620104_พุทธศาสนาตามภูมิ บ้านราชฯ โลกานุกัมปายะของชาวอโศก
อ่านทั้งหมดที่ หรือดาวโหลดเอกสารที่… https://docs.google.com/document/d/1-8ofXImyqisiKmVD-ABc1IV6gO4VL9-vErpfJo0-wBg/edit?usp=sharing
ดาวโหลดเสียงที่.. https://drive.google.com/open?id=1tr_IvpLgdjiTKsps5MpQPugQBXWMtBJj
สมณะฟ้าไทว่า….วันนี้วันศุกร์ที่ 4 มกราคม 2562 ที่บวรราชธานีอโศก งานพุทธาภิเษกปี 2562 ก็จะจัดตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 ตอนนี้คนก็สนใจเรื่องของพายุปาบึกที่จะขึ้นฝั่งทางภาคใต้ของประเทศไทยวันนี้ ทางรัฐบาลก็ระดมความช่วยเหลือเต็มที่ ช่วยเต็มที่ดีอย่างนี้ก็น่าจะได้เป็นรัฐบาลต่อไป เพราะมีคุณสมบัติของเป็นผู้รับใช้เป็นผู้ให้ไม่มีอคติ พ่อครูก็จะมาแสดงธรรม สอนคนให้เป็นผู้รับใช้ผู้อื่นนี่แหละ
พ่อครูว่า…ก่อนอื่นก็ขอโอภาปราศรัยกับทางบ้าน
_มีโอกาสฟังผู้ทำงานธรรมทัศน์สมาคม ที่เผยแพร่หนังสือธรรมะ ได้พูดคุยกัน มาร่วมขายหนังสือธรรมะในงานนี้ มี trend แปลกๆอยากจะเล่าสู่ฟัง ปฏิทินของชาวอโศกในงานนี้มีผู้มาสนใจซื้อมากขึ้นกว่าปกติที่เคยขายมา ราคาแผ่นละ 10 บาท แจกฟรีก็เยอะแยะ ก็เลยทำให้สงสัยว่าเขาซื้อเพราะอะไร เลยถามชาวบ้านว่ารู้จักไหมใครในรูปปฏิทิน เขาก็ตอบว่าตามองไม่เห็นไม่รู้ว่ารูปใคร ก็เลยถามว่าอ้าว ทำไมยังซื้อล่ะ คำตอบคือ อยากเอาไปดูว่าอโศกนี้จะจัดงานอีกเมื่อไหร่ ในนี้บอกไว้ตลอดปีเลย เข้าท่า เขาสนใจงานอโศกไม่สนใจบุคคลด้วย พ่อครูว่า..ไม่สนใจเราก็ไม่เป็นไรแต่สนใจงานอโศกก็ชื่นใจ
หนังสือที่ขายดีปกติเป็นหนังสือเกี่ยวกับการเกษตรยอดขายดีตลอดมา แต่ปีนี้หนังสือขายดีเป็นหนังสือธรรมะเล่มใหญ่ทั้งนั้น เช่น ทางเอก เล่ม 1-3 เราก็ถ่ายเอกสารขายชุดละ 1,000 บาท มีการสั่งซื้อจองมาก ผิดจากเดิมที่ขายยากมาก ผู้ซื้อ เป็นชาวแพทย์วิถีธรรม และ ผู้ติดตามดูพ่อครูทางทีวีคงจะเป็นผู้นิยมดูพ่อครูสอน หนังสือ สัจจะชีวิตของสมณะโพธิรักษ์เล่ม 1-4 ก็ขายได้มากกว่าทุกปี ทำให้เราตัดสินใจจะพิมพ์เล่มหนึ่งที่เคยหมดไปแล้วจากเดิมที่ไม่เคยคิดจะพิมพ์ หากใครต้องการจะใช้จะถ่ายเอกสารขาย แต่มีคนถามหามากจึงจะพิมพ์เพิ่ม โดยพี่เบญ(ลูกดิน) จะช่วยสมทบด้วย
เรื่องต่อมามีฝรั่งกับภรรยา มาที่ร้าน ภรรยาเป็นครูคนไทย พูดอังกฤษคล่องปรื๋อเลย ภรรยาอ่าน “คนจนที่มีแบบ” ฉบับแก้แล้วไขอีกแล้วก็แปลให้สามีฟังจนฝรั่งขอให้พามาดู มาบ้านราชฯ ก็ดูรอบพื้นที่บ้านราชฯ ริมมูนก็ไป แล้วพากันมาที่แผงธรรมทัศน์ ฝรั่งเหมาหนังสือคนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก ที่ตั้งไว้ 5 เล่ม ขอซื้อหมดเลย แล้วก็หยิบไปเล่มเดียว ที่เหลือบอกกับเราว่า ให้เอาไว้แจกให้คนไม่มีตังค์ซื้อหนังสือมาอ่าน ภรรยาก็บอกว่า หนังสือเล่มนี้อ่านไม่ยากค่ะ เข้าใจไม่ยาก สามีฟังแล้วอยากมาดูให้เห็นกับตาเลย แสดงว่าฝรั่งมีปัญญารับวิถีชาวอโศกได้ อย่างที่เรียกว่า Get เลย ให้เลย
สรุปว่า trend ปีนี้ ธรรมะมาแรง แซงหนังสือเกษตร ที่สำคัญแฟนธรรมะพ่อครูนอกจากจะเป็นสว. ยังมีวัยรุ่นมาซื้อหนังสือ คนจนที่มีแบบ ฉบับแก้แล้วไขอีก ซื้อไปฝากเพื่อนๆ เป็นของขวัญปีใหม่หลายเล่มเลย
มีผู้ถามหาหนังสือ permaculture อยากเอาไปทำเองบ้าง เขาได้ฟังปฏิบัติกรก็อยากทำตาม แต่ทางเราก็ไม่มีหนังสือ หากมีผู้จะทำหนังสือเรื่องนี้ก็ส่งข่าวมาได้ จะได้เปลี่ยนชีวิตของเขาให้ทำการอาชีพที่ปลอดภัยได้
พ่อครูว่า…อาตมามั่นใจเลยว่าประเทศไทยเราจะเป็นมหาอำนาจทางกสิกรรม ก็ย้ำยืนยันมามากมาย เกษตรมีทั้งปศุสัตว์มีทั้งประมง เราเอากสิกรรม อันหมายถึงพืชพรรณธัญญาหารเท่านั้นเราไม่อยากไปยุ่งเกี่ยวกับสัตว์ เรารู้แล้วว่าเกี่ยวกับสัตว์เป็นเรื่องวิบาก เราไม่เอาไปฆ่าแกงไปเลี้ยงแล้วไปฆ่าเขากิน คนหนอคน เลี้ยงเขามาฟูมฟักไว้ดีแล้วฆ่ากิน คนเราไม่เข้าใจเรื่องชีวะ ชีวิตสัตว์โลกมันมีวิบากต่อกัน คนเขาไม่เข้าใจก็ทำ เราเข้าใจแล้วก็ไม่ทำให้เกิดวิบากต่อไปอีก
พืชพรรณธัญญาหารเหมือนแกล้งชาวอโศก ดูสวยสมบูรณ์เพราะเราเอาใจใส่มุ่งหมายตั้งใจพัฒนาสร้างภูมิปัญญาเอาใจใส่จริงๆ ทุกอย่างโถมลงไป อันนี้แหละจะกอบกู้โลก ผู้ที่เห็นดีเห็นด้วยก็มาร่วมไม้ร่วมมือกัน คนที่ชอบทำงานกสิกรรมเป็นชีวิตจิตใจ อาตมาอนุโมทนาสาธุ ร้อนเขาก็ไม่รู้ร้อนหนักเขาก็ไม่รู้หนัก เปื้อนเขาก็ไม่รู้เปื้อน วันทั้งวันตากแดด ไม่รู้สึก ลืมไปเลย อะไรอย่างนั้นทำไปดีจังเลย เป็นไปในผู้ที่ยินดีในสิ่งเหล่านั้น ชาวอโศกเข้าใจและมีมากขึ้นเรื่อยๆก็ดี
ประเทศอื่นๆต่างๆเขาจะไม่มีเหตุปัจจัยเหมือนอย่างประเทศไทย ประเทศไทยนี้อยู่ในพิกัดของโลกที่ อุณหภูมิน้ำดินครบพร้อมองค์ประกอบได้สัดส่วน พร้อมที่จะปลูกพืชพรรณธัญญาหาร เราจะไม่เก่งทางอุตสาหกรรมเราจะเก่งทางกสิกรรม ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านส่งเสริมท่านตรัสไว้ชัด ท่านบอกว่าเราไม่ก้าวหน้าทางอุตสาหกรรมทางอื่นเขาหรอก เรามาทางกสิกรรมซึ่งจะเป็นทางรอด อาตมาพูดเป็นเชิงข่มว่า อุตสาหกรรมก็ช่วยชีวิตได้ แต่ถ้าเอาจริงๆแล้วเหลือแต่เพียงอุตสาหกรรมกับกสิกรรมอะไรจะเป็นสิ่งที่พาให้ชีวิตรอด อุตสาหกรรมสร้างลูกระเบิดได้วิเศษใหญ่ กับการสร้างบล็อกโครี่กะหล่ำปลีได้พิเศษ อะไรจะช่วยชีวิตได้มากกว่ากัน แม้จะเป็นเครื่องยนต์กลไกอะไรก็แล้วแต่ แม้ที่สุดจะสร้างโรบอท สร้างหุ่นยนต์ที่จะพยายามทำให้เหมือนคนจริงๆเลย มีความใกล้เคียงความรู้สึกตอบรับสั่งการตัวเองได้ให้เข้าใกล้ความเป็นคน มันก็ข้ามเขตความเป็น อุตุนิยาม พีชนิยาม จิตนิยาม จนมาเป็นกรรมนิยาม มันยังไม่มีความรู้อย่างนี้ได้ เขายังไม่มีความรู้ในเรื่องของพลังงานระดับ อุตุนิยาม พีชนิยาม จิตนิยาม จิตก็ต้องสามารถควบคุมกรรมของตัวเองเข้าไปอีกเพื่อให้ทรงเป็นสิ่ง Static มีจิตนิยามเป็นประธานก็จัดพลังงาน Dynamic Static ของตัวเอง พลังงานคู่ในนิวเคลียสของตัวเองได้
การจะเกิดพลังงานในระดับที่เชื่อมต่อให้มันมาเกิดจาก อุตุ ข้ามกรอบมาเป็นพีชะ จากพีชะข้ามกรอบมาเป็นจิตนิยาม ตั้งแต่เป็น รูปธรรม อรูปธรรม มาจนเป็นชีวะเป็นพีชะ ก็เริ่มมีชีวะ จะเรียกนามเลยก็ไม่เป็นนาม มีสัญญา สังขาร แต่ไม่มีเวทนากับวิญญาณ มันมีได้แค่นั้นส่วนเมื่อมาเป็นจิตนิยามแล้วจะครบทั้งเวทนาสัญญาสังขารวิญญาณ ก็ค่อยๆเป็นไปอีกหน่อยจะมีคนค่อยๆเข้าใจแล้วมาศึกษาต่อขยายผล ผู้ที่สามารถต่อภพภูมิความรู้อันนี้ต่อไปอาตมาก็มีความรู้เท่าที่รู้ พยายามเพิ่มเหมือนกัน ใครจะมาช่วยกันก็พัฒนากันไป
_ใบฟ้า นาวาบุญนิยม พ. 26 / 12 / 61 15.50 น.
กราบนมัสการพ่อครูด้วยเศียรเกล้าฯ
ประเด็น 1 ….พ่อครูได้ประกาศให้โลกรู้ว่าหลัง 500 ปีของการกอบกู้พระพุทธศาสนา พ่อครูจะไม่กลับมาเกิดอีก นั่นหมายความว่า “ โพธิกิจ” ของการสืบสานศาสนาให้ครบ 5000 ปีเสร็จสิ้นแล้ว หลังจากนั้นจะเป็นการเพิ่ม”โลกวิทู” สั่งสมบารมีในภพภูมิต่างๆที่มิใช่มนุษย์ของพุทธกัปป์นี้ เพื่อยกระดับขึ้นเป็น”มหาโพธิสัตว์” ใช่ไหมคะ …..ดังนี้ลูกๆทุกฐานะมีโอกาสติดสอยห้อยตามได้หรือไม่ อย่างไรคะ?
พ่อครูว่า…ก็ขอตอบสั้นๆสังเขปว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับ อนิจจตา ไม่เที่ยง อาตมาพูดไปคร่าวๆ อาตมาพูด 500 ปีนี้มันนานแล้ว จนเขียน pattern เป็นรูปสามเหลี่ยม
ได้เขียนไว้นานแล้วโลโก้นี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่รู้ได้ยาก เพราะธรรมะของพระพุทธเจ้านั้น คัมภีรา (ลึกซึ้ง) ทุททัสสา (เห็นตามได้ผยาก) ทุรนุโพธา (บรรลุรู้ตามได้ยาก) สันตา (สงบระงับอย่างสงบพิเศษ แม้จะวุ่นอยู่) ปณีตา (สุขุมประณีตไปตามลำดับ ไม่ข้ามขั้น) อตักกาวจรา (คาดคะเนด้นเดามิได้) นิปุณา (ละเอียดลึกถึงขั้นนิพพาน) ปัณฑิตเวทนียา (รู้แจ้งได้เฉพาะผู้เป็นบัณฑิต บรรลุแท้จริงเท่านั้น) (พตปฎ. เล่ม 9 ข้อ 34)
สันตา เป็นความสงบที่อยู่ท่ามกลางความวุ่นวายเดือดร้อน ท่านพุทธทาสกล่าวไว้ว่าเหมือนก้อนน้ำแข็งท่ามกลางเตาหลอมเหล็ก แล้วน้ำแข็งก็ไม่ละลายด้วย มันจึงเป็นเรื่องที่ลึกซึ้งซับซ้อนเป็นเรื่องอุปมาอุปไมย
ปณีตา คือ ละเอียดสุขุมเกินกว่าจะเดา อตักกาวจรา เดาไม่ได้ ต้องทำเองสังเกตเองเป็นเอง นิปุณา ก็ไม่รู้จะแปลเป็นภาษาไทยว่าอย่างไรมันละเอียดสุขุมไปแล้วละเอียดมาหมดแล้ว นิปุณา แปลว่าละเอียดลึกซึ้งถึงนิพพาน ต้องบัณฑิตแท้ๆไม่ใช่บัณฑิตไปสอบเอาจากสำนักตักศิลามหาวิทยาลัยอะไร เป็นความเจริญความเฉลียวฉลาดแท้ๆจริงๆเกิดความเป็นบัณฑิต ด้วยความรู้ที่เกิดจริงเป็นจริงเองเลย
ขออภัย อย่างอาตมาเป็นบัณฑิตเองเลยไม่มีใครมาให้ปริญญาแม้แต่ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ปริญญาจัตวาก็ไม่มี
ฐานะของลูกๆจะติดสอยห้อยตามไปได้แน่นอนไม่ต้องห่วง
ประเด็น 2 ….“ข้อเด่น”ของพ่อครูที่ต้องกราบขอโอกาสเชิดชู
-
เมตตากรุณาที่สุด(ในโลก)
-
มีความเป็นกลางไร้ลำเอียง
-
ขยัน เขียน – เทศน์ที่สุด(อิทธิบาทเต็ม)
-
มีภูมิธรรมสูงสุด ณ กาละนี้
5.เอาภาระกับมวลมนุษยชาติที่สุด
6 ขนาบกิเลสลูกๆเก่งสุด ไม่อ่อนข้อให้กิเลสแม้นิดๆ
7.ตอบปัญหาได้อย่างไร้เทียมทาน สนุก(ธรรมะบันเทิง)
-
นักมายากลที่เรียก “สิริมหามายา” ตัวจริง
-
ขยายอายุขัยได้ยาวที่สุด
10.เป็นไอดอลของ “คนจนที่สุขสําราญเบิกบานใจ”
กราบขอบพระคุณด้วยเศียรเกล้าฯ
พ่อครูว่า…พระพุทธเจ้าเมื่อได้ศึกษาอะไรไปมากกว่าความเป็นมนุษย์กับสังคม จะทำอย่างไรให้มนุษย์อยู่กันอย่างดีที่สุดในสังคม ไม่มีอะไรอื่นดีกว่านี้
อาตมาพยายามขยายอายุขัยด้วยพลังสัมประสิทธิ์ มีสูตรคือ
แทนค่าสูตรในสมการ E = C(mc2 +A) ดังนี้
m = ขันธ์ 5 (รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ)
A = นาม 5 (เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ มนสิการ)
c = ความเร็วของจิต คือ มุทุธาตุ ในคุณสมบัติของ อุเบกขา 5
C = ค่าสัมประสิทธิ์
ตัว A คือ Abstract ที่แต่ละคนสร้างได้ในนามธรรมของตัวเอง ก็จะเพิ่มตัว mc2 เป็นชุดๆ บวกไปสี่ชุดห้าชุด จนยกกำลังได้ ก็ได้mc2 ยกกำลังได้ สูตรของอาตมาก็คือ E=C(mc2+A) สูตรของไอน์สไตน์ E=mc2
ตัว C คือ Coefficient แล้วตัวที่จะพัฒนา
mc2 คือตัวที่บวก A นี้ไปเรื่อยๆ นี่คือสิ่งที่อาตมาต้องทำต่อ
ค่า A ผู้ที่ศึกษาตามก็ชัดเจนขึ้น มันบวกเข้าไปในสมการอย่างไร
A = mc2 +mc2 +mc2 +mc2 +mc2 +mc2 …บวกไปก็เป็น x หรือคูณ คูณมากๆก็เอาไปยกกำลัง เป็นวิธีทางคณิตศาสตร์ให้สรุปได้เข้าใจสั้น ไม่ต้องเขียนให้ยาว
เราบวก mc2 ประมาณหนึ่ง A เป็นตัวแทน บวกกันได้ระดับหนึ่งก็เป็นคูณ และเป็นยกกำลัง เช่น เป็น 9 อันก็เป็น 32
A จะพัฒนาเป็น C ได้อย่างไร ก็เพราะว่ามันคูณมากๆและเป็นยกกำลัง หากจะเอา mc2 คูณกันมาก ก็ทดไปเป็น C หากใครจะทำให้เป็นสูตรที่ละเอียดกว่านี้ได้
สมณะฟ้าไทว่า…พ่อครูปรับได้ไวมาก บางวันดูเหมือนป่วยจะแย่ แต่อีกวันหนึ่งเหมือนไม่เป็นอะไรเลย มาเทศน์ได้ปกติ
พ่อครูว่า…มุทุภูตธาตุคือภาวะสิริมหามายา คือพลังงานจิตที่มีอำนาจ
อาตมาไม่มีโศกเศร้าอะไรในใจ สุขสำราญเบิกบานใจไม่ได้เป็นโลกีย์อยู่ในวงอันพอเหมาะ
_จากคุณน้อย กฤษณา กราบนมัสการพ่อท่านโพธิรักษ์ค่ะ
ดิฉันได้มีโอกาสมาสัมผัสงานเพื่อฟ้าดินครั้งแรกค่ะ ได้เข้าคิวซื้อคูปองอาหาร ที่เลือกคือก๋วยเตี๋ยว และรู้สึกเป็นแบบบุฟเฟ่ต์บริเวณผักลวก น้ำพริกอื่นๆ เพราะไม่มีใครเฝ้า มีเพียงกล่องรับคูปองวางอยู่ แต่หาที่นั่งไม่มีบริการค่ะ เสร็จ แต่โดนใครไม่ทราบ จะเป็นญาติธรรมหรือไม่ไม่แน่ใจค่ะเพราะสวมเสื้อลายยืนตวาดห้วนๆ “กินแล้วเอาไปล้างๆๆ โน่น” ….
ควรมีป้ายบอกผู้ที่ไม่เคยร่วมกิจกรรมมาก่อน
แต่พอเดินผ่านญาติธรรมที่ประกอบอาหารก็บอกห้วนๆอีกว่า “โน่นๆไปเดินทางโน้น ตรงนี้ไม่ให้ผ่าน” ก็ไม่มีป้ายบอกอีก
ทำให้รู้สึกว่าเราชาวโลกถูกรังเกียจว่าไม่ใช่ผู้ปฏิบัติธรรม เราก็เป็นผู้มีมารยาทอยู่นะคะ
ขอให้มีป้ายบอกแนวปฏิบัติหรือมีผู้ประกาศ ประชาสัมพันธ์ในการปฏิบัติ
ตัวที่ชื่นชมคืออาหารอร่อยราคาถูกอย่างเหลือเชื่อ
…แค่รายงานบรรยากาศให้พ่อท่านทราบค่ะ กราบสาธุค่ะ 1 มค. 62
สม.กล้าข้ามฝัน.
ส.เดินดิน
ส.แสนดิน
จากใบฟ้าก็มาหนึ่งฟ้าบ้าง…
_จากหนึ่งฟ้า ฝากเรียนถามพ่อครูว่า ความน่ากลัวของจีน กับอโศก มีลักษณะคล้ายและต่างอันไหนบ้าง
เมื่อเร็วๆ นี้ การศึกษาค้นคว้า “ภัยคุกคาม” ที่มาจากประเทศจีนซึ่งบรรดานักวิชาการผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในอัมสเตอร์ดัมฮอนแลนด์ ข้อสรุปที่ได้คือ “ประเทศจีน น่ากลัวมาก” มีสิ่งที่ประเทศอื่นในโลกไม่มีเป็นจำนวนมาก ดังนี้
-
ยืนหยัดในสังคมนิยม แต่ไม่กีดกันทุนนิยม ยืนหยัดในการนำของพรรค แต่ไม่กีดกันการตรวจสอบของพรรคอื่น
-
รูปแบบเศรษฐกิจที่ใช้ พบเห็นได้ยากในโลก ทั้งไม่ใช่เศรษฐกิจสาธารณะ ทั้งไม่ใช่เศรษฐกิจตลาด รูปแบบผสมผสานชนิดนี้ได้ผลดีมาก
-
รักชาติทั้งประเทศ พบเห็นได้ยาก ภายในทะเลาะกัน แต่เจอศัตรูภายนอก ไม่ต้องมีใครปลุกระดม พันสี่ร้อยล้านคนต่อต้านศัตรูภายนอกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กรณีของซาด ทำให้ประเทศเกาหลีสูญเสียตลาดไป 2 ใน 5
-
ผู้นำชั้นสูงจิตหนึ่งใจเดียวทำเพื่อประชาชน พบเห็นได้ยากในโลก ไม่เก็บภาษีการเกษตร ช่วยคนจน ต่อต้านภัยธรรมชาติ ทุ่มเทพลังกายพลังใจสุดชีวิต
-
ระบบการเลือกผู้นำ พบเห็นได้ยากในโลก การเลือกผู้นำชั้นสูงของจีน จะต้องผ่านการทดสอบกว่า 10 ปี ไม่มีกลุ่มผลประโยชน์ใดๆ สามารถครอบงำได้
-
ระบอบของประเทศ พบเห็นได้ยากในโลก ประเทศจีนคิดจะทำอะไรที่เห็นว่าสำคัญ ไม่มีอะไรที่ทำไม่สำเร็จ เพราะว่าพวกเขาสามารถระดมพลังคน พลังทรัพย์ และพลังทางวัตถุไปทำโดยไม่มีแรงเสียดทาน
-
คนรุ่นใหม่กลายเป็นเสาหลักของประเทศ ในปริมณฑลทางอากาศ อวกาศ พลังนิวเคลียร์ อีเล็กโทนิค แผ่นชิป รถไฟความเร็วสูง ผู้รับผิดชอบมีอายุเฉลี่ยอยู่ที 39.4 ปี ในหมู่พวกเขาเป็นนักศึกษาจบจากนอก 40 เปอร์เซ็น
-
ประเทศจีนมีระบบอุตสาหกรรมที่สมบูรณ์ที่สุดในโลก ไม่ว่าการผลิตเข็มเล่มหนึ่งหรือการสร้างเรือบรรทุกเครื่องบิน เริ่มจากการออกแบบถึงสินค้าสำเร็จรูป ขอเพียงแต่พวกเขาปรารถนา ไม่จำเป็นต้องอาศัยกำลังภายนอก
-
จีนมีเงินคงคลังที่มากมายมหาศาล มีเงินทุนสำรองเป็นดอลลาร์ 4 ล้านล้าน ซื้อพันธบัตรอเมริกา 2.1 ล้านล้าน เงินฝากธนาคารและทุนสำรองอื่นๆ มีประมาณ 8 ล้านล้านหยวน พลังทางการเงินที่แท้จริงคิดเป็นผลรวมของ ยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น และรัสเซีย
-
นวตกรรมสินค้าแบรนด์เนมของจีน พบเห็นได้ยากในโลก ทั่วโลกเรียกสินค้าบางตัวที่ยอดเยี่ยมว่าสินค้าแบรนด์เนม ส่วนประเทศจีนนั้นถือเอารูปแบบธุรกิจแบบใหม่ชนิดหนึ่งว่า แบรนด์เนม อีคอมเมอช อาลีเพย์ จักรยานแบ่งปัน พวกเขาใช้เวลาที่สั้นมากสร้างมูลค่ามาศาลที่พบเห็นได้ยากจากรูปแบบธุรกิจแบบใหม่
-
จีนมีความสามารถในการคอนโทรลมหภาคที่พบเห็นได้ยาก มรสุมวิกฤติการเงินของเอเชียและวิกฤติซับพรามของอเมริกา ส่งผลกระทบต่อจีนน้อยมาก ส่วนวิกฤติที่เกิดในจีนเอง ก็จะถูกลบล้างอย่างรวดเร็ว
-
จีนมีตลาดที่กว้างใหญ่ไพศาลมาก เขาสามารถอาศัยการบริโภคเองมากระตุ้นการตลาด ขณะเดียวกัน พวกเขาก็สามารถทำให้ตลาดที่พวกเขาเห็นว่าเป็นภัยจมหายไปกับตา
-
ประเทศจีนคาดการณ์ล่วงหน้าไปหลายสิบปี เป็นเพียงหนึ่งเดียวไม่มีสองในโลก จีนมีโครงการ 5 ปี 10 ปี 1 สาย 1 เส้นทาง อาจเป็นโครงการ 50 ปี ความสามารถในการคาดการณ์ พยากรณ์ล่วงหน้าชนิดนี้ เป็นรากฐานในการรับมือกับวิกฤติทุกชนิด
-
การกำหนดนโยบายที่ดีสืบทอดรุ่นต่อรุ่น ในโลกนี้พบเห็นได้ยาก ประเทศอื่นๆ ในโลก ประธานาธิบดีคนหนึ่งมีความคิดหนึ่งเปลี่ยนไปเรื่อย แต่ที่จีน คำว่ารับใช้ประชาชน ปฏิรูปเปิดประเทศ ใช้มาหลายสิบปี ใช้ได้ศักดิ์สิทธิ์ทุกรุ่น นโยบายต่างประเทศอยู่ร่วมกันอย่างสันติ 5 ประการของโจวเอินไหลในที่ประชุมบันดง จนถึงปัจจุบันยังคงเป็นหลักนโยบายของการต่างประเทศ นี่เป็นการแสดงออกของการรักษาสัจจะและรับผิดชอบของมหาประเทศ
พ่อครูว่า…พวกลูกๆหลานๆหนุ่มๆสาวๆทั้งหลายแหล่ไม่มาสืบทอดต่อจะแพ้จีนนะ พูดอย่างนี้จะไปถึงหูพวกรุ่นๆไหมนี่ จะมีกี่คนที่ดูอยู่ตอนนี้
-
พลังแท้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ อันใหญ่โตมโหฬารของจีน ไม่มีใครสามารถสั่นคลอนได้ การพัฒนาใกล้ 40 ปีมานี้ของจีน ไม่ใช่พัฒนาเฉพาะด้านหนึ่งด้านใด หากแต่เป็นการพัฒนาพลังรวม แม้จะไม่ใช่ดีที่สุดในโลก แต่มีศักยภาพที่สุดในโลกแน่นอน
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของจีนคือสิ่งเหล่านี้ ภัยคุกคามที่มาจากเขาก็คือสิ่งเหล่านี้เช่นกัน ถ้าหากไม่เกิดปัญหาที่ตัวเขาเอง ขอถามว่า มีใครบ้างที่สามารถโค่นล้มเขาได้ การเจริญเติบโตของเขา ไม่ว่าใคร ล้วนไม่สามารถขัดขวางได้
พ่อครูว่า…เปรยถามมาทางอาตมา ที่พูดนี้เป็นความรู้ความเจริญฉลาดของมนุษยชาติ ประเทศจีนกำลังรวบรวมเอาความประเสริฐต่างๆไปใช้ได้ดี ตามสถานภาพที่แท้จริงของเขา ก็ทำได้ดีขนาดนี้ ซึ่งเป็นกลุ่มหมู่มนุษยชาติที่น่ากลัวมาก เป็นการตื่นตัวในสมัย จีนกับอินเดีย มีพลเมืองประมาณกัน เป็น 2 ประเทศที่มีพลเมืองมากที่สุด
อินเดียเป็นเชิงเจโตเป็นเชิงศรัทธา ไม่ปรู๊ดปร๊าดทางปัญญาแต่จีนเป็นสายปัญญาเฉลียวฉลาด ทางอินเดียมีความลึกในทาง เจโต ศรัทธามีความเป็นปึกแผ่นแน่นหนา นี่เป็นสองลักษณะของเทวะ เทวคือธรรมะ 2 ที่มีอยู่ในมนุษยชาติทั้งโลกตลอดกาลนาน ก็ต้องศึกษาเทวะหรือสองนี้ให้ดี
อาตมาก็ขอพูดตามภูมิอาตมา ว่าจีนเขาก็มีความรู้ในเชิงธรรมะโลกุตระกลายๆ แต่สำคัญอยู่ที่ว่าในพลเมืองจีนจะมีศาสนาหรือธรรมะขั้นโลกุตระ สัจจะทางจิตของเขา จะมีคุณลักษณะคุณธรรมต่างๆเข้าขั้นไหม แต่เขามีแน่ ขณะนี้ที่ประมวลแล้วเขามีคุณธรรมเชิงมักน้อย ไม่เห็นแก่ตัวไม่มีตัวตน เพื่อมวลประชาชน พหุชนหิตายะ(เพื่อหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก)พหุชนสุขายะ(เพื่อความสุขของหมู่มวลมหาชนเป็นอันมาก) โลกานุกัมปายะ(รับใช้โลก ช่วยโลก) ช่วยโลกไม่มีขีดขั้น
เช่นอาตมาพยายามอธิบาย GDP Gross Domestic Product รายได้มวลรวมของเรา โดเมสติก ภายในประเทศ อาตมาอธิบายว่า รายได้มวลรวมคือของคนในประเทศเท่านั้นจริงหรือเปล่า หรือพูดแล้วก็ตีกิน ไปเอาเปรียบเอารัด จากประเทศอื่นเขา ไม่ใช่ของตนเองภายใน คุณก็ไปเอาของคนอื่นเขามา เอาสินค้าผลผลิตของคุณไปขายเขาแล้วก็เอากำไร เอาผลได้เกินทุนมากเท่าไหร่เท่าที่จะทำได้ Maximize profit คุณใช้วิธีนี้หรือเปล่า ถ้าคุณใช้วิธีนั้นคุณก็ได้มาแล้วก็เอาไปเรียกรวมว่าเป็น GDP อันนี้ผิด
อาตมาให้ความหมายอันนี้มาหลายครั้งแล้ว ถ้าจะเอา GDP อย่างซีเรียส มันต้องของเราเอง ของคนอื่นนั้น เรายิ่งเป็นผู้ที่สร้างได้มากมีผลผลิตสูงมีความเหลือ มีส่วนเกินเยอะ คุณแจกจ่ายไปสิ ขายต่ำกว่าทุนแจกฟรี นั่นชื่อว่า Domestic แท้ แต่ถ้าคุณไปขายเกินทุน Maximize profit ได้กำไรมากเท่าไหร่ข้าก็เอา นั่นไม่ใช่ใหญ่ อาตมาอธิบายความหมายประเด็นนี้ละเอียดหลายที ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจกัน
ชาวอโศกอาตมาพยายามสอน เราอย่าไปเอากำไรจากคนภายนอก จงใช้สมรรถนะของเราสร้างให้เกินกินเกินใช้ มีส่วนเหลือส่วนเกินแล้วสะพัดออกไปให้แก่คนอื่น ขายจะต้องขายให้ต่ำกว่าทุน อย่าไปเอาเปรียบเอารัดเขา เราขายต่ำกว่าทุนแล้วเราอยู่ได้ไหมก็อยู่ได้เพราะว่าแต่ละคนมีสมรรถนะมีความสามารถเกินกินเกินใช้ของเราหลายผู้หลายคน เผื่อแผ่กันในที่นี้ ในมวลสมาชิกชาวอโศกพึ่งเกิดแก่เจ็บตายกันได้ พอกินพอใช้ไม่กระเบียดกระเสียรไม่แย่งไม่ชิงมีส่วนเกิน จริงๆ
เราก็เอาส่วนเกินนี้ไปเสียสละให้แก่คนอื่น เรามีส่วนเกินแล้วอย่างไรก็ไม่ขัดข้องไม่กระเบียดกระเสียร ไม่แย่งชิงอะไรกันจนเกินกินเกินใช้ เพราะภูมิธรรมของเราไม่สุรุ่ยสุร่ายไม่ฟุ่มเฟือยไม่เฟ้อไม่เกิน รู้จักสิ่งที่กินใช้อย่างพอเหมาะพอควร เพราะลดกิเลสได้จริง ตัวกิเลสนี่แหละทำให้มันเปลืองกว่าที่ควร ลดกิเลสได้มันก็ประหยัดเป็นสัจจะ ที่เคยฟุ้งเฟ้อฟุ่มเฟือยเกินก็ลดลงไปได้อีก จะเห็นได้ว่าตัวคนมันถูกหลอกมาให้เฟ้อให้เกิน เอาอะไรมาบำเรอตัวเองมากมายหนักหนาสาหัส
ถามนิดนึง พวกเรายังมีสิ่งที่เฟ้อที่เกินอยู่มั่งไหม มี ขนาดพวกเรา อาตมาบอกชาวอโศกพวกเราอยู่ในฐานอนาคามีภูมิ ไม่ไปหลงกามรสของโลกเขา หรือโลกธรรม 8 ลาภยศสรรเสริญเราไม่ได้ไปอยากรวยมหาศาลอย่างข้างนอกเขาแล้ว ไม่แล้ว บางคนก็น้อยลง บางคนเคยมีเงินเป็นร้อยล้าน อาจจะไม่มีคนที่พันล้าน ยังไม่มีใครมี หรือมีก็ไม่รู้เอาซ่อนไว้แล้วไม่บอก เราก็มาสละออกจนอยู่ในนี้ ก็ไม่รู้นะ แต่ว่าขณะนี้ในชาวอโศก ร้อยล้านอาตมาไม่ถามนะว่าใครมี จะมีกี่คนกันเชียว สัก 10 ล้านนี่น่าจะมีอยู่ ยักเอาไว้ มีคนคิดว่าถ้ามีไม่ถึง 10 ล้านจะอยู่ไม่รอด ก็เป็นสิทธิของใครของมันไม่มีปัญหา เป็นอย่างไรก็ไม่ไปเบียดเบียนอะไรกับใครแต่เขาจะสละเข้ามา หรือจะสละออกไปที่อื่น เอาตัวเองให้กล้าจน ถ้าทำได้ก็เป็นสัจจะไม่มีปัญหาให้พากเพียรไปเถอะ คนเราไปบังคับกันไม่ได้ ตัวใครก็เท่าที่ตัวเองได้ ฝืนเกินไปก็ทุกข์
ตัวอย่างของอโศกเป็นตัวอย่างของผู้มักน้อย เป็นคนกลุ่มน้อยมักน้อย มีตัวอย่างของสาธารณโภคี อาตมาว่ามันสุดยอดแล้วในมนุษยชาติ ของจีนเขาก็ทำได้ประมาณนั้น พลเมืองเขามีประมาณนั้นแล้วเขาจะมีความรู้เรื่องวรรณะ 9 ไหม จะมีความรู้ในเรื่องโพธิปักขิยธรรมไหม เขาจะมีความรู้ในเรื่องของศีล สมาธิ ปัญญาอย่างของพระพุทธเจ้าไหมล่ะ จรณะ 15 วิชชา 8 เขาจะมีไหมล่ะ เขายังไม่มีหลักเกณฑ์ไม่มีทฤษฎีสำคัญพวกนี้ไปใช้ทีเดียว แต่เขาก็เป็นพุทธกันเยอะนะ
แต่อาตมาว่า โลกุตรธรรมของชาวจีนยังไม่ถึงชาวอโศก แต่พวกเรามีน้อยคนคัดเอาหัวกะทิมามันก็ได้ แต่คนจีนนั้นเขายังไม่มีความรู้โลกุตระเข้มข้นเหมือนเราเท่าไหร่ แต่ก็มีบ้างในความรู้ที่กว้างในความเป็นจุดสำคัญ เป็นเชิงที่เป็นการเสียสละตนเอง 1.ลดตนเอง 2.ให้อิสระเสรีภาพมากขึ้น ถึงอย่างไรของจีนเขาก็ได้ประมาณหนึ่ง
ประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบต้องไม่มีตัวตน ให้อิสระเสรีภาพสมบูรณ์ไม่มีอคติ หรือว่ามีปัญญา หรือสามเส้าของอาตมาให้ไว้ตั้งเยอะแยะ ที่จริงมีประมาณ 3
อันนึงต้องมีกษัตริย์ มีประชาชน มีปัญญา
อีกอัน มีอิสระเสรีภาพ มีความไร้อัตตา มีปัญญา
อีกอัน ขยันรับใช้ มีแต่ให้ ไม่มีอคติ
แค่สามเส้านี้ ศึกษาและปฏิบัติให้จริงจะเป็นประชาธิปไตยที่สุดยอดในโลก สามเส้าสามหน่วยนี้ อาตมาว่า ขอให้มีสภาวะที่จริงนี้ได้
เพราะฉะนั้นที่ถามมาว่า เป็นภัยคุกคามที่น่ากลัวของพฤติกรรม หรือจะเรียกว่าคุณลักษณะก็ได้เป็นพฤติกรรมของชาวจีนขณะนี้ จะเป็นภัยคุกคามหรือเปล่า ที่สำคัญยิ่งก็คือองค์รวมของประเทศจีน มีคุณลักษณะที่เป็นประชาธิปไตยมันไม่ใช่ 2 ขา
เป็นประชาธิปไตยประธานาธิบดี เพราะฉะนั้นเขาไม่มีราชประชาสมาสัย โดยเฉพาะไม่มีโลกุตรจิต มีทฤษฎีหลักแล้วเจตนาจะสร้างพฤติกรรมมนุษย์ให้เป็นอย่างนี้ไหมแต่ว่าชาวอโศกมี ชาวอโศกมีเป็นทฤษฎีหลักเลยแล้วพากเพียรปฏิบัติให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น ตอนนี้ก็ยังมีอัตราการก้าวหน้าอยู่นะ ชาวอโศก
หากจีนเขามีอย่างที่ชาวอโศกมี มีทฤษฎีมีหลักการพากเพียรปฏิบัติรู้จุดหมายนิพพาน ถ้าจีนมีก็ไม่มีประเทศไหนหักล้างเขาได้เพราะพลเมืองเขามีเยอะพลังงานเขาก็มีเยอะเขาได้แน่
ที่ จุดสำคัญจริงๆที่สุดท้ายนี่นะ ของพระพุทธเจ้าคือ โลกานุกัมปายะ จุดเด่นสุดท้าย แม้ทีสุด GDP ก็ต้องเป็นโลกานุกัมปายะ ช่วยให้แก่โลกไม่ได้ให้แก่ตนเอง เรามีทุน มีส่วนเหลือส่วนเกินให้คนอื่นได้ไม่ใช่เตี้ยอุ้มค่อม แต่เป็นคนมีเหลือเฟือจริง เราไม่เป็นหนี้ ไม่ไปหมกหมักสร้างหนี้เหมือนอเมริกา ระวังนะชาวอโศก ใครเป็นหนี้เป็นประเด็นแรกเลยให้หยุดเป็นหนี้ พึ่งพาตนเองรอด สร้างให้เหลือให้เกินสะพัดเพื่อผู้อื่น นี่ก็เป็นหลักการใหญ่ที่อาตมาพูดมาตั้งไม่รู้เท่าไหร่
-
พึ่งพาตนเองรอด
2.ไม่เป็นหนี้ ปิดประตูหนี้
-
สร้างสิ่งสำคัญ จำเป็นให้เหลือให้เกิน ให้ดีให้งาม
-
สะพัดไปให้แก่ผู้อื่น แจกจ่ายเจอจานเผื่อแผ่ผู้อื่น คือโลกานุกัมปายะที่แท้