611217_รายการสำมะปี๋ซี่วิต ปฐมอโศก ครั้งที่ 30
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1bDyh6PQyoBlWuAlzJ30qEic9egbb0EOPjVVr7G2Hzvo/edit?usp=sharing
ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=16pycnV-jBHiCexwl9o3rFZht7nW74fUY
พ่อครูว่า….วันนี้วันจันทร์ที่ 17 ธันวาคม 2561 หลวงปู่ก็เคลื่อนกายย้ายจุดมากเกินไป หลวงปู่เกิดปีจอ 5 มิถุนายน 2477 ปีหน้าก็เต็ม 85 ปี
เป็นไง แต่ละผู้แต่ละคน ลมหนาวมาหนาวไหม? ที่นี่กี่องศาฯ (ตอนนี้ 29 องศา) ใครมีอะไรเดือดเนื้อร้อนใจ เรามาบำบัดเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ ผู้อวิชชาจะทุกข์เพราะหลงสุข อารมณ์สุขเป็นของเก๊ของปลอม หากมีสุขก็มีทุกข์คู่ มีสุขมากก็ทุกข์มาก dualism คู่หูกัน แยกกันไม่ได้ เป็นเหรียญสองด้าน ใครแยกออกจากกันไม่ได้ แยกให้มีหน้าเดียวไม่ได้มันเป็นเรื่อง dualism คู่หู คนหูเดียวก็คนปลอม คนหูปลอมหูเดียว หูต้องสองหูจึงเรียกว่าคู่หู เหมือนกันกับประชาธิปไตยต้องมีสองขา อันนี้ เป็นเรื่องที่ต้องศึกษาเป็นปรัชญาความรู้และเป็นความจริงที่ดี ถ้ามันขาดข้างใดข้างหนึ่งแล้วเป็นประชาธิปไตยพิการไม่เต็มเต็ง
ถ้าเลือกตั้งครั้งนี้ผลมันออกมาว่า พรรคที่คนเขาเชื่อว่าเป็นพรรคที่ส่ง ขณะนี้นายกฯตู่เป็นเจ้าสาวที่เล่นตัว โก่งราคาอยู่ ลักษณะสิริมหามายาจะอธิบายได้อย่างนี้ นายกฯตู่ต้องพิสูจน์ตัวเอง ตอนนี้ก็พูดแล้วว่า ผมนี่ต้องอยู่สู้ตายไปกับการเมือง แสดงให้เห็นว่าเห็นความสำคัญว่าเป็นประเด็นสำคัญกับชีวิตมนุษยชาติ หากทำการเมืองรับใช้ประชาชนได้ดี ให้ประชาชนเขาพอใจ เขาก็พร้อมยอมรับเราได้ เราไม่ได้บังคับเขานะ เราจริงกายจริงใจที่จะทำประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติ
อย่างในหลวงร.9 ได้อย่างสุภาพเรียบร้อยงดงาม ต้องทำการศึกษาจริงๆว่าท่านทำได้อย่างดี ตรัสน้อย แต่ทรงงานมาก พระจริยวัตร 70 ปี ชัดเจนมีหลักฐานยืนยัน มีวิดีโอบันทึกไว้ด้วย อีกหน่อยจะแพร่หลายเป็นตัวอย่างของมนุษย์ในโลก ทรงจริงพระวรกาย จริงพระทัย เหน็ดเหนื่อยเหงื่อไหลไคลย้อย พระเสโทไหล ภาพหยดเหงื่อไหลที่ปลายจมูกเป็นภาพ master piece เลย คนถ่ายก็เก่ง แจ๋วเลย พระองค์เป์นมนุษย์ มีพระชนม์ชีพย์มีพระจริยวัตรให้เห็นกัน
เลือกตั้งคราวนี้จะเป็นการแสดงบทบาทพฤติกรรมสังคม สมมุติ พรรคฝ่ายทักษิณกับคสช.สองอันนี้ สมมุติว่า ฝ่ายทักษิณได้คะแนนเสียงมาก เขาก็จะมีส.ส.ในสภาเยอะ เขาก็จะโหวตเลือกใครเป็นนายกฯ แต่ละพรรคก็เสนอชื่อได้ เลือกเสร็จแล้วออกมา สมมุติว่า ได้ ฝ่ายทักษิณมาเป็นนายกฯ อาจเป็นคุณพานทองแท้ ไม่แน่ตัวเลือกมันน้อยแล้ว ไปหมดแล้วนี่ ตัวเองก็ไปแล้ว น้องสาวก็ไปแล้ว เป็นสมชาย ยิ่งลักษณ์ก็ไปหมดแล้วได้คดีติดตัวไป เข้าประเทศไม่ได้ มันเป็นของจริง สิ่งแสดงสิ่งยืนยันความจริงเช่นนั้น
แต่ถ้าเป็นคสช.ชนะ ก็ไม่มีปัญหา เขาก็เอานายกฯตู่ก็ทำงานต่อไปเลย เดินเรื่องสบายทุกคนก็มั่นใจ เจ้าหน้าที่ก็ยิ่งชัดเจน ยิ่งมีน้ำหนัก รัฐบาลจะทำได้เป็นกอบเป็นกำไม่วอกแวก เป็นเรื่องขันชะเนาะ พลังการสร้างสรรก็ยิ่งชัดเจนเข้าใจ แนวลึกของการเมือง แนวลึกของการบริหารประเทศมีภาวะซับซ้อนมาก หลวงปู่พยายามอธิบายเศรษฐกิจเศรษฐศาสตร์ตามในหลวงร.9 ก็ตรงกันอธิบายตรงกันว่า คนเรามาเป็นคนจน ให้ประชากรไม่ต้องหลงความร่ำรวย
หลวงปู่เคยบอกเคยพูดมา ว่าความร่ำรวยคืออะไร ความร่ำรวยคือ สมรรถนะ ความสามารถ กับความขยัน เป็นภาษาและพฤติกรรม ใครสร้างสรรได้ดีได้เก้่ง ขยันทำก็เกิดผลผลิตตามมา มีปัญญารู้อะไรควรสร้างก็สร้างให้คนได้กินใช้ มันก็รวย หากขายได้เงินโก่งราคาก็ได้มาก ของเราดีด้วย จำเป็นด้วย ต้องกินต้องใช้ คนก็ต้องมาซื้อหาไป ตามอัตราโลกก็ร่ำรวย เอาสะสมกอบโกยก็ร่ำรวย แต่ความซับซ้อนของคนเจริญถึงจะได้มากก็เอาไม่มาก หากเอาไม่มากก็พอกินพอใข้ ได้แล้วไม่สะสมด้วย ไม่กักตุน สะพัดออกไป เพราะเรามั่นใจในสมรรถนะประจำตัวเรา กับความขยัน ลงมือเมื่อไหร่ก็เป็นผลผลิต จึงไม่ต้องกักตุน แต่เราไม่ได้อยู่คนเดียว มีอยู่เป็นสังคมที่เห็นร่วมกันสัมมาทิฏฐิ เสมอสมานกัน เอกีภาวะ ทิฏฐิสามัญตา ศีลสามัญตา สอดคล้องกันก็ยิ่งเป็นหนึ่งเดียวกัน เข้าใจว่าอะไรควรผลิตก็ทำร่วมกัน กินใช้เท่าคนๆหนึ่ง เราผลิตได้มากก็สะพัดได้มาก ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อส้งคมมาก หากแลกเปลี่ยนเอาเงินมาก็ลดค่าลง ของคิดทุน ร้อย เอาร้อยแลกกลับมาได้ธนบัติก็เท่าทุนเจ๊ากัน หากยิ่งโกงราคา ของเราดีมีคุณภาพ โก่งราคา ทุนร้อยขายสองร้ายห้าร้อยนึกว่าได้กำไรทางโลกแต่เป็นหนี้ทางธรรมทางสัจจะ ศาสนาพุทธชัดเรื่องกรรมวิบากไม่ต้องสะสมหนี้ ไม่ต้องสะสมความเป็นลูกหนี้ก็ยิ่งซวย
หากคนไทยเข้าใจว่ามาเป็นคนจน มีใจเผื่อแผ่กันสร้างสรรขยันเพียรเหลือกินใช้ ไม่อดอยาก ใครขี้เกียจก็บาปใครบาปมันใครมาแฝงก็บาปวิบาก ศาสนาพุทธเชื่อกรรมเชื่อวิบาก เชื่อกรรมเป็นของๆตน สองเชื่อวิบาก สามเชื่อกรรมเป็นของๆตน
-
กัมมัสสโกมหิ (มีกรรมเป็นสมบัติแท้ของตน)
-
กัมมทายาโท (มีกรรมเป็นทายาทรับมรดกของตน)
-
กัมมโยนิ (มีกรรมเป็นแดนเกิด-หรือพากำเนิด)
-
กัมมพันธุ (มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์, พันธุ์เทพ,พันธุ์มาร)
-
กัมมปฏิสรโณ (มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัยแท้ๆ)
(พตปฎ. เล่ม 14 ข้อ 581)
มีแต่กรรมเท่านั้นเป็นที่อาศัย ไม่ว่าจะกี่ชาติก็อาศัยกรรม ทำดีก็อาศัยดี ทำชั่วก็อาศัยชั่ว ทำไม่สุขไม่ทุกข์ก็อาศัยไม่สุขไม่ทุกข์
อ.กฤษฏา… นึกถึงการก่อสร้าง กรรมคือสิ่งที่สร้างมาแล้ว เราก็ต้องสร้างต่อไปใช่ไหม การเข้าถึงกรรมคือการเข้าถึงปัจจุบัน เหมือนเราต้องสร้างถนนต่อไปข้างหน้า หากถนนไม่ดีเราก็ต้องสร้างกันต่อไป
พ่อครูว่า…มันบวกลบคูณหารกัน ทำปฏิกิริยากันซื่อสัตย์ ไม่มีใครเบี้ยวกรรม ไม่มีอำนาจไหนยิ่งใหญ่กว่ากรรม
อ.กฤษฏาว่า ..เขามีการแสกนกรรม แก้กรรม
พ่อครูว่า..พวกนี้อวดดียิ่งใหญ่กว่าพระเจ้า เป็นเจ้ากรรมนายเวรทำได้ไม่มีหรอก ตัวเองเท่านั้น ไม่มีเจ้ากรรมนายเวร ไม่มีเจ้าหนี้ เราเป็นเจ้าหนี้ลูกหนี้ของกรรมตัวเอง คนอื่นไม่มีสิทธิ์ ไปชี้เป็นชี้ตายสั่งกรรมไม่ได้ขี้โม้ทั้งนั้น
_กฐิน…ตอนนี้ฝรั่งเศสเรียกร้องให้ ทหารมาปฏิวัติ เขาเกิดจากคนชั้นกลางถูกขูดรีดภาษี ชนชั้นล่างก็มีสวัสดิการ พวกนายทุนเสียภาษีน้อยกว่าคนชั้นกลาง แต่ไทยเราจะไม่เป็นเหมือนฝรั่งเศส เพราะเรามีสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งมีทศพิธราชธรรม อย่างไรกฐินก็รักทหารเพราะเขาได้รับการฝึกมาแล้วให้ทำดี เขาต้องเสียสละ ระหว่างทหารกับพ่อค้า กฐินเลือกทหาร พวกพ่อค้ามีความโลภมาก
นึกถึงร.5 ที่ท่านเลิกทาส ขอบคุณพระพุทธเจ้าที่ทำให้ผู้หญิงมาบวชได้ ไม่เป็นทาส แต่ทุกวันนี้ ผู้หญิงกลับไปเป็นทาส ไปเป็นทาสนักการเมืองน้ำเลว แทนที่จะมาสร้างสรร
ทุกวันนี้เราวัด GDP กับการค้าขายกับต่างชาติ แต่ก่อนนี้เราทำการเกษตรมีการแบ่งปันเผื่อแผ่ เราเอามะพร้าวไปแลกข้าว หากสังคมไทยกลับไปสู่การแลกเปลี่ยนไม่เอาเงินเป็นที่ตั้ง และผู้หญิงเดี๋ยวนี้หนักไปกับอบายมุขเรื่องแต่งหน้าแต่งตัว
พ่อครูว่า…แต่ละคนก็มีสิทธิ์จะตัดสินพิพากษา เมืองไทยบริสุทธิ์ใจ ทุกคนอิสรเสรีภาพสูงมากในคนไทย พยายามทำจริง เป็นตัวอย่างให้โลกอีกนานแสนนาน พยายามช่วยเท่าที่จะทำได้ เผยแพร่ออกไป คนก็ไม่ค่อยรับเพราะสูงไปหน่อย แต่ก็บันทึกไว้ ในอนาคตคนจะมาศึกษา เป็นหลักฐาน ทุกวันนี้บันทึกหมด สิ่งผิดสิ่งถูก คำพูดตอนเราไม่พูดเราเป็นนายคำพูด แต่พอเราพูดไปแล้วคำพูดมาเป็นนายเรา เราพูดผิด ผิดก็เป็นนายเรา พูดถูก ถูกก็เป็นนายเรา แก้ไม่ได้ด้วย พูดไปแล้ว
เมืองไทยเราใส่ใจเพิ่มเติมสัจธรรมไป โลกไม่ไปไหนหรอกต้องมาหาสัจธรรม องค์ประกอบโลกเปลี่ยนไปแต่ไม่จริงเท่าสัจธรรม ตั้งแต่เมืองไทยได้เกิดสภาพโลกุตระที่ได้เผยแพร่ไป ไม่ต้องหวงเลย อาตมาจะพยายามประคับประคองโลกุตรธรรมให้มีเนื้อแก่นสาระแน่นเจริญงอกงาม ตามความจริงใจเราพากเพียรยิ่งมั่นใจ โลกซับเอาโลกุตรธรรมไว้ในแกนจิตแล้วตอนนี้ นักบริหาร โพธิสัตว์ โพธิคือความรู้ระดับโลกุตระ มันกระจายไปในโลก เริ่มจุติหยั่งลง โอกกันติ โตขึ้น จากเซลเดียวมาเป็นสี่ แปด แล้วยกกำลังมากขึ้นๆ คือรูปธรรม นามธรรมก็ฉันเดียวกัน
_ก้อนดิน…พ่อครูให้ว่า สุขสำราญเบิกบานใจ เป็นขั้นตอน แล้วอยากถามพ่อท่านว่า อย่าเอาสุข สุขมันหลอก แล้วสุขแบบจนนี้สุขอย่างไร แล้วขาดทุน จะสุขสำราญอย่างไรด้วย คนข้างนอกงงว่า จนแล้วก็ยังมาขาดทุนอีก ทำอย่างไรให้จน สุขสำราญ เบิกบานใจ
พ่อครูว่า…คำว่าสุข สุ แปลว่าดี ข แปลว่าว่าง ว่างจากความไม่ดี ความโง่ มีความรู้ความเข้าใจดี มาเป็นตัวเนื้อแท้ของความสุข มีแต่ฉลาดอย่างประเสริฐอย่างแท้จริง ดี ความซับซ้อนจากพยัญชนะสู่สภาวะนี่แหละสรุปได้ทุกอย่าง คือพยัญชนะกับสภาวะกลับไปกลับมา คือความซับซ้อนสภาวะกับพยัญชนะ
จนเป็นพยัญชนะ คือสภาวะคนที่ไม่ต้องมีอะไร ไม่ต้องมีอะไรในตนเอง แต่มีหมู่กลุ่ม สวล. มีเหตุปัจจัยครบอุดมสมบูรณ์ ส่วนตัวจน แต่ส่วนรวมอุดมสมบูรณ์ ชาวอโศก อธิบายสภาวะนี้ได้อย่างครบสมบูรณ์ คนมาอยู่ด้วยสัก สองเดือนสามเดือนจะชัดเจนเลย
_สมณะเสียงศีล…ก่อนอื่นก็ต้องขอกราบขอบพระคุณพ่อท่านอย่างมากที่มาให้กำลังใจกับพวกเรา ใจอาตมาอยากให้มา อีกใจหนึ่งก็อยากให้พ่อท่านถนอมสุขภาพมากกว่า แต่พ่อท่านมาแล้วก็ขอคั่นเวลา อยากถามพ่อท่านไว้ ช่วงที่พ่อท่านพักว่า
การเมืองนี่ที่จริง สมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าก็ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองมาตลอด มีครั้งหนึ่งพระเจ้าอชาตศัตรูจะไปตีกษัตริย์ลิจฉวี พระพุทธเจ้าว่าไปตีไม่แตกหรอก เพราะเขามีอปริหานิยธรรม สามัคคีกันมาก พระเจ้าอชาตศัตรูก็เลยให้วัสสการพราหมณ์ไปยุแหย่
พ่อครูว่า..อจินไตย พระพุทธเจ้ารู้ในสิ่งเกี่ยวกันทำให้เกิดผลประโยชน์ หรือโทษ เป็นโทษก็เป็นตัวอย่างของโลก เป็นประโยชน์ก็เป็นตัวอย่างของโลก เกิดเป็นตำนานตกค้างมาให้เราได้ใช้ศึกษาให้รู้ว่า ความจริงของพลังงานจิต เป็นรูป นาม พลังงานสอง เทวะ ซับซ้อนปรุงแต่งกัน
ให้ตอบว่าทำไม อาตมาตอบไม่ได้ไม่เก่งอจินไตย จะต้องการคำตอบนี้ตอบไม่ได้ ก็ตอบได้แต่ว่า เป็นเรื่องพฤติกรรมจริงฝากไว้ในตำนานชาดก พฤติกรรมมนุษย์สืบทอดกันมาให้เห็นใครจะเชื่อหรือไม่ก็บังคับกันไม่ได้
อาตมาเชื่อว่ากรรมวิบากเป็นเรื่องสูงสุดของมนุษย์ กรรมนี่แบ่งกันไม่ได้ ถึงเวลาก็มาออกฤทธิ์กับตนเอง อาตมาสั่งสมภูมิปัญญามา เรื่องเก่าๆยิ่งทำให้เรามั่นใจเรื่องกรรมวิบากที่ออกผลต่อความจริงเป็นสัจจะที่ซื่อสัตย์สุด อาตมาจำนนเลย กรรมนี้ซื่อตรงซื่อสัตย์ไม่มีใครทำผิดเพี้ยนได้เลย เปลี่ยนไม่ได้ ถึงเวลาออกฤทธิ์ห้ามไม่อยู่ ดันทุรังไม่ได้ กัมมุนาวัตตีโลโก กัมมังสัตเตวิภัชติ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม กรรมจำแนกสัตว์ เป็นเรื่องสุดยอดยิ่งใหญ่ที่สุด
_กฐิน… คำว่าสุขสำราญเบิกบานใจต้องเริ่มจากโสดาบัน แล้วเป็นสกิทาฯ อนาคาฯ อรหันต์ หากคนไม่ได้ฐานโสดาบันจะไม่รู้จักสุขสำราญแท้
พ่อครูว่า…หากติดอบายมุข ก็เป็นโสดาบันไม่ได้ คนพ้นอบายมุข จึงเป็นโสดาบัน คุณหลุดพ้นมาถึงรับรสความหลุดพ้นไม่โง่ไปกับสุข ที่จริงมันทุกข์ แต่มันหลอกว่าสุข อย่างคนมาโซคิส ซาดิสม์ก็ ชกปากคนอื่นแล้วอร่อย แต่ลองปากตนเองแตกสิ จะรู้สึก
_อ.กฤษฎา..คำว่าจน ทำให้ผมนึกถึง สัพเพธัมมานาลังอภินิเวสายะ คือไม่ยึดมั่นถือมั่นอะไรเลยไหม
พ่อครูว่า..ใช่ ไม่เอาอะไรมาสะสมเลย ไม่ยึดไว้เลย ในสภาวะจริง แต่มันซ้อนที่เราไม่มีแต่เรามี เรามีสวล.มีบารมี จะเป็นทรัพย์ เป็นพลเมืองประชากร ที่ยินดีรับใช้เราตายแทนเราเป็นสัจจะของเขา เขายินดีทำ ด้วยซื่อสัตย์จริงใจว่าคุ้ม เป็นสิ่งดี
อ.กฤษฏา มีองค์ธรรมหลายชุดขึ้นต้นด้วยทาน ผมเป็นการสะพัดออกการให้โดยไม่หวังผล คือวิถีทางฝึกทานอย่างแท้จริง สรรพสิ่งทุกอย่างไม่ใช่ของเราให้ไปเลย
พ่อครูว่า..ยิ่งเราให้ อย่างไม่มีตัวตน คนอื่นก็ยิ่งจะเข้าใจ เขามีปัญญารู้ว่าอย่างนี้สิคือไม่มีตัวตน แต่หากคุณปากว่าไม่เอาแต่พฤติกรรมกลับเอาคืนอย่างซับซ้อนหรือยิ่งนานไปยิ่งไม่มีไม่เอาแต่คนปากว่าไม่มีไม่เอา แต่ยาวนานไปกลับเอาๆ มันจะฟ้องเลย
_อ.กฤษฎาว่า..เราทำก็มีผลจากการทำ คือสิ่งเกินสิ่งเหลือ พ่อท่านสอนว่าเอาสิ่งเกินเหลือไปให้อีกสะพัดอีก ในหนังสือเล่มนี้
พ่อครูว่า…หนังสือเล่มนี้จะมีคนขยายความอีกในแต่ละจุด ที่มีความเข้มข้นอีกมาก จะมีคนเก่งกว่าอาตมาเอามาขยายต่อ
_เราไม่ยึดมั่นถือมั่นคือเราไม่สุขไม่ทุกข์ได้
พ่อครูว่าเราไม่สุขไม่ทุกข์ไม่โต่งไปทางกามหรืออัตตา ไม่มีอันตา(ปลาย)เลย อธิบายไม่ง่าย ใช้ภาษาไทยว่า กลาง ว่าง เปล่า ก็ยังน้อยไป จะอธิบายอย่างใดก็ทั้งนั้น
_วิเชียร..นึกถึงพระเวสสันดร อนาถบิณฑิกฯ ก็ทานจนหมดตัว พออ่านหนังสือคนจนที่มีแบบ ตอนจบ มีว่า คนจะมีคุณค่าคือคนมีชีวิตเป็นผู้ให้แก่ผู้อื่นแก่สังคม ทำให้ตนเกิดจิตอาสาในใจ
พ่อครูว่า…ชีวิตที่มีคุณค่าคือชีวิตเป็นผู้ให้ โดยไม่มีอะไรเอากลับมาเลย เป็นเส้นตรงไม่โค้งมามีเราเลยไม่เป็นเราเลย เป็นนิวเคลียร์ fission ไม่มีแสง พลังงาน โค้งบูมเมอแรงกลับมาอีกเลย
มันควรต้องมาอยู่กับหมู่กลุ่มที่เป็น มิตรดี สหายดี สังคมสิ่งแวดล้อมดี ในเรื่องสุริยเปยยาล 7 ข้อ ต้องมีความเข้าใจ ความจริง สุริยเปยยาลของแสงอรุณ ก่อนพระอาทิตย์ขั้นต้องมีแสงเงินแสงทองมาก่อน ลึกซึ้งมาก ใน 7 ข้อนี้คนที่สามารถเข้าใจได้ ทำความเป็นจริง
[129] มิตรดี เป็นนิมิตแห่งอริยมรรค . . ดูรายละเอียดมิตรดี เรามาสัมผัสหมู่กลุ่มนี้พฤติกรรมสังคมวัฒนธรรมนี้ เราก็ว่าใช่ เรายินดีพอใจ มาแล้วก็จะมีหลักเกณฑ์ศีล
[131] สีลสัมปทา เป็นนิมิตแห่งอริยมรรค . อย่างน้อยศีล 5 ละอบายมุขมังสวิรัติ ทำได้ก็จะรู้สึกสุดยอดประเสริฐ จะเกิดความรู้เป็นปัญญา ปัญญาจะชัดเจน ศีลเป็นตัวทำให้เราเจริญสะอาดบริสุทธิ์ขึ้นเรื่อยๆ ก็จะรู้ว่ามีศีลจะลดอัตตา
[132] ฉันทสัมปทา เป็นนิมิตแห่งอริยมรรค .
[133] อัตตสัมปทา เป็นนิมิตแห่งอริยมรรค
[134] ทิฐิสัมปทา เป็นนิมิตแห่งอริยมรรค . .
[135] อัปปมาทสัมปทา เป็นนิมิตแห่งอริยมรรค
[136] โยนิโสมนสิการสัมปทา เป็นนิมิตแห่งอริยรรค .
จะมาเป็นลำดับๆเลยในสุริยเปยยาล 7 ข้อนี้ ก็จะปฏิบัติตามลำดับไม่ประมาท ทำโยนิโสฯเป็น ตามสวากขาตธรรม แล้วจิตเราทำได้ผล โยนิโสมนสิการ ทำให้กิเลสออกกิเลสลดลงๆ ตามกระบวนการที่พระพุทธเจ้าสอนไว้
ทั้ง 7 ข้อหากทำได้ครบถึงโยนิโสมนสิการ เป็นหลักการ คุณต้องมี 7 ข้อนี้ชัดเจนแล้วถึงเริ่มฝึกมรรค 7 องค์ 7 ข้อนี้แค่ความรู้นะ ยังไม่ได้ปฏิบัติ แล้วก็ทำมรรค 7 องค์ มีการคิด พูดทำ การทำอาชีพ ตามมรรคมีองค์ 8
_วิเชียรว่า..ในหนังสือ มีพูดถึง สยะ อรหันต์หมดอาสวะ เหลืออนุสัยแล้วอนุสัยเป็นอยู่อย่างไร
พ่อครูว่า…อาสวะหยาบกว่าอนุสัย
อาสวะ มี 4 ข้อ
-
กามาสวะ
-
ภวาสวะ
-
ทิฏฐาสวะ
-
อวิชชาสวะ
(พตปฎ. เล่ม 35 ข้อ 961)
อนุสัยมี 7 ข้อ
-
กามราคานุสัย (ความดึงดูดกำหนัดในกาม)
-
ปฏิฆานุสัย (ความผลักไส ขัดเคือง ขึ้งเคียด)
-
ทิฏฐานุสัย (ความยึดถือความเห็นเป็นตนของเรา)
-
วิจิกิจฉานุสัย (ความลังเลสงสัย ทำให้เนิ่นช้า)
-
มานานุสัย (ความถือตัวทั้งหลาย)
-
ภวราคานุสัย (ความใคร่อยากในภพละเอียด)
-
อวิชชานุสัย (ความไม่แจ้งในอริยสัจ)