การบวชสามเณรแบบสัมมาทิฏฐิเป็นอย่างไร…
วันเสาร์ที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
วันเสาร์ที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๖๑ มีพิธีบรรพชาสามเณร ที่โบสถ์ชั้น ๔ เฮือนศูนย์สูญ คุณนาคแนวตรง จรุงกัน มีคุณแม่ คุณยาย ญาติพี่น้องเดินทางมาร่วมอนุโมทนากันหลายท่าน คุณนาคแนวตรง ปฏิบัติสู่เส้นทางนักบวชตั้งแต่เป็นคุณปะ คุณนาค ตั้งแต่ปี ๒๕๕๔ และวันนี้ได้บรรพชาเป็นสามเณรแนวตรง ขออนุโมทนาเส้นทางสู่นิพพาน เลื่อนฐานะได้มั่นคงตามลำดับ…
ปุจฉาพ่อครูสมณะโพธิรักษ์..การบวชสามเณรแบบสัมมาทิฏฐิเป็นอย่างไร…
วิสัชณา พ่อครูตอบ…การบวชแบบสัมมาทิฏฐิ อันที่จริงแล้วในสมัยพระพุทธเจ้าบวชนั้น บวชง่าย บวชไม่มีอะไรมาก เพราะท่านไม่มีอะไรมาก ไม่มีเรื่องราวอะไรที่เป็นเรื่องมาก ไม่ซับซ้อน ไม่มีอะไรพรางลวง ไม่มีอะไร ที่มีเล่ห์ มีเหลี่ยมอะไร ต่ออะไร ประกอบพิธีกรรม ประดับประดา ตกแต่งซับซ้อน จนกระทั่งกลายเป็นกลลวง เป็นเรื่องประดับตกแต่งอะไร ซึ่งมันยากจะเข้าไปถึงสัจจะ เข้าไปถึงเนื้อแท้แก่นแท้กัน
ทีนี้พวกเราพยายามปลดสิ่งที่มันรุงรัง สิ่งที่เป็นพิธีการ สิ่งที่มาหุ้มพอก มาหลอกมาล่อ มาล้อ คือวิธีการของทุนนิยม วิธีการคิดของเขาคือการสร้างองค์ประกอบอย่างโน้นอย่างนี้ แล้วก็เป็นอุปทานให้คนใช้จิตวิทยา พยายามปลุกเร้าให้คนหลงติดรสยึดหลงเอากิเลสได้หน้าได้ตา หรูหรา ฟู่ฟ่า ยกย่องเชิดชู อะไรต่างๆนานากัน อะไรมันเป็นกิเลส คนก็หลงไหล เลอะเทอะ ไปเยอะ เราก็ตัดแก่นๆเนื้อๆ กันเข้ามา
อย่างการบวชเณร จริงๆง่ายกว่าที่เราทำกันด้วยซ้ำ ที่ทำกันอยู่ตอนนี้ ก็เป็นเพียงวิธีการ มีรูปร่างเพื่อเน้นให้เห็นชัดว่า บวชไม่ใช่เรื่องที่เล่นๆหัวๆ เป็นเรื่องสำคัญเป็นเรื่องที่จะต้องบูชา เคารพ ที่จะต้องยกย่อง เทิดทูนกันจริงๆ
แม้แต่ทุกวันนี้ถือศีล 10 เป็นเณรเท่านั้นก็ยากแล้ว มันไม่จริง ถือศีล 10 ก็ยังไม่ค่อยได้เลย นี่เอาเด็กๆเล็กๆ ไม่รู้ประสีประสามาบวช 1,000 คน 500 คนอะไร อย่างนี้ เหมือนจับลิงมาใส่ชุดแฟชั่น อะไรมันจะไปรู้เรื่องอะไรมันก็ดึงทึ้ง แฟชั่นเล่นประหลาดบ้าๆบอๆ เลอะเทอะไปอย่างนั้น
เพราะฉะนั้นจึงบอกว่าวิธีการทุนนิยมที่สร้างอะไรต่อมิอะไรขึ้นมา แย่เต็มที อโศกเราพยายามให้เคร่งศีลเคร่งธรรม ปฏิบัติศีลปฏิบัติธรรม ให้ได้เนื้อแท้จริง จนกระทั่งเอามาพิสูจน์ศีล 10 เอามาพิสูจน์ให้ผู้หญิงเพศหญิงมาปฏิบัติศีล 10 กันจริงๆ ที่เราเรียกกันว่า สิกขมาตุ ก็แค่ศีล 10 ปฏิบัติการมีศีลมีธรรม จนกระทั่งพวกเราไปบังคับประชาชนให้มากราบไหว้ได้ที่ไหน แต่ประชาชนกราบไหว้ผู้หญิงเราศีล 10 แค่ศีลระดับเณรเรียกว่า สิกขมาตุ ทำได้เกินกว่าเณร เป็นภิกษุได้เหมือนกับภิกษุณี มีอะไรอะไรต่างๆนานา โดยมีศีลมีธรรมที่แท้จริง พิสูจน์มาแล้ว 30 ถึง 40 ปี สิกขมาตุของเราก็มาแล้ว 30 ถึง 40 ปีเช่นกัน ผู้ชายก็กราบไหว้ กราบเคารพได้ อย่างบริสุทธิ์ใจ ยิ่งอยู่คบคุ้นกันไปนาน ยิ่งเห็นพฤติกรรมชีวิต ยิ่งเห็นของจริง ยิ่งยืนยันชัดเจน ว่าเป็นคนมีศีลมีธรรม คนเราก็มีความฉลาดมีปฏิภาณที่จะสามารถรู้ได้ว่าอะไรหลอก อะไรจริง อะไรที่ตรงธรรม ตรงสัจจ์ จริงๆ
เพราะฉะนั้น ต้องยืนหยัดความจริง ที่บริสุทธิ์นี้แหละสำหรับเณรเป็นผู้ชาย เรามาเน้นหน่อย ว่าสำคัญ”เณร”นะ ระดับเณรมาบวชไม่ใช่จับลิงมาบวช ที่ทำกันเล่นๆตัวหัวชิบหายแล้ว ในศาสนาเห็นเป็นของเล่นไปได้ยังไง ผ้านุ่งห่มจีวรเข้าไปแล้ว คือธงชัยพระอรหันต์พ่อแม่ต้องกราบนะ เสร็จแล้วเอาไปเอามา ก็ทำปู้ยี่ปู้ยำ เป็นเณร พ่อแม่ก็กราบไม่ลงก็เลยกลายเป็นเด็กนุ่งห่มจีวร ของพระอรหันต์นะ เสร็จแล้วก็พ่อแม่เห็นเหมือนเป็นลูกเหมือนเดิม เหมือนที่ทำๆกันอยู่ที่เห็นเนี่ย..มันก็เลยทำให้เสื่อม กรรมเป็นบาปนะ ทำกันอย่างนั้นเป็นบาปนะ ไม่ใช่ว่ากรรมไม่มีผลนะ เขาทำอย่างไม่รู้ก็จริง แต่ไม่รู้คือการทำลายไง มันอกุศลกรรมให้กับศาสนา ก็เท่ากับทำให้ศาสนาเสื่อม เพราะการกระทำของคุณบอกว่าการกระทำไม่มีผลไม่ได้ กรรมนี้มีผล กรรมนี้เป็นอันทำ ของศาสนาพุทธ เพราะฉะนั้นยังเล่นๆหัวๆอยู่ไม่เอา
ที่พยายามทำเวลานี้ บวชเณรผู้ชายรูปธรรมมีวิธีการชัดเจนหน่อย ซึ่งก็ไม่ได้เป็นเรื่องซับซ้อนอะไรถือศีล 10 ให้เห็นว่ารับศีล 10 ชัดๆ เป็นพิธีชัดๆเจนๆ เดี๋ยวก็จะรู้ บวชสมณะไม่ใช่ศีล 10 เป็นจุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีล เลยทีเดียว สมณะคือศีลธรรมนูญของพระพุทธเจ้าทั้งหมดเลย 43 ข้อของจุลศีล มัชฌิมศีล มหาศีลของพระพุทธเจ้า เดี๋ยวนี้ศาสนาพุทธไม่รู้เรื่องแล้ว ไม่นำพาแล้ว ยังเหลือติ่งๆอยู่แค่ศีล๕ ศีล๘ ศีล๑๐ ศีล 10 ก็เลือนๆลางๆ ศีล 5 ก็ยังไม่ได้เรื่องได้ราวอะไรกัน ศีล 8 ยิ่งยาก เละเทะไปเล่นๆหัวๆกัน อีกมากมาย เพราะฉะนั้นเรื่องศีลเรื่องธรรมจึงเป็นเรื่องที่ต้องมาฟื้นฟู
อาตมาก็อุ่นใจ ว่าประเทศไทยเรากระเตื้องขึ้น เรื่องของธรรมะธรรมโมบ้าง ศีลธรรมมั่ง คุณธรรมที่เข้าไปถึงโลกุตระบ้าง อะไรกันเนี่ย ซึ่งอาตมาก็เชื่อว่าคนไทยเรา โดยเฉพาะพวกเราชาวอโศกประพฤติปฏิบัติชัดเจนแล้ว เป็นสัจธรรม เรื่องของโลกุตรธรรมในเรื่องของธรรมะที่เป็นศาสตรของพระพุทธเจ้า ที่เป็นโลกุตระศาสตร์ ที่มันกำลังก่อเกิดวิวัฒน์พัฒนา เกิดขึ้นมาอย่างแท้จริงแล้ว
เพราะฉะนั้นก็พยายามทำไป เพราะมาจากคนนี่แหละ ผู้ประพฤติปฏิบัติ เป็นผู้รู้จริง ถูกต้องตามสัมมาทิฏฐิ ปฏิบัติให้สัมมาปฏิบัติ ก็เกิดสัมมาปฏิเวธ เกิดผลจริงของจริง จากใจจริงๆ กายกรรมจริงๆ วจีกรรมจริง มันก็เป็นของจริง ยืนยันพิสูจน์ ซึ่งเป็นความบริสุทธิ์พิสูจน์ความแท้จริงได้ว่า ความสะอาดบริสุทธิ์จริงๆนี่ ยืนยันสัจธรรมให้แก่โลก ทุกยุคทุกสมัยได้
พ่อครูสมณะโพธิรักษ์ วันเสาร์ที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ บวรราชธานีอโศก