งาน 3 4 7 ตอน..เปิดโลกบุญนิยม
วันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2561
เช้านี้มีญาติธรรมมาทำวัตรเช้ากันหนาแน่นเช่นเคยค่ะ พ่อครูตอบคำถามได้คมลึกแม่นประเด็นชัดเปรี้ยงเช่นเคย มีผู้มาฟังธรรมในศาลา 847 คนค่ะ
หลังจากพ่อครูเทศน์จบ กรรมการสหกรณ์ภูมิรักษ์มากราบนมัสการสนทนากับพ่อครู
อรุณสวัสดิ์ แสงแดดเริ่มสาดส่อง พ่อครูออกมาเดินยืดเส้นยืดสาย ระหว่างทางมีลูกหลานมากราบตลอดเส้นทาง ท่านเดินไปสถานที่จัดงานอาคารบวร 11 ไร่ วันนี้ลุยไปหลังครัวเช่นเคย ทักทายแม่บัวนวล ที่รายงานพ่อครูว่า เมื่อวานจัดลงบุญอาหารตระกูลเส้น ทั้งขนมจีน เส้นก๋วยจั๊บ หลายหม้อตลอดทั้งวัน
เดินไปที่ซุ้มของสมาคมสัมมาบัณฑิต คุณกลางดินกับคุณเกดกำลังทำแกงถั่วจาปาตี บรรยากาศดีค่ะ มีญาติธรรมสนใจกันหลายคนเพราะทั้งปรุง ทั้งทำให้เห็นพร้อมถ่ายทอดความรู้ให้กับทุกคนค่ะ
พ่อครูเดินข้ามสะพานภายในซุ้มนิทรรศการบวรสันติ เด็กนักเรียนสัมมาสิกขาสันติอโศก กำลังพับถุงกระดาษ
เดินออกมาด้านหลังร้าน ผ่านซุ้มอาหารของบวรปฐมอโศก ที่กำลังเตรียมจัดอาหารบริการโรงบุญทั้งวัน
เสียงเวที มีการซ้อมการแสดงที่จะแสดงช่วงบ่าย พ่อครูครูเดินผ่านแวะทักทายนักเรียนสมุนพระราม ที่มาปูเสื่อทำกิจกรรมถักหมวกไหมพรม จำหน่ายในราคาบุญนิยม พ่อครูนึกเอ็นดูหยิบหมวกไหมพรมมาดูและลองใส่ ทำเอาเด็กๆยิ้มที่หลวงปู่กรุณาแวะมาเยี่ยมเยือน
ท่านเดินผ่านมาหน้าร้านอาหารพุงยิ้ม ของบวรปฐมอโศก ที่มีก๋วยเตี๋ยวหลอดถาดใหญ่ เตรียมให้บริการแล้วแต่เช้า
ผ่านหน้าซุ้มบวรสันติอโศก มีป้ายชื่อหน้าซุ้มสวยสดงดงาม มีภาพนิทรรศการพ่อครูมาติดเต็มบอร์ด ให้เตรียมรู้เรื่องราว ตั้งแต่พ่อครูเริ่มบวช จนถึงปัจจุบัน ผ่านมาที่โต๊ะของชาวหินผาฟ้าน้ำ แม่ม่านพรบอกพวกเราว่า ชาวหินผาฟ้าน้ำ เลี้ยงตนเองด้วยกะปิเจ ปลาร้าเจนี่ล่ะ ซึ่งนำมาจำหน่ายในราคาบุญนิยมเช่นกัน
พ่อครูเดินผ่านมาด้านหน้าอาคารบวร ที่ใส่บาตรกันเสร็จเรียบร้อยแล้วและเดินกลับไปพักที่เฮือนสูญ
ดิฉันเห็นอาหารหน้าตาแปลกจึงเดินไปดูว่าเป็นอะไรน๊า..แม่ให้บอกว่าเป็นอาหารเชิงขนมแบบญี่ปุ่นชื่อ ทากิโดริมังสวิรัติ ดิฉันจึงถึงบางอ้อ..
เช้านี้มีแจกไอติมกันแต่เช้าเลยค่ะ เดินแวะไปเยี่ยมแม่แดง ที่กำลังทำลาบเห็ดกะละมังใหญ่ แม่แดงบอกว่ากำลังลาบ 1 หม้อเบอร์ 50 แม่บุญมี ก็กำลังตำส้มตำมองไปแต่ไกล เห็นท่านสมณะแก่นหล้ากับท่านสมณะถักบุญ รับนิมนต์มาฉันอาหารที่ซุ้มของกลุ่มสัมมาบัณฑิต ซึ่งอาหารอินเดียก็ยังได้รับความนิยมจากพวกเราชาวมังสวิรัติกันอยู่ตลอด
ดิฉันเดินมาหลังร้านสุดๆ เห็นญาติธรรมชาว สขจ.สันติอโศกกำลังล้างถุงพลาสติกที่มีจำนวนมากจนสะอาด ตากแห้ง เพื่อนำไปรีไซเคิลต่อ ทำให้ได้มองเห็นความสำคัญ ที่พ่อครูสอนเรื่องสามอาชีพกู้ชาติ ที่เป็นเรื่องสำคัญมาก ที่ซุ้มนิทรรศการของบวรสันติอโศก จึงมีซุ้มของสถาบันขยะวิทยาด้วยหัวใจสันติอโศก ที่เป็นแม่ข่ายใหญ่เป็นหลักในการจัดการขยะได้ดีที่สุดของชาวอโศก ทำให้ได้เรียนรู้ในเรื่องขยะทั้งภายนอก และภายใน โดยเฉพาะขยะกิเลส ที่ต้องเรียนรู้เพื่อเปลี่ยนจิตวิญญาณโดยเห็นสโลแกนของชาวสกอตต์คืออ่อนน้อมถ่อมตนเป็นคนรับใช้
ดิฉันเดินไปที่ซุ้มของบวรศีรษะอโศก เห็นชาวบ้านกำลังเลือกซื้อตะกร้าพลาสติกสาน ในราคาถูกเพียงใบละ 30 บาทแค่นั้นซึ่งเป็นเส้นพลาสติกรีไซเคิลเช่นกันใกล้ๆกันมีผู้คนหนาตา บริเวณของสถาบันแพทย์แผนไทยศีรษะอโศก ซึ่งมีระบบจัดการดูแลสุขภาพ ตั้งแต่ลงทะเบียนด้านหน้า วัดความดันพบหมอแผนไทย และดูแลรักษาร่างกายเบื้องต้น ดิฉันเหลือบไปเห็นมีการรักษาโดยใช้สมุนไพรและจุดไฟวางที่หน้าท้องดูแล้วน่าจะเผาผลาญไขมันได้ดีจังเลยค่ะ ถามทีมงานแพทย์แผนไทย บอกว่าเป็นการสปาท้อง เพื่อทำให้ท้องหายอืด เลือดลมเดินสะดวก ซึ่งเป็นหน่วยแพทย์แผนไทยบริการฟรี รวมถึงมีชามินต์และชาข้าวงอกบริการด้านหน้าซุ้มตลอดทั้งวัน
เวลาประมาณ 10:30 พ้อครูและคณะปัจฉากรุณามาฉันอาหาร ที่หน้าเวทีเป็นวันที่ 3 แล้วค่ะ เลยได้มีโอกาสนำขนมทำเสร็จใหม่ ทั้งสาคูและทากิโดริถวายท่านปัจฉาสมณะ
ไม่นานนักเห็น 3 ยายจากปฐมอโศกเดินพายานยนต์คู่ใจ คนละคันเรียงแถว เป็นระเบียบมากราบนมัสการพ่อครู ได้สนทนากับยายเนย ผู้ที่ไม่ได้เดินทางออกมาจากปฐมอโศกเท่าไหร่ ปกติจะอยู่แต่ในชุมชน วันนี้ได้มาเห็นอาคารบวร รู้สึกทึ่งมาก ยายบอกเหมือนหัวลำโพงเลย ที่ยายเนยยอมเดินทางมาแต่ไกลจากปฐม-บ้านราช เพราะกลัวว่าตายไปแล้วจะไม่เห็นใคร มองเห็น 3 ยายนี้ เดินไปทางไหนก็น่าเอ็นดู ค้อยๆเดินเรียงกันแบบเป็นระเบียบ รวมถึงแม่เปิ้ล ขวัญดินที่เห็นแล้วอดจะเข้ามาทักทาย กราบทั้ง 3 ยายไม่ได้ พร้อมกับมอบน้ำลูกแปลกแม่ ไว้ให้บำรุงร่างกาย
รายการบนเวที เริ่มมีการแสดงก่อนถ่ายทอดสดแล้ว มีอาจารย์กุ้ง ดร.กฤษฏา ให้วัฒนานุกูล เป็นนักร้องรับเชิญมาขับกล่อมกับฆราวาสด้วยค่ะ น้องข้าวหอม หลานสาวตัวน้อย ก็ซุกซนอยู่บนเวทีกับเขาด้วย
เมื่อเพลงหมอลำที่อาซึ้งบุญ ขับกล่อมบรรเลงขึ้น บรรดาขาลำซิ่งทั้งหลาย ก็อดใจไม่ไหวออกมารำป้อ หน้าเวทีสนุกสนานพองามค่ะ
รายการเริ่มต้นด้วยคุณผึ้ง พิมพ์เพชรรุ้ง มาอ่านบทกวีของอาจารย์เป็นต้น นาประโคนเป็นภาษาอังกฤษและภาษาไทย
ความบันเทิง เริ่มต้นด้วยน้องเล็กจตุพล จินดาพลได้มาขับกล่อมร้องเพลงพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ ต่อด้วยการแสดงของชุมชน
การแสดงชุดแรกเป็นของชาวบวรราชธานีอโศก ชื่อชุด”หรือจะรอจนพ่อสิ้น”
การแสดงชุดที่ 2 บวรศีรษะอโศกชื่อชุด”บวรศีรษะอโศก 42 ปีแตกต่างแต่สามัคคี”
การแสดงชุดที่ 3 จากบวรภูผาฟ้าน้ำชื่อชุด”วิถีภูผาฟ้าน้ำ พิสูจน์บุญนิยม”
การแสดงชุดสุดท้ายเป็นของชาวเลไลย์อโศก จังหวัดเลย
ระหว่างที่มีการแสดงบนเวทีมีลูกหลานมากราบนมัสการกันอย่างต่อเนื่อง
ท่านสมณะเดินดิน ติกขวีโรนำพระอารี ที่เป็นผู้สนใจ ด้านบ้านพัก กุฏิพักทรงปิระมิดและได้เป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำ ในการสร้างกุฏิปิรามิดถวายพ่อครู ท่านมากราบนมัสการลา หลังจากที่ท่านได้มาออกรายการในช่วงเทศน์ก่อนฉันไปแล้ว..
ชาวอโศกเป็นสังคมที่อยู่ร่วมกันแบบสาธารณโภคี แม้มาจากต่างภาค ต่างประเทศ ต่างอำเภอ ต่างจังหวัด แต่เมื่อนัดหมายมารวมพลัง พร้อมใจกัน จากคน 1 คน ชุมชนเล็กๆแต่ละชุมชน เมื่อมารวมเป็นหนึ่งเดียว ที่อาคารบวร เกิดภาพแห่งความรัก ความสามัคคี ไม่มีใครมีอำนาจ ทุกคนต่างล้วนทำหน้าที่ที่ตัวเองควรทำ เห็นความสำคัญ ในความสำคัญ ในวันสำคัญ มีความยินดี ขยัน สร้างสรร เสียสละ เป็นชาวบุญนิยม ที่นิยมการลดกิเลส จนเกิดผลเป็นที่ประจักษ์สัมผัสได้ในงาน 3 4 7 นี้ค่ะ