611130_รายการสำมะปี๋ซี่วิต สันติอโศก ครั้งที่ 27
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1Zue4D_Lej95Q7yWKM7d7Vmj0Rgf1Ll-uel6sg2-b-Uk/edit?usp=sharing
ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=1I_efIr1kTU5lKY7cNpeSHEedHvi9qZdE
พ่อครูว่า…วันนี้เป็นวันศุกร์ที่ 30 พฤศจิกายน 2561 ที่บวรสันติอโศก …พวกเราว่าไง สบายดี บ่ วันนี้ที่นี่พยายามจริงๆจะจัด สำมะปี๋ให้ได้ แต่ทำไมมาไม่มาก น้อยเดียว (กระทันหัน) รายการอาตมา พอเริ่มต้นจะน้อย พอตอนท้ายจะยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เหมือนที่อื่น เริ่มต้นคนเต็มแต่พอเทศน์ไปคนค่อยหายไป อันนี้เป็นสัจจะแท้ๆ สัจจธรรมแท้ๆพี่เป็นโลกุตรธรรมลึกซึ้งมันมีวิมุตติรส มันเป็นรสประเสริฐไม่ใช่รสสามัญ ที่เดี๋ยวก็เบื่อเดี๋ยวก็ดี มันไม่เที่ยง
โลกุตระมีความเที่ยงทั้งประเสริฐและสูงส่ง โลกียะ ทั้งไม่เที่ยงเบื่อง่าย มันไม่มีปัญญาแท้ มีแต่อุปาทาน ที่หลงยึด กับตัณหาตัวเอง เป็นตัวไม่เที่ยง ตัณหาก็ไม่เที่ยง อุปาทานเป็นตัวยึดให้เที่ยง อุปาทานกับตัณหานั้น ตัณหา เป็นตัวที่ทำงาน ตัณหาเป็น Dynamic อุปาทานเป็น Dynamic สั่งสมและตกผลึก ไม่เที่ยงทั้งคู่ไม่แน่นอน
ตอนนี้รอแว่นตามาอีก เพื่อให้มองได้ชัดขึ้น อาตมาทั้งตาสั้น ยาว เอียง และตาถั่วด้วย ข้างขวาก็มีจุดบอดใน macula มีเลือดออกหมอเลยยิงเลเซอร์สะกัดเลือดออก ก็เลยเป็นแผลเป็นในดวงตาก็มองไม่เห็นเป็นส่วนมากสำหรับตาขวา
_SMS วันที่ 29 พฤศจิกายน 2561
สื่อธรรมะพ่อครู(กรรม) ตอน พรให้หายป่วยทางกายและใจ
_3867อยากได้พรจากพ่อครูฯเป็นกำลังใจให้มารดาที่ได้ยินเสียงท่านเทศน์ทุกวันหายป่วย!แม้ว่าเราจะต้องอดหลับอดนอนทั้งคืนที่เฝ้าดูแลบุพการี!แต่หมอพยาบาลดูแลผู้ป่วยร้อยพันคนยิ่งกว่าเรา! ด้วยจิตคารวะจนท.ทุกท่าน!ขอขอบคุณฯ
พ่อครูว่า… พรเป็นสิ่งที่ประเสริฐที่นำไปสู่ที่สูงที่โลกุตระ ให้อยู่ตลอดเวลาเลย อาตมาไม่เก่งขนาดให้พรแล้วคนหายป่วย อาตมาว่าหมอจะช่วยได้มากกว่าอาตมา แต่หากป่วยทางกิเลส ฟังอาตมาไปเรื่อยๆ ที่อาตมาอยู่ก็เป็นพรตลอดเวลา ส่วนจะให้ไปรักษาร่างกายสรีระให้หาย อาตมาไม่เอาเรื่องนี้ และไม่พาให้หลงงมงายในเรื่องนี้ ขอละเว้น อย่าหาว่าอาตมาไม่สนองความต้องการของคุณเลย เพราะอาตมาอยากให้คุณเข้าใจ อย่าไปยึดมั่นถือมั่นในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ อาตมาอาจอนุโลมได้แต่ว่า ไม่อยากขัดใจตนเองที่จะมีอะไรแฝง อาตมาต้องการทำชนิดที่ผ่าชัดตัดแยก เพราะทุกวันนี้มีแต่ความคลุมเครือมันไม่ชัดเจนในสิ่งที่ดีที่แข็งแรงที่มาก มันปนเปกันเลอะเทอะวุ่นวาย หลอกกันจนกระทั่งอะไรกันแน่ มันน่าสงสารประเทศชาติทุกวันนี้สังคมเละ อาตมาก็เลยต้องทำให้ชัดเพื่อไม่ให้มันปนเปมากขึ้น
สาธุ อนุโมทนาที่คุณทำถูกแล้วก็อย่าให้ตัวเองสุขภาพเสียด้วย ไม่ใช่ว่าป่วยจนแย่ทั้งสองคน คุณอยากให้แม่คุณหายก็ขอแรงมา อาตมาก็มีข้อด้อยที่ไม่ค่อยจะเอาใจคน มีแต่ตรงๆก็ขออภัยอันนี้
_7735กราบเรียนพ่อครูสะมะณะ ญาติโยม อ.เลาขวัญขอวิธี ถ่านไม้แทนชาวบ้านอยากได้เอาไปปลูกมัน ผมจึงมาขอแทน จากปีศาจ
พ่อครูว่า… อาตมาหมดฉลาด เต็มโง่เลย ฟังที่คุณพูดมาไม่เข้าใจ อย่างไรๆพูดให้ง่ายกว่านี้หน่อย อาตมาไม่ใช่คนฉลาดพูดมาอย่างไรอาตมาเข้าใจหมดไม่ใช่อาตมาตอบไม่ได้เพราะไม่เข้าใจความหมายของคุณ
และอาตมาไม่ได้รู้วิธีทำถ่านไม้
_จาก ลูกหนอนใต้ต้นโพธิ์..
วันก่อนพ่อครูเทศน์เรื่องวิภวตัณหาเป็นตัณหาของพระอรหันต์ ลูกสงสัยว่า ถ้าผู้ปฏิบัติธรรมที่ยังปฏิบัติ ไม่บรรลุถึงพระอรหันต์ ก็ยังไม่ถึงขั้นวิภวตัณหาหรือเปล่าคะ..
พ่อครูว่า…ใช่ วิภวตัณหาแปลว่าตัณหาไม่มีภพ วิภว วิแปลว่ายิ่ง มีภพก็คือภพอย่างยิ่ง เป็นภพโลกุตระที่สูงอีกชั้นหนึ่งที่คนทั่วไปเข้าใจไม่ได้ ผู้ที่หมดภพแล้วก็เจตนาจะใช้ตามฐานะที่ท่านจะมีความรู้รู้จักชั้น ซึ่งเป็นเรื่องสูงไปอีกชั้นหนึ่ง
พระอรหันต์พระพุทธเจ้าจึงใช้วิภวตัณหาได้ตามสัปปุริสธรรม 7 มหาปเทส 4 ได้อย่างแท้จริง
แล้วการทำงาน ทำสัมมาอาชีพในฐานงานปัจจุบันในวัด(บวรต่างๆ) ที่เรายังยึด ยังอาศัย เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติธรรม เรียนรู้ตัณหาต่างๆ ทั้ง กามภพ(ภายนอก) อรูปภพ (ภายใน) ที่มีทั้งดูด ผลัก กามและอัตตา พ้นมิจฉาอาชีวะ 5 แล้ว(ทำงานฟรี) จะมีการปฏิบัติไปแตะถึงวิภวตัณหาได้บ้างมั้ยคะ…
พ่อครูว่า…ได้สิ ผู้พ้นอาชีวะ 5 แม้ไม่สนิทเกลี้ยงดีก็แตะวิภวตัณหาได้มากแล้ว อย่างชาวอโศก เป็นพวกที่มีฐานอนาคามีส่วนใหญ่ ทำงานฟรีไม่รับรายได้เลย ในยุคของพระพุทธเจ้าสมณโคดมก็ยังทำไม่ได้ในฆราวาสเป็นยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นยุคทาส มนุษย์ยังไม่เข้าใจสิทธิมนุษยชน จึงทำให้เป็นสังคมสาธารณโภคีในฆราวาสไม่ได้ พระพุทธเจ้าทำได้แค่ในภิกษุ
อาตมาต้องระบุว่า สมณโคดม เพราะว่าพระพุทธเจ้าบางพระองค์ท่านทำได้ยิ่งใหญ่และกว้างกว่าสมณโคดมอีกเยอะ คนก็ดี สิ่งแวดล้อมก็ดี มีภูมิธรรมสูง อย่างพระพุทธเจ้าบางองค์มีอายุถึง 80,000 ปี ถ้าขืนไม่ดีแล้วประพฤติไม่ดีก็ตายก่อนมีแต่ความร้อน อยู่ไม่ได้ถึง 80,000 ปี
เช่น ถ้าปฏิบัติพอเข้าใจ ถึงตัณหาอุดมการณ์ ที่มี “ทาน” อย่างสัมมาทิฏฐิได้บ้างแล้ว (ยังไม่ได้ทั้งหมดทุกเรื่อง) ยังมีอาสวะ อนุสัยอยู่บ้าง แต่เห็นทางไปแล้ว และได้อ่านเวทนาจากผัสสะปัจจุบัน ทวนซ้ำกับกามภพ อรูปภพในเรื่องที่เรายึดอาศัยอยู่ ทั้งกับคนและวัตถุ ที่อยู่ในการงานปัจจุบัน ว่ายังมีกาม มีอัตตาอยู่มั้ย มีลิงคะ นิมิต ที่รู้ว่ากิเลสตัวนั้น มันดับสนิทจริงหรือหลบอยู่ จะถือว่าแตะถึงวิภวตัณหาขั้นต้นได้บ้างมั้ยคะ
พ่อครูว่า…ได้ถ้าคุณเลยไปถึงขั้น โสดาบันก็ดับอบายภพ ดับอบายภูมิก็ได้ขั้นหนึ่งแล้ว สกิทาคามีก็ดับ กามภพได้อีกขั้นจนถึงอนาคามี
ในวิภวตัณหามีลำดับด้วยมั้ยคะ
พ่อครูว่า…ก็มีไปตามลำดับ ความเป็นลำดับพระพุทธเจ้าจึงตรัสว่าเป็นความน่าอัศจรรย์เป็นความซับซ้อนหลายเชิงหลายมิติหลายนัยยะซึ่งประกอบกันอยู่ซับซ้อนมาก ความเป็นลำดับของพระพุทธเจ้าศีลสมาธิปัญญาได้มรรคได้ผลไปตามลำดับซึ่งเป็นเรื่องจริงไม่ง่ายเลย อาตมาก็พยายามอธิบายขยายความให้พวกเราได้รู้ ติดตามดีๆ
หรือต้องให้ดับสนิท จนถึง นิจจัง(เที่ยงแท้) ธุวัง (ถาวร) สัสตัง(ยืนนาน) อวิปริณามธัมมัง(ไม่แปรเปลี่ยน) อสังหิรัง (ไม่มีอะไรหักล้างได้) อสังกุปปัง(ไม่กลับกำเริบ) กิเลสดับ ถึงนิพพาน จึงจะเรียกว่า วิภวตัณหาคะ
พ่อครูว่า…ให้ทำไปตามลำดับคุณรู้มาก ให้ทำไปตามลำดับ แล้วจะลดคำถามไปอีก ไม่อย่างนั้นคุณจะถามไปเรื่อยๆจะได้บัญญัติไปอีกเรื่อยๆ ก็จะยิ่งบานปลาย คุณก็จะยิ่งถามอีกหนักเข้าคุณจะวุ่น หนักเข้าสับสน เสร็จแล้วคุณจะไม่ได้มรรคได้ผล ให้ทำไปตามลำดับอย่าเพิ่งอยากรู้มาก คุณรู้ไม่น้อยที่ถามมานี้ใช้พยัญชนะมาคุณรู้ไม่น้อย
ยิ่งถามยิ่งถามพยัญชนะ คุณมีพยัญชนะมากพอที่จะปฏิบัติ
ไม่แน่ใจว่าลูกเข้าใจถูกมั้ยคะว่า ผลหรือตัวจบของวิภวตัณหาและนิพพานคือตัวเดียวกันคือ สูญญตา ความไม่มีอะไร แต่มรรคหรือวิธีปฏิบัติยังสงสัยอยู่ค่ะ
กราบขอบพระคุณพ่อครูเป็นอย่างสูงค่ะ
พ่อครูว่า…แหมรู้เยอะจริงๆ เอาอย่างนี้ คุณปฏิบัติไปตามที่มีขณะนี้ คุณรู้ว่ากิเลสตัวนี้ เป็นกิเลสตัวที่ชัดเจนและแรง เป็นตัวที่คุณควรจะทำก่อนทำไปตามลำดับ แล้วคุณจะค่อยๆรู้ตัวต่อมาว่าตัวไหนที่มันจะแรงอีก ทำตัวนั้นอีกที่มันอยากเห็น ควรจะทำไปทีละตัวสองตัว อย่าไปเอาอย่างที่รู้มาก อย่าไปรู้ละเอียดลึกซึ้งพวกนั้นมากนัก มันจะเป็นลำดับที่คุณจะได้มรรคผลอย่างดี ฟังทำไปเรื่อยๆแล้วอย่าเอาพยัญชนะเรานั้นไปสนใจมันมาก สนใจพยัญชนะมากเกินไปมันก็สนุกรู้สึกเฟื่องดี เสร็จแล้วมันก็เลยเผินทิ้งสภาวะไม่ปฏิบัติสภาวะก็เลยหลงระเริงไปกับพยัญชนะ มันก็เสีย
_จากลูกๆหน้าปากซอย 44 – 48
..ทราบข่าวว่าห้องพักหลวงปู่ที่วิหารพันปีใกล้เสร็จแล้วกราบขอนิมนต์หลวงปู่มาพักเป็นระยะๆเพราะอากาศข้างบนวิหารดีเพื่อเป็นกำลังใจให้ลูกลูกชาวสันติ นะคะ
พ่อครูว่า…คนก็ประสงค์อย่างนั้นแต่อาตมาขยายเวลาไม่ได้ เวลามี 24 ชั่วโมงต่อวันขอ 25 ชั่วโมงก็ไม่ได้ เวลาก็ไม่เพิ่ม วันก็ไม่เพิ่ม ก็ได้อย่างนี้ อาตมาไม่ได้ออมมือเท่าไหร่ ทำอะไรเต็มที่เป็นแต่เพียงรักษาไม่ให้ถ่วงเสียสุขภาพ
_คำถามที่ยังเหลือจากรายการสัมมะปี๋ซี่วิตเมื่อวันพุธที่ 28พ.ย.61
_ ..ลูกเป็นฆราวาสมีโอกาสได้บำเพ็ญในแพทย์วิถีธรรม 2 ปีทุกครั้งที่ได้มีโอกาสเคลื่อนไปบำเพ็ญตามอโศกที่ต่างๆรู้สึกอบอุ่นแต่ละแห่งเป็นดินแดนพุทธะที่เจริญๆ วันนี้ลูกจะเดินทางไปที่ภูผาฟ้าน้ำจัดค่าย 5 วันค่ะมีโอกาสได้กราบพ่อครูก่อนไปช่างโชคดีจริงๆค่ะ..
_พ่อครูคะ เวลาพ่อครูเทศน์นานๆจนเสียงเริ่มแหบ,คอแห้ง,หรือกลืนน้ำลายบ่อยๆ ดิฉันไม่รู้จะทำอย่างไรเลยดื่มน้ำแทนค่ะ กว่าพ่อครูจะเทศน์จบก็พุงกางพอดีค่ะ สาธุ..พ่ออย่าไอๆๆๆค่ะ
พ่อครูว่า..มันห้ามได้ก็ดีสิ
_.. ผมอยากถามพ่อท่านว่า ทำไมแม่ของผมถึงชอบเอาแต่เงินของผมครับ
เวลาทำงานได้เงินมา แม่ของผมก็เอาเงินไปหมดเลยเกือบทุกครั้ง เวลาผมขอเงินใช้ แม่ก็จะบ่นว่าผมใช้เงินเปลือง บางทีผมก็ไม่ได้ใช้เงินเปลือง แม่ก็บอกว่าไม่มีตังค์ให้หรอก ใช้แค่นั้นก่อนไม่มีให้ ผมอยากรู้ว่าผมควรทำอย่างไร มันเป็นวิบากของผมใช่ไหมครับ
พ่อครูว่า…ไม่แปลกเท่าไหร่ แม่ส่วนใหญ่จะเอาเงินของลูก แต่ส่วนมากแม่จะให้ลูกนะ แต่คุณมีให้แม่ก็ดีแล้วนี่ นอกจากตนเองไม่พอก็บอกแม่เขาสิ เอาไปมากแล้วผมก็หมด ผมก็เป็นหนี้สินได้ ก็พูดกันให้รู้เรื่อง ก็ดีอุตส่าห์ถามมา ไม่พูดกับแม่ตรงๆ
ก็เอาซ่อนใส่รองเท้า ใส่ที่ไหนที่แม่ไม่เจอบ้าง ที่เราจะยักไว้ใช้บ้าง มีศิลปะในการยัก อย่าโกหกล่ะ มีแต่ยักไว้ก็พูดให้ดี โกหกก็เป็นบาปอีก ก็แนะนำได้แต่นั้น
_..หลวงปู่คะ พญาแร้งมาหาที่ศาลจริงหรือเปล่าคะ
พ่อครูว่า..อาตมาไม่รู้ เราเรียกสมมุติพญาแร้ง สัญลักษณ์ของพญาแร้งมันมีลักษณะที่คนไม่ชื่นชม อาตมาก็เทียบกับตัวเองว่าเป็นพวกแร้ง ทีนี้ไม่อยากให้กดมากนักก็เป็นพญาแร้ง เป็นแร้งก็แร้งพญาไม่ใช่แร้งขี้ข้า ก็ใช้อย่างนั้นไป เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้คนคิดสะกิดใจ ก็เป็นการถ่อมตนชนิดหนึ่งว่าเราก็ประดุจแร้งตัวหนึ่ง
สื่อธรรมะพ่อครู(ไตรลักษณ์) ตอน ธรรมะ 2 ของ มารยาทกับการปฏิบัติธรรม
_.. คำว่า “มารยาท”กับการปฏิบัติ ควรจะก้าวเดินไปพร้อมกันไหมคะ
พ่อครูว่า..ไปด้วยกัน มารยาท เป็นคำซ้อนลึกซึ้ง
มารยาทกับมายา สูงสุดแล้วจะต้องรู้จักใช้มารยาทหรือใช้ มายา อย่างได้สัดส่วนเพราะเป็นสมมติสัจจะ เป็นสิ่งของที่เราจะต้องใช้ให้อย่างฉลาดเหมาะสม เพราะความจริงแล้วในโลกนี้ไม่มีอะไรจริงทุกอย่าง 0 มี 1 ก็เพื่ออาศัยให้เป็นสิ่งที่ดีมีคุณค่า จริงๆแล้วทุกอย่างเกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปไม่มีอะไรเที่ยง ตัวยึดเป็นทุกข์แต่ทุกอย่างไม่เที่ยงแท้ทุกอย่าง จึงเป็นเรื่องลึกซึ้งสูงสุด ไตรลักษณ์ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ไม่ใช่ตัวใช่ตน
ที่ถามมาก็เป็นสิ่งคู่ที่เราปฏิบัติเช่น ถ้าเราปฏิบัติไม่สำเร็จยังไม่บรรลุธรรม นี่ยาก มันจะเป็นผลเสียหาย ถ้าเผื่อว่าผู้บรรลุแล้วสามารถควบคุมมีภูมิปัญญารู้สิ่งที่ควร สิ่งที่ดี สิ่งที่ถูกต้องอย่างแท้จริงได้ ก็จะเอามาใช้ได้อย่างชัดเจนดีและได้สภาพที่มันลงตัว สภาพที่เป็นประโยชน์ได้ อาตมาก็ว่าอาตมาอธิบายขยายความเรื่องนี้ยังไม่ดีพอเรื่องมารยาท ยังไม่เก่งเพราะมันมีธรรมะ 2
มารยาทหรือมายา มารยาทเป็นภาษาที่ชัดเจนกว่ามายา มารยาทเป็นการสำรวมสังวรพฤติกรรมที่แสดงออก แต่มายามันแปลตรงๆว่าพฤติกรรมมีเชิงหลอก สิ่งที่ไม่สมบูรณ์แบบจริง จนจะเข้าใจว่าเราแสดงออกประมาณไหน ถึงจะดีที่สุด จนกระทั่งไม่เป็นผลเสียต่อการแสดงร่วมกัน ที่มีพฤติกรรมร่วมกันของใครก็แล้วแต่ แต่ละคู่แต่ละคน มันจึงยาก เพราะฉะนั้นสิ่งที่จบก็คือจบอยู่ที่สิริมหามายา การแสดงออกเป็นมายาทั้งนั้น แสดงออกให้ดีที่สุด สิริ แปลว่าดี มหาแปลว่าใหญ่ ตัวการแสดงออกเป็นสมมติสัจจะทั้งนั้น จริงๆแล้วคือ 0 หรือไม่เกิดสภาวะคู่ก็ไม่เกิดทุกข์ มีอยู่ที่ฐาน สุขที่จะทำให้เกิดการสูญมันเป็นไปไม่ได้ สุขมันเป็นภาวะคู่ มันแยกไม่ได้ เหมือนเหรียญสองด้านกระดาษ 2 หน้าแยกให้ตายก็เป็นไปไม่ได้มันเป็นภาวะคู่นิรันดร ศาสนาพุทธจึงลึกที่สุดที่การดับความสุขความทุกข์ไม่มีสักเหรียญไม่มีกระดาษ เป็นภาวะแทรกซ้อนที่ลึกซึ้งมากเลย และจะต้องไม่มีจริงๆนะ
คุณจะต้องอ่านเวทนาอารมณ์สุขอารมณ์ทุกข์ มันละเอียดมากแล้วเราจะอาศัยทุกข์หรืออาศัยสุข ก็ต้องอาศัยสุข จนกระทั่งมันไม่มีสุข เหลือน้อยจนจะหมดกับหมดแล้วมันเป็นเรื่องละเอียดมาก คุณจะต้องศึกษาเป็นเรื่องสุดยอด อาตมาก็อธิบายได้เป็นภาษาขนาดนี้นะ
_..ดิฉันเป็นอาสาอยู่ฐานขยะ จะมีคนนำของมาบริจาควันละหลายๆเจ้า ดิฉันจะยกมือไหว้เขาแล้วบอกว่าโมทนาบุญด้วยนะคะ ดิฉันพูดผิดหรือถูกคะ
พ่อครูว่า..โมทนาบุญ ก็หมายความว่า ขอยินดีด้วยที่บุญของคุณเป็นผล ภาษาที่พูดนี้ดี แต่คนจะเข้าใจด้วยไหม คนที่เข้าใจคุณผิดอยู่เขาเข้าใจว่าบุญเป็นกุศลเขาก็ยังสบายใจก็ใช้ได้ อย่างน้อยที่สุดเขาก็รู้สึกว่า เขาได้บุญ แต่เหมือนกับหลอกเขาอย่างหนึ่งเหมือนกัน หลอกว่าเขาได้บุญ ถ้าเขาทำใจไม่เป็นเขาไม่ได้บุญหรอก เขาก็เลยยิ่งไปเข้าใจว่าเขาได้บุญ แต่แท้จริงเขาได้แต่กุศล นี่มันเป็นเรื่องซับซ้อนลึกซึ้งอย่างนี้
ก็เอาเถอะ เอาไปก่อน อนุโมทนาบุญก็ได้ ก็ไม่ต้องใช้คำว่าบุญก็ได้ อนุโมทนาอย่างเดียวก็ได้ไม่ต้องเติมคำว่าบุญ อาตมาก็ใช้แต่อนุโมทนา
_..ทำไมหลวงปู่ยังยืนหยัดที่จะสร้างสันติคะ ในตอนที่เกิดเรื่องคดีสันติหลวงปู่คิดยังไงคะ หลวงปู่คิดว่ามันคุ้มไหมคะในตอนนี้
พ่อครูว่า..ที่จริงแล้วเรื่องก็ไม่ได้ใหญ่ยิ่งอะไร ที่นี่มันก็ยังเป็นประโยชน์ต่อคนอีกไม่ใช่น้อย คนที่ถนัดจะอยู่ที่นี่ก็มีอีกเยอะพวกเรา ก็ต้องให้เป็นที่อาศัย ทำงานเผยแพร่ อย่างน้อยที่สุดส่วนกลางมันอยู่ที่กรุงเทพ กรุงเทพฯไม่มีที่อื่นนะมีแต่ที่สันตินี่แห่งเดียวก็น่ารักษาไว้ ถ้าจะขายก็ไม่ได้เท่าไหร่หรอกที่ดิน เพราะเราขายก็ต้องขาย คนจะต้องการแย่งเพราะขายถูก อาตมาไม่ชอบจะขายแพงด้วย หลายคนก็จะคิดเหมือนกับอาตมาไม่อยากจะขายแพง หลายคนก็อาจจะคิดว่าไม่อยากขายถูก ก็จะทะเลาะกัน สรุปแล้วก็แล้วแต่ดวงก็แล้วกัน
_..ทำไมเราต้องทำศีลให้บริสุทธิ์คะหลวงปู่ แล้วถ้าเราผิดศีลเราสามารถอยู่กับเพื่อนๆได้อีกไหมคะหลวงปู่
พ่อครูว่า..คำถามนี้ยิ่งใหญ่มาก ตอบอันหลังก่อน หากเราผิดศีลก็จะอยู่กับเพื่อนยาก เพราะที่นี่มีแต่คนที่ประพฤติศีลปฏิบัติธรรม (พ่อครูไอ ตัดออกด้วย)
เพราะศีลธรรมเป็นเรื่องเอกเป็นเรื่องสำคัญ หากเราไม่ถือศีลปฏิบัติธรรมก็อยู่ยาก
หากไม่ปฏิบัติเป็นศีลเป็นทีละขั้น ตั้งแต่ศีล 5 เป็นต้น หากเราต่ำกว่า 05 ก็อยู่ที่นี่ไม่ได้ เราปฏิบัติประพฤติโดยมีศีลสมาธิปัญญาวิมุติอย่างแท้จริงตามทฤษฎีพระพุทธเจ้า มันเห็นผลว่าทำให้คนเจริญจริงๆทำให้ตัวเราเองดีขึ้นสังคมก็ดีขึ้น มันไม่ได้มีผลเสียเลย ถ้าหากศึกษาอย่างสัมมาทิฏฐิ ทำให้สัมมาปฏิบัติ มีผลเป็นสัมมาปฏิเวธจะเกิดเป็นผลดีต่อตนต่อท่าน แต่ถ่ายเดียว
_..คำถามข้อ1 งานปีใหม่ที่บ้านราชเป็นงานเพื่อฟ้าดินคือทำกสิกรรมและช่วยกันทำงานในฐานต่างๆแล้วฟังธรรมและมีงานอะไรอีกไหมคะ มีการแสดงบนเวทีไหมคะ ไม่มีงานสอบวนบ หรือ วบบบ แบบเก่าอีกไหม
พ่อครูว่า..ไม่มี
_2 ผัสสะที่เกิดขึ้นในแต่ละวันหากเราเก็บมันไว้ในใจ โดยไม่แสดงออกทางกาย และวาจา เพราะถือว่าเราเป็นผู้ปฏิบัติธรรมไม่ควรแสดงออก ควรปล่อยให้มันจางหายไปตามธรรมชาติ คือมีเกิดก็ต้องมีดับ มันก็ค่อยๆจางหายไปโดยการทำงานให้มันลืมไปเอง และมองเห็นในคุณงามความดีของผู้ที่ทำให้เราไม่พอใจ นึกถึงธรรมะของพ่อครู “ยอมไม่เป็นก็เย็นไม่ได้” “อภัยทานเป็นทานที่สุดยอด” ให้แล้วได้ผลดีในทันทีทั้งสองฝ่าย อย่างนี้เป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องหรือไม่ แต่ถ้าโกรธมากก็ไม่พูดด้วยไม่คบหาสมาคมด้วย จะผิดไหม
พ่อครูว่า..ก็ผิดอยู่ เพราะอยู่ในอำนาจของความโกรธ ต้องพยายามอย่าให้อาการโกรธในตัวเรามันอยู่ ก็ต้องอโหสิก็ต้องอภัย ให้เลิกการถือสา มันจะผิดหรือถูกอย่างไรก็ต้องพูดกัน พยายามทำความเข้าใจ ตกลงกันถ้าเราผิดจริงๆก็ยอมรับ ถ้าเราถูกอยู่เขาก็ยังยึดถือความผิดของเขาอยู่สุดท้ายเราก็ต้องปล่อยเราก็ต้องรู้ว่าเขายึดถือ เขาไม่ยอมก็เป็นอัตตาของเขาอย่างหนึ่ง เข้าใจให้ได้อย่างนี้ แล้วไม่อย่างนั้นก็ไม่จบ
_ 3 การนิ่งมากๆพูดน้อยในแต่ละวันเป็นการเก็บกดหรือไม่ การเป็นผู้ยอมแพ้เรื่อยๆไปจะกลายเป็นผู้อ่อนแอหรือไม่ เป็นปมด้อยหรือไม่
พ่อครูว่า..เราก็ไม่ต้องเก็บกดเราก็จะพูดอย่างนี้ก็พูดพอสมควรไม่พูดมากก็ได้ หากทำอย่างนี้จะวนเวียน ก็ตอบว่าจะไม่ได้อะไรสักอย่างหรอก ต้องล้างเหตุออกไปแล้วมันจะไม่มีการยึดมั่นถือมั่นจะมีการอนุโลมปฏิโลม ถามนี่ไม่ครบ ถามปลายเหตุ
_ 4 การไม่แสดงออกทางกายและวาจา แต่ทางใจกลับฟุ้งซ่าน คิดวนเวียนอยู่กับผัสสะและกับผู้ที่ทำให้เราโกรธหรือไม่พอใจเป็นเวลาประมาณไม่ถึงชั่วโมง จะถือว่าเป็นการทำลายสุขภาพจิตหรือไม่ หรือเราควรจะระเบิดมันออกมาบ้าง
พ่อครูว่า..เห็นไหมล่ะ ทำไปทำมาก็จับได้ว่าตัวเองก็ฟุ้งซ่าน ตอนแรกว่าจะเก็บกดไปเฉยๆจะไม่แสดงออก คันหลังก็มารู้ว่าฟุ้งซ่าน ก็ยังดีไม่ถึงชั่วโมง เป็นการทำลายสุขภาพจิตแน่นอน แต่อย่าไปแสดงระเบิดออกไป แก้ไขแค่ว่าเอาไปตะโกนในท้องนาก็เลยก็ได้ไม่มีใครได้ยิน เป็นเพียงการบำบัดเท่านั้นเอง
ปฏิบัติธรรมพระพุทธเจ้าให้สัมมาทิฏฐิให้ดี
_อุบาสิกากรุณา.. เราตถาคตไม่ติดสุขไม่ยินดีในสุขเราจึงไม่ต้องทุกข์ เข้าใจใบไม้กำมือเดียวใบไม้ทั้งป่าไม่ต้องห่วงคนในโลก ไม่มีใครเหมือนใคร
แค่คำตรัสของพระพุทธเจ้าแค่นี้เราทำไมร้อยชาติพันชาติก็ยังไม่ค่อยจะถึงมรรคถึงผลเลย
ดิฉันเป็นคนอ่อนต่อภาษาแต่มั่นใจในสภาวะด้วยความพยายามค่ะ
สื่อธรรมะพ่อครู(พระอภิธรรม) ตอน ลำดับความลึกของ จิต มโน วิญญาณ
_1614 จิตใด พาสู่โลกุตระ คะ ขอคำอธิบายด้วยค่ะ
พ่อครูว่า..หากแตกเจตสิก เวทนา สัญญา สังขาร จะให้ตอบไปต่อว่าจิตตัวใดไม่ได้ จิตเป็นภาษาร่วมในการปฏิบัติ
จิต มโน วิญญาณ 3 ตัวนี้ จิตเป็นตัวรวม วิญญาณเป็นธาตุรู้ที่รวมทั้งหมด ส่วนมโนเป็นธาตุรู้ตัวสุดท้ายตัวแปร
วิญญาณเป็นตัวใหญ่สุด จิตเป็นตัวกลาง มโนตัวเล็กที่สุด
ปฏิบัติที่จิต โดยเลือกตัวใหญ่ที่สุดก่อนตัวกว้างก่อน แล้วจะไปเป็นตามลำดับ สุดท้ายมันจะเหลือสังขารในธรรมารมณ์
_กิ่งฟ้า ขันหล้า · วันนี้เห็นลูกสาว…ข้าวฟ่าง/ฟ้าเพลงไพร”ได้ไปนั่งฟัง”หลวงปู่”ด้วยดีใจจัง..ฝันเป็นจริงแล้วค่ะ…มีลูกได้ส่งลูกไปเรียนที่วัดค่ะ
_ฝากบุญเกื้อ รมยาสัย · พ่อคูรคะ ลูกขอส่งการบ้านค่ะผิดถูกให้พ่อช่วยตรวจเฉลยชี้แนะค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า มีบุคคล ๓ ท่านกำลังทำงานร่วมกันอยู่
บุคคลที่๑ ท่านคุยเกี่ยวกับงานที่กำลังทำ
บุคคลที่๒ ท่านก็พูดประโยคช็อตเด็ดเกี่ยวกับธรรมที่พ่อคูรสอน
บุคคลที่๑ท่านฟัง เกิดอาการหัวร้อนฟัดเหวี่ยงเล็กน้อยถึงปานกลาง
ส่วนบุคคลที่๓ ฟังเข้าใจและเห็นด้วยเพราะได้นำธรรมข้อนี้ไปประพฤติปฎิบัติอยู่แล้วและได้พิจารณาเห็นอาการจิตตัวเองร่าเริงเบิกบานเป็นสุขในประโยคธรรม และในการทำงานและทำให้ลูกได้เห็น ธรรม๒ ในคู่ที่ว่า บัญญัติ +สภาวะ คือได้เห็นสภาวะปุริสภาวะของตัวเองและเห็น อิตถีภาวะได้จากท่านบุคคลที่๑ และจะเรียกว่า สัมผัสวิโมกข์๘ ด้วยกายได้หรือเปล่าคะ(ประโยคเด็ดที่ทำให้บุคคลที่๑ท่านหัวร้อนถ้าอ่านออกอากาศท่านอาจรู้ตัวว่าเป็นท่าน คือ เราไม่รอเราไม่หวังแต่เราทำ เดี๋ยวมีเทวดามาช่วยเอง ค่ะ ควรไม่ควรแล้วแต่พ่อจะเมตตาค่ะ น้อมกราบขอบพระคุณพ่อครูด้วยความเคารพค่ะ
พ่อครูว่า..ได้ สัมผัสวิโมกข์ 8 ด้วยกาย
_โยคี…ผมฟังธรรมพ่อท่านตลอด..ตอนหลังพ่อท่านไม่เล่นมุขยียวน..ถ้าเป็นไปได้กราบอาราธนานิมนต์ให้พ่อท่านทำอีก..ผมฟังอยู่ที่บ้านก๊ากทุกที.และรู้สึกซาบซึ้งที่พ่อท่านเล่นด้วย
พ่อครูว่า..ต้องออกหรอกจะมีอีก แต่คุณก็อย่าอาศัยอารมณ์ขำมากเกินไปเดี๋ยวไม่ได้สาระ
_สุชาดา ขอพ่อครูตรวจสอบความถูกต้องด้วยค่ะ
ก. – จิตมีอำนาจเหนือผัสสะ คือ วสวัตตี
– กระทำจิตให้มีอำนาจเหนือผัสสะ คือ เจโต วสิปัตโต
– ผู้ทำจิต หรือควบคุมจิต ให้มีอำนาจเหนือผัสสะ คือ วสวัตตีโก
ข. ๑ กับ ๐ ใน ๒ ระดับพุทธ
ข.๑ อาริยะที่ยังไม่หมดกิเลส (โสดา สกิทา อนาคา)
๑ คือผลการปฏิบัติในขั้นของอนาคามี
๐ คือผลการปฏิบัติในขั้นของอรหัตตผลในแต่ละขั้นตอน
ข.๒ สำหรับพระอรหันต์ขึ้นไปนั้น
๑ คือมี – มีการปรุงร่วมกับผู้อื่น ช่วยพัฒนารูปธรรมของสังคมประเทศโลกและนามธรรมของบุคคลต่างๆ
– มีการปรุงใช้ของตนเอง ยังขันธ์ของตนให้อยู่ได้อย่างแข็งแรง เพื่อทำประโยชน์ผู้อื่นต่อไป
๐ คือ – จิตเป็นอุเบกขา หรือปรินิพพานเป็นปริโยสานในที่สุด
พ่อครูว่า..0 ไม่มีอะไรเลิกเลยปรินิพพานเป็นปริโยสาน แต่ในพระอรหันต์ที่ยังไม่ปรินิพพานเป็นปริโยสานจะมี 0 เป็นฐานอาศัยอย่างแข็งแรง และ 0 นี้จะแข็งแรงมากยิ่งขึ้นเป็น ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา ปภัสสรา
แม้จะทำงานอย่างไรสัมผัสอย่างไรก็ยังยิ่งสะอาดแข็งแรง พระอรหันต์จะไม่เพลี่ยงพล้ำ ยิ่งมีผัสสะก็จะยิ่งเจริญขึ้นไปอีก มุทุภูตธาตุ ก็จะยิ่งเจริญขึ้นไปอีกทั้งเจโตและปัญญายิ่งเจริญเร็วไวมากขึ้นจัดการ เจโตก็ได้เร็ว ปัญญายิ่งจะรู้ทันและละเอียดมากยิ่งขึ้น กัมมัญญาจึงสามารถทำกรรมการงานอะไรที่เหมาะควร ไม่เสียหายได้มากยิ่งขึ้น ตามความเจริญของมุทุภูตธาตุ และความเจริญของปริสุทธา ปริโยทาตา สุดท้ายแม้จะทำงาน ปริสุทธา ปริโยทาตา มุทุ กัมมัญญา จิตก็จะยิ่งประภัสสร มีความใส เป็นความใสที่มีสัจจะ ผ่องใสดีทุกอย่างเลย
_ส.กอบชัย..ขอถามชาว บวร สันติอโศก …ว่า ดีใจไหม ที่มีรายการสำมะปี๋เป็นครั้งที่ 2 (ดี) ถามเป็นครั้งที่ 2 ดีใจไหม(ดีใจ) ถามเป็นครั้งที่ 3(ดีใจ) ขออาราธนานิมนต์พ่อท่านให้อายุยืนยาว จะได้จัดรายการสำมะปี๋ได้อีกต่อไป
พ่อครูว่า…ถ้าอาตมาไม่ได้ทรุดเกิน อยู่ในภาวะรัดตัวอยู่ อาตมาฝืนสังขาร พวกคุณคงได้ยินมาว่า อายุไขของอาตมา 72 ปีเอง นี่ก็ฝืนมาได้ 1 นักษัตรแล้วเป็น 84 ปี จะฝืนไปอีกเพื่อพิสูจน์ความจริงของธรรมะพระพุทธเจ้าด้วย เพราะท่านตรัสว่า จะอยู่ ถึงกัป หรือเกินกัปก็ได้ อาตมาก็พิสูจน์ไปให้มากที่สุดเพื่อที่จะสร้าง เจโตวสิปัตโต จนเป็นผู้มี วสวัตตีโก เป็นผู้ยังจิตให้เป็นไปในอำนาจได้ เป็นการพิสูจน์สัจธรรมอย่างแท้จริง
อย่างไรอาตมาก็เพิ่มมาได้ 1 นักษัตรแล้ว ถ้าอยู่ต่อไปถึง 96 ปี อีก 1 นักษัตร ถ้าอีก2 นักษัตรก็ยิ่งเยี่ยม 108 ปี ถ้าเป็น120 ปีก็เป็น 4 นักษัตร
เราจะได้มั่นใจว่าจิตวิญญาณของคนสามารถทำให้ก้าวหน้าเป็นปฏิภาคทวีด้วยตัวของตนเองนะ ไม่ใช่พระเจ้ามาสั่ง ขออภัยที่พาดพิงถึงพระเจ้า เพราะว่าอันนี้เป็นเรื่องสัจจะของพระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ รับสมัครเข้าศึกษาตามพระพุทธเจ้ามาจนถึงป่านนี้ ใครจะเข้าใจหรือเชื่อถือหรือไม่เชื่อถือก็ไม่มีปัญหา
_ดญ.แลเลื่อนฟ้า…ถ้าเราหาสิ่งที่ไม่ถนัดไม่เจอ แสดงว่าเราหาจุดยืนของตัวเองไม่ได้ใช่ไหมคะ
พ่อครูว่า…ที่ถนัด เป็นจุดยืนของเราก็ใช่ แต่สิ่งที่เราไม่ถนัดหากเราสร้างให้เป็นจุดยืนของเรานี้มันดีกว่า ไม่ถนัดอันนี้ แต่ถ้าเป็นอันนี้ได้มันดีกว่าที่เราเป็นอยู่ ประเดี๋ยวมันจะยากเกินไป ก็ถูกต้องทำสิ่งที่เราถนัดนี้ให้ได้พอควร แต่ไม่ใช่จมอยู่ที่การถนัดแต่อย่างเดียวไม่เป็นไปตามสมควร ไม่ใช่อย่างที่สุนทรภู่ ให้ทำดีแต่อย่างเดียวขอให้เชี่ยวชาญเถิดจะเกิดผลเท่านั้น อันนั้นเป็นโลกียะธรรมดา ก็ดี แบบนั้นก็ก้าวหน้าเจริญแบบโลกียะธรรมดา แต่ถ้าเป็นโลกุตระ มันก็ควรจะเจริญไป คละกัน ถ้ายิ่ง พึ่งพาอาศัยกันเป็นคู่ ก็จะเป็นประโยชน์สูงสุดกว่า
_วันก่อนกองทัพภาคที่ 1 เชิญพวกเราไปทำรายการจิตอาสา เป็นโครงการที่ทหารซ่อมบ้านให้แก่คนยากแค้น เสนาธิการที่ประสานมา เขาบอกว่าดูรายการบุญนิยมทาง youtube ดูเรื่องการเกษตร เขาทราบว่าเราเป็นจิตอาสาไม่ได้ใช้เงิน เขาก็ตื่นเต้นมาก แสดงว่า พวกเราพอเพียงของแท้ ก็เลยไปทำกับเขาซึ่งไกลมาก เจ้าหน้าที่สาธารณสุขมามอง เห็นเรา มีเสื้อโลโก้บุญนิยมเขาบอกว่าหนูดูพ่อครู ชอบพ่อครูมากเลยแต่พ่อครูเชียร์แต่ทหาร อยู่ไกลขนาดนั้นก็ไม่นึกว่าจะมีคนดูบุญนิยมด้วย
_ถามว่า เมื่อปฏิบัติธรรมก็สบายใจขึ้นเยอะ เมื่อปฏิบัติไปมากขึ้นรู้สึกว่าการปฏิสันถารกับผู้คนก็ยิ่งยากขึ้น กลายเป็นคุยกับคนน้อยลง อยากอยู่คนเดียวมากขึ้น โดยเฉพาะเวลาติดต่อกับคนภายนอกไม่ทราบว่าปฏิบัติทำผิดทางหรือแก่ขึ้น
พ่อครูว่า ไม่ได้เชียร์แต่ทหารแต่เชียร์ผู้ที่ทำดีทำประโยชน์ต่อประชาชน
มันลดลงไปตามควร ขนาดนี้ก็พอใช้ได้ไม่ได้น้อยเกินไป ไม่ใช่ว่าหลบจนไม่พูดกับใครเลย ก็ทำให้ตามสัดส่วน ไม่อย่างนั้นเราจะฟุ้งซ่านทำแต่งานพูดกับคนมากเกินไป ทำงานแต่คนอื่นไม่ทำงานของตนเอง
เผด็จการหรือประชาธิปไตยดูกันที่ไหน
อาตมาอยากจะขอแวะตรงนี้หน่อย เกี่ยวพันถึงผู้บริหาร
อ่านอันนี้สู่ฟัง เรื่องเผด็จการหรือประชาธิปไตยดูกันที่ไหน ตอนนี้กำลังเคี่ยวข้น ประชาธิปไตยเก๊หลอกคน บอกว่าเขานี่แหละประชาธิปไตย พวกนั้นเป็นเผด็จการโดยอ้างว่ายึดอำนาจมาเป็นทหาร อย่างนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตย เป็นเรื่องตื้นแรงๆคนก็เลยเชื่อ เลือกตั้งก็ไม่ใช่แถมมายึดอำนาจเป็นทหารเป็นเผด็จการๆๆ อาตมาก็เลยต้องพยายามไขความ อย่างนั้นมันตื้นๆ
ก็อยากขยายรายละเอียดให้ฟัง เทียบให้ฟังแต่ละข้อ ชุดเคียงกันระหว่างระบอบทักษิณกับคสช.
ระบอบทักษิณ ประชาธิปไตยได้มาจากการเลือกตั้งแต่ทุกอย่างต้องทุ่มด้วยการซื้อนักการเมืองซื้อหัวคะแนน สุดท้ายแม้ประชาชนจะเลือกกันจนตาย กว่าจะเป็นรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรี ทักษิณสั่งการคนเดียว ไม่ว่าสมัคร สมชาย ยิ่งลักษณ์ ก็อยู่ที่ทักษิณสั่งเพื่อไทยทำเท่านั้นเอ
คสช. ประชาธิปไตยแบบราษฎรตั้ง ซึ่งเราไปต่อต้านปฏิวัติกันเป็นปีในยุคทักษิณและบริวาร เราไปต่อต้าน ถูกต้องตามกฎหมายและสากล เป็นประชาธิปไตยไม่ได้มีอาวุธ ใช้ความสงบ และความจริงออกมายืนยันอ้างอิงอธิบาย เอาคนที่มีหลักฐานมีความรู้คนที่อ้างอิงได้มาแฉ มายืนยัน ด้วยความรู้ด้วยความจริงที่ทำมา ปรากฏผล เมืองไทยเป็นเมืองประชาธิปไตยที่แท้ก็ชนะ ประชาชนปฏิวัติ ประชาชนประท้วง จนถึงสีรัฐบาลประเทศก็สงบเรียบร้อย ก็อยู่ในระยะเวลาที่พลเอกประยุทธ์มารับช่วง ก็มาสอดประสานรับช่วงยึดอำนาจไปบริหาร ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ บริหารมา 4 ปีแล้วคะแนนก็ยังไม่ตก นี่ก็ยังบอกว่า อยู่ดีๆทำไมนิด้าโพล ออกมาคะแนนนำประยุทธ์ได้ แต่อันอื่นเขาไม่เลย นิด้าโพลก็เลย ตอนนี้เสียภาพลักษณ์ เสียรังวัด เพราะว่าโพลอื่นๆคะแนนเหนือกว่ากัน และดูมวลคนอื่นที่เขาทำโพลด้วย นิด้าโพลมีจำนวนน้อยกว่า ตอนนี้ก็เลยเสียรังวัด อันนี้เป็นเรื่องความบริสุทธิ์สะอาดใครไม่บริสุทธิ์สะอาดก็เสียแต้มความบริสุทธิ์เท่านั้นที่จะชนะทุกสิ่งทั้งโลกในที่สุด
ระบอบ คสช.
1. ประชาธิปไตยแบบเชิญตั้ง ซึ่งเกิดจากประชาชนส่วนใหญ่ยินยอมพร้อมใจให้เข้ามาบริหารประเทศ (หลังจากที่ประชาชนได้ขับไล่รัฐบาลทรราชออกไป จนบริหารประเทศต่อไปไม่ได้) จะทำโพลกี่ครั้ง ๆ ประชาชนก็ให้การสนับสนุนมาตลอด จนครบ 4 ปี กว่าแล้ว และประชาชนกำลังจะเชิญตั้งในสมัยที่ 2 ต่อไปอีก ซึ่งมีคะแนนนิยมจากผลโพลสูงกว่า รัฐบาลทักษิณและนอมินีมาตลอด
ระบอบทักษิณ
2.มุ่งประโยชน์เพื่อตัวเองและพรรคพวกของตัวเองเป็นหลัก จังหวัดไหนเลือกไทยรักไทยก็จะให้ความดูแลก่อน เคยกำหนดให้วันที่ 31 ธันวาคมเป็นวันราชการ เพื่อเอื้อประโยชน์ทางธุรกิจให้กับครอบครัวของตน จนได้รับนานาสารพัดฉายา เช่นโคตรโกง และโกงทั้งโคตร (แถมยังสืบทอดการโคตรโกงอย่างยั่งยืน แม้จะมีการปราบปรามอย่างขุดรากถอนโคนได้มากแล้ว แต่ก็ยังเหลือผีตายซากทั้งร้องทั้งดิ้นให้เห็น ๆ กันอยู่)
ระบอบ คสช.
-
มุ่งทำประโยชน์เพื่อประชาชนในทุกๆด้าน เช่น ยึดที่ดินจากผู้มีอิทธิพล คืนมาได้กว่า 300,000 ไร่ ปลดทุกข์ให้กับประชาชนทั่วประเทศที่เป็นหนี้สิน นายทุน หน้าเลือด จับ นักการเมือง ข้าราชการระดับสูง นายพลนายพัน นักธุรกิจ นายธนาคาร นักวิชาการที่ละเมิดกฎหมายติดคุกไปแล้วหลายราย จนพูดได้ว่าคุกไม่ได้มีไว้ขังคนจนเท่านั้น
ระบอบทักษิณ
-
สร้างความเสียหายให้กับชาติบ้านเมือง จนยากที่จะประเมินมูลค่าได้ เฉพาะคดีของยิ่งลักษณ์คดีเดียว เรื่องทุจริตจำนำข้าวก็ปาเข้าไป 2.8 แสนล้านแล้ว แต่ ของทักษิณ มีอีกเป็น สิบ ๆคดี บางคดีศาลสั่งให้ยึดทรัพย์ไปแล้วหลายหมื่นล้าน สุดท้ายก็ต้องพากันหลบหนีออกไปต่างประเทศอย่างสุขสำราญ ทั้งน้องทั้งพี่ ปล่อยให้ลูกน้องที่ร่วมกันโกงพากันเข้าคุกอย่างทุกข์ทรมาน
ระบอบ คสช.
-
ภาพรวมของประเทศไทยได้เกิดความเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาในหลายๆด้าน
•เงินสำรองระหว่างประเทศของไทยพุ่งแตะ 1.95 แสนล้านดอลลาร์ สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์
• ส่งออกข้าวมากที่สุด อันดับ 1 ของโลก
• ยอดนักท่องเที่ยวปี 2017 ทะลุ 35 ล้านคน
• ทำรายได้จากการท่องเที่ยวมากที่สุด อันดับ 3 ของโลก ประจำปี 2017
• กรุงเทพมหานคร คือ เมืองที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในโลก ประจำปี 2017
• สำนักข่าว Bloomberg จัดอันดับให้ไทยเป็นประเทศที่มีความทุกข์น้อยที่สุดในโลก 4 ปีซ้อน
ระบอบทักษิณ -
การสร้างความรุนแรงที่กระทำต่อประชาชน ด้วยนโยบายกำปั้นเหล็กที่ใช้ปราบปรามผู้ค้ายาเสพติด ทำให้มีประชาชนถูกวิสามัญฆาตกรรมกว่า 2800 ศพ ซึ่งมีเบาะแสน่าเชื่อว่าจะมีผู้บริสุทธิ์ถูกฆ่าตัดตอนไม่ต่ำกว่า 2000 ศพ และมีประชาชนพากันบาดเจ็บล้มตายไม่ต่ำกว่าพันคน ที่ออกมาชุมนุมประท้วงกันอย่างสงบ ไม่มีอาวุธ แต่ถูกฝ่ายของทักษิณ เอาระเบิดและอาวุธปืนร้ายแรง มาใช้ เข่นฆ่าทำลายทำร้ายประชาชนที่มาชุมนุมกันอย่างสงบ
ระบอบ คสช.
-
แม้จะมีม. 44 ให้ใช้อำนาจได้อย่างเต็มที่ แต่คสช. ก็ไม่เคยเอาอำนาจเด็ดขาดนั้นมาใช้เข่นฆ่าประชาชนให้ตายแม้แต่คนเดียว แต่กลับเอามาใช้ประโยชน์ในทางสร้างสรรค์จรรโลงสังคม เพื่อแก้ปัญหาที่สะสมหมักหมมมาอย่างยาวนานชั่วนาตาปีที่รัฐบาลเลือกตั้งยุคใหน ๆ ก็แก้ไม่ได้
ระบอบทักษิณ -
สร้างความแตกแยกให้กับคนในชาติ จนคนเหนือคนใต้ไม่กล้าไปมาหาสู่กัน เกิดความแตกแยกในที่ทำงาน และลุกลามบานปลายไปถึงครอบครัว แม้แต่นอนในมุ้งเดียวกันก็เลือกสีคนละข้าง
ระบอบ คสช.
-
ทำให้ทหารแตงโม ตำรวจมะเขือเทศหมดไป คนไทยหันมาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการเทิดทูนสถาบันชาติ-ศาสนา -พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นที่ประจักษ์ชัดไปทั่วโลก ในงานพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 และการช่วยเหลือเด็ก ๆ ทีมหมูป่า Academy 13 ชีวิต ออกจากถ้ำหลวง