611126_โพธิกิจที่ราชธานีอโศก ก่อนพ่อครูเดินทางไปสันติอโศก
วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561
วันนี้กำหนดการเดินทางของพ่อครูสมณะโพธิรักษ์ทราบเมื่อเช้าว่าพ่อครูจำเป็นต้องเดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อตัดแว่นตาใหม่แทนอันเดิมที่ชำรุดและหักไปก่อนหน้านั้นหลายวันและได้ใส่แว่นสำรองมาหลายวันแล้ว ซึ่งค่าสายตาของแว่นสำรองก็ไม่เหมือนค่าสายตาปัจจุบัน ทำให้รบกวนการใช้สายตาของพ่อครูเป็นอย่างมาก ทางคณะปัจฉาจึงตัดสินใจนิมนต์พ่อครูเดินทางมาตัดแว่นใหม่ที่กรุงเทพฯ
ช่วงหลังฉันภัตตาหารเสร็จของวันนี้จึงเป็นการดูงานตามจุดต่างๆก่อนที่พ่อครูจะออกเดินทางในเวลาประมาณ 15:00 น
เวลา 13:00 น.พ่อครูพร้อมท่านปัจฉาทั้ง 3 รูปเดินออกมาด้านหลังองค์พระพุทธโต เจอ อาเปีย อาหม่อง กำลังต่อเติมงานศิลปะ Stone Houseให้สมบูรณ์มากขึ้น
พ่อครูเดินออกมาที่อาคารบวร พ่อหินเข้มนำรถสัญญาตะวันมารับพ่อครู ผ่านมาด้านหลังอาคารบวร พ่อครูก็ทักว่าอาคารบวรใช้ประโยชน์คุ้มค่า แม้กระทั่งเวลานี้ก็ได้ใช้ประโยชน์ในการตากข้าวที่เพิ่งเกี่ยวเสร็จอีกด้วย
ผ่านมาถึงด้านหน้าโรงปุ๋ยพลังชีวิต เลี้ยวขวาไปตามถนนคอนกรีตตัดใหม่ ซึ่งยังเหลือถนนส่วนที่เชื่อมระหว่างราชการสร้างมากับทางราชธานีอโศกสร้างเองประมาณ 80 เมตรที่ทางบ้านราชจะปูถนนเพื่อเชื่อมต่อเป็นเส้นเดียวกัน
พ่อครูผ่านเข้ามาภายในหมู่บ้านกุดระงุม จนยายๆที่นั่งพักร้อนหน้าศาลาประชาคมจำได้และทักทายกันทุกวัน ตลอดสองข้างทางของชาวบ้านกุดก็ยังมีวิถีชีวิตแบบบ้านๆยังมีการทำนา เผากาบมะพร้าวเอาขี้เถ้า หรือแม้กระทั่งเผาถ่าน
พ่อครูเลยมาเดินถนนตรงแก่ง ผ่านน้ำตกหินน้ำไหล แก้งไทบ้านที่เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจภายในบุ่งไหมน้อย
รถเลี้ยวซ้ายไปที่ริมมูลบริเวณแยกตรงกุ่มจะเห็นนาข้าวทั้ง 2 ฝั่ง ฝั่งด้านขวามืออีกไม่กี่วันก็คงได้เวลาเก็บเกี่ยวแล้ว ที่ริมมูลตอนนี้กำลังมีการตีแปลง เตรียมกสิกรรมริมมูล รถสัญญาตะวันขับเลียบแม่น้ำมูล ผ่านทิวแถวของปอเทืองที่กำลังออกดอกสีเหลืองเป็นแนว เป็นแถว
รถเลยมาถึงแปลงกสิกรรมริมมูลที่ปู่เถา คุณอนุวัฒน์และทีมงาน กำลังปลูกกระเทียม บนพื้นที่ประมาณ 5 ไร่จะมีทั้งกระเทียม หอมและพริก ดิฉันเรียกว่า แปลงพริกแกง มองไปที่แม่น้ำมูน มีเรือเอี่ยมจุ๊นชื่อย่านซัว หรือกลัวบาปมาจอดเป็นที่พักให้ชาวกสิกรแข่งขันได้พักอีกด้วยค่ะ
รถขับขึ้นมาแวะดูชุมชนหมู่บ้านเฟส 1/2 ปลูกบ้าน สร้างบ้านกันหลายรูปแบบ ไม่ซ้ำกันเลยค่ะ
ศิษย์เก่าแก่นคม และ ศิษย์เก่าโต๋ย กำลังคุมงานก่อสร้างบ้านพัก ใกล้กับบ้านสามทอง บริเวณใกล้กันนั้นเป็นพื้นที่ของส่วนกลาง ซึ่งจะมีต้นฉำฉาใหญ่ที่ได้อนุรักษ์ไว้ และเวลานี้ได้นำเรือที่ไม่สามารถลอยบนน้ำได้ มาทำเป็นเรือนเรือ เป็นที่พักของส่วนกลางด้วย
รถผ่านมาที่บุ่งกะโป๋ เกาะกลางมีต้นดวงใจรัก หรือต้นแฮ ต้นสะตือ ซึ่งเป็นหายากมีหลายชื่อตามท้องถิ่นนั้นเรียก เห็นป้าเต็มสิริพายเรือมากับอาปรีชา เพื่อไปดูแลต้นไม้และดอกไม้ ที่ปรับภูมิทัศน์บริเวณโคนต้น โดยพ่อครูและท่านปัจฉาห่วงใยในความปลอดภัยของทั้งสองท่าน
เวลา 15 นาฬิกา พ่อครูพร้อมด้วยท่านปัจฉาสมณะดินไท ท่านปัจฉาสมณะหนักแน่น ท่านปัจฉาสมณะแสนดิน มากราบพระที่บริเวณอาสนะ ก่อนที่ท่านสมณะคมเย็น พร้อมกับชาวชุมชน ที่กำลังประชุมสหกรณ์คนของแผ่นดิน ได้นมัสการกราบลา เช่นกันกับเด็กๆที่มารอกราบ อย่างใกล้ชิด
มาถึงสนามบินท่านปัจฉาสมณะดินไท นำหนังสือสุทธิ ไปเช็คอินที่เคาน์เตอร์ เสร็จแล้วนั่งพักสักครู่ ก่อนที่จะเดินเข้าไปพักภายในบริเวณผู้โดยสารขาออกภายในประเทศเพื่อเดินทางไปที่สนามบินดอนเมือง กรุงเทพมหานคร
สำหรับพ่อครูผู้เป็นพ่อทางจิตวิญญาณของลูกๆชาวอโศก เป็นที่ประจักษ์หลายต่อหลายครั้ง ที่พวกเราจะเห็นท่านพากเพียรรักษากายขันธ์ ให้แข็งแรงสมบูรณ์ทุกส่วน เพื่อเผยแพร่ธรรมะโลกุตระให้นานที่สุด เป็นความเมตตากรุณาของพระโพธิสัตว์ ลูกๆหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า ไม่มีสิ่งใด ที่จะแสดงความกตัญญูต่อพ่อครู ได้มากไป ยิ่งกว่าการลดกิเลสตนเองให้ได้มากที่สุด มีจิตวิญญาณมุ่งสู่นิพพานตามลำดับ ตามปณิธานที่พ่อครูตั้งใจสอนและขัดเกลาให้ลูกๆบรรลุธรรม ลดกิเลสตน เพื่อไปช่วยผู้อื่นและสังคม….