เมื่อ 23 พฤศจิการยน 2561  สมณะฟ้าไท  สมชาติโกและคณะกรรมการกสิกรรมไร้สารพิษจ.อุบลราชธานี ได้เดินทางจาก บวรราชธานีอโศก ไปเยี่ยมเยือนชาวเครือแหกสิกรรมไร้สารพิษ ที่อำเภอ สำโรง  จ.อุบลราชธานี  เพื่อลงพิ้นที่ ดูการปลูกพิชผักไร้สารพิษของกลุ่มเกษตรกรรายย่อยของสมาชิก ที่ผ่านการอบรมกสิกรรมไร้สารพิษเมื่อ 26-30  กันยายน 2561 ณ บวร ราชธานีอโศก ที่ผ่านมาแล้วนั้น 

ครั้งนี้กลุ่มเกษตรกรได้หันหลังให้กับปุ๋ยเคมี ยาฆ่าหญ้า ยาฆ่าแมลงอย่างเด็ดขาด  อีกทั้งฝึกฝนการขจัดปัญหาที่เป็นสิ่งทำลายคุณภาพชีวิตตนและครอบครัวได้ ทั้งนี้โดยการสนับสนุนจากการอบรมคุณภาพชีวิตที่ บวรราชธานีอโศกและได้รับการส่งเสริมจาก กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอีกด้วย โดยได้ยึดหลังเศรษฐกิจพอเพียง พออยู่ พอกิน พอใช้ มาประพฤติให้เกิดผลกับตนเองและครอบครัว ซึงมีหลายประการเช่น 1. ต้องไม่มีอบายมุขเด็ดขาดทั้งครอบครัว 2. ถือศีล 5 ไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ไม่ใช้ยาฆ่าแมลง 3. ปลูกพืชผักมาแล้วเป็นปี 4. ต้องมีคณะกรรมการคัดเลือก มีทีมหัวหน้า มีกลุ่มที่จะช่วยกันดูแลซึ่งกันและกัน ตรวจสอบกันภายในหมู่บ้าน   ผู้ขายพิชผักไร้สารพิษเมื่อได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการให้ผ่านการคัดกรองแล้ว หรือได้ตามเกณฑ์ก็จะได้นำผลผลิตมาขาย  ซึ่งจะเปิดขายครั้งแรกในตลาดนัดแห่งใหม่นี้ เริ่มในวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม  2561  ที่สหกรณ์บุญนิยม บริเวณหน้าตลาดสด อำเภอวารินชำราบ จ.อุบลราชธานี  ก็ขอเชิญชวนพี่น้องหรือผู้สนใจ ผู้ที่อยู่ใกล้เคียง ไปช่วยสนับสนุนชาวเกษตรกร   ผู้ปลูกพิชผักไร้สารพิษได้ค่ะ   การไปเยี่ยมเยือนกลุ่มผู้ที่ทำงานด้านกสิกรรมไร้สารพิษนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะคนเราต้องกิน ต้องใช้ เป็นหลักในชีวิตประจำวันเป็นวิถีชีวิตแบบพอเพียง ได้ทั้งประโยชน์ตน ประโยชน์ท่านไปพร้อมทั้งครอบครัว ทั้งหมู่บ้าน เนื่องด้วยสภาพปัจจุบันนี้มีการใช้สารเคมีอย่างรุนแรงทำให้เกิดโทษภัยอย่างมหาศาล ทั้งตัวเองและครอบครัว ทำให้เสียเงินเสียเวลาในการรักษามากมายเป็นการทำลายตัวเองไปเรื่อยๆดังนั้น การเลือกใชีวิถีชีวิตเหมือนทางเกวียนสายเก่า สมัยก่อนที่รุ่นคุณปู่คุณย่าได้นำพามาเก่าก่อนก็นับว่าเป็นสิ่งที่ควรกระทำ ยุคนี้มีความรู้มากมายที่สามารถปรับปรุง พัฒนาการทำพืชผักไร้สารพิษให้ทันสมัยที่จะอำนวยความสะดวกการทำเกษตรไร้สารพิษ   ส่วนทางคณะที่ติดตามไปมีความประทับใจเป็นอย่างมาก เพราะมีสมณะและกลุ่มญาติธรรมได้ให้เกร็ดความรู้สารพัดเรื่องราวที่จะไม่ให้ไปกระทบกระเทือนต่อพื้นที่ใกล้เคียง ให้ปลอดภัยให้เป็นมิตรกันเพิ่มขึ้น โดยมีหลักความจริงในเชิงประจักษ์ที่สามารถช่วยเหลือกันได้ ในหลายๆส่วน ไม่ว่าจะเป็นการให้ความรู้การรักษาศีล ดำรงชีวิตให้คุณธรรม จริยธรรม เป็มมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่จริงดูความเป็นอยู่ของชาวบ้าน สร้างความอบอุ่นความเป็นกันเอง และท่านก็ยินดีถ่ายทอดสู่ฟังในหลายๆประเด็น หลายชั่วโมงทีเดียว จนกระทั่งทางคณะที่ติดตามไปด้วยนั้นเกิดความซาบซึ้งประทับใจมากค่ะ

ในเวลา 10 .00 ได้พักรับประทานอาหาร ที่โครงการธนาครปุ๋ยอินทรีย์และแปลงผักอินทรีย์ ได้พักรับประทานอาหารที่โครงการธนาคารปุ๋ยอินทรีย์และแปลงผักดินทรีย์ของนายสำลีบัวเงิน สมาชิกได้มาช่วยกันทำอาหารถวายสมณะ ฟังธรรมะก่อนฉัน (เปิดเสียงแสดงธรรม) และรับประทานอาหารร่วมกัน หลังจากนั้นถ่ายภาพหมู่ร่วมกันเป็นที่ระลึก สุดท้ายสมณะฟ้าไท สมชาติโกให้โอวาทและให้กำลังใจว่าการทำเกษตรแบบนี้ไม่ง่ายนัก ต้องอาศัยความอดทน พากเพียรใจพร้อมและต้องเห็นประโยชน์เห็นคุณค่าเพราะต้องเริ่มที่ตัวเราก่อน เราได้ประโยชน์ต้องกินต้องใช้ให้ได้ก่อนเริ่มกินภายในครอบครัวให้ได้ก่อนที่จะนำมาขายให้ผู้อื่น เป็นการเริ่มต้นอย่างมีลำดับ เหมือนศีลนั่นแหล่ะ ต้องซื่อสัตย์ให้ได้ก่อน หากทำได้ ผู้คนเขาก็จะทำตามเองเมื่อเขานับถือ มากเท่าใด ถ้าเราไปโกหกเขาแล้วเรียบร้อยเลย เราก็จะกลายเป็นบุคคลอันตราย