611021_วิถีอาริยธรรม บ้านราชฯ ตีให้แตกจนแหลกสูญในเทวะคือเวทนา 2
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/10xu8wXoklbt5Gjw9BHlJn1Bn33NtBa6lDjOYnJ_YFT4/edit?usp=sharing
ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=1da5lGyOboahqalomIKJqXkyWSDaEZ53T
สมณะฟ้าไทว่า…วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก ในยุคนี้เป็นยุคใกล้กลียุค มีคำทำนายความฝันของพระเจ้าปเสนทิโกศลว่าต่อไปแม่โคจะขอนมลูกโคกิน ก็เหมือนกับยุคนี้พ่อแม่ต้องขอร้องให้ลูกทำให้ดี ในอีกไม่กี่วันพวกเราก็จะจัดงานมหาปวารณาฉลอง 48 ปีโพธิกิจ 84 ปีพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ เรามาร่วมกันสร้างสรรสิ่งที่ดีงามให้แก่สังคม ตอนนี้เรากำลังเตรียมร้านขายในราคาเท่าทุน ร้านปันกัน ร้านศิษย์เก่า(ห้านนี่มี๊ซื่อนะ) ร้านพิสูจน์จิตอาสา
พ่อครูเทศน์ตอกย้ำเสมอว่า สายที่เอาแต่นั่งหลับตา คนมาเยอะก็เงียบเหงาไม่เกิดประโยชน์ต่อสังคม แต่สายพุทธคนมาเยอะก็จะมีชีวิตชีวา มีประโยชน์ต่อสังคม
“ภัยของชาติคือนักการเมืองที่ใช้ระบอบประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือหากิน” เป็นคำพูดในโลกInternet ซึ่งโดนใจมาก
พ่อครูว่า…SMS วันที่ 19 ตุลาคม 2561 (พ่อครู : พุทธศาสนาตามภูมิ)
_3867ทุกครั้งพ่อครูอ่านพระตปฎ.จะมีตัวอักษรขึ้นจอประกอบด้วย!วันนี้ไม่ขึ้นเลย!มนุษย์หูเทียมเหลือข้างเดียวฟังไม่ถนัดและข้างเดียวที่เหลือใส่อยู่ยินเสียงก็ไม่เต็มร้อย!วิบากคนโลกเงียบ!
_3867ถ้าไม่มีหนังสือพ่อครูให้อ่าน!ไม่มีสมุดบันทึกให้เขียน!ไม่มีบุญนิยมให้ดู!ไม่มีพ่อครูเทศน์ให้ฟัง!คนโลกเงียบคงจมอยู่ใต้เสียงโลกียธ.ทุกข์ อยู่ใต้อำนาจโลกธ.ไปจนตาย!กราบขอบพระคุณโลกุตระธ.พ่อครูกอบกู้จิตวิญญาณพ้นสุขทุกข์โลกียะธ.สาธุ
_อำภา รื่นใจดี · ลูกเป็นคนหนึ่งที่ได้เคยกล่าวไว้ว่าอโศกเป็นพุทธสถานแห่งเดียวของ
โลก ที่สอนตรงตามหลักธรรมของพระพุทธเจ้า คำกล่าวนี้ลูกเขียนมาถวายท่านพ่อครูในเฟสบุ๊ค และท่านพ่อครูได้อ่านออกอากาศแล้วเจ้าค่ะ
ลูกเข้ามาเป็นจิตอาสาที่สันติอโศกได้เกือบสามปีแล้ว จะขอตอบว่าอโศกสอนอะไร แต่ตอบในฐานะคนข้างนอกที่เข้ามาเอาประโยชน์ในอโศก ไม่ใช่ในฐานะตัวแทนอโศก อโศกสอนให้เรารักษาศีลให้บริสุทธิ์ สอนให้เรารู้และเห็นความจริง ถ้าความจริงนั้นเป็นสิ่งดี มีประโยชน์ต่อตนเอง และมนุษย์ชาติ ทำต่อไป โดยไม่ยึดดีที่เราทำ ถ้าความจริงนั้นเป็นสิ่งเลวไร้ประโยชน์ ก็ให้พยายาม ลด ละเลิก ล้าง ไปตามลำดับ จนความเลวเหลือ 0 และเป็นสูญ อันเป็ความว่างคือสิ้นเกลี้ยงจากกิเลสที่ติดอยู่ในภพนี่คือธรรมที่เป็นเอกและถูกตรงตามคำสอนของพระพุทธเจ้าที่อโศกสอนและยังมีธรรมอื่นๆ อีกมาก แต่ไม่ขอนำมากล่าว สาธุ เจ้าค่ะ
พ่อครูว่า…พูดมาสั้นๆก็ชัดเจน เอาไปปฏิบัติและได้ประโยชน์ อย่างนี้แหละที่อาตมาปฏิบัติแล้วมีความประสงค์ให้เกิดผลอย่างนี้
สื่อธรรมะพ่อครู(
_เพ็ญจันทร์ ภูมิเทศ · ณ วันนี้ เป็นคนหมดเนื้อหมดตัว ไม่มีอนาคต หากตายก็คงไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด…(ละซึ่งตัวตน มีชีวิตอยู่เป็นปัจจุบัน และมีเป้าหมายสู่นิพพาน)
พ่อครูว่า…พูดมาก็คงมีความเข้าใจ สั้นๆแค่นี้ได้ความ แสดงว่าเข้าใจ คนที่อยู่ในชาวอโศกในชุมชนบ้านราชนี้ก็ตาม จะมีความรู้สึกอย่างคุณเพ็ญจันทร์นี้ จะมีไหมหนอ แต่ที่ได้พยายามเรียบเรียงลักษณะอย่างนี้ตามที่คำพูดพูดออกมา เป็นคนอยู่อย่างหมดเนื้อหมดตัวอย่างนี้ อนาคตก็ไม่ต้องไปหวังอนาคต เป็นคนหมดอนาคต อยู่ไปวันๆฝันถึงดวงดาว แต่นี้ไม่ต้องฝันถึงดวงดาวอะไร อยู่ไปวันๆไปมีชีวิตอยู่อย่างเป็นปัจจุบัน มีเป้าหมายคือนิพพาน แสดงว่าเข้าใจว่าอยู่ไปวันๆนี้มีเป้าหมายสู่นิพพานคืออะไร ก็คือปฏิบัติตน อยู่ไปวันๆปฏิบัติปัจจุบันไปลดละกิเลสในปัจจุบันแต่ละปัจจุบันไป กิเลสก็ลดลงไปเรื่อยๆ ถึงนิพพานก็คือความว่างไม่มีกิเลส มีความมีนิพพานไปตามลำดับ อย่างนี้การปฏิบัติธรรมของพุทธไม่ได้ไปนั่งหลับตาสะกดจิตไม่ต้องไปย่างหนอเดินหนอให้เสียเวลา ศาสนาพระพุทธเจ้าปฏิบัติขณะปัจจุบันทำงานอาชีพ มีสัมมาอาชีพ ทำกรรมกิริยาทั้งหลาย มีสัมมากัมมันตะ พูดก็เป็นสัมมาวาจา คิดก็ให้เป็นสัมมาสังกัปปะ ไม่มีหรอกไปนั่งหลับตาแล้วไม่ทำอะไร อาตมาก็ยังงงว่าคนไทยวิปริตไปจากศาสนาพระพุทธเจ้าไปนั่งหลับตาสะกดจิตเอาเป็นเอาตายเต็มไปหมดเลยในประเทศไทย สำนักปฏิบัติเอาแต่นั่งหลับตา อาตมาก็ดูว่างงๆกัน มันอะไรกัน
พระไตรปิฎกก็ยังมีอยู่ชัดเจนอ่านพระไตรปิฎกไม่แตก ไปสอนแบบพระป่าไปนั่งหลับตากัน ก็เลยงง นั่งหลับตาไม่มีในสารระบบของพระพุทธเจ้าท่านตีทิ้ง แต่ท่านเป็นผู้ดีไม่พูดเหมือนอาตมาที่พูดให้ขจัดทันที แต่พระพุทธเจ้าประนีประนอมก็ตรัสไป แต่อ่านให้ดีๆศึกษาให้ดีๆคำสอนพระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ให้ไปนั่งหลับตา ไม่มีหรอกไปนั่งหลับตาสะกดจิต มันไม่ใช่เลยถ้าเข้าใจด้วยปัญญาที่จริงแล้ว นั่งสะกดจิตหลับตามันไม่ใช่ศาสนาพระพุทธเจ้า ศาสนาพระพุทธเจ้ามีสัมผัสเป็นปัจจัย มีธรรมะ 2 มีรูป มีนาม มีกายสัมผัส แล้วก็รู้จักเทวที่แปลว่า 2 โดยสภาวะก็แปลว่าสัจจะ 2 อย่าง คือจิต ความรู้สึก ที่ไปหลงเทวหลงเทวดา หลงว่าเป็นความสุข แล้วก็ดับทุกข์ไม่เป็น หลงความสุขต่างๆ เลยกลายเป็นศาสนาลัทธิที่เป็นคำสอนเพื่อแสวงหาความสุขเท่านั้น
อาตมาจับสัจจะหนึ่งเดียวในมหาจักรวาลในโลกนี้ได้คือเทวนิยมกับอเทวนิยม
สายเทวนิยมตีไม่แตก สายพุทธจับเทว สภาวะธรรมะ 2 แล้วตีแตกอันนี้ ทำให้เป็นหนึ่งทำให้เป็นศูนย์ได้ จบเลย ปรินิพพานป็นปริโยสานได้เลย ชัดเจนทุกอย่าง
_ปาลิตา ทองสุขนอก · น้อมกราบนมัสการพ่อครูเจ้าคะ ลูกเป็นคนหนึ่งที่พยายามตั้งใจจะเป็นชาวอโศกรุ่นใหม่ ลูกระลึกถึงชาวอโศกรุ่นเก่าและท่านสมณะหัวเก่า ๆ ในบางรูป สำหรับคนรุ่นใหม่ที่อยากเห็นอโศกพัฒนาในทางที่ดี ๆ มาก ๆ สมมุติถ้าเรารู้ว่าชาวอโศกเก่า ๆ อยู่วัดมานาน หรือสมณะบางรูปอาจจะมีเจตนาเป็นผู้นำที่ยิ่งใหญ่อะไรหรือเปล่า หนูขอเสนอยกให้เขาไปเลยเจ้าคะพ่อครู บอกเขาว่าดูแลอโศกให้ดี พวกเราจะเป็นกำลังใจให้ สำหรับคนรุ่นใหม่ ๆ หลายท่านรวมทั้งลูก อยู่สบายดี รักพ่อครูที่สุดเหมือนเดิม สาธุจ้า น้อมกราบนมัสการเจ้าคะ
พ่อครูว่า…
_SMS วันที่ 20 ตุลาคม 2561 (สมณะ สิกขมาตุ : พุทธศาสนาตามภูมิ)
_3867หมอฟ้ารักเป็นเสมือนน้ำประสานทอง!จำคำพูดหมอตอนที่ชาวอโศกมีปัญหาขัดแย้งกัน!แล้วพ่อครูเกิดอาการถอดใจไม่ไหวจนต้องมาพักฟื้นที่ภูผาฟ้าน้ำ!หมอพูดสะกิดจิตกินใจจนปัญหาจบลงที่รวมใจเป็น1เดียวกันเพื่อพ่อครูฯสาธุธ.รักษ์เอกภาพหมู่กลุ่มฯ
พ่อครูว่า…เลยไม่รู้ว่าหมอฟ้ารักพูดตอนไหน?
_สีดิน : กราบเรียนถามพ่อครูค่ะ สมาธิคือการทำการสลัดตัดกิเลสให้ออกไปจากจิตให้เร็วที่สุด ยิ่งตัดกิเลสเร็วมากเท่าใดสมาธิเรายิ่งแข็งแรงดียิ่งขึ้น ซึ่งการสลัดกิเลสออกเป็นการเติมพลังจิตให้มีพลังในการทำดีมากๆยิ่งๆขึ้น จนกิเลสเกิดไม่ทันหรือไม่เกิดกิเลสเลยนั่นคือการได้สัมผัสถึงคำว่าโลกุตระที่เกิดขึ้นในจิตได้ตลอดเวลา จิตที่การทำการตัดกิเลสได้ก็คือบุญอย่างแท้จริง กิเลสออกไปได้แล้วเมื่อใด บุญก็หมดหน้าที่ในการทำงานในการกำจัดกิเลสออกไปเช่นกัน ที่เข้าใจอย่างที่เขียนมาถูกต้องหรือไม่ กราบขอบพระคุณพ่อครูอย่างสูงยิ่งค่ะ
พ่อครูว่า…ถูกต้องลัดคัดสั้นพูดมาสั้นๆง่ายๆดีใช้ได้ อาจจะไม่ยาวยืดไม่ครบสมบูรณ์แต่ชัดเจนดีใช้ได้
มาพูดถึงว่า สมาธิ คือการ ตัดกิเลส อันนี้แหละ เป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากที่ทุกวันนี้มันผิดเพี้ยนไปอย่างไรอาตมาก็ยังงงที่ไปนั่งหลับตา แล้วมันจะรู้ตัวได้อย่างไร กิเลสมันเกิดก็พยายามสะกดเพื่อให้มันลดลง อย่าให้มันเกิดกิเลสนั่งหลับตาแล้วก็ไปให้มันนิ่งอย่าให้มันคิดนึกอย่าให้มันเกิดกระทบสัมผัสอย่าให้รู้สึกอะไรเลย ให้ไปเวทนามันนิ่งหยุดเป็นเฉยๆ ไม่เรียนรู้อะไรเลยมันก็เสียเวลาตลอดชาติไม่รู้กี่ชาติเป็นอย่างนี้อยู่ เพิ่งจะทำให้คนที่เขาหลงติดแล้วซึ่งเขาไม่ฟังอาตมา เขาหลงที่เรียนมาว่าถูกต้องแล้วมันน่าสังเวชใจน่าสงสาร จะทำอย่างไรจึงจะไปงัดแงะเขาขึ้นมา ให้เปลี่ยนแปลงความคิดใหม่มันน่าเห็นใจนะ
ศรัทธาศาสนาตั้งใจพากเพียรเอาชีวิตมาทิ้งกับศาสนา เรียนกันในสำนักแต่ละสำนักๆ แต่ทำให้ลูกศิษย์จมและโง่ลง ไม่รู้จะทำอย่างไรก็สงสาร
สมณะฟ้าไทว่า…เคยคุยพวกสายนั่งหลับตาเขาบอกว่าท่านมาทางนี้ผิดทางหรือเปล่า ผมก็บอกว่า อาตมาลดตัดกิเลสได้ไม่มีปัญหาอะไรไม่ผิดทาง เขาบอกว่าอย่างนั้นหรือไม่ผิดทางก็ไม่เป็นไรเป็นห่วง อาจารย์สายนั่งหลับตาเป็นห่วงผมมากว่าจะผิดทาง
พ่อครูว่า…ผมก็ว่าน่าเห็นใจนะ ต่างก็เป็นห่วง เราก็ห่วงท่านท่านก็หวงเรา เราประกาศตนว่าเป็นอรหันต์เป็นพระอาริยะพ้นทุกข์รู้ทางที่ถูกต้อง เขาก็ฟังไม่ขึ้น ก็ยังงง มันน่าจะเอาคำเราไปพูดว่า กล้าอย่างไรพูดอย่างนี้มันจริงเหรอ มันเป็นสุขเหรอ มันยืนยัน แล้วก็หลงอยู่อย่างตรงนั้น จะทํายังไงอีก ท้าทายก็แล้วบอกความจริงก็แล้ว อธิบายให้ยาวยืด อาตมาว่าไม่มีใครมาอธิบาย แหลกแตกละเอียดอย่างอาตมาหรอก เอาบันทึกในพระไตรปิฎกมาขยายความอย่างนี้ อาตมาอธิบายได้ให้ฟัง สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสแล้วบันทึกไว้โบราณอาจารย์ผู้รู้ท่านเห็นว่าเป็นของมีค่าทั้งนั้น ของไม่มีค่าเขาไม่เสียเวลาหรอก ทำความเข้าใจให้หมดสิ อธิบายให้กันฟังนี่เป็นคำสอนเป็นความตรัสรู้ของพุทธเจ้านะ แต่เขาก็ไม่ฟังไปนั่งหลับตาแล้วจะรู้เอง ถ้าอย่างนั้นมันเป็นจริงนั่งหลับตาแล้วจะรู้เอง พระพุทธเจ้าจะมาอธิบายให้เสียหลายทำไม คิดอย่างตื้นนี้ก็ได้ไม่เห็นต้องคิดให้ยากอธิบายให้ยาวยืดยาด ถ้าหากนั่งหลับตาแล้วจบทุกอย่างได้
เป็นเรื่องน่าสังเวชใจน่าสงสาร คนเหล่านี้มันจะโง่ไปถึงไหน โง่ไม่เคยเอาฉลาดมาใส่เข้าไปบ้างเลย โง่ไม่เหลือเศษฉลาดได้อีกเลย อย่าหาว่าปากร้ายเลย ทำไมโง่ได้ดิบได้เถื่อนขนาดนี้
สมณะฟ้าไทว่า…เพื่อนผมเป็นสายหลับตา บอกว่าจะมาหาหลายทีก็ยังไม่มาสักที
พ่อครูว่า…อาตมาชาตินี้ พยายามงัด ใช้ชะแลงก็แล้วหรือจะใช้คานดีดคานงัดของอาร์คีมีดีสได้ไหม
_ลูกเป็นคนช้า ติดนิสัยเป็นคนละเอียดทำอะไรต้องวางแผนให้เรียบร้อย แบบนี้จะเป็นการเพียรหรือกามคุณคะ
พ่อครูว่า..ต้องอ่านอาการของกามให้ออก ลักษณะใคร่อยาก กามมันเป็นอย่างไร มาถามอาตมาทำไม อ่านอาการนั้นให้ออก ว่าลักษณะของกามเป็นอย่างนี้ นั่นเป็นกามหรือเปล่า มีความเพียรคือพากเพียรปฏิบัติตามที่เราเข้าใจ เข้าใจอย่างนี้ก็พากเพียรปฏิบัติก็ดีแล้ว
กามก็อย่างหนึ่งเพียรก็อย่างหนึ่ง
สื่อธรรมะพ่อครู(รูป 24 นาม 5)
_มีผู้บอกว่าทําอะไรอย่าตั้งความหวัง แต่พอมีเหตุกับชุมชนข้างเคียง เราก็พยายามจะปรับความเข้าใจและทำความรู้สึกที่ดีงามต่อกัน ที่ไปทำยังหวังค่ะ หวังว่าจะขจัดความขุ่นข้องหมองใจและยังหวังว่าจะให้เกิดความเป็นพี่เป็นน้องระหว่างชุมชนอโศกและชุมชนข้างเคียงหนูก็ยัง สาเปกโข อยู่ใช่ไหมคะ
พ่อครูว่า…จะบอกว่าไม่มีความหวังแล้วจะเป็นการปฏิบัติ เราไม่รู้ว่า สาเปกโข คือการตั้งจิตที่มีตัวต่อ จากการคิดการนึก ถ้าเราเจตนาว่ามันน่าจะเป็นเช่นนี้ เจตนามันน่าจะเป็นพี่เป็นน้องกัน ก็รู้จักเจตนา เราก็ไปสร้างเหตุให้เกิดความเป็นพี่เป็นน้องโดยไม่ต้องมีจิตไปหวังว่าเขาจะมาเป็นพี่เป็นน้องกับเราได้หรือไม่ นี่คือไม่ต้องไป สาเปกโข แต่เรามีเจตนาอย่างนี้ๆ
ถ้าเข้าใจภาษาสื่อให้รู้ว่าเจตนาคือความรู้ที่มีจุดหมายไปข้างหน้าเรียกว่าเจตนา จุดหมายไปข้างหน้าว่าน่าจะให้เป็นพี่น้องกัน เราก็ไม่ต้องไปสร้างความหวังเป็นภพชาติ แต่ทำเหตุให้ถึงจุดหมาย นี่คือไม่มีสาเปกโข
มี 1 แน่นะ 1 + 1 ก็เท่ากับ 2 หรือ 1 + 1 + 1 = 3 ทำให้มันครบบริบูรณ์ มันก็เป็นผลเองไม่ต้องไปหวังผลก่อน เรารู้จักเหตุทำเหตุให้ครบ เป็นแต่เพียงมีปฏิภาณปัญญารู้ว่าอันนี้มันจะได้เท่านี้นะ ไม่ต้องไปหวังนี่คือไม่มี สาเปกโข แล้วก็จะไม่อกหัก ไม่ทุกข์ไม่ร้อน มันเป็นวิธีการเบื้องต้นที่พระพุทธเจ้าบอก
_จะทำอย่างไรให้ใจไม่เศร้าหมอง เวลาเจอผัสสะ ทำใจให้เบิกบาน ทำอย่างไรให้ใจอยู่เหนืออำนาจกิเลสได้ พอเจอทีไรแพ้ทุกที
พ่อครูว่า..นี่พูดเองนะ …นั่นแหละตอบเอง พูดถูกแล้วอย่าเอาแต่ถาม แต่ให้ทำด้วยให้ทำอย่างที่เข้าใจนี้
_สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงคืออะไรคะ
พ่อครูว่า…มันจะต้องมาเรียนรู้ธรรมะ 2 คือเทว ธรรมะ 2 คืนหนึ่งคำว่า ศักดิ์ พยัญชนะแปลว่าอะไรสภาวะแปลว่าอะไร คำว่า สิทธิ์ สภาวะแปลว่าอะไรพยัญชนะแปลว่าอะไร
ถ้าใครวิจัย 2 นี้ได้ทั้งหมดทุกคนจบเลย เข้าใจธรรมะสองนี้อาตมาสรุปได้ว่าศาสนาทั้งโลกนี้มีธรรมะ 2 เพราะฉะนั้นจับคู่มาวิจัย แล้วก็จัดสรรให้ได้ว่าอันนี้เป็นอย่างนี้ แล้วเราก็ต้องทำอันนี้ให้มันเป็นอย่างนี้มันก็จะเกิดความดีงาม อย่างนี้ดีงามแล้วก็ทำให้ได้ เมื่อคุณสามารถ 1. รู้ 2. แล้วก็ทำ ทำได้จิตใจก็จะเก่งขึ้นจนกระทั่งจิตใจคุณ มีทั้งตัวรู้และทำได้ จิตใจของคุณก็จะเป็นจิตที่ยังจิตให้เป็นไปในอำนาจได้จบเลย
จะเป็นศาสนาเทวนิยมเขาตีเทวไม่แตก เขาแยกสภาวะกับพยัญชนะไม่ออกเขาก็เลยจมอยู่กับเทว ตีไม่แตกแยกไม่ออก จมอยู่กับเทวเขาก็อยู่ไป เขาไม่เข้าใจว่าที่ว่านี้คือธาตุรู้ความรู้ความจริงที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ให้ท่านบอกมาแล้วเราก็ฟังตามท่านก็แล้วกัน ถ้าได้แล้วมันก็เป็นจริง
พระพุทธเจ้าท่านให้พึ่งพาตนเอง อัตตาหิอัตโนนาโถ ตีแตกความเป็นเทวดา แตกความเป็นธรรมะ 2 แล้วรู้ว่าธรรมะ 2 มีดีมีชั่ว มีทุกข์มีสุข ก็เอาอันใดอันหนึ่งให้ได้ ใครๆก็อยากได้สุขไม่อยากได้ทุกข์ แต่ก็ทำให้สร้างแต่อารมณ์สุขไม่สร้างเหตุ มันก็เลยไม่จบ
เมื่อมาเรียนรู้เหตุแห่งทุกข์แล้วดับเหตุแห่งทุกข์ แล้วความสุขที่เกิดนี้ยิ่งกว่าสุขัลลิกะ ไปหลงสุขที่บำเรอเหตุมัน มันไม่มีจบ ตีไม่แตกมีแต่ซ้ำเติม กิเลสที่เป็นตัวเหตุแห่งทุกข์มันเบลอ กิเลสก็ยิ่งจะโตก็ยิ่งจะอยากได้อยากได้สุข แต่ไม่มีวันจบ
แต่พระพุทธเจ้ามาเรียนรู้เหตุแล้วดับเหตุแห่งทุกข์ มันก็หมดเลยไม่เหลือเลย ดับเหตุแห่งทุกข์หมดเลยหมดเหตุ ทุกข์เราก็ไม่มี
ถามจริง พวกเราใกล้ๆความรู้สึกที่อาตมาพูดนี้ไหม …ใกล้ เพราะเราอยู่กับสิ่งแวดล้อมกระทบกับสิ่งแวดล้อมที่ทำให้เราทุกข์ เดี๋ยวนี้มันก็ไม่ทุกข์มาก สิ่งแวดล้อมอันนี้มันพาให้เราทุกข์ แต่ทุกข์ก็ลดลง มันก็เข้าหาตถตา ก็หันกลับมาที่ตัวเรา เราอยากจะได้เพิ่มอยากจะได้อันนี้มากขึ้น ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข เราก็ไม่ได้อยากให้เกิดความสุขมากกว่านี้ มันสุขแค่นี้ก็เหลือพอแล้ว ยศแค่นี้ก็เหลือพอแล้ว สรรเสริญก็ไม่มี มีแต่ถูกตำหนิด้วยซ้ำ ก็เราเข้าใจด้วยว่าตำหนินี้ดี เขาตำหนิมาถูกเราก็ขอบคุณมากก็แก้ไข เขาตำหนิเราแล้วเราก็ตรวจสอบอย่าลำเอียงเข้าข้างตัวเอง หากเขาตำหนิผิดไม่รู้ความจริงเขารู้ไม่พอ เขาเข้าใจไม่ได้ ไม่ต้องบอกเขาโง่หรอก เขาตำหนิผิดก็บอกไป มันก็สบายมากเลยชีวิตนี้
อย่างอาตมานี้คนตำหนิอาตมาผิดเยอะ เพราะอาตมาพูดไปเยอะ แล้วเขาก็ไม่ตรวจสอบความจริงว่าที่พูดนี้จริงไหม ได้แต่หาแง่มุมที่มามองในแบบลบกับอาตมา อาตมาก็ว่าคนนี้เขาไม่หมดปัญหา เขาหาแต่ปัญหาให้ตัวเอง ก็เลยฉลาดไม่เข้าหาสักที เพราะเขาหาแต่ปัญหากับตัวเองแล้ว คนนี้ก็ไม่เกิดปัญญาเท่าไหร่ เพราะเอาแต่ปัญหาให้แก่ตัวเอง ต้องเอาปัญญาใส่ให้กับตัวเองบ้าง หากไปเจอคนนี้ก็ทำปัญหากับคนนี้คนนั้นไปเรื่อยๆ ก็ไม่จบ อาตมาบอกให้หาปัญญาก็ไม่หา เอาแต่ปัญหา จะโง่ไปถึงไหนฉลาดบ้างได้ไหม
ถ้าคุณเห็นว่าอาตมาเป็นตัวปัญญา คุณจะได้ปัญญาจริงๆคุณจะไม่มีปัญหา ปัญหาก็จะหมดลงเรื่อยๆ เพราะว่าอาตมาเป็นเจ้าปัญญามีแต่ปัญญา
หากใครไม่มีปัญหา คนนี้ จ่ายหรือทำอะไรก็มีแต่ปัญญาคนนี้รับรองว่าเป็นอรหันต์ ฟังให้ดีย่อมเกิดปัญญา จะเป็นอรหันต์ได้
แต่คนที่ฟังแล้วมีแต่ปัญหา คนจะบอกว่า ขี้ดีกว่าข้าวก็หาเหตุได้ จริงๆเอาขี้ทำปุ๋ยดีกว่าข้าวนะ
พระพุทธเจ้าตั้งประเด็นไว้ ท่านจะแสดงเรื่องทุกข์กับมนุษย์ทั้งโลก ผู้ใดรู้ปัญหาเรื่องทุกข์หมดแล้วผู้นั้นหมดเหตุที่จะทำความชั่ว หมดเขตที่จะทำความไม่ดี หมดเขตครอบคลุมไปหมดทั้งในลาภยศสรรเสริญสุข เรียกว่าโลกทั้งหมด โลกธรรม ก็หมดเหตุหมดเรื่อง
ศาสนาพุทธคือรู้ทุกข์ รู้เหตุแห่งทุกข์ ทางดับทุกข์และก็ทำความดับทุกข์ได้ก็จบ มีชีวิตดำเนินต่อไปก็ทำแต่คุณงามความดีไม่มีพิษมีภัยไม่เสียหายอะไรเลย จริงๆอย่างอาตมานี่ เป็นคนไม่มีพิษมีภัยไม่เสียหายอะไร แต่คนโง่มองไม่ออก คนฉลาดจะรู้ ว่าไม่
อาตมาเป็นคนซื่อๆพูดตรงๆแต่คนก็หาว่าอวดตัวตนอีกเขาไม่เชื่อ
ความไม่เชื่อของคุณนั่นแหละเป็นตัวทำให้คุณโง่ ถ้าคุณเชื่ออาตมาไม่เอาอะไรมาคิดว่าจะมาเป็นคนไม่น่าเชื่อ อาตมาเป็นคนน่าเชื่อ คุณไม่ต้องมีเศษเพียงนิดน้อยในความไม่เชื่อในอัตตาไม่มีเลยคุณได้แต่ดีถ่ายเดียว
อาตมาพูดไปด้วยเอาตัวเองมายืนยัน เป็นปรากฏการณ์เป็นฟีโนมีนอน มีของจริง ทั้งพยัญชนะและสภาวะ เป็นธรรมะสอง
อาตมาเข้าใจธรรมะ 2 ศาสนาที่เป็นพระเจ้าหลงติดจมอยู่ในเทว แล้วก็เป็นเทวผู้ที่ใหญ่ อยู่ไหนก็ไม่รู้ ไม่เคยสัมผัสอยู่เลยไม่เคยแตะต้องกันเลย แต่เป็นผู้รู้ผู้ยิ่งใหญ่ผู้สร้างผู้บันดาลทุกอย่าง ยกให้แก่พระเจ้า
แต่อาตมาพึ่งตนไม่พึ่งพระเจ้า ตามพระพุทธเจ้าสอนแล้วเรียนรู้เทวะเป็นมหาเทวดามหาเทวดา อาตมาก็เรียนรู้ธรรมะ 2 ให้มาเป็นปัจจุบัน
รูปคือสิ่งที่ถูกรู้ นามคือสิ่งที่ไปกระทบรูป แล้วเรียนรู้ตั้งแต่สิ่งเล็กน้อย อะไรที่ดีอะไรไม่ดีทำความไม่ดีออกไป แต่ละคู่ เป็นธรรมะ 2 จนมันหมดเลย อาตมาเห็นแล้วว่าธรรมะ 2 ในโลกนี้สิ่งใดดีสิ่งใดไม่ดี เรียนรู้ธรรมะ 2 ก็จะไม่งง
ศาสนาพระพุทธเจ้าไม่เอาสิ่งที่ลึกลับ ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนสัมผัสก็ไม่ได้ แม้แต่ประกาศก Prophet ผู้เป็นพระบุตรของพระเจ้าขึ้นมาเป็นมนุษย์ในโลก เสร็จแล้วพระบุตรนั้นบอกว่าเอาคำสอนของพระเจ้ามาประกาศเรียกว่า ประกาศก
เทวะ คือธรรมะสอง มหาเทวะใหญ่สุดที่ไม่มีใครสัมผัสได้ พระบุตรที่เอาคำพูดมาประกาศก็ยังไม่ได้สัมผัสจริงเลย แล้วก็ห้ามไม่ให้วิจารณ์คำสอนนั้นด้วย เป็นศาสนาที่บังคับเป็นศาสนาแห่งนายทาสกับลูกทาส เป็นศาสนาที่ไร้อิสระเสรีภาพอย่างน้อยก็เป็นทาสของพระเจ้า ไม่มีความเป็นอิสระ ศาสนาพุทธให้ความเป็นอิสระ ให้เลิกตั้งแต่เป็นทาสพระเจ้า ใครที่รักความเป็นอิสระเสรีภาพ เริ่มต้นก็ไม่ต้องเป็นทาสพระเจ้าแล้ว
อย่างลูกApple อีฟที่พระเจ้าชักเอากระดูกซี่โครงซี่ที่ 7 ของอดัมมาสร้าง อาตมาอธิบายได้ ลูกกระเดือกก็อธิบายได้ซี่โครงที่ 7 ก็อธิบายได้เป็นธรรมะทั้งนั้น แต่เขาไม่รู้เขาตีไม่แตก ศาสนาเทวนิยมตีไม่แตก
Apple พืชคืออาหาร จะเป็นมนุษย์ต้องกินอาหาร จะยืนยันว่าต้องกินอาหาร แสดงว่ามนุษย์ต้องกินอาหารอย่างนี้ อาหารคืออะไร คือ Apple คือ พีชะ เพราะฉะนั้นในศาสนาคริสต์หรือศาสนาเทวนิยม จะบอกว่าอาหารคือต้องกินพืชผักผลไม้ ผลไม้ลูกแรกเรียกว่าแอปเปิ้ล แล้วก็ยืนยันลักษณะ เป็นสภาวะยืนยันให้เห็น สัตว์โลกนี้ต้องกินอาหารและก็ต้องกินพืช ทีนี้ อีฟ คือ ส่วนหนึ่งของความเป็นคนคือพลังงาน 7 ที่ได้เอามาเป็นตัวบทบาทแตกเป็นธรรมะ 2 ก่อเผ่าพันธุ์ด้วยกัมมโยนิ เพราะฉะนั้นจึงมีลูกหลานของอดัมกับอีฟทั้งนั้นแหละ เพราะคนนี้เป็นลูกของอดัมกับอีฟทั้งนั้น อย่างนี้เป็นต้น
อาตมาไม่ต้องไปเรียนศาสนาคริสต์หรอก แต่อธิบายได้ ที่พูดนี้ไม่ได้ไปเรียนมาจากตำราของคริสต์ ไม่เป็นความรู้ ไม่ใช่เรื่องประหลาดอะไร แล้วก็ไม่ผิดหรอก ถูก ถ้าคุณเข้าใจได้ก็ถูก ถ้าไม่เป็นอย่างนั้นมันก็จะไม่เกิดมีลูกหลานของอดัมกับอีฟอย่างนี้ พวกที่เรียนศาสนาคริสต์มาก็จะเข้าใจดีว่าอาตมาพูดนี้ถูกไหม
ศาสนาพุทธไม่ใช่แค่หมดทุกข์ แต่ทำปรินิพพานเป็นปริโยสานได้ ทำให้เกิดธรรมะ 2 เป็น 1 และทำเป็น 0 ได้จบหมดทุกสิ่งทุกอย่าง
มะละกอกับฟักข้าวไม่ทะเลาะกัน เพราะมันเป็น พีชะ เสือกับสัตว์อื่นมันก็ทะเลาะกับสัตว์อื่น แบคทีเรียอันนี้ก็ทะเลาะกับแบคทีเรียอันอื่น เพราะฉะนั้นเกิดมาเป็นสัตว์นี้เป็นธาตุที่ นักรบนักกัดกัน มีสิ่งที่จะต้องทำคือพยายามทำอย่างไรไม่ให้กัดกัน จะไปทำให้แบคทีเรียไม่กัดกันทำให้สัตว์ตัวเล็กตัวน้อยไม่กัดกันมันเกินไป มันยาก เอาแต่คนไม่ให้กัดกันก็พอแล้ว
อาตมาพยายามมาสอนมาแนะนำไม่ให้กัดกัน ถ้าคุณเป็นสัตว์ก็กัดกันอยู่เป็นเดรัจฉาน มาเป็นคนก็ใช้คำพูดตกลงกันทำความเข้าใจกัน เพราะว่าคนเราจะต้องสื่อสารกันด้วยพยัญชนะทำความเข้าใจกันด้วยพยัญชนะด้วยภาษาด้วยคำพูด เพราะมนุษย์นี้สร้างคำพูดได้มันมีไม่รู้กี่ภาษา คนมีภาษาไหนก็ใช้ภาษานั้น ทำความเข้าใจกันให้ได้ ตกลงกันด้วยภาษาแล้วก็อยู่กันอย่างสร้างสรรค์ไม่มีการทะเลาะกันมีความสุข อาตมาทำได้อย่างประสบผลสำเร็จ จนกลายเป็นหมู่กลุ่มชาวอโศกสบายมากเลย คุณเชื่อไหมว่านักเลงโตคนเกเรเข้ามาในถิ่นของอโศกไม่ได้ เชื่อไหม
เขาเข้ามาก็ไม่ได้อะไร เขามาทำร้ายพวกคุณจะยอมให้เขาทำร้ายไหม 1. ยอม 2. หนี ไม่ตอบโต้เลย ด่าก็ไม่ตอบโต้ทะเลาะก็ไม่ตอบโต้หนีไปดีกว่า เพราะเขาเป็นพวกที่สัตว์กินสัตว์ต้องหาคู่กัด
อาตมาเองอาตมาเข้าใจธรรมะทะลุเข้าใจธรรมะตลอด เอามาอธิบายคนที่เข้าใจก็ได้ประโยชน์ พวกเราก็สบายสงบมีชีวิตอยู่อย่างเรียบร้อยราบรื่นง่ายงามมีสันติ เป็นชีวิตที่มีภราดรภาพ มีอิสระเสรีภาพ มีสันติภาพอันนี้เป็นวัฒนธรรม สันติภาพ ภราดรภาพ บูรณภาพ
ครบ 5 ภาพนี้มากกว่าฝรั่งเศส ที่มี 1. อิสระเสรีภาพ 2. เสมอภาค 3. ภราดรภาพ
เกร็ดดินมีชีวิตตั้งแต่ตัวเล็กน้อยอยู่ที่ฝรั่งเศสมา ศึกษาดี รู้จักฝรั่งเศสดี
ในความเป็นมนุษย์อาตมาว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ พระพุทธเจ้าเกิดมาไม่ได้ทำอะไร มาศึกษาความเป็นมนุษย์กับความเป็นสังคม แล้วท่านก็รู้จบ ท่านมาประกาศความรู้ของท่านไว้ให้แก่โลก แล้วก็ปรินิพพานไป ผู้ที่เรียนรู้ตามอย่างเช่นอาตมาเป็นโพธิสัตว์ก็มาสืบทอดมาขยายความทำให้คนรู้ตามให้ได้เท่าที่เราจะเก่ง เข้าใจอย่างนี้ถูกต้องแล้วสืบสานต่อไปเป็นประโยชน์ของมนุษย์
อาตมาทำงานนี้เพราะงานนี้เป็นงานที่ประเสริฐที่สุดของมนุษยชาติ ถ้าหากสมมุติอาตมาจบทางด็อกเตอร์ทำงานทางโลก ได้เป็นนายกฯได้เป็นรัฐมนตรี อาตมาก็ไม่เอา
ชีวิตอาตมานี้ดีไม่เคยไปรับราชการ หลงลิงลมอมข้าวพองหลายปี ก็รู้ว่าไม่ยากหรอก หากอาตมาทำต่อ อากู๋แกรมมี่ อาร์เอสไม่เกิดหรอกเพราะอาตมาวางแผนจะทำสำนักงานหัวใจสีชมพู มีโลโก้แล้วนะที่ใช้ของบุญนิยมทีวีนี้คือโลโก้ของสำนักงานหัวใจสีชมพูนะ ตรงหัวใจกลางสีแดง
อย่าง ดาราฟ่านปิงๆอายุ 30 ปีหาเงินได้เป็นพันล้าน โจวเหวินฟะ ตอนนี้จะยกสมบัติของตัวเองให้สาธารณะ ของตัวเองมีทรัพย์สินรวมกันแล้วตอนนี้ สองหมื่นสามพันล้านบาท หรือ 5.6 พันล้านดอลลาร์ ฟ่านปิงๆก็จะยกให้การกุศลคือ รัฐบาลจะเอาไปไม่งั้นจะให้ติดคุก สิ่งเหล่านี้เมื่อคนที่รู้แล้ว เงินทองข้าวของไปแย่งเขามาแล้วก็ไม่ดี ในโลกนี้ สังคมโลกในยุคไหนก็แล้วแต่ หากว่าราคาของดาราอบายมุขกับราคาค่าตัวนักกีฬา คือขิฑฑาปโทสิกะ กับมโนปโทสิกะ หากราคาดารา นักกีฬาสูงแพง นั่นคือสังคมโลกเสื่อมลง นายทุนจะสร้างอำนาจทำมาหากินมอมเมาโลกซ้ำแล้วซ้ำอีก มันน่าสงสารโลกที่ฉลาดไม่ดีเลย น่าสงสารมาก เต็มไปด้วยโง่ไม่มีฉลาดไม่รู้จะทำอย่างไร ขออภัยพูดเป็นภาษาข่มดูถูก
พูดด้วยความจริงใจไม่ได้รังเกียจไม่ได้ดูถูกแต่สงสาร คำว่าสงสารนี้คือสังสารวัฏ มันยิ่งใหญ่ที่สุด คือการวนเวียนกับโลก กิเลสก็พาให้จมอยู่ในนรกและสวรรค์ ศาสนาพุทธทำให้ไม่มีนรกไม่มีสวรรค์ รู้จบสูงสุด ความตรัสรู้ของพุทธเจ้ารู้ตรงนี้ อยู่ที่หมดนรกหมดสวรรค์ มีแต่จิตที่เป็นอทุกขมสุข ไม่มีสุขไม่มีทุกข์มีแต่สุขที่บริสุทธิ์ มีคุณภาพ 5 อย่าง มีคุณลักษณะ 5 ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา
ปริสุทธา จิต บริสุทธิ์ไม่มีกิเลส ถ้าเรียกว่าธรรมะ 2 ก็ไม่มีกิเลสแล้วเป็น 0 เป็นธรรมสูญไม่มีกิเลส อธิบายด้วยพยัญชนะคือจิตไม่มีกิเลสสภาวะไม่มีกิเลสสูงสุด คือไม่ทุกข์ไม่สุข ชั่วไม่มีดีก็ไม่มี เพราะเราหมดชั่วหมดดี ความชั่วอาตมาไม่ทำ ดีอาตมาก็ไม่มีปัญหาอะไรมีแต่ปัญญา กรรมของอาตมามีแต่การกระทำที่เป็นตัวกระทำที่เป็นปัญญา และคือดี ไม่มีชั่วสักตัว กรรมที่เกิดมีแต่จิตที่ยังจิตให้เป็นไปในอำนาจได้ ไม่ทำชั่ว สัพพะปาปัสสะอะกะระณัง กุสลสูปสัมปทา มิติที่ทำแต่ดีทำชั่วไม่ทำ มุทุ แววไว เร็วทำได้เร็วทุกกรรม กัมมัญญามีแต่กรรมที่ดีที่ได้สัดส่วนพอเหมาะ ดีที่สุดสมดุลด้วยสัดส่วนที่พอเหมาะเรียกว่า กัมมัญญาในกายกรรม วจีกรรม มโนกรรมก็ดี ปภัสสรา โชติช่วงชัชวาลผ่องใสตลอดกาลไม่มีเศร้าหมองไม่มีทุกข์ไม่มีสุข ไม่มีการเปื้อน สะอาดอยู่อย่างนิรันดร เป็นตถตา ไม่เป็นอื่นแล้วเป็นอย่างนี้
นิจจัง(เที่ยงแท้) ธุวัง (ถาวร) สัสตัง(ยืนนาน) อวิปริณามธัมมัง(ไม่แปรเปลี่ยน) อสังหิรัง(ไม่มีอะไรหักล้างได้) อสังกุปปัง(ไม่กลับกำเริบ) “นิจจัง-ธุวัง-สัสสตัง-อวิปริณามธัมมัง-อสังหิรัง-อสังกุปปัง”
นี่คือ เวทนา 5 ที่เป็นฐานนิพพาน
จิตประภัสสร ด้วยจิตมุทุภูตธาตุ ด้วยจิตเราเป็นเจ้าเรือนที่ยังจิตให้เป็นไปในอำนาจได้ตามที่เราประสงค์ จะมีเหตุปัจจัยอะไรมาเกี่ยวข้อง กระทบสัมผัสทำร่วมอยู่ ก็ปริโยทาตา เราก็ทำได้ให้จิตเรารักษาความสะอาดบริสุทธิ์ได้ตลอดกาลนาน บริสุทธิ์ที่เป็น status ทุก status quo ไม่มีเปื้อนเพี้ยน มีแต่สะอาด มีแต่สิ่งที่จะทำให้เราเปื้อนเราก็กลับทำให้มันสะอาดได้อีก เราไม่เปื้อน มีแต่เราถ้ามีพลังงานมีฤทธิ์ให้คนอื่นลดความเปื้อนลง พูดไปตามที่ตัวเองทำได้
ยถาวาที ตถาการี ยถาการี ตถาวาที พูดอย่างไรทำได้อย่างนั้นทำอย่างไรก็พูดได้อย่างนั้น
(ดช.ธัมโม ร้องเสียงแหลมดัง พ่อครูเลยถามว่า ชื่ออะไร ชื่อ พงศ์ธิพุทธ)
พ่อครูว่า…ธิ คือ ธ คือทรงไว้ ิ ก็คือสระ ก็ ทรงไว้ซึ่งความยิ่งใหญ่
สู่แดนธรรมว่า…แปลว่า ผู้ทรงไว้ซึ่งประโยชน์ ปรีชา ปัญญา
สุดท้ายก็มีแต่พยัญชนะกับภาษาที่จะสื่อสาร ใครจะติดยึดกับพยัญชนะเขาก็หยุดอยู่อย่างนั้น ใครยึดถือแต่สภาวะก็ไม่เอาภาษา มันก็สลับไปสลับมา ใครจะยึดภาษาก็เอาภาษาขึ้นหน้า ใครจะยึดถือสภาวะก็เอาสภาวะขึ้นหน้า สลับไปสลับมาคนที่ยึดถืออย่างใดอย่างหนึ่งก็หวงแหนว่าอันนี้ไม่ใช่ อันนี้ไม่ใช่ แต่คนที่เข้าใจว่าอันนี้มันเป็นอย่างนี้ อันนี้มันเป็นอย่างนี้ อาตมาก็ไม่มีปัญหาเรื่องเหล่านี้ เข้าใจก็จบเท่านั้นเองอยู่ในโลก
ขณะนี้ใครว่าอาตมาดี อาตมาชั่วก็ไม่สงสัย พยายามฟังภาษา สภาวะ ที่เขามาตำหนิมาว่า อาตมาเป็นอย่างที่เขาว่ากันไหม อาตมาชัดเจนสิ่งที่อาตมาทำ
อาตมารู้สึกว่าพยายามบรรยายนี้พอรู้เรื่องไหม? รู้สึกว่าตัวเองยังไม่เก่ง อธิบายไม่กระจ่าง
ในโลกนี้มีแต่เทวะ ศาสนาเทวนิยมตีเทวะไม่แตกทำให้ธรรมะสองให้เป็นหนึ่งไม่ได้ คนที่ทำให้ธรรมะ 2 เป็นอย่างไรก็รู้ทุกอย่าง ทุกอย่างเอามาแยกเป็นหนึ่งเป็น 0 ได้หมด ก็หมดที่จะทะเลาะกันก็กระจ่างทุกอย่าง เอาทีละสองแยกได้หมดไม่สงสัยเลย ตีเทวะแตก
พวกตีเทวะไม่แตกคือตัวปัญหา พระเจ้ายึดถือเทวะ ยึดถือจนกระทั่งฉันต้องเป็นใหญ่ในโลก ต้องเป็นใหญ่กว่าศาสนาใดๆนั่นแหละคือตัวปัญหาของโลก ลัทธิใดเป็นอย่างนี้ก็คือตัวปัญหา ศาสนาใดที่เป็นแบบนี้ก็คือศาสนาที่เป็นตัวปัญหา อาตมากำลังพูดสัจจะไม่ได้ไปว่าใคร มันเป็นอย่างนั้นจริงๆชัดเจนเลย ในโลกนี้มีผู้พยากรณ์ว่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ มันก็จะเป็นไปในโลกนี้ไม่สงสัย มันก็จะเป็นไป
ของเราชาวพุทธ จึงเป็นผู้ชัดเจน ว่าอะไรคืออะไร แล้วเราก็อยู่กับโลกเขา โดยไม่ได้เป็นตัวทะเลาะกับโลก อาตมามองทางศาสนากับการเมือง กับสิ่งที่มนุษย์บริหารปกครอง เมืองไทยเรานี้ มีธรรมะ มีความเข้าใจในเรื่องการเมือง จึงสามารถที่จะใช้ธรรมะเท่าที่มี ตัวเองจะไม่รู้ตัวก็ตาม ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่สามารถปฏิบัติประพฤติเอามาใช้ได้ ให้อยู่ดีมีสุข
เรื่องแรก พลเอกประยุทธ์ปฏิวัติบอกว่าขอยึดอำนาจ อาตมาก็ยังอธิบายว่า พลเอกประยุทธ์ไม่ต้องยึดอำนาจ เพราะว่าอำนาจเป็นของประชาชนแล้ว เพราะว่าประชาชนได้ยึดอำนาจไว้หมดแล้วไล่รัฐบาลทรราชสามานย์จบไปแล้ว ช่วงนั้นไม่มีรัฐบาลแล้วก็ต้องมีผู้บริหารมาเป็นตัวแทนโดยไม่ได้แต่งตั้ง แต่โดยหน้าที่โดยตำแหน่งต้องมารับหน้าที่ ตั้งแต่วันนั้นมา การเมืองของไทยจึงเป็นการเมืองของประชาชน เพราะตัวแทนของประชาชนเข้าไปทำหน้าที่ ประเทศไทยมีพลเอกประยุทธ์ อยู่ในตำรา อยู่ในวิชาการว่า เข้ามายึดอำนาจ คนที่ติดยึดว่าประชาธิปไตยต้องเลือกผู้เป็นนายกไปบริหารถ้าเป็นการยึดอำนาจอย่างนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตย นี่คือ พวกที่ติดตำราเก่าก็ว่าไป
พวกอยากได้อำนาจก็ยืนยันตามตำรา ว่าอย่างนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตยเป็นการยึดอำนาจบริหาร เพราะฉะนั้นพวกกูเป็นประชาธิปไตยกูจะเอาเลือกตั้ง คุณประยุทธ์ก็บอกว่าไม่มีปัญหาถึงเวลาก็เลือกตั้งตอนนี้ก็ทำงานก่อน เขาได้ตั้งเวลาไว้แล้ว คุณจะมาให้เลือกตั้งวันนั้นวันนี้จะบ้าหรือ เขาก็ต้องวางอะไรให้ทุกอย่างลงตัว จะเอาแต่ความบ้าที่จะชนะคะคานได้เปรียบไม่ได้
พอพลเอกประยุทธ์บอกว่า ยึดอำนาจแล้วตั้งตนขึ้นเป็นนายกฯบริหาร ทำงานไปพวกนั้นก็ร้องตะโกนว่าเจ้าข้าเอ๊ย นี่เป็นพวกไม่ใช่ประชาธิปไตย บอกว่าประเทศเป็นประชาธิปไตยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เพื่อให้ประเทศไทยไม่น่านับถือไม่น่ายอมรับ การค้าการขายการเมืองจะบอยคอตประเทศไทย เสร็จแล้วเป็นอย่างไรตอนนี้มีประเทศไหนบอยคอตประเทศไทยได้ รู้สึกบ้างว่ามันไม่ใช่ที่เอ็งพูด คนในโลกเขามีปัญญา ถ้าพลเอกประยุทธ์มาโกงกินประชาชนต่างประเทศจะประท้วงไหม ทุกวันนี้เป็น globalization มันจะประท้วงแน่ แต่ว่าพลเอกประยุทธ์มีการบริหารตามคุณลักษณะประชาธิปไตยใช่ไหม คนเหล่านั้นจึงไม่ประท้วงรู้จักสาระเสียบ้างสิจะไปเอาแต่เลือกตั้งคือประชาธิปไตยไม่ใช่เลือกตั้งไม่ใช่ประชาธิปไตยอย่างนั้นมันบ้า มันโง่
ตอนนี้ ปชป. กำลังทำเท่ ว่าเขาเป็นนักประชาธิปไตยชั้นหนึ่งแม้แต่หัวหน้าพรรคก็ยังให้เลือกตั้ง
มีข่าวก็ว่า ปชป.เล่นละคร ลุงตู่เป็นนักเผด็จการบริหารประเทศแต่เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก แต่นายกที่เขาว่าเป็นประชาธิปไตยก็ต้องหนีหัวซุกหัวซุน คนที่เขาหนีคดีอยู่ก็อ้างว่าเป็นประชาธิปไตย แต่ในพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังมีการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเป็นประชาธิปไตยซ้อนอยู่ในประเทศประชาธิปไตยอีก เห็นไหมว่าประชาธิปไตยของไทยนั้นสูงส่งขนาดไหน
_เวทนา 108 ย่อความง่ายๆ
พ่อครูว่า…ถ้าเผื่อว่าผู้ที่สามารถรู้เวทนา 108 แล้วก็ตีแตกเวทนา 108 ปฏิบัติเวทนา 108 มีผลสำเร็จ บรรลุธรรมในเวทนา 108 ผู้นั้นเป็นอรหันต์ ผู้ที่มาสนใจเรียนรู้เวทนา 108 คนจะมีเวทนาต้องมีผัสสะเป็นปัจจัย ถ้าไปหลับตาปิดตาปิดหูปิดจมูกปิดลิ้นปิดกาย ไม่มีการรับสัมผัสทางทวารทั้ง 6 เวทนาก็ไม่เกิดมีได้ เป็นการปฏิบัตินอกรีตศาสนาพุทธ ให้ตีทิ้งได้เลยพวกที่ทำการหลับตาปิดทวารไม่ใช่ศาสนาพุทธ ฟังอาตมาย่ำยีตีทิ้งพวกนั่งหลับตามาจนกระทั่งป่านนี้ 40 กว่าปีแล้ว เขาก็ไม่สะดุ้งสะเทือนเลย เราพูดไปเถอะ แต่อาตมาก็ต้องตีเพราะเป็นสัจจะที่เลี่ยงไม่ออก
เวทนา 108 คือเนื้อแท้ของศาสนาพุทธ ในพระไตรปิฎกเล่ม 10 ข้อ 60
ดูกรอานนท์ ธรรมทั้งสองเหล่านี้ รวมเป็นอันเดียวกันกับเวทนา โดยส่วนสอง (เทฺว ธมฺมา ทฺวเยน เวทนาย เอกสโมสรณา ภวนฺติ ฯ ) ล.10 ข.60
สั้นๆแค่นี้ สุดยอดของหัวใจศาสนาพุทธแล้ว
ธรรมะ 2 เทฺว ธมฺมา หรือเทวะคือไปเป็นศาสนาที่เป็นเทวนิยมตีเทวไม่แตก ยกให้เป็นสุดยอดความจริงความรู้ แล้วเขาก็ไม่รู้ว่าความจริงความรู้นี้คืออะไรเพราะเขาตีไม่แตกเขาแยกไม่ออก พระพุทธเจ้าก็จึงได้หยิบเอามาแยกแยะ โดยเอาเนื้อแท้ของมนุษย์ เวทนาของมนุษย์ ความสุขความทุกข์ก็อยู่ที่เวทนา มาเป็นอริยสัจ 4 แล้วก็ให้หาเหตุแห่งทุกข์และดับเหตุแห่งทุกข์ให้ได้ จนหมดความสุขความทุกข์ เหลือเพียงหนึ่ง เหลือเพียง 0
ถ้าดับเหตุนี้ได้คนที่บรรลุตรงนี้ก็หมดโทษภัยหมดพิษ เป็นคนที่จะมีแต่ (พ่อครูไอ ตัดออกด้วย)
สมณะฟ้าไทว่า..เอาของเทียมออก ให้เหลือแต่เวทนาแท้ อุเบกขาที่เขาเข้าใจว่าเฉย แต่ที่พ่อครูเอามาอธิบาย นั้นอุเบกขาของพุทธเจ้าต้องมี “กรรม”-การงานพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ไม่ใช่อยู่เฉยๆไม่ทำอะไร ปริโยทาตา ต้องมีการกระทบมีผัสสะ จึงจะเกิดให้รู้ว่าบริสุทธิ์ที่แท้จริงหรือไม่ มุทุ เขาแปลว่า นิ่ม อ่อน แต่พ่อครูว่าแววไว เปลี่ยนได้ไวทั้งปัญญาเจโต มีธาตุหัวอ่อน
พ่อครูว่า..เป็นธาตุจิตหัวอ่อนปรับได้เร็ว เป็นยอดของเวทนาที่อยู่ใน ธาตุวิภังคสูตร ในพจนานุกรมฉบับประมวลศัพท์ของพระพรหมคุณาภรณ์หรือสมเด็จพุทธโฆษาจารย์ในปัจจุบัน ท่านไม่ได้รวมเอา คุณสมบัติของ เวทนา 5 ไว้แต่อาตมาเห็นว่าสำคัญมากเป็นตัวจบสุดยอดของเนื้อหา ซึ่งน่าเสียดาย ที่ไม่มีในนั้น
เวทนา 5 อาตมาไม่เห็นเวทนา 5 ที่เป็น ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา แต่ ท่านมีเวทนา 5 ที่เป็น สุขเวทนา ทุกขเวทนา โทมนัส โสมนัส อุเบกขา
ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา ทำให้ได้ต่อเนื่องเสมอๆสมบูรณ์แบบก็เป็นอรหันต์ที่สมบูรณ์ ผู้ใดทำได้เป็นครั้งคราวก็ได้เป็นครั้งคราวในอรหัตตผลนั้นๆ
ในปฏิจจสมุปบาทหรือมูลสูตรก็มีผัสสะกับเวทนา อายตนะ ผัสสะ เวทนา ตัณหาอุปาทาน
แม้แต่ในสูตรอื่นมีผัสสะก็เกิดเวทนา ไม่มีผัสสะ ไม่เกิดเวทนาไม่มีการปฏิบัติ แต่การปฏิบัติไปดับเวทนา อยู่ดีๆก็นั่งแล้วไม่เกิดความรู้สึกอะไรมันก็หมดความฉลาด ในจิตมันไม่มีความฉลาดมีแต่โง่ตัวเดียว ถ้าไปทำอย่างนั้น อาตมาก็เลยว่าทำไมเข้าใจกันไม่ได้อ่านพระไตรปิฎกกันมา สอนกันมาพูดกันมา ผู้รู้ก็สอนกันมา คนที่ไม่รู้ไม่อ่านก็แล้วไป เอาแต่นั่งก็ตามโง่เง่าอย่างนั้น ก็ไม่ตื่นสักที ผู้รู้ภาษารู้ตำราก็เอามาอธิบายแต่ทำไมไม่อธิบายหรืออธิบายไม่ออก ถ้าแก้ไขตรงนี้ไม่ได้ศาสนาพุทธไม่ฟื้น ถ้าแก้ความตื่นให้เกิดชาคริยาตรงนี้ไม่ออก ผู้ใดรู้ตัวแล้วก็ให้เลิกเสียที บางคนกลัวจะเสียหน้าก็ไม่ยอมเปลี่ยนก็มี
อย่าไปนั่งหลับตาปิดทวาร ต้องเปิดทวารในขณะที่มีงานสัมมาอาชีพ อะไรกุหนาก็เลิก อย่างทักษิณทั้งกุหนา ลปนา ทั้งโกง ตอแหล ทั้งปฏิบัติประพฤติในพฤติกรรมให้เห็นอยู่ ตัวเองประพฤติไม่พอก็ส่งน้องสาวมาประพฤติซ้ำซากอีก ถอดแบบพี่ชายมา ก็เลยถูกตัดสินจำคุกมากกว่าพี่ชายอีก เห็นไหมผลมันออกมาก็ชัดเจนแต่ไม่รู้เรื่องเลยว่าตัวเองทำเอง แล้วมาหาว่าศาลไม่ยุติธรรม ไปตัดสินเขาผิดๆ (พ่อครูไอมาก ตัดออกด้วย)
สมณะฟ้าไทว่า..เขาทำผิดไปก็ไม่ยอมรับผิด แต่ถ้ายอมรับผิด ขอเข้าคุก คนจะยอมรับเขามากเลย แน่มาก
พ่อครูว่า…อาตมาใช้พยัญชนะสื่อถึงสภาวะที่ลึกมากเลยนะ มีลีลาท่าทางด้วย
สรุปว่าโลกนี้ ไม่มีอะไรเลยนอกจาก ธรรมะ 2 มีแต่ตัวนี้ ถ้าใครเข้าใจได้ทั้งความหมายที่เป็นภาษา ทั้งในสภาวะที่เป็น ว่า 2 นี้คืออะไร
2 คืออะไร
ชาวเทวนิยมที่ยึดถือในพระเจ้า เป็นสิ่งสุดยอด และเขาก็ไม่รู้จักพระเจ้า เขาไม่เคยได้สัมผัสกับพระเจ้า ไม่เคยเห็นเนื้อตัวไม่เคยจับต้องเป็นสิ่งลึกลับ สายเทวนิยมจะตีธรรมะไม่ออก เป็นต้นว่าจะแยกเวทนา 108 แยกไม่ออก แยกเป็น เคหสิตะกับเนกขัมมะ เวทนา ก็แยกไม่ได้ แม้แต่ในศาสนาพุทธของพระพุทธเจ้าเดี๋ยวนี้ก็ไม่มีใครจะมาแยกแยะอธิบายได้ เพราะไม่เห็นความสำคัญ ไม่รู้เนื้อแท้ว่าเป็นสิ่งที่สุดยอด ถ้าผู้ใดเป็นชาวพุทธเป็นนักปฏิบัติขนาดไหนก็ตามไปหานิพพาน ถ้าไม่รู้สภาวะเวทนาที่เป็น เคหสิตะกับเนกขัมมะ เวทนา ไม่รู้จักสภาวะของอาการ ลิงค นิมิต ว่าแตกต่างกันอย่างไร แล้วทำอาการที่เป็นเคหสิตะ มันจะเป็นสุข ทุกข์ โทมนัส โสมนัส อุเบกขา ก็ทำให้เป็นเนกขัมมะให้ได้เข้าใจจิตที่เป็นโลกียะกับโลกุตระ
เนกขัมมะคือการจับตัวกิเลสให้ได้ อาการที่มันเกิดจากเหตุคือกิเลสความสุขที่มันเป็นโลกียะ ก็ทำให้มันลดลงไปได้ ที่จริงสุขมันคือตัวแทนของทุกข์ คือตัวปลอม สุขคือลิเกของทุกข์ มันก็ทรงเครื่องร่ายรำว่าสุข สมมุตินามตามท้องเรื่องว่าข้าพเจ้าคือท้าวเธออย่างนั้นอย่างนี้ ความจริงแล้วสุขกับทุกข์มันคือตัวเดียวกัน มันคือลิเกทั้งนั้นแหละเนื้อแท้ของมันคือทุกข์ แต่มันทรงเครื่องเป็นความสุขมาหลอกมานานแล้ว เท่านั้นเอง
ตัวทุกข์นี้คุณเลิกเป็นตัวทุกข์เสียทีได้ไหม เหตุอะไรที่มันพาให้ทุกข์ก็ตามหาเหตุ ภาษาที่เป็นเทวคือธรรมะ 2 แล้ว 2 คือคุณมีตัวภาษาเทวะกับตัวสภาวะ คุณก็แยกภาษา 2 นี้ให้ออก สภาวะว่ามันคืออย่างไร อาการของจิต สภาวะคืออาการของจิต
จิตของคุณมีอาการสุข อาการสุขคืออาการของ 2 อย่างคือรูปกับนามเรียกว่าธรรมะ 2 เรียกว่ากาย เรียกว่าเทวะ เพราะฉะนั้นคนที่หลงเทวะ คือหลงเทวะที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่ทุกข์เลยคือพระเจ้า เพราะฉะนั้นใครได้ไปอยู่กับพระเจ้า ตายไปแล้วอยู่กับพระเจ้า แต่ใครทำชั่วไปหาพระเจ้า พระเจ้าจะไม่รับพระเจ้าจะส่งลงนรก ถ้าใครทำดีก็จะไปอยู่กับพระเจ้า ความหมายก็อธิบายอยู่แค่นี้ แล้วทำไมต้องให้พระเจ้าส่งลงนรกหรือดึงเอาไว้ในสวรรค์เป็นเจ้าของสวรรค์คนเดียว สวรรค์อยู่ในโลกมนุษย์ไม่มีหรือ
เวทนาเป็นอาการของสวรรค์หรือนรกเป็นความทุกข์ความสุข ให้เรียนความจริงตรงนี้ให้ได้ คุณเป็นคนนี้มีความรู้สึกไหม รู้จักความรู้สึกไหม อ่านความรู้สึกให้เป็น ความรู้สึกที่เป็นความสุข ความรู้สึกที่เป็นความทุกข์ให้แยกแยะให้ออก แล้วให้รู้ว่าความสุขนี้มันคือตัวทุกข์ปลอมแปลงตัวเหมือนเป็นลิเก มาหลอกว่าเป็นตัวสุข ที่แท้เองมันคือตัวทุกข์แท้ๆ ก็ต้องตาม หามันให้เจอ
เทวะคือ 2 ต้องดูสภาวะทุกข์แล้วตามหาเหตุแห่งทุกข์ให้ได้ ศาสนาพุทธตามหาเหตุอย่างนี้ แล้วก็ทำลายเหตุตัวโง่ตัวอวิชชา ตัวที่ไปยึดถือว่าอาการอย่างนี้สภาวะอย่างนี้เอามันไว้ในจิต เอามาไว้ทำไมเอามาเป็นตัวทำให้ตัวเองทุกข์ ทำให้ตัวเองโง่ ตัวนี้พระพุทธเจ้าท่านก็อธิบายว่าตัวนี้มันไม่ใช่ตัวตน มันไม่ใช่ตัวจริง มันไม่มี แต่คุณไปมีอยู่ในจิต คุณก็โง่อยู่นั่นแหละ ถ้าหากคุณเข้าใจแล้วถ้าไม่มีตัวเหตุที่พาให้ทุกข์ตัวนี้มันก็สบาย
ตัวเหตุคืออะไร เหตุคืออาการ “อยาก” คุณก็ต้องอ่านอาการอยากให้ได้ ท่านก็สอนเป็นลำดับ มันอยากได้อะไร ในการสัมผัสสัมพันธ์เกี่ยวข้องปรุงแต่งเกี่ยวกับโลกอบายมุข
เช่นโลกขี้โกงแล้วสุข อย่างเช่นทักษิณหรือน้องสาวกับธัมมชโยเป็นต้น
ธัมมชโยก็หลอกให้ไปสวรรค์ ไม่พูดถึงเหตุแห่งทุกข์ให้เลิกความทุกข์อะไร แต่ทุกคำพูดของเขาก็คือตัวเหตุแห่งทุกข์ ทำให้เกิดแห่งทุกข์ คือตัวโง่ที่หลอกให้เกิดเหตุแห่งทุกข์ทั้งนั้น แต่คนไม่เข้าใจ
อ้างอิงเรื่องจริง ทั้งเรื่องนักบวชและฆราวาสเป็นตัวอย่างของความโง่ที่ไม่เข้าใจกัน
เสร็จแล้วเราไม่เรียนรู้เราก็ไปเป็นลูกน้องของทักษิณของคนนิยมของอวิชชาตัวนี้ คุณก็ไม่รู้อาการจิต อาการ ลิงคิ นิมิต ว่า มันเป็นตัวอยากอบาย คุณก็ดูเอามาทำไมสิ่งที่โง่สิ่งที่ต่ำเหล่านี้ หรือคุณได้โลกนั้น ได้โลกที่คุณรวยคุณชนะ
ขณะนี้ ทักษิณได้ความรวยไป แต่ยังชนะเขาไม่ได้ ธัมมชโยได้ความรวยไปแต่ยังชนะไม่ได้ แต่อย่างไรประเทศไทยก็ระงับชะนีบ้าบอสองตัวนี้ได้แล้ว มีบทบาทเต้นแร้งเต้นกาอยู่คือทักษิณแต่คนหนึ่งไม่รู้ว่าอยู่ไหนเลยส่งลูกน้องมาเท่านั้น คือ ธัมมชโย
เมืองไทยเป็นฟีโนมีนอนมีตัวอย่างที่ให้ศึกษาได้เลยมีตัวตนด้วย ทั้งทางด้านการเมืองและทางด้านธรรมะเห็นได้ชัดเลย แม้ที่สุดตัวโลกุตระก็มีตัวอย่างของคนไทยให้ศึกษา แล้วชี้หน้าได้อย่างไม่เกรงใจผีซาตานทั้งสอง ทั้งด้านฆราวาสและทางด้านนักบวช ไม่ไว้หน้าอย่างไม่เกรงไม่กลัวเลย เข้ามาสิอาตมาวิ่งหนีเป็นนะ เรื่องอะไรอาตมาจะอยู่ให้เขามาทำลาย คุณเชื่อไหมว่าคนโง่นี้ทำชั่วทำร้ายได้ อาตมาไม่โง่ให้เขาทำชั่วหรอกอาตมาฉลาดที่จะต้องไม่พยายามให้เหตุเขาทำชั่ว ต้องหนี ถ้าอาตมาอยู่ก็จะเป็นเหตุให้เขาทำชั่วอาตมาก็จะไปทำทำไม อาตมาจะไปรับให้เขาตกต่ำไปทำไม อาตมาไม่เป็นเหตุเป็นคู่ให้เขาทำชั่วหรอก หนีก็ไม่เจ็บตัวด้วย
สมณะฟ้าไท …สรุป