วิถีบวร 1 ใน 1000 ตอน… สัมมาสิกขาสร้างคน สร้างชาติ
วันจันทร์ที่ 10 ธ.ค. 2561
วันบวรจันทร์นี้เป็นวันที่มีงานที่ต้องช่วยกันเตรียมงานเพื่อฟ้าดิน ทั้งสถานที่จะจัดนิทรรศการมีชีวิต ในเรื่อง 3 อาชีพเพื่อมนุษยชาติ ที่เป็นสัมมาอาชีพสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ก็จะมีการถ่ายทอดองค์ความรู้และจัดแสดงให้เห็นว่าทำจริง เป็นจริงได้ เป็นศาสตร์พระราชา ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่ชาวราชธานีอโศก มีพฤติบทในการดำเนินชีวิตเป็นปกติประจำวัน
วันบวรวันนี้จึงมี 8 จุดที่จะต้องช่วยกัน เป็นวันที่มีหลายฐานงานมากที่สุดเท่าที่เคยมีวันบวรมาเลยค่ะ
เช้านี้กลุ่ม 4 ที่แบ่งจากนิสิต วนบ.และนักเรียนสัมมาสิกขาไปช่วยกันเกี่ยวข้าวที่ 48 ไร่ 48 พรรษา โคก หนอง นาโมเดล ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่เป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับศาสตร์พระราชา ในการพัฒนาผืนดินให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการทำอยู่ทำกิน แบบพอมีพอกิน
นาที่ไปก็จะเป็นการทดลองปลูกข้าวพันธุ์อยุธยา 1 ซึ่งเป็นข้าวมาจากทางภาคกลาง เป็นพันธุ์ผสมระหว่าง ข้าวพันธุ์ กข 105 กับพันธุ์อู่ตะเภา ที่ลำต้นสามารถยืดได้สูง จึงเป็นข้าว ที่ถ้าตั้งตัวได้แล้ว ทนต่อน้ำท่วมขังได้ดี ทางกรมการข้าว จึงนำพันธุ์มาให้ชาวบ้านราชทดลองปลูก
ส่วนที่ว่าจะทนน้ำท่วมขังได้จริงหรือไม่นั่น ปีนี้ยังให้คำตอบไม่ได้ค่ะ เพราะปีนี้บ้านราชน้ำไม่ท่วมค่ะ แต่ที่แน่ๆ ข้าวพันธุ์นี้ ยืดตัวสูง ลำต้นแข็งแรงได้ฟางเยอะเลยค่ะ รวงข้าว สวยพอประมาณค่ะ
โคก หนอง นาโมเดล เป็นการทำนาไร้สารพิษ 100 % เห็นได้ชัดต่างจาก นาที่ใช้สารเคมีคือ บริเวณคันนา หรือในนาเอง มีดอกหญ้า มีผักบุ้ง ถั่วนั่ง ตะไคร้ มะนาว ผักขแยง ฯลฯ ขอบอกว่าสะออนเด๊..รู้สึกผ่อนคลายที่ได้ละจากหน้าคอมฯมา จับเคียว เกี่ยวข้าว พูดคุยกับพี่น้อง สวนเสเฮฮา ตามประสา คนไทบ้าน
พี่ดาวชิดเดือน มาสร้างสีสรร ให้เกี่ยวข้าว หนุกหนาน ผ่อนคลายกันได้เยอะเลยค่ะ พี่ตี๋แร๊ปเปอร์ อินดี้ ขาประจำ เมื่อเจอพี่ดาว ขาแร๊พไทบ้าน ดวลเพลงกัน แบบคนละเรื่อง เรียกรอยยิ้มให้กับเด็กๆและทุกคนมากมายค่ะ..55
โคก หนอง นาโมเดล มีลักษณะนาที่หลากหลายค่ะ นาที่ไปเกี่ยวผืนแรก ก็เกี่ยวข้าวแบบง่ายๆค่ะ ไม่ถึง ชั่วโมงก็เสร็จ พวกเราบอกว่ายังมีเวลาอีกนะ จะให้ไปเกี่ยวข้าวแปลงไหนอีก ป้าดาวเพ็ญแม่งาน ก็ช่างเกรงใจจริง บอกพวกเราว่า เหลือแปลงที่ต้องลุยโคลน กลัวตัวจะเปื้อนกัน ได้ยินดังนั้น พี่ดาวชิดเดือน ก็ให้ความเห็นว่า เด็กๆควรได้มาเรียนรู้ เมื่อก่อนตอนเป็นพี่ดาวเป็นนักเรียนสัมมาสิกขา ป้าดาวเพ็ญเป็นคุรุ ถ้าเกี่ยวข้าวไม่เสร็จไม่ได้พักกันเลย ลุยน้ำ ลุยโคลนมากกว่านี้ เพราะสมัยสร้างหมู่บ้านใหม่ๆ พวกเรายังขาดแคลน อาหารที่ต้องทำอยู่ทำกิน ไม่อุดมสมบูรณ์เหมือนทุกวันนี้…แล้วพี่ดาวชิดเดือนก็พาน้องๆลุยโคลนลงไปในแปลงที่ 2 ทันที..55
พี่ลง น้องก็ต้องลง ป้าๆยายๆก็ลง อยู่แล้วค่ะ พอเสร็จแปลงที่ 2 ยังพอมีเวลาเหลืออีกประมาณ 30 นาที ป้าดาวเพ็ญก็พาเราไปอีกแปลงหนึ่ง ไปถึงก็ตะลึง นิดค่ะ ภาพที่เห็น มันคือ หนองน้ำชัดๆ ที่มีข้าวตั้งชูรวงยังกะหญ้าแฝก..55..เด็กนร.ชายขาลุย ลุยน้ำถึงโคนขากันเลย ด.ญ.แก้ว นางแบบตัวน้อยของดิฉัน ลอยคอว่ายน้ำเล่นได้เลย แถมยังช่วยป้าๆเก้บข้าวได้อีกด้วย
ป้าๆหลายคน ไม่อยากเปียก หรือบางคน กลัวปลิง ก็ไม่ลง ที่ไม่ลงก็พอจะเข้าใจ๊ เข้าใจ แต่ไม่ลง ยังมาคอยบอกคนที่กำลังลงลุยน้ำเกี่ยวข้าวว่า ระวังปลิงน๊าๆๆ อยู่น่านหละ..55..จากไม่กลัว ก็พลอยจะระแวงไม่ได้..55..จนป้าดาวเพ็ญเอ็ดอย่างเอ็นดูว่า “เว่าจั่งซี่ เดี๋ยวบ่มีพูซอยเกี่ยวเข่าในน้ำให่เด้อ จ้างก็บ่มีพู้ได๋ม๊า” สุดท้ายคนพูดก็ลงมาแช่น้ำ เกี่ยวข้าวด้วยกัน เพราะดูแล้วไม่มีใครโดนปลิงเกาะซักกะคน ..55..ก็คนมันย่านเนาะ ต้องเข้าใจค๊า..
สุดท้าย ทุกคนมาประชุมสรุปงานที่คันนา อันแสนเย็นสบาย ได้ทั้งองค์ความรู้เกี่ยวกับพันธุ์ข้าวที่มาเกี่ยว ได้ลงมือปฏิบัติจริงในการแก้ปัญหา ข้าวที่เกี่ยวไม่ง่ายเหมือนทั่วๆไป ที่สำคัญ ได้อ่านอารมณ์ของตัวเราเองว่า ขณะที่ทำงานนั้นเราได้อ่านอารมณ์กิเลสตัวเอง แล้วสามารถหยุด ระงับกิเลสนั้นได้อย่างไร ตามลำดับ
ได้รับคำตอบ สรุปสถาวะจากเด็กสัมมาสิกขาแล้วน่าชื่นชม ชื่นใจ ที่การศึกษาของสัมมาสิกขา แบบบวร บ้าน วัด โรงเรียน สามารถหล่อหลอม ซึมซับธรรมะให้เขาได้อ่านอารมณ์ตัวเองออก รู้ว่าเวลานี้ขี้เกียจนะ แต่ก็ยังลงมือทำ แล้วก็ทำได้ดี จนเสร็จงาน บางทีเด็กๆก็ยังไม่เก่งที่จะบอกว่า นี่คือการปฏิบัติธรรมของเขาแล้ว ที่สามารถอ่านเวทนาของตัวเองได้ ว่าขี้เกียจ แต่บางครั้งก็ยังกดข่มอยู่(วิกขัมภนปหาน) หรือบางครั้งก็ทำได้บ้าง(ตทังคปหาน) ดิฉันฟังแล้วก็แอบชื่นชมเด็กสัมมาสิกขาค่ะ ที่เขาโชคดีที่ได้มาเรียนในสถานศึกษาที่นอกเหนือจากเรียนวิชาการทั่วไปแบบโรงเรียนอื่นๆแล้ว เขายังมีโอกาสที่ได้เรียนรู้ศึกษาทางจิต เรียนรู้ ฝึกฝนลด ละ จัดการกับกิเลสของตัวเอง ได้ตามลำดับเท่าที่แต่ละคนจะพากเพียร ตรงตามปรัชญาของโรงเรียนสัมมาสิกขา คือ ศีลเด่น เป็นงาน ชาญวิชา
ก่อนกลับ น้องดั่งเดือน ชักชวนให้เก็บถั่วมะแฮกไปกิน และขาเดินกลับตามคันนา ก็อดที่จะเก็บถั่วนั่งไปกินกับน้ำพริก และเก็บดอกขี้กลาก(กระถินนา) ไปปักแจกัน ดูเล่นตามประสา คนชอบดอกหญ้าค่ะ..
ขอบคุณภาพบางส่วนจาก
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=601233646975094&set=pcb.601247120307080&type=3&theater
poonya tamma
สื่อธรรมะพ่อครูสมณะโพธักษ์