งาน 3 4 7 วันกำเนิดบุคคลสำคัญที่สุดของชาวอโศก
วันพุธที่ 7 พฤศจิกายน 2561
วันนี้เป็นวันทำวัตรเช้าวันแรกของงาน 3 4 7 หลังจบพิธีมหาปวารณา วันนี้ 7 พฤศจิกายน เป็นวันที่พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ ได้สละคราบของฆราวาสสู่ร่มกาสาวพัสตร์ในรูปของนักบวช ตั้งแต่วันที่ 7 พฤศจิกายน 2513 จนถึงวันนี้ 7 พฤศจิกายน 2561 ครบ 48 ปีสำหรับโพธิกิจ ที่พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ ผู้มีสยังอภิญญา เผยแพร่ธรรมะโลกุตระ สืบสานศาสนา เพื่อช่วยเหลือมวลมนุษยชาติ ให้พ้นทุกข์มาโดยตลอด
การทำวัตรเช้าทางบุญนิยมทีวี ให้ความสำคัญมากค่ะ โดยมีการขึ้นคำอ่านที่ตรงตามการสวดมนต์ที่ถูกต้องตามคำสอนของพระพุทธเจ้าที่ไม่ให้สวดมนต์เป็นทำนองใดๆ ให้สวดเป็นจังหวะ หยุดตามรูปประโยคฉันทลักษณ์เรียกว่า สวดสรภัญญะ เป็นเจตนาที่จะนำเสนอให้ผู้ชมมีสัมมาทิฏฐิในการสวดมนต์ให้ถูกพุทธค่ะ
วันนี้มีผู้มาฟังธรรมกันเต็มศาลาเลยค่ะ ทีมงานศาลานับได้ 1,044 คนเลยค่ะ ดิฉันแอบเห็น หนึ่งในนั้นมีคุณหมอเขียว ใจเพชร กล้าจนซึ่งนำทีมแพทย์วิถีธรรม มาจัดซุ้มนิทรรศการมีชีวิตด้วยค่ะ รวมถึงคุณสงกรานต์ ภาคโชคดี ที่ดิฉันเห็นแล้วประทับใจที่ท่านใช้เทคโนโลยี จดบันทึกและ mind map ธรรมะพ่อครู ทำให้อ่านได้ง่ายขึ้น
หลังจบการแสดงธรรม อาสุรเดช ไพรเมืองได้นำนักเรียนสัมมาสิกขาสันติอโศก ได้ทำกิจกรรมจำหน่ายผักไร้สารพิษมากราบถวายปัจจัยที่ได้จำหน่าย แด่พ่อครู
เวลา 6:30 ได้เวลาที่พ่อครูจะออกบิณฑบาตร่วมกับท่านสมณะและท่านสิกขมาตุที่อาคารบวร มีญาติติธรรม เริ่มตั้งแถวตั้งแต่หน้าอาคารบวร จนถึงทางออกอีกฝั่งนึง วันนี้พ่อครูใช้เวลาบิณฑบาตถึง 1 ชั่วโมง 15 นาทีเลยค่ะ
เมื่อถึงเวลาฉันภัตตาหารพ่อครูได้เดินทางไปที่อาคารบวร เพื่อฉันภัตตาหารพร้อมกับดูการแสดงของชาวชุมชน เริ่มเห็นมีชาวบ้าน มาจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้ากันแล้วมองแล้ว เหมือนงานตลาดอาริยะเลยค่ะ
เวทีครั้งนี้มีความโดดเด่นที่ตัวเลข 48 มองเห็นชัดมาแต่ไกล ย้ำอีกครั้งค่ะว่าไม่ใช่ใบ้หวยนะคะเป็นตัวเลขสำคัญ 48 โพธิกิจของพ่อครูค่ะ.. พ่อครูฉันภัตตาหารโดยมีท่านปัจฉาสมณะ 3 รูปฉันอยู่ด้านหลัง มีลูกหลานทยอยมากราบกันเรื่อยๆ ดิฉันแวะไปที่หน้าเวที เห็นพวกเราหลายคนทั้งนั่ง นอน ดูแล้วทำตัว สบายๆเหมือนอยู่บ้านหลังใหญ่ จะนั่งจะนอนดูคุ้นเคยมาก ดีจังเลยค่ะ
การแสดงเริ่มต้นด้วยวงฆราวาสซึ่งเป็นวงดนตรี ที่เป็นนักปฏิบัติธรรมชาวอโศกและเข้าร่วมกิจกรรมทุกกิจกรรม แต่งและร้องเพลงที่เป็นเพลงโลกุตระ ไม่มอมเมาสังคม แถมเสียงดี อีกด้วยนะคะ
ประมาณ 12:00 น.ก็ได้เวลาการแสดงของแต่ละชุมชน ซึ่งเตรียมความพร้อมกัน มาอย่างดี ชุดแรกเป็นของชาวศาลีอโศก ซึ่งมีลูกหลานชาติพันธ์หลายเผ่ามาร่วมการแสดงด้วย ช่วงรอคิว ดิฉันเลยเก็บภาพหน้าเอ็นดูมาฝากค่ะ พวกเราเองก็ใส่ใจ มาดูกันเต็มที่นั่งด้านหน้ากันเลยค่ะ
วันนี้ได้พิธีกรคนเก่ง คุณใหม่เสมอ กับพิธีกรน้องใหม่น้องตูนจากสันติอโศก ได้เดินทางมา ร่วมสร้างสีสันสำหรับวันนี้ค่ะ ทุกครั้งที่ชาวศาลีอโศกขึ้นเวทีก็จะได้ยินเพลงฉ่อย ที่มีมุกให้เราขำขันกันอยู่เสมอ จบการแสดงชาวศาลีอโศกที่อยู่บนเวที ได้ลงมากราบพ่อครู พร้อมทั้งกราบนิมนต์ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันด้วยค่ะ
การแสดงชุดที่ 2 เป็นของชาวบวรสีมาอโศก จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมี ความโดดเด่นที่ทุกวันเสาร์จะมี ญาติธรรมเข้าวัด ปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมาก จนเริ่มทยอยเข้ามาคบคุ้นกับชาวชุมชน ร่วมทำกิจกรรมกันอยู่บ่อยๆ เป็นชาวโคราชก็ต้องมีร้องเพลงโคราชปิดท้ายกันด้วยค่ะ สุดท้ายหลังจากลงเวที ทุกคนชาวบวรสีมาอโศกได้มากราบพ่อครูพร้อมถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเช่นกันค่ะ
การแสดงชุดที่ 3 เป็นของญาติธรรมทางภาคใต้ ถึง 4 เครือข่ายของภาคใต้ค่ะ มีทั้งชาวธรรมชาติอโศก ทะเลขวัญ ชาวบวรทะเลธรรม สวนป่านาบุญ 2 ซึ่งเป็น 4 เครือแหที่ได้มีกิจกรรมร่วมกันมาตลอด แต่วันนี้ต้องอนุโมทนาสาธุๆๆ ที่ได้มาเล่นละคร เล่าเรื่องราวในที่ชุมชน อันเกิดจากการที่ทุกคนสังวรในศีล แม้บางครั้งมีทิฐิไม่ตรงกัน แต่ด้วยการระลึกถึงคำสอนของพ่อครู สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของทั้ง 4 เส้าชุมชน จนสมานอัตตากันได้ วันนี้สัญญากับพ่อครูว่าทั้ง 4 สถานจะสมานอัตตาสามัคคีกัน และขอให้โรงเรียนนวกะ พร้อมท่านสมณะคงอยู่ ณ ดินแดนชาวใต้ต่อไป…เล่นเอาดิฉันประทับใจมากค่ะ ในความชัดเจนมีพลัง ที่เกิดจากความสามัคคี ของพี่น้องชาวใต้ค่ะ ลงมาจากเวทีก็ไม่พลาดที่จะมากราบพ่อครูและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกค่ะ
การแสดงของชุมชนที่ 4 เป็นของพี่น้องเมฆาอโศกจังหวัดบุรีรัมย์ แหม!!! สมกับเป็นชุมชนที่อยู่ชายแดนเลยค่ะ เพลงที่ใช้ก็เป็นมาร์ชชิ่งที่รักชาติ ศาสนาพระมหากษัตริย์ มีนักกลอนนักกวีอยู่เต็มชุมชนเลยค่ะ โดยเฉพาะกวีคนเก่งอาจารย์เป็นต้น นาประโคน ได้ อ่านกวี และพูดเป็นภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ มรรคผล ในการปฏิบัติธรรมจากคำสอนของพ่อครูด้วยค่ะ ลงจากเวทีก็เช่นกันนะคะ เข้ามากราบและถ่ายรูปกับพ่อครูเป็นที่ระลึกค่ะ
ดิฉันแวะไปที่ซุ้มจิตอาสาตัดผม 0 บาท วันนี้มีเจ้าหน้าที่จิตอาสาช่างตัดผม 5 ท่านมีแม่เทียนดิน ทัศโนเป็นหัวหน้าผู้ก่อการดี ตัดผมได้เป็นร้อยคนเลยค่ะในแต่ละวันขออนุโมทนาทุกท่านจริงๆค่ะ
ชุมชนสุดท้ายก่อนปิดเวทีภาคบ่าย เป็นของพี่ใหญ่บวรปฐมอโศก อลังการมากเลยค่ะ ทั้งชาวชุมชนและนักเรียนล้นเวทีกันเลยค่ะ ร้องเพลงกันอย่างสนุกสนานปิดเวทีได้อิ่มอกอิ่มใจ กันครบถ้วนเลยค่ะ
เมื่อจบการแสดงชุมชน ดิฉันกลับขึ้นห้องทำงาน มองไปที่หน้าลานสะโพ ได้เห็นภาพประทับใจเลยเก็บภาพมาฝากค่ะ เป็นภาพของศิลปินอาเปีย อาหม่อง ช่างคณิต พร้อม ศิษย์เก่าพลทหารอุเทน รวมถึงญาติธรรมและครูดาวที่นำนักเรียนสันติบาลจากบวรสันติอโศกได้มาช่วยกัน 5 ส.ที่ลานสะโพ
อาเปีย อาหม่อง กับช่างคณิตได้ช่วยกันถอนหญ้า ถางหญ้าบางส่วนที่ รกออกตามดำริของพ่อครู ซึ่งให้ถอนและถางออกได้บางส่วนอย่างมีศิลปะ จนทำให้หลายคนไม่กล้ามาถอนเพราะเกรงว่าตนเองไม่มีศิลปะในการจัดตกแต่งได้เช่นพ่อครู จนวันนี้ได้ศิลปินชาวอโศกมาช่วยกันดูแล ทำให้ลานสะโพ ดูโล่งสะอาดตา แต่ยังมีต้นหญ้าที่ออกดอกเป็นพุ่มๆคงอยู่ พอประดับได้อย่างสวยงามได้สัดส่วน
ส่วนครูดาว กับนักเรียนสันติบาลได้ไปช่วยกันขัดพื้นที่ลื่นจากตะไคร่น้ำ หน้าลานหน้าพระพุทธโต ทั้งขัดทั้งเล่นกับช้างพ่นน้ำ ดูแล้วน่าเอ็นดูจริงๆค่ ะอาเปียได้เข้าไปคุยทำความตกลงกับเด็กๆ ดิฉันมองแต่ไกลคงเข้าใจว่าไปบอกงานให้เด็กช่วยอาบนำช้าง จึงเห็นเด็กๆปีนป่ายช้าง ขัดตัวช้างกันอย่างสนุกสนาน อาเปียคงบอกให้เด็กไปขัดช้างนั่นเอง ส่วนอาหม่องกับช่างคณิตก็ช่วยกันเก็บทั้งขย ะเศษหญ้าออกจากบริเวณหน้าลานสะโพ
วันนี้จึงเป็นวันที่ลูกหลานในทุกมุม ทุกส่วน ได้ร่วมกัน ปิตุบูชา แสดงความกตัญญูต่อพ่อครู โดยที่บางครั้งพ่อครูก็ไม่เห็น แต่สิ่งที่ทำนั้นล้วนเป็นดำริที่พ่อครูอยากให้เป็น อยากให้เกิด อย่างเช่นงานถอนหญ้า ที่มีผู้กล้าพอจะมาทำดำริของพ่อครู ให้เป็นจริงได้ถือว่าอนุโมทนากับทีมงาน ที่ได้แสดงความกตัญญู ปิตุบูชาในวันสำคัญนี้ได้อย่างงดงาม น่าชื่นชมค่ะ..