ในค่ายสัมมาอาริยมรรคครั้งที่ 36นี้ ก็จะเป็นงานที่บวรเราจะได้มาบำเพ็ญคุณ บำเพ็ญธรรม โดยเฉพาะช่วงเวลาที่สำคัญก็ช่วงวันศุกร์ที่ 18ถึงวันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม 2562 นี้ที่เรามาร่วมกิจกรรมเล็กๆที่นำพาฝึกปฏิบัติธรรมลดละ กิเลส ตามหลักสัมมาอาริยมรรคมีองค์ 8 เพื่อให้เกิดสัมมาทิฏฐิ อันมีหลักธรรมใน” แสงอรุณ”นั่นเอง คือ 1 ต้องพบความเป็นผู้มีมิตรดี (กัลยาณมิตตตา)ที่ดี 2 ต้องพบความถึงพร้อมด้วยศีล(ศีลสัมปทา) 3ต้องพบความถึงพร้อมด้วยความยินดี (ฉันทสัมปทา) 4ต้องมีความถึงพร้อมด้วยอัตตา (อัตตสัมปทา) 5มีความถึงพร้อมด้วยความเห็น (ทิฏฐิสัมปทา) 6 ความถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท(อัปปมาทสัมปทา) 7 ความถึงพร้อมด้วยการทำในใจโดยแยบคาย พิจารณาลงไปในที่เกิด (โยนิโสมนสิการสัมปทา) จากพระไตรปิฎก เล่ม 19 “สุริยเปยยาล” ข้อ 129-136
า
บรรยากาศในค่ายฯ จะเริ่มต้นที่ การปฐมนิเทศน์ ประมาณ 20.15 น.หลังรายการภาคคำ่จบ เป็นการพบ หรือแนะนำตัวกับสมณะ สิกขมาตุ ระหว่างญาติธรรมประจำและใหม่ร่วมมารู้จักกัน สนทนาธรรมกันเป็นกลุ่ม ฟังธรรม ใส่บาตรร่วมกัน รับประทานอาหารมังสวิรัติ เหมือนงานสังสรรค์ทางโลกุตระธรรมค่ะ ในงานนี้นะคะ อย่างที่ผ่านมา ก็จะมีคนมาเข้าค่ายประมาณ 24 คน ผู้มาใหม่ ประมาณ 3-4 คน มาจาก กลุ่มญาติธรรมจิตอาสาจากแพทย์วิถีธรรม ผู้ติดตามทางสื่อต่างๆอย่างเช่นทางยูทิวป์ ในรายการถึงสื่อถึงคน สมณะให้คติว่า ผู้สนใจเรื่องเกษตรนั้นจะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นต้องมีธรรมะควบคู่ไปด้วยถึงจะบรรลุเป้าหมายที่ดี หลังจากฟังผู้รับใช้ค่าย ชี้แจงรายละเอียดตามตารางเวลนัดหมายเสร็จสิ้นลง มีการแยกย้ายกันไปพักผ่อน เช้าวันใหม่มีนัดสมาชิกค่ายฯ เวลา 04.30 น. เพื่อมาซักถาม พูดคุย ถาม-ตอบ ปัญหาชีวิต สนทนาธรรมเป็นกลุ่มๆตามอัธยาศัย จากนั้นเวลา 06.00น มีพิธีกรรมร่วมกันนั้นคือการใส่บาตรเพื่อสืบทอดพุทธประเพณีของพุทธ แม้ว่าค่ายนี้จะอยู่ระหว่างท่ามกลางบรรยากาศงานฌาปณกิจศพโยมแม่จันทร์เพ็ญ ชาวชุมชนศีรษะอโศกซึ่งเป็นแม่ของคุณไอดิน แดนวิหาร ชาวชุมชนราชธานีอโศก ชาวค่ายฯต่างก็มาร่วมแสดงความอาลัยต่อผู้วายชนม์ทุกรายการไม่ว่าจะเป็นรายการกล่าวถึงคุณงามความดีของผู้้ล่วงลับ เทศน์หน้าศพ ณ เฮือนสุดชีวิต ซึ่งได้ข้อคิดและคติเตือนใจจากงานนี้เป็นสำคัญค่ะ
เป็นกิจกรรมจิตอาสา ทำดีด้วยหัวใจ จะมาเต็มค่ายหรือไม่เต็มค่ายก็ได้ ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ตามแนววิถีชีวิตชาวบุญนิยม แห่งนี้ มีการประพฤติปฏิบัติธรรมตามหลักสัมมาอาริยมรรคมีองค์ ด้วยการเจริญสัมมาอาชีวะ ทำการงานควบคู่กันไปด้วย ปรับทิฏฐิตนไปพร้อม ครั้งนี้ไปช่วยงานขัดคราบตะไคร่น้ำตามบริเวณน้ำตกผาแหงน เพื่อจะให้ผู้มารับบริการ มาเล่นน้ำตกไม่ลื่น ปลอดภัยยิ่งขึ้นหากไม่ขัดปล่อยให้นานไปก็เป็นเหตุที่มาของการเกิดอุบัติต่างๆได้ สิกขมาตุ บอกว่า การทำงานเป็นการสัมผัสต่อเหตุการณ์จริงว่าเราพบผัสสะอะไรบ้าง อากาศเย็นมาพบน้ำตกเย็น ความไม่ได้ดั่งใจต่างๆรู้สึกอย่างไร ชอบ-ไม่ชอบแค่ไหน จับเวทนา อ่านอาการจิตตนเองเองอย่างไรได้ เช่น กำลังทำการงานอยู่ขณะนี้ ขัดพื้นอยู่ มีอาการชอบหรือไม่ชอบอะไร ทำใจ ปรับจิตปรับความเห็นไปทางใด ขัดเท่าใดก็ไม่ค่อยออก อาการจิตไม่ชอบ แค่ไหนเห็นความสำคัญว่าเป็นสิ่งดีมีคุณค่ามีประโยชน์ อยู่เราอดทน มีความพากเพียรต่ออารมณ์ตนเองแค่ไหน นี่สิ่งหยาบภายนอกเรามองเห็นเราก็ขัดๆ แล้วขัดอีก เหมือนเพิ่มความเพียรในการทำ เราก็อยากให้ออก ก็ต้องใช้เวลาไม่รีบมากไป เหมือนกิเลสเรา หมั่นขจัดเอาออก อ่านใจบ่อยๆ ล้างกิเลสบ่อยๆ ไม่ช้าก็จะออกเหมือนสิ่งที่เราพยายามขัดออกไปนั่นเอง