
แต่ก็ไม่เอา อยู่อย่างนี้ดีกว่า และเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่อายุ 10 ขวบ เรียนเอง ตั้งใจ
พ่อครู : เรียนของตนเอง เหมือนอย่างผมเรียนธรรมะของตนเอง มันไม่มีใครแล้วในประเทศไทย ผมก็เรียนของตนเอง มีของเก่า
สมณะดินไท : เขาสะดุดตรงที่บอกว่า ภาษาไทยสื่อธรรมะได้ดีที่สุด
พ่อครู : ภาษาไทยมันๆ apply จากบาลีผสมสันสกฤต ภาษาไทย แล้วก็เป็นภาษาพื้นบ้านของตนเอง แล้วก็มีสันสกฤตบาลีเข้ามาช่วย สามเส้าก็เลยไป ภาษาบาลีนี้เป็นสภาพของอิตถีภาวะของสามเส้า ภาษาไทยเป็นประธาน
สมณะดินไท : สันสกฤตก็มีมากมาย
พ่อครู : ใช่ สันสกฤตเป็นอิตถีภาวะ
สมณะแสนดิน : ถ้าไทยคือผู้หยิบใช้เป็นประธาน
พ่อครู : ประธานเป็นประธาน ภาษาไทยก็เป็นประธาน ของสรีระ ของสันสกฤตกับบาลี ก็พยายามใช้
สมณะดินไท : แต่ก็ยังไม่ละเอียดเท่าบาลีสันสกฤต
พ่อครู : ใช่ ภาษาไทยยังน้อยกว่า ภาษาไทยยังน้อยกว่าบาลีสันสกฤตที่เป็นภาษาสภาวะ ผมเอามาใช้ ดูซินี่ สัมปาเทติ สัมปชัญญะ อะไรอะไรไม่หมด ยังใช้ไม่หมด ยังขยายความเป็นภาษาไทยได้อีกเยอะ ขยายแต่ละสภาพแต่ละระดับ แต่ละระดับ ได้อีกเยอะ ยังไม่หมด ไม่ไหว ยังไม่มีปัญญาพอที่จะไปอธิบายรายละเอียดเหล่านั้นได้
สมณะเดินดิน : สงสารคนแปล ซ้ำแล้วซ้ำอีก
พ่อครู : เอ่อ สงสารคนแปล คนแปลเขาทำได้ขนาดนี้ โอ่เป็นบุญคุณมากเลย เขาแปลไว้ได้ขนาดนี้ เป็นบุญคุณมาก
สมณะดินไท : พ่อท่านต้องเพิ่มพจนานุกรม โอ้โห หนังสือที่จะต้องใช้งาน ไม่มีอื่นเลย รวมแล้วมีแต่พจนานุกรมทั้งสิ้นเลย กองอยู่เต็มโต๊ะ นอกนั้นก็มีพระไตรปิฎกอยู่ในตู้ ข้างบนพจนานุกรมหมดเลย โอ้โหตลกมากเลย อีกหน่อยต่อๆไปก็คงจะพจนานุกรมภาษาอังกฤษเพิ่ม ภาษาอังกฤษมีอยู่ 3 เจ้า เนี่ยพจนานุกรมภาษาอังกฤษมีอยู่ 3 เล่มเอง มีสอเสถบุตร
มีของคุณเทียน และก็อาจารย์อะไรอีกเล่ม พจนานุกรมภาษาอังกฤษมีอยู่ 2 เล่ม ที่ใช้ทำงานประจำอยู่
สมณะดินไท : นี่ผมให้เขาหาอยู่ เป็นพจนานุกรมจิตวิทยา
พ่อครู : ถ้ามีอีกพจนานุกรมเอามาได้ใช้ได้
สมณะดินไท : ภาษาอังกฤษ
พ่อครู : ภาษาอังกฤษ ภาษาไทย พจนานุกรม
คุณนิ่ม : โหลดจาก Google ก็ได้
สมณะแสนดิน : คือมันเยอะก็จริง
สมณะดินไท : มันไม่เหมือนในหนังสือ มันเปิดมันคล่องกว่า
สมณะแสนดิน : คือมันไม่รู้จะเลือกอะไรเลย ที่เป็นหลักๆที่เขาเชื่อถือกันไม่เหมือนที่เล่ม
พ่อครู : มันไปตามบารมีไง เล่มนี้เล่มนี้มา มันเหมาะกับตัวเรา
คุณนิ่ม : ที่อาจารย์อุทิน เอามา มันเหมือนกับฝรั่งที่มาอยู่เมืองไทย จนรู้ภาษาไทยมาก แปลแบบคนไทย
พ่อครู : แปลแบบเซ้นของเขา
สมณะเดินดิน : แล้วอย่างคำว่า ทเวธัมมา เทวนิยมเขาแปลไว้ดี ที่พ่อท่านเปิดของอ.สุทิน
พ่อท่าน : ใครแปลว่าดี
สมณะแสนดิน : ไม่ใช่แปลว่าดี แปลไว้ดี ที่อ.สุทิน เอามาให้ไงครับ ตอนนั้นพ่อท่านค้นหาคำเกี่ยวกับ อะไรน้า แต่มันไปเทว อเทวได้
พ่อครู : เทวมันก็ 2 2 สภาวะ หรือ 2 พยัญชนะ เมื่อใดจะใช้พยัญชนะ เมื่อใดจะใช้สภาวะ สลับไปสลับมา ตัวนี้แหละสิริมหามายา
สมณะดินไท : คนจะเข้าใจยาก
พ่อครู : มันต้องเป็นของตนเอง เป็น ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ เป็นความรู้ของตนเอง ที่จะรู้อ๋อ อันนี้มันต้องอันนี้ ประกอบไปด้วยสัปปุริสธรรม ประกอบไปด้วยมหาปเทศ ต้องมีองค์ประกอบ ทั้งหมดของสัปปุริสธรรม มันรวมไว้หมดทั้ง ธัมมัญญุตากับอัตตัญญุตา มันเป็นคู่ 2 เป็นธรรมะ 2
มีอัตตัญญุตา เป็นประธาน แล้วเป็นคนที่รู้จักประมาณ มัตตัญญุตา จัดการเลย แต่เป็นผู้รู้
รู้ทั้งหมดที่จะอะไรอะไรเกิดขึ้นเป็นคนจัดการ มัตตัญญุตา ก็ไปประกอบกันข้างนอก กาลลัญญุตากับปริสัญญุตา กาลกับผู้อื่น ปริสัญญุตา แล้วก็ปุคคลปโร ซอยไปหมู่ใหญ่ก่อน แล้วค่อยไปซอยบุคคล ปุคคลปโรปรัญญุตาเป็นตัวสุดท้าย
สมณะแสนดิน : ตอนเรียนผมท่องให้มันจำได้
พ่อครู : มันจำไม่ได้หรอก ถ้าเผื่อมันไม่มีภาวะ ปัญญา มันจะรู้มันจะไล่ไปตามลำดับ มันสัมพันธ์อะไรกับอะไร อะไรก่อนอะไรเป็นลำดับ 3 4 5 6 7 มันก็ค่อยๆไป
สมณะแสนดิน : เมื่อกี้นี่ที่พ่อท่านพูด นึกถึงเรื่องที่เคยท่อง เหตุผลตนประมาณกาล
ชนคน เหตุผลก็คือ อัตตัญญุตา กับธัมมัญญุตา ตนประมาณ อัตตัญญุตา ของตัวเองก่อน
พ่อครู : ตัวเองเป็นประธาน พอเป็นประธานแล้วจัดการได้ เป็นมัตตัญญุตา มัตตัญญุตาก็ต้องเกี่ยวข้องต้องการัญญุตา ต้องดูกาลเวลา ในวาระเวลาก็มีกรรมของบุคคล ชุมชนต้องเอาน้ำหนัก มนุษย์ชาติ ชุมชน มันมีน้ำหนักกว่าบุคคลคนเดียว เสร็จแล้วก็ไปซอยบุคคลเข้าไปอีกเป็นปุคลปโรปรัญญุตา
สมณะแสนดิน : ตั้งแต่เรียนมัธยม เขามีวิชาพุทธศาสนาใช่ไหมครับ ที่ท่อง เหตุ ผล ตนประมาณ กาล ชน คน
พ่อครู : ก็ใช้ได้นะ ภาษาไทยก็คล้องจองกันเข้าไปได้ เหตุ ผล ตน ประมาณ กาล ชน คน
สมณะเดินดิน : ถ้าท่องทั้ง 7 จำยาก ถ้าท่องแค่หัวใจ
สมณะแสนดิน : แต่พ่อท่านอธิบาย ไม่มีใครจะอธิบายได้
พ่อครู : มันมีภาวะสัมพันธ์ ผมอธิบายมีภาวะอิทัปปัจยตา มีภาวะสัมพันธ์ ปฎิสัมพัทธ์
มีภาวะปฏิสัมพัทธ์
สมณะแสนดิน : เป็นคู่ เป็นเส้า อะไรอย่างนี้
พ่อครู : ใช่ เป็นคู่เป็นเส้า
สมณะแสนดิน : พ่อท่านจะถนัดมากเลย จับ Dynamic Static ก็ตาม บวกลบอะไรอย่างนี้
พ่อครู : ดีกรีของมันอีก
สมณะแสนดิน : พ่อท่านจับอะไรก็ใช้ได้หมดนี่ ธรรมะ 2 ครับ
สมณะดินไท : ถ้าเป็นสมัยนี้ต้องดูกระแสโซเชียลอีก ว่าอะไรพอเหมาะ
พ่อครู : ผมยังไม่เอามันเยอะ แค่นี้ก็ค่อยๆเรียบเรียงไปก่อน มันก็จะเสียเวลา เอาเท่าที่ได้ เพราะมีกระแสมา จับอันนี้ใช้ได้ก็เอามาใช้ใช้ใช้ แล้วขยายออกไป มันมีมากพอ จนที่ผมเคยใช้พอ เพลงอาริยะอะไรที่ว่า คุณปิดทวารทั้ง 6 คุณก็จะรู้ได้ ต่อให้คุณปิดทวารทั้ง 6 มันก็แทรกเข้ามาหาคุณจนรู้ได้ในโลก หมวดปิดใจทั้งหมดมันก็แทรกเข้ามาจนได้ มันมาตรงไหน
ก็แล้วแต่ สิ่งที่มันเป็นพลังงาน มันแรงมันก็เข้ามากระทบคุณ มันเข้ามากระแทกคุณอยู่ จนกว่า
คุณจะต้องรู้ว่ามันกระแทก มันก็เป็นอย่างนี้ มันเป็นลมหรือมันเป็นไฟ คุณก็จะค่อยๆเข้าใจ แล้วแต่มันเป็นลม มันป็นไฟ หรือเป็นน้ำ
สมณะดินไท : เมื่อกี้นี้พ่อท่านพูดถึง ตัวอักษร ทำให้ผมนึกถึงว่า อย่างคำว่า อปุญญ เขาแปลว่า ไม่ใช่บุญ พ่อท่านแปลว่ายิ่งกว่าบุญ
พ่อครู : ไม่ใช่ อปุญญ คือไม่ต้องใช้บุญแล้ว แต่เขาไปแปลว่าเป็นบาป เขาไปแปลอยู่ในความไม่ตัด ยังมีภพ มีชาติอยู่ แต่ถ้าอปุญญ ไปแปลว่า ตัดเลย 0 ตัด 0 ไม่มีภพ ไม่มีชาติ คุณก็เป็น 0 แต่คุณไปแปล มีภพ มีชาติ คุณก็เป็นบาป คุณก็วน
สมณะดินไท : มันเหมือนนิดเดียว แต่มันทำพุทธศาสนา
พ่อครู : ใช่ มันทำลายพระพุทธศาสนาเลย
สมณะดินไท : ซึ่งมันยากมาก
พ่อครู : ที่นี้ไปพูดมากก็ไม่ได้ เราก็ไม่ควรไป Discredit ท่าน เพราะคนในระดับฐานต้องพึ่งท่านมากกว่าเรา คนมาพึงเราน้อยกว่าคนไปพึ่งท่าน คนพึ่งท่านมากกว่า ต้องให้ท่านช่วย
พวกเหล่านั้น
สมณะเดินดิน : เพราะท่านเหมือนเสาหลัก ศาสนาพุทธ
พ่อครู : ใช่ ต้องให้ท่านเป็นหลัก
สมณะเดินดิน : ท่านเป็นที่อ้างอิงของวิชาการ
พ่อครู : ท่านเป็นพุทธโฆษาจารย์ ไอ้เราเป็นต้นโพธิ์
สมณะดินไท : ก็เลยมันก็เสียเหมือนกัน ถ้าเกิดเราไม่เข้าใจตัวอักษร ภาษา พ่อท่านให้ความลึกซึ้ง เราไม่รู้เราเอาไปใช้ มันก็จะผิดได้
พ่อครู : ผิดเพี้ยนแล้วมันบาปเรา
สมณะเดินดิน : มานึกได้ว่า สมัยพ่อท่านเผยแพร่ตอนแรกๆมันก็ยังไม่ได้ลงรายละเอียดลึกอย่างนี้
พ่อครู : ไม่ มันจะมากกว่านี้อีก ไว้รอผมอายุ 100 ก็จะเห็น อีก 15 ปี อีกนักษัตรหนึ่ง กว่าจะถึง 100 อีกนักษัตรเศษๆ โอ่ไม่ใช่น้อย อัตราการก้าวทุกวันนี้มันมากขึ้นแล้ว ตัวผมมันมีแต่
อัตราก้าวหน้าที่จะแผ่ความรู้
สมณะแสนดิน : ช่วงเลยชุมนุมมานี่ พ่อท่านโอโฮมีออกมาเยอะเลย ตั้งแต่กาย จำได้ กายตอนที่ชุมนุม ทำไมต้องมาพูดเรื่องแต่กายนี่ อำนาจอะไรตอนนั้น สัตตาวาส 9 ก็ออกมาตอนนั้น เขาชุมนุมอยู่พ่อท่านเทศน์สัตตาวาส 9 บนเวที เราก็โอโฮเขาจะรู้เรื่องไหมนี่
สมณะเดินดิน : กำลังรอระเบิดอยู่ ที่คุณหนึ่งฟ้าเปิดประเด็นมาว่า จริงๆควรมาฟังธรรมในช่วงหลังมากกว่า คนเรามาตามฟังแต่เรื่องเก่าๆ แต่พวกเราเอาเวลาที่ตัวเองพร้อมเป็นหลัก งั้นพวกเราถนัดทำวัตรเช้า ไม่พร้อมจะฟังตอนเย็น เพราะงั้นไปตามธรรมะเก่าๆอยู่
พ่อครู : บางทีก็ได้ประโยชน์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
สมณะดินไท : แล้วแต่ดวง
สมณะเดินดิน : แต่ว่าถ้าไม่ได้ฟังตอนเย็นก็จะไม่ได้รายละเอียดไม่เข้ากัน
พ่อครู : ผมมาดูงานแล้ว ลดงานของผมก็ได้ตอนนี้ มันเยอะนะ หมดเลยทั้งอาทิตย์ มีจันทร์ พุธ พฤหัส ศุกร์ อาทิตย์ มีแค่ อังคาร กับ เสาร์ ที่ไม่มี
สมณะแสนดิน : คนบันทึกตามก็เมื่อยนะ ผมให้เขาตัดต่อเป็นคลิปๆ เขาตามไม่ทัน
พ่อครู : เอางั้น เอาลดผมได้ ลดได้ ผมว่างอยู่ 2 วัน คือ วันอังคาร กับ เสาร์
สมณะเดินดิน : ว่าจะลดไปเพิ่มได้อย่างไง
พ่อครู : เอ่อ จะลดไปเพิ่มได้อย่างไง
สมณะดินไท : ดูรายการซำมะปี๋นี่ รูปแบบ ok แต่เนื้อหาก็ถามแนวตอบปัญหา
พ่อครู : คนเขาชอบไง ก็เลยเอาซำมะปี๋มายัดใส่แทนเข้าไป จันทร์ พฤหัสก้็ซำมะปี๋
สมณะดินไท : พ่อท่านก็ว่ามันหนัก หนักกว่าพุทธศาสนาตามภูมิอีก มันไว
พ่อครู : ใช่ มันเหวี่ยง เดี๋ยวก็ต้องหมุนสมองให้ทันสมัย
สมณะเดินดิน : เอาวันจันทร์เป็นซำมะปี๋ วันพฤหัสให้ท่านฟ้าไทกลับไปจัดเหมือนเก่า
สมณะแสนดิน : ปกติเมื่อก่อนภันเตฟ้าไท ก็จะรับวันพฤหัสครับ
คุณนิ่ม : เหตุที่กลับคืนมาได้อย่างง่ายดายก็คือพ่อท่านนั่งอยู่หน้าคอม
สมณะแสนดิน : เพราะพ่อท่านเร่งแต่หนังสือนี่ครับ ท่านเลยจะไอมาก
ถอดข้อความโดย อุทัย
[embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=ntCyZWkLH0Y[/embedyt][embedyt] https://www.youtube.com/watch?v=ntCyZWkLH0Y[/embedyt]