วิถีบวร 1 ใน 1000 ตอน..แผ่นดินพุทธนี้มีแต่”ให้”
วันศุกรที่ 26 ตุลาคม 2561
วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่บวรราชธานีอโศก มีผู้มาเยี่ยมเยือนและเรื่องราวมากมาย จนดิฉันเห็นสัญญาเดิม หรือความจำเดิมว่า เหมือนหมู่บ้านแถวในเมือง ใจกลางกรุงที่มีผู้คนพลุกพล่านตลอดทั้งวันเลยค่ะ แต่ที่แตกต่างกันคือกิจกรรมที่เกิดขึ้นในบ้านราชล้วนไม่ใช่ประโยชน์ส่วนตน หวังผลประโยชน์ใดๆ แต่เป็นประโยชน์เพื่อส่วนรวม เพื่อสังคม
เล่าขานเรื่องแรก ที่ศาลาเฮือนศูนย์สูญ นำหลานสาวตัวน้อยด.ญ.รุ้งคำฟ้า(ข้าวหอม)มาอวดอีกแล้ว เป็นปกติที่เจ้าหอมจะลงมากินข้าวพร้อมกับคุณยายอี๊ดที่ศาลาทุกวัน ได้กราบหลวงปู่ทุกครั้ง มาครั้งนี้หลวงปู่เมตตาเอ็นดู ให้ข้าวโพดซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าหอมชอบมาก พอหลวงปู่ยื่นให้ก็บิดไปบิดมาด้วยความเขิน แต่ก็รับมาจากหลวงปู่ กราบขอบพระคุณหลวงปู่แล้ว ก็วิ่งแจ้นมาอวดยายอี๊ด แถมยังทำหน้าแฉล้ม ไม่นานนักข้าวโพดก็หมดฝักพร้อมกับใบหน้าเธอที่เปื้อนไปด้วยเมล็ดข้าวโพด ช่างเป็นการกินที่ได้อารมณ์จริงๆ
เรื่องราวของเจ้าหอมยังไม่หมดเท่านั้น ช่วงที่พ่อครูสมณะโพธิรักษ์เดินย่อยอาหารไปที่อาคารบวร อาเปีย พลังจิต ศิลปินชาวอโศกเห็นตุ๊กตายีราฟวางทิ้งอยู่ในถังขยะหน้าบอร์ดนิทรรศการ 3 อาชีพกู้ชาติ จึงนึกถึงเจ้าหอมขึ้นมา ยายอี๊ดเลยเรียกเจ้าหอมมา หลวงปู่ก็เอ็นดูมอบตุ๊กตายีราฟจากถังขยะให้เจ้าหอม เธอรับมาด้วยความดีใจ เป็นการได้รับอาหารจากหลวงปู่ถึง 2 อย่างในเช้านี้ ทั้งอาหารของร่างกายและอาหารของจิตใจ เป็นความเมตตา กรุณาของพระโพธิสัตว์ต่อลูกหลานที่พบเจอในทุกๆวัน
อีกหนึ่งเรื่องราวที่ประทับใจพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ คือท่านมีความห่วงใยในเรื่องแสงสว่างภายในอาคารบวร เพราะไม่นานนักก็จะมีลูกๆหลานๆมาพักและทำกิจกรรมภายในอาคาร แต่ว่าภายในอาคารยังไม่มีแสงส่องสว่าง ท่านสมณะคมเย็นที่กรุณาจัดหาโคมไฟแบบประหยัด เพื่อมาติดตั้ง แต่ก็ยังคงรองานฐานโคมไฟจากท่านสมณะด่วนดี พ่อครูจึงบอกท่านปัจฉาดินไทโทร.ถามท่านด่วนดีเพื่อให้การดำเนินงานทำได้ทันที พอท่านสมณะด่วนดีมา ท่านบอกสมณะคมเย็นว่าให้ติดตั้งชั่วคราวได้เลย พ่อครูจึงบอกว่าถ้าอย่างนั้นมัดโคมไฟกับไม้รวกเป็นแนวยาวๆไปเลยจะได้ให้ทันใช้งานเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้คนที่จะมาทำกิจกรรมในช่วงนี้
พ่อครูแวะดูต้นทองอโศก ที่ดอกเริ่มร่วง โรยรา ดิฉันเห็นถึงความสวยงามก็ไม่เที่ยงวันหนึ่งก็เหี่ยวเฉาโรยรา ไม่ต่างอะไรเลยจากชีวิตมนุษย์ ที่มีเกิดขึ้นตั้ งอยู่และดับไป วันนี้แดดจ้าท้องฟ้าเปิดสว่าง ทำให้ทิวทัศน์น้ำตกผาแหงน น้ำโตนเหมือนภาพวาดในส.ค.สเลยค่ะ
มาถึงเฮือนศูนย์สูญ เห็นภาพประทับใจ ที่คุณปะตรงเตือนกับแม่แขก พร้อมทั้งเด็กน้อยสมุนพระราม ช่วยกันลากเก้าอี้เพื่อเตรียมจัดห้องประชุม ซึ่งเจ้าตัวน้อยๆนี้ก็สามารถจัดเก้าอี้ประชุมได้ดีเลยทีเดียวค่ะ ทั้งเรียน ทั้งเล่น เป็นการใช้พลังงานของเด็กๆได้มีประโยชน์สูง ประหยัดสุดจริงๆค่ะ
ช่วงบ่ายวันนี้ ชาวบวรราชธานีอโศก มีโอกาสต้อนรับผู้คนที่มีหัวใจเดียวกัน คือหัวใจสีเขียวเกษตรอินทรีย์ มารวมตัวกันเพื่อเตรียมจัดกิจกรรม”โครงการรวมพลังเกษตรกรรมยั่งยืน ราชธานี-อุบล” โดยมีท่านสมณะเดินดิน คุณอนันต์ ปรีชาวุฒิพงษ์เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอุบล นายอำเภอ ฤทธิสรรค์ เทพพิทักษ์นายอำเภอวารินชำราบ รวมถึงตัวแทนเจ้าหน้าที่ทหารที่ดูแลความมั่นคงของจังหวัด พร้อมทั้งภาคีเครือข่าย สาธารณสุขจังหวัด พาณิชย์จังหวัด ตัวแทนจากมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ปฏิรูปที่ดินจังหวัด และอีกหลายๆฝ่ายและที่สำคัญ คือเกษตรกรหัวใจอินทรีย์ ที่ได้มาประชุมเตรียมงานประกาศปฏิญญาไม่ใช้สารเคมีในการผลิตผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2561 ซึ่งอยู่ในช่วงงานมหาปวารณาวันสุดท้ายพอดีค่ะ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานีเป็นเจ้าภาพของจังหวัดอุบล กล่าวรายงานต่อท่านอาจารย์ยักษ์ รัฐมนตรีช่วยวิวัฒน์ศัลยกำธ รที่ให้เกียรติมาเป็นประธาน ประกาศปฏิญญาไม่ใช้สารเคมีในทางการเกษตร ในครั้งนี้ดิฉันได้ยินเกษตรกรอินทรีย์ที่มาร่วมประชุม ออกความเห็นถึงการทำเกษตรอินทรีย์ นึกเห็นใจในความพากเพียรมุ่งมั่นมาโดยตลอด ก่อนที่ทางราชการจะสนับสนุน ชาวเกษตรอินทรีย์ไร้สารพิษ ต้องสู้กับเรื่องราวการดำรงชีวิตทวนกระแสสังคม ตลาดก็ไม่ค่อยมี มาถึงวันนี้หลายคนรู้สึกตื้นตันใจ ที่ผู้หลักผู้ใหญ่ให้การสนับสนุน แต่ก็ยังคงมีปัญหาอีกหลายเรื่อง ที่จะต้องให้ผู้ใหญ่ช่วยแก้ไขซึ่ งท่านเกษตรจังหวัด ได้ออกนโยบายเพื่อให้เกษตรกรมีความเชื่อมั่นในการทำเกษตรอินทรีย์
ช่วงท้ายการประชุม ทางคณะได้เดินทางไปที่อาคารบวร เพื่อดูสถานที่ อาดินดอนตั้งใจจน ได้พาคุณอนันต์เกษตรจังหวัดอุบลและทีมงานเดินดูส่วนนิทรรศการ ก่อนกลับคุณพรตะวัน พร้อมจน ได้มอบผักไร้สารพิษของตลาดนัดบุญนิยม เป็นของที่ระลึกให้กับท่านเกษตรจังหวัดด้วย
วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่น้ำตกผาแหงน น้ำโตนและหน้าลานสะโพ มีเสน่ห์ดึงดูดผู้คนให้หลงใหลในความเย็น สดชื่น โอโซนบริสุทธิ์ ท้องฟ้าใส น้ำใสไหลเย็น มีรุ้งกินน้ำที่สามารถถ่ายรูปด้วยได้ หาไม่ได้ง่ายๆแล้ว แต่พบเจอได้ที่บวรราชธานีอโศกอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานีค่ะ