611029_รายการสำมะปี๋ซี่วิต บ้านราชฯ ครั้งที่ 22
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1e89_ACh4oEP1nZvtfn8N3E-nVlmlDw976MqIbbbJLjA/edit?usp=sharing
ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=1oPOqSgqHzQMo2RY8gRzOvrF5To_FLUft
พ่อครูว่า..วันนี้วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม 2561 ที่บวรราชธานีอโศก แรม 5 ค่ำเดือน 11 ปีจอ วันจันทร์ สำมะปี๋ซี่วิต ซึ่งคนพยายามแปลสำมะปี๋ จะว่าไม่ได้ระบุว่า เป็นเชิงดีหรือเชิงไม่ดี ดีก็ได้เลือกเอา ตาดีได้ตาร้ายเสีย ปนเละอยู่ในนี้ แต่แน่นอน เราเป็นพวกที่ศึกษาฝึกฝนเล่าเรียนเลือกเฟ้นเอาแต่ส่วนที่ดี ส่วนไม่ดีเราไม่เอาไม่เกี่ยวข้อง แม้จะมาเกี่ยวข้องกับเรา เราก็ต้องระวัง เราก็ต้องทำให้เขาเข้ามาแปดเปื้อน เข้ามาทำร้าย เข้ามาทำอะไรที่ไม่ดีกับเรา เราก็ต้อง สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องอจินไตยเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาฝึกฝน ทำพลังงาน ทำรังสี ซึ่ง ภาษาวิทยาศาสตร์เป็นกัมมันตภาพรังสี ละเอียดและมีฤทธิ์ในตัวมันเอง สำคัญมาก มันมีจริงๆซึ่งมองไม่เห็นเลย ดีไม่ดีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ ยังจัดการไม่ได้ ค้นหารังสีทางจิตวิญญาณ วิทยาศาสตร์ยังอีกไกล
อาตมาพูดว่าจิตวิญญาณนี้เร็วกว่าแสง หลายคนไม่เชื่อ แต่พอดีมีปรากฏการณ์ที่จะมายืนยันอ้างอิงได้เช่นว่า นีล อาร์มสตรอง เคยไปดวงจันทร์ แกก็ไปสัมผัสดวงจันทร์ แกก็มีจิตไปกำหนดแล้วว่าระยะตรงนี้ตรงนี้เป็นอย่างนี้ ทิศทางใครก็แล้วแต่ เส้นโคจร มันจะมีสัญญาของคนกำหนดรู้กำหนดได้ โดยเฉพาะถิ่นที่ตัวเองได้เคยสัมผัส ก็จะจำได้ แน่นอนจำได้ไม่ลืมเด็ดขาดว่า ที่ตัวเองเหยียบไว้ เมื่อแกคืนกลับมาสู่โลก คนก็ถามว่า เป็นยังไง ตรงนั้นรับรองจิตของแกก็วิ่งไปตรงนั้นเลย เชื่อไหมว่าเร็วกว่าแสง เป็นภาวะยืนยันอธิบาย คนคิดตามได้ว่า แน่นอนของเราไม่ต้องไกลถึงขนาดนั้นเราก็ยังเร็วขนาดนี้ ถึงตายแล้วก็เร็ว ปรู๊ด เร็วขนาด ระยะแสงเรารู้ว่าเร็วเดินทางเท่าไหร่ ก็จิตเราเร็วกว่าแสงเท่าไหร่ จิตคนที่ไม่ได้ฝึกก็ยังเร็วแล้ว เร็วกว่าแสงแล้ว มันเร็วยิ่งกว่าอะไรดี เพราะฉะนั้นยิ่งคนได้ฝึกจิตแล้วยิ่งเร็ว
เพราะฉะนั้นจึงสามารถที่จะรับรู้สัมผัสแล้วจับเข้ามารู้ เร็วขึ้นเร็วขึ้นๆ ได้มากขึ้น ทัน ความเร็วของแสง แสงจากตรงนี้มากระทบตาแสงจากตรงนั้นมากระทบตา แม้แต่หูก็ตาม เสียง ไม่ใช่เรื่องประหลาดถ้าเรามีสมรรถนะฟุตบอลจริงๆ เป็นจริงเป็นได้ อาตมาไม่ได้ฉงนไม่ได้สงสัย ตัวเองเป็นได้ คนที่ยังทำไม่ได้ก็มาศึกษาเถอะ ศึกษาดีๆแล้วจะรู้ แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่ไม่ใช่เรื่องน่ามหัศจรรย์อะไรหรอก เป็นเรื่องตามเหตุปัจจัยของมัน ตามความเป็นจริงของมัน ไม่ใช่เรื่องพิลึกพิลืออะไร
อย่างอาตมานี่ขอพูดตรงๆเลยว่า อาตมารู้ว่าอาตมานี่ รู้มาก รู้ในหลายๆอย่างที่คนไม่สามารถรู้ได้เท่า คนฟังก็ขอให้อย่าหมั่นไส้ พูดอย่างวิชาการ อาตมารู้อะไรที่คนไม่สามารถรู้ได้เท่าเยอะ แล้วเอามาพูดเอามายืนยัน สิ่งนี้เขาไม่รู้ตาม เขาก็ไม่รู้ว่าถูกหรือผิด เขาก็ไม่รับ ถ้าคนที่รู้ว่าอันนี้ถูก หรือคนก็จะรู้ว่า ไม่ง่ายนะที่จะรู้ เรารู้ได้ก็ไม่ง่ายนะ ก็ยิ่งจะทึ่ง คนนี้รู้ ก็ว่าเรารู้ไม่ง่ายแล้วนะ ของเรานี้ยังรู้น้อยอีกกว่าเขา อย่างอันอื่นอีก เราพอรู้รำไร แต่คนนี้รู้ดีอธิบายจนเราได้รับความรู้ตาม คุณจะยอมรับขึ้นมาเรื่อย ขอให้อย่ามีอคติในใจว่าอย่างเดียวจำใส่กบาลไว้ อย่ามีอคติในใจ
เพราะว่าการมีอคติในใจนี้มันไม่ได้เจริญมันโง่ มันทำให้ตัวเราเองยิ่งโง่ดักดาน โง่หนักเข้าไปอีกดีไม่ดีเข้าใจผิดซับซ้อน ซวยหนัก เพราะฉะนั้นจิตใจถ้าไม่มีอคติ 4 ลําเอียงเพราะรัก ลำเอียงเพราะชอบ ลําเอียงเพราะชัง ลําเอียงเพราะไม่รู้โมหะ ลำเอียงเพราะกลัว
ในรอบตัวที่อาตมาทำงานจะมีหนังสือพจนานุกรมกับปทานุกรมเยอะเลย ยังต้องการอีกในสิ่งที่อาตมาไม่รู้ในพยัญชนะ ปทานุกรมคือสิ่งที่เขาแปลพยัญชนะ จะเป็นของชาติไหนแม้แต่ของไทยก็ตาม หลายเจ้าก็ตาม ปทานุกรม พจนานุกรม จะมีนัยยะละเอียดที่แหลกแตกต่าง อาตมาก็ต้องขอบคุณท่านทั้งหลายที่ทำขึ้นมา อาตมาก็ได้ใช้ แล้วเอามาสื่อสภาวะ ขอยืนยันว่ามีสภาวะไม่น้อย แปลว่ามาก แล้วก็มีมากไม่น้อย มีมากๆไม่น้อยเลยแปลว่ามากๆยิ่งขึ้น อย่างนี้จริงๆ
SMS วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2561 (วิถีอาริยธรรม)
_3867คติธรรมสารอโศกฯคนโง่มักทำให้ตนเป็นทุกข์! คนฉลาดจักทำให้ตนพ้นทุกข์
_ปนิรัตน์ : ฟังพ่อท่าน แล้วถึงพริก ถึงขิงค่ะรู้สึกว่า ตัวเองโชคดีมากเลยค่ะ
_แก้วลา ไชยวงค์ · อายุจะ 60 แล้วเพิ่งได้ฟังธรรมะที่แท้จริงจากพ่อท่านนี้แหละเจ้าค่ะเริ่มปฏิบัติมาตั้งหลายปีแล้วใหม่ๆล้มลุกคลุกคลานเดี๋ยวนี้ยืนตั้งใข่ได้แล้วต่อไปลูกจะเดินตามพ่อท่าน ตามท่านสมณะท่านสิกขมาตุ กลุ่มชาวอโศกอย่างมั่นคงเจ้าค่ะ
_อำภา รื่นใจดี · น้อมกราบนมัสการท่านพ่อครู ลูกขอโอกาสถามได้ฟังการสนทนาธรรมรายการหนึ่งทางวิทยุ บอกว่า พระภิกษุทำหน้าที่ 2 อย่าง คือ คันธธุระและวิปัสสนาธุระ
ขอคำอธิบาย คันธธุระ เพราะยังไม่เข้าใจ และตามความเข้าใจของลูกคิดว่าท่านสมณะอโศก คงทำหน้าที่ 2 อย่างนี้ไม่เหมือนภิกษุในเถระสมาคมจึงขอความรู้ ว่าสมณะอโศกทำหน้าที่ 2 อย่างนี้อย่างไรการที่สมณะทำงานที่โรงปุ๋ยเป็นการทำหน้าที่คันธธุระ หรือ วิปัสสนาธุระ สาธุเจ้าค่ะ
พ่อครูว่า…สรุปแล้วก็คือเรื่องของคำว่าคันถธุระกับวิปัสสนาธุระ สองคำนี้มันหมายความว่าอะไร
คันถธุระ หมายความว่าเป็นพระผู้ที่เรียนรู้มากรู้ภาษาเยอะ แต่ไม่เข้าใจถึงสภาวะ สัจธรรม ก็สอนแต่คันถธุระ หรือเอาภาระแต่การสอน แต่ตัวเองไม่เรียนรู้ปรมัตถธรรม ไม่เรียนรู้ให้เกิดสภาวะธรรมที่ตนเองพึงได้ ผู้สอนอันนี้ก็ได้แต่เปลือก ได้แต่พยัญชนะที่สื่อให้คนอื่นฟังแต่ตนเองไม่ได้ จะเทียบในตำนานก็จะคือพระโปฐิละ คือพระใบลานเปล่า
ส่วนคนที่เข้าถึงสภาวะปรมัตถ์ เข้าถึงสภาวะธรรมหรือจิตเจตสิกรูปนิพพาน คือพวกวิปัสสนาธุระ ใช้ความหมายคู่กันกับคันถธุระ อย่างนี้เป็นต้น
คันถธุระคือผู้เอาภาระแต่เพียงสอนแต่จิตใจตัวเองนั้นไม่มีสภาวะ ยังไม่มีความรู้ทางสภาวะธรรม ที่เป็นอภิธรรม มีเยอะไม่รู้ตัวง่ายๆ การจะรู้คันถธุระหรือวิปัสสนาธุระ จะต้องรู้ธรรมะ 2 พยัญชนะกับจิตนิยาม ตัวผู้รู้จะต้องรู้ 2 อย่าง
เช่นอาตมาให้รู้ความยิ่งใหญ่ของธรรมะ 2 ที่เรียกว่าเทวะ ยิ่งใหญ่ทั้งหมดเลยในเรื่องของศาสนาในเรื่องของลัทธิในเรื่องของจิตวิญญาณ เทวะ เป็นคำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้วต้องตีแตกตัวนี้ เป็นภาษาสภาวะที่สลับกันไปสลับกันมา คนไม่รู้ก็เลยสับสนกันใหญ่ระหว่างพยัญชนะกับสภาวะ สลับกันไปสลับกันมาไม่รู้กี่รอบ เสร็จแล้วตัวเองก็นึกว่าตัวเองรู้ ถูกต้อง แต่แท้จริงไม่ถูกต้อง นอกจากไม่ถูกต้องแล้วมันยังมีรอบเป็นร้อยรอบพันรอบที่ตนเองไม่รู้สลับไปสลับมาไม่รู้กี่ชั้น นี่คือความยิ่งใหญ่ของธรรมะ 2
พระพุทธเจ้าจึงให้เริ่มต้นศึกษาตั้งแต่ธรรมะ 2 คู่แรกเลยหยาบที่สุดตื้นที่สุดคุณอย่าประมาท เรียนรู้สิ่งต่ำอย่างง่ายๆ ตั้งแต่เริ่มต้นพระพุทธเจ้าสอน สอนศีลสมาธิปัญญา เอาคู่แรกที่เราเองอยากเรียนรู้แล้วให้บรรลุทีละคู่ๆๆ มันจะ advance ก้าวกระโดดพัฒนาได้เร็วเป็นลำดับ พระพุทธเจ้าถึงสรุปของท่านว่า ความเป็นลำดับนี้เป็นสิ่งน่ามหัศจรรย์ เป็นระบบระเบียบ ถ้าไม่เป็นระบบระเบียบจะสลับไปสลับมาซับซ้อนอีกนาน แต่ถ้าได้ลำดับจริงๆตั้งแต่ธรรมะ 2 เป็น 3 4 5 6 7 เท่าที่อาตมามีปัญญาอธิบายซึ่งไม่ง่ายเลยแต่พอเข้าใจไปตามลำดับ
คันถธุระคือเรื่องเปลือก วิปัสสนาคือเนื้อแท้
_ทำไมพระข้างนอกห่มจีวรสีเหลือง แล้วพระข้างในห่มสีน้ำตาล
พ่อครูว่า…นี่ยื่นมีดให้อาตมาเสียบเขานะนี่ ก็ตอบ…นี่เป็นวิชาความรู้ ขออภัยที่ท่านห่มสีเหลืองกันเยอะแยะ แล้วพวกเรามาห่มสีน้ำตาลสีกาสาวพัตร สีกรัก
ตอบก็คือพระพุทธเจ้าท่านเห็นว่าไม่สมควรจึงได้ตรัสห้ามไว้ วินัยพระไว้ในเรียบร้อยเลยบันทึกไว้เรียบร้อย 1.สีครามล้วน 2.สีเหลืองล้วน 3.สีแดงล้วน 4.สีบานเย็นล้วน 5. สีดำล้วน 6. สีแสดล้วน 7. สีชมพูล้วน (พตปฎ. เล่ม 5 ข้อ 169)
สีเหลือง จะเรียกว่าล้วนหรือมีเฉดผสมกันนิดหน่อย สีแสดสีเหลือง แต่แดงก็ผิด เหลืองก็ผิด แต่คุณว่าไม่แดงล้วนแสดล้วน แต่แสดอ่อนแสดแก่ก็ผิด คือมันมีอัตตาก็เลยใส่ อาตมาก็พูดตามสัจธรรมคำสอนพระพุทธเจ้าไม่ได้ดันทุรังอะไร มันก็เป็นไปตามสัจธรรมคนที่จะต้องหลงทางไปห่มสีเหลือง แต่ถ้าเผื่อว่าไม่ยึดมั่นถือมั่นก็เปลี่ยนมา ก็มีผู้เปลี่ยนมาเรื่อยๆผู้ที่ยังยึดมั่นถือมั่นดึงดันอยู่ก็ยังมีก็เห็นอยู่ ช่างศีรษะดื้ออยู่ก็เห็น ดื้อดึงดัน ไม่เห็นมีเรื่องอะไรใหญ่โตเลย ใหญ่โตไม่ใหญ่โตไม่เป็นไรแต่พระพุทธเจ้าท่านบัญญัติไว้ ก็ไม่เสียหาย ยิ่งไม่ใหญ่โตก็ยิ่งทำง่ายจะไปดันทุรังทำไม จะไปยากเย็นทำไม
เขาก็บอกว่าเรื่องนิดหน่อยเอามาพูดทำไม แต่ถ้าคุณมีผู้เคารพนับถือแล้วคุณก็ทำสิ่งที่ผิดตามที่พระเจ้าตรัส เขาก็ทำตามคุณแล้วมันควรไหม เพราะคนอื่นเขาปล่อยวางไม่ได้เขายึดมั่นถือมั่นเขาก็ไปตู่ ด่าคนนั้นคนนี้ก็ได้ แต่คนอื่นเขายึดมั่นถือมั่นตามคนมันก็เป็นผลสืบเนื่อง
สรุปแล้ว ทำไมข้างนอกห่มสีเหลือง เพราะว่าไม่ได้ทำตามพระพุทธเจ้าสอนพระวินัยเล่ม 5 ข้อ 169
_ทำไมพระอโศกต้องเรียกว่าสมณะ
พ่อครูว่า…ตอบ ทีเรียกว่าสมณะก็เพราะเป็นไปตามธรรม ที่จริงชาวอโศกก็เคยเรียกว่าพระเป็นภิกษุ พระเป็นภาษาไทย หรือมาจากคำว่าพร หรือวร ซึ่ง แปลว่าผู้สูงส่งผู้ประเสริฐ ก็มาใช้เป็นพยัญชนะภาษาไทยเรียกคนที่ประเสริฐว่าพระ โดยเฉพาะเอาไปใช้กับนักบวช นักบวชก็เรียกว่าภิกษุหรือเรียกว่าพระเลย จริงๆพระที่เรียกเป็นยศตำแหน่งก็มี มีขุนมีหลวงมีพระก็มี จนกระทั่งถึงพระยา จนเดี๋ยวนี้ก็ยังมีถึงสมเด็จพระยา ก็มาจากคำว่า วร ภาษาบาลี แปลว่าสูงสงประเสริฐก็มาใช้แทนสภาวะธรรม
อาตมาบวชมาก็ไม่ได้ดึงดัน ไม่ได้ไปสนใจจะเรียกว่าภิกษุอะไร เสร็จแล้วก็มาเกิดความขัดแย้งกันกับเถรสมาคมคณะใหญ่ ก็บรรยายอย่างลัด นิทานมันยาว จนกระทั่งมีเรื่อง เขาไล่อาตมาออก แต่ที่จริงเขาขี้ตู่ เขาใหญ่เขาไล่อาตมาออกจากเถรสมาคม ที่จริงอาตมาประกาศไม่เอาเถรสมาคมขอแยกออกมาต่างหาก นี่คือสัจจะ เป็นเรื่องนานาสังวาสตามพระวินัยของพุทธเจ้าอาตมาก็ทำถูกต้องตามนั้น ประกาศแยกในวันที่ 6 สิงหาคม 2518
วันที่ 7 สิงหาคมก็เป็นวันที่อิสระเต็มที่ แรกๆ เถรสมาคมก็ยังยอมรับพ.ศ 2518 วันร้ายคืนร้ายพ.ศ 2532 เขาก็ดึงเข้าไปอีก นอกนั้นเขาก็ยอมรับอยู่นะ มีนิทานสิ่งอ้างอิงเยอะแยะ
ก็ขอสรุป เป็นเรื่องสัจธรรมที่เป็นไปตามธรรม ผู้ที่ทำผิดก็ยังยิ่งมีนิทานเรื่องราวเหตุปัจจัยที่ผิด พัวพันเกี่ยวข้องโยงใยเป็นโดมิโนเป็นอิทัปปัจจยตาไปเรื่อย ผู้ถูกก็ยิ่งถูกๆๆ มีเส้นทาง เหมือนที่เขาติดตามเส้นทางการเงินของวัดตอนนี้ไง มันมีรูปกับนาม นามธรรมก็ตามได้รูปธรรมก็ตามมีเส้นทางทั้งนั้น ก็เรียนรู้ตามนี้ให้ดี
_ที่หลวงปู่รับเงินผิดอาบัติไหมคะ
พ่อครูว่า…อาตมารับเงินอยู่ทุกวันนี้ มีคนเอาเงินมาบริจาคมาถวายอาตมาก็รับให้เห็นมีรูปยืนยัน บิณฑบาตก็รับใส่ อยู่ที่ไหนเขาให้มาก็รับ อาตมารับด้วยมือด้วยวัตถุ แต่จิตอาตมาไม่ได้ยึดเป็นของตัวของตน เป็นอจินไตย เป็นเรื่องจิตของแต่ละคน ไม่มีใครหยั่งรู้ ความจริงในจิตอาตมาได้ดีเท่ากับตัวเอง มีคนที่เชื่อใจ ถ้ามีใครสามารถหยั่งรู้จิตใจของอาตมาได้อาตมายิ่งจะดีเลย อยากจะให้ผู้นั้นมาอ่าน อาตมาก็อ่านจิตตัวเองได้เท่าที่อาตมามีภูมิว่าอาตมาสะอาด อาตมาไม่ได้มีจิตถือเป็นเราเป็นของเรา ไม่ได้อยากได้เป็นเราเป็นของเราไม่ได้สะสมไม่ได้อยากร่ำรวยอะไร หากอาตมาสะสม ป่านนี้อาตมาก็มีไม่รู้กี่ร้อยกี่พันล้าน อาตมาก็ไม่ได้พูดอวดตัว อาจจะมีไม่น้อยถึงร้อยล้านอาจจะถึงพันล้านจะถึงหมื่นก็ไม่รู้ เพราะว่าทำไปนี่กระจัดกระจาย ที่จริงก็ไม่น่าจะถึงหมื่นหรือแสนล้าน คิดว่าไม่ถึงเท่าที่เคยได้รับบริจาคแล้วทำไปใช้ไป คงไม่ถึงหมื่นล้านแสนล้าน พันล้านก็น่าจะถึงอยู่นะ
หมื่นล้านจะถึงหรือเปล่าก็ไม่รู้เพราะว่าทำกระจัดกระจายไปเรื่อยๆอาตมาไม่ได้ยึดติดเป็นเราเป็นของเราไม่ได้สะสม ได้มาก็สลายเอาไปทำงาน เป็นแต่เพียงว่าอาตมามีหลักในตัวเองว่า
1.อาตมาไม่เป็นหนี้ พวกเรามีระบบเงินหนุนเราไม่เรียกเงินหนี้ ใช้เป็นเงินอุดหนุนจุนเจือกันแล้วเงินก็ไม่เรียกเงินกู้ ของทางโลกเขามีดอกเบี้ย แต่ทางเรานี้ ได้ไปไม่ได้ใช้หนี้ก็ถือว่าเป็นเงินหนุน เราก็ต้องคืนเขา เรามีแล้วก็รีบคืนเป็นวิธีการเป็นวัฒนธรรมชาวอโศกเรา อย่างนี้เป็นต้น
2.สร้างสรรของตนเอง ฝีมือความสามารถลงทุนลงแรงเองให้มันเกิดผล ผลผลิตที่เราจะอาศัยเป็นอาหารเป็นเครื่องอาศัยเป็นเครื่องกินเครื่องใช้ แล้วเราก็กินก็ใช้ที่เราทำ เป็นแรงงานความรู้เป็นสัดส่วนที่เรามีสิทธิ์เต็มที่ ให้เหลือให้พอของตัวเอง เหลือเกินจากที่ตัวเองกินใช้แบ่งแจกคนอื่น ให้เหลือให้เกินให้คนอื่นได้แม้มันจะไม่โดยตรงโดยอ้อม อาตมาไม่ได้ปลูกพืชผักโดยตรง แต่เราก็มีส่วนมีสิทธิ์ในนี้ ทำงานส่วนที่เป็นหน้าที่ของตัวเอง ให้พอให้เหลือ แล้วแจกจ่ายเจือจาน นี่เป็นหลักเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่
1 อย่าเป็นหนี้ 2 ทำให้พอกินพอใช้ 3 ทำให้เหลือ 4 สะพัดแจกจ่ายแก่ผู้อื่น อย่าให้ตัวเองทำจนเป็นหนี้หรือฉุกละหุก ไม่ต่อเนื่องขาดตอนก็อย่าทำ ต้องประมาณให้พอแรง ต้องคำนวณสมรรถนะหรือสิ่งที่จะสัมพันธ์กับเราให้พอหมุนเวียน ไม่ขัดข้อง อย่าทำให้เกิดความขัดข้องมันเป็นทุกข์มันยุ่งยากเสียงาน อย่างนี้เป็นต้น
อาปัติ คือจิตไม่สะอาด อาบัติก็มีระดับ อาตมาไม่มีจิตที่หยาบใหญ่สะสมเป็นของตนเป็นอัตตามานะไม่มี มีก็เอามาใช้ในแวดวงของพวกเรา ซึ่งก็มีบารมีพอสมควรก็พอเป็นพอไป ไม่เห็นจะต้องยาก เดี๋ยวคนนั้นคนนี้ก็มาเสริมให้ ได้อยู่ มันไม่ขาดหรอก มันเป็นอจินไตย เป็นเรื่องที่เดาเอาไม่ได้คิดเอาไม่ได้ หลงตัวเองไม่ได้ มันเป็นจริงของบารมี
พูดอย่างง่ายก็ได้ไม่ง่ายก็ได้เทียบเคียงให้เห็น พวกเราหลายคนมีบารมีด้านทรัพย์สินมากกว่าอาตมา หาเงินได้เร็วได้เยอะกว่าอาตมา หลายคนในนี้เคยหาได้เยอะ อาตมาหาเงินได้ไม่เท่าไหร่หรอกในชาตินี้ ทางโลก มีรายได้มีเงินหมุนเวียนเป็นล้านก็จริง แต่อาตมามีชีวิตเป็นฆราวาสยังไม่เคยสะสมเงินก้อนเป็น 10 ล้าน เงินก้อนจะเป็นคงคลังของอาตมา อาตมาทำงานอยู่ 12 ปี เงินทองหมุนเวียนเยอะแยะมากมายแต่ไม่เคยสะสมในตัวเองเป็นตัวเลขถึง 10 ล้าน 5 ล้านก็ดูยาก แต่หมุนเวียนทำในสิ่งที่เป็น 5 ล้าน 8 ล้าน 10 ล้าน แต่มีเวลาทำงานอยู่ทางโลกก็ไม่ได้ขัดข้องไม่ได้ตกต่ำ
จริงๆแล้วอาตมาเป็นคนขับรถติดแอร์เป็นคนแรกของประเทศไทยนะ แอร์ตัวแรกของบริษัทฟอร์ดเขาสั่งมาซึ่งมันยังไม่ติดกับรถหรอก เป็นแอร์ที่ต่างหาก ก็พยายามปรับปรุงมาติดรถยนต์ อาตมาก็พยายาม เป็นรถยุโรป ไดนาโมมันก็ไม่ค่อยดี สู้รถญี่ปุ่นไม่ค่อยได้ อาตมาก็เอา ตอนนั้นใช้ Ford corsair ที่เป็น demonstrate ที่เป็นตัวอย่าง อาตมาก็ซื้ออันนี้ เพราะคันที่จะเอามาโชว์มันต้องเอาคันที่ดีที่สุดมาอวด ซื้อแล้วเขาก็บอกว่ามีแอร์นะ แต่ต้องติดต่างหาก อาตมาก็เอาๆๆ อาตมาก็ให้เขาติด ตอนนั้นยังไม่มีใครติดหรอกอาตมาเป็นคนแรก เสร็จแล้วต้องไปเข็นกลางทางบ่อยเพราะว่าไดนาโมมันไม่พอจ่ายไฟ แต่ก็ยังภูมิใจนะ เข็นก็เพราะรถแอร์ละว้า เอ็งไม่รู้หรอกว่าไดนาโมมันยังไม่เก่ง ซ้อนลึกก็ยังรู้สึกเท่ห์อยู่นะว่าอย่างไรก็รถแอร์ เพื่อนอาตมาเรียนกับมาตั้งแต่ม.7 ม.8 เวลาเลี้ยงรุ่นเขาก็จะจ่าย เราก็บอกว่า ลื้อเป็นข้าราชการ อั๊ว ขี่รถแอร์แล้วนะ อั๊วต้องจ่าย ลื้อไม่มีสิทธิ์จ่าย นี่มันหน้าใหญ่ใจโต
นี่คือเรื่องราวโบราณ สนิมรัก นี่คือนามปากกาอันแรก ต่อมาก็เปลี่ยนเป็นโบราณนวทัศน์ เสร็จแล้วก็มาเปลี่ยนเป็นโบราณ ไม่เสมอ ตอนหลังก็มีเก่าสมัย ใหม่เสมอ นี่คือนามปากกา นามแฝง
สรุป หลวงปู่รับเงินไม่ได้มีอาบัติ เอาวินัยมาจับได้ หลวงปู่รับเงินจริงแต่จิตไม่มีอาบัติ จิตไม่มียึดถือเป็นเราเป็นของเราอย่างแท้จริงเอามาใช้งานผ่านไป หมดก็หมดมีก็มี แต่มันก็มีบารมีที่ไม่หมด มีหมุนเวียนมาเรื่อยๆ จะติดขัดอย่างไรบางทีก็ ถึงขั้นต้องเปรยปรายก็จะมีคนที่เข้าใจไหวพริบทันเอามาให้ เขาพอมีก็เอามา ก็เป็นไปตามบารมีลอกเลียนยาก
_น้ำตกที่จะทำใหม่ จะเสร็จตอนไหนหรือคะ
พ่อครูว่า…น้ำตกที่เราทำอยู่ตอนนี้คือน้ำม่าน ท่านศิลปินคมคิดก็ยังนึกไม่ออกตามที่อาตมาจินตนาการก็ยังยาก ก็ยังนึกไม่ตรงกับอาตมาว่ามันจะต้องเป็นแผงเป็นแผ่น ไม่ใช่ออกมากระจายเป็นเส้น มากๆหนาๆ จะเป็นแผ่นบางเท่าไหร่ก็ยิ่งสวยติดกัน ทีนี้วิธีทำก็ยังไม่เคยทำ ถ้าทำได้ก็ได้น้ำม่านเป็นระยะยาว จากสวนไม้ตาย คำว่าไม้ตายคือไม้เด็ด แต่อาตมาก็เอาต้นไม้ตายๆมาตั้ง พยัญชนะกับสภาวะ ก็ทำเป็นสวนไม้ตาย สำนวนไม้ตายคือไม้เด็ด อาตมาเข้าใจธรรมะ2 เยอะก็เอามาใช้ มันยกสูงก็จะได้มีลำธารมีคลองก็จะให้น้ำนี้ไหลลงไปเป็น แปว เป็นคลองแล้วก็จะเป็นที่ๆสไลเดอร์ แต่ต้องทำให้ปลอดภัยดีๆ ก็ไม่ได้ลึก และไม่ให้มีอะไรที่ทำให้เกิดบาดเจ็บก็ต้องกันๆไว้ ก็กำลังทำกันอยู่ จะเสร็จเมื่อไหร่ตอบไม่ได้ว่าจะเสร็จเมื่อไหร่ ก็มีน้ำตก มีน้ำโตน น้ำม่าน น้ำริน
น้ำตกมี…แมนน้ำริน หินน้ำไหล น้ำตกไทบ้าน ม่านน้ำ
แก่ง มีแก้งตำอิด ติดราม สามใส ไฝใหญ่ ไทบ้าน
ก็ทำไปตามประสาตัวเองที่เห็นว่าดี คนมาอาศัยเล่น น้ำก็ทำให้สะอาดให้ใส ตอนนี้ก็ประกาศใครมีความรู้ ลองมาทำน้ำคลองถอยหลังเข้าให้มันใส่ได้ ใครมีฝีมือก็เชิญ มาช่วยกันหน่อย อาตมาไม่มีปัญญาทำให้มันใส่ได้ คนเลยไม่ค่อยชอบ ไม่ค่อยอยากจะไปเล่น ก็ยังคิดอยู่เลยว่าจะหาเรือแคนู มาใส่ไว้ มันใสก็จะพายกันเล่น พายลอดซุ้มหินพายผ่านแก้ง แก้งหรือแก่งก็อยากให้ทำเป็นแปว คือน้ำไหลแรงเป็นช่อง เรือพายในร่องน้ำไหลก็ดีเลย ไปทีละแก่ง แล้วล่องน้ำไหล วนให้ทะลุเลย แต่ตอนท้ายนี้วนไม่ได้ต้องแบก ทั้งหมดพันสี่ร้อยกว่าเมตร รับรองสนุกแต่ตอนนี้ทำยังไม่สำเร็จ เขายังไม่ค่อยเข้าใจเจตนาอาตมาเท่าไหร่ ผู้ที่เข้าใจแล้วก็อยากจะสนอง
ที่ทำนี้ทำเพื่อประชาชน คนจะได้มาอาศัยเป็นที่พักผ่อน เป็นที่คลายเครียด สำเริงสำราญไป ใครที่เข้ามาที่นี่เป็นแต่เพียงว่าอย่ามาทำเลวร้าย อย่ามาทำเกะกะเกเร อย่ามาทำสิ่งที่มันไม่สมควรในที่นี้ ผู้ใดมาแล้วก็มาฝึกฝน เราก็จะมีหลักเกณฑ์คนดูแล เราเป็นเจ้าของสถานที่ที่ไม่ได้เก็บเงิน เจตนาให้คนมาอาศัยมาเล่น ผู้ใหญ่ยังไม่ค่อยกล้ามาเล่นเท่าไหร่ ในอนาคตก็คงจะมี
_พิมพ์เพชรรุ้ง…ลูกมีปีติ เบิกบานใจที่ได้มาอยู่ในระบบสาธารณโภคี มีพี่น้องช่วยเหลือเกื้อกูล เป็นคนอีหลี มาเด้อพี่น้อง มาอยู่ด้วยกัน มาเป็นหนึ่งในพัน มาอยู่ที่นี่มีแต่แนวดี มีสัปปายะ 4 อาหารสัปปายะ มีพืชผักไร้สารพิษ เสนาสนะสัปปายะ มีสิ่งแวดล้อมที่ดีอากาศก็ดี บุคคลสัปปายะ คือหมู่กลุ่มที่มีศีล 5 หมดทุกคน ธรรมะสัปปายะ มีโลกุตรธรรมจากพระอาริยะ นี่คือแดนวิมุติ วิมาน วิโมกข์ ใครอยากเป็นผู้มีโชคก็ให้มาอยู่ด้วยกันที่บ้านราชเมืองเรือบ้านไม้เมืองหินบ้านดินเมืองน้ำ บ้านงามเมืองพุทธ บ้านพิสุทธิ์เมืองอมตะ
_ใจแก้ว…จะพูดภาษาอีสานประโยคหนึ่งว่า เฮ็ดจังใด๋ก็ได้จังนั่น…จะถามพ่อท่านว่า ตอนที่ยังไม่เจอพ่อท่าน แม่ที่เป็นภิกษุณีไต้หวัน แม่ก็ชวนไปทุกวันไปสวดมนต์ เจ้าแม่กวนอิม เข่งทำไปทำมา อยู่นานหลายปี อาจารย์ก็บอกจะเข้ากรรมฐาน 3 เดือน เข่งก็ว่า เคร่งดี แต่รู้ทีหลังว่า เขาเอามีดโกนไปด้วย ให้เข่งหิ้วอาหารไปแขวนที่หน้าต่างทุกวัน พอออกมาจาก 3 เดือน หูสองข้างนี้หายไปเลย ออกมาใบหูสองข้างไม่มี พอเข่งมาที่สันติอโศก รู้สึกว่า ธรรมะอย่างนี้เจ็บตัวไม่เอา นิ้วก็ตัดด้วย ก็เลยกลัวไม่กล้าปฏิบัติ อีกไม่นานก็มาเจอพ่อท่านให้ถือศีลกินมังฯไม่ต้องตัดหูอย่างนี้ดีกว่า
พ่อครูว่า…เป็นสายเทวนิยม สายศรัทธา ยังตีไม่แตกในเรื่องของเทวะ ตอนนี้อาตมากำลังขยายความคำว่า เทว คำนี้ ยิ่งใหญ่ที่สุดในเรื่องจิตวิญญาณในเรื่องศาสนา แม้แต่ในทางธรรมทางโลก ธรรมะ 2 นี้ ศึกษาให้ดีอาตมากำลังขยายความ คำว่าธรรมะ 2 นี้ลึกซึ้งมาก สนุกในการขยายความ ละเอียดมากเลยจนคนที่ดูแลบอกว่านอนบ้าง อาตมาว่าเดี๋ยวนี้ จะไปเปลี่ยนชื่อที่ลงทะเบียนด้วยบังอรแล้วเอาแต่นอน
_ใจแก้วว่า…แม่เค้าสวดมนต์เป็นชั่วโมง เข่งไม่รู้จะทำอะไร อยู่ดีๆเห็นใบไม้ไหวพริ้วๆจิตมันก็มีความสุข ปฏิบัติธรรมแบบนี้มีความสุขแต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร
พ่อครูว่า…นั่นเป็นความรู้ทางธรรมที่คุณตีแตกจากการยึดมั่นถือมั่นว่ามันต้องนิ่งหยุดเป็นหนึ่ง เพราะเห็นความไว ก็เห็นว่าทุกอย่างไม่เที่ยงทุกอย่างเคลื่อนไป แสดงถึงจิตคุณเห็นว่าอาการเคลื่อนไหวถูกต้องกว่า อย่างนี้ไม่เอาก็เลยเลิกจากสิ่งนั้น เหมือนกันกับพระ จูฬปัณฎก ถูผ้าไปผ้าก็ดำ ไม่ขาว มันก็ไม่เที่ยง อันนี้ก็ตีแตกธรรมะ 2 อันนี้ก็เหมือนกันดำกับขาว อ๋อ เห็นภาวะสองตีแตกอันใดอันหนึ่ง เพราะฉะนั้นยิ่งใหญ่มากเลยธรรมะ 2 นี่คือความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า คนผู้ที่ยึดถือธรรมะเทวนิยมเป็น 2 เทวะแปลว่า 2 แล้วตีไม่แตกมาหาหนึ่งมาหาศูนย์ไม่ได้ มีแต่ 3 4 5 6 7 8 9 เป็นล้านเลยก็ตาย ตรงนี้แหละที่ไขความสุดยอดเลย ทีนี้เราจะมีคนมีภูมิตรงนี้จะไขเลยในโลกไม่ใช่แค่ในไทย
_หลวงปู่ครับ ทำไม ตอนทำวัตรเช้าท่านสมณะไม่ได้พาสวด สัพเพสัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนร่วมทุกข์
พ่อครูว่า…เพราะเด็กเขาเคยได้ยินมา ที่นี่เราก็มี สัพเพสัตตา สัตว์ทั้งหลายที่เป็นเพื่อนทุกข์เราทำอย่างเป็นความจริง ความหมายคือเห็นสัตว์ทั้งหลายเป็นเพื่อนร่วมทุกข์ เป็นญาติกัน ต่างคนต่างมีชีวิต อย่าไปฆ่ากันอย่าไปกินกันอย่าไปทำร้ายกัน พวกเราทั้งหลายแหล่ประพฤติแล้วไม่ต้องไปถึงแบบท่อง สัพเพสัตตาสัตว์ทั้งหลายเป็นเพื่อนทุกข์เฉย เสร็จแล้วก็กินเนื้อสัตว์ฆ่าสัตว์ทำร้ายสัตว์เบียดเบียนกันมาตลอดอย่างนั้นปากเปล่า ได้แต่ท่องได้แต่สวด แต่โดยสภาวะจริงนั้น มันไม่ได้สอดคล้องกับส่ิงที่ตัวเองท่องเลย จึงได้แต่สวด
ทุกวันนี้ศาสนาอยู่แต่แค่สวด สวดคำสอนของพระเจ้าของอาจารย์ ถือว่าสูงที่สุด ธรรมะแปลว่าคำสอน ของอาจารย์ ก็จะรักษาอันนี้ไว้อย่างเดียว นี่ก็เป็นความดีงามของวัฏสงสาร ถ้าไม่มีผู้รักษาสิ่งที่เป็นคำสอนสิ่งที่เป็นพยัญชนะเอาไว้ มันจะไม่มีอะไรตกค้างความรู้ให้คนต่อไปเลย อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ดี แต่คนที่ไปโง่ติดยึดอันนี้คือไม่ดีตีไม่แตกตรงนี้
คำสวดก็มีธรรมะ 2 สระพยัญชนะแต่สภาวะจริงคืออย่างไร ก็ต้องชัดเจนแล้วทำให้ได้ตามสภาวะ มีคู่เหมือนกัน สภาวะกับคำสวด พยัญชนะ ในพยัญชนะก็มีสองซ้อนอีก มีความสูงความต่ำความชั่วความดีความถูกความผิดอะไรอีกไหม
สภาวะดีแล้ว กายกรรม วจีกรรม ตรงกับสภาวะหรือยัง คือเอาทีละคู่มาเปรียบเทียบแล้วรู้ว่า อะไรดีอะไรชั่วอะไรสูงอะไรต่ำให้ชัดเจน สำเร็จทำดีได้แล้วก็อย่าไปยึดถือความดีนั้นเป็นเราเป็นของเราเป็นงานสุดท้าย คุณก็อาศัยดีนั่นแหละ แต่อย่าไปยึดถือว่าเป็นเราเป็นของเรา หรือเอาความดีไปตีคนนั้นคนนี้หรือเอาไปขาย
สรุปแล้วทำไมไม่สวดเพราะว่าที่นี่เราทำอยู่แล้วเป็นจริงอยู่แล้ว ในการไม่เบียดเบียนสัตว์ เห็นสัตว์เป็นเพื่อนร่วมทุกข์จริง ผู้เอาแต่สวดแล้วทำไม่ได้ ก็ไม่ดี ต้องทำให้ได้อย่าเอาแต่พูดปากเปล่า
_หายโง่…อัศจรรย์จริงหนอ ปีนี้ ปี 2561 มี 2 + 5 = 7 มี 6 + 1 = 7
อาตมาก็เคยพูดแล้วปีนี้ 61 แล้วมี 2 กับ 5 ปีนี้จะมีอะไรต่ออะไร เป็นเรื่องอจินไตยที่อาตมา ไม่อยากจะพูดมาก เหตุการณ์ที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 สวรรคต ในพ.ศ 2559 มันมีความหมายที่อาตมาไม่อยากพูดมาก คนจะงมงายเล่นกับตัวเลขด้วย ศึกษาไปเถอะเราจะรู้จักสังขยาเลขพวกนี้ เป็นการสื่อสภาวะธรรมที่ลึกซึ้งมาก ชาตินี้อาตมาก็อาศัยส่วนนี้อยู่ไม่ใช่น้อย แต่ไม่อยากให้พวกเรางมงาย เข้าใจแต่เพียงว่า 123 456 789 0
2 เป็นแนวระนาบ 3 เป็นแนวกลม จะเป็นกลมรีหรือมน จนกระทั่งมีสิ่งที่ออกมาจากวง 3 นี้ได้ มีพลังตีแตกออกจากวง คนหลงก็มี แต่คนไม่หลงและรู้ด้วย จับ 4 ต่อ 5 ต่อ 6 เป็นสามเส้า แล้วมี 7 ออกไปอีก จนเป็น 8 9 ก็เป็นสามเส้า ซ้อนกันไปอย่างเป็นระบบระเบียบ นี่คือสัจจะของระบบระเบียบ ถ้าคนไม่มีระบบระเบียบ ก็จะเหมือนกับเศษอุกกาบาตที่ถูกแรงอันนั้นอันนี้ ดีดไปดูดมา กระเด็นไปกระเด็นมานี่คือพวกฟุ้งซ่าน พวกที่เกาะกันแน่นก็เหมือนกับกลุ่มไหมยุ่งแก้ไม่ออก ยิ่งแก้ยิ่งยุ่ง สองด้าน เรียกว่า วิกขิตตังจิตตัง กับ สังขิตตังจิตตัง สองอย่างนี้เท่านี้แหละในโลก จะชัดเจนทุกอย่าง
_สองนักษัตร บ้านราช คือ 24
สามนักษัตร มหาปวารณา
สี่นักษัตร พ่อครูเผยแพร่ พุทธศาสนาในฐานะนักบวช 48 ปี
เจ็ดนักษัตร 84 ปีชีวีพ่อครู
2 3 4 7 เขาก็เอา มาบวกกันอีกได้ 16 ก็มีเลข 1 กับเลข 6 บวกกันก็ได้ 7
กรุณาอธิบายรหัสของเลข 7 ได้ไหมคะ
พ่อครูว่า….ไม่ได้ ไม่เก่ง รู้แต่ว่า พลังงานระดับ 7 ไม่ใช่เล่น เหนือ ชั้นกว่า 456
3 เหนือกว่า 2 แต่ 2 มีประเด็นว่า อันนี้สองคน กับคนเดียวจะสู้ไหม ปริมาณกับคุณภาพ ถ้าหากว่าหนึ่งมีคุณภาพมากกว่าปริมาณ 2 ก็สู้ได้ มีความสลับไปสลับมาเยอะเลย
_ต้องทำอย่างไร ผมถึงจะเป็นเด็กดีครับ ดช.กร
พ่อครูว่า…ต้องฟังธรรมะแล้วปฏิบัติธรรมตามลำดับ ฟังแล้วก็รู้ว่าอันนี้หลวงปู่พูดถูก เราไม่ดีอันนี้ เรารู้ความไม่ดีของตัวเองแล้วแก้ไขปรับปรุง เป็นขั้นตอนไป อันนี้หลวงปู่พูดถูกอันนี้เราไม่ดีก็แก้ไขอย่าไปเป็นอย่างนั้นให้เลิกไปทำอย่างนี้เรื่อยๆ แล้วก็จะเป็นเด็กดี
_ตอนนี้บ้านราชฯต้องการคนมารวมกันให้เป็นปึกแผ่นเป็นหมู่มวลที่ใหญ่ ทำไมไม่ให้พุทธฐานเล็กๆชุมชนกลุ่มเล็กๆ ยุบมา รวมกันอยู่ที่ราชธานีเลยครับ เหลือไว้แต่ที่ใหญ่และเป็นหลักพอ
พ่อครูว่า..อย่าไปใช้การบังคับ เขาจะยุบตัวเองก็เรื่องของเขา เขาไม่ยุบตัวเองก็ปล่อยไปตามธรรมชาติอิสระเสรีภาพมันจะเป็นไปตามธรรมของมัน ขอให้เราทำดีๆเถอะ เขาจะรู้ตัวบุคคลเป็นเจ้าของจิตวิญญาณ เขาจะรู้ว่าเขาควรจะอยู่ที่ไหน ควรจะทำตรงไหน เขาจะรู้และเคลื่อนย้ายปรับปรุงปรับเปลี่ยน ยิ่งอยู่ในสถานะระบบสาธารณโภคีทุกอย่างเป็นของเราหมดเลย นี่แหละมันเป็นประตูที่เขาจะมาได้ไม่ยากเย็น นี่เป็นสัจจะ แต่ถ้าไม่ใช่สาธารณโภคีก็จะยาก หรือแม้แต่สาธารณโภคีของแต่ละหมู่บ้านชุมชน ถ้าแต่ละคนก็ยึดถือเป็นตัวกูของกูก็เข้ามาไม่ได้ง่าย แต่เพราะว่าสมาชิกของชุมชนชาวอโศก ไม่ได้ยึดถือตัวตนมากมายจึงเข้ามาได้ ง่าย อย่างนี้เป็นต้น มันเป็นสัจจะที่จริงที่ลงตัวทั้งนั้นเพราะฉะนั้นเรื่องที่เกิดการทะเลาะวิวาทขัดแย้งอะไรกันมากจึงไม่มี มันจะลงตัวตามสัจจะมันจะได้สัดส่วน จะเห็นได้ว่าพวกเราไม่ได้ขัดแย้งอะไรมาก แม้แต่แย่งข้าวของหรือตีกันด้วยทิฏฐิก็ไม่มาก
_วันก่อนฟังพ่อท่านพูด วิโมกข์ 8 รูปฌานอรูปฌาน ฟังเข้าใจมีปีติมากครับ เวลานึกตามสภาวะที่เคยมีมา ก็จะพยายามทำให้แข็งแรงมากขึ้นครับ
_ในการเลือกตั้ง คงจะหนีไม่พ้นเรื่องการทุจริต จะใช้กฎหมายที่เข้มงวดอย่างเช่นพระวินัยขั้นปาราชิกหรือมีโทษขั้นติดคุกจะดีไหมครับ
พ่อครูว่า..ดี แต่เขาจะเอาตามคุณไหม? ทุจริตต้องลงโทษให้หนัก ติดคุกก็ได้ ตามควร
_ตอนช่วงงานเพื่อฟ้าดิน ได้มานอนพัก ที่เรือนบวร อากาศดีมาก ตอนนั้นยังไม่มีการกั้นห้อง ลมถ่ายเทดีมาก พอถึงตอนนี้ด้านฝั่งที่พักหญิง กั้นห้องด้วยกระจกที่ทันสมัยมาก ก็ทำให้คิดถึงอีกฝั่งหนึ่งที่กั้นไม่เสร็จ ว่าจะมีโอกาสเห็นการกั้นด้วยไม้เฌอร่า หรือไม้ไผ่บ้างจะเป็นไปได้หรือไม่ มีญาติธรรมหลายคนเขาบอกว่า จะได้ความเป็นชนบทลูกทุ่ง และลมจะถ่ายเทได้สะดวก ดีต่อสุขภาพเหมือนกัน
พ่อครูว่า…หากใช้ไม้จะไม่ทึบ แต่ไม้หายากกระจกหาง่าย มันมีลักษณะดีหลายอย่าง น่าคิดเหมือนกันทางโน้น อันไหนแซบซอยใส่ มีนิทานว่า คนอีสานไปกินอาหารที่ร้านแต่ใช้ตะเกียบไม่เป็น ใช้แต่ช้อน คนขายก็ถามว่า เอาตะเกียบไหม? คนอีสานคนนี้ก็ว่า อันไหนแซบซอยใส่…ก็เป็นนิทาน
_แก้วบุญ….อคติ 4 คืออะไรคะ
พ่อครูว่า..อคติแปลว่าใจไม่ดี ใจชั่ว คือใจมันลำเอียง ใจมันไม่ตรง คนนี้รักมากก็จะช่วยเขามาก คนนี้ชังก็ไม่ช่วยเขา อคติ 4 มี รัก ชัง หลง กลัว
รักมากทำให้ลำเอียง ชังมากก็ทำให้ลำเอียง ไม่รู้ก็ทำให้ลำเอียง หรือกลัวก็ทำให้ลำเอียงได้
_ถ้าผู้ใหญ่น่ารำคาญ ควรทำอย่างไรคะ
พ่อครูว่า…เราทำที่ใจของเรา เราไปบังคับผู้ใหญ่สอนผู้ใหญ่ไม่ง่าย ผู้ใหญ่ท่านก็เป็นของท่าน ท่านเป็นผู้ใหญ่ก็น่าจะรู้ หรือบางทีเราก็ไปรำคาญที่ท่านทำถูกทำดีไปเคี่ยวเข็ญเราให้ทำดี เราก็เลยรำคาญท่าน ก็พิจารณาสิ ท่านทำอะไรกับเรา มันดีไหม ถ้าดีก็ทำ ถ้าเห็นว่าไม่ดีทำไมไหวก็เอาไว้ก่อน แต่ผู้ใหญ่ก็ไม่น่าจะทำไม่ดีทุกอย่างก็น่าจะมีอะไรทำดีกับเรา ที่ยังไม่ดียังเข้าใจไม่ได้ก็ถาม ถามว่าผู้ใหญ่คนนี้ทำอย่างนี้ดีไหม ผู้ใหญ่ที่เราศรัทธา เราก็จะได้รู้ว่าท่านอธิบาย ให้ฟังได้ เราก็ อาจจะเกิดจากเราถือสา
_ทำไมสมณะต้องใช้ชุดสีน้ำตาล..
พ่อครูว่า….อธิบายไปแล้ว
_น้ำมนต์ คนเกิดมาได้อย่างไรคะหลวงปู่
พ่อครูว่า…รุ่นพวกนี้ ถามแต่ละเรื่อง อย่างกับเอาตะลุมพุกทุบเลยนะ
คนเกิดมาได้มีสองแบบ
-
คนเกิดมาได้เพราะเรามีพ่อมีแม่ ทำให้เราเกิด
-
คนเกิดมาได้เพราะ ต้องมีวิญญาณเข้ามาร่วม เป็นจิตวิญญาณเข้ามาร่วม กับพ่อแม่
พ่อแม่ท่านเป็นพ่อแม่แล้วท่านก็ทำหน้าที่ที่จะมีลูก เสร็จแล้วก็มีพลังงานที่เป็นจิตวิญญาณเข้ามาร่วมเป็น
-
นี่คือความรู้ทางจิตวิญญาณของพระพุทธเจ้า ถ้าไม่มีจิตวิญญาณร่วม 2 อันรวมตัวได้ก็จะแท้ง คือเป็นแค่พลังงานพีชะไม่ถึงจิตต้องสลายตัวไป ถ้าพลังงานนี้จะเกิดได้ พลังไม่เต็มก็เกิดมาได้แค่พีชะ ไม่เต็ม หากแค่อุตุก็แยกธาตุไป ไม่เป็นชีวะเลย